'พระเครื่องเครื่องรางสายเมตตามหาเสน่ห์มาพูดคุยโชว์กัน'

หนุมานตนนี้รับกับมือหลวงปู่เกลี้ยงที่งานพุทธาภิเษกวัดชากกอไผ่ ตอนหลวงปู่มอบให้ท่านจะบริกรรมก่อนมอบ ก็ว่ารับดีแล้วแต่อยู่ๆหนุมานกลับเด้งออกจากมือไปตกที่ตักหลวงปู่ หลวงปู่ท่านก็มองหน้าผมแบบนิ่งๆ ตอนนี้ขอบอกว่านับถือท่านมากครับจริยะวัตท่านนิ่งแต่เมตตาสมเป็นยอดเกจิจริงๆครับ

หนุมานวัดซากกอไผ่ตอนหลวงปู่เสกเห็นว่ากลิ้งไปมาได้ ใครยังไม่มีต้องรีบเก็บแล้วครับ

 

เข้าร่วมติดตามสายเมตตาด้วยคนครับ ชอบครับเรื่องอย่างนี้

 

​

ขุนแผนรุ่นแรก อาจารย์โอม เสก 10 ปี
ขุนแผนรุ่นนี้มี 2 พิมพ์ ครับ คือพิมพ์บาง (หนาประมาณ 5-6 มม) ซึ่งสร้างเยอะกว่า กับ พิมพ์หนา (หนาประมาณ 8-9 มม.) สร้างน้อยประมาณร้อยกว่าองค์ รวมทั้งสองพิม์ก็ประมาณ เจ็ดร้อยกว่าองค์ครับ

ขุนแผนพิมพ์นี้ท่านสร้างตามนิมิตของท่านครับ เป็นพิมพ์คล้ายพิมพ์เตารีดเล็ก ตรงกลางเป็นรูปองค์พระพุทธปางสะดุ้งกลับ นั่งบนบัลลังค์ฐานบัว 9 กลีบ

หลังจากที่ท่านนิมิตเห็นพิมพ์พระขุนแผนนี้แล้ว ท่านก็เลยตัดสินใจสร้างพระขุนแผนขึ้นมาตามแบบในนิมิตครับ โดยตั้งสัตย์อธิษฐานว่า จะสร้างเพื่อการบุญการกุศล ไม่ใช่เพื่อหาลาภสักการะใส่ตัว..

จากนั้นท่านก็ปั้นแบบ แกะพิมพ์เอง ทำบล็อกเอง หลังจากทำบล็อกเสร็จแล้ว จึงเริ่มหามวลสารต่างๆครับ

มวลสารที่สำคัญเป็นหลักก็คือว่านทางเมตตามหาเสน่ห์ มหานิยมต่างๆหลายสิบชนิด พวงมาลัยบูชาพระ ผงวิเศษ ผงเมตตาต่างๆ น้ำมันว่านดอกทองของท่าน อ.แทน น้ำมันช้างย้อยของท่าน อ.แทน น้ำมันว่านสาวหลง น้ำมันว่านเทพรัญจวญของท่านเอง ผงแป้งเสก

ในการกดพิมพ์พระ ท่านกดเฉพาะในวันที่มีฤกษ์ดีเท่านั้น กดฉพาะในฤกษ์ พอหมดฤกษ์ ก็หยุดกด รอหาฤกษ์ใหม่แล้วถึงจะกดต่อ

วันแรก ฤกษ์แรก ที่ท่าน กดพิมพ์พระขุนแผน พอกดเสร็จหลังจากหมดฤกษ์ในวันนั้น ท่านก็นับจำนวนพระที่กดได้เอาไว้ ช่วงนั้นเป็นวันใกล้หวยออกพอดี ก็มีคนมาขอหวยจาดท่าน ท่านก็เลยไล่เค้าไปนับดูว่าพระขุนแผนมีกี่องค์ หลังจากนับเสร็จเค้าก็กลับไป

ปรากฎว่า หลังจากหวยออกมาแล้ว คนๆนั้น เค้าก็กลับมาอีกครั้งหนึ่ง พร้อมของทำบุญ เค้าบอกว่า เค้าถูกหวย จากจำนวนพระขุนแผนที่นับไป ออกแบบตรงๆเลยครับ

หลังจากนั้น ก็เป็นธรรมเนียมครับ ว่าพอใกล้ๆหวยออก ก็จะมีคนมานับจำนวนพระขุนแผน แล้วก็เอาไปซื้อหวย แล้วก็ถูกซะด้วย จนท่านกดพิมพ์พระครบตามจำนวนมวลสารที่มี ตัวเลขจำนวนพระที่กดได้ ก็วนเวียนออกอยู่ติดต่อกันถึง 7 งวดเลยทีเดียว จนเป็นที่ฮือฮากันเลยครับ เพราะถูกกันเกือบทั้งหมู่บ้าน...

ขอบคุณภาพของ arjarhnnop ขุนแผนองค์นี้ พิเศษชุบน้ำมันว่านดอกทอง

 

สวัสดีตอนเย็นๆ พี่ๆ ที่ชอบสายเมตตามหาเสน่ห์ ทุกท่านครับบบ

มาบอกข่าวเพื่อใครสนใจครับผม
พรุ่งนี้วันที่ 15-18 พ.ย. มี Commart Thailand 2012 จัดที่ศูนย์สิริกิติ์ ครับผม
ใครสนใจ notebook และอุปกรณ์ IT อื่นๆ ไปเดินดูได้ครับผม

 

อัยย๊ะ อัยย๊ะ

 

แพะน้อย ๆ น่ารัก ....

 

ตัวนี้ก็น่ารักเน้อ

 

แหะ ๆๆ ตัวนี้ก็เสือน้อย ...

ปกติ จะเอาแพะน้อย เสือน้อย กับปลัดน้อย วางไว้หัวเตียงตอนนอน มีวันนึง นอนอยู่ดี ๆ ก็ได้ยินเสียง .... ปึก ปึก ๆๆ .... หลายครั้งอยู่ เหมือนมีอะไรวิ่งชนหมอน แต่เสียงแน่นเหมือนชนกับกำแพงเลย กำลังคิดว่าเสียงอะไร นึกขึ้นได้วาง แพะน้อยไว้หัวเตียงนี่นา (รู้สึกเองเลยว่าต้องเป็นแพะ) ก็เลยเอือมมือไปหัวเตียงจับแพะ ... แล้วถามว่าเป็นอะไรไปแพะน้อย ... แล้วลูปสอง สามครั้งแล้วนอนต่อ ... แล้วก็นึกขึ้นมาได้กี่โมงแล้วหว่า.. ก็เอาโทรศัพท์ดูนาฬิกา ตีห้ากว่าแล้ว อีกประมาณสิบกว่านาทีก็ถึงเวลาที่ตั้งปลุกไว้ ก็เลยนอนคิดอะไรเล่น ๆ ไปเรื่อย เปื่อย สงสัยมาปลุกแฮะ .... แต่ก็เจอแค่ครั้งเดียวครับ.. จากนั้นก็ปกติ เป็นนาทีของนาฬิกาปลุกไป ... แต่จริง ๆ ก็ไม่รู้ว่าแพะต้องการอะไรรึป่าว ... แหะ ๆ

 

ปลัดน้อย ๆ .... น่ารัก

 

สงสัยกำลังหนีเสือป่าวครับ 555
แซวเล่นเน้อพี่ส่างปา

 

5555 กิเลส มาปุ ปุ อีก

 

สวัสดีครับ มาแอบดูของแรงๆ ครับ

 

เป๋อหลวงปู่ชื่น ได้มาช่วงแรกๆมีประสบการณ์แทบทุกวัน เล่นเอาขาอ่อนเลยครับ

 

เอ............. ทำไมขาอ่อนละครับ .... ^^ ^^

 

พญาเต่าเรือน...หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย​

หลวงพ่อสนิทท่านจะตั้งใจสร้างอย่างพิถีพิถัน ตามตำนานโบราณ สมัยเมื่อครั้งที่พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพญาเต่าเรือน ปลุกเสกจนกระทั่งมีชีวิตจริงจึงถือว่าเสร็จพิธี
ด้วยพลังจิตอันเข้มแข็งที่อัญเชิญพระพุทธบารมีลงมาประดิษฐานในพญาเต่าเรือน ทำให้เกิดอัศจรรย์แก่ศรัทธาญาติโยมที่นำไปบูชาเป็นอันมาก
ประสบการณ์ที่บรรดาลูกศิษย์ที่ศรัทธานำไปบูชาทำให้การทำมาค้าขายไหลลื่น ราบลื่น มีลูกค้าเพิ่มขึ้นและยอดขายเพิ่มมากขึ้นอย่างมากมาย และปาฏิหาริย์ที่ประจักษ์ต่อสายตาญาติโยมและบรรดาลูกศิษย์​

​

 

ตะโพน หลวงพ่อพักตร์ วัดโบส์ถ ​

" ตะโพนของหลวงพ่อพักตร์ เป็นที่ประจักษ์เรื่องมหาลาภ เมตตาและมหานิยมอย่างเอกอุ เหตุเพราะท่านพิถีพิถันตั้งแต่การจัดสร้างและปลุกเสก "




​

 

สวัสดียามสายครับพี่ๆสายเสน่ห์

 

อยากขาอ่อนมั่งจังครับพี่เก่ง อิอิ

ของหายากเลยครับพี่โป้ งามจริงๆครับพี่

 

ผมก็อยากขาอ่อนเหมือนกัน อิอิ

 

