ไครรู้จักบ้านสวน พีระมิด มั่งครับ

เห็นด้วยกับคุณธรรมสถิตครับ เพราะก่อนหน้านี้ผมก็สงสัยและคิดต่างๆนาๆเพราะได้รับข้อมูลผิดๆมาจากเฟสบุ๊คปลอม ซึ่งไอ้คลิปที่เห็นๆอยู่นี่กลุ่มเฟสบุ๊คปลอมเขาแอบลักลอบนำมาเผยแพร่ ก็ไม่รู้ว่า คุณNataraja ไปเอามาได้อย่างไร เพราะผมรู้มาว่าเขาไม่ให้เผยแพร่เพราะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้และไม่ให้ปัญญาแก่ผู้คนเขาจึงไม่นำออกมาเผยแพร่ การที่คนอื่นนำออกมาแบบนี้เท่ากับว่าเป็นการผิดศีลข้อ2โดยตรง ซึ่งจะอ้างว่ารู้ไม่รู้ก็คงไม่สำคัญเพราะหากทุกคนทำบาปแล้วบอกว่าไม่รู้ กฏแห่งกรรมก็คงไม่ต้องมีกัน
ผมเริ่มศึกษาที่บ้านสวนและลองฟังดูว่าเขาสอนอะไรบ้าง เรียกว่าจับผิดก็ว่าได้ว่าเขาสอนบิดเบือนหรือเปล่า หรือบางสิ่งที่เขาบอกว่าหายทันทีนั้นจริงหรือเปล่า

จนได้มาเจอกับตัวเองจะๆว่าอาการที่ปวดหลังมันหายทันที แม้ว่าที่ผ่านมาจะรักษาอย่างไรก็ไม่หาย เลยได้มาทบทวนกรรมตนเองว่าตนเองเคยทำร้ายหลังหนูตัวหนึ่งจนเอาได้รับความทุกข์ทรมานมาก และเขายังสอนศีล5ที่ละเอียดมาก และพิสูจน์กฏแห่งกรรมที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนว่า เขาสามารถทำให้มันจับต้องได้ ตรงตามหลักที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ทุกอย่าง เป็นการแสดงอานุสาสนีปาฏิหาริย์ที่ชัดเจนมาก ผมถึงเข้าใจว่า ข้อมูลบางอย่างที่ได้รับมามันผิดทั้งหมด และผมก็เพียงแค่อ่านแล้วรู้สึกและคิดไปเองว่ามันเหลือเชื่อเกินไป และเอาพีระมิดอะไรต่างๆมาทำลายศาสนาพุทธหรือเปล่า แต่ก็ลืมว่าตัวเองยังไม่เคยเข้าไปพิสูจน์เลยจนได้เข้าไปลองดูและเห็นกับตัวเอง ผมถือว่าที่นี่เป็นที่สอนธรรมะโดนใจคนยุคใหม่ที่ชอบอะไรที่เป็นเหตุเป็นผล ดับที่เหตุ ผลก็ดับได้ และไม่สอนให้คนเชื่องมงายจนกว่าจะได้พิสูจน์ตามหลักกาลามสูตรซะก่อน ดังนั้นหลายๆท่านตอนนี้ก็ยังอาจเคยเป็นเหมือนผมที่นั่งอ่านเสพข้อมูลไปคิดไปต่างๆนาๆ ไงก็ลองพิสูจน์ด้วยตนเองดีกว่า

ผมได้ข่าวว่าเขากำลังจะจัดงานในวันศุกร์ที่19ตุลาคมนี้ ซึ่งจะมีทั้งคนหลากหลายอาชีพมาระดมกันทำ Workshop เรื่องการช่วยเหลือผู้คนในวันเกิดภัยพิบัติใหญ่ เพราะสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาทำ Workshopกัน ซึ่งผมก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย ผมเห็นกับตาเลยว่าคนที่พิการมาตั้งแต่เด็กเดินขาบิดคด หายทันที และคนหูตึงก็กลับมาได้ยินชัดเจน แบบผมก็หาสาเหตุไม่ได้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น และเขาให้คนที่มาจากทั่วประเทศลองใช้วิธีของเบื้องบนรักษาคนป่วยในกลุ่มที่ทำ Workshopด้วยกัน คนธรรมดารักษากันเอง และหายพร้อมกันทั้งหมดเลย

ซึ่งนี่คือการเตรียมตัวเพื่อช่วยเหลือคนที่บาดเจ็บในวันเกิดภัยพิบัติ หากผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ผมก็คงไม่เชื่อว่าทำได้จริง แต่นี่คือเรื่องจริงที่ผมเห็นมากับตา บางคนน้ำตาไหล ดีใจที่ตนเองหายทันที บางคนเริ่มสนใจอย่างจริงจังที่จะเรียนรู้วิธีการช่วยตัวเองและคนอื่นหากภัยพิบัติใหญ่เกิดขึ้นจริงๆว่าทำอย่างไรให้คนรอดชีวิต ปลอดภัยอย่างเป็นรูปธรรม พิสูจน์ได้ และที่สำคัญคือเรื่องจริงมันยิ่งกว่านิยายเสียอีก ใครจะว่าผมบ้าผมก็ยอมหากตอนนี้ผมสามารถรักษาศีลห้าให้บริสุทธิ์ ยึดมั่นในพระรัตนตรัย และใช้วิธีการช่วยคนอย่างที่เขาสอน ซึ่งทั้งหมดนี่คือสิ่งที่เขาสอนผมมา ผมมีความสุขและช่วยคนอื่นได้ ใครจะว่าอย่างไรผมก็คงไม่สนใจ อาจบ้าในสายตาคนอื่นแต่ตนเองมีความสุข รักษาศีลห้ามีพระนิพพานเป็นจุดหมายปลายทาง และช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ได้ ผมยอมครับ

 

ถ้าใครที่สงสัยก็"เชิญพิสูจน์ให้เห็นกับตาตัวเองเลยดีกว่านะครับ" อย่างที่คุณ Willingboon บอก ไหนๆงานนี้เขาก็ได้จัดขึ้นแล้ว
จะมานั่งฟังคนอื่น ที่เป็นใครก็ไม่รู้เอาข้อมูล โน่นนิด นี่หน่อย ที่มีแค่ด้านเดียว แล้วก็สรุปเอาตามความคิดของตัวเอง
ตัวผมเองก็ได้พิสูจน์มาแล้วเหมือนกัน แต่ไม่ต้องเชื่อผมนะ "พิสูจน์ด้วยตัวเอง" นะครับ

 

