อยากดูรูปผีมนุษย์ต่างดาวที่อาจารย์ตาที่สามเก็บไว้

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย noone, 18 กันยายน 2007.

  1. CHAYA MARUTY

    CHAYA MARUTY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2007
    โพสต์:
    1,005
    ค่าพลัง:
    +10,787
    พี่ แอ๊ด น้อง ๆ เค้าเปิดกันไปหลายคนแล้วนา แหม จะให้น้อยหน้าน้อง ๆ ได้ยังไง พี่ใหญ่เค้าน่ะ เร่ง ๆ หน่อยครับ(555) (555) (555)
     
  2. raquaz

    raquaz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +3,831
    พี่ลายสิงห์สู้ๆ
    อย่ายอมแพ้นะครับ ผมเอาใจช่วยในฐานะรุ่นน้องอัสสัมเหมือนกัน อิอิ
     
  3. surapar

    surapar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    345
    ค่าพลัง:
    +2,408
    แหมๆ วัยรุ่นสุดหล่อทั้งหลายใจร้อนกันจัง จริงๆ แล้วเป็นกุศโลบายของอาจารย์น่ะค่ะ แต่ใครที่ไม่รู้จักตัวจริงของอาจารย์ก็อาจเข้าใจผิดกันได้ เดี๋ยวจะยุ่งกันใหญ่ เอาเป็นว่าไปเที่ยวเล่นที่กระทู้เขากะลาไปก่อนนะคะ เดี๋ยวอาจารย์อัพรูปเป็น เอ๊ย >< เดี๋ยวพร้อมแล้วก็เอามาลงเองล่ะค๊า อิอิ (หนุ่มวัยทองก็งี้ล่ะค่ะ คิคิ) [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2007
  4. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ขอบคุณมาก ที่ตั้งใจจริงจะเปิดตาที่สามให้ผม เรื่องปรามาส ผมไม่ได้ปรามาสอะไรเลย พูดความจริงทั้งนั้น
    เรื่องตาที่สามนี่ เป็นตาทางโลก คิดให้มันเป็นอะไรมันก็ออกมาอย่างนั้นแหละ ถือได้ว่าเป็นอุคคหนิมิต เบื้องต้น พอเชี่ยวชาญมากขึ้นมันก็เป็นได้ดังใจสั่ง ก็เรียกว่า ปฏิภาคนิมิต คือ ควบคุมได้

