หลวงปู่สี ฉันทสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาค

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 16 มกราคม 2009.

  1. ป้าอี๊ด

    ป้าอี๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +1,105
    [​IMG]

    สิงฆ์ นับได้ว่าสัตว์ในป่าหิมพานต์ส่วนใหญ่จัดอยู่ในหมวดสิงห์ คงเป็นเพราะสิงห์เป็นสัตว์ที่ดูสง่า และน่าเกรงขาม สิงห์ในตำนานหิมพานต์สามารถจำแนกออกได้เป็น ๒ ชนิดหลักๆ คือ ราชสีห์ และ สิงห์ผสม ราชสีห์เป็นสัตว์ที่มีพละกำลังสูง ราชสีห์มีอยู่ด้วยกัน ๔ ชนิดคือ บัณฑุราชสีห์ กาฬสีหะ ไกรสรราชสีห์ และ ติณสีหะ ส่วนสิงห์ผสมนั้นมีอยู่มากมาย โดยปกติสิงห์ผสมคือสัตว์ประสมที่มีลักษณะของ ราชสีห์กับสัตว์ประเภทอื่นนอกเหนือจากที่มีอธิบายไว้ว่ามีกายสีม่วงอ่อน สิงฆ์มีลักษณะเหมือนราชสีห์ทั่วไป


     
  2. ป้าอี๊ด

    ป้าอี๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +1,105
    ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ ภาคสมบูรณ์ : จักรภพ เจริญรัตน์ (1)

    ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ ภาคสมบูรณ์ : จักรภพ เจริญรัตน์ (1)
    พระอาจารย์รูปหนึ่งที่เป็นสหธรรมิกกับ หลวงปู่สุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงปู่กลั่น วัดพระญาติ พระนครศรีอยุธยา ผู้มีวิชาอาคม แก่กล้า ที่มีความสามารถล่องหน ย่นระยะทางได้และมีวาจาศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ท่านรูปนี้กำหนดรู้วันตายของตัวเองได้ และที่สำคัญคือมรณภาพแล้วศพไม่เน่าเปื่อยแต่กลับแข็งดุจหินอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง

    ในอดีตกาลเราต่างได้ยินได้ฟังเรื่องราวของพระครูขี้หอม “เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำโขง” อันเป็นแม่น้ำสายยาวที่รวมหลายชาติ หลายภาษา หลายเผ่าพันธุ์ และเป็นสายน้ำที่ฝังตำนานอันลึกลับที่ยาวนาน เป็นสายธารที่หล่อเลี้ยงชนชาติหลายเผ่าพันธุ์ทั้งความสุข สดชื่น วิปโยค โศกรันทด มากมายนานัปการ

    เรื่องราวของพระครูขี้หอมที่เกิดขึ้นในแถวแถบลุ่มแม่น้ำโขง หรือที่เรียกท่านว่า “เพทเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำโขง” ซึ่งต่อมาได้เป็นผู้บูรณะพระธาตุพนมให้ปรากฏเด่นเป็นสง่าที่เคารพบูชาแห่งคนหลายพันธุ์ เรื่องราวที่กล่าวมาข้างต้น ผมฟังดูแล้วหากจะมีความรู้สึกเป็นส่วนตัวก็เสมือนหนึ่งเป็นเรื่องที่เล่าขานกันดุจนิทานอีสป หรือนิทานที่ชาวบ้านเล่าขานกันเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นความจริงหากเราไม่ได้เห็นกับตาตนเองเพราะเรื่องราวที่ได้ยินนี้ ผิดกับสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในโลก เพราะขึ้นชื่อว่า “ขี้” แล้ว ล้วนแต่เป็นของไม่ดี เช่น ขี้ตา ขี้หู ขี้มูก ขี้ฟัน ขี้ไคล ขี้รังแค ขี้เล็บ ฯลฯ

    แต่ปัจจุบัน นี้ก็ปรากฏความเป็นจริงขึ้นให้เห็นปรากฏขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๑๙ โดยพระภิกษุชราผู้ทรงศีล บริสุทธิ์มีอายุยาวนานถึง ๑๒๗ ปี และมรณภาพในอายุ ๑๒๘ ปี ในปีต่อมา ท่านคือ หลวงปู่สี ฉันทสิริ แห่งวัดเขาถ้ำบุญนาค อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ผู้เป็นสหายธรรมกับหลวงปู่สุข วัดปากคลองมะจามเฒ่า ผู้โด่งดัง หลวงปู่ศุข ชาตะเมื่อ พ.ศ.๒๓๙๐ มรณะ พ.ศ.๒๔๖๗ รวบอายุ ๖๗ ปี หลวงปู่สี ฉันทสิริ ชาตะ พ.ศ.๒๓๙๒ มรณะ พ.ศ.๒๕๒๐ รวมอายุ ๑๒๘ ปี
     
  3. ป้าอี๊ด

    ป้าอี๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +1,105
    ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ ภาคสมบูรณ์ : จักรภพ เจริญรัตน์ (2)

    ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ ภาคสมบูรณ์ : จักรภพ เจริญรัตน์ (2)
    หลวงปู่สี ฉันทสิริ ท่านเป็นศิษย์ของสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี แห่งวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร เขตบางกอกน้อย ฝั่งธนบุรี ในกาลต่อมาหลวงปู่สี ก็เป็นพระอาจารย์ของพระอาจารย์ดัง ๆ หลายรูปอาทิเช่น หลวงปู่แหวน สุจิณโณ แห่งวัดดอยแม่ปั๋ง จังหวัดเชียงใหม่ หลวงปู่พรหม แห่งวัดช่องแค หลวงพ่อทับ แห่งวัดชนแดน หลวงปู่บุดดา ถาวโร จังหวัดสิงห์บุรี หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี เป็นต้น เหตุที่เกิดความมหัศจรรย์หลายอย่างเป็นที่เคารพของศิษย์ทั้งหลาย ท่านเป็นพระที่เคร่งครัดต่อพระวินัย และการปฏิบัติธรรม

    หลวงปู่สี ฉันทสิริ ท่านเป็นพระสุปฎิปันโน ผู้เข้าถึงธรรมชั้นสูง มีธรรมะคำสอนที่ลึกซึ้งละเมียด ละมัย และสูงส่งยิ่งนัก มีความชัดแจ้งแช่มชัดตามความเป็นจริงแห่งสัจจะธรรม ตรงตามคำสอนของสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าและมีอิทธิฤทธิ์ปาฎิหาริย์ มากมายแม้แต่ “ขี้” ของท่านยังหอม และนั่นก็คือ ขี้ผึ้ง นั่นเอง แม้แต่หมอที่ดูและใกล้ชิดท่าน ยังตะลึง

    หลวงปู่สี ฉันทสิริ ท่านเป็นผู้มีความจำเป็นเลิศ ความรู้อันเป็นพหูสูต สามารถหยิบยกมาสาทะยายหรืออธิบายให้ผู้ฟังได้อย่างแม่นย้ำลึกซึ้ง ถึงแม้ว่าหลวงปู่ท่าน จะมีอายุมากแล้วก็ตาม ท่านมีอายุมากถึง ๑๒๘ ปี ท่านไม่เคยลืมเลือน ท่านจดจำมีสติรู้อยู่ ตลอดกาล ท่านเป็นพระผู้ทรงรัตตัญญกาล และสมถะ ไม่นิยมพูดจาปราศรัยนัก โดยเฉพาะพูดคุยเรื่องทั่วไปไร้สาระ นอกเสียจากสนทนาธรรมะเท่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2012
  4. ป้าอี๊ด

    ป้าอี๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +1,105
    ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ ภาคสมบูรณ์ : จักรภพ เจริญรัตน์ (3)

    ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ ภาคสมบูรณ์ : จักรภพ เจริญรัตน์ (3)
    ประวัติ หลวงปู่สี ฉันทสิริ ท่านเป็นชาวอำเภอรัตนะ จังหวัดสุรินทร์ มีชาตะกาลเมื่อปีจอ ตรงกับปีพุทธศักราช ๒๓๙๒ ในสมัยรัชกาลที่ ๔ แห่งราชวงศ์จักรี ส่วนจะเป็นวันใด เดือนใด ท่านไม่เคยบอกไว้ แต่ถ้าจะอนุมานเอาตามฉายาที่ท่านได้รับควรที่จะเกิดวันอังคาร ในวัยต้นหลวงปู่สี ใช้ชีวิตโชกโชน ตามวิสัยชายชาตรี ในยุคสมัย เมื่ออายุได้ ๒๑ ปี ได้ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร รับใช้ประเทศชาติหลังจากเมื่อพ้นเกณฑ์ ท่านได้เกิดความเบื่อหน่ายในโลกียวิสัยเนื่องด้วยชีวิตที่ผ่านมาไม่เห็นมีอะไรเป็นแก่นสาร จึงได้ละจากเพศฆราวาส เข้าสู่ร่มเงาบวรพุทธศาสนา ได้อุปสมบท ณ วัดบ้านเส้า อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี มีพระครูธรรมขันธ์ เป็นอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “ ฉันทสิริ”
     
  5. nitikoon kongkhaw

    nitikoon kongkhaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +53,508
    [​IMG]

    พระผงอายุยืนหลวงปู่สี ปี17
     
  6. ป้าอี๊ด

    ป้าอี๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +1,105
    ถ้าท่านใดมีภาพประกอบ หรือมีพระประกอบ เช่น ภาพหลวงปู่ศุข ภาพหลวงปู่กลั่น หรือพระของหลวงปู่ศุข หลวงปู่กลั่น หรือพระอื่นใด ตามประวัติของหลวงปู่สี ฉันทสิริ หรือพระที่ หลวงปู่สี ฉันทสิริ ได้สร้างและอธิษฐานจิต ทุกรุ่น ช่วยนำมาเผยแพร่ ใ้ห้สาธ ชน คนรุ่นหลังได้เห็น ด้วยนะครับ ช่วยกัน คนละไม้ คนละมือ เพื่อหลวงปู่สี ฉันทสิริ อันเป็นที่รักของพวกเรา ไม่มีสิ่งใด จะมาขวางกั้นความศรัทธาที่มีต่อหลวงปู่สี ฉันทสิริ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2012
  7. ป้าอี๊ด