อยากรู้ข้อมูลจริงต้องพิสูจน์ค่ะ พระพุทธเจ้า
ท่านสอนให้เราเป็นนักวิทยาศาสตร์
และเสาร์ ที่ 19 ต.ค.นี้ ดิฉันคนหนึ่งก็อยากที่จะลองมีส่วนร่วมกับงานนี้ด้วย
เห็นว่ามีการทำ workshop ปฏิบัติกันให้เห็นเป็นรูปธรรมเลย
โดยส่วนตัวดิฉันไม่ได้มีอาการเจ็บป่วยอะไรค่ะ
มีก็แต่ความจน ขาดสภาพคล่องทางการเงิน
แล้วก็มีปัญหา การงาน อะไรอีกเยอะแยะ
ชีวิตก็มีปัญหาเหมือนหลายๆ ท่านน่ะค่ะ
ถ้าที่ไหน สามารถทำให้เราหายจน หายทุกข์
เจริญก้าวหน้าในการงานได้ ทั้งทางโลกทางธรรมได้
ดิฉันไปหมดแหล่ะค่ะ ต้องขอพิสูจน์กันสักตั้ง
แล้วที่นี่ก็ให้คำตอบกับดิฉันได้ ชัดเจนที่สุด
เป็นที่ที่เรานำคำสอนของพระพุทธเจ้า
มาใช้ในชีวิตประจำวันได้เห็นผลชัดเจน
แล้วยังจะมีของแถมเป็นหายโรคภัยไข้เจ็บด้วย อันนี้เค้าให้แบบฟรีๆ
ไม่เสียกะตังสักบาท ยังไงก็ต้องพิสูจน์กันล่ะค่ะ

 

ได้รู้จักบ้านสวน เหมือนได้ศึกษาธรรมะแบบเข้าใจง่าย

นำมาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

พูดทุกรายละเอียดในเรื่องศีล 5

บางเรื่องที่เราสงสัยว่าทำแบบนี้ผิดมั้ย

ก็มีคำตอบให้ โดยเอาศีล 5 มาเทียบ

เอาความเดือดร้อน ความเบียดเบียน ล่วงเกิน ผู้อื่นหรือไม่

มาเป็นเกณฑ์การตัดสิน การกระทำของเราได้

ทำให้ความคิด การกระทำแบบง่าย ๆ หรือคิดเข้าข้างตัวเอง

แบบที่เคยเป็นมา

เปลี่ยนมาคิดทุกอย่างให้ละเอียดมากขึ้น คิดถึงจิตใจคนอื่น

และอย่างเรื่องหนี้สงฆ์ หนี้แผ่นดิน ก็ไม่เคยรู้มาก่อน

เพิ่งมาเข้าใจที่นี่ ก็สามารถเปลี่ยนวิธีคิด การกระทำใหม่

ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ล่วงเกินใครอีก

ชีวิต จิตใจ ก็สงบ และมีความสุขขึ้นจริง

ลองเข้าไปอ่านดูก็ได้

www.baansuanpyramid.com

แต่อยากเตือนด้วยความเป็นห่วงว่า หากยังไม่เข้าใจอะไรลึกซึ้ง

จงอย่าตัดสิน คิด ล่วงละเมิด หรือปรามาสใคร

เพราะโทษ หรือกรรมทั้งหลายที่คิดลบ จะตกอยู่กับตัวเราเองทั้งหมด

 

ศุกร์ 19 ต.ค.55

ชมบารมีพระศรีอาริย์+ธรรมทานบำบัด

+เตือนภัยพิบัติ+Workshop ณ บ้านสวนพีระมิด


ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.facebook.com/#!/Baansuanpyramid?fref=ts

 

ขอแสดงความเห็นเรื่องรหัส อ.อุบล ช่วยด้วย นะคะ

เห็นมีคนถามว่า ทำไม ไม่ใช้พระพุทธเจ้าช่วยด้วย

อันนี้ คิดเองนะคะ ว่า..

ถ้าเราใช้คำว่าพระพุทธเจ้า

คนที่นับถือคริสต์ อิสลาม เค้าจะได้ใช้รหัสนี้เหรอคะ

ก็พวกเขาไม่ได้นับถือพระพุทธเจ้า เหมือนเรานี่นา


แต่คนทุกศาสนาก็มีความทุกข์ มีเจ็บป่วยเหมือนกันทุกคน

แล้วเราจะมาแบ่งแยกศาสนากันทำไม ทุกคนต่างเป็นพี่น้อง

เป็นเพื่อร่วมโลกของเรา ถ้าเบื้องบนส่งรหัสจักรวาลนี้มา

ช่วยจริง ทุกคนบนโลก ก็ควรมีสิทธิ์อย่างเท่าเทียมกันใช่มั้ย


ใช้รหัสแบบฟรี ๆ ไม่เสียตังค์

ไม่ต้องกิน ไม่ต้องทา ไม่มีความเสี่ยงใด ๆ ต่อชีวิต

ใช้ไม่ได้ผล ก็ไม่เสียหายอะไร


แต่ถ้าใช้ได้ผลดี ช่วยให้ชีวิตดีขึ้นจริง

แล้วค่อยมาสนใจค้นหา ว่าอ.อุบล เป็นใคร

ท่านทำยังไง จึงทำให้เราหายทุกข์ได้ ดีกว่านะคะ

 

เคยเข้าไปศึกษาเวปบ้านสวนพีระมิด เขาบอกว่าถ้าดูรายการคุยไปแจกไป ของ อ. อุบล

แล้วอนุโมทนาหน้าจอขณะดูรายการก็หายได้ เราก็ขอลองหน่อยซิ มันจะเป็นอย่างที่เขา

ว่ากันหรือเปล่า ตอนนั้นตัวเองปวดไหล่ขวา เห็นเขาทำบุญก็อนุโมทนากับเขา เขามี

อาการเจ็บป่วยมาบำบัดที่บ้านสวนพีระมิดแล้วหาย เราก็อนุโมทนาไปกับเขา พร้อมกับ

สังเกตตัวเองไปด้วย ผ่านไปประมาณ 20 นาที ลองยกแขนขวา หมุนไหล่ เอ๊ะ ได้ผล

อย่างเขาว่าจริง ๆ ด้วย เพราะอาการปวดไหล่เบาโล่ง เหลืออาการปวดเล็กน้อย ไม่ต้อง

กินยาก็หายได้ ยังไม่ต้องเชื่อนะคะ ลองพิสูจน์ดูก่อน

 

มารายงานผลหลังจากที่สงสัยในกระแสบ้านสวนพีระมิดมานาน เราได้ลองเข้า website และก็แอบติดตามดูรายการคุยไปแจกไป เราได้ดูตอนที่อ.อุบลไปทำกิจกรรมที่บ้านไร่ปลายตะวัน (สถานปฏิบัติธรรม) เห็นว่ามีพระดังจากทางเหนือ แต่เราจำชื่อไม่ได้มาด้วย และในรายการก็มีนักการเมืองชื่อดัง เด็ก คนแก่ให้ความเคารพสักการะอ.อุบลมาก แถมเขาหายจากโรคกันด้วย

ล่าสุดทางบ้านสวนเขามีกิจกรรมธรรมะบำบัดเราเลยลองสมัครดู แอบตื่นเต้นนิดหน่อย วันที่เดินทางไปร่วมกิจกรรม แอบสังเกตุคนที่เขาใส่เสื้อบ้านสวนเขาก็มาทักทายอำนวยความสะดวกดีมาก แล้วที่ประทับอย่างแรกคือ ธรรมเนียมการยกมือไหว้ เดินไปไหนเขาก็ยกมือไหว้ทักทายกันตลอดเวลา