พระขุนแผนผงพรายกุมาร "รุ่นสากหัก"​

พระขุนแผนผงพรายกุมาร "รุ่นสากหัก" แต่คนมักจะนิยมเรียกว่า "พระขุนแผนสากหัก" จัดสร้างปี 2546 จัดสร้างในนามมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก โดยคุณชินพร สุขสถิตย์ เช่นกัน เพื่อมอบให้แก่ผู้ที่ร่วมทำบุญทอดกฐินสามัคคี ณ.วัดพงเสลี่ยง บ้านห้วยโป ต.แม่สิน อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ตามคำชักชวนของลุงแมง (หนึ่งในศิษย์ผู้รับใช้ใกล้ชิดลป.ทิม และเป็นผู้กดพิมพ์พระขุนแผนผงพรายกุมารฯ ในยุคนั้น) เมื่อวันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม 2546 เพื่อนำเงินที่ได้สมทบทุนสร้างศาลาอเนกประสงค์ ชื่อ "ศาลาศิษย์หลวงปู่ทิม ร่วมใจ" แบ่งออกเป็นพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็กคราวนี้เราจะมาลงรายละเอียดถึงประวัติการ สร้างกันครับ

สำหรับชื่อ รุ่นสากหัก นั้นมาจากการที่ขณะตำผงครกแรกเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2546 พอผงกำลังเข้าที่พร้อมจะนำมากดพิมพ์ได้สากหินที่กำลังใช้ตำผงนั้นเกิดหัก กลางอย่างมหัศจรรย์ทันทีมีผู้เห็นกันหลายคน ผงพรายกุมารที่ใช้ทำพระขุนแผนรุ่นนี้ได้มาจากบรรดาศิษย์อาวุโสของหลวงปู่ทิม ซึ่งต่างเก็บไว้คนละเล็กคนละน้อยเพราะทุกคนรู้ดีว่าผงพรายกุมาร ของ หลวงปู่ทิม อาจารย์ของพวกตนนั้นเป็นผงที่หาผู้ทำให้ขลังและศักสิทธิ์จริง ๆ นั้นหายากมาก แต่หลวงปู่ทิมท่านก็ทำสำเร็จจนพระขุนแผนผงพรายของท่านโด่งดังไม่แพ้พระขุน แผนเก่า ๆ ที่ขุดออกมาจากกรุทั้งในด้านราคาและความศักสิทธิ์ พระขุนแผนสากหัก ถอดแบบจากเค้าโครงเดิมของพระขุนแผนรุ่นแรกของหลวงปู่ทิม แต่มีการแต่งพิมพ์เพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความแตกต่าง และมีเอกลักษณ์ในตัวเอง โดยมีทั้งพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก แบ่งตามวรรณะของสีเนื้อออกเป็น 3 สี คือ สีขาว สีแดง และสีดำ โดยพิมพ์ใหญ่สร้าง 5,556 องค์ พิมพ์เล็กสร้าง 6,996 องค์ โดยเฉพาะพิมพ์ใหญ่นั้นแบ่งออกเป็นสองแบบใหญ่คือแบบฝังตะกรุด และแบบไม่ฝังตะกรุด เฉพาะแบบฝังตะกรุดจะสามารถแบ่งแยกตามตัวตะกรุดออกได้ดังนี้

- พิมพ์ใหญ่ฝังตะกรุดทองคำ 96 องค์
- พิมพ์ใหญ่ฝังตะกรุดเงิน 256 องค์
- พิมพ์ใหญ่ฝังตะกรุดทองแดง 356 องค์

นอกนั้นจะฝังอย่างอื่นแทน เช่น พลอยเสก (ปกติ) พระขุนพลจิ๋ว (พิเศษ) เป็นต้น แต่ในส่วนของพิมพ์เล็กไม่ได้ฝังตะกรุดและพลอยเสก จึงทำให้การเล่นหาไม่สับสนครับ ในเรื่องการอธิษฐานจิตนั้นได้รับการปลุกเสกเดี่ยวโดยพระครูธรรมรังษี (หลวงปู่ธรรมรังษี ) วัดพระบาทเขาพนมดิน จ.สุรินทร์ แล้วยังได้นำพระชุดนี้ทั้งหมดในส่วนที่เหลือจากการแจกผู้ร่วมงานทอดกฐินใน วันดังกล่าวแล้วเข้าพิธีพุทธาภิเษกในงานเททองหล่อพระกริ่งชินบัญชร มหาปราบ ที่วัดละหารไร่ จ.ระยอง เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2546 อีกวาระหนึ่ง เพื่อให้พระเกจิฯผู้ทรงคุณประจุพลังพุทธาคมให้เพิ่มขึ้นอีก โดยมีพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคม นั่งปรกปลุกเสก คุมทิศทั้งสี่ มีดังนี้

1.หลวงปู่ธรรมรังษี วัดพระบาทเขาพนมดิน จ.สุรินทร์ พระผู้ทรงอภิญญาแห่งเมืองอีสานใต้
2.หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร จ.ฉะเชิงเทรา พระเกจิชื่อดังแห่งลุ่มน้ำบางปะกง
3.หลวงพ่อแจ่ม วัดเขาสำเภาทอง จ.ระยอง พระเกจิชื่อดังแห่งเมืองระยอง
4.หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ จ.ระยอง พระเกจิชื่อดัง ศิษย์เอกรูปเดียวของหลวงปู่ทิม อิสริโก

​