    ป้าอี๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +1,105
    ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ ภาคสมบูรณ์ : จักรภพ เจริญรัตน์ (4)

    ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ ภาคสมบูรณ์ : จักรภพ เจริญรัตน์ (4)
    ประสบการณ์ธุดงค์

    หลังจากอุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระบวรพระพุทธศาสนา ระยะ ๑ ปี ก็ได้ศึกษาธรรมบางประการจากองค์อุปัชฌาย์นั่นเอง ต่อจากนั้นจึงได้กราบลาองค์อุปัชฌาย์ออกธุดงควัตรเพื่อแสวงหาสัจจธรรมและฝึกฝนจิตด้วยตัวเอง จนมีความมั่นใจกล้าแข็งจึงออกเดินทางไปจนถึงจังหวัดเลย (เมืองเลย) จำพรรษาอยู่ ณ ถ้ำเขาหลวงเป็นเวลา ๑ ปี พอออกพรรษาแล้วก็ได้เดินธุดงค์ในป่าลึกจากการที่มี่เคยคุ้นเคยกับป่านั้น จึงได้ทำให้ท่านเดินอยู่แต่ในป่าถึง ๑๐ วัน โดยไม่พบบ้านช่องของผู้ใด

    ท่านจึงต้องอดอาหารถึง ๑๐ วัน ถึงแม้ว่าจะหิวโหยสักปานใด แต่จิตใจของหลวงปู่ก็มิได้ย่อท้อ ท่านมีวิริยะ ขันติ อดทนอดกลั้นอย่างเด็ดเดี่ยว จึงไม่ยอมหยุด ออกเดินทางต่อไป อย่างไม่หยุดยั้ง จนกระทั่งมาพบชายหญิง ๒ คน ผัวเมีย ได้เข้ามากราบเรียนท่านว่า “ในป่านี้ไม่มีบ้านผู้คนและไม่มีคนอยู่เลย เคยมีพระธุดงค์มาหลงป่านี้จบชีวิตลงมากรายด้วยกัน”

    หลังจากสองผัวเมียโอภาปราศรัย กับหลวงปู่สีอยู่สักพัก ก็มอบยาให้หลวงปู่ ๑ เม็ด บอกว่าเป็นยาที่ปรุงขึ้นมาจากสมุนไพร ผสมด้วยรากไม้หลายชนิด เมื่อฉันแล้ว ท่านจะแข็งแรง อายุยืน อีกจะช่วยไม่ให้ท่านหิวข้าว หิวน้ำ หลวงปู่ท่านเลยรับยาเม็ดนั้นมาฉันดู ยานั้นมีกลิ่นหอมอย่างประหลาด จึงฉันยาเม็ดนั้นกลืนลงท้องทันที พอยานั้นตกถึงท้องมีอาการร้อนวูบวาบ เกิดความชุ่มชื่นขึ้นมาอย่างประหลาด ท่านจึงพริ้มตาหลับลงแล้วถอนหายใจยาว ๆ สักอึดใจก็เกิดความชุ่มชื่นขึ้นมาทันที แต่พอลืมตาขึ้น ปรากฏว่าชายหญิงสองคน คือเทพเสด็จมาถวายยาทิพย์ ให้ท่าน
     
  8. ป้าอี๊ด

    ป้าอี๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +1,105
    ป้าอี๊ด ก็อยากได้ของแท้ แพงไม่ว่า ป้าอี๊ดมีสตางค์ เมตตาช่วยแนะนำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2012
  9. ป้าอี๊ด

    ป้าอี๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +1,105
    ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ ภาคสมบูรณ์ : จักรภพ เจริญรัตน์ (5)

    ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ ภาคสมบูรณ์ : จักรภพ เจริญรัตน์ (5)
    ประสบการณ์ธุดงค์

    จากนั้น หลวงปู่ท่านก็ออกเดินธุดงค์ไปอีก ต่อมาท่านก็พบว่าหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ซึ่งหลวงปู่แหวน ได้มากราบท่านและได้ขอร่วมเดินทางด้วย อีกทั้งขอมอบตัวเป็นศิษย์ หลวงปู่สี ท่านก็ได้อบรมสั่งสอนสมาธิปฏิบัติให้ตั้งแต่สมัยที่หลวงปู่แหวน ยังเป็นพระหนุ่มอยู่ จึงนับได้ว่าหลวงปู่สี ฉันทสิริ เป็นพระอาจารย์ บูรพาจารย์ องค์แรกของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ก่อนที่หลวงปู่แหวน จะมาเป็นศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ในกาลต่อมา

    ในปี พ.ศ.๒๕๑๗ ท่านมีอายุได้ ๑๒๔ ปี แต่สุขภาพของท่านยังแข็งแรง หูดี ตาดี สุ้มเสียงชัดเจน ท่านยังจดจำทุกสิ่งทุกอย่าง ได้อย่างดี สังเกตได้จากที่ลูกศิษย์ลูกหาเวลาไปกราบ ท่านก็ทักทายปราศรัยจดจำได้แม่นยำ ท่านมีความจำเป็นเลิศไม่เลอะเลือน เหมือนคนแก่ทั่วไปซึ่งบางคนอายุ ๘๐-๙๐ ปี ก็เลอะเลือนแล้ว นี่ท่านอายุถึง ๑๒๔,๑๒๕ ปี แต่ความจำของท่านยังแม่นยำ

    หลวงปู่สี ฉันทสิริ ท่านเล่าให้ฟังด้วยสุ้มเสียงที่ชัดเจนว่า ในรัชกาลที่ ๔ ยังไม่มีนามสกุลกันซึ่งเป็นปีที่ท่านเกิด แต่ต่อมาในรัชกาลที่ ๖ จึงมีการใช้นามสกุลกัน บิดาของท่านจึงขอตั้งนามสกุลว่า “ดำริ” ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๖ เป็นต้นมา

    ท่านว่าตระกูลของท่านมีอาชีพในทางกสิกรรม เป็นอาชีพหลักของชาวบ้านละแวกนั้น ส่วนท่านในสมัยยังเยาว์อยู่นั้น ก็มีความคึกคะนองไปตามวัย คือ ชอบเช้าป่าหาสัตว์อย่างไม่มีความกลัวเกรงต่ออันตรายใด ๆ ต่อมาจึงเกิดการเบื่อหน่ายต่อการทำบาป จึงได้มาบวชเป็นพระนี่แหละ ท่านเป็นผู้ที่ชอบป่ามาตั้งแต่เล็ก เมื่อได้บวชเป็นพระท่านจึงได้สมัครใจเป็นพระป่า ชอบออกธุดงค์ตามป่าเขาลำเนาไพร
     
  10. ป้าอี๊ด

    ป้าอี๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +1,105
    ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ ภาคสมบูรณ์ : จักรภพ เจริญรัตน์ (6)

    ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ ภาคสมบูรณ์ : จักรภพ เจริญรัตน์ (6)
    ประสบการณ์ธุดงค์

    หลังจากที่ท่านบวชอยู่กับอาจารย์ท่านได้เพียงพรรษาเดียวท่านก็ออกธุดงค์จากลพบุรี ไปจำพรรษาอยู่ที่ถ้ำเขาไม้เลียบ ช่องแค อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ อยู่ที่นั่นได้ ๓ ปี จากนั้นก็ได้ออกธุดงค์เรื่อยไปทุกภาคของประเทศไทย

    หลวงปู่สีท่านเล่าขานว่า การเดินธุดงค์ในสมัยก่อนนั้น มันผิดกับการเดินธุดงค์ในสมัยนี้มากเพราะว่าในสมัยนั้น ต้องเดินทางด้วยเท้า เพราะไม่มียานพาหนะ บางครั้ง เดินทางมาถึง ๓ วัน ๕ วัน ๗ วัน จึงจะพบหมู่บ้านสักหลัง หรือบางครั้งเป็น ๑๐ วัน ก็ไม่พบหมู่บ้านเลยก็มี จึงต้องอดข้าว อดน้ำ เป็นเวลาหลาย ๆ วัน และต้องประสบกับสัตว์ร้ายนานาชนิด แต่ด้วยใจที่แน่วแน่ไม่หวั่นไหว “ไม่กลัวอด ไม่กลัวตาย” จึงพบผลสำเร็จในการเดินธุดงค์

    ท่านเล่าว่า ท่านเคยตั้งสัตย์ปฏิญาณไว้ว่าแม้จะตายในป่าก็ยอมแต่ขอได้เจริญกรรมฐานตามที่ ได้มุ่งหวังไว้

    ในปีพรรษาที่ ๘ หลวงปู่ได้เดินธุดงค์ไปยังประเทศอินเดีย กับพระสหายธรรมของท่านคือ หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า (หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ) ผู้มีวิชาอาคมแก่กล้า ที่มีความสามารถล่องหน ย่นระยะทางได้ มีวาจาสิทธิ์ หลวงปู่ศุข ท่านเป็นสหธรรมมิกกัน ร่วมเรียน ร่วมศึกษา ร่วมธุดงค์ ร่วมแสงธรรมด้วยกันมาตราบจนหลวงปู่ศุข ท่านละสังขารไปก่อน หลวงปู่สี และหลวงปู่กลั่นซึ่งเป็นสหายธรรม

    การไปอินเดียในครั้งนั้น ท่านมีความประสงค์ที่จะไปกราบนมัสการสังเวชนียสถาน การไปในครั้งกระนั้น ต้องเดินด้วยเท้าเปล่า และไปลงเรือในบางแห่ง ท่านเล่าว่าได้ไปนมัสการสมประสงค์
     
  11. ป้าอี๊ด

    ป้าอี๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +1,105
    [​IMG]