ได้ฟังอ.อุบลพูดธรรมะแบบง่ายๆ ก็เน้นเรื่องศีล 5 แต่พูดแล้วน่าสนใจฟังอ่ะคือ สั้นๆ ง่ายๆกระชับ แต่กระแทกใจมาก มีประโยคหนึ่งที่ประทับคือ “คุณเชื่อในพระพุทธเจ้าไหม มีความสงสัยในคำสอนของท่านไหม….ถ้าเชื่อท่านบอกให้รักษาศีล 5 แล้วทำไมถึงไม่ทำ”, แล้วก็สอนเรื่องการทำบุญศีล ทาน ภาวนาแต่ ที่บ้านสวนจะเน้นคือการทำทานแบบธรรมทานและอภัยทาน อันเป็นทานที่ได้บุญสูงสุด อันเป็นที่มาเรื่องการบำบัดโดยเน้นให้คนสารภาพบาป และท่านก็เฉลยเรื่องธรรมทานว่า การที่คนออกมาสารภาพความผิดของตนเอง เราจะเป็นตัวจุดประกายให้คนอื่นเขานึกถึงบาปถึงกรรมของตนเองออกด้วย

ก่อนเดินทางไปร่วมกิจกรรมก็มีอาการปวดบ่ามาก ช่วงที่อ.อุบลไล่ศีลแต่ละข้อพอดีอ.ถามว่าใครมีอาการหลงเหลือ ตอนนั้นอารมณ์อย่างทดลองว่าของจริงหรือเปล่า อ.ก็เลยบอกว่าเป็นกรรมจากที่ทำงานประเภท รับเงินเดือนเต็มแต่ทำงานไม่เต็มร้อย แล้วก็ให้สารภาพความผิดของตนเอง

Case ของเราที่เรานึกออกก็มีเอาของที่ทำงานกลับบ้านเช่นกระดาษ ปากกา กรรไกร เอาเวลางานไปเดิน shopping ไปทำธุระส่วนตัวเช่นติดต่อ bank , โกงเวลากินข้าวพักเที่ยงต้องเข้างานบ่ายโมงแต่เรากลับมาเกือบๆบ่าย 3, แล้วก็เบิกเงินค่าเดินทางเกินจริง, ลาป่วยการเมือแต่อ.ก็บอกให้ลองสังเกตุตนเองดู แปลกแต่จริงอ่ะเล่าๆไปอาการปวดบ่าชนิดที่น้ำตาจะไหลมันเบาลง (อารมณ์ตอนนั้นอายมาก ที่สำคัญกลัวจะเอาไปออกรายการมาก แต่ความอยากหายมันมีมากกว่า) ใจเราตอนแรกที่มันเชื่อมันก็เริ่มจะคล้อยตาม พออ.บอกให้ลองใช้รหัสอ.อุบลช่วยด้วย อาการยิ่งเบาลงอีก อ.ก็บอกว่าที่ทำให้อาการดีขึ้นเพราะบารมีของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ของอ.อุบล แต่ที่ยังไม่หายขาดเพราะจิตเราดื้อยังต่อต้าน และอาการที่เบาลงจะไม่หายขาดถ้ายังกลับไปทำชั่วแบบเดิม

สำหรับเราคงจะเชื่อไม่เชื่อไม่สำคัญเพราะคนที่เจ็บที่ปวดก็คือเรา แต่เราเป็นคนที่จะไม่เชื่ออะไรง่ายๆจนกว่าตนเองจะได้ลองพิสูจน์ ซึ่ง caseของเรา พอให้กระทู้นี้และเห็นกระแสบ้านสวนก็อย่างจะลองของแต่เราไม่ได้ไปปรามาสดูหมิ่นนะ เพราะกลัวมากเพราะถ้าไปปรามาสของจริงขึ้นมาจะเป็นกรรมกันซะเปล่า…แนะนำว่า คุณเจ้าของกระทู้ลองไปพิสูจน์ดูอย่างเราก็ดีนะคะ

 

โดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรมหยาน จากหนังสือไตรภูมิ หน้า 102-103

ตานี้ อสุรกายอีกพวกหนึ่ง มีความดีมาก ใกล้จะพ้นความเป็นอสุรกายแล้ว
คือว่าโทษทัณฑ์ที่เป็นเศษกรรมในภาวะของการเป็นอสุรกายใกล้จะหมดไป
ตอนนี้มีรูปร่างหน้าตาอ้วนท้วนใหญ่โต แต่ทว่าผิวดำมะเมื่อม
อสุรกายพวกนี้มีกำลังมาก มักจะชอบรับสินบนจากชาวบ้าน แล้วก็ปลอมแปลงตัวเป็นเจ้าเข้าทรง
บางทีก็ไปหลอกพระ พระที่มีความเข้าใจไม่ถึง ก็คิดว่าบรรดาอสุรกายพวกนี้แหละเป็นผู้วิเศษ
ถ้าใครนิยมพระศรีอาริย์ เขาก็จะเข้าไปสอดแทรกแล้วก็บอกว่าเขาเป็นพระศรีอาริย์
หรือว่าใครนิยมจ้าวองค์ใดองค์หนึ่งก็ตาม เทวดาองค์ใดองค์หนึ่งก็ตาม พวกนี้นิยมเข้าไปแทรก
บอกว่าเขาเป็นคนนั้น บรรดาพวกเข้าทรงทั้งหลาย ถูกพวกนี้ปลอมมาก เคยพบมาหลายราย
พวกนี้มีรูปร่างหน้าตาแข็งแรงใหญ่โตทะมัดทะแมง ผู้พูดเองก็เคยถูกอสุรกายพวกนี้ปลอมเล่นงานอยู่หลายครั้ง
แต่ก็จับตัวได้ ทั้งนี้เพราะอะไร? เพราะบุคคลที่เขาอ้างถึง รู้จักหมด เป็นอันว่าโกหกกันไม่ได้

นี่บรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย มองไปซี โลกนี้บรรดาอสุรกายทั้ง ๒ ประเภทและก็สัมภเวสีเกลื่อนกลาดไปหมด
นี่หากว่าบรรดามนุษย์ทั้งหลายสามารถเห็นอสุรกายหรือสัมภเวสีได้ทุกคน หรือเปรตได้ทุกตน
เปรตก็เหมือนกัน ลอยอยู่บนดินแดนของมนุษย์เกลื่อนไปหมด ถ้าเราเห็นได้เราก็เดินตรงทางไม่ได้ ต้องหลีกกันย่ำแย่
เรียกว่าเดชะบุญนะที่บรรดาญาติโยมพุทธบริษัทส่วนใหญ่ ไม่สามารถจะเห็นอสุรกายและเห็นพวกผีทั้งหลายได้ จึงไม่ต้องหลีกใคร
เป็นอันว่าเรื่องราวของอสุรกายนี้เป็นเศษกรรมอันหนึ่ง แต่ว่าดีกว่าเปรตที่ว่ายังหากินได้

