งานเฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวาคม 2550

​

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชสมภพในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2470 และเสด็จขึ้นครองราชสมบัติสืบราชสันตติวงศ์ในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2489

ตลอดระยะเวลาที่ได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ โดยทรงยึดมั่นในทศพิธราชธรรม ทรงพระวิริยอุตสาหะ เพื่อความร่มเย็นผาสุกแก่อาณาประชาราษฎร์และประเทศชาติให้มีความอุดมสมบูรณ์

ทรงริเริ่มโครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆ กับพระราชทานแนวทางการดำรงชีพแบบเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยพระปรีชาสามารถและพระอัจฉริยภาพในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงเป็นพระมิ่งขวัญร่มเกล้าของปวงชนชาวไทย

ปี 2550 เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม จึงนับเป็นมหามงคลสมัยพิเศษยิ่ง ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศจัดงาน เฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่ ให้สมพระเกียรติและถูกต้องตามราชประเพณี

ดังนั้นแล้ว รัฐบาลได้กราบบังคมทูลพระกรุณา ขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยชื่อพระราชพิธี ชื่อการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ และกำหนดเขตการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานดังนี้

ให้ใช้ชื่อพระราชพิธีว่า "พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550"

ใช้ชื่อการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ว่า "งานเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550"

ชื่อภาษาอังกฤษ "The Celebrations on the Auspicious of His Majesty the King"s 80th Birthday Anniversary 5th December 2007"
และมีกำหนดให้จัดงานตลอดทั้งปี 2550

ตั้งแต่ต้นปีมาแล้ว ที่รัฐบาลเริ่มจัดโครงการและกิจกรรมต่างๆ ทยอยออกมาเรื่อยๆ โดยมี "ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ 80 พรรษา" เป็นการบอกว่างานไหนที่เกี่ยวข้องกับโอกาสอันเป็นมงคลนี้

ซึ่ง "ตราสัญลักษณ์ดังกล่าว" เป็นพระราชลัญจกรประจำพระองค์ รัชกาลที่ 9 คือภาพพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ ประกอบด้วยวงจักร กลางวงจักรมีอักขระเป็นอุณาโลม รอบวงจักรมีรัศมีเปล่งออกโดยรอบ เหนือวงจักรเป็นพระเศวตฉัตร 7 ชั้น ตั้งอยู่บนพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ หมายถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์มีพระบรมเดชานุภาพเป็นใหญ่ในแผ่นดิน

โดยในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระองค์ได้ประทับเหนือพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ตามโบราณราชประเพณี และสมาชิกรัฐสภาได้ถวายน้ำอภิเษกจากทิศทั้ง 8 เป็นครั้งแรกแทนราชบัณฑิต ส่วนพระแท่นลานั้นโรยด้วยดอกพิกุลเงินพิกุลทอง 9 ดอก พระราชลัญจกรล้อมรอบด้วยเพชร 80 เม็ด หมายถึงพระชนมพรรษา 80 พรรษา

ด้านบนพระราชลัญจกรเป็นพระมหาพิชัยมงกุฎ อันเป็นเครื่องประกอบพระบรมราชอิสริยยศของพระมหากษัตริย์ และเป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นสมเด็จพระบรมราชาธิราช ภายในพระมหาพิชัยมงกุฎ เป็นเลข 9 หมายถึงรัชกาลที่ 9

พระมหาพิชัยมงกุฎนั้นอยู่ด้านหน้าพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ซึ่งอยู่กึ่งกลางและขนาบข้างด้วยพระเศวตฉัตร 7 ชั้น อันเป็นเครื่องแสดงพระราชอิสริยยศอันยิ่งใหญ่ของพระมหากษัตริย์

ด้านล่างพระราชลัญจกรเป็นเลข ๘๐ หมายถึงพระองค์มีพระชนมพรรษา 80 พรรษา ถัดจากเลขไทยลงมาเป็นแพรแถบบอกชื่องาน ซึ่งนอกจากบอกชื่องานพระราชพิธีแล้ว ยังรองรับประคองพระเศวตฉัตรด้วย

นอกเหนือจากการจัดงานเพื่อเฉลิมฉลองของคนไทยและเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว ที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงาน ยังมีแนวคิดจัดทำของที่ระลึกทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ดังนี้

จัดทำพานทองที่ถอดประกอบได้พร้อมหีบบรรจุ และมีตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 เพื่อใช้ในการเสด็จพระราชดำเนินไปยังสถานที่ต่างๆ

ถวายเงินสำหรับโครงการและมูลนิธิที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวม 4 โครงการคือ โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน, มูลนิธิพระดาบส, โครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย และมูลนิธิสายใจไทย