    พระหลาย ๆ องค์ที่ได้มาพร้อมกับหนังสือ ประวัติ หลวงปู่สี ฉันทสิริ
     
  12. ป้าอี๊ด

    ป้าอี๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +1,105
    [​IMG]

    พระหลาย ๆ องค์ที่ได้มาพร้อมหนังสือประวัติ หลวงปู่สี ฉันทสิริ
     
  13. ป้าอี๊ด

    ป้าอี๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +1,105
    ครุฑ

    ครุฑเป็นพญาแห่งนกที่เป็นพาหนะของพระนารายณ์เชื่อว่าปกติอยู่ที่วิมานฉิมพลี มีรูปเป็นครึ่งนกอินทรี ที่ได้รับพรให้เป็นอมตะ ไม่มีอาวุธใดทำลายลงได้ แม้กระทั่งสายฟ้าของพระอินทร์ ก็ได้แต่เพียงทำให้ขนของครุฑหลุดร่วงลงมาเพียงเส้นหนึ่งเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ครุฑจึงมีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า “สุบรรณ” ซึ่งหมายถึง “ขนวิเศษ” ครุฑเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ มีอานุภาพและพละกำลังมหาศาล แข็งแรง สามารถบินได้รวดเร็ว ทั้งยังมีสติปัญญาเฉียบแหลม เฉลียวฉลาด อ่อนน้อม ถ่อมตน และมีสัมมาคารวะ น่าสรรเสริญ
     
  14. ป้าอี๊ด

    ป้าอี๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +1,105
    พญานาค

    [​IMG]

    พญานาค
    พญานาค เป็นสัตว์มหัศจรรย์ ที่มีคุณสมบัติพิเศษ คือ สามารถแปลงกายได้ พญานาค มีอิทธิฤทธิ์ และมีชีวิตใกล้กับคน พญานาค สามารถแปลงเป็นคนได้ เช่นคราวที่แปลงเป็นคนมาขอบวชกับพระพุทธเจ้า ในหนังสือไตรภูมิพระร่วง กล่าวถึงนาคที่ชื่อ ถลชะ ที่แปลว่า เกิดบนบก จะเนรมิตกายได้เฉพาะบนบก และนาคชื่อ ชลซะ แปลว่า เกิดจากน้ำ จะเนรมิตกายได้เฉพาะในน้ำเท่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2012
  15. ป้าอี๊ด

    ป้าอี๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +1,105
    ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ ภาคสมบูรณ์ : จักรภพ เจริญรัตน์ (7)

    ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ ภาคสมบูรณ์ : จักรภพ เจริญรัตน์ (7)
    ประสบการณ์ธุดงค์

    การเดินธุดงค์ของหลวงปู่สี ฉันทสิริ ตอนที่น่าสนใจก็ตอนที่ ท่านเดินทางไปนมัสการพระบาทสี่รอยที่เชียงใหม่ หลวงปู่ท่านได้เล่าให้ฟังว่า ได้ยินคนเขาบอกว่าพระบาทสี่รอยนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ท่านพร้อมด้วยหลวงตาทา สระบุรี ได้เดินทางร่วมกันไป ณ สถานที่แห่งนี้

    การเดินทางในครั้งนี้นับว่าลำบากยากเข็ญ มาก จะต้องปีนป่ายขึ้น ๆ ลง ๆ ภูเขาหลายลูก และตลอดทางไม่พบบ้านผู้คนเลย ท่านต้องอดฉันข้าวถึง ๑๑ วัน ท่านเล่าว่า แม้จะเหน้ดเหนื่อยเมื่อยล้าโหยหิวอย่างไร ก็ไม่ยอมย่อท้อ เพราะภายในดวงจิต ดวงใจนั้น มุ่งที่จะไปยังพระบาทสี่รอยให้จงได้และท่านก็ไปถึงพระบาทสี่ร้อยนั้น จนได้ตามที่ใจปรารถนา

    เมื่อไปถึงพระบาทสี่รอยก็ได้เห็นชายหญิงคู่หนึ่ง กำลังนั่งกินยาลูกกลอนอยู่ทั้งคู่ และชายหญิงคู่นั้น เมื่อเห็นพระเดินทางมาไกล จึงได้ปั้นยาถวายประมาณ ๑ ช้อนเขียว (ช้อนกลางตักแกงในสมัยก่อนเป็นช้อนเคลือบสีเขียว)
    ท่านเล่าว่าเมื่อฉันยาก้อนที่หญิงชายคู่นั้นนำมาถวายให้ ก็มีความรู้สึกประหลาดมาก เพราะเกิดมีกำลังวังชาขึ้นมาทันที เรื่องที่เหน็ดเหนื่อยและหิวมาหลายวัน ก็พลันหายดังปลิดทิ้ง ท่านว่ายาที่ เขานำมาถวายให้ฉันคงจะเป็นยาวิเศษ หรือยาอายุวัฒนะ และหลังฉันยานั้นเสร็จชายหญิง คู่นั้นก็หายไปอย่างมหัศจรรย์
     