แต่ผีระวังนะ บรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย ระวังอสุรกายปลอมผู้ที่เข้าทรง นับถือจ้าว นับถือเทวดา
ระวังให้มาก พวกนี้มีความรู้มากเหมือนกัน ถ้าใครตายแล้วไปเกิดที่ไหน เขาสามารถจะบอกได้
ใครบนบานศาลกล่าวอะไรใครไว้เขาก็รู้เหมือนกัน แล้วเขาก็มีอำนาจบางอย่างที่จะรักษาโรคได้
จะบันดาลอะไรได้บางอย่างตามสมควร แต่ว่ากำลังไม่เสมอเทวดา
พวกนี้จะต้องสังเกตได้ว่าจะแสดงท่าทางผิดปกติจากพระหรือเทวดาธรรมดา

นี่มีในที่แห่งหนึ่งเขานิยม เขาบอกว่าในก๊กของเขา หรือในกลุ่มของเขาเป็นศาสนาพระศรีอาริย์ แล้วก็กลุ่มนี้อยู่ในถ้ำๆ หนึ่งอาตมาเองไปพบ วันนั้นก็ไปคุยกัน คุยกันไปคุยกันมาก็ถึงเวลาถวายทาน พระองค์นั้นท่านบอกว่าท่านเองน่ะ เข้าถึงพระศรีอาริย์เป็นปกติ ตานี้เวลาถวายทาน ท่านก็ว่าอะไรของท่านพึมพำๆ ไปตามเรื่อง เวลาที่ลูกน้องเจริญกรรมฐานทำสมาธิ เขากล่าวคำให้ทานกันแล้วให้ลูกน้องทำสมาธิ เมื่อลูกน้องทำสมาธิก็ปรากฏว่าพระองค์นี้สวด นั่งสวดแทนที่จะสงบ เป็นแบบสวดมนต์ แล้วก็ใช้ภาษาที่มนุษย์ไม่สามารถจะรู้เรื่องได้ อาตมากับเพื่อนคนหนึ่งไปร่วมในพิธีนั้น เห็นตัวดำมะเมื่อม ผลที่สุดก็ทราบว่าอสุรกาย ก็เลยเฉยไว้ เมื่อพระองค์นั้นสวดเสร็จแล้ว ถามว่าสวดทำไม เวลานี้ลูกน้องทำสมาธิท่านสวดทำไม เขาก็บอกว่า พระศรีอาริย์มายืนอยู่ข้างหลัง บอกให้สวด ก็เลยบอกว่าพระศรีอาริย์ที่ไหน ผมเห็นไอ้ดำมันยืนอยู่ข้างหลังท่านนี่ ไอ้ดำตัวนี้มันเป็นอสุรกาย มันปลอมเข้ามาในพิธี การสวด มันก็ไม่ถูกแบบแผน แบบแผนของพระพุทธเจ้าน่ะ เวลาที่ลูกน้องทำสมาธิต้องใช้เวลาสงบสงัด แต่ไอ้การทำแบบนี้มันไม่ถูกนี่ขอรับ พระองค์นั้นน่ากลัวจะไม่ชอบใจ เพราะว่าไปพูดไปว่าเขาต่อหน้าลูกศิษย์เขานี่ มันก็ไม่ดีเหมือนกัน แต่หากจะถามว่าพูดทำไม ก็เพราะว่าเป็นการผิดแนว ถ้าเราจะปล่อยกันไปพระองค์นั้นก็นุ่งเหลืองห่มเหลืองแล้วก็โกนหัวเหมือนกัน เขาจะหาว่าพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาน่ะเลอะเทอะเหมือนกันหมด จึงบอกว่า ทางที่ดีละก็ ท่านควรจะทำใจของท่านให้ดีไปกว่านี้ ให้รู้ว่าใครมันไปใครมันมา เวลานี้ศาสนาของพระพุทธเจ้ามีนามว่า พระสมณโคดมน่ะยังไม่หมด ยังอยู่ในระหว่างเขตศาสนาของท่าน แล้วการที่จะมาประกาศศาสนาใหม่ บอกว่าเวลานี้เป็นยุคใหม่แล้วไม่ใช่ยุคเก่า เป็นยุคของพระศรีอาริย์ แบบนี้ ดูท่ามันจะไม่เหมาะ ถ้ากระไรก็ดี เราก็เป็นลูกพ่อเดียวกัน อย่าทำอะไรให้มันนอกรีตนอกรอยไปเลย

นี่ว่ากันเท่านี้นะพูดให้ฟังว่าอสุรกายพวกนี้มันปลอมตัวได้ แต่ว่าถ้าคนไม่เข้าใจมันจริงๆ ละก็ มันเล่นงานเสียหลายรายแล้ว

 

สำหรับเรา รู้จักบ้านสวนพีระมิดผ่านเว็บพลังจิตนี้ เริ่มจากดูรายการคุยไปแจกไป เห็นคนหายเจ็บหายป่วย หลังจากเล่าบาปกรรมที่ตัวเองเคยทำมาด้วยความสำนึกผิดเป็นธรรมทาน
ซึ่งเราก็ยังไม่ด่วนตัดสิน ดูไปเรื่อยๆ และได้ศึกษาอย่างอื่นด้วย เช่น อ่านคู่มือหนีกรรมผิวพรรณ ธรรมะในกระดานสนทนา
เมื่อเราได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง เอาชีวิตตัวเองเป็นธรรมทาน เล่าว่าเคยผิดศีลทุกข้อและเสพอบายมุข และได้ทำบุญที่บ้านสวนและผ่านทางเว็บไซต์ เช่น เขียนธรรมทาน ร่วมบุญและพลอยยินดีในบุญทุกบุญของบ้านสวนที่ทำถวายในหลวง
ตอนนี้เราสุขภาพแข็งแรง และจากเมื่อก่อนที่ไม่ค่อยมีความสุข ไม่ค่อยสมหวัง มีอุปสรรค ตอนนี้ชีวิตดีทุกด้าน มีสภาพคล่องทุกอย่าง ที่สำคัญใจเบา มีความสุขค่ะ

 

เรื่องกรรมจากการปรามาสผู้อื่น

ขอยกตัวอย่าง สามีตัวเอง

ซึ่งเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก ๆ

คือ คิดว่าฉันเก่ง ฉันรู้ดี คนในสังคมเป็นไง ฉันรู้ทั้งนั้น..