นอกจากนี้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ยังร่วมจัดโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งมีถึง 31 โครงการ ยกตัวอย่างเช่น โครงการประชุมใหญ่สมาคมศาลปกครองสูงสุดระหว่างประเทศ โดยสำนักงานศาลปกครอง, โครงการปิดทองหลังพระ-ท่องเที่ยวสืบสานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและจัดนิทรรศการ, โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ, โครงการทำบุญพัฒนาจิตใจถวายพระเจ้าอยู่หัว, โครงการประกวดสิทธิบัตรการประดิษฐ์เพื่อเทิดพระเกียรติฯ ของกระทรวงพาณิชย์

โครงการหอประวัติอุทกศาสตร์ไทย ของกองทัพเรือ, โครงการฟื้นฟูสภาพพื้นที่บริเวณที่ผ่านการทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมเพื่อปรับปรุงทัศนียภาพและสิ่งแวดล้อม จ.กาญจนบุรี, โครงการแข่งขันฟุตบอลนักเรียน 18 ปี ระหว่างประเทศแห่งเอเชีย ประจำปี 2550, โครงการประชุมสินเชื่อเกษตรและชนบทโลก เป็นต้น

ส่วนงานมหรสพสมโภชนั้น ให้จัดทั้งในกรุงเทพมหานครและทุกจังหวัด ในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 มีการแสดงพลุและดอกไม้ไฟเฉลิมพระเกียรติฯ ในกรุงเทพมหานครและจังหวัดใหญ่ๆ ทุกภูมิภาค ระหว่างวันที่ 4-8 ธันวาคม 2550

สำหรับในกรุงเทพฯ จะจัดคืนวันที่ 4 ธันวาคม บริเวณสนามราชตฤณมัยสมาคม (สนามม้านางเลิ้ง) คืนวันที่ 5 ธันวาคม มีการจัดแสดงพลุดอกไม้อย่างยิ่งใหญ่อลังการ ภายหลังการจุดเทียนชัยถวายพระพรแล้ว โดยจัดแสดงพร้อมกัน 4 แห่ง คือ จ.เชียงใหม่, อุดรธานี, ภูเก็ต และกรุงเทพมหานคร

คืนวันที่ 6 ธันวาคม ยังมีการแสดงพลุและดอกไม้ไฟอีกครั้ง บริเวณสนามราชกรีฑาสโมสร ส่วนวันที่ 7 ธันวาคม จัดที่บริเวณชายหาดแหลมแม่พิมพ์ อ.แกลง จ.ระยอง วันที่ 8 ธันวาคม มีการแสดงพลุดอกไม้ไฟที่บริเวณสวนเบญจกิติ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

คณะกรรมการอำนวยการจัดงานยังให้มีการจัดงานรัฐพิธี เป็นการถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนาม ของทหารรักษาพระองค์ ในวันที่ 2 ธันวาคม สำหรับปีนี้ได้จัดยิ่งใหญ่เป็นพิเศษ

พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน ของเหล่าข้าราชการ ซึ่งปีนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่และพิเศษเช่นกัน พิธีถวายพระพรชัยมงคลของเหล่าข้าราชการและประชาชน ในวันที่ 5 ธันวาคม โดยมีพิธีอัญเชิญเครื่องราชสักการะและจุดเทียนชัย ที่ท้องสนามหลวงและทุกจังหวัด

รัฐบาลยังได้จัดงานสโมสรสันนิบาต และงานถวายพระกระยาหารค่ำเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะนำความกราบบังคมทูลพระกรุณา เพื่อขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสทูลเชิญเสด็จฯ ซึ่งสุดแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ

ที่ขาดไม่ได้เป็นงานพระราชกุศลทักษิณานุปทาน จัดขึ้นในวันที่ 4 ธันวาคม เวลา 17.00 น. ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย รวมทั้งพิธีที่บรรพชิตจีนและญวนถวายพระพร และพิธีสวดนพเคราะห์ ในวันที่ 5 ธันวาคม เวลา 17.00 น. ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ต่อจากนั้นเป็นพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ทรงตั้งสมณศักดิ์ ทรงตั้งพระครูพราหมณ์ พระสงฆ์ 81 รูปเจริญพระพุทธมนต์ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย มีการเลี้ยงพระสงฆ์ เทศน์มงคลวิเศษ และพระสงฆ์ถวายพระพรในวันที่ 6 ธันวาคม เวลา 10.30 น. ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย

ส่วนบรรดาคณะทูตานุทูตเข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล ในวันที่ 8 ธันวาคม เวลา 17.00 น. ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท การจัดงานเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 นับเป็นวาระแห่งชาติ ที่ประชาชนทุกภาคส่วนจะได้ร่วมกันแสดงความกตัญญูกตเวที น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงความจงรักภักดีถวายเป็นราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

และจักