ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อัคคีภัย มลพิษภัย โรคภัย ทุพภิกขภัย โจรภัย

    อัคคีภัย หมายถึง ความร้อนจะเกิดขึ้นในโลกนี้อย่างรุนแรง จากความแห้งแล้งเพราะฟ้าฝนไม่ตกตามฤดูกาล ที่ผ่านมาเกิดภัยธรรมชาติขึ้นดังที่ได้อธิบายมาแล้ว มีวาตภัยอุทุกภัย ธรณี และภัยอื่นๆ เช่น โรคภัย ทุพภิกขภัย โจรภัย มลพิษภัย เกิดขึ้นต่อเนื่องกัน ทำให้มนุษย์ทั้งหลายอยู่ด้วยความลำบากเป็นทุกข์เดือดร้อนเป็นจำนวนมากหากมีอัคคีภัยเกิดขึ้นซ้ำเติม ชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์จะเต็มไปด้วยความทุกข์ยบากแร้นแค้นแสนเข็ญ จึงเป็นเหตุให้มนุษย์อยู่ด้วยความอดอยากดิ้นรน ฝนจะตกลงมาน้อยไม่พอที่จะทำไร่ทำนา ดินฟ้าอากาศก็จะเกิดแปรปรวนไปทั่วหนแห่งทุกมุมโลก

    ในบางพื้นที่จะไม่มีฝนตกลงมาเลย ความร้อนจากแสงอาทิตย์แผดเผา ทำไร่ทำนาไม่ได้รับผลแต่อย่างใดจะมีความแห้งแล้งทั่วกันในทุกมุมโลก อาหารการกินขาดแคลนขัดสน คนจะล้มตายเป็นจำนวนมากเพราะความอดอยากหิวโหย จะเกิดโจรภัย ลักปล้นจี้ให้ได้มาซึ่งอาหารนเพื่อให้ชีวิตอยู่ได้ ในหมู่สัตว์ดิรัจฉานไม่มีอาหารที่จะกินก็จะล้มตายกันไปเช่นกัน

    อัคคีภัยที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้าโน้น คนที่เกิดมาในยุคนั้นจะเผชิญกับภัยธรรมชาตินี้อย่างแน่นอน จะหลบหลีกไปอยู่ในมุมโลกซีกไหนก็ไม่พ้นจากภัยธรรมชาติเหล่านี้ได้ ในยุคสมัยที่ประชากรโลกมีจำนวนประมาณ ๒ หมื่นล้านคน ภัยธรรมชาตินี้จะเกิดขึ้นเต็มรูปแบบทั่วทุกมุมโลก มนุษย์จะได้รับผลกระทบล้มตายไปเพราะอัคคีภัยเป็นจำนวนมาก ความร้อนจากแสงแดดจะเผาเพิ่มความร้อนขึ้นหลายเท่า การจะรักษาชีวิตให้อยู่รอดได้นั้นยากมากนับจากวันนี้ไป ความร้อนจะทวีความรุนแรงหลายเท่าตัวจะเกิดความร้อนไปทั่วทุกมุมโลก ความร้อนที่เกิดขึ้นจากดวงอาทิตย์บนโลกและความร้อนที่จะเกิดขึ้นในแผ่นดินจะทำให้เกิดความร้อนระอุขึ้นทุกหนแห่ง มนุษย์และสัตว์ทั้งหลายจะล้มตายเป็นจำนวนมาก จะหาสถานที่หลบภัยในที่ต่างๆ หาได้ยาก

    ถ้าหากเราเป็นคนหนึ่งอยู่ในเหตุการณ์อย่างนี้ ก็จะได้รับความเดือดร้อนเหมือนคนทั่วไป ก่อให้เกิด อาหารภัย คือ ข้าวปลาอาหารเครื่องอุปโภคจะขาดแคลนอดอยากตามมาด้วย โรคภัย คือภัยจากโรคต่างๆ ก็จะเกิดโดยไม่ทราบสาเหตุ และยังหาวิธีรักษาไม่ได้ ซึ่งเกิดขึ้นทั้งมนุษย์และสัตว์ เช่น โรคเอดส์ โรคหวัดหนก โรคไขหวัดใหญ่ โรคซาร์ส เมื่อเกิดโรคภัยอย่างรุนแรง จะหาหมอหายามารักษาได้ยาก

    เมื่อประสบปัญหาอาหารภัย โรคภัย ก็จะเกิดโจรภัยการจี้ปล้น เพื่อให้ได้มาซึ่งอาหาร มนุษย์จะเบียดเบียนกันเอง เกิดความกลัว ความหวาดระแวงในชีวิตและทรัพย์สิน ชีวงิตของมนุษย์จะมีความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส แต่ละครอบครัวจะสูญเสียบุคคลที่เรารนักและพลัดพรากจากกันไป พ่อแม่ลูกหลานญาติมีมิตรเหมือนได้ติดอยู่ในความมืด ไม่รู้ข่าวสารซึ่งกันและกัน เพราะได้หนีตายไปคนละทิศละทาง การไปมาในที่ไหนจะไม่มีความสบายเหมือนในยุคปัจจุบัน ไฟฟ้าจะใช้เวลาค่ำคืนก็ไม่มีฟืนที่จะหามาก่อไฟเพื่อบรรเทาความหนาวเย็นก็หาได้ยากเสื้อผ้าที่จะนำมานุ่งห่มก็ขาดแคลน เรียกว่าสิ้นเนื้อประดาตัว

    เหตุการณ์อย่างนี้จะมีเกิดขึ้นในภายภาคหน้าอย่างแน่นอน ภัยธรรมชาติเหล่านี้ เมื่อไม่เกิดขึ้นกับตัวเองก็รู้สึกเฉย ๆ เหมือนในยุคนี้ แม้มีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นอยู่บ้างเราก็ไม่มีความเดือดร้อน ดังคำว่าไม่มีความเดือดร้อน ดังคำว่าไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาเพระาถือว่าไม่ได้เป็นเรื่องของเราและไม่ใช่ญาติของเรา จึงไม่มีความรู้สึกเดือดร้อนใจแต่อย่างใด เพราะเข้าใจว่าเป็นเรื่องของคนอื่น ถ้าเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อไร จึงจะได้เกิดความรู้สึกตัว

    อัคคีภัยความร้อนในยุคปัจจุบันก็เริ่มมีผลกระทบอยู่แล้ว ต่อไปก็จะเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น มนุษย์จะอยู่ด้วยความลำบากเป็นอยากมากทีเดียว ความร้อนที่เกิดขึค้นจะหาวิธีป้องกันได้ยาก เพราะเป็นภัยธรรมชาติ เกิดขึ้นในตัวมันเอง หมู่มนุษย์แม้จะมีส่วนทำให้ความร้อนของโลกนี้เพิ่มขึ้นอยู่บ้าง แต่ในความเป็นจริงแล้ว โลกร้อนจะเกิดขึ้นเพราะเปลือกโลกเสื่อมนั่นเอง..

    อัคคีภัยความร้อนในพื้นพิภพ จะเป็นเหตุให้ภูเขาไฟเกิดการปะทุมากขึ้น ภูเขาไฟจะบวกกับวาตภัย ลมก็จะกดดันให้ภูเขาไฟระเบิดอย่างรุนแรง ลาวาเถ้าถ่านก็จะฟุ้งกระจายขึ้นไปสู่อากาศและตกลงมา มนุษย์ก็จะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก จะเกิดเป็นมลพิษนานัปการ

    มนุษย์จะเกิดการเจ็บป่วยล้มตาย ที่อยู่อาศัยก็จะถูกฝุ่นเถ้าจากภูเขาไฟทับถม สถานที่อาศัยที่ได้ถูกภัยธรรมชาติอย่างอื่นทำลายมาก่อนแล้ว ยังได้รับผลกระทบจากภูเขาไฟซ้ำเติมอีก มนุษย์จะอยู่ก็ด้วยความลำบาก ความทุกข์ยากก็จะเกิดตามมา จะหาสถานที่หลบภัยในที่ไหนก็แทบไม่มาเพราะในช่วงนี้จะมีอากาศแปรปรวนไปทั่วทุกมุมโลก ความร้อนจากอัคคีภัยจะทำให้ภูเขาไฟเกิดปะทุขึ้นหลาย ๆจุดต่อเนื่องกัน แต่ละวันมนุษย์จะหาที่หลบภัยท่ามกลางกลิ่นอายอันเป็นพิษอยู่ตลอดเวลา จะหาหน่วยงานใดเข้าไปช่วยเหลือนั้นก็เป็นของยาก มีความลำบากในการกินอยู่หลับนอนเนื่องจากภัยธรรมชาติหลายอย่างที่เกิดขึ้น ประเทศใดหรือสถานที่แห่งใดไม่มีภูเขาไฟระเบิด ก็จะยังได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติอย่างอื่นอยู่นั่นเอง

    อัคคีภัยความร้อนจะมีผลกระทบต่อคลังแสง หมายถึงที่เก็บอาวุธอันเป็นพิษภัยที่มนุษย์ได้สร้างเอาไว้มาก เช่น ระเบิดปรมาณู นิวเคลียร์ที่เป็นพิษอย่างรุนแรง หลายๆ ประเทศที่เก็บอาวุธเหล่านี้เอาไว้ในสถานที่ต่าง ๆ อาวุธทั้งหลายเหล่านี้เมื่อถูกความร้อนมากขึ้นก็จะเกิดการระเบิดสารพิษจะกระจายขึ้นสู่อากาศ ลมจะพัดไปทั่วทุกมุมโลกมนุษย์ที่รับสารพิษเหล่านี้ เกิดเป๋นโรคภัยพากันล้มตายเป็นจำนวนมาก ผู้คิดทำอาวุธร้ายแรงนี้ขึ้นมาไม่ได้คิดถึงผลกระทบที่จะเกิดตามมา เรื่องอัคคีภัยอันเป็นภัยธรรมชาตินั้นอาจคิดไม่ถึง จึงได้สร้างอาวุธที่มีพิษร้ายแรงขึ้น

    ปัญหาโลกร้อนในขณะนี้ มีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากมนุษย์ที่ทำให้อากาศของโลกมีความร้อน แต่ส่วนใหญ่ความร้อนจะเกิดจากอัคคีภัยเป็นความร้อนจากภัยธรรมชาติเอง ดังความร้อนที่มนุษย์ได้รับกันอยู่ในขณะนี้ ทุกๆ ความร้อนมีแต่จะเพิ่มขึ้น ดินฟ้าอากาศก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ มนุษย์จะอยู่ด้วยความลำบากภัยธรรมชาตินี้จะไม่มีวิธีป้องกันได้เลย ถ้าหวนคิดย้อนหลังสัก ๕๐ ปี ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จะรู้ได้ชัดว่าความร้อนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากและจะมีความร้อนเพิ่มขึ้นทุกปี นี่คือมนุษย์ในยุคต่อไปจะได้รับผลกระทบเป็นอย่างยิ่ง

    มลพิษภัย ที่จะเกิดขึ้นตามมา คือ มลพิษทางน้ำ น้ำใช้ที่เกิดจากการปนเปื้อนสารพิษ สาเคมี และสิ่งสกปรกปัญหาน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน มลพิษทางอากาศ อากาศมีฝุ่นควันที่เป็นพิษปนเปื้อน เมื่อคนหายใจเข้าไปก่อให้เกิดโรคภัยและล้มตายเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมลพิษจากขยะและสิ่งปฏิกูลที่มนุษย์เป็นผู้สร้างก็จะถูกน้ำพัดออกมา ทำให้เน่า เกิดโรคระบาดติดเชื้อมากมาย

    มลพิษเหล่านี้จะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่มนุษย์อาศัยอยู่เป็นอย่างมาก มีผลกระทบต่อร่างกาย ทำให้เกิดเจ็บไข้ เป็นโรคร้ายต่าง ๆ ตามมานานัปการ ที่ผ่านมามนุษย์ได้คิดค้นทางวิทยาศาสตร์ด้านเคมีที่จะนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดเป็นโทษในภายหลังทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำ ยังได้รับผลกระทบดังที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้ แม้มนุษย์ก็ได้รับผลกระทบอยู่ แต่ยังไม่รู้ตัว ที่เรียกว่า ตายผ่อนส่ง

    มลพิษภัยเหล่านี้มีผลกกระทบต่อร่างกายและใจ ทำให้เกิดอารมณ์หงุดหงิด เพราะได้รับผลจากมลพิษภัยธรรมชาตินั้นเอง เมื่อสังคมของมนุษย์ได้รับมลพิษจากภัยธรรมชาติมากขึ้น อารมณ์ที่แสดงต่อกัน ล้วนแล้วแต่อารมณ์ที่เป็นพิษด้วยกันทั้งนั้น นี่เรียกว่า ถึงยุคสมัยในการเปลี่ยนแปลงไปของโลก

    คำว่า "โลก" มีคำจกำดความอยู่ ๓ อย่าง คือ
    ๑. สิ่งที่มีจิตครองร่าง
    ๒. สิ่งที่ไม่มีจิตครองร่าง
    ๓. อากาศ

    ทั้งสามอย่างนี้รวมกันเรียกว่า "โลก" จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ ภัยธรรมชาติทั้งหลายที่เกิดขึ้น ก็เพราะธรรมชาติมีความเสื่อมไปตามอายุขัยในตัวมันเอง ที่เรียกว่าเปลือกโลกเสื่อม จึงได้เกิดภัยธรรมชาติขึ้นดังที่รู้เห็นกันในปัจจุบัน และจะเกิดขึ้นต่อไปในภายหน้า ผู้ที่เกิดมาในยุคนั้นจะได้ประสบต่อภัยธรรมชาตินี้ต่อไป..

    ขอบคุณเนื้อหาจาก : รู้ธรรม รู้ทัน ภัยธรรมชาติ
    หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ

    ที่มา *รู้ธรรม..รู้ทัน..ภัยธรรมชาติ*
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012
  2. PunnyHamp

    PunnyHamp Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +98
    อินเตอร์เน็ตที่มันหลุดบ่อยๆ เพราะระบบมันห่วยนั้นเอง ไม่เห็นมันจะเกี่ยวกับภัยพิบัตืตรงไหนเลย เราอยู่ ตปท เล่นเน็ตทุกวันเร็วมากกก
     
  3. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    แชร์ความเห็น ได้ฟังพยากรณ์อากาศบ้านเราแล้วหงุดหงิดใจมาก บอกว่าพายุเข้ามีผลฝนตก กทม. เริ่มเมื่อวาน ทำเอาเราไม่ซักผ้า ฝนไม่เห็นตกอย่างที่บอกเลย
    วันนี้บอกคาดว่าเข้า กทม. มีผลฝนตก เริ่มวันนี้อีกแล้ว
    ไม่เห็นเหมือนที่เกาหลีเลย เค้าพยากรณ์อากาศล่วงหน้ามากกว่า 20-15 วัน ตรงมาก บอกว่าวันที่ 27 ตค.ฝนจะตก ก็ตกจริงๆ
    ปีที่แล้ว จะฝากของแม่ค้าที่เกาหลี เค้าบอกว่าฝากนานไหม เดี๋ยว3ทุ่มฝนจะตก บอกว่าฟ้าใสแบบนี้ไม่ตกหรอก แม่ค้าบอกตกแน่ 3 ทุ่มฝนตกจริงๆ
    คนท้องถิ่น บอกว่าอุตุเกาหลีเม่นมากๆ คนเค้าเก่งคณิตศาสตร์ คำนวณอากาศและเวลาเกิดเม่นมากๆ
    เมื่อวานลูกพี่สาวโชตนาไป งานจุฬาวิชาการ คนเก่งๆไปแพทย์ วิศวะหมด พวกธรณีวิทยา ไม่มีคนดูต้องฉุด ต้อน วิทยาการด้านนี้จึงไม่ก้าวหน้า
    อุตุ ไปดูงานเกาหลีเค้าบ้าง รับเด็กเก่งคณิตมาทำงานบ้าง
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สงครามจะไม่เกิดถ้าผู้นำสามารถรู้เห็นอนาคตได้ !!!

    [​IMG]

    ทั้งโลกจะเป็นสักขีพยาน สงครามครั้งสุดท้าย แห่งรัตติกาลทไวไลท์ ผนึกกำลังแวมไพร์จากทั่วโลก เผชิญหน้าต้านโวลตูรี่

    หลังจาก Breaking Dawn - Part 1 สร้างปรากฏการณ์อีกครั้ง เมื่อทำรายได้รวมทั่วโลกไปถึง 705 ล้านเหรียญ และรวมทั้ง 4 ภาคที่ผ่านมา ก็ทำรายได้ไปถล่มทลายไปกว่า 2,500 ล้านเหรียญ ในที่สุดบทสรุปสุดท้ายของมหากาพย์ แวมไพร์ ทไวไลท์ก็มาถึง

    หลังจาก เบลล่า (คริสเตน สจ๊วต) ใช้เวลาปรับตัวกับชีวิตใหม่ในการเป็นแวมไพร์ กลุ่มแวมไพร์โวลตูรี่ก็แสดงความต้องการตัว เรเนสมี ลูกสาวของ เอ็ดเวิร์ด (โรเบิร์ต แพททินสัน) และ เบลล่า มาครอบครอง ครอบครัวคัลเลนจึงขอความช่วยเหลือจากกลุ่มแวมไพร์พันธมิตรทั่วโลก รวมถึง เจคอบ (เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์) ที่ผูกวิญญาณกับ เรเนสเม่ แล้ว เพื่อร่วมต่อสู้ในสงครามครั้งสุดท้ายกับกลุ่มแวมไพร์โวลตูรี่ ที่จะเป็นบทสรุปของทุกสิ่ง

    ที่มา หนัง The Twilight Saga : Breaking Dawn Part 2

    หมายเหตุ

    เมื่อวานนี้ผมได้ไปดูหนังเรื่องแวมไพร์ทไวไลท์ 4 เรื่องนี้มา ได้ข้อคิดที่น่าสนใจอย่างหนึ่งที่ว่า ถ้าคนเราสามารถรู้เห็นอนาคตล่วงหน้าได้ ก็สามารถจะเปลี่ยนแปลงอนาคตได้เช่นเดียวกัน ด้วยการตัดสินใจเลือกทางเดินใหม่ที่ดีกว่าเดิม สอดคล้องกับเหตุการณ์การเมืองของประเทศไทยในขณะนี้

    หากผู้นำที่กุมอำนาจทางการทหาร และทางการเมืองไทยในขณะนี้ สามารถรู้เห็นเหตุำการณ์การนองเลือดอย่างรุนแรง ที่กำลังจะเกิดในอนาคตนี้ได้ เช่นเดียวกับผู้ทรงศีลทรงญาณหลายๆท่าน แล้วตัดสินใจเลือกทางเดินใหม่ โดยไม่ใช้กำลังทางทหารเพียงอย่างเดียว ก็จะสามารถเปลี่ยนอนาคตได้เช่นเดียวกับหนังเรื่อง แวมไพร์ทไวไลท์ 4 นี้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012
  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ทางเดียว ****

    ถือ...สัจจะ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
    ประกาศ....สัจจะ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  6. พูน

    พูน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    595
    ค่าพลัง:
    +2,479
    ชอบครับชอบ:cool::cool::cool:
    ตอนนี้รอคนอย่าง พระเจ้าอโศกมหาราชอยู่ ศาสนาจะฟื้นฟูได้ ต้องทนลงนรกสักพัก ต้องเล่นแรงๆไม่งั้นไม่ตาสว่างกันเสียที แต่ผมขอบายแล้ว เหนื่อยมานานล่ะ
     
  7. sutanee

    sutanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +3,248
    ดิฉันเองอาจคิดผิดจากคนอื่นที่คิดว่าศาสนาเสื่อมลงจริงแล้วพุทธศาสนาก็ยังคงบริสุทธิ์งดงามอยู่อย่างนั้นหากคนนั่นแหละที่ไม่เข้าใจหลงผิดไปแต่เมื่อถึงเวลาที่คนๆนั้นมีบุญบารมีพอก็จะสามารถเข้าถึงได้
     
  8. mali1163

    mali1163 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +349
    ทุกสรรพสิ่งล้วนอยู่ภายใต้กฎไตรลักษณ์
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ปี 2556 แรงทั้งภัยมนุษย์และภัยทางธรรมชาติ !!!

    [​IMG]

    "ศาสตร์แห่งโหร 2556" มอง"ไทย"ด้วย"ตาทิพย์"

    ฮือฮาทุกปี เมื่อหนังสือ "ศาสตร์แห่งโหร" ประจำปี ออกวางแผง ด้วยเอกลักษณ์ คือ รวมเอาโหราพยากรณ์หลายแนวไว้ด้วยกัน ทั้งโหรอาวุโสที่นุ่มลึกและคมคาย โหรแนวดุดัน ทุบโต๊ะฟันธงเปรี้ยงปร้างแบบท้าทายให้พิสูจน์ และยังเพิ่มดาวรุ่งของวงการ เข้ามาสร้างความใหม่สดตลอดเวลา

    ปีนี้ สำนักพิมพ์มติชน จะเปิดตัวหนังสือ "ศาสตร์แห่งโหร 2556" ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 17 วันที่ 18-28 ตุลาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

    "ศาสตร์แห่งโหร 2556" อัดแน่นด้วยคำทำนายจาก 11 โหรชั้นนำของเมืองไทย ประกอบด้วย หมอทรัพย์ สวนพลู, ศ. ดุสิต, โสรัจจะ นวลอยู่, พัฒนา พัฒนศิริ, กรหริศ บัวสรวง, ฟองสนาน จามรจันทร์, บุษรินทร์ ปัทมาคม, ลักษณ์ เรขานิเทศ, ขุนทอง อสุนี ณ อยุธยา, มาโนช ประภาษานนท์ และอาทิตย์ วรันธรกุล

    ลองมาชมหนังตัวอย่างกันพอหอมปากหอมคอก่อน

    โสรัจจะ นวลอยู่ เจ้าของฉายา "นอสตราดามุสเมืองไทย" พยากรณ์ไว้ว่า ปี 2556 เป็นปีมหาวิปโยค เมื่อดาวบาปเคราะห์ทั้งราหูและพระเสาร์ ร่วมผนึกกำลังเล็งลัคนาราศีเมษ ดวงกรุงสยามเช่นนี้ ทำให้เห็นชัดว่าถึงคราวชะตาเมืองกำลังตกต่ำ การแตกแยกโกรธแค้นชิงชังของผู้คน มีเหตุอาเภทต่างๆ เกิดการจลาจล

    บุคคลในเครื่องแบบแตกแยกเป็นสองฝ่าย เกิดสงครามกลางเมือง เกิดจลาจลในกรุงเทพฯ ทุกหมู่เหล่าแตกแยก ออกมาถือปืนยิงต่อสู้กันทั่วทุกแถบในกรุงเทพฯ มีการขว้างระเบิดสนั่นเมือง จะก่อความ ยุ่งยากทีละน้อย และค่อยๆ รุนแรงขึ้นจนระงับไม่อยู่ ผู้มีอำนาจหรือคนสำคัญบางคนจักหมดอำนาจวาสนา หรือต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ

    "ข้อสังเกตเหตุการณ์รบกันที่กรุงเทพฯ เมื่อดาวอังคารแห่งสงครามโคจรเข้าทับลัคนาแห่งดวงเมืองประเทศไทย จึงรบกันระหว่างผู้มีอำนาจกับประชาชนครั้งใหญ่ที่สุด อาจต้องใช้กำลังและตำรวจเข้าแก้ปัญหา เป็นหนทางไปสู่การ ′ปฏิวัติประชาชน′ .."

    "ต้องรบราฆ่าฟันกันในหมู่ประชาชนคนหลากสี กลายเป็นหลายฝ่ายเป็นสงครามกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก บุคคลสำคัญและมีชื่อเสียงของประเทศจะถึงแก่กรรมจากการลอบทำร้าย ผู้คนระส่ำระสาย เหตุการณ์รุนแรงมหากลียุคนี้จะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน"

    และเป็นอีกปี ที่โสรัจจะได้กล่าวถึง "หิมะ" ที่จะตกในประเทศไทย โดยพยากรณ์อีกว่า ปลายปี 2556 จะเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าแปลกมหัศจรรย์ จะเกิด′หิมะตก′ในเมืองไทยไปทั่วภาคเหนือและอีสานบางส่วน

    ประชาชนทั้งคนไทยและทั่วโลกตื่นตกใจ เพราะไม่เคยเห็นปรากฏการณ์เช่นนี้มาก่อน แต่จริงๆ แล้วในทางโหราศาสตร์ไทยถือว่าเป็นลางร้ายที่จะเกิดมหันตภัยตามมาไม่หยุดหย่อน ทั้งทางธรรมชาติ บุคคล การเมือง การปกครอง วัฒนธรรมประเพณี ความเป็นอยู่แบบไทยๆ เราก็จะเปลี่ยนแปลงไป

    โหรดังอีกคน พัฒนา พัฒนศิริ ผู้เชี่ยวชาญการวางฤกษ์ พยากรณ์ว่า ดาวอังคารอยู่ตำแหน่งอุจจ์ที่ราศีมังกร ส่งกำลังจตุโกณ เข้าหาดาวเสาร์กับยังมีดาวอาทิตย์อีกดวงหนึ่ง จะเป็นดาวเคราะห์ที่จุดชนวนทำให้เกิดเรื่องขึ้น

    จากปฏิทินการโคจรของดวงดาว ปรากฏชัดเจนว่าในปี 2556 ดาวอังคารบาปเคราะห์ สีแดงหมายเลข 3 โคจรอยู่ในตำแหน่งราศีที่น่าสะพรึงกลัว จะเป็น 11 วันอันตราย ดาวเสาร์ย้ายเข้าราศีตุลตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน 2555 ดาวราหูเข้าร่วมขบวนการกับดาวเสาร์ที่ราศีเดียวกันตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม

    ลักษณะโคจรในรูปนี้ทางโหราศาสตร์เรียกว่า "จตุโกณ" หรือเป็นมุมฉาก สามารถบ่อนทำลายล้างกันอย่างรุนแรง โดยเฉพาะช่วงดาวอาทิตย์ย้ายเข้าราศีมังกร ระหว่างวันที่ 14 มกราคมถึง 12 กุมภาพันธ์ 2556 โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุเภทภัย เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง

    พัฒนายังชี้ว่า ดาวเสาร์กับดาวราหูช่วยกันเล็งลัคนาดวงเมือง มีอิทธิพลทำให้สภาพของดวงเมืองเป็น "ดวงแตก" อาจจะมีการโยกย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่อื่น อันสืบเนื่องมาจากกรณีน้ำท่วมใหญ่ ผู้คนรถรามีมากมายจนเกิดการเบียดเสียดยัดเยียด

    ถ้าชอบสวดมนต์ภาวนา ช่วงนี้จะสวดให้มากขึ้น แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ต่างๆ ด้วย กิจกรรมใดที่ตั้งอยู่บนความเสี่ยงควรงดโดยเด็ดขาด ในช่วง 10 ธันวาคม 2555 ดาวราหูบาปเคราะห์หมายเลข 8 ย้ายมาโคจรที่ราศีตุล เล็งลัคนาดวงเมือง และจะอยู่ต่อไปจนถึงวันที่ 29 มิถุนายน 2557

    ขณะที่ กรหริศ บัวสรวง ผู้เชี่ยวชาญการตั้งชื่อและพยากรณ์ดวงชะตาบ้านเมือง เป็นเจ้าของเครดิตจากการ เป็นโหรคนแรกที่ทำนายล่วงหน้ากว่า 3 ปีว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะต้องลี้ภัย พยากรณ์ดวงเมืองว่า ดาวเสาร์เล็งดวงเมืองดวงโลก ในวันที่ 23 ธันวาคม 2555 จนถึงวันที่ 12 กรกฎาคม 2557

    มีทั้งคุณและโทษที่รุนแรงต่อทั้งรัฐบาลและประชาชน จนเกิดภัยได้ เกิดทุพภิกขภัย ข้าวยากหมากแพงและอดอาหาร เกิดสัตถภัย การอาฆาตพยาบาทจองเวร จองล้าง จองผลาญ ฆ่าฟันกัน ไม่หยุดหย่อนบาดเจ็บล้มตายรุนแรงไม่มีวันเลิกรา กรหริศ พยากรณ์ต่ออีกว่า ก่อนจะถึงปี 2556 เป็นทรยุคที่แปลว่ายุคชั่ว จะเกิดทรราช ผู้ปกครองประเทศใช้อำนาจตามอำเภอใจ

    นี่คือบางส่วนของคำพยากรณ์จากหนังสือรวมคำพยากรณ์ยอดนิยม ที่ออกต่อเนื่องมาจนเป็นที่ยอมรับของผู้สนใจในศาสตร์นี้ นอกเหนือจากคำพยากรณ์ ที่สำคัญไม่แพ้กันคือ นัยยะของการ "เตือน" อันเป็นอีกหนึ่งสาระสำคัญของ "ศาสตร์แห่งโหร"เพื่อการก้าวไปในปี 2556 และปีต่อๆ ไป อย่างไม่ประมาทและมั่นใจ

    หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ.2555

    ที่มา มาแล้ว ! "ศาสตร์แห่งโหร 2556" มอง"ไทย"ด้วย"ตาทิพย์" : มติชนออนไลน์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1306683836.jpg
      1306683836.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.4 KB
      เปิดดู:
      201
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เหตุการณ์ที่สุนทรภู่ ได้กล่าวเตือนเอาไว้นี้ อาจจะเกิดขึ้นจริงในปี 2556 นี้ก็ได้เพราะตรงกับที่พระอาจารย์รัตน์ และผู้รู้อีกหลายๆท่าน ได้ทำนายเอาไว้ครับ
     
  11. ชัยธนันท์

    ชัยธนันท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    859
    ค่าพลัง:
    +1,488
    เห็นการสู้รบในซีเรีย คนหนีตายกันออกนอกประเทศกันวุ่นวายไปหมด สุดท้ายไม่เหลืออะไรเลย ขอให้คนไทยรักสามัคคีกันให้มากๆ ขอให้เชื่อในกฎแห่งกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เตือนภัยพายุถล่มกรุงเทพฯ ในปี พ.ศ.2555-2556 !!!

    [​IMG]

    ขณะนี้ท่านจะสังเกตได้ว่า โลกของเรากำลังเกิดอาการวิกฤติอยู่ 2 ประการ คือ

    1.วิกฤติด้านจิตสำนึกของมนุษย์ โดยส่วนใหญ่จะใช้อารมณ์ด้านลบ ขับเคลื่อนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตมากยิ่งขึ้น และบกพร่องในการใช้สติปัญญามากขึ้นเช่นกัน ดังจะเห็นได้จากความขัดแย้ง การทะเลาะเบาะแว้ง และการประพฤติผิดศีลธรรมของผู้คนในสังคมมีมากขึ้นและกระจายทั่ว เริ่มจากครอบครัวไปสู่ระดับประเทศและระดับโลก เหตุเพราะมนุษย์โลกฝักใฝ่ในธรรมน้อยลง แต่ใส่ใจใฝ่หาวัตถุเท็คโนโลยีและโภคทรัพย์ทั้งปวงกันมากขึ้น ก็ด้วยอำนาจฤทธิ์ของกิเลสตัณหาเป็นตัวขับเคลื่อนนั่นเอง มนุษย์จึงใฝ่หาความรวยมากกว่าความรัก.... ใฝ่หาความสุขมากกว่าความสงบ....

    2.วิกฤติด้านดิน-น้ำ-ลม-ไฟ ท่านทั้งหลายจะได้ฟังข่าวสารด้านภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในทุกภาคพื้นทวีปทั้งแผ่นดินไหว แผ่นดินยุบ-แยก แผ่นดินถล่ม อุทกภัย ไซโคลน-ทอร์นาโด และภูเขาไฟระเบิด เป็นต้น สิ่งที่ท่านจะต้องสังเกตก็คือ ภัยพิบัติเหล่านี้มันจะเกิดขึ้นไปทั่วทุกที่ ไม่ว่าสถานที่แห่งนั้นมันจะเคยเกิดขึ้นมาแล้ว หรือไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยก็ตาม นอกจากนั้นภัยพิบัติเหล่านี้มันมักจะเกิดถี่ขึ้นและรุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆตลอดมา...และจะเป็นเช่นนี้อีกทั้งในปีนี้และปีต่อๆไปด้วย ที่สำคัญคือ โปรดระวัง!!! เหตุร้ายมันจะเกิดคืบคลานเข้ามาใกล้ตัวของท่านเรื่อยๆอย่างไม่รู้ตัว

    โดยเฉพาะในปี ค.ศ.2012 อันเป็นปีที่ภาพยนตร์ฝรั่งที่เข้ามาฉายในเมืองไทย ได้สร้างกระแส "โลกแตกฟีเวอร์" เอาไว้เมื่อปีที่ผ่านมา จนทำให้ผู้คนคิดไปว่า โลกจะแตกในปี ค.ศ.2012 ทั้งๆที่มันเป็นแค่เพียงภาพยนตร์ อันเกิดจากจินตนาการของผู้สร้างให้เป็นกระแสเท่านั้นเอง เรา "ในนามของจิตจักรวาล" ขอยืนยันว่า ไม่ว่าจะปีไหนๆดาวเคราะห์โลกดวงนี้จะไม่มีคำว่า"แตก"แน่นอน หากจะมีก็คือ มนุษย์นี่แหละที่จะ สติแตก! หากไม่มีการเตรียมตนเองและจิตวิญญาณของตนเพื่อการผจญภัยไว้เสียแต่บัดนี้....

    เตรียมอย่างไร...โอกาสต่อไปโปรดติดตาม.... ซึ่งในปี ค.ศ.2012 (พ.ศ.2555) เป็นต้นไป สิ่งที่ท่านจะต้องระวังไว้เกี่ยวกับภัยพิบัติ ที่อาจเกิดขึ้นใกล้ตัวของท่าน คือ ข่าวสาร (มิใช่คำพยากรณ์) ต่อไปนี้

    สถานที่จะเกิด:

    1.กรุงเทพมหานครด้านตะวันออก
    2.สมุทรปราการ ด้านก้นอ่าวไทย
    3.ปากแม่น้ำเจ้าพระยา สะพานแขวน และธนบุรีริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
    4.มีนบุรีบางส่วน

    ชนิดของภัยพิบัติที่จะเกิด:

    1.พายุหมุนพัดถล่ม 1-3 ลูก ภายในวันเดียว
    2.อุทกภัยที่หนักสุดในรอบ 50 ปี

    ความเสียหายที่คาดหมาย:

    1.ตึกสูงใหญ่ถล่ม บ้านปลิว ป้ายขนาดใหญ่พัง เสาไฟฟ้าล้ม
    2.สะพานแขวนบางแห่งจะขาด หรือสะพานลอยฟ้าจะหักพังลงมา
    3.น้ำท่วมกรุงเทพฯและชานเมือง อ่าวไทยน้ำทะเลหนุนสูง
    4.ตึกบางแห่งจะถูกฟ้าผ่าจนพัง และบางแห่งไฟไหม้
    5.มีผู้เสียชีวิตและทรัพย์สินจำนวนไม่น้อย บ้างก็ไร้ที่อยู่อาศัย
    6.ไฟฟ้าดับทั่วกรุง

    ช่วงเวลาที่คาดหมายว่าจะเกิดภัยนี้:

    1. ระหว่างเดือน เมษายน - มิถุนายน 2012 (เวลาอาจถูกเลื่อนมาเกิดปี 2013)
    2. เริ่มเกิดเหตุตั้งแต่ ตี 2- ตี 4 โดยจะเริ่มรุนแรงประมาณ 6-9 โมงเช้า และให้ระวังตั้งแต่บ่ายโมงจนพลบค่ำ

    หมายเหตุ:

    เหตุการณ์นี้อาจเบาลง เลื่อนกำหนด หรือไม่เกิดขึ้น หากท่านทั้งหลายหันมาใส่ใจปฏิบัติตนในชีวิตประจำวัน ตามคำแนะนำของ "จิตจักรวาล" กันให้มากๆตั้งแต่บัดนี้ ทุกท่านก็ทำได้....ไม่ยากเลย... คือ

    1. รักให้ได้ (แม้เขาจะไม่น่ารักเลยก็ตาม)
    2. ให้ให้เป็น (แบ่งปัน-เสียสละ-ให้ทาน-ให้อภัยแม้กับคนที่ไม่สมควรจะให้อภัย)
    3. ไม่ก้าวล่วงผู้อื่น (ทั้งกาย-วาจา-ใจ)
    4. ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต (ไม่ตกเป็นทาสทางอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น)

    ถ่ายทอดคลื่นความคิดเป็นข่าวสารจากจิตจักรวาลโดย อาจารย์ปริญญา ตันสกุล : วันที่ 1 สิงหาคม 2553

    ที่มา Ntuj Txoj Kev Cawm Dim thiab Cawm Siav - Nrhiav phooj ywg , kwv tij neej tsa - HMONGzones.com : The biggest Hmong community online.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    แด่ผู้เจริญธรรม !!!

    [​IMG]

    สาสน์จากแม่พระธรณีถึงลูกชาวดิน

    ลูกเอ๋ย วันนี้แม่มาเพื่อเผยแพร่ธรรมให้พวกเจ้า สิ่งเหล่านี้ แม่อยากจะบอกกล่าวถึงลูกชาวดินทุกคน แม่อยากให้เจ้าทุกคนนึกถึงความโลภ แม่อยากให้เจ้ามองฟ้า ก้มดูดิน มองฟ้าที่กำลังพิโรธ ฟ้ากำลังเปลี่ยนสี

    ฟ้าที่เคยสดใสจะกลายเป็นฟ้าที่หมองหม่น ฟ้ายามเย็นจะกลายเป็นสีเลือด ฟ้ายามเช้าจะเปลี่ยนสี น้ำที่เจ้าขังไว้จะเปลี่ยนเป็นสีข้นขุ่น นั่นแสดงถึงความพิโรธของแม่พระธรณี เสียงพ่อภูผากำลังจะแยกจากกัน เพื่อให้เจ้าเห็นผืนแผ่นดินใหม่ในพิภพที่จะรับร่างมนุษย์ทั้งหลายที่กำลังมีบาปของความโลภ ให้จมลงไป จมลงไป...

    ฟังแม่นะเจ้าชาวดิน จากนี้ไป เมื่อสิ้นเสียงของแม่ ท้องฟ้าจะปั่นป่วน แม่คงคาจะกลืนชีวิตคนแล้วคนเล่า จากที่เจ้าเคยเห็นความทับถมของซากศพ มันจะกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้เจ้าเห็น ท้องฟ้าจะกลายเป็นสีเลือดแดงฉาน เมื่อมนุษย์ใช้อำนาจเข่นฆ่ากัน เพราะต้องการแย่งชิงอำนาจ ต้องการลาภยศสรรเสริญ และต้องการทรัพย์ศฤงคาร

    จากนี้ไปลูกเอ๋ย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เหล่าบรรดาลูกๆ นับถือมา เรียกร้องไว้ จะถูกทำลายจากเจ้าพวกโจร โจรที่ต้องการผลประโยชน์จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การตัดเศียรพระพุทธรูป การเข่นฆ่าผู้ถือศีล การค้าในวัด การที่ทำอะไรก็แล้วแต่ เพื่อได้มาด้วยความฉ้อฉล ด้วยความหลอกลวง แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นสิ่งบอกเหตุว่าพวกโจรจะกลัวกรรม แต่พวกโจรจะมองเห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นทรัพย์ศฤงคาร โดยไม่นึกถึงเคราะห์กรรมต่างๆ แต่เหล่าโจรจะนึกถึงความมั่งมี ความต้องการจะเสวยความสุข ลาภยศที่ต้องได้มาจากเงินทอง โจรจะเลิกกลัวกรรม โจรจะไม่กลัวบาป แต่เหล่าโจรจะกลัวอย่างเดียว กลัวการไม่มีหน้ามีตาในสังคม กลัวการไม่มีทรัพย์ศฤงคารจับจ่าย

    แม่อยากจะถามลูกชาวดินทั้งหลาย เจ้าจะปล่อยให้สังคมนี้เป็นอย่างนี้เชียวหรือ แม่วอนขอให้ลูกชาวดินทั้งหลาย อย่าเห็นแก่ความโลภ อย่าเห็นแก่ตัว อย่าผลักไสผู้ที่มาอาศัยธรรมะ อย่าเห็นแก่ทรัพย์ศฤงคารเป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิต จงเห็นธรรมเป็นสิ่งที่จะช่วยให้เจ้าอยู่รอดในยามวิกฤต และผ่านพ้นสิ่งที่เป็นอันตรายต่อเจ้า ณ ชีวิตวันนี้ด้วย

    แม่อยากจะบอกเจ้านะลูกชาวดินเอ๋ย เมื่อเจ้าหิว เจ้าจงกินเข้าไปเพื่อร่างกายที่แข็งแรง เมื่อเจ้าอยากได้ความสุข เจ้าจงแสวงหาความสุขที่ไม่อยู่บนความทุกข์ของผู้ใด เมื่อเจ้าโหยหาธรรมะ เจ้าจงแสวงหาสิ่งที่เป็นสัจธรรมโดยแท้จริง สิ่งที่เป็นสัจธรรมไม่ได้อยู่ไกลเกินเอื้อมนะลูกนะ มันอยู่ข้างกายเจ้า มันอยู่ในใจเจ้า มันอยู่ในความคิดเจ้า เจ้าจงเรียกหาออกมาเมื่อเจ้าต้องการ ความโลภ ความโกรธ ความหลง เมื่อเจ้าตัดสามสิ่งนี้ออกจากใจเจ้า เจ้าจะพบสัจธรรมที่แท้จริง

    เมื่อเจ้าลืมตาขึ้นมาเห็นแสงอาทิตย์ เจ้าคิดจะทำอะไรเล่าลูกเอ๋ย เมื่อเจ้าลืมตาขึ้นมาในเส้นทางของมนุษย์ สิ่งหนึ่งที่มนุษย์ทั้งหลายคิดเช่นเดียวกัน ความคิดที่จะโกงเขาใช่ไหม ความคิดที่จะเอาเปรียบเขาใช่ไหม ความคิดที่เจ้าจะทำร้ายคนอื่นใช่ไหม เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วลูกเอ๋ย แม่อยากให้เจ้ายอมรับ นี่คือกรรมที่ยิ่งใหญ่ กรรมชั่วที่จะติดตามเจ้ามา เมื่อชีวิตเจ้าถูกเปิดขึ้นในแต่ละวัน

    แต่กรรมดี ใยเจ้าไม่คิดจะทำ เมื่อเจ้าทำกรรมดี กรรมนั้นก็สามารถที่จะดับพิโรธของแม่ฟ้า ดับพิโรธของแม่พระธรณี ดับพิโรธของพ่อภูผา ดับความกริ้วโกรธของแม่คงคา ต่อจากปีนี้ไป มนุษย์ เจ้าจงฟังแม่พูดไว้ มนุษย์ผู้มีอำนาจ มนุษย์ผู้มีเงินตรา จะหมดไปจากสังคมโลกของเจ้า ทุกคนจะต้องตายด้วยความโลภ จะต้องตายด้วยการเข่นฆ่ากัน การแสวงหาอำนาจจะนำมาซึ่งความสูญเสีย

    จำไว้นะลูกชาวดิน เหมืองทองทั้งหลายที่แม่เคยให้สัจจะเจ้าไว้ จะไม่ถูกเปิดเลยแม้แต่แห่งเดียว เพราะความโลภกำลังครอบงำลูกชาวดินของแม่ สมบัติแม่พระธรณีจะไม่ให้แก่ผู้ใดทั้งสิ้น ตราบใดที่มนุษย์ยังไม่ยอมก้มหัวให้กันและกัน ยังไม่ยอมละทิ้งความโลภ ยังไม่กล่าวคำว่าขอโทษซึ่งกันและกัน พ่อภูผาจะเกิดขึ้นมาเพื่อพิพากษาเจ้า แม่คงคาจะม้วนตัวกลับ กลืนชีวิตของพวกเจ้าไป และ ณ บัดนี้ แม่พระธรณีจะแยกร่างเพื่อรับร่างเจ้าให้หายลงไป เพื่อที่จะกลบร่างเจ้าให้หมดไปจากโลกนี้ ให้ฝังความโลภ ความเย่อหยิ่ง ความจองหอง เหลือเพียงความร่ำไห้ ความร้องหาจากกัน

    จากนี้ไป ศตวรรษจะถูกเปลี่ยน ลูกจะต้องเผาแม่ก่อน แม่จะลืมลูก มนุษย์จะฆ่ากันไม่เว้นพี่น้อง แม่ผู้ให้กำเนิดบุตร จะฆ่าเลือดเนื้อตัวเอง ทุกสิ่งทุกอย่างตัดสินด้วยเลือด จำไว้นะลูกชาวดิน จากนี้ไป แม่พระธรณีจะมาพิพากษาเจ้า ทั้งเจ้าที่มีชีวิตอยู่บนโลก และเจ้าที่ชีวิตตายไปจากผืนโลกนี้แล้ว สักวันหนึ่ง แม่จะกลับมาพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย เพื่อให้ร่างที่แม่บอก “เจ้าจงฝังร่างไว้” กลับเป็นขึ้นมารับคำพิพากษาจากแม่ นี่คือสิ่งที่เป็นสัจธรรม นะลูกนะ

    และจากนี้ไป พ่อบนฟ้าจะไม่ประทานน้ำให้เจ้า ชีวิตมนุษย์จะเหี่ยวแห้งจากการขาดน้ำ สัตว์ที่มีชีวิตจะยืนตาย เพราะการไม่มีน้ำดำรงชีพ พืชผักทุกอย่างจะต้องยืนตายเหี่ยวเฉา เพราะพ่อบนฟ้าเจ้าจะเกิดการพิโรธมนุษย์เป็นการใหญ่ เพราะฝีมือมนุษย์ที่สร้างขึ้นเอง จำไว้นะลูกชาวดิน จากนี้ไป เพราะความแห้งแล้ง แม่จะแตกแยกจากพื้นแผ่นดิน เจ้าจะเห็นรอยแยกจากแผ่นดิน นั่นคือสิ่งเตือนภัยว่ามนุษย์กำลังจะอดตาย จากการที่แม่แยกร่างออกจากกัน

    จำไว้นะลูกนะ สัจธรรมของแม่ต้องใช้ความคิดรอบคอบไตร่ตรอง สัจธรรมของแม่คือสมาธิที่เจ้าต้องทำ แล้วเจ้าจะได้สัจธรรมที่แท้จริง สัจธรรมของแม่คือสิ่งที่บอกเจ้าว่า จากนี้ไป มนุษย์ต้องแหงนหน้าขึ้นมองฟ้า และก้มลงกราบดิน มนุษย์ ถึงจะมีชีวิตรอดได้ในยุคนี้นะลูกนะ

    สาส์นจากแม่พระธรณีถึงผู้มีอำนาจ

    ถึงผู้มีอำนาจ...เมื่อเจ้านั่งอยู่ในเก้าอี้ผู้ได้รับการแต่งตั้ง ผู้ได้รับการยกย่อง พวกเจ้าก็คือผู้ที่ได้รับการยอมรับจากสังคมมนุษย์ เมื่อใดก็ตามมนุษย์ถูกยกย่องให้เป็นผู้นำ เมื่อนั้นเจ้าจะนึกถึงอำนาจ อำนาจคือกิเลสที่หนา อำนาจคือสิ่งที่ทำให้หนทางสว่างขึ้น อำนาจคือสิ่งที่ทำให้พวกเจ้าได้รับทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เจ้ารู้มั้ย เมื่อเจ้าอยู่ในอำนาจที่ผิดๆ อำนาจนั้นมันจะนำความฉิบหายมาสู่เกียรติยศ ครอบครัว ความมีหน้ามีตาในสังคม

    เราอยากจะบอกเจ้าว่า อำนาจที่แท้จริงที่เจ้าควรแสวงหานั้น คืออำนาจที่อยู่เหนือจิตใจมนุษย์ อำนาจที่อยู่ในศีลในธรรม อำนาจที่ไม่โลภ มนุษย์ยังต้องการความโลภ แต่ความโลภนั้นสามารถจำกัดได้ด้วยความเพียงพอ คำว่าเพียงพอนั้นทำให้มนุษย์อยู่เย็นเป็นสุข มนุษย์ไม่แย่งชิงกัน มนุษย์ไม่ฆ่ากัน มนุษย์มีความเพียงพอทุกอย่างด้วยสิ่งเดียวเท่านั้น นั่นคือธรรมะในใจ แต่ปัจจุบัน กลับเป็นโลกแห่งการแย่งชิง โลกแห่งการฆ่าเข่น โลกแห่งการช่วงชิงอำนาจ

    จากนี้ไป จำคำเราไว้นะลูกทั้งหลาย น้ำแข็งจะกลายเป็นน้ำ น้ำจะกลายเป็นเลือด สิ่งที่อยู่ธรณีจะแยกจากกัน นำชีวิตมนุษย์ลงสู่ใต้ธรณี แม่คงคาจะม้วนตัวกลับขึ้นมาเพื่อพิพากษาความโลภของมนุษย์ พ่อภูผาจะแยกจากกัน เพื่อทำให้มนุษย์ที่อยากจะมีอำนาจ ที่อยากจะสะสมความโลภถูกกลืนหายไป จากนั้น แม่พระธรณีจะยิ่งใหญ่ขึ้นมา ปิดร่างมนุษย์ทุกคนที่ยังมีความโลภ

    หยุดเถอะลูกเอ๋ย หยุดนะเจ้าทั้งหลาย หยุดความโลภ ความเย่อหยิ่งจองหอง ความอวดตัว จงอ่อนน้อมถ่อมตน จงลดตัวลงเพื่อให้เสมอเพียงดิน จากนั้นสิ่งที่เจ้าเพียงพอ ฟ้าจะเห็น ดินจะยอมรับ สิบหกชั้นฟ้า สิบห้าชั้นดิน จะแซ่ซ้องสรรเสริญผู้มีอำนาจที่รู้จักใช้อำนาจในทางที่ถูก ธรรมะย่อมอยู่เหนืออธรรม เป็นสัจธรรมที่แท้จริง ไม่มีมนุษย์ผู้ใดจะละคำนี้ไปได้

    จำไว้นะลูกทั้งหลายที่มีอำนาจ อย่าเอาอำนาจของเจ้าไปใช้ในทางฆ่ามนุษย์ เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ ผู้มนุษย์ที่เจริญแล้ว จงทำสิ่งที่เราจะให้บัดนี้ จงเพียงพอในลาภยศ จงเพียงพอในสิ่งที่มนุษย์สรรเสริญ จงเพียงพอในฐานะทรัพย์ศฤงคาร แล้วเจ้าจะมีสุขนะลูกนะ

    สาส์นจากแม่พระธรณีถึงสมณะชีพราหมณ์

    แด่ผู้เจริญธรรม คำนี้เป็นคำที่เราจะส่งสาส์นถึงเจ้า ให้เจ้าได้รับรู้ถึงมนุษย์ที่แท้จริง ณ วันนี้ โลกมนุษย์เต็มไปด้วยสิ่งสรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่มีความเห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัว ในยุคแห่งมนุษย์กินมนุษย์ สัตว์กินสัตว์ พืชกินพืช แต่ใยเล่าเจ้าผู้เจริญในธรรมถึงมิได้แบ่งปันทานบารมีให้กับเหล่ามนุษย์ ผู้โหยหาสิ่งที่เรียกว่าธรรมะด้วยความถ่องแท้ ธรรมะแห่งใจ ขึ้นอยู่กับผู้ให้

    จิตใจผู้เจริญธรรมทั้งหลายย่อมต้องเสียสละ ย่อมต้องรู้จักการให้ เมื่อเจ้าให้ทานบารมีโดยไม่คิดตอบแทน สิ่งที่เจ้าจะได้รับ การยอมรับจากเทพ การยอมรับจากฟ้า การยอมรับจากดิน นั่นคือสิ่งที่เจ้าจะได้รับ เมื่อเจ้าเปิดใจรับธรรมะที่แท้จริง

    ธรรมะที่แท้จริง ไม่ใช่อยู่ที่คนกราบคนไหว้ ธรรมะที่แท้จริง อยู่ตรงที่ความศรัทธา ความเชื่อมั่น การให้อภัย การช่วยเหลือ นั่นคือ ธรรมะที่พระพุทธองค์ทรงให้ตั้งแต่บรรพกาล เราคิดว่าเจ้าผู้เจริญในธรรม คงไม่ลบคำพระพุทธองค์ พระพุทธองค์ตรัสว่า มนุษย์ผู้ที่เจริญธรรมด้วยใจ ย่อมเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ แต่ถ้าเจ้าเป็นผู้เจริญธรรมในเรื่องของสิ่งที่ต้องการแสวงหาอำนาจ แสวงหาการยอมรับนับถือ เจ้าจะได้รับแค่คำกราบไหว้ เจ้าจะมีใจหม่นหมองยึดต่อทรัพย์สินสมบัติ นั่นคือหนทางพาไปสู่ความฉิบหายของธรรมะ

    สมเด็จแม่พระธรณีคือผู้ให้ธรรมะ สิ่งหนึ่งเราจะฝากเจ้าไว้ ฟ้าลิขิตดิน ดินให้ชีวิตมนุษย์ ตราบใดที่มนุษย์ลบหลู่ดิน ตราบนั้นมนุษย์จะถูกฝังใต้ธรณี

    แด่ผู้เจริญธรรม

    ที่มา Ntuj Txoj Kev Cawm Dim thiab Cawm Siav - Nrhiav phooj ywg , kwv tij neej tsa - HMONGzones.com : The biggest Hmong community online.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 96.jpg
      96.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.8 KB
      เปิดดู:
      196
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012
  14. วิญญ์ ชวาทิต

    วิญญ์ ชวาทิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +490
    ลางสังหรณ์ กับ ญาณหยั่งรู้อนาคต ตอบโดยคุณ ดังตฤณ

    Uploaded by pongpetch on Sep 30, 2009

    คุณดังตฤณ ตอบคำถามในการบรรยายธรรมที่ สำนักงานศาลปกครอง เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2552

    <iframe width="640" height="480" src="http://www.youtube-nocookie.com/embed/-pQzsEXP8cA" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  15. พลอยรุ้ง

    พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,088
     
  16. พลอยรุ้ง

    พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,088
    ต่ออีกหน่อยนะคะ ขอออกตัวว่า ไม่ได้โกรธหรือหงุดหงิดหรอกนะคะ:d เพราะที่คุณพูดมามันเป็นเรื่องจริง ถือว่าเป็นการติเพื่อก่อ ดิฉันเองก็อยากให้วงการธรณีวิทยาในประเทศไทยก้าวหน้าไปมากกว่านี้เหมือนกัน แต่บางเรื่องที่เขาก้าวหน้า เราก็อาจมองไม่เห็นนะคะ เพราะมันไม่ได้เผยแพร่ต่อสาธารณชน แต่ว่าเรื่องอุตุเนี่ย เกี่ยวกับชาวบ้านอย่างเราๆโดยตรงเลย :cool:
    สำหรับการ present เกี่ยวงานธรณี มันก็ดูน่าเบื่อจริงๆ สมัยที่เรียนเวลาสัปดาห์วิทยาศาสตร์ที่ต้อง present งาน ให้เด็กๆมาดู ยังไม่รู้จะเลือกเรื่องอะไรมาทำให้เด็กสนใจ ดีหน่อยที่ช่วงนั้น Jurassic Park กำลังดัง ก็เลยได้อาศัยเกาะกระแสไดโนเสาร์ งานด้านธรณีที่น่าสนใจจะอยู่ที่ภาคสนามมากกว่า คือการไปออก field เก็บตัวอย่างหิน เพื่อหาแหล่งแร่ หรือเกี่ยวกับด้านสิ่งแวดล้อม หรือค้นหาซากฟอสซิล หลังจากกลับมาวิเคราะห์แล้ว งานค่อนข้างน่าเบื่อ ก็เหมือนสายวิทย์ทั้งหลาย ที่ต้องมาอ่านหนังสือ ส่องกล้อง ทำแผนที่ วิเคราะห์(บ้าง) ก็ค่อนข้างน่าเบื่อค่ะ ไม่ค่อยมีเครื่องมืออะไรหลากหลายเท่าไหร่ เครื่องมือที่จะต้องเอามาโชว์ก็ไม่มี เพราะเครื่องมือบางอย่างก็ specificial มากๆ (ขอโทษด้วยนะคะ ตกอังกฤษค่ะ) เอาเป็นว่าพิเศษมากๆ ที่คณะไม่มีหรอกค่ะ เวลาเรียนบางที เราก็ไปขอดูตามบริษัทเอกชน หรือที่การไฟฟ้าค่ะ
    เรื่องภัยพิบัติ ก็ค่อนข้างเกี่ยวข้องกับสาขาธรณีมากกว่าสาขาอื่นนะคะ ธรณี พื้นดิน พื้นผิวโลกก็คือ อย่างเดียวกัน ปรากฎการณ์อะไร ที่เกี่ยวกับโลก เกิดขึ้นเพราะโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากสาเหตุจากภายในโลกเองหรืออื่นๆ กับจักรวาลก็เกี่ยว เพราะมีความสัมพันธ์ แต่ก็ต้องไปเรียนเพิ่มเติมนะคะ เพราะเป็นเรื่องที่กว้างมากๆ จะว่าไปการเรียนธรณี ก็คล้ายกับการเรียนแพทย์ คือต้องอาศัยการวินิจฉัย การคาดเดา ตามทฤษฎีที่เรียนมา ซึ่งก็อาจจะผิดหรือถูกก็ได้ เพราะไม่ได้เห็นของจริง ยกตัวอย่างเช่นการหาแร่ เราก็ต้องไปเก็บตัวอย่างหินก่อน นำไปวิเคราะห์ ถ้าพบแร่ที่ต้องการ ก็ทำ map ทำ profile อ้อ มีการเจาะด้วย เพื่อให้ได้ข้อมูลเป็น 3 มิติ แล้วก็ทำ cross section ซึ่งก็ต้องคาดเดาจากข้อมูลว่าจะมีสินแร่ในลักษณะอย่างไร ปริมาณเท่าไหร่ เป็นการคาดเดาซึ่งต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ ตอนที่ทำงานใหม่ๆได้ทำงานกับฝรั่งท่านหนึ่ง ท่านเคยทำ cross section (ภาคตัดขวาง) ของพื้นที่ให้ดู ก็ อุ้ย คิดได้ไง เราพึ่งเรียนจบ เอาวิชามาใช้ไม่เป็นท่าเลย อิ อิ
    แต่ว่าตอนนี้เกือบลืมไปหมดแล้ว เพราะไม่ได้ทำงานมาหลายปีแล้วค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สรุปคำพยากรณ์เหตุการณ์สำคัญของโลก ปี 2551-2560 !!!

    [​IMG]

    คำพยากรณ์เหตุการณ์สำคัญของโลก ในปี 2551-2560 ของบรรดาครูบาอาจารย์ โหรสำนักต่างๆ และอาจารย์ในทางวิชาโหราศาสตร์

    1. ในปี 2560 จะมีอะไรเกิดขึ้น?

    1.1 อุกกาบาตถล่มโลก

    จากคำทำนายของครูบาอาจารย์บางท่านว่า อุกกาบาตลูกใหญ่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 1 กิโลเมตร อาจจะเข้ามาชนโลกในปี 2560 ได้ ภาพหายนะดังกล่าวยังมีอยู่ อุกกาบาตลูกนี้ เดินทางมาด้วยความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อวินาที หรือมีความเร็วเท่ากับ 360,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ฟิสิกส์คำนวณว่า น่าจะมีอำนาจทำลายล้าง เท่ากับระเบิดปรมาณูที่สหรัฐอเมริกานำไปถล่มที่เกาะฮิโรชิมา เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2488 จำนวน 80,000 ลูกรวมกัน

    ซึ่งคาดหมายว่า จะมีคนตายรวมกันครั้งเดียวไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านคน จากนั้นแรงสั่งสะเทือนเลื่อนลั่นดังกล่าว ก็จะก่อให้เกิดแผ่นดินไหวทั่วโลก รวมทั้งคลื่นยักษ์สึนามิ ก็จะมีติดตามมา อันเป็นความเชื่อว่าจะมีน้ำท่วมใหญ่ทั่วโลก อาจถึงขนาดเข้าสู่ยุคสมัยโนอาร์ใหม่ ต่างกันตรงที่มิใช่พระผู้เป็นเจ้าหลั่งน้ำตา 40 วันติดต่อกันเท่านั้น สภาพภูมิศาสตร์ของประเทศต่าง ๆ จะเปลี่ยนแปลงไป พื้นดินหลายส่วน บางส่วนจะโผล่จากพื้นใต้น้ำมาเป็นผืนแผ่นดินใหม่ มีชื่อว่า เกาะแอตแลนติส เป็นต้น

    สำหรับแนวที่จะเกิดภูเขาไฟระเบิดที่จะติดตามมา หรือบริเวณ “ริง ออฟ ไฟร์” หรือ วงแหวนแห่งไฟ ซึ่งจะเกิดตั้งแต่ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ไปถึงลอสแองเจลลิส ซานฟรานซิสโกและหลาย ๆ มลรัฐในสหรัฐอเมริกา จะเกิดการประทุอย่างรุนแรงของลาวาร้อนใต้พิภพพุ่งขึ้นมาสู่ผิวโลก สร้างหายนะครั้งใหญ่

    ผลพวงที่จะติดตามมาก็คือ ความอดอยากหิวโหย และความแร้นแค้นเป็นมหาทุพภิกภัยที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลก บรรยากาศของโลกจะเปลี่ยนแปลงไป ปรากฏการณ์ใหม่ที่เรียกว่า “เดอะ เกรท คิง ออฟ เทอร์-เรอร์” ก็จะเกิดขึ้น คือ บางแห่งที่หนาวก็จะหนาวจัด บางแห่งที่ร้อนก็จะร้อนจัด ที่เคยร้อนก็อาจกลายเป็นหนาว

    พืชพันธุ์ธัญญาหารจะถูกทำลายไปเป็นส่วนมาก การทำสงครามแย่งชิงอาหารจะเกิดขึ้น โรคระบาดร้ายแรงก็จะติดตามมา และเชื่อว่า ในประเทศไทย จะได้เห็นหิมะของจริงตก ไม่เกินปี 2560 อย่างไรก็ตามให้ฟังข่าวจากต่างประเทศให้ดี จะมีการประกาศเขตหายนะในหลายจังหวัดของประเทศไทย และในหลาย ๆ มลรัฐของสหรัฐอเมริกา และหลายพื้นที่ของโลก ซึ่งยังไม่ถึงระดับร้ายแรงของโลกเป็นระดับร้ายแรงของแต่ละชาติ เป็นเพียงการเตือนของธรรมชาติและจักรวาลเท่านั้น

    1.2 สงครามอาร์มาเกดดอน

    - สงครามอาร์มาเกดดอน เป็นเนื้อหาที่มีการจารึกอยู่ในพระคัมภีร์เก่าของพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ (โอลด์ เทสเม้นท์) โดยศาสดาพยากรณ์ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ 7 ประการ หากมีเมื่อไร ให้มนุษยชาติจงรับรู้ เถิดว่าความฉิบหายวิบัติ กำลังจะเกิดขึ้นในโลกของเราแล้ว โดยในพระคัมภีร์เก่าเรียกว่า สงครามล้างโลก

    เหตุการณ์ทั้ง 7 ประการ จะเกิดก่อนมีสงครามล้างโลกนั้น เหตุการณ์ดังกล่าวได้แก่

    1. มีการอาศัยศาสนาเป็นเครื่องหลอกลวงต้มตุ๋นประชาชนมาก
    2. มีการปฏิวัติรัฐประหารเกิดขึ้นในหลายๆ แห่งของโลก
    3. มีการเกิดสงครามระหว่างประเทศในหลายๆประเทศ
    4. เกิดสภาวะสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ
    5. มีแผ่นดินไหวหลายแห่ง
    6. มีความวิปริตผันแปรทางธรรมชาติ ดินฟ้าอากาศไม่เป็นไปตามที่เคยเป็น มีลูกเห็บขนาดใหญ่ตกลงมาจากท้องฟ้า
    7. เกิดเชื้อโรคร้ายแรงระบาด รักษาไม่หายขาด

    - ณ บริเวณละติจูด 45 องศา จะกลายเป็นทะเลเพลิง ซึ่งหลายคนเชื่อว่า หมายถึง มหานครนิวยอร์ค จะเป็นสัญญาณให้ทราบว่าก่อนการเกิดสงครามอาร์มาเกดดอน รวมทั้งประเทศอาเจนติน่า จะถูกรุกราน เพราะเป็นแหล่งผลิตอาหารใหญ่ของอเมริกาใต้ ยุโรปจะมีปัญหาวิกฤต สหรัฐจะรวมจาไมก้า คิวบา ไฮติ และเม็กซิโก เข้าเป็นมลรัฐหนึ่งของสหรัฐอเมริกา กองเรือของสหรัฐอเมริกาจะถูกทำลาย รวมทั้งพันธมิตรของสหรัฐ เช่น อิสราเอล ตุรกี จะย่อยยับ แอฟริกาจะอดอยากแร้นแค้นมากขึ้น จีนจะรุกรานเวียตนาม ญี่ปุ่นจะมีปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนัก (ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ บางเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นแล้ว แต่อีกหลายเหตุการณ์ยังไม่เกิด คาดว่าจะเกิดครบ น่าจะเกิดครบในปี 2017 หรือ ปี 2560 โปรดเก็บเอกสารนี้ ไว้ตรวจสอบ)

    1.3. แกนโลกเคลื่อนที่

    - ถ้าเราได้ข่าวว่าแกนโลกเคลื่อนที่ หรือเอียงไปจากองศาเดิม 23.5˚ เมื่อนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติอย่างสำคัญ และจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตมนุษย์ สัตว์ และพืชพันธุ์ธัญญาหาร พื้นแผ่นดินที่เราอยู่อาศัยในปัจจุบันอาจยุบตัวลงประมาณ 9 เมตร น้ำแข็งบริเวณขั้วโลกจะหลอมละลายผิดปกติ ปริมาณน้ำในทะเลและมหาสมุทรจะเพิ่มมากขึ้นจำนวนมหาศาล ส่วนใหญ่ของเกาะอังกฤษ และญี่ปุ่นจะจมอยู่ใต้น้ำ ยุโรปตอนเหนือจะถูกน้ำท่วมหนัก ชายฝั่งด้านตะวันตกของสหรัฐอเมริกาจะจมอยู่ใต้น้ำเช่นเดียวกัน แต่นอกฝั่งตะวันออกของอเมริกาเหนือ จะมีแผ่นดินใหม่ชื่อว่า แอตแลนติสโผล่ขึ้นมา และมนุษย์จะได้พบ “แคปซูลเวลา” ที่เกาะแอตแลนติส ซึ่งบรรจุเรื่องราวของประวัติศาสตร์มนุษยชาติที่แตกต่างไปจากที่เราได้เคยรับการอบรมสั่งสอนกันมา

    - การเอียงของแกนโลก จะทำให้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ มีผลทำให้ลอสแองเจลลีส ซานฟรานซิสโก และแมนฮัตตันพังทลายพร้อม ๆ กับนิวยอร์ค จะมีการระเบิดของภูเขาไฟมากมายติดตามมา เป็นยุคที่เอ็ดการ์ เคย์ซี เรียกว่า “ยุคแห่งบาดแผลอันยิ่งใหญ่” แต่จะเกิดขึ้นเมื่อไรนั้น เอ็ดการ์ เคย์ซี ไม่สามารถระบุได้ เพียงแต่เห็นในภาพนิมิตเท่านั้น แต่หลายท่านคาดว่าน่าจะเกิดในปี 2017 หรือปี พ.ศ. 2560

    - หลังจากผ่านยุคบาดแผลอันยิ่งใหญ่แล้ว ก็จะมีการกลับมาใหม่อีกครั้งของพระคริสต์ ผู้นำแสงสว่างแห่งยุคใหม่มาสู่มวลมนุษยชาติ จะเป็นยุคของการมีสันติภาพ และมีความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและจิตวิญญาณไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งคาดว่าจะเกิดราวปี 2019 (พ.ศ. 2562) นั่นก็หมายความว่า มนุษยชาติในยุคต่อไป ยังคงมีอยู่ และไม่เพียงเจริญทางด้านวัตถุเท่านั้น จิตวิญญาณก็มีพัฒนาการที่ดีด้วย

    2. ในระหว่างปี 2551-2560 จะมีอะไรเกิดขึ้น?

    2.1 นักพยากรณ์ชาวรัสเซีย ทำนายว่า แกนของโลกจะเอียงลาดไปอีก 30 องศา และเอียงอย่างปัจจุบันทันด่วน มีผลทำให้คาบสมุทรสแกนดิเนเวียทั้งหมดจมอยู่ใต้น้ำ อังกฤษและญี่ปุ่น หายไปจากแผนที่โลก โดยโลกรอดพ้นหายนะครั้งนี้ได้ เนื่องจากมีมนุษย์ต่างดาวเข้ามาให้ความช่วยเหลือ หรือแก้ไขสถานการณ์ที่เลวร้ายให้หายนะลดลง

    2.2 นักพยากรณ์ชาวโปรตุเกส ทำนายว่า ประชากรของโลกจะถูกทำลายล้างด้วยนิวเคลียร์ และหายนะจากสิ่งแวดล้อม เมืองทั้งหลายจะถูกทลายราบเป็นหน้ากลอง โลกทั้งโลกจะตกอยู่ในทะเลเพลิง

    2.3 นักพยากรณ์ชาวอินเดีย ทำนายว่า จะมีเหตุการณ์ทำลายล้างครั้งยิ่งใหญ่จะเกิดภัยธรรมชาติ และวิบัติภัยจากการกระทำของ มนุษย์ อุทกภัยที่ยิ่งใหญ่ในรอบ 5,000 ปี จะมีแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด และมีการใช้นิวเคลียร์ถล่มเมืองใหญ่ๆ เช่น โตเกียว นิวยอร์ค ซานฟรานซิสโก ลอสแองเจลลีส และบอมเบย์ จะถูกทำลาย คนในเมืองเหล่านี้ตายเกือบหมด

    2.4 นักพยากรณ์ชาวอเมริกัน ทำนายว่า แกนโลกจะเอียงจากปัจจุบัน 23.5 องศา ไปเป็น 45 องศา จะทำให้สหรัฐอเมริกาพบอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุด มีคลื่นยักษ์สึนามิ แผ่นดินไหว และพายุเฮอริเคน จะมีความปั่นป่วนทางการเมือง และทุพภิกขภัย ไปทั่วสหรัฐอเมริกา อันเป็นหายนะที่หนักที่สุดตั้งแต่มีประเทศสหรัฐอเมริกามา

    2.5 โหรชื่อดังชาวอเมริกัน ทำนายว่า แอนตี้ไครสต์จะปรากฏตัวในปี 2008 และสร้างความเดือดร้อนไปทั่วโลก เป็นเวลา 7 ปี ซึ่งเรียกเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “ห้วงแห่งทุกข์เข็ญ” ระหว่างปี 2008 – 2015 (ปี พ.ศ. 2551 – 2558)

    2.6 นักพยากรณ์เรื่องของโลก บางท่านทำนายแตกต่างออกไปว่า

    2.6.1 โลกจะพบความวิบัติอย่างวินาศสันตะโร เมื่อประชากรโลกมีครบ 6,660 ล้านคน

    2.6.2 น้ำแข็งในขั้วโลกใต้แตกตัวและละลาย มีผลทำให้แกนโลกเปลี่ยนแปลง น้ำแข็งและน้ำเย็นจำนวนล้านล้านตัน จะแผ่กระจายไปทั่วโลก แม้ดินแดนทะเลทรายที่อิยิปต์ ก็มีน้ำท่วมถึงกึ่งกลางปิรามิด ประมาณปี พ.ศ. 2551-2560

    ที่มา buddha-dhamma.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • abyss.jpg
      abyss.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.7 KB
      เปิดดู:
      1,286
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012
  18. อนุรุทธ

    อนุรุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +911
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "รักษาศีล 5"แล้วจะได้อะไรและมีผลอย่างไร ?

    [​IMG]

    ฮั้วโต๋ สมาชิก

    แก่นธรรม 3

    เมื่อผ่านในเรื่องศีล 5-ศีล 8-กรรมบถ 10.จิตจะนำทำเองในเรื่องของการ"พิจารณา" จากการพิจารณาจะถูกยกระดับเป็น "วิปัสสนา".เพราะวิปัสสนาละเอียดกว่าการพิจารณา..ในเบื้องต้น ๆ..จิตจะวิปัสสนาในเรื่องของศีลก่อนคือ

    ศีล 5. การรักษาศีล 5 ได้อะไร มีผลอย่างไร?

    .............ในศีลข้อที่ 1...............

    ..ห้ามฆ่าสัตว์ เบียดเบียนสัตว์."สัตว์ในที่นี้คือ"สัตว์โลก"ไม่ใช่เพียงสัตว์เดรัจฉานแต่เพียงอย่างเดียว.รวมถึงคนด้วย จิตวิปัสนามองเห็นว่า...
    "ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ฆ่าคน ไม่ทำร้ายสัตว์ ไม่ทำร้ายคน ไม่เบียดเบียนสัตว์ ไม่เบียดเบียนคน ในทุก ๆ วิธีและรวมถึง ไม่ฆ่าตนเอง ไม่เบียดเบียนตนเอง ไม่ทำร้ายตนเองด้วยในทุกวิธี....

    ..รักษาศีลข้อ 1.ได้อะไร...จิตของตนเองจะบอกว่า "ได้ความสุขใจ"ในเรื่อง
    เห็นตนเองมีความสุขกาย คนอื่นมีความสุขกาย สัตว์มีความสุขกาย....
    ..รักษาศีลข้อ 1.ได้เห็นผลแล้วว่าดีอย่างไร แล้วเราได้อะไรจากการรักษาศีลข้อที่ 1 ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมที่สมเด็จตรัสไว้แล้ว....

    ....ผลที่ได้รับจากการรักษาศีลข้อที่ 1.ได้บุญบารมีดังนี้.(ทางธรรม)
    ก.ได้ พรหมวิหารสี่ เมตตา-กรุณา-มุทิตา-อุเบกขา.
    ข.ได้ บารมีในทัศ เมตตาบารมี.ได้วิริยะบารมี ได้สัจจะบารมี ได้อุบกขาบารมี
    ได้ปัญญาบารมี ได้ขันติบารมี ได้ศีลบารมี.ได้ละสังโยชน์ 10 ในข้อ 2- 3 เพราะเชื่อและรักพระพุทธเจ้า จึงรักษาศีล-ไม่ลังเลสงสัยในการรักษาศีล. ในเบื้องต้น....
    ค.อานิสงฆ์ผลของการปฎิบัติ.ในศีลข้อที่ 1.ได้ผลในทางโลกดังนี้.
    ค.1.จิตมีความสุข (สวรรค์ในอก)จิตไม่ป่วยเอื้อมาที่กายเนื้อเรา โดยที่กายเนื้อ ไม่เจ็บป่วย.มีสุขภาพแข็งแรง.ผิวพรรณผ่องใส.ดูอ่อนเยาว์.มีอายุยืน.
    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

    .............ในศีลข้อที่ 2...............

    ..ไม่ลักทรัพย์ ไม่ฉ้อโกง ไม่ทุจริต ไม่เอาเปรียบ.(อทินา)(ทานาคือ ทาน) เมื่อไม่ลักแล้วยังให้ทาน. ให้ทานเพื่อหวังรวย ถูกหวย หรือให้ทานเพื่อลดความโลภในจิตตน.จิตวิปัสนามองเห็นผลเพิ่มขึ้นอีกในศีลข้อนี้คือ.
    ให้ทานเพื่อลดความโลภของตน แถมช่วยคนอื่นที่ยังลำบากให้มีชีวิตดีขึ้นในระดับนึง หรือช่วยสัตว์ที่กำลังหิวให้อิ่มอีกมื้อนึง ยืดอายุไปได้ในระดับนึง.

    ...ได้อะไรจากศีลข้อ 2.ควบศีลข้อที่ 1...ทางธรรม.ได้ บารมีในทัศ ทานบารมี ได้เมตตาบารมี ได้วิริยะบารมี ได้ขันติบารมี ได้อุเบกขาบารมี ได้ปัญญาบารมี ได้อธิษฐานบารมี ได้ขันติบารมี.ได้ละความโลภ.ทางโลกได้อะไร..ได้ความสุขใจ ปลื้มปิติ ไม่ยากจนขัดสน (ยิ่งให้ยิ่งได้)ได้ความสะดวกราบรื่น คล่องตัว.เป็นเศรษฐีย่อย ๆ เพราะรวยบุญทานใช่บ้านโต...และที่พิเศษ ทรัพย์ที่ได้มา เงินที่ได้มา เก็บอยู่ ทรัพย์สินไม่เสียหายจากน้ำมือมนุษย์ เช่น ถูกปล้น ถูกโกง หรือเสียหายจากภัยธรรมชาติทั้ง 4.ไฟไหม้ แผ่นดินไหว ลมพายุ น้ำท่วม.และจากสรรพสัตว์ทั้งหลาย
    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

    .............ในศีลข้อที่ 3...............

    ..ไม่ประพฤติผิดในกาม..หมายถึง รูป-รส-กลิ่น-เสียง-อารมณ์ (เกือบไม่เห็นในตำรา เพราะถูกตัดออกไป)...

    ..ศีลข้อ 3.นี่สำคัญมาก ๆ เพราะเป็นศีลข้อที่ บวชจิตให้จิตเป็นพระ บวชกายให้กายเป็นพระ และบวชจิตบวชกาย ให้จิตและกายเป็นพระ.หรือเนกขัมมะ สำรวม กาย วาจา ใจด้วยนั่นเอง.ศีลข้อนี้ จิตมองเห็นว่า ไม่ใช่เพียงแต่ละเมิดใน สามี-ภรรยา ของผู้อื่นเท่านั้น รวมถึงละเมิดในบุตร หลาน พี่ น้อง ของผู้อื่นด้วย และการไม่สำรวมในกาย วาจา ใจ ด้วย ทางกาย ใส่สายเดี่ยว ขาสั้น ก็ทำให้ศีลข้อนี้ขาดได้แล้ว.เพราะเป็นการ ยั่วยวน ยั่วยุให้ผู้อื่นเกิดกามราคะ กามกำหนัด.นุ่งน้อยห่มน้อย อย่างการประกวดนางงามทั้งหลายก็ใช่ด้วย.(นางงามตกนรก).บางท่านอาจเคยได้ยิน.

    ..ได้อะไรจากศีลข้อสาม ควบ ศ๊ลข้อ 1-2..ทางธรรม.ได้ เมตตาบารมี ทานบารมี ศีลบารมี วิริยะบารมี ขันติบารมี เนกขัมมะบารมี อุเบกขาบารมี ปัญญาบารมี อธิษฐานบารมี สัจจะบารมี.ได้ละสังโยชน์ 10 ใน 7 ข้อแรกเป็นเบื้องต้น พรหมวิหารสี่เข้มขึ้น. วิปัสนาธรรมได้เร็วขึ้น.รักษากรรมบถ 10 ได้เข้มและมั่นคงขึ้นอีก.

    ..ทางโลกได้..ไม่มีใครมาแย่งของของเรา บุตรหลานว่าง่าย สอนง่าย อยู่ในโอวาท.ปกครองบริวารได้ง่าย..อยากได้อะไรก็ได้ง่าย ๆ ราบรื่นดีดั่งใจนึก..
    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

    .............ในศีลข้อที่ 4...............

    ศีลข้อที่ 4.สำคัญมาก ๆ เช่นกัน.คนเราจะปฏิบัติธรรมให้ได้ผล หรือไม่ได้ผลก็ขึ้นกับศีลข้อนี้ด้วย.ทำจริง หรือโกหก จริงใจหรือไม่จริงใจ.
    ศีลข้อที่ 4. ไม่พูดโกหก ไม่พูดเพ้อเจอเหลวไหลไร้สาระ ไม่พูดคำหยาบ.ไม่นินทา แถม ใส่ความให้ร้ายผู้อื่น..

    ..ศีลข้อนี้ทางธรรมอานิสงค์สูงมาก.คือ.ทางธรรม.
    1.ได้รักษากรรมบถ 10 ใน"วจีกรรม 4".(มีกำลังตั้ง 4).กายกรรมยังมี 3 มโนกรรมก็มีเพียง 3.
    2.ได้สัจจะบารมี และพลอยทำให้อีก 9 ทัศ เต็มสมบูรณ์และบริบูรณ์ครบถ้วนทุกประการไปด้วย แถมได้วาจาสิทธิ์ที่ศักดิ์สิทธิ์เป็น"ประกาศิต"ยิ่ง พูดคำไหน ได้อันนั้นเป็นอย่างคำพูดทุกประการ.เทพ พรหม เทวดา คอยช่วยเหลือตลอดเวลา ไม่ให้ลำบาก.สามารถละสังโยชย์ 10 ได้อย่างราบคาบ.และเป็นหนึ่งในบุญกริยา 10 "ปิยวาจา"ด้วย.

    ทางโลก...ได้อะไรก็ตรงตามเวลานัดหมาย ไม่มีเคลื่อนหรือมีใครมาผิดนัด
    วาจามีอำนาจ ผู้คนเกรงขาม.ใครมาพูดให้ในทางที่ไม่ดีก็แพ้ภัยตนเอง.
    "ความจริงก็คือความจริง ความจริงไม่เคยฆ่าใครให้ตาย ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้" และเป็นเครื่อง"พิสูจน์คน"....
    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

    .............ในศีลข้อที่ 5...............

    ศีลข้อที่ 5.ไม่ดื่มสุรา ของมึนเมา ยาเสพติดให้โทษ อบายมุข.
    ทางธรรม ได้"ปัญญา" ทำต่อเนื่อง ได้"อธิปัญญา" ปัญญานำทางให้ได้รู้ว่า
    ดี-ไม่ดี-ถูก-ไม่ถูก-สอบได้-สอบตก-รู้บุญ-รู้บาป.มีความจำเป็นเลิศ.มีสติรู้ตัวตลอดเวลา.เป็นเครื่องมืออุปกรณ์ช่วยให้การรักษาศีล- รักษากรรมบถ 10- มีพรหมวิหารสี่-ละสังโยชน์ 10- เจริญวิปัสสนากรรมฐาน-จับจิตตนที่เป็นลิงมาขังกรงได้.มองเห็นและเข้าใจใน"อริยสัจ 4".ลงตัวที่"ไตรลักษณ์ได้"-
    เข้าใจใน"ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน".เริ่มรู้แจ้งในระดับนึง.ในโลกธรรม 8.เริ่มเข้มข้นขึ้นใน"อิทธิบาท 4.

    ทางโลก มีปัญญาแก้ไขในปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ของตน.และรวมถึงการช่วยเหลือผู้อื่นได้ด้วยกำลังแห่งปัญญาได้.....

    ...แก่นธรรม 3.คือการปฏิบัติและวิปัสสนาในการรักษาศีล 5 ให้เข้มข้นและละเอียดขึ้นมากกว่าเดิม.นั่นแหละคือความละเอียดของศีล แก่นแท้และหัวใจของศีลควบกับการรักษากรรมบถ 10-บารมี 10 ทัศ ให้ครบถ้วนบริบูรณ์-มั่นคงในการละสังโยชน์ 10 ประการ...

    ...เข้าใจในธรรม(คำสั่งของสมเด็จพระชินสีห์ว่า ทำไมพระองค์สั่งให้รักษาศีล 5 ข้อในเบื้องต้นให้ได้) เพราะรักษาศีลแล้ว ไม่ตกในอบายภูมิ 4.(นรกถาวร)
    ไม่ตกนรกในโลกมนุษย์(คุก-เรือนจำ-นรกบนดิน)คนติดในเรือนจำเพราะอะไร เพราะศีล 5 ไม่ครบ-ถูกตำรวจจับ-ขึ้นศาล-มีคดี เพราะอะไร.ศีล5 ขาด
    ..สวรรค์ในอก..ความสุขในใจ เอื้อมาที่กาย มีความสุขกายด้วย.รอดคุกบนดิน.ไม่มีเรื่องทุกข์ใจ-ทุกข์กายกับตน.อารมณ์จิตผ่องใส.
    ..นรกในใจ..ความทุกข์ใจ เอื้อมาที่กาย ให้กายทุกข์และลำบากด้วย.แถมมีคุกเรือนจำนรกบนดิน ครอบงำจิตใจ มีตราบาป.....

    (สำหรับความคิดส่วนตัวของอาจารย์นะ ไม่ได้ว่าใคร หรือมีใครมาเกี่ยวข้องนะ อาจารย์คิดวิปัสนาได้ว่า.คุก.มีไว้ขังคนศีลไม่ครบ คนที่ไม่รักษาศีล.ไม่ใช่ขังหมา. ตำรวจไล่จับคน ไม่ใช่ไล่จับหมา.ศาลตัดสินคน ไม่ใช่ตัดสินหมา. เราไม่ใช่หมา อย่าอายหมามันนะ.)(ทางยมโลก เราจะไม่เป็น 1 ในอบายภูมิ 4 ถ้าถูกกระชากลากถู ตีตรวน ไปตัดสิน พิพากษาโทษในยมโลก เสร็จงานนี้ อายหมาแน่ ๆ...)อาจารย์บรรยายให้อ่านเผื่อเป็นประโยชน์.ถ้าไม่เป็นประโยชน์ก็ผ่านไปแล้วลืมซะ.....
    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ.

    ....จากแก่นธรรม 3. ได้รู้ ในความละเอียดของศีล 5 ข้อ เพิ่มมาในระดับนึง
    และการรักษาศีล 5 ข้อได้ครบ เท่ากับว่า เราได้บำเพ็ญบารมี 10 ทัศ ในเวลาพร้อม ๆ กันกับการรักษาศีล 5 ข้อ และได้รักษากรรมบถ 10.ควบการละสังโยชน์ 10 ในข้อต้น ๆ.ทรงพรหมวิหาร 4.ร่วมด้วยกัน.บวชจิตให้เป็นพระ มีจิตสะอาดมากขึ้นกว่าเดิม.และเป็นบันไดก้าวขึ้นไปในการรักษาศีล 8 ต่อไปให้สูงอีก.เห็นคุณค่า ประโยชน์ของการรักษาศีล. เห็น"ธรรม"ของสมเด็จ.
    พรุ่งนี้มา ต่อใน แก่นธรรม 4......
    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

    ...ก่อนขึ้นแก่นธรรม 4.นักปฏิบัติทุก ๆ ท่าน อย่าลืมทบทวนในทุก ๆ เรื่องของทุก ๆ วัน ห้ามลืมเป็นอันขาด.ทั้งที่เกี่ยวกับตนเองและไม่เกี่ยวกับตนเอง ทั้งทางโลก-ทางธรรม....

    ..ทางลัด...เพื่อให้ ศีล 5 ข้อครบและเป็น"อธิศีลเร็ว ๆ" ก่อนนอน ขอขมาพระรัตนตรัย.ไตรสรณคมณ์.สมาทานศีล 5.สมาทานพระกรรมฐาน.แล้วนอน.ก่อนหลับท่ององค์ภาวนาที่ชอบ ท่องไปเรื่อย ๆ เมื่อเข้า"ปฐมฌาณ"จิตจะตัดหลับเอง นั่นละ "หลับในฌาณ"หลับอย่างมีคุณค่า ถ้าตายตอนหลับ ก็ไปป๋อหรอที่พรหมเอง...เดี๋ยวได้"อธิศีล-อธิจิต.เร็วขึ้น...เป็นที่รักของ ผี.เทพเทวดา.มนุษย์.สัตว์ทั้งหลาย กลายเป็นมนุษย์ผู้มีจิตใจสูงได้ มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ.แบบง่าย ๆ...
    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

    ...จากการที่จิตอยู่ในขอบเขตของศีล มีศีลคุมใจ.จิตสะอาดขึ้นมา.ไม่ลุ่มหลงในกิเลสที่หนักจนเกิน ทำให้มีความรู้สึกว่า มีความ"เบา"เกิดขึ้นในจิต.กายที่หนักอึ้งก็เบาไปด้วย.ความอยากในสิ่งต่าง ๆ ลดน้อยลงไป.(ให้สังเกตุตัวเอง)
    สัมผัสในพลังที่มากระทบกายให้มีความรู้สึกต่าง ๆ ได้.เช่น มีความรู้สึกว่าร้อน ในบางสถานที่ หรือใจสั่น หน้ามืดจะเป็นลม หรือเวียนศีรษะคลื่นไส้ก็มี..แต่ละคนอาการทางกายไม่เหมือนกัน..อาการทั้งหมดที่กล่าวมาคือ อาการที่จิตต่อต้านหรือคัดค้านนั่นเอง.เพราะมีความไม่ถูกต้องหรือมีบางอย่างที่เป็น"ศัตรู"ของจิต.นั่นเอง...ไปสำรวจอาการทางกายของตนเองนะ...
    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ...

    ที่มา http://palungjit.org/threads/สัญญาณฟ้าเตือนภัยพิบัติ.294356/page-437
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • K541018p4.jpg
      K541018p4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.4 KB
      เปิดดู:
      1,176
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ปีมะเส็ง(2556)
    ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มจมทะเล !!!

    [​IMG]

    poppyrose สมาชิก

    ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ เวลา 19.48-20.41

    สวดมนต์ เข้ามโนยิทธิ หลวงปู่ทวดปรากฏขึ้น พระอาจารย์มาถามว่าปฏิบัติถึงขั้นไหนเเล้ว ฉันรายงานท่านตรงที่ยังไม่สามารถปฏิบัติสำเร็จ เข้าเตโชกสิณ หลวงปู่ทวดพาฉันมาดูคลื่นยักษ์ ที่พัดถาโถมสะพานใหญ่ในซิดนีย์ ออสเตรเลีย ดูไปก็เหมือนสันเขื่อน พบสมเด็จองค์ปฐมปางวิสุทธิเทพ เป็นเเก้วใสประกาย ท่านตรัสว่า

    เหตุการณ์จะมีทั้งน้ำท่วมเเละเเผ่นดินไหว ของไทยถือเป็นเื่รื่องเล็กน้อย ช่วงนราธิวาส สตูล ต่อไปจะจมหาย ประจวบคีรีขันธ์จะเกิดภัยธรรมชาติ คนตายมาก ท่านว่า จากมิถุนายนปี ๒๕๕๖ จะเลื่อนไปเป็นธันวาคม ๒๕๕๖ เป็นมติสวรรค์ เป็นกรรมเผ่าพันธุ์ ให้หมั่นรักษาศีีลให้บริสุทธิ์ สวดมนต์ นั่งสมาธิ หลวงปู่ทวดสอนปฐวีกสิณ ฝึกอตีตังสญาณ อุทิศส่วนกุศล

    ที่มา http://palungjit.org/threads/เตือนพื้นที่ภัยธรรมชาติในอนาคต.379882/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 012.jpg
      012.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58 KB
      เปิดดู:
      1,186
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...