  16. ป้าอี๊ด

    ป้าอี๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +1,105
    ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ ภาคสมบูรณ์ : จักรภพ เจริญรัตน์ (8)

    ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ ภาคสมบูรณ์ : จักรภพ เจริญรัตน์ (8)
    ประสบการณ์ธุดงค์
    คณะลูกศิษย์ เมื่อไปกราบท่าน และมักจะซักถามถึงการธุดงค์ ตามป่าเขา เป็นแรมเดือน แรมปี เมื่อหลวงปู่ท่านว่า การอยู่ป่านั้นต้องถือศีลให้บริสุทธิ์ หมั่นปฏิบัติสมถะ วิปัสสนากรรมฐาน และดำรงสติให้มั่น “สติ” เป็นพื้นฐานของการภาวนา ถ้าสติไม่ดี ไม่ตั่งมั่นเสียแล้ว จะไม่มีพื้นฐาน สติก็คือความระลึกได้ในทุกสถาน จิตคิดนึกอย่างไร ก็รู้ได้ รู้ตัวอยู่ ระลึกได้อยู่

    สติมั่นคง ใจให้อยู่คงที่ ถ้าคนใดคุมใจไม่ได้เรียกว่า “สติเลื่อนลอย” สติจึงอุปมาเสมือนกับเชือกผูกมัดล่ามจิตใจไว้ให้อยู่กับหลักคือ “หัวใจ”

    จิตนั้นเหมือนกับสัตว์ มันออกไปจากใจคือหลัก เมื่อล่ามไว้อย่างนี้ มันจะวนเวียนอยู่รอบ ๆ มันเหนื่อยแล้วมันจะเข้ามาอยู่คงที่คือรวมลงเป็นหนึ่ง จิตมารวมอยู่ที่ใจ พระพุทธเจ้าท่านเทศนาว่า

    “สติท่านอุปมาเปรียบเสมือน กับคนรักษาโค รักษากระบือ ทุ่งหญ้ากว้าง ๆ ขึ้นต้นไม้ แล้วมองดูตัวไหนอยู่ ตันไหนไป จะเห็นหมด”

    สติควบคุมดีแล้ว ย่อมระงับเสียซึ่งความอยากได้ของของคนอื่นมาเป็นของเรา กิเลสทั้งปวงหมดจิตคนนี้แหละเป็นคนสร้างขึ้น โลภ โม โทสัน สรรพกิเลสทั้งปวงมานะทิฐิ ผู้นี้แหละ เป็นคนสร้าง ถ้าไม่สร้างมันก็อยู่คงที่ มันไม่ยึดถือ ไม่ไปเกาะเกี่ยว
     
  17. ป้าอี๊ด

    ป้าอี๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +1,105
    ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ ภาคสมบูรณ์ : จักรภพ เจริญรัตน์ (9)

    ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ ภาคสมบูรณ์ : จักรภพ เจริญรัตน์ (9)
    ประสบการณ์ธุดงค์
    คุมสติได้แล้ว มันจะไม่เกาะเกี่ยวอย่างไร ความยึด ความถือปล่อยวางหมด ความสงบเยือกเย็น อยู่ตรงนี้ ทุกคนพากันสงบอย่างนี้ อะไรมันจะเกิดขึ้นในหมู่มนุษย์ ทุกคนพากันอยู่ในความสงบเรียบร้อย ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับของภายนอก พากันรักษาตัว ของตนก็หมดเรื่องกันไป การปฏิบัติพุทธศาสนาอยู่ที่ “สติ” ตัวเดียวเท่านั้น

    ครับคำสอนและคติธรรมของหลวงปู่นั้น ลึกซึ่งยิ่งนัก ท่านมักจะสั่งสอนให้ลูกศิษย์ลูกหาฟัง มากกว่าการชี้แนะในเรื่องฤทธิ์เดช ท่านไม่เคยจะให้ใครรู้ว่าท่านมีอะไรดี

    ความจริงแล้วหลวงปู่สี ท่านเป็นพระสุปฏิปันโน เข้าถึงธรรมมีวาจาสิทธิ์ ทุกสิ่งทุกอย่างโดยรอบ ตัวท่านล้วนเป็นของกายสิทธิ์ทั้งนั้น ตามคำบอกเล่าของชาวตาคลี ตั้งแต่น้ำล้างเท้า ผ้าเช็ดพื้น น้ำหมาก ชานหมาก ชาวบ้านล้วนแย่งกันเก็บ ไว้เพราะถือว่า เป็นของศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่หมอ ก็ยังตะลึงเพราะอุจจาระ (ขี้) ของท่านก็ยังมีกลิ่นหอม และเป็นขี้ผึ้ง ลูกศิษย์ต่างหา ต่างแย่งกัน เก็บมาบูชารักษา ไว้อย่างหวงแหน

    หลวงปู่สี ฉันทสิริ พระผู้มากด้วยคุณธรรม แห่งวัดเขาถ้ำบุญนาค ในสมัยที่มีชีวิตอยู่นั้น ท่านได้เทศนาสั่งสอนพระเณรลูกวัด ตลอดจนญาติโยมเป็นประจำ ในเรื่องการปฏิบัติธรรม ซึ่งท่านจะเล่าถึงการออกเดินธุดงค์ ของท่านอยู่เสมอว่า

    “การผจญภัยในป่าดงดิบเสมือนกับการได้ผจญภัยกับตัวเราเองคือความไม่แน่นอน ของจิตใจความไม่แน่นอนของสังขาร ความไม่แน่นอนของอนาคต ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ไม่ควรยึดถืออย่างยิ่ง สิ่งที่ควรยึดถือ และนำมาปฏิบัติคือ พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ เพราะท่านเป็นพระศาสดาเอกของโลกทั้ง ๓ คือมนุษโลก เทวโลก พรหมโลก อันเป็นสิ่งที่ ต้องการของทุกคนแต่ก็ไม่มีใครจะสนใจในการปฏิบัติ เพื่อให้เข้าถึงพระนิพพานสักครั้ง
     
  18. ป้าอี๊ด

    ป้าอี๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +1,105
    ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ ภาคสมบูรณ์ : จักรภพ เจริญรัตน์ (10)

    ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ ภาคสมบูรณ์ : จักรภพ เจริญรัตน์ (10)
    ประสบการณ์ธุดงค์
    หลวงปู่ท่านกล่าวอยู่เสมอว่า ให้ทุกคนมีศีลธรรมประจำใจ อย่าได้วิตกในเรื่องต่าง ๆ มากเกินไป เพราะจะทำให้การปฏิบัติธรรมในปัจจุบันไม่ได้ผลเท่าที่ควร ท่านได้ยกเอาตัวอย่างในสมัยที่ท่านเดินธุดงค์ไปตามป่าลำเนาไพร ต่างๆ ว่าท่านต้องยึดสัจจะเป็นที่ตั้ง ซึ่งท่านกล่าวว่า”ถ้าจะอยู่ ณ ที่ใด เป็นเวลาเท่าไร ก็จะตั้งจิตอธิษฐานเอาไว้ในใจทุกครั้ง ทุกสิ่งทุกอย่าง อยู่ที่ใจตัวเดียว ถ้าใจไม่เที่ยงตรง ใจไม่สงบ ก็จะไม่มีประโยชน์ อะไรในการปฏิบัติ เพราะถ้าใจไม่สงบ เวลามีภัยมาใกล้ตัว ก็จะควบคุมสติไม่อยู่ จะเป็นคนเสียสติ ไปได้ที่สุด ก็กลายเป็นบ้าไปก็มีมาก”

    หลวงปู่ท่านได้แนะนำว่าให้มีศลธรรมกันทุกคน และก็ควรปฏิบัติธรรมกันไว้ให้มากๆ เผื่อจะได้พบกับมรรค ผล หนทางแห่งความพ้นทุกข์ ซึ่งมีพระนิพพานอันเป็นที่สุดในโอกาสต่อไป และท่านเคยกล่าวว่า คนทุกวันนี้มักจะไม่ซื่อต่อกัน มีความปลิ้นปล้อนต่อกันอยู่เสมอ เพื่อให้เอาตัวรอดได้ แต่เมื่อพิจารณาดูแล้ว จะไปโทษสังคมก็ไม่ได้ เพราะสังคมเขาดีอยู่แล้ว เช่นเดียวกับพระพุทธศาสนา ซึ่งบางคนมักจะพูดว่า”ศาสนาเสื่อมแล้ว”

    ความจริงแล้ว ศาสนามิได้เสื่อมไปดังที่คนเขาพูดกัน แต่คนที่พูดนั่นแหละ เป็นคนที่เสื่อม เพราะมีจิตใจไม่เป็นปกติ มีความวุ่นวายอยู่ไม่เป็นสุขตลอดเวลาส่วนศาสนาเป็นหลักแน่นอยู่แล้ว ไม่คลอนแคลนไปไหน ใครเข้ามาปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ ก็ได้รับประโยชน์กันทุกคน เช่น การศึกษาเล่าเรียนในทางปริยัติก็ได้แก่นักธรรมตรี นักธรรมโท นักธรรมเอก เป็นลำดับในทางปฏิบัติ ก็จะทำให้ จิตใจสงบ เป็นสมาธิ ในที่สุดก็เกิดปัญญา ผู้อะไรผิด อะไรถูก เป็นต้น

    หลวงปู่สี ท่านเคยเล่าให้ฟังในตอนหนึ่งว่า ในระหว่างที่หลวงปู่สี ท่านจำพรรษาอยู่ที่ถ้ำเขาไม้เลียบนั้นท่านได้ฝึกฝนในทางเจริญพระกรรมฐานอย่างหนักแน่น ซึ่งในบางครั้งท่านไม่ฉันข้าวเลยก็เคยมีท่านได้อยู่ปฏิบัติธรรมที่เขาไม้เลียบแห่งนี้ จนมีความกล้าแข็งพอสมควรแล้ว ท่านจึงออกเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่าง ๆ ต่อไปอีกพร้อมกันนั้น ท่านก็ได้เสาะแสวงหาพระอาจารย์ที่มีควรเก่งกล้าในเวทวิทยาคมอีกด้วย ทั้งนี้เพราะท่านต้องการจะเข้าไปศึกษาเล่าเรียน ด้วยนั่นเองท่านจึงเดินธุดงค์ไปทางภาคเหนือบ้าง ไปทางอิสานบ้าง ในบางครั้งท่านก็ข้ามไปยังประเทศลาว จากนั้นก็เดินธุดงค์ข้ามไปยังประเทศพม่า และประเทศอินเดียถึง ๒ ครั้ง

    “หลวงปู่เคยหลงอยู่ในป่าดงดิบ ในแถบประเทศพม่าอยู่หลายวันโดยมิได้ฉันอาหารเลย จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่ด้วยอำนาจของการเจริญสมาธิภาวนาจิตเข้มแข็ง จึงไม่ย่นย่อ และเกรงกลัวต่อความตาย เพราะความตั้งใจจริงในการปฏิบัตินั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2012
  19. ป้าอี๊ด

    ป้าอี๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +1,105
    ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ ภาคสมบูรณ์ : จักรภพ เจริญรัตน์ (11) พบช้างป่า

    ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ ภาคสมบูรณ์ : จักรภพ เจริญรัตน์ (11) พบช้างป่า
    ครั้งหนึ่งเมื่อหลวงปู่ไปกราบพระบาทสี่รอย ตอนเช้าท่านก็ได้ไปนมัสการพระบาทเป็นประจำทุกวัน แต่ที่น่าประหลาดบริเวณรอบรอยพระบาทสะอาดเรียบร้อยไม่เปรอะเปื้อนทั้ง ๆ ที่ ไม่มีคนอยู่ทำความสะอาด ต่อมาก็ได้เห็นช้างป่าหลายเชือกมาทำความสะอาดในตอนเช้าเป็นประจำ โดยการใช้งวงปัดเป่า ทำความสะอาดได้อย่างยอดเยี่ยม

    ท่านเล่าว่าด้วยการที่อยู่ใกล้กันและเห็นกันอยู่ทุกวันเป็นประจำทำให้ช้างป่าเหล่านั้นเกิดความสนิทสนมกับท่านเป็นอย่างดี จนในเวลาต่อมาช้างเหล่านั้นได้นำหัวบัวบ้าง กระจับบ้าง และน้ำอ้อยมาถวายท่านได้ฉันอย่างไม่ขาด ช้างเหล่านั้น ช่วยกันปรนนิบัติรับใช้หาอาหารการกิน น้ำท่ามาถวายท่านอย่างไม่ขาด การปฏิบัติของช้างเหล่านั้นมันปฏิบัติได้เหมือนคนไม่มีผิด แม้พวกช้างเหล่านั้นจะเป็นช้างป่าก็ตาม แต่ก็เชื่องเหมือนช้างบ้าน

    เมื่อท่านได้นมัสการพระบาทสี่รอยและได้เพียรเจริญสมถวิปัสสนานานพอสมควร ท่านจึงได้เดินทางกลับเพื่อไปแสวงหาความวิเวกในที่อื่นต่อไป ในวันที่ท่านเดินทางกลับนั้นหลังจากฉันอาหารที่เหล่าฝูงช้างป่าว่าวันนี้ ท่านจะเดินทางกลับแล้ว ช้างป่าเหล่านั้นก็พร้อมใจกันเดินทางมาส่งท่านที่เชิงเขาด้วยความอาลัย

    อีกครั้งหนึ่งที่หลวงปู่เดินธุดงค์อยู่ในป่าลึก ขณะที่หลวงปู่ท่านเดินอยู่ในป่าดงดิบนั้น ท่านก็ได้พบกับช้างป่าฝูงใหญ่ ช้างป่าทุกเชือกมีลักษณะดุร้าย โดยเฉพาะ เชือกจ่าฝูง รูปร่างสูงใหญ่ งายาว มันยืนจ้องมองมายังหลวงปู่ หลวงปู่พอเห็น ท่านก็ยืนสงบแผ่เมตตาจิตให้พญาช้างและช้างทุก ๆ เชือกในโขลงนั้น ด้วยความมั่นคงแน่วแน่ กระแสรจิตพลังแห่งความเมตตา ของหลวงปู่ที่มีต่อสรรพสัตว์ ทุกอย่างอยู่ในความสงบเงียบ พลันเชือกที่เป็นหัวหน้าโขลง ก็ชูงวงขึ้น พร้อมกับเปล่งเสียงร้องดังก้องป่า ในสภาพบรรยากาศเช่นนี้ หากนอกจากหลวงปู่แล้ว นับว่าเป็นช่วงเวลาที่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง แต่หลวงปู่สีท่านอยู่ในอาการสงบนิ่งไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
     
  20. ป้าอี๊ด

    ป้าอี๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +1,105
    [​IMG] [​IMG]

    มักกะนารีผล หรือมรรคนารีผล
     

แชร์หน้านี้

Loading...