เค้าคิดว่า เค้าสามารถเป็นเจ้าของกิจการได้ตั้งแต่อายุไม่มาก

สร้างทุกอย่างด้วยตัวเองได้ในวัยสามสิบ

เจ้าของกิจการคนอื่น ๆ คนอายุมาก ๆ ก็เชื่อฟังเค้า



ทีนี้พอเราบอกเรื่องบ้านสวนให้เค้าฟัง เค้าก็ไม่ค่อยเชื่อ

แถมไม่พอเค้ายังไปฟังคนที่เคยไปบ้านสวน

แต่ไปด้วยต้องการหาผลประโยชน์ ไม่ได้ไปแสวงหาบุญ

หรือหาธรรมะทั้งนั้น เมื่อคนพวกนั้นที่ต้องการเกาะกินบ้านสวน

แต่ไม่สำเร็จ จึงไม่พอใจ และพูดจาให้ร้ายบ้านสวนต่าง ๆ

ให้สามีเราฟัง

สามีเราซึ่งไม่เชื่อ เพราะไม่เคยศึกษา เป็นทุนเดิม

จึงยิ่งไม่เชื่อไปหญ่


แต่แค่การไม่เชื่อ ยังไม่เป็นไร

แต่ยังพูดปรามาสด้วยนี่สิ คือประเด็นสำคัญ



และถ้าไม่สังเกตอย่างจริงจัง คงไม่รู้ว่า

หลังจากที่เค้าปรามาสในวันนั้น
และคอยห้ามไม่ให้เราสนใจบ้านสวน

มาเป็นเวลาเกือบ 2 ปี เค้าได้รับเคราะห์กรรมมากมาย

ทั้งจากกรรมในอดีตที่เคยสร้างไว้เอง
+กรรมที่ปรามาสผู้ทรงศีลทรงธรรม

เมื่อกรรมรวมตัว

เค้าเกิดมีปัญหาทั้งด้าน การงาน การเงิน ติดขัดไปหมด

ร่างกายก็มีปัญหา ปัญหาที่เรื้อรังมายาวนาน คือ ปวดหลัง

เค้าปวดหลังจนลุกไม่ได้ ไปรักษาที่รพ. ฉีดยา ก็ไม่หาย

เอ๊กซเร ก็ไม่พบอะไร ส่งไปกายภาพบำบัด นวด ก็ไม่หาย

ยาแพง ยาดี ทั้งในประเทศ ต่างประเทศ ก็กินหมด

แต่เหมือนว่า ไม่ช่วยอะไรขึ้นเลย

อาการหนักมากถึงขั้น ลุกไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้

เคยไอ แล้วตัวกระเด็นลงพื้น



เราก็บอกเค้าให้เรียกรหัส อ.อุบล ช่วยด้วย

ยังไง ๆ เค้าก็ไม่ยอมเรียก เพราะเค้าคิดว่า มันจะเป็นไปได้ไง

นอนเซ้นท์ อะไรแบบนี้

 

เมื่อก่อนก็สงสัยว่าบ้านสวนพีระมิดคืออะไร พอเราเปิดใจอ่านข้อมูลในเว็บบ้านสวนพีระมิดwww.baansuanpyramid.com/แรกๆก็ดูคลิปแบบผ่านๆ เค้าทำอะไรกัน ด้วยความที่สนใจเรื่องพีระมิดมาก่อน และเราก็อยากแก้ปัญหาเรื่องผิวพรรณ จึงเริ่มศึกษาอย่างจริงจังหน้าของเรามีกระ มีฝ้า เพราะเราสะสมความโกรธ ความเกลียดมากว่า 20 ปี ถ่ายรูปมาดูหน้าแก่กว่า อ.อุบล อีก ทั้งที่อายุ 37 ปี โอ๊ยเราต้องรีบแก้ไขตัวเองเป็นการด่วน ทุกคนคงไม่อยากมีใครแก่ก่อนวัยแน่นอน เลยอ่านคู่มือหนีกรรมผิวพรรณ เลยเข้าใจว่าทำไมหน้าแก่ มีกระ มีฝ้า ในช่วงแรกเราก็คิดจะเชื่อดี หรือไม่เชื่อดี เราก็ลองใช้รหัส อ.อุบล ช่วยด้วย
เราก็มีวิธีการของเราโดยใช้จิตอธิษฐาน เรานั่งสมาธิได้ดี เป็นไปได้ยังไง เราเลยเชื่อและเราจะทดลองต่อไป เพราะเพิ่งเข้ามาในเว็บบ้านสวนได้ 3 เดือน แต่ไม่เคยไปบ้านสวนพีระมิดเลยจ้า ​

 

กรรมจากการปรามาส (ต่อ)


แต่สามีเราก็ยังคงบ่น คร่ำครวญถึงอาการปวดหลังให้ฟังไม่เลิก

จนวันหนึ่งเค้ายอมนอนหลับตา แล้วตั้งใจฟัง คลิปรายการ

แล้วอธิฐานในใจว่า ถ้าอ.อุบลของจริง บ้านสวนของจริง

ขอ อ.อุบล ช่วยให้เค้า เทคตัวขึ้นได้เองด้วยเถอะ

แล้ววันนั้นเค้าสามารถลุกขึ้นได้จริง

ด้วยความดีใจ ตื่นเต้นของเค้า เราก็ดีใจไปด้วย


จากนั้นเค้าก็เริ่มสนใจอยากไปบ้านสวน

เราก็เลยให้เค้าดูรายการ

เค้าก็ยังคง นอนหลับตาฟังเหมือนเดิม

เนื้อหาในรายการ

เค้าได้ฟังในตอนที่ผู้หญิงจบป.โท แต่เป็นเมียน้อย

มาเล่าว่า พอรู้จักบ้านสวน เค้าเข้มแข็งขึ้น เลิกเป็นเมียน้อยได้

มีความสุขแบบพอเพียง ไม่ตะเกียกตะกาย ไม่มองคนในแง่ร้าย

เห็นว่าความจริงใจจากเพื่อนมนุษย์..ยังมีอยู่จริง

เมื่อเค้าเริ่มเปลี่ยนมาให้ความจริงใจกับผู้อื่น รักษาศีล

ในบ้านสวน ไม่มีใครรังเกียจที่เค้าเป็นเมียน้อยมาก่อน

ที่นี่ให้ความจริงใจ ให้กำลังใจเค้า เค้าสามารถมีความสุขได้

จากการทำงาน ครอบครัว และเพื่อนแท้ ที่หาในสังคมอื่นยาก

และอะไรอีกหลาย ๆ อย่าง


ที่ทำให้เค้าเข้าใจสัจธรรมของชีวิต

ไม่แบ่งแยก คนจน คนรวย

ฐานะ การศึกษา

ก็ไม่ใช่คำตอบที่แท้จริงของชีวิต ...


สามีเราก็ฟังเรื่อย ๆ ยังไม่จบดี

เค้าก็เริ่มเข้าใจแล้วว่า ที่นี่ คืออะไร

และสนใจอยากไปบ้านสวน


หลังจากนั้นอาการปวดหลังมายาวนาน ก็ดีขึ้นบ้าง

จนเมื่อเค้าได้มีโอกาส

ไปสารภาพต่อหน้าอ.อุบล และคนจำนวนมาก

ถึงบาปกรรมที่เค้าเคยทำมาทั้งหมดในชาตินี้

และได้กราบขอขมา อ.อุบล ที่คิดไม่ดี ปรามาสท่าน

ซึ่งอาจารย์ ก็ไม่เคยโกรธเค้า หรือโกรธใคร ๆ เลย

เค้าก็หายปวดหลังอย่างสนิท ในทันที



และจากวันนั้นมาถึงวันนี้หลายเดือนแล้ว

ไม่มีอาการปวดใด ๆ อีกเลย

และการงานของเค้าที่เคยติดขัดมายาวนาน

ก็ดีขึ้นด้วย ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ดิ้นรน ไม่โลภมากเหมือนเมื่อก่อน

ก็มีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามา เราก็ดีใจกับเค้าด้วยจริง ๆ


