ใครเคยเข้าถึงฌาน 4 มีอาการณ์อย่างไร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย localpood, 13 พฤศจิกายน 2012.

  1. toseal

    toseal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +618
    มาเก็บข้อมูลครับ
     
  2. localpood

    localpood เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +300
    ลอยในจิต หรือลอยจริงๆ ครับ
     
  3. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    จะขยายผลให้ครับ ทุกๆครั้งที่คุณตัดความกลัวยังไม่ได้ ไม่ว่ามาจากสาเหตุอะไร
    จิตจะไปอยู่แล้วอึดอัดกระสับกระส่ายหาอากาศหายใจ ก็หดกลับซะงั้น จากนี้ไปให้วางความตาย ตายเป็นตายจากนั้น ผ่านความตายวูบเดียว แล้วเหมือนเกิดใหม่ความรู้สึกจะเปลี่ยนเป็นสงบดื่มด่ำในปีติที่บรมสุขร่างที่โปร่งแสงออกจากร่างกายเลือดและเนื้อ เพื่อเป็นเส้นทางสู่โลกสวรรค์ ระหว่างนั้นจะเห็นอุโมงที่มืดมิดพอหลุดเข้าไปจะมีแสงสว่างไปจนสุดปลายของแสง จะพบบ้านเมือง ผู้คนเมืองลับแล ป่าหิมพานต์ ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ผู้คนเล่าขานกันอย่างยาวนาน ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน มีอาสนะศิลา มีร่างของพระมหาเถระนอนทอดร่างอยู่ก็ได้กราบคารวะพระศพพระมหากัสสะปะพระมหาเถระเจ้า
    ภายในไต้ภูเขา มีความเย็นชนิดที่หนาวสะท้านเข้าไปถึงข้างในของกายทิพย์
    ด้านนอกของภูเขาอันใหญ่โต มีกุญชร สิงห์ นาค ครุฑ ปกปักพิทักรักษาอยู่ทับหน้า
     
  4. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    อะไรตรงไหนที่มั่วขอรับ คุณรู้จัก ฌาน(ชาน) ขั้นที่๔ ดีพอแล้วหรือยังละ ถ้ายังไม่รู้ไม่เข้าใจอ่านอีกครั้งนะ


    เวลานั่งสมาธิ แล้วได้สมาธิ หรือได้ ฌาน๔(ชาน) ก็ไม่เห็นจะแปลกอะไรเลยขอรับ ก็แค่ ใจนิ่งสมองนิ่ง ไม่คิดสิ่งใดเลย ไม่รู้หรือกำหนดว่ารู้สิ่งนั้นสิ่งนี้ อาการนั้นอาการนี้ แม้มีเสียงหรือได้ยินเสียง ก็ไม่คิดตามไม่รู้ตามว่าเสียงนั้นเป็นเสียงอะไร ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง สงบ คือ ใจสงบ สมองสงบ นั่นแหละ ฌาน(ชาน)ที่ ๔

    และเมื่อเวลาออกจากหรือเลิกนั่งสมาธิ หรือเลิกเข้าฌาน(ชาน)แล้ว จิตใจก็ต้องสงบตามที่เคยฝึกมา ไม่คิดมาก ไม่ฟุ้งซ่าน แม้ได้ยิน ได้เห็น ก็เพียงรับรู้ เพียงรู้แจ้งว่า สิ่งที่ได้ยิน ได้เห็นนั้นคือ อะไร ซึ่งมันจะเป็นธรรมชาติของร่างกายอยู่แล้ว เพียงแต่ ได้ยินได้เห็น ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่ปรุงแต่ง หรือจะกล่าวอย่างเข้าใจง่ายที่สุดก็คือ รู้สึกเฉยๆ ธรรมดา ธรรมดา นั่นแหละ ฌาน(ชาน)ที่๔

