ฌาน....หนึ่งถึงแปด เก้า สิบ

ผมสงสัยขอรับ
เรามาว่ากันให้จบไหม
เวปนี้แหละขอรับ
ท่านผู้รู้เยอะมากที่จะมาว่าและเสวนาให้ผู้ไม่รู้อย่างเราๆท่านๆเข้าใจ
ผมว่าหนึ่งก่อนเลยขอรับ
ฌานหนึ่งเป็นอย่างไร

ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วขอรับ

 

บทความในนี้มีเยอะครับ
อ่าน
พิจารณา
ลองปฏิบัติ
พิจารณา
แล้วจะรู้ด้วยตัวเองครับ

 

สำหรับมีนัม
ตื่นแต่เช้า ตอนหมอกลอยบังภูเขาสูงๆ อาบน้ำล้างหน้า แล้วตั้งใจว่าจะเป็นคนดีเพื่อใครบางคน พยามยามไม่คิดมาก ขอเพียงเค้ายิ้มได้เป็นพอ ...

 

ก็อ่านตรงนี้สิครับ
เรื่องเกี่ยวกับกรรมฐาน ( สมาธิ ) เริ่มต้นอ่านได้ที่นี่

 

ผมแต่ก่อนก็เคยสนใจ แล้วก็นั่งไปเรื่อยๆ แต่หลังๆ ไม่ได้สนใจอะไร ว่าเราเคยได้ฌานอะไรมาบ้าง คือมันผ่านมาแล้วแล้วก็ไม่รู้ไปเรียกชื่อทำไมเผลอๆตีความผิดอีก ตอนนี้นั่งอย่างมากก็ได้ความสงบเล็กๆน้อยๆ ก็น่าพอใจแล้ว

 

ผมว่าน่าจะจบไปตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้าดำรงธาตุขันธ์แล้วนะ พระพุทธเจ้าเทศน์ได้ละเอียดลออมาก เว้นเสียแต่ว่าเถรใบลานเปล่าเท่านั้นจะไม่เข้าใจ ครับ ชะ เอิง เอย

 

ฌาน ๑......๒........๓..........๔......
เหมือน หัดเขียนหนังสือ ใหม่ๆ รึเปล่า แรกๆ มันก็ โย้.... เย้....... ยังไม่สวย(f)

 

บนฟ้าเป็นของนก
ในน้ำเป็นของปลา
บนดอยเป็นของเฮา

ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วขอรับ

 

หากท่านสังเกตุดีๆแล้ว
คำอาจารย์ท่านกล่าวหลายคน
สิ่งที่มีนั้นหายไป
ท่านกล่าวกันทุกคนว่ามันหายไปไหน

หากเป็นพระ พีดแบ็คไม่แรงเท่าเป็นคน
เพราะหากเท่าที่สังเกตุอุปชาจะปล่อยให้ธุดงค์
ต้องมีสิ่งนี้ก่อนแล้วไปหาเอาข้างหน้าอีก
ทำไมต้อง ทำเอง หาเอง รู้เอง
คนอื่นรู้บอกเราแสดงว่าเราไม่รู้เอง
รู้อุปทาน
สิ่งที่เกิดกับตัวท่านขณะนี้มันเป็นไปตามหลักของการปฏิบัติ
ที่คนมาไม่ถึงไม่รู้
ว่ากายเกิดสิ่งใดขึ้นเมื่อมาถึงที่นี่
โลกเปลี่ยนแปลงอะไรไปอีกทำไมเราต้องได้รับสิ่งนี้
ซึ่งแน่นอน เราก่อกรรมทั้งหมดในปัจจุบันนี้ในการปฏิบัติ
เพื่อให้เป็น แต่เราไม่เข้าใจ

ทำไมพระรับผลกระทบน้อย
พระจริงๆไม่มีอะไรเลยนอกจากบริขารเท่านั้น

ทำไมคนมีผลกระทบมาก
ก็ไปมีมามากมายอยากเป็นอริยะหรืออารีย์
ท่านก็ต้องละต้องทิ้งให้หมด
ที่ว่าลำบากมากนั้น
ยังมีมากกว่านี้อีกถ้าท่านไม่ใช่นักบวช

นักบิดเด็กแวนท์ เรื่องของเขา เจอเสากลางแล้วเดี๋ยวหนาว
ตรงนั้นแหละหลุมดำ ลงหลุมหมด
ขอท่านอย่าหมดกำลังใจ
อย่างอื่นละได้หมดเรื่องโลก
อย่างไรเสียมีกัลยาณมิตรที่คอยเผาท่านอยู่อีกคนหนึ่งขอรับ

ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้ว

 

โส่โลแปรว่าสิบขา
หรือไม่อย่างไร

ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วขอรับ

 

ผมไม่รู้เหมือนท่านว่าสิ่งเหล่านั้นที่เป็นผลมาจากการปฏิบัติ
ท่านสมมุติเรียกสิ่งนั้นว่าอะไรอย่างไร
ผมไม่ค่อยสนใจเรื่องเหล่านี้มากเท่าไรเหมือนกันขอรับ

แต่สิ่งที่น่าห่วงใยบางท่านไปสะดุ้งแสงสว่าง
แล้วทะลุแล้ว
หากเป็นเราๆท่านๆจะบอกเขาว่าอย่างไร

ขวานผ่าซาก ก็ว่าหาเรื่อง
หวานไปก็ว่าจีบลาว
บางท่านอยากรู้เอาเทียนมาลนคางลิง
เดี๋ยวเจี๊ยก.........
หรือไม่อย่างไร

เอาเป็นว่าอยู่ที่การสังเกตุหรือไม่อย่างไร
เทียบเคียงกับที่ท่านสอนไว้ ศรไว้ ชี้ไว้อีก
ศรกามอยู่ตรงไหน

วงกลมวงเดียวเดี๋ยวเพื่อนที่ท่านเป็นฮินดูคงมาอธิบาย
ไม่กางแขนซุ่มอยู่เยอะแยะ
อิสระลามะท่านสนใจ
พุทธพราห์มรามซิก
ท่านรู้อย่างไร

ตรงนี้หรือไม่ที่เราเป็นกลางและหาสมมุติอยู่หรือไม่อย่างไรขอรับ

อีกอย่างท่านเขียนไว้หากมาถึงตรงนี้มีสิ่งนี้ สิ่งนี้ มีหรือไม่
หากเรามีไปบอกใคร
ผมเห็นมีแต่จำอวดหรือจำมาอวดที่เอาปัญญาคนอื่นมาแสดง
ของไม่สดจะอร่อยได้อย่างไร
หรือไม่อย่างไรขอรับ

ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วขอรับ

 

หากไม่ตั้งสติเสียก่อน
ท่านจะสตาร์ทได่หรือไม่
เมื่อไม่เริ่มแล้วจะสมาร์ทได้อย่างไร
หรือยืนกอดอกแล้วท่านเรียกว่าสมาธิจัง
หรือโฮ้โฮ สมาร์ทจัง แหมสมาธิจังเลย
หรือไม่อย่างไรขอรับ

ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วขอรับ

 

กราบขอบพระคุณครับ
ผมนึกว่าหิมะจะร่วงเมื่อสามสี่ปีที่แล้ว
จะกลับไปเป็นเด็กเลี้ยงแกะที่ลำปาง
เออเกี่ยวกันไหมเนี่ยะ

กราบขอบพระคุณครับ
ผมเข้ามาสิกขาในเวปมาสามสี่ปี
มีเพื่อนกัลยาณมิตรช่วยชี้แนะมากมาย
ต้องกราบขอบพระคุณอีกครั้งตรงนี้ขอรับ
คุณท่านผมไม่ลืม
เผาใครได้ก่อนผมเผาก่อนขอรับแทนคุณ

ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วขอรับ

 

นักบิดเด็กแวนท์ เรื่องของเขา เจอเสากลางแล้วเดี๋ยวหนาว
ตรงนั้นแหละหลุมดำ ลงหลุมหมด
ขอท่านอย่าหมดกำลังใจ
อย่างอื่นละได้หมดเรื่องโลก
อย่างไรเสียมีกัลยาณมิตรที่คอยเผาท่านอยู่อีกคนหนึ่งขอรับ

ท่านคร๊าบ ผมรักท่านจังเลย ครับ
ดีใจที่ ยังรอดมาได้ สำหรับ การซิ่ง
และ เผาดีดีนะครับ อย่าให้เสียชื่อคนเผาเชียว

 

กราบขอบพระคุณครับ
ผมไม่มีชื่อจะเสียหรอกขอรับ
การเป็นคน คงแปรว่าคลานอยู่
มนะ มนุษย์ คงเดินได้แต่ไปเหมือนลิงเข้าบ้าง
คนเราบางครั้งหรือบ่อยครั้งที่ต้องผัสสะกับสิ่งต่างๆเพราะเราเข้ามาผัสสะเองหรือไม่อย่างไร

กระทบกันบ้างหากไม่เอาโทษโกรธกันเป็นเรื่องธรรมดาขอรับ
ตบหัวเพื่อนฝรั่งได้แต่ตีศรีษะเพื่อนไทยโกรธ
แปลกขอรับ วัฒนธรรมของเขาของเรา

เอาเป็นว่าเสวนาคือการแลกเปลี่ยนความรู้กัน
บางอย่างบอกได้
บางอย่างบอกไปหาคำตอบไม่ได้ไปสร้างอุปาทานอีกมากมาย
เอาเท่าที่เราหากันคุยกันรู้กันเหมือนชาดำเย็นกับคอฟฟี่เมตไหมขอรับ

ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วขอรับ

 

อภิญญา แปลว่า ความรู้ยิ่ง หมายถึงปัญญาความรู้ที่สูงเหนือกว่าปกติ เป็นความรู้พิเศษที่เกิดขึ้นจากการอบรมจิตเจริญปัญญาหรือบำเพ็ญกรรมฐาน
อภิญญาในคำวัดหมายถึงคุณสมบัติพิเศษของพระอริยบุคคลซึ่งเป็นเหตุให้มีอิทธิฤทธิ์ต่างๆ มี 6 อย่าง คือ

1. อิทธิวิธิ แสดงฤทธิ์ได้ เช่น ล่องหนได้ เหาะได้ ดำดินได้
2. ทิพพโสต มีหูทิพย์
3. เจโตปริยญาณ กำหนดรู้ใจผู้อื่นได้
4.ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ระลึกชาติได้
5. ทิพพจักขุ มีตาทิพย์
6. อาสวักขยญาณ รู้การทำอาสวะให้สิ้นไป

อภิญญา 5 ข้อแรกเป็นของสาธารณะ (โลกียญาณ) ข้อ 6 มีเฉพาะในพระอริยบุคคล
ถ้าพบผู้แสดงฤทธิ์ได้ อย่าพึ่งหมายว่าผู้นั้นจะเป็นอริยบุคคล

____________________________________________

ฌาน 2

ฌานแบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆ ได้แก่
1. อารัมมณูปนิชฌาน การเพ่งอารมณ์ ได้แก่ สมาบัติ 8 คือ รูปฌาน 4 และอรูปฌาน 4
2. ลักขณูปนิชฌาน การเพ่งลักษณะ ได้แก่ วิปัสสนา มรรค ผล

-วิปัสสนา ชื่อว่า ลักขณูปนิชฌาน เพราะพินิจสังขารโดยไตรลักษณ์
-มรรค ชื่อว่า ลักขณูปนิชฌาน เพราะยังกิจแห่งวิปัสสนานั้นให้สำเร็จ
-ผล ชื่อว่า ลักขณูปนิชฌาน เพราะเพ่งนิพพาน อันมีลักษณะเป็น สุญญตะ อนิมิตตะ และอัปปณิหิตะ อย่างหนึ่ง และเพราะเห็นลักษณะอันเป็นสัจจภาวะของนิพพาน อย่างหนึ่ง

ฌาน 2 ประเภท
แต่โดยทั่วไป เมื่อกล่าวถึงประเภทของฌาน มักแบ่งฌานออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆ คือ
รูปฌาน 4 ฌานมีรูปธรรมเป็นอารมณ์ ฌานที่เป็นรูปาวจร ได้แก่

1. ปฐมฌาน ( ฌานที่ 1 ) ประกอบด้วย วิตก วิจาร ปิติ สุข เอกัคคตา
2. ทุติฌาน ( ฌานที่ 2 ) ประกอบด้วย ปิติ สุข เอกัคคตา
3. ตติฌาน ( ฌานที่ 3 ) ประกอบด้วย สุข เอกัคคตา
4. จตุตฌาน ( ฌานที่ 4) ประกอบด้วย อุเบกขา เอกัคคตา ( อัปปนาสมาธิ )

อรูปฌาน 4 ฌานมีอรูปธรรมเป็นอารมณ์ ฌานที่เป็นอรูปาวจร ได้แก่
1. อากาสานัญจายตนะ
2. วิญญาณัญจายตนะ
3. อากิญจัญญายตนะ
4. เนวสัญญานาสัญญายตนะ

เมื่อกล่าวสั้นๆ ว่า " ฌาน 4" จะหมายถึง รูปฌาน 4 และเมื่อกล่าวสั้นๆ ว่า "ฌาน 8" จะหมายถึง รูปฌาน 4 กับ อรูปฌาน 4
สิ่งที่ใช้เป็นอารมณ์ในการเพ่งจนได้ฌาน ได้มีการรวบรวมไว้เป็น กรรมฐาน 40 สิ่งที่ขวางกั้นจิต ไม่ให้เกิดฌาน คือ นิวรณ์ 5


ฌานสมาบัติ
สมาบัติ เป็นภาวะสงบประณีตซึ่งพึ่งเข้าถึง มีหลายอย่าง เช่น ฌานสมาบัติ ผลสมาบัติ เป็นต้น สมาบัติที่กล่าวถึงบ่อยคือ ฌานสมาบัติ กล่าวคือ สมาบัติ 8 อันได้แก่ ฌาน 8 (รูปฌาน 4 กับ อรูปฌาน 4)
ในบางกรณี รูปฌาน 4 อาจถูกจำแนกใหม่ในรูปแบบของ ปัญจมฌาน เป็นการจำแนกตามแบบพระอภิธรรม เรียกว่า ปัญจกนัย การจำแนกตามแบบพระสูตร เรียกว่า จตุกนัย ที่ต้องจำแนกเป็นปัญจมฌาน เนื่องจากฌานลาภี(ผู้ได้ฌาน)มี 2 ประเภท คือ ติกขบุคคล (ผู้รู้เร็ว) และ มันทบุคคล (ผู้รู้ช้า)
อนุปุพพวิหารสมาบัติ 9 หมายถึง สมาบัติ 8 กับ นิโรธสมาบัติ

อ้างอิง วิกิพีเดีย

 

กราบขอบพระคุณขอรับ
อนุ......ปุพ......วิหาร
และสิบนี้ต้องมหาสติปัฏฐานสี่หรือไม่อย่างไรขอรับ

มีอยู่อีกเรื่องหนึ่งผมไปหยิบหนังสือของท่านมาอ่าน
ไม่เอ่ยนามขอรับท่านเขียนไว้ดีมาก
เรื่องการใช้พยัญชนะและตัวสกดในบาลี

ทุกขต้องตามด้วยขอไข่
อุคฆ จะเขียนเป็นอุกฆ ไม่ได้
นี่คือสิ่งที่เราตามหากันไม่เจอหรือไม่ในหลักของครุและลหุ

การเรียงหน้ามาหลัง
การเขียนหลังมาหน้า
การเขียนบนลงล่าง

ท่านสื่อมาทางเดียวกันหมดเพื่อนำมาเป็นกลาง

หรือสื่อกลาง

แต่บางครั้งการสื่อธรรมเราไม่เข้าใจเพราะเราเอาหัวยักษ์มานำหน้าพระ
ผมว่าธรรมเช่นกัน
ท่านเขียนไว้ดีมากสื่อได้มีกฏของธรรมที่เป็นจริง

ทำไมคนขวางห้วยเอาน้ำมาใช้ประโยชน์ตนไม่ทำฝาย
เพื่อแบ่งปันกันไปใช้ต้องประสพกรรมกับการตาบอด

อย่าลองขอรับ

ตมีย์ใบ้ท่านใบ้อะไร
ทำไมต้องใบ้

เอาละนะครับมาว่าเรื่องกระทู้อีก
สุญญต
อนิมิตต
อัปปณิหิต ตัวสุดท้ายนี้ไม่เข้าที่เข้าทางจริงๆขอรับ
ขอท่านกรุณาชี้แนะแนวทางสว่างด้วยขอรับ

ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วขอรับ

สุดท้ายตัวสุดท้าย
มีกี่อย่างกี่ตัวกี่สมมุติก็ต้องรู้เองอีกขอรับ
เขาทิ้งสังขาร เขาไม่เอาขอรับ
เขาคงเบื่อหรือไม่อย่างไร
เหลือแต่ธรรมสังขารไว้ให้เราศึกษา
แต่อยู่ที่ว่าเราจะเห็นว่าเป็น...หรือ....อยู่
หรือคือ...หรืออะไร...เท่านั้นหรือไม่อย่างไรขอรับ

 

โลกีย์เอาแล้วเลิก
โลกุตรเอาแล้วเลิก
รับมาทุกอย่างพิจารณาแล้วละหมดขอรับ
ที่ยังไม่ละเพราะยังพิจารณาไม่เสร็จหรือไม่อย่างไร

ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วขอรับ

 

ผมก็อ่านจากเว็บมาอีกที บางสิ่งผมก็ไม่รู้จริงๆครับ

แต่ขอฝากคำสมาทานพระกรรมฐานก่อนทำสมาธิสวดบทนี้ทำให้ถึงสมาธิได้เร็ว และมารไม่ผจญครับ

คำสมาทานพระกรรมฐาน​

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
(ว่าพร้อมกัน ๓ ครั้ง)

อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปริจัจชามิ​

_____ข้าแต่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอมอบกายถวายชีวิตแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆกันมา มีหลวงพ่อปาน และหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เป็นที่สุด ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะพระกรรมฐาน ทั้ง ๔๐ ทัศ พระปีติทั้ง ๕ และวิปัสสนาญาณทั้ง ๙ ขอพระกรรมฐาน ทั้ง ๔๐ ทัศ พระปีติทั้ง ๕ และวิปัสสนาญาณทั้ง ๙ จงมาบังเกิดปรากฏในกายทวาร ในวจีทวาร ในมโนทวาร ของข้าพระพุทธเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

_____ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะแห่งเมฆจิต สามารถกำหนดจิตรู้ภาวะการณ์ต่างๆทั้งเหตุ ผล อดีต อนาคต และปัจจุบัน ได้ทุกขณะจิต ที่ปรารถนาจะรู้ เมื่อรู้แล้ว ขอให้เห็นภาพนั้น ได้ชัดเจนแจ่มใส และพยากรณ์ได้ ตามความเป็นจริงทุกประการ เหตุใดที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้นโดนมิต้องกำหนดจิต แม้แต่ประการใด ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

สุดลมหายใจลึกๆ แล้วเริ่มทำสมาธิ
_______________________________________________


เมื่อออกจากสมาธิแล้วให้อุทิศส่วนกุศล

คำอุทิศส่วนกุศล​

_____อิทัง ปุญญะ ผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า (ทั้งหลาย) ได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ ข้าพเจ้า (ทั้งหลาย) ขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรม ให้แก่ข้าพเจ้าตั้งแต่วันนี้ ตราบเท้า เข้าสู่พระนิพพาน

_____และข้าพเจ้า (ทั้งหลาย) ขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลายที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพญายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพญายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ของจงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ ด้วยเถิด

_____และข้าพเจ้า (ทั้งหลาย) ขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

_____ผลบุญใดที่ข้าพเจ้า (ทั้งหลาย) ได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้า (ทั้งหลาย) ได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพาน ในชาติปัจจุบันนี้เถิด

อะระหัง สัมมาสัมพุทธโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ (กราบ)

สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม ธัมมังนมัสสามิ (กราบ)

สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆังนะมามิ (กราบ)​

_______________________________________________

view2004: "สุดท้ายนี้ข้าพเจ้าขออนุโมทนาบุญกับท่านทั้งหลายผู้เจริญในพระธรรม ให้เจริญยิ่งๆขึ้นไปครับ"

มีอาจารย์ท่างนึงให้ผมมาอีกทีครับ จึงนำมาเผยแผ่

 

ธรรมแท้คือไม่รู้แล้วพิจารณาศึกษาหรือไม่อย่างไรขอรับ
รู้อย่างไร
รู้ของเก่าที่เกิด
ของเก่าที่เกิดหากมีปัจจัยใหม่ปัจจุบันจะเหมือนเดิมหรือไม่

ม่ายรู้ก๊า........
หรือไม่อย่างไร
ปัจจุบันยังสิกขาอยู่เหมือนกันเลยขอรับ

ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วขอรับ