จากคนที่ดื้อรั้น เชื่อแต่ตัวเอง ตอนนี้เป็นคนที่เปิดใจมากขึ้น

จากคนที่ชอบตำหนิคนอื่น ไม่เกรงกลัวสิ่งใด ใจร้อน

เปลี่ยนเป็นคนที่เคารพผู้อื่นมากขึ้น ไม่ปรามาสใคร ๆ ทั้งนั้น

และเกรงกลัวบาปกรรม รู้จักรับฟังความคิดผู้อื่น



เรื่องนี้ อ่านให้เป็นอุทาหรณ์ ในเรื่องการปรามาสผู้อื่น

โดยเฉพาะ ผู้ทรงศีล ทรงธรรมนะคะ

สามีเรา นี่แค่ พูดว่า ไม่เชื่อ เป็นไปไม่ได้ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ที่อาจารย์กล่าวอ้าง มีจริงรึป่าวก็ไม่รู้

(พูดแค่นี้ แต่คิดแค่ไหนไม่รู้)

ยังได้รับกรรมหนัก แทบเอาชีวิตไม่รอด

แล้วคนที่ตั้งตัว ต่อต้านแบบจริงจัง กล่าวหาว่าร้ายท่าน

หรือส่งเสริมให้ผู้คน เห็นผิดเป็นชอบ ไม่ว่ากับใครก็ตาม

ไม่รู้ว่าจะได้รับกรรมแค่ไหน


การไม่ละเมิดผู้อื่น เป็นสิ่งที่ดีนะคะ

 

เราก็อยากพิสูจน์ดูตามกาลามสูตรของพระพุทธเจ้าเหมือนกัน

และได้ลงชื่อเข้าร่วมกิจกรรมในวันที่ 19 นี้แล้วด้วย

ได้ผลยังไง จะมารายงานให้ทราบนะคะ

จากที่เราได้เข้าไปดูในรายการคุยไปแจกไป ทำให้เราได้มองย้อนดูตัวเองถึงกฎแห่งกรรม และศีล 5 ข้อ

และทำให้เราได้ถึงบางอ้อเลยว่า ที่เรามีปัญหาสายตาสั้น เป็นเพราะเราชอบใช้สายตาด่าว่า มองค้อนคนอื่น และปัญหาการเงิน เพราะเมื่อตอนเด็กชอบลักขโมยเงินพ่อแม่ ทำให้ทุกวันนี้ขาดสภาพคล่องทางการเงิน

ที่นี่จะสอนไปถึงศีลขั้นละเอียด คือ ความคิด แม้แต่คิดก็เท่ากับเราได้กระทำแล้ว

ได้ตาสว่างขึ้นเยอะเลยค่ะ จากที่เมื่อก่อนเข้าใจว่าแค่คิด แต่ไม่ได้ลงมือทำจะผิดได้ยังไง แต่ลืมไปว่าเราได้สร้างมโนกรรมไว้เยอะแยะมากมาย

 

เรื่องอสุรกาย

ท่านอาจารย์อุบล ท่านสั่งห้ามไม่ให้ลูกศิษย์ของท่านไปตามตำหนักทรง
เพราะนอกจากจะไม่จริงแล้ว ยังอาจโดนของหรือคุณไสยเป็นของแถมติดตัวมาด้วย

ยกตัวอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
คุณลุงท่านหนึ่งมาจากจังหวัดอุดรธานี ท่านมาทำบุญที่บ้านสวนฯบ่อย ๆ
ครั้งหนึ่งท่านได้พาคุณยายคนหนึ่งที่เป็นร่างทรงของของพ่อปู่ศรีสุทโธมาที่บ้านสวนฯ
ซึ่งตอนแรกผมคิดไปเองว่า ท่านคงอยากให้คุณยายมาเล่าประสบการณ์การเป็นร่างทรง
ของพ่อปู่ศรีสุทโธ ให้ได้ฟังกัน

แต่เมื่อคุณยายมาถึงก็พบว่า คุณยายมีอาการไม่เป็นตัวของตัวเอง
พูดพร่ำตลอดว่าติดต่อกับเบื้องบนได้ มักจะออกมือออกไม้คล้ายจะรำหรือไหว้อยู่เสมอ
นอกจากนี้ยังได้ทราบจากพี่สาวของคุณยายที่เดินทางมาด้วยในครั้งนี้ว่า
ตั้งแต่เป็นร่างทรงของพ่อปู่ฯมา ชีวิตของคุณยายนี้ก็ย่ำแย่มาตลอด สามีและลูกเสียชีวิตหมด
คุณพ่อคุณแม่ก็เป็นอัมพาต มีหนี้สิน และยากจนข้นแค้น

คุณยายเองก็ยอมรับทั้งน้ำตาว่า ตนน้อยใจพ่อปู่ศรีสุทธโธมาก ๆ ที่ยอมรับใช้
ยอมเลื้อยจนเนื้อตัวเป็นแผล แต่ผลที่ได้รับกลับเป็นเช่นที่พี่สาวคุณยายเล่า

ท่านอาจารย์จึงบอกคุณยายว่า ถ้าบอกความจริงคุณยายจะเสียใจไหม
คุณยายอยากทราบ ท่านจึงบอกว่า ร่างที่มาทรงหรือมาผ่านคุณยายนั้น เป็นสัมภเวสี
ไม่ใช่พ่อปู่ศรีสุทโธนาคราช เพราะหากเป็นพ่อปู่จริงท่านจะไม่ให้คนของท่านมีปัญหาชีวิต
อย่างที่คุณยายประสบอยู่ คนของท่านจะต้องสง่างามด้วยการรักษาศีล เจริญภาวนา
มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี มีแต่ความสุข


ท่านได้บอกสาเหตุที่สัมภเวสีต่างๆ มาใช้ร่างคุณยายได้ ดังนี้

1.คุณยายผิดศีลแทบทุกข้อ
2.คุณยายเป็นคนใจอ่อน
3.เหล่าสัมภเวสีชักนำกระแสจิตของคุณยายแสดงฤทธิ์ เพื่อหวังขอบุญโดยไม่ได้พาสร้างบุญ
4.ที่สำคัญที่สุด คือ คุณยายมีจิตฝักใฝ่ในเทพมากกว่าพระพุทธเจ้า

ท่านอาจารย์ให้นับถือเทพ เพราะเทพท่านเป็นผู้มีหิริโอตตัปปะ
คือ มีความละอายในการทำบาป และเกรงกลัวในผลของบาป เป็นผู้ทรงความดี

แต่ท่านให้เราปฎิบัติตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์เป็นหลัก
เพื่อให้เป็นทางสู่พระนิพพานในชาตินี้

แต่กรณีของคุณยาย กลับถูกครอบงำโดยสัมภเวสีด้วยซ้ำ

ท่านอ.อุบลได้เมตตาสงเคราะห์ด้านการเงินแก่คุณยายและ
ขอให้คุณยายปฏิบัติตามคำสอนของท่าน ดังนี้

1. ขอให้เลิกเป็นร่างทรง
2. ขอให้เลิกสอนคนอื่น เพราะตัวเองยังเอาตัวไม่รอด
3. ขอให้ตั้งใจรักษาศีล เจริญภาวนา
4. รู้อะไรมา เมื่อได้รับการสื่อสาร ก็ขอให้เงียบ ไม่ต้องเล่า