    แต่ถ้านั่งแล้วมีสมาธิ คือ มี ฌานที่๔ แต่พอตื่น กลับไม่มี แสดงว่า ที่ปฏิบัติหรือที่ฝึกไป ไม่ได้อะไรสักอย่าง ได้แต่ความคิด อารมณ์ ความรู้สึก การระลึกนึกถึง ของตัวเองเท่านั้นขอรับ

    หมายเหตุ.... ถึงแม้ว่า ข้าพเจ้าจะไม่เคยฝึกแบบ ฌาน(ชาน) แต่เนื่องจาก ฌาน(ชาน) เป็นธรรมชาติของการปฏิบัติสมาธิ หรือเป็นธรรมชาติ ของมนุษย์ เมื่อจำต้องอยู่ในที่สงัด จึงสามารถเปรียบเทียบ ดังที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไป
     
  5. ปัญฺญาวโร

    ปัญฺญาวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +923
    จตุตถฌาน หรือฌาน ๔ นั้นแยกจิตกันกาย ออกจากกันครับ เหมือนการแก้เชือกที่มัดหุ่นกับคนเชิดครับ เริ่มจากปฐมฌาน ภาวนาหาย ลมหายใจละเอียด ปิติหาย ลมหายใจหาย เวทนากายหาย จนจิตรับรู้ทางร่างกายหายไปหมด เป็นสมถสมาธิครับ วันนี้ก็มีคนอธิบายให้ผมหายสงสัยว่าอาการฃองผมเป็นจตุตถฌานหยาบ คือ เกือบแหละอีกนิด

    เมื่อคืนเริ่มจากนอนสมาธิ จนเข้าฌาน ๓ แล้วเปลี่ยนเป็นนั่งโดยครองฌานไว้ได้ นั่งไปเรื่อยๆ มันนานพอสมควร ขามันก็ไม่เป็นเหน็บ แค่ชาทั้งตัว ไม่หายใจแต่ก็ไม่อึดอัดกลับโล่งกว่าตอนหายใจเยอะเลย ความรู้สึกการได้ยินยังครบ แต่ไม่ได้สนใจ แค่รู้อย่างเดียว มีอาการเคลิ้มบ้างเบาๆ สุขน่าจะหายไปนานแล้ว เพราะมันเฉยๆจนทำอะไรนอกกรอบ(ก็เห็นเขาบอกว่าฌาน ๔ พิจารณาไม่ได้)ผมพิจารณาทั้งๆที่อยู่ในณานสังเกตุดู กายกับจิต ก็เมื่อกายกับจิตมันแยกกันไม่ใช่อันเดียวกันการพิจารณามันเป็นงานของจิต เวลาคลองฌาน กายก็น่าจะอยู่ในฌานได้ปกติสิ และ สังเกตุว่าจะตกฌานไหมก็เป็นอันสรุปว่ามันครองฌานได้ ลองอีกเมื่อกายจิตแยกกันถ้าเราลืมตาล่ะจะเป็นไง ก็ลองลืมตา ก็ครองฌานอยู่ แต่ไม่มีอะไรผิดไปจากตาเนื้อเคยเห็น ลองขยันแขนเบาๆจะเห็นอ่ะไรไหม ปกติ ครองฌานได้ แล้วก็เลยเปลี่ยนเป็นนอนอยู่ในฌานจนหลับไป เช้ามานึกว่าตายซะแหละ ก็มันไม่ได้หายใจตั้งแต่เริ่มเข้าฌานจนหลับไป

    เคยสนทนาธรรมกับพระป่าท่านไม่สนใจฌาน ท่านให้เจริญภาวนาพุทโธตลอดเวลา คือสายสุขวิปัสสิโก จะเน้นเจริญสติไม่ปล่อยให้หลุดเข้าฌาน
     
  6. Ndantchor

    Ndantchor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +1,123
    บางองค์ท่านก็มีอภิญญา น๊า แต่ส่วนใหญ่แล้วอภิญญาเกือบทั้งนั้นล่ะ

    หากศึกษาประวัติของแต่ละท่านมาบ้าง
     
  7. ปัญฺญาวโร

    ปัญฺญาวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +923
    ใช่ครับท่านบอกว่าภาวนาไปกินข้าวก็พุทโธ เดินก็พุทโธ ทำงานก็พุทโธ เวลาคุยก็หยุด คุยเสร็จก็พุทโธต่อ พอพุทโธหาย แต่รู้พุทโธ ตัวรู้เกิด (อภิญญา)
     
  8. ยอดคะน้า

    ยอดคะน้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    947
    ค่าพลัง:
    +710

    เข้าใจว่า
    สายของพระอรหันต์ทั้งหลาย เน้น ที่สติให้เป็น สติวินโย(สะติวินะโย)
    แม้แต่จะทำฌาน ก็ต้องฝึกทำด้วยมี สติเป็นผู้นำ
     
  9. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ลอยในจิตจ้ะ กายเนื้อมันจะไปลอยเนี้ยไม่ได้แน่นอน แต่ของบางคนเขาก็ว่ามีอาการณ์ปากหนา ตัวพองขึ้นเรื่อยๆ.... แต่พระท่านบอกว่านั้นคืออยู่ในขั้นปิติ จะได้ฌาณเรื่องจริตนี้สำคัญมาก ปกติแน่นอน ถ้าคนที่สบายดีๆอยู่มานั่งก็ได้ไม่ง่ายหรอก ต้องมีทุกข์ หรืออะไรสักอย่างแทงในใจที่ทำให้เกลียดกลัวการมีอยู่ของร่างกาย ชนิดที่คุณต้องอยู่ขั้น พระเสขะ เลยทีเดียวฌาณถึงจะออก

    คนจะมีความรู้สึกเช่นนี้ได้โดยธรรมชาติ ถ้าไม่เป็นจากสันดารแล้วเห็นทีปฏิบัติยาก นอกจากต้องเจอจุดเปลี่ยนในชีวิตก่อน ชนิดที่ว่าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปฏิเสท การมีอยู่ของร่างกาย และการเวียนตายเกิด
     
  10. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ท่านทั้งหลาย เข้าใจในเรื่องของ ฌาน(ชาน) แบบผิดๆกันมานานแล้ว ข้าพเจ้าเริ่มศึกษา เกี่ยวกับเรื่อง ฌาน (ชาน) เมื่ออายุได้ ประมาณ ๒๐ (ยี่สิบปี) เพราะได้รับแจกหนังสือที่ เจ้าอาวาส วัดสันป่าข่อย(ในขณะนั้น) จังหวัดเชียงใหม่ พิมพ์แจก

    ข้าพเจ้าศึกษาอยู่ไม่นานนัก ดูเหมือนจะไม่ถึง หกเดือนด้วยซ้ำ ข้าพเจ้าก็พบว่า ฌาน(ชาน) เป็นการบอกลักษณะทางธรรมชาติของร่างกายมนุษย์ หรือจะเรียกว่า เป็นลักษณะงานอย่างหนึ่งของร่างกายมนุษย์ก็ได้ เมื่อข้าพเจ้ารุ้แล้ว ข้าพเจ้าก็ได้บอกกับ เจ้าอาวาสวัดสันป่าข่อยในขณะนั้น(ไม่ขอเอ่ยนาม เพราะท่านมรณภาพไปนานแล้ว) แถมยังขจัดอาสวะให้ท่านเจ้าอาวาสและพระลุกวัดอีกหลายรูปได้เห็นด้วย เพราะข้าพเจ้ามักจะเดินผ่านวัดสันป่าข่อย จังหวัดเชียงใหม่(หน้าค่ายกาวิละด้านทิศเหนือ) อยู่เป็นประจำ

    อีกประการหนึ่ง ท่านผู้ใช้ชื่อว่า ปัญญาวโร ก็อย่าได้ กล่าวมั่วว่า กายกับจิตแยกจากกัน ท่านรู้ไหมว่า ถ้ากายกับจิตแยกจากกัน อย่างนั้นเขาเรียกว่า ไม่รู้สึกตัว กายกับจิตจะแยกจากกันไม่ได้ แต่จิตสามารถควบคุมกายได้ สามารถทำให้คิดก็ได้ ไม่คิดก็ได้ วิตก วิจารณ์ ปีติ สุุข อุเบกขา คือ ความคิด อารมณ์ ความรู้สึก ถ้าบุคคลใด ปฏิบัติสมาธิ หรือ อยุ่ในที่สงัด (แม้ไม่ต้องปฏิบัติสมาธิ) หรือ อาจได้รับการสัมผัสทางอายตนะทั้งหลาย แม้ไม่อยู่ในที่สงัด ก็จะเกิด ลักษณะอาการทางธรรมชาติ ที่เรียกว่า "ฌาน" (ชาน) ข้าพเจ้าไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับพวกท่านดอกนะ แต่ในส่วนหนึ่งของจิตใจ ก็อยากจะให้ศาสนาเจริญก้าวหน้า ไม่ถูกบิดเบือน หรือถูกเปลี่ยนแปลงหลักความจริง โดยพวกที่ไม่รู้ หรือรู้ไม่จริง แถมยังไม่คิดพิจารณา จบขอรับ
     
  11. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ทำไมการเดินผ่านเฉยๆ จึงขจัดอาสวะ ให้ผู้อื่นได้ครับ?
     
  12. ปัญฺญาวโร

    ปัญฺญาวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +923
    ไม่เป็นไรครับ แค่มาแชร์ประสบการณ์จริงที่ปฏิบัติมาจริงและได้จริง โดยไม่หลุดจากคำสอนของพระพุทธองค์เลย เรื่องแยกกายจิต หรือ รูป-นาม มันแยกกันได้ ถ้าแยกกันไม่ได้มันยึดติดร่างกายแล้วนะครับ

    ป.ล. รู้สึกตัวสิ ถ้าไม่รู้สึกตัวจะรู้ได้ไงว่ารู้ไม่รู้ ไม่ได้หลับ มีสติอยู่ การรู้ว่านั่งแล้วเป็นเหน็บแต่กับไม่ปวดแค่ชาๆมันไม่ใช่นิมิตนะครับมันเป็นความรู้สึกตัว กล่าวว่ามั่วได้ไงครับ ผมไม่ได้อ่านหนังสือแล้วเอามาพิมพ์นะครับผมก็บอกอยู่ว่าปฏิบัติ และมีสติพิจารณาด้วยเหตุผล

    อีกอย่าง ตัวพิมพ์สีแดง คือ ถ้าท่านบอกให้ผู้อื่นขจัดอาสวะได้ แล้วทำไม่ท่านยังไม่ได้ครับ ยังใช้อารมณ์เถียงปังๆแบบไม่พิจจารณารู้ระงับ

    คุณบอกว่าไม่เคยฝึกแบบฌานแต่กลับว่าคนที่ฝึกแบบฌานว่า "กล่าวมั่ว" มันไม่ออกจะเกินไปหน่อยหร่อครับ

    ควรอย่าหยุดศึกษาว่าพระอริยสงฆ์ที่ท่านได้อรหันตผลแล้วแต่ล่ะท่านอธิบายเรื่องฌานไว้อย่างไรบ้าง อันนั้นนะท่านรู้จริงครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2012
  13. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    คุณtelwada คุณพลาดอย่างแรงและในอีกหลายกระทู้ที่ข้าพเจ้าอ่านเจอที่คุณว่าศาสนาพุทธ มาจากศาสนาพราหมณ์ ฮินดู รู้สึกว่าคุณจะเชื่อเรื่องเทพ ฮินดู และพวก ที่ขโมยหลักคำสอนของพระพุทธเจ้ามากกว่า ขอให้กลับไปอ่านที่ข้าพเจ้าตอบในกระทู้ก่อน แต่ตรงนี้จะขอแก้เรื่องที่คุณบอกว่าจิต เป็นนายร่างกายควบคุมได้ ขอตอบว่าไม่จริงคะ เพราะจิตไม่สามารถบังคับให้ร่างหยุดเป็นโรคมะเร็งได้ ไม่สามารถบังคับให้ไม่หิว หรือ ไม่ให้ต้องเข้าห้องน้ำ คุณบังคับหายป่วยได้ไหม ก็ไม่ได้ อย่างคนโดนวางยาสลบจิตยังอยู่แต่ไม่รู้สึกตัว แต่ถ้าวางนาน และกายตายเมื่อไร จิตก็แยกออกจากร่าง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2012
  14. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ....ท่าน telwada อาจจะหมายถึง วิญญานปัจจัย นาม-รูป...และนาม-รูปก็เป็นปัจจัยให้วิญญาน..ก็ได้...เหมือนไม้สองอันพิงกัน ถึงจะตั้งอยู่ได้:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2012
  15. คุณตุ๊ก

    คุณตุ๊ก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +131
    มันไม่มีอะไรเลย มันเบา โปร่ง โล่ง ก่อนเข้า หายใจ่สั้นมาก เร็วเหมือนใจจะขาดเลย
    แต่ถ้าไม่กลัว มันอยากเกิด อยากตายก็ปล่อยไป พอจิตไม่กลัวก็ โบ๊ะ...!!!!

    ไม่มีอะไรเลย ว่างเปล่าทุกอย่าง แม้แต่ตัวคุณก็ไม่มี ถ้าถึงตรงนั้นคุณจะรู้ได้เอง เพราะมันไม่เหมือน กะที่เราเจอบ่อยๆ ทุกวันที่ทำ ผมครั้งแรกยังงงๆ หลุดออกมาเลย ทุกวันนี้ก็ยังไม่คล่อง เข้าแทบไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่คิดว่าจะหันมา วิปัสนาครับ

    ลองฟังท่านอื่นดู แต่ผมเป็นแบบนี้ครับ
     
  16. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    เข้าไม่ได้เพราะอยากเข้า คือมีตัวอยาก
    รีเช็คครับ
    ค่อยๆให้ทำเหตุคือรู้ลมอย่างเดียว เดี๋ยวก็เข้าได้ใหม่ครับ ไม่ต้องตกใจ ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องอยาก ผ่อนคลายสบายๆ วางใจว่าได้ก็ดีไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
     
  17. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    ชอบ ข้อเขียนนี้ จัง (แต่ข้อเขียนอื่นๆ ก้อมีนิยาม ต่างๆกันไป)

    เราเอง มีอาการหายใจเหมือนมีท่อ ขนาดแปดนิ้วจากจมูกลงไปยังท้องเลย แล้วเวลาหายใจ รู้สึกเพียงท้องขยับเล็กน้อย แต่ไม่รู้สึกถึงลมหายใจผ่านเข้าออกเลย

    ภายในโปร่งโล่งเหมือนไม่มีอะไรเลย เคยเกิดนิมิตที่จิต โผล่ผลุบขึ้นมาเอง (โดยไม่ได้กำหนด) เห็น ดวงแก้วอยู่ในอก (ปัจจุบันใหญ่ขึ้นจนครอบตัวเองแล้ว)

    จิตมักมองเห็น พระเป็นแก้วใสแจ๋วแหววเป็นประจำ(แบบว่าอยู่ดีๆ ภาพโผล่ขึ้นมาเองไม่ได้กำหนด) พระแก้วนี้จะใสสุกสว่างมาก จากนั้น กำหนดจิตให้ละ ก้อจะเห็นแต่ความว่างเปล่า

    จิตจับไปที่กาย จะรู้เสมือนว่า เป็นท่อนไม้ท่อนฟืน (แข็งโป๊ก ไร้ความรู้สึก แม้ความเจ็บ ก้อไม่รู้สึก แม้ว่าจะเอาจิตไปจับหาความเจ็บ รู้เพียงว่ามีอะไรบางอย่างมา กระทบกระแทกเพียงเบาๆ)

    จริงๆ มีอาการอื่น อีกน้าจ้า แต่ไม่สามารถาสาธยายได้ ณ ที่นี้ คิคิ

    พระอาจารย์ ได้บอกไว้ว่า ทุกครั้งก่อนนั่งสมาธิ ให้อธิษฐานเสมอว่า หากจิตออกจากร่าง ให้ กำหนดเวลา กลับเข้าร่างด้วยเสมอ มิฉะนั้นจิตจะกลับเข้าร่างยาก หรือ ลืมที่จะกลับเข้าร่าง


    โดยรวม คิคิ ไม่รุ้ตัวเองเหมือนกัน น้าจ้า ว่าฌานไหน กำลังหาอ่านในเนท อยู่เหมือนกัน ว่า ฌาน 4 และ การสำเร็จปฐมฌาน คืออะไร และเป็นอย่างไร (เท่าที่อ่าน แต่ละสำนัก ให้นิยามไว้ไม่เหมือนกัน)
     
  18. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    อืมมมม เหมือน สภาพ ฌานค้างเลย

    การฝึกฌาน เพื่อที่จะให้เกิดปัญญาขึ้นที่จิต และเมื่อออกจากฌานแล้ว จิตยังคงมีสติอยู่ (สติในเชิง รู้แล้วละกิเลส ที่จะเข้ามา แม้ไม่อยู่ในสมาธิ)

    การฝึกสมาธิเพียงเพื่อให้จิตสงบ และหรือ รองรับการทำวิปัสสนา หรือ ใช้จิตปัญญาไตร่ตรองในขณะจิตได้สงบแล้ว และจิตนั้นเกิดปัญญาแล้ว (ไม่ใช่สมองปัญญา ที่ ถูกบังคับให้คิดและพิเคราะห์) ปัญญาแห่งจิต เพียงโยนคำถามเข้าไป คำตอบจะผุดขึ้นมาเอง

    อันนี้ สำคัญ น้าจ้า เมื่อ ออกจากสมาธิแล้ว อย่าให้ฌานค้าง
     
  19. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984

    ..งั้นต้อง..รีบหาบรรไดเลยครับ..อิอิ
     
  20. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    สภาพฌานที่4 จะเป็นอารมณ์ดิ่งหรือนิ่ง มีความรู้สึกว่าดิ่งหรือนิ่งเช่นนั้นเรียกว่ามีอารมณ์เดียว(เอกกัคคตารมณ์) ความสึกทางกายมีเบาบางมากจนถึงไม่มี ที่มีเพียงรู้ว่ามีกาย แต่ความยึดติดกับกายไม่มี ลมหายใจไม่เห็น เสียงภายนอกส่วนใหญ่ไม่ได้ยิน ถ้าดังมากก็จะได้ยินแต่เป็นการได้ยินแล้วผ่านไปเลย รู้ว่าเป็นเสียงแต่จะไม่สนใจว่าดังหรือเบาหรือเป็นเสียงอะไร เห็นความคิดชัดเจนจะเป็นคล้ายน้ำที่ค่อยๆไหล การคิดจะเห็นว่ามันค่อยๆคิดชัดเจนมาก
    ถ้าถึงฌานที่5 สภาวะจะเป็นคล้ายอากาศไปทั้งหมด ตัวเราก็หายไปตัว ความคิดเปลี่ยนเป็นนิมิตร และตัวเราก็จะเข้าไปปรากฏอยู่ในนิมิตรด้วย
    เจริญในธรรมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2013

แชร์หน้านี้

Loading...