    คำถามก็คือ เมื่อทำสิ่งเหล่านี้ได้ก็จริง แต่มันเอาไว้ทำประโยชน์อะไรในชีวิตประจำวันได้ มันดับทุกข์ได้หรือไม่ ประโยชน์อย่างเดียวที่คุณคิดกันเองคือ เอาไว้ต่อสู้ภูตผี ต่อสู้มาร อะไรทำนองนั้น แต่ว่า
    มารหรือผี ในใจนี้สำคัญกว่า
    ผมจะเล่าอะไรให้ฟัง สมัยก่อนนั้นผมเป็นคนที่ชอบฝึก คาถาอาคม เล่นแร่แปรธาตุในกาย ในตัวนี้ เห็นนั่นเห็นนี่ จับธาตุนั้นควบคุมธาตุนี้ มั่วไปหมด ทีนี้วันหนึ่ง พอเล่นมากเข้ามันคุมไม่ได้ มันแปรไปได้สารพัดที่จิตจะให้เป็น ก็เกิดความสงสัยความสับสน ว่าเดี๋ยวมีผีบ้างแหละจะมาทำอันตราย จะมีใครเล่นของมา อธิบายว่า เมื่อจิตนี้มีกำลังมาก แต่ไม่รู้จักเอาสติมาควบคุมนิวรณ์ นิวรณ์ก็จะแปลไปในทิศทางต่างๆ อันมี พยาบาท กามฉันทะ วิจิกิจฉา อุทธัจจะ และ ถีนมิทธะ เข้ามา ทำให้เราจับนั่นชนนี่ ตีความไม่ถูก ปัญญาไม่อาจจะมองเห็นเหตุเห็นปัจจัยที่แท้จริงได้
    เมื่อเกิดปัญหา บ้างก็ว่า ผีทำ บ้างก็ว่า เจ้าทำ บ้างก็ว่า โดนของ ทีนี้ตรงนี้แหละ ที่คนที่คิดจะฝึกจะต้องระวังอย่างยิ่ง คือ การคุมจิตตนเอง ศีลนี้ต้องถึงพร้อม สมาธิ ต้องถึงพร้อมรวมถึง สติปัญญาที่ คอยแยกออก ระหว่าง อาการของจิตที่หมุนไป หรือว่า อาการของสิ่งภายนอก
    ผมบอกตามตรง ใครคิดจะฝึก ก็อันตรายที่สุด หากไม่ได้อยู่ในผ้าเหลือง และขาดครูบาอาจารย์ ที่คอยคุมสติเราได้ และรู้วิถีจิตของเรา
    ผมจึงขอฟันธงว่า อาการของ พวกท่านทั้งหลายที่เป็น สาวกของอาจารย์ตาที่สาม รวมถึงอาจารย์ตาที่สามเอง โดนนิวรณ์ธรรม เล่นงาน อันทำให้ไม่เป็นสุข
    สำรวจตนเองกันนะ ว่า ยังคลำหาทางแก้นั่นแก้นี่กันหรือเปล่า ชัดเจนในปฏิปทาของตนเองหรือเปล่า มีธรรมอันเป็นที่ยึดเหนี่ยว หรือ หลักใจกันหรือเปล่า สำคัญที่สุดคือ ต้องมีหลักใจ เมื่อพิจารณาหาเหตุไม่ได้ ก็ให้พักที่หลักใจ ถ้าไม่มีหลักใจเดี๋ยวมันไปเรื่อย นะ ออกทิศนั้นไปทิศนี้
    เรื่องปรามาส นี้ผมไม่กลัวหรอก ผี เทวดา อินทร์ พรหม ยังไม่กลัวเลย จะไปกลัวอะไรกับการปรามาส
     
  5. noone

    noone เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +392
    คุณ chayamaruti คุณก็ แหม แก้ให้กันซะ ก็ผมบอกไม่ได้ปรามาส ไม่ได้เซ้าซี้ ไม่ได้ถือสา ไม่ได้จะจับผิด ผมค่อนข้างเคารพด้วยซ้ำ ไม่ได้สงสัยเลยว่ามันไม่จริงแหงๆ ไม่ใช่ หาว่าผมมีโมหะจริตอีก อ้างไปนั่น แค่รำคาญใจเท่านั้น
    1. ผมขอดูเพราะว่าเป็นภาพของคนที่ฝึกจิตตาที่สาม
    2. ผมขอดูเพราะเค้าเป็นคนที่มีคนเคารพในเว็บ ความเชื่อถือต้องมี
    3. ผมขอดูเพราะรูปคงไม่ใช่พวกลวงโลกเหมือนใน กูเกิ้ล
    4. ในนี้มีคนมีความรู้เยอะ ถ้าเค้าเอามาแบ่งปันกันดูในนี้ จะได้ช่วยกันออกความเห็น

    ที่บอกไม่ให้ดู ผมไม่ถือสา ที่ผมถือสาคือที่ผมถามว่า ทำไมไม่ให้ดู
    ไม่มีใครให้คำตอบได้ มีแต่บอกว่ายังไม่ถึงเวลา เฮ้อ
    ถ้าบอกว่า ดูแล้ว ไม่ควรเปิดเผย ก็เอารูปที่เปิดเผยได้มาดูสิครับ
    ไม่ได้ขอดูรูปที่ไม่ควรเปิดเผยนี่
    และนี่จนบัดนี้ผมยังไม่เคยคิดว่าเป็นของปลอมเลยนะ
    ไม่ได้คิดปรามาสเลย อ้อ อย่าใช้คำว่าปรามาสเลยนะ
    เค้ายังไม่พร้อมที่จะใช้คำว่าปรามาสหรอก กลายเป็นลัทธิไปกันใหญ่
     
  6. hnokpisit

    hnokpisit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2007
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +267

    ครับ เห็นด้วยครับ
    ตอนนี้ผมไม่รู้อะไรจริงอะไรปลอม
    ใครพูดปลด ใครพูดจริง
    ใครมีจริง หรือใครลวงโลก
    งง ไปหมดแล้วครับตอนนี้
     
  7. TriKun

    TriKun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +2,346
    ทุกอย่างที่อาจารย์ได้เคยกล่าวไว้นั้นมีจริงทุกอย่างครับ
    แต่ที่คนเรายังไม่เชื่อเพราะว่ายังมองไม่เห็นสิ่งเหล่านั้น
    การจะมองเห็นสิ่งเหล่านั้น ไม่สามารถมองเห็นได้ทุกคน
    การมองเห็นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
    บางคนฟ้ากำหนดไว้ให้มาช่วยงาน บางคนอาจจะบำเพ็ญบารมี
    บางคนอาจจะมีมาเมื่อชาติก่อนๆ จึงสามารถมองเห็นได้ในชาตินี้โดยไม่ต้องบำเพ็ญ
    สิ่งเหล่านี้บางคนคิดว่าเป็นเรื่องงมงาย หรือเป็นความเชื่อส่วนบุคคลเพราะไม่สามารถพิสูจน์ได้
    ทั้งที่จริงแล้วสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์ล้วนๆ
    ผู้ปฏิบัติก็คือผู้ทดลอง เมื่อทดลองแล้วก็จะเห็นผลการทดลอง
    แต่ในปัจจุบันจิตใจของคนเราต่ำลงเรื่อยๆ
    จึงเป็นเรื่องยาก ที่จะให้คนเรามาปฏิบัติธรรมเพื่อทดลองในสิ่งที่มองไม่เห็น
    ผู้ที่กล้าทดลองนั่นก็คือ ผู้ที่มุ่งสู่สภาวะธรรมในเบื้องต้น คือ การได้เห็น
    การเห็นนั้น จะเป็นจุดเริ่มต้นของการพิจารณาการเกิด แก่ เจ็บ ตาย
    การเวียนว่ายอยู่ในวัฏฏะสงสาร นั้นมีจริง
    ทำให้ผู้ที่มองเห็นได้เข้าใจว่าสิ่งที่จะทำให้หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดนั้น
    มีอยู่สิ่งเดียว คือ ...นิพพาน...

    --------------------------------------------------------
     
  8. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ขออธิบาย อีกรอบหนึ่ง ไม่ได้จับผิดนะ
    มันไม่ได้อยู่ที่ว่า สิ่งเหล่านั้นมีจริงหรือไม่ เห็นจริงหรือไม่ เราสามารถยอมรับกันได้ว่า เห็นจริง ไม่แปลก แต่สิ่งที่เห็นนั้นจริงแค่ไหน อันนี้เป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณา
    ยกตัวอย่างเช่น คนเราฝัน ถามว่าคนฝันเห็นภาพจริงหรือไม่ ตอบว่าจริง แต่ว่าภาพที่เห็นนั้นมันจริงหรือไม่ อันนี้ก็ตอบได้ว่า ภาพที่เห็นนั้นไม่จริง
    แล้ว ถามว่า มันมีผลแค่ไหนจนถึงกับว่า เราต้องพิจารณาก่อน ก็ตอบว่า มันมีผลที่ว่า หากว่าสิ่งเหล่านั้นคือความปรุงแต่งแล้ว ก็เท่ากับเรากำลังสนใจในความปรุงแต่ง ความไม่จริง ซึ่งนำไปสู่การแก้ปัญหาในอนาคตแบบผิดๆ

    ทีนี้เรื่องวิทยาศาสตร์ มันต้องแบ่งก่อนว่า วิทยาศาสตร์ ทางรูปธรรมนั้นคือ เรากำหนดให้เป็นภาพได้ แต่เราลืมไปว่าวิทยาศาสตร์ทางจิตใจ คือ ทำไมเราถึงไปสร้างภาพแบบนั้น ตรงนี้เข้าใจกันไหม
    เพราะว่า เรารับรู้สิ่งภายนอกมาไง เรารับรู้มาแล้วเราก็มาผนวกกับ จิตของเรา สัญญาของเราที่เรามีเราเป็น ประสานกันเป็น สภาวะใหม่ขึ้น นี้แหละคือ ความปรุงแต่งอันก่อภพก่อชาติ

    คำถามอีกคำถามหนึ่ง ถามว่า ถ้าหากว่า สิ่งเหล่านั้นมีจริง เราก็มีประโยชน์ที่เราได้ ต่อสู้กับผีได้ ต่อสู้กับ สิ่งชั่วร้ายได้ ตรงนี้ ผมอยากจะบอกว่าให้เราพิจารณาอย่างง่ายๆ ว่า ถ้าหากสมมติว่า เราป่วย
    ป่วยเป็นโรคอะไรก็ไม่รู้ หาสาเหตุไม่ได้ วิเคราะห์ไม่ออก เราสรุปได้หรือไม่ว่า โรคนี้เกิดจากผี หรือ สิ่งลึกลับ
    ตอบว่าไม่ได้ คำถามต่อไปคือ แล้วทำอย่างไรเราจึงจะสรุปได้
    ตอบว่า ก็ต้องผลักความเชื่อ ลึกลับออกไปก่อน เพื่อตั้งสมมติฐานให้แคบที่สุด คือ เป็นโรคตามธรรมชาติ แล้วค่อยๆ ไตรตรองหาเหตุ หาผล เอาแบบที่ง่ายที่สุด เมื่ออธิบายสิ่งที่ง่ายที่สุดไม่ได้ เราค่อยขยับขึ้นไปพิจารณาสิ่งที่ซับซ้อนกว่าเดิม

    ตัวอย่าง
    ผมเป็นโรค ปวดเมื่อยประจำ แบบนี้เราจะสำรวจดูว่า เราออกกำลังกายหรือไม่ ก็แก้ไขด้วยการทดลองไปออกกำลังกายสักระยะหนึ่ง ออกกำลังกายก็แล้ว เลิกกินเหล้าก็แล้ว กินแต่ของดีมีประโยชน์ก็แล้ว ยังไม่หาย
    ก็ขยับขึ้นไปพิจารณาเรื่องของจิต คือ ความเครียด ก็แก้ไขทางจิตใจ ถ้ายังไม่หาย คราวนี้ ค่อยเริ่มขยับไปสู่ปัจจัยภายนอก คือ อาจจะเป็นเพราะมลพิษ เมื่อมลพิษไม่ใช่เหตุแล้ว เราค่อยขยับไปเรื่อยๆ

    จนสุดท้าย คือ เรื่องของ สิ่งลึกลับที่ เราไม่สามารถหาเหตุ ได้ด้วยองค์ความรู้ในปัจจุบันนั่นแหละ จึงค่อยไปค้นคว้ากับสิ่งลึกลับ

    อธิบายมายาว เดี๋ยวมันเยิ่ยเย้อ เอาง่ายๆ นะ จะทำอะไร อย่าให้มันพิสดาร ที่มาจากใจเราคิดไป ขอให้เห็นแบบง่ายๆ ธรรมชาติ ผีอยู่ส่วนผี หมาไม่เคยโดนผีหลอก แมวไม่กลัวผี
    เทวดาอยู่ส่วนเทวดา เพราะ เรากินข้าวบนโลก ไม่ใช่กินของเทวดา
    ผีทำอะไรเราไม่ได้ เพราะมันไม่มีกายหยาบ ผีมันยังเอาตัวเองไม่รอดเลย นึกถึง คนที่ไม่มีที่อยู่ล่องลอย เอาง่ายๆ ดวงวิญญาณ ที่หลุดออกไป จะมาเรียก ญาติตัวเองยังทำไม่ได้ นับประสาอะไรกับผีจะมาทำอะไรคน ขออย่างเดียวอย่าไปยุ่งกับมัน

    ขอยกคำ ขงจื้อ หรือ เล่าจื๊อ นี่แหละจำไม่ได้ กล่าวว่า เรื่องของคนเรายังรู้ไม่หมด อย่าไปยุ่งเรื่องของผี (เอาเรื่องของคนนี้ให้เจนจัดชัดแจ้งเสียก่อน แล้วค่อยย้อนไปหาผี) ประโยคหลังนี้ของ ขันธ์จื๊อ
     
  9. TriKun

    TriKun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +2,346
    พระพุทธองค์ท่านยังเคยทรงตรัสว่า...
    ผู้ใดปฏิบัติ ผู้นั้นจะรู้แจ้งเอง
    ผู้ที่ปฏิบัติเท่านั้น ถึงจะรู้ว่าทุกอย่างที่ท่านตรัสไว้ มีจริง...

    คำว่า "จริง" นั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละคนจะนิยามมันขึ้นมา
    ดังนั้น เราไม่สามารถจะบอกได้ว่าสิ่งที่เราเห็นนั้นมีจริง
    และสิ่งที่เรามองไม่เห็นไม่มีอยู่จริง...

    เหมือนกับคำว่า "ความรัก"
    ถามแต่ละคน ก็จะได้คำตอบไม่เหมือนกัน

    ทุกอย่างอยู่ที่ตัวของเราเท่านั้น
    เราจะศรัทธา....
    หรือ เราจะว่างมงาย...
    นั้นเป็นสิ่งที่เราตัดสินด้วยตัวเราเอง...

    ทุกคนย่อมมีเหตุผล
    ไม่มีใครผิด ใครถูก...

    ...แต่ ทุกสิ่งในโลกย่อมเป็นไปตามกรรม...
     
  10. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ความรัก นั้น นิยามของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน เพราะมันเป็นสมมตินะสิ
    แต่ความรู้สึก เหมือนกัน ในความจริงปรมัต
    ดูตรงนี้นะ ไม่เช่นนั้นแล้ว แม่รักลูก ความรู้สึกนี้มันไม่มีกันทุกคน หรือ หญิงรักชายมันไม่มีกันทุกคนหรอก แต่เนื้อแท้มันมีกันอยู่ที่จิตทุกคน

    ถ้าจะเอาสมมติเนี่ยมันไม่เหมือนกันเพราะมันเป็น สมมติ แต่ถ้าเอาแท้จริงมันเหมือนกัน
    เห็นชอบพูดกันจริงไม่มีใครผิดใครถูกแล้วแต่เหตุผลของแต่ละคน
    แบบนี้ไม่ได้ เพราะมันเป็นเหตุผลของกิเลส ถ้าเหตุผลของปัญญามันจะแยกได้ ว่าอะไรจริงอะไรไม่จริง

    การที่บอกว่า จริง นั้นแล้วแต่นิยามของคนสร้างมา มันก็เรียกว่า จริงสมมติ ไม่ใช่จริงปรมัต ทีนี้ การจะรู้แจ้งเหตุ เราก็ต้อง ย้อนกลับมาที่จริงปรมัต เพราะว่า จริงสมมติ มันคลาดเคลื่อน
    ปัญหาคือ เรากำลังเดินมาสู่ คาบเกี่ยวระหว่าง จริง สมมติและจริงปรมัต แล้ว ถ้าจะพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับจิต
    เพราะฉะนั้นต้องแยกให้ออกกันจริงๆ เพราะมันไม่ใช่เรื่องของ การสร้างบ้าน หรือ การสร้างวัตถุ ที่จะได้สรุปเอาง่ายๆ ว่า ไม่มีสิ่งไหนผิดสิ่งไหนถูก
    ถ้าเรื่องของจิตนี้ เราต้องฟันธงให้ได้ ไม่เช่นนั้นมันจะกลายเป็นคลุมเคลือ หรือ วิจิกิจฉาและ สีลพตรปรามาสไปตลอด ซึ่งสิ่งนี้แหละ เป็น เครื่องร้อยรัด นะ นี่เราพูดระดับ ถอนภพถอนชาติกันแล้ว อย่าไปสนใจเรื่องสมมติ
     
  11. นาย Touru

    นาย Touru เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +1,160
    แวะเข้ามาอ่าน ก็เลยแวะ Post หน่อยละกันครับ

    เรื่องที่บอกว่า ยังไม่ถึงเวลา นั้น อาจจะเป็นเหมือนเรื่องนี้ก็ได้นะครับ :d

    เสียงประหลาดในวัด...

    มีชายหนุ่มคนหนึ่งขับรถคันงามราคาหลายล้านท่องเที่ยว ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งรถเกิดเสียกระทันหัน ทันใดนั้นเองฝนก็เริ่มตก เกิดพายุอย่างรุนแรง เขาจึงตัดสินใจออกจากรถเพื่อหาคนมาช่วย และแล้วเขาก็ไปเห็นวัดๆหนึ่งตั้งอยู่กลางภูเขา

    ถ้าเป็นใครเห็นแบบนี้ก็คงจะไปโบกรถขอความช่วยเหลือ แต่ชายหนุ่มผู้นี้กลับพยายามปีนขึ้นไปบนภูเขาแห่งนี้ ด้วยความพยายามอย่างไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค จึงทำให้เขาขึ้นมาถึงวัด เขาก็ได้พบกับท่านเจ้าอาวาสแห่งวัดนี้ แล้วขออนุญาติพักแรมที่วัดนี้ 1 คืน ท่านเจ้าอาวาสก็สั่งให้เณรไปจัดห้องให้ชายหนุ่มได้พัก

    เมื่อชายหนุ่มหลับไป ก็เกิดเสียงประหลาดอย่างหนึ่งขึ้นตอนตี 3
     
  12. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ถ้าผมเป็น ไอ้เด็กหนุ่มคนนั้น ละก้อ บายหลวงพ่อตั้งแต่บอกว่า ผมไม่ใช่พระแล้ว
    หรือไม่ก็ ถ้าอยากรู้จริงๆ ก็ไปถามคนอื่นในวัด ให้มันรู้ไปสิว่ามีแต่หลวงพ่อคนเดียวที่รู้เรื่องนี้
    ถ้าไม่มีใครบอกได้ ก็สุดท้ายก็ย้อนกลับมาคิดว่า ทั้งชีวิตตัวกูจะหาแต่คำตอบนี้เหรอ เอาชีวิตไปทำอย่างอื่นให้มันดี ให้มันมีประโยชน์ รู้แล้วมันได้อะไร ชีวิตหลายๆ คนจมปลักกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง นั่นแหละคือการติดภพ ติดอยู่ในกรรม ที่ไม่อาจจะหลุดได้ คือ จะต้องวิตกในเรื่องนั้นอยู่ร่ำไป เหมือนกับ เพลงครึ่งหนึ่งของชีวิต ก็อย่าทำให้มันหายไปครึ่งชีวิตในการทำเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง
     
  13. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403
    สังคหวัตถุสี่ คือ
    ทาน ใจเป็นกลาง อย่างมีกุศล
    ปิยวาจา ภาษาที่ใช้ เหมาะสม
    อรรถกริยา ท่าทาง การกระทำ
    สมานตัตตา สมานฉันท์ นั่นเอง
    (ping) (ping) (ping) (ping)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2007
  14. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    อยากดู อยากรู้ อยากเห็น ของจิง มี เมื่อ ประสบกับ ท่านเอง รับกันได้ป่ะ
     
  15. noone

    noone เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +392
    อะไรกันเนี่ย เคยเห็น ไม่ใช่ไม่เคย ถ้าผมมีรูป ผมเอามาให้ทุกคนดูแล้ว แหม ทำไมเป็นเรื่องยากกันจัง คนนึงบอกไม่ถึงเวลา อีกคนบอกปรามาส อีกคนบอกไม่ใช่พระบอกไม่ได้ อีกคนท้าให้เจอของจริง อะไรกันเยอะแยะ ถามแค่ว่า ทำไม ให้ดูไม่ได้ แค่นี้ รวบเอาแม่น้ำทั้ง 5 มากันเต็มไปหมด เรื่องกลัวก็ไม่กลัวหรอกเคยเห็น อยากแค่แชร์ๆกันดู วิเคราะห์กันเท่านั้นเอง ไม่ได้จะมาท้าพิสูจน์ว่ารูปจริงหรือรูปปลอม ถ้าให้ดูไม่ได้ ก็แค่ถามว่าทำไม ตอบยังไงก็ได้ จะได้จบกันไป ว่ากันตรงๆ ไม่ให้เพราะจะเอาไว้ขาย หรือ ไม่ให้เพราะไม่ชอบหน้าผม หรือไม่ให้เพราะบางรูปไม่มั่นใจว่าย้อนแสงรึเปล่า ไม่ใช่มาบอกว่าไม่ถึงเวลา บุญไม่ถึง เบี่ยงเลี่ยงไปมา
    ตรงๆ กันเลย แก่ๆกันปูนนี้แล้ว ยื้อกันไปมาเสียเวลา คนอื่นก็มาทะเลาะกัน แย้งกัน แก้ตัวให้กัน เต็มไปหมด แปลกมาก ยิ่งทำให้สงสัย
     
  16. surapar

    surapar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    345
    ค่าพลัง:
    +2,408
    เชอะ ไม่เห็นอยากดูเลยรูปถ่าย ใครถ่ายก็ไม่รู้ นู๋ไปหาวิธีฝึกอานาปานะสติให้ได้ก่องดีก่านะเจ้าคะ เผื่อจะได้เห็นด้วยตาตัวเอง ดีก่าเห็นในรูปตั้งเยอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ลั้นๆๆๆลา ไปล้า... แถวนี้ร้อน
     
  17. raquaz

    raquaz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +3,831
    งั้นก็จะพูดง่ายๆคำเดียวแล้วครับ

    ทั้งหมดเป็นสิทธิ์ของเจ้าของภาพครับ คุณขอดูได้
    จะได้ดูหรือไม่อีกเรื่องนึงเลย เพราะคุณไม่มีสิทธิ์ไปบังคับอะไร
    โลกก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่ง่ายเสมอไป หึๆ

    อันนี้ไร้สาระนะ อย่าไปเอามารวมด้วยแล้วกัน
    เช่นเดียวกันกับคนอเมริกันหลายล้านคน
    คงอยากจะรู้กันมาตั้งนานแล้วว่าใครกันแน่ที่
    ฆ่าประธานาธิปดี จอห์น เอฟ เคเนดี้ครับ
    ปัจจุบันเขาก็ยังไม่รู้เลยนิ
    เห็นว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้าถึงจะเผยแพร่นะครับ
     
  18. xanadu

    xanadu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +1,637
    You get it finally!!!
     
  19. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ถ้าคิดว่า ทั้งหมดเป้นเรื่องโกหก เป็นเรื่องเท็จ
    ก็ขอให้เป็นเรื่องเท็จ..จบกันไป

    ที่ไม่เข้าใจคือเมื่อเชื่อ ว่า เป็นเรื่องเท็จ เป็นเรื่องโกหก
    ก็ยังตามมาดูกระทู้ที่โกหกนี้อยู่ได้
    ปล่อยวางดีกว่า ครับ
     
  20. xanadu

    xanadu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +1,637
    Do unto others as you would to thyself.

    You want other people to respect or grant your wishes.
    Well, ask yourself first if your are respeceting or granting other people wishes.
     

แชร์หน้านี้

Loading...