ไม่มีมารใด ๆ ทำอันตรายเราได้
หากยึดมั่นในคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
นึกถึงพระองค์อยู่เสมอ ท่านจะควบคุมใจเราให้ไม่กระทำผิด ไม่มีจิตมารเข้าแทรก

ลองพิจารณากันดูนะครับ
------------------------------------------------------

www.baansuanpyramid.com

 

เคยถามตัวเองกันไหมว่า
ทำบุญกันมาทั้งทอดกฐินทอดผ้าป่าถวายสังฆทาน
สร้างพระใหญ่สร้างโรงเรียนสร้างหนังสือธรรมะ
และอื่นๆ มากมาย



ทำไมหลายคนยังจนยังเจ็บอยู่
ยังมีทุกข์ทั้งกายและใจ ชีวิตครอบครัวไม่ราบรื่น
การงานไม่ก้าวหน้าความรักยังไม่สมหวัง
ก็เพราะอานิสงส์ผลบุญที่ได้รับมันไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย
　
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า

ทานที่จะมีอานิสงส์สมบูรณ์หรือ
บุญที่จะยังให้เกิดอานิสงส์อย่างฉับพลันทันที

จะต้องประกอบด้วย3 ส่วนได้แก่

ผู้ให้ทานมีจิตบริสุทธิ์
วัตถุทานบริสุทธิ์ และผู้รับบริสุทธิ์


แต่ที่ผ่านมา บางคนทำบุญเอาหน้า หรือทำบุญอย่างเสียไม่ได้

หรือทำบุญแบบเบียดเบียนตัวเองให้เดือดร้อน

เงินที่นำมาทำบุญก็ไม่บริสุทธิ์100%
แต่ละเดือนขาดลามาสายแต่รับเงินเดือนเต็ม
หรือค้าขายทำธุรกิจส่วนตัว
แต่อาศัยการโฆษณาเกินจริงหรือโกหกหลอกลวงประชาชน
พระที่เราทำบุญด้วยก็อาจมีศีลไม่ครบ227 ข้อ
หรือมีศีลไม่ครบ5 ข้อด้วยซ้ำ

ตัวเราก็ไม่รักษาศีล
ยังฆ่าสัตว์ยังลักทรัพย์
ยังชอบของฟรีกินไม่อั้น
โดยไม่นึกถึงว่าถ้าเราเป็นเจ้าภาพบ้างจะลำบากแค่ไหน

ยังละเมิดผิดลูกเมียสามีผู้อื่น ยังพูดจากะล่อน โกหก หยาบคาย ลามก
ยังดื่มเหล้าเบียร์ยังเที่ยวกลางคืนยังคบคนชั่วเป็นมิตร
ไม่จริงใจต่อผู้อื่นยังเล่นการพนัน เล่นหวย เสพยาไอซ์ ยาเสพติด

ในเมื่อความบริสุทธิ์ไม่ครบถ้วน
ทานที่จะมีอานิสงส์สมบูรณ์หรือ
บุญที่จะยังให้เกิดอานิสงส์อย่างฉับพลันทันทีให้หายเจ็บหายจนได้อย่างไร

บ้านสวนพีระมิด จึงสอนให้คนรักษาศีล 5
รู้จักมีเมตตา ละวางความโกรธ ทำบุญก็ไม่เบียดเบียนตัวเอง
และบุญทุกอย่างของบ้านสวนท่านก็สอนให้เราตั้งใจถวายในหลวงทั้งหมด
เพราะพระองค์ท่านเป็นเนื้อนาบุญที่บริสุทธิ์โดยแท้จริง
เพื่อให้บุญของเรามีความบริสุทธิ์ครบถ้วนมากที่สุด เพื่อให้เห็นผลในปัจจุบันนั่นเองครับ


ลองพิจารณากันดูนะครับ

ไม่มีมารใด ๆ ทำอันตรายเราได้
หากยึดมั่นในคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
นึกถึงพระองค์อยู่เสมอ ท่านจะควบคุมใจเราให้ไม่กระทำผิด ไม่มีจิตมารเข้าแทรก

------------------------------------------------------

www.baansuanpyramid.com

 

ขอขอบคุณอ.อุบลและเทวาทุกองค์ สิ่งศักดิสิทธิ์ทั้งหลายที่บ้านสวน อยากไปช่วยงานที่บ้านสวนมากแต่อยู่ต่างประเทศไม่ได้กลับบ้านบ่อยแต่มีจี้สฟิ้งไว้บูชา ซึ่งเหมือนอยู่ต่อหน้าอ.อุบลอาการต่างๆก็ดีขึ้น ถ้ารอดตายจากภัยพิบัตรและมีโอกาศกลับเมืองไทยจะเข้าไปบ้านสวนสักครั้งในชีวิต

 

เห็นด้วยกับคุณ "ธรรมสถิต"

เมื่อก่อนเคยคิดเหมือนกันว่าเราก็ทำบุญตลอดนะ

ทำไม บุญมันไม่ส่งผลซักที?

แล้วเราก็ไม่ได้ทำบาปอะไร ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนซะหน่อย

ประมาณว่า เราก็เป็นคนดีคนหนึ่งนะ

แต่ทำไมเรายังมีเรื่องซวย ๆ เข้ามาในชีวิตล่ะ?

ทำไม มีแต่คนทำไม่ดีกับเราอยู่นะ?


ที่ไหนได้ พอมาเจอ อ.อุบล ให้ปัญญา

เรื่องการสร้างบุญให้ถูกวิธี ให้อานิสงค์เกิดทันที ทำอย่างไร

ก็ได้ลองทำ แล้วมันก็เกิดผลจริง ๆ

และอีกประการหนึ่ง ซึ่งมีผลต่อปัญหาต่าง ๆ ของเราคือ

ให้พิจารณาตัวเองอย่างถ้วนถี่ ถึงเรื่องการละเมิดศีล 5

จึงทำให้รู้ว่า โห.. ที่ผ่านมา เรานี่มันเลวนะ

ทำแต่เรื่องชั่ว ๆ ผิดศีลไปซะทุกข้อจริง จริ๊ง..


เคยคิดว่า ไม่ได้เป็นผู้ฆ่าเอง ไม่บาปหรอก ไม่ผิด

แต่ไปสั่งฆ่าสัตว์ ประจำ ปลานึ่ง กุ้งเผา หมูหัน โห อร่อย

ไม่บาปนี่ ก็เราไม่ได้ลงมือฆ่าเองซะหน่อย

ยุงก็ไม่ได้ฆ่าเอง แต่พอใจที่คนอื่นฆ่าให้ ก็เรากลัวบาป

แต่ถ้าคนอื่นจะตบให้ ซ้อตยุงให้ก็คงไม่เป็นไร

เพราะเราคงไม่ได้ลงมือทำ

แล้วพวกปลวก มดแมลงนี่ก็เหมือนกัน มันไม่ควรมาอยู่ที่นี่

นี่บ้านเรานะ เอาน้ำราดซะหน่อย

ที่แท้ ที่เราเจ็บป่วย มีโรคภัย ปัญหาในชีวิต เป็นผดผื่น

ภูมิแพ้ ก็เพราะกรรมฆ่าสัตว์นี่เอง ไม่ว่าจะลงมือเอง สั่งให้ผู้อื่นทำ

หรือเห็นผู้อื่นทำแล้วยินดี ก็รวมความว่าเราสร้างบาปแล้วทั้งนั้น

ชอบของฟรี เป็นที่หนึ่งเลย..

