เข้าฌาน แล้วระลึกชาติ

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย Tamjugg, 9 ตุลาคม 2012.

  1. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    "หากว่าวาจาแม้ตั้งพัน ประกอบด้วยบทอันไม่เป็นประโยชน์ไซร้ บทอันเป็นประโยชน์บทหนึ่งที่บุคคลฟังแล้วย่อมสงบ ประเสริฐกว่า" (๒๕/๑๘) #ธรรมะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2012
  2. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    เวลาเพื่อนคุณพูดอะไรไม่ตรงกับสิ่งที่อยู่ในใจคุณ คุณขว้างโทรศัพท์ทิ้ง แต่ไม่กล้าไปพูดกับเพื่อนหรือยังไงกัน :)

    ถ้าคุณคิดว่า หนทางปฏิบัติของคุณมันถูกต้องจริง เป็นธรรมแท้ที่ไม่กลัวการพิสูจน์ ก็ไปแก้ต่างที่กระทู้นู่นสิ จะมาพูดอะไรกับผม ผมไม่ใช่คนบอกว่าแนวปฏิบัติคุณหลงทางนิ ผมเป็นแค่คนที่เอาข่าวมาบอก
     
  3. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    "บุคคลผู้กล่าวคำไม่จริง ย่อมเข้าถึงนรก หรือแม้ผู้ใดทำบาปกรรมแล้ว กล่าวว่ามิได้ทำ ผู้นั้นย่อมเข้าถึงนรกเช่นเดียวกัน" (๒๕/๓๒) #ธรรมะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2012
  4. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    "การสำรวมด้วยกายเป็นการดี การสำรวมด้วยวาจาเป็นการดี การสำรวม ด้วยใจเป็นการดี การสำรวมในที่ทั้งปวงเป็นการดี บุคคลสำรวมในที่ทั้งปวงแล้ว มีความละอายต่อบาป เรากล่าวว่าเป็นผู้รักษาตน ฯ" (๑๕/๓๓๙) #ธรรมะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2012
  5. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    มาดูธรรมที่แท้จริงกันดีกว่า ว่าเป็นเช่นไร...


    พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 229

    ข้อความบางตอนจากเกวัฏฏสูตร

    [๓๓๙] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนเกวัฏฏะ ปาฏิหาริย์ ๓ อย่าง

    นี้ เราทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเองแล้ว จึงประกาศให้รู้ ปาฏิหาริย์ ๓

    อย่างคือ อิทธิปาฏิหาริย์ อาเทสนาปาฏิหาริย์ อนุสาสนีปาฏิหาริย์. ดูก่อนเกวัฏฏะ

    อิทธิปาฏิหาริย์เป็นไฉน. ภิกษุในธรรมวินัยนี้ย่อมแสดงฤทธิ์ได้หลายอย่าง คือ

    คนเดียวเป็นหลายคนก็ได้ หลายคนเป็นคนเดียวก็ได้ ทำให้ปรากฏก็ได้ ทำให้

    หายไปก็ได้ ทะลุฝากำแพง ภูเขาไปก็ได้ ไม่ติดขัดเหมือนไปในที่ว่างก็ได้ ผุด

    ขึ้นดำลงในแผ่นดิน เหมือนในน้ำก็ได้ เดินบนน้ำไม่แยกเหมือนเดินบน

    แผ่นดินก็ได้ นั่งบัลลังก์เหาะไปในอากาศเหมือนนกก็ได้ ลูบคลำพระจันทร์

    พระอาทิตย์ซึ่งมีฤทธิ์มีอานุภาพมากก็ได้ ใช้อำนาจทางกายไปตลอดพรหมโลก

    ก็ได้.

    ผู้มีศรัทธาเลื่อมใสบางคนเห็นภิกษุนั้นแสดงฤทธิ์ได้หลายอย่าง คือ คน

    เดียวทำให้เป็นหลายคนก็ได้......คนที่มีศรัทธาเลื่อมใสนั้นจะบอกแก่คนที่ไม่มี

    ศรัทธาไม่เลื่อมใสคนใดคนหนึ่งว่า พ่อมหาจำเริญ น่าอัศจรรย์จริงหนอ น่าพิศวง

    จริงหนอ ความที่สมณะมีฤทธิ์มาก. มีอานุภาพมาก ข้าพเจ้าได้เห็นภิกษุรูปโน้น

    แสดงฤทธิ์ได้หลายอย่าง......คนที่ไม่มีศรัทธา ไม่เลื่อมใส จะพึงกล่าวกะคนที่

    มีศรัทธาเลื่อมใสอย่างนี้ว่า นี่แน่ะพ่อคุณ มีวิชาอยู่อย่างหนึ่งชื่อว่า คันธารี

    ภิกษุรูปนั้นแสดงฤทธิ์ได้หลายอย่าง........ด้วยวิชาชื่อว่า คันธารีนั้น....คูก่อน

    เกวัฏฏะท่านสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน คนผู้ไม่มีศรัทธา ไม่มีความเลื่อมใส

    นั้น จะพึงกล่าวอย่างนั้น กะคนผู้มีศรัทธามีความเลื่อมใสนั้นบ้างไหม. พึง

    กล่าว พระเจ้าข้า. ดูก่อนเกวัฏฏะ เราเห็นโทษในอิทธิปาฏิหาริย์อย่างนี้แหละ จึงอึดอัด ระอา รังเกียจอิทธิปาฏิหาริย์.

    [๓๔๐] ดูก่อนเกวัฏฏะ ก็อาเทสนาปาฏิหาริย์เป็นไฉน ภิกษุในธรรม

    วินัยนี้ย่อมทายใจ ทายความรู้สึกในใจ ทายความตรึก ทายความตรองของสัตว์

    อื่นของบุคคลอื่นได้ว่า ใจของท่านเป็นอย่างนี้บ้าง ใจของท่านเป็นไปโดย

    อาการนี้บ้าง จิตของท่านเป็นดังนี้บ้าง. บุคคลบางคน มีศรัทธาเลื่อมใสเห็น

    ภิกษุนั่นทายใจ ทายความรู้สึกในใจ ทายความตรึก ทายความตรองของสัตว์

    อื่นบุคคลอื่นได้ ว่า ใจของท่านเป็นอย่างนี้บ้าง ใจของท่านเป็นไปโดยอาการ

    นี้บ้าง จิตของท่านเป็นดังนี้บ้าง. ครั้นแล้วผู้มีศรัทธาเลื่อมใสบอกแก่คนที่ไม่มี

    ศรัทธา ไม่มีความเลื่อมใสคนใดคนหนึ่งว่า พ่อมหาจำเริญ น่าอัศจรรย์จริงหนอ

    น่าพิศวงจริงหนอ ความที่สมณะมีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก ข้าพเจ้าได้เห็น

    ภิกษุรูปนี้ทายใจ ทายความรู้สึกในใจ ทายความตรึก ทายความตรอง ของ

    สัตว์อื่นของบุคคลอื่นได้ว่า ใจของท่านเป็นอย่างนี้ ใจของท่านเป็นไปโดย

    อาการอย่างนี้ จิตของท่านเป็นดังนี้ ครั้นแล้วผู้ไม่มีศรัทธาไม่เลื่อมใสจะพึง

    กล่าวกะผู้มีศรัทธา ผู้มีความเลื่อมใสว่า นี่แน่พ่อคุณ มีวิชาอยู่อย่างหนึ่งชื่อ

    มณิกา ภิกษุรูปนั้นทายใจ ทายความรู้สึกในใจ ทายความตรึก ทายความ

    ตรองของสัตว์อื่นของบุคคลอื่นได้ว่า ใจของท่านเป็นอย่างนี้ ใจของท่านเป็น

    ไปโดยอาการอย่างนี้ จิตของท่านเป็นดังนี้ ด้วยวิชาชื่อว่ามณิกานั้น ดูก่อน

    เกวัฏฏะ ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน คนผู้ไม่มีศรัทธาไม่เลื่อมใสนั้น

    จะพึงกล่าวกะคนผู้มีศรัทธาเลื่อมใสนั้นบ้างไหม พึงกล่าวพระเจ้าข้า ดูก่อน

    เกวัฏฏะ เราเห็นโทษในอาเทสนาปาฏิหาริย์อย่างนี้แล จึงอึดอัด ระอา รังเกียจ อาเทสนาปาฏิหาริย์.

    [๓๔๑] ดูก่อนเกวัฏฏะ อนุสาสนีปาฏิหาริย์เป็นไฉน ดูก่อนเกวัฏฏะ

    ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมพร่ำสอนอย่างนี้ว่า ท่านจงตรึกอย่างนี้ อย่าตรึกอย่าง

    นั้น จงใส่ใจอย่างนี้ อย่าใสใจอย่างนั้น จงละสิ่งนี้ เข้าถึงสิ่งนี้อยู่. ดูก่อน

    เกวัฏฏะ นี้เรียกว่าอนุสาสนีปาฏิหาริย์

    [๓๔๒] ดูก่อนเกวัฏฏะ ข้ออื่นยังมีอยู่อีก พระตถาคตอุบัติขึ้นในโลก

    นี้เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ฯลฯ ดูก่อนเกวัฏฏะ แม้นี้ก็เรียกว่า

    อนุสาสนีปาฏิหาริย์. ภิกษุเข้าถึงทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌานอยู่. ดูก่อน

    เกวัฏฏะ ข้อนี้ท่านเรียกว่า อนุสาสนีปาฏิหาริย์ ฯลฯ ภิกษุนำเข้าไปน้อม

    เข้าไปซึ่งจิตเพื่อญาณทัสสนะ. ดูก่อนเกวัฏฏะ นี้ ท่านเรียกว่า อนุสาสนี-

    ปาฏิหาริย์. ฯลฯ ภิกษุย่อมรู้ว่า ไม่มีจิตอื่นเพื่อเป็นอย่างนี้อีก ข้อนี้ท่าน

    เรียกว่าอนุสาสนีปาฏิหาริย์. ดูก่อนเกวัฏฏะ ปาฏิหาริย์ ๓ อย่างนี้แล เราทำ

    ให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเอง แล้วจึงประกาศให้รู้. ฯลฯ



    รู้แบบนี้แล้ว ยังจะให้คนสะสม ไขว่คว้าหามาซึ่ง สิ่งที่พระพุทธองค์รังเกียจ อีกหรือ?
     
  6. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา
    โสก ปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ
    อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส
    สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ จตฺตาโร สติปฏฺฐานาฯ

    แปลความว่า "ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ทางที่ไปอันเอก
    เพื่อความบริสุทธิ์หมดจดของสัตว์ทั้งหลาย
    เพื่อความก้าวล่างจากความโศก ความร่ำไห้ เพื่อความดับสิ้นไปจากทุกข์และโทมนัส
    เพื่อบรรลุธรรมวิเศษที่ควรรู้ เพื่อกระจำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน
    ทางนั้น คือ สติปัฏฐาน ๔"

    สติปัฐาน 4 นี้มีอะไรบ้าง ปฏิบัติอย่างไ

    http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=10&A=6257&Z=6764

    ทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่มีการสอนให้ย้อนดูภพชาติในอดีต เพื่อการหลุดพ้น หากผู้ใดอ้างเช่นนั้น ว่าภิญญาย้อนภพชาติในอดีตตัวนี้ เป็นตัวทำให้หลุดพ้นได้ ผู้นั้นกล่าวตู่ธรรมของพระพุทธองค์

    การย้อนไปดูภพชาติในอดีต ถ้าจะมีอานิสงส์บ้าง ก็ใช้สำหรับผู้ที่ศรัทธาในพระพุทธองค์ยังง่อนแง่น สัมมาทิฎฐิยังสั่นคลอน ไปดูมาแล้ว อาจจะเพิ่มศรัทธาได้บ้าง แต่ก็เห็นเยอะไป ที่ไปดูแล้ว กลับไม่หลุดในวังวนแห่งภพชาติ เข้าไม่ถึงแก่นแท้ที่พระพุทธองค์สอน
     
  7. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    "บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นคนเลวโดยศีล สมาธิ ปัญญา บุคคลเห็นปานนี้ ไม่ควรเสพ ไม่ควรคบ ไม่ควรเข้าไปนั่งใกล้ นอกจากจะเอ็นดูอนุเคราะห์กัน" (๒๐/๔๖๕) #ธรรมะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2012
  8. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320

    "ดู ก่อนอานนท์ ธรรมและวินัยใดแล ที่เราได้แสดงแล้ว บัญญัติแล้ว แก่เธอทั้งหลาย, ธรรมและวินัยนั้นแล จักเป็นศาสดาของเธอทั้งหลาย โดยกาลล่วงไปแห่งเรา "

    Tamjugg อย่าแย้งพระศาสดา
    อย่าเห็นขัดแย้งในสิ่งที่พระศาสดาบัญญัติไว้ว่าน่ารังเกียจ อย่าเห็นกงจักเป็นดอกบัว
     
  9. TPC

    TPC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +2,435
    การกล่าวติเตียนผู้อื่น ด้วยความขาดสติก็ดี ด้วยความขาดเมตตาธรรมก็ดี หรือด้วยจิตอันมีกิเลสครอบงำก็ดี ย่อมมิใชีวิถีทางของผู้บรรลุธรรมหรือผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้เจริญผู้อันได้ชื่อว่าผ่านการผึกตน ฝึกจิตมาดีแล้ว

    ผู้บรรลุธรรมและเป็นผู้เจริญเป็นผู้ปฏิบัติจิตมามากแล้วย่อมกล่าวเฉพาะธรรม อันเป็นกลาง มิมีประโยชน์ที่จะไปกล่าวกระทบหรือตำหนิผู้อื่น และควรกล่าวเฉพาะธรรมอันเป็นเครื่องเสียดแทงเพื่อให้เขาผู้อื่นเกิดปัญญา เข้าใจในธรรมอันเป็นเครื่องนำจิตให้ผ่านพ้นสังโยชน์ทั้งหลายได้บริบูรณ์
    หากท่านผู้เจริญทำได้เยี่ยงนี้ก็ย่อมเกิดประโยชน์มาก ทั้งกับผู้อื่นและตนเอง เพราะตนยังทำตนให้เป็นที่พึ่งแห่งตนและผู้อื่นแล้ว

    อนึ่ง การปาฐกถาธรรมควร ให้โอกาสแก่ผู้อื่นอย่างเต็มที่เพื่อให้เขาได้แสดงธรรมเพื่อยังปัญญาของเราให้รู้ว่าเขามีภูมิธรรมมากน้อยประการใด เพื่อการที่จะได้สงเคราะห์ในธรรมที่เหมาะสมหรือสมควรแก่เขา
    ผู้เจริญแล้วจึงไม่ควรประมาท ในตน ในผู้อื่น และในธรรมที่ตนและผู้อื่นกล่าวแสดง

    กระผมมิได้ว่ากล่าวหรือกระทบผู้ใด หากแต่คำกล่าวของกระผมกล่าวอย่างเป็นกลางและผู้เจริญทั้งหลายควรน้อมนำมาพิจารณาในสิ่งอันควรกระทำทั้ง ด้วยกาย ก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี เพื่อความเจริญยิ่งๆขึ้นไปครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2012
  10. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    อ้าว คุณTPC มาถึงนี่เลย555555
    อยากให้เขามาเรียนกับเราจังเนาะครับ
     
  11. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    "ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะไม่รู้แจ้ง แทงตลอดธรรม ๔ ประการ เราและพวกเธอจึงเร่ร่อนท่องเที่ยวไปสิ้นกาลนานอย่างนี้ ๔ ประการเป็นไฉน"

    "เพราะไม่รู้แจ้งแทงตลอดศีลอันเป็นอริยะ เราและพวกเธอจึงเร่ร่อนท่องเที่ยวไปสิ้นกาลนาน"

    "เพราะไม่รู้แจ้งแทงตลอดสมาธิอันเป็นอริยะ ... ปัญญาอันเป็นอริยะ ... วิมุตติอันเป็นอริยะ เราและพวกเธอจึงเร่ร่อนท่องเที่ยวไปสิ้นกาลนาน อย่างนี้ ฯ"

    (๑๐/๑๐๙) #ธรรมะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2012
  12. ใจมีธรรม

    ใจมีธรรม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +8
    ด้วยความเข้าถึงธรรมอันน้อยนิดของเรา ไม่ได้สนันสนุนหรือติเตียนใครว่าผิด หรือถูก ทุกคนมีทางเดินของตน ความคิดของเราคิดว่า การได้อภิญญาเป็นสิ่งที่ได้มายากจากการทำสมาธิ เราเองก็เคยอยากได้ แต่ก็เคยสงสัยว่า ถ้าได้มาจริง ก็จะเป็นกิเลส ไม่จบสิ้น อาจเกิดความหลงในกิเลสในธรรม คงเป็นอุปสรรคของนิพพานเสียเปล่า

    (หลวงพ่อท่านก็สอนทางที่จะได้อภิญญาเหมือนกัน แต่ท่านก็สอนบอกทางไปนิพพานโดยไม่ผ่านการได้อภิญญาอีกเหมือนกัน)
     
  13. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    "ผู้ใดสรรเสริญผู้ที่ควรถูกติ หรือติผู้ที่ควรได้รับความสรรเสริญ ผู้นั้นชื่อว่าสั่งสมโทษด้วยปาก เพราะโทษนั้น เขาย่อมไม่ประสบความสุข" (๑๕/๖๐๕) #ธรรมะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2012
  14. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    "คนพาลไม่พิจารณาเห็นตามความเป็นจริง ย่อมเดือดร้อนด้วยเหตุ ๒ อย่าง คือ มีใจฟูขึ้นเพราะเหตุแห่งสุข ๑ มีใจฟุบลงเพราะเหตุแห่งทุกข์ ๑" (๒๖/๓๘๒) #ธรรมะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2012
  15. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    "การไม่ล่วงละเมิดทางกาย การไม่ล่วงละเมิดทางวาจา การไม่ล่วงละเมิดทางกายและวาจา นี้เรียกว่า ความถึงพร้อมด้วยศีล" (๓๖/๗๖) #ธรรมะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2012
  16. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    "ผู้ใดสรรเสริญผู้ที่ควรถูกติ หรือติผู้ที่ควรได้รับความสรรเสริญ ผู้นั้นชื่อว่าสั่งสมโทษด้วยปาก เพราะโทษนั้น เขาย่อมไม่ประสบความสุข" (๑๕/๖๐๕) #ธรรมะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2012
  17. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    "บุรุษคบคนเลว ย่อมเลวลง" (๒๐/๔๖๕) #ธรรมะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2012
  18. tanathummakit

    tanathummakit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +66
    คำกล่าวนี้เป็นจริงทุกประการเท่าที่ผมได้รับจากประสพการณ์จากการนั่งสมาธิ ผมไม่มีความรู้ในเรื่องหลักธรรมอะไรมากมาย ไม่สามารถอธิบายหรือแนะนำใครได้ ผมรู้อยู่อย่างเดียวเท่านั้นคือผมมีความสุขที่ได้สวดมนต์ นั่งสมาธิ แผ่เมตตา เจริญภาวนา รักษาศีล ไม่อยาก ไม่ยึด ไม่ติด ไม่สงสัย ทำไปเรื่อยๆ ใจหยุด ใจนิ่ง อยากเห็นก็เห็นได้ อยากได้ยินก็ได้ยินได้ อยากรู้สึกก็รู้สึกได้ พอถึงระดับหนึ่งเมื่อกายทิพย์แยกออกจากกายหยาบ อยากไปก็ไปได้ แต่ไม่เคยคิดจะไป ไม่ใช่หนทางที่ตั้งใจ แค่ต้องการเอาใจหยุด นิ่งๆ มองแล้วปลง ทุกสิ่งล้วนเป็นอนิจจัง ข้างหน้ายังมีทางให้ไปต่อ ที่สุดของที่สุดมีแดนนิพานเป็นอารมณ์ นี้คือสภาวะที่ผมใช้ในการกำหนดในการนั่งสมาธิอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน บุญใดที่ข้าพเจ้าได้ทำมาตั้้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ขอบุญนั้นจงเป็นพลังคำว่าไม่สำเร็จจงอย่าได้เกิดกับข้าพเจ้า ผมคิดเท่านี้จริงๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ตุลาคม 2012
  19. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    "ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุไม่หมั่นเจริญภาวนา แม้จะพึงเกิดความปรารถนาขึ้นอย่างนี้ว่า โอหนอ ขอจิตของเราพึงหลุดพ้นจากอาสวะเพราะไม่ถือมั่น ก็จริง แต่จิตของภิกษุนั้นย่อมไม่หลุดพ้นจากอาสวะเพราะไม่ถือมั่น ข้อนั้นเพราะเหตุไร"
    "จะพึงกล่าวได้ว่า เพราะไม่ได้เจริญ เพราะไม่ได้เจริญอะไร เพราะไม่ได้เจริญสติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน ๔ อิทธิบาท ๔ อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ อริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘"

    "เปรียบเหมือนแม่ไก่ มีไข่อยู่ ๘ ฟอง ๑๐ ฟอง หรือ ๑๒ ฟอง ไข่เหล่านั้น แม่ไก่กกไม่ดี ให้ความอบอุ่นไม่พอ ฟักไม่ดี แม่ไก่นั้น แม้จะพึงเกิดความปรารถนาขึ้นอย่างนี้ว่า โอหนอ ขอให้ลูกของเราพึงใช้ปลายเล็บเท้าหรือจะงอยปากเจาะกระเปาะไข่ ฟักตัวออกมาโดยสวัสดี ก็จริง แต่ลูกไก่เหล่านั้นไม่สามารถที่จะใช้ปลายเล็บเท้า หรือจะงอยปากเจาะกระเปาะไข่ ฟักตัวออกมาโดยสวัสดีได้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะแม่ไก่กกไม่ดี ให้ความอบอุ่นไม่พอ ฟักไม่ดี ฉะนั้น" (๒๓/๖๘) #ธรรมะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2012
  20. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    " ดูก่อนกิมพิละ เมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ในพระธรรมวินัยนี้ ไม่เคารพ ไม่ยำเกรง ในพระศาสดา ในพระธรรม ในพระสงฆ์ ในการศึกษา ไม่เคารพยำเกรงกันและกัน. นี้แล กิมพิละ เป็นเหตุปัจจัยที่ทำให้พระสัทธรรมไม่ตั้งอยู่ได้นานในเมื่อตถาคตปรินิพพานแล้ว."

    ปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๒/๒๗๕
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...