ยังมาบอกว่าไม่เคยผิดศีลข้อสองได้ไง

ก็คิดว่าเราฉลาด เราได้เปรียบคนอื่นไง สมัยเรียนนี่ยิ่งสบาย

พ่อแม่ให้เงินไม่อั้น ยังไม่สำนึก เอาเงินไปเที่ยวเตร่

แล้วยังโกหกว่าต้องใช้เพิ่มอีก

ยืมของเพื่อนแล้ว แค่ยังไม่อยากคืนซะที ยังต้องใช้ต่อ

ใช้ไปใช้มา ของเพื่อนกลายเป็นของเราซะแล้ว

เอาของไปทำบุญที่วัด แล้วยังเอากลับมาบ้านเฉยเลย

โอ้โห ที่แท้มันผิด เป็นหนี้สงฆ์นี่เอง ไม่เคยรู้เลยนะเนี่ย

มิน่าล่ะ ถึงได้ไม่มีสภาพคล่องทางการเงินเลย

แถมมีเรื่องให้ต้องเสียเงินตลอด เดี๋ยวอันนั้นเสีย อันนี้เสีย



โกหก กะล่อนนี่ก็ที่หนึ่ง ชอบพูดจาเอาตัวรอดตลอด

เพราะไม่อยากได้ชื่อว่าโกหกใคร

ก็เลยต้องใช้แผนการณ์ สร้างสถานการณ์ให้คนอื่น

ดูเป็นฝ่ายผิด เราจะได้ทำเรื่องเลว ๆ ได้ตามชอบใจ

ด่าใครหยาบ ๆ เราก็ไม่ชอบนะ แต่ชอบกระแทกแดกดัน

พูดจาทำร้ายจิตใจคน นี่ถนัดที่หนึ่ง

(ยังจะมาบอกว่าตัวเองดี ทั้งที่มันก็เข้าข่าย มุสาชัด ๆ )

ถึงว่า พูดอะไร ก็ไม่มีใครเชื่อ

แถมชอบโดนคนใช้เล่ห์เหลี่ยมมาหลอกเราซะอีก

แล้วไม่รู้เป็นไร ชอบไปเชื่อเค้านักนะ เนี่ยล่ะ..ผลกรรม



ทำตัวโสดตลอด ทั้งที่มีแฟนหลายคน

โอโห คิดได้ยังไงว่าไม่เป็นบาป

ก็คิดแบบเข้าข้างตัวเองไง ว่าเรายังไม่แต่งงาน

เรายังมีสิทธิ์เลือกเสมอ

แต่ถ้าเราถูกเป็นตัวเลือกบ้าง มันถึงจะรู้สึกว่าเจ็บปวดแค่ไหน

เพิ่งรู้ว่า เพราะอย่างนี้นี่เอง แฟนถึงได้นอกใจตลอดเวลา

แถมลูกยังดื้อ จนต้องเหนื่อยอกเหนื่อยใจตลอดเสียด้วย

เฮ้อ.. ก็เราทำให้คนอื่นทุกข์มาก่อน เราจึงต้องมาทุกข์บ้างไง


กินเหล้า เที่ยวกลางคืน นี่ก็คิดไปว่า เป็นเรื่องปกติ

คนเราต้องเข้าสังคมกันบ้าง อย่ามาทำตัวเรียบร้อยเว่อร์น่า

ฮ่า ๆ ในที่สุดทุกวันนี้ ก็ได้รับผลกรรมไปเรียบร้อยแล้ว

คือความจำไม่ดี ขี้หลงขี้ลืม และปวดหัว นี่เอง



สรุปแล้ว พวกเราต่างหาความซวยเข้าตัวกันมาทั้งนั้น

ด้วยการละเมิดศีล 5 ที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ให้

ว่าถ้าปฏิบัติตาม แล้วจะไม่มีวันทุกข์ ไม่มีปัญหาเข้ามาในชีวิต

แต่เราไม่สนใจ ไม่เข้าใจกันเอง

แล้วยังจะมาบอกว่าตัวเองเป็นคนดีได้ไง

บุญก็ทำแค่นิดเดียว ไปตักบาตร ถวายถังเหลือง คิดว่าได้บุญแล้ว

แต่บาปที่ทำน่ะมันมหาศาลกว่าหลายเท่าเลย

ที่แท้เราไม่ได้ดวงซวยอะไรทั้งนั้น

แต่เรากำลังได้รับผลกรรม ที่เราสร้างไว้ต่างหาก

 

มหัศจรรย์ใจมากๆสุดยอดวิเศษไปเลย

 

ขอเล่าประสบการณ์ ล่าสุดที่ไปพบปาฎิหาริย์ ที่บ้านสวนพีระมิด ล่าสุดครับ คือ เห็นคนที่หายป่วยแบบทันที วันนั้นผมเองหลังจากที่ได้ร่วมบุญแรงกาย และมีอาการปวดขา พอเริ่้มเข้าสู่ช่วงอาราธณาบารมีพระศรีอาริย์ อาการปวดขา ของผมก็หายไปดื้อๆ เลย แถมยังได้กลิ่นหอมๆ เย็นๆ เหมือน[SIZE=4]ดอกไม้อีก คิดว่าถ้าคนที่เขามีโอ[SIZE=4]ก[SIZE=4]าสที่จะพ[SIZE=4]้นทุกข์ [SIZE=4]ถ้าได้รู้[SIZE=4]จักบ้านสวน ถือว่าเขามีโอกาสนั้น[SIZE=4]แล้วครับ[SIZE=4] ต้องขอกราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บ้านสวน และ อาจารย์อุบลมากๆ ครับ ที่[SIZE=4]ทำให้ผมได้ ส[SIZE=4]ัมผัส ปา[SIZE=4]ฎิหาริย์
และอีกอย่างเห็น สมาชิกบ้านสวนหลายๆ[SIZE=4]คนก็สามาร[SIZE=4]ถ[SIZE=4]บำบ[SIZE=4]ัด ได้เหมือนกัน ที่อ[SIZE=4]ึ้งเล[SIZE=4]ย คื[SIZE=4]อเด็ก อายุไม่ถึง 10 [SIZE=4]ขวบก็สามารถทำได้ อย่างว่าแหละครับ เด็กเขาจิตใจบริสุทธิ์
ต้[SIZE=4]องขอขอบคุณเจ้าของกระทู้ด้วย[SIZE=4]นะครับ ถึงจะ[SIZE=4]เป็นกระทู้ที่ผมคิดว่า ไม่น่าจะมีเจ[SIZE=4]ตนาดี แต่ถ้าคนที่เขา เข[SIZE=4]้ามาแล้ว ได้ไปพิสูจ[SIZE=4]น์ด้วย[SIZE=4]ตนเองก็คงได้พบทาง[SIZE=4]สว่าง[SIZE=4][SIZE=4][SIZE=4][SIZE=4]
[/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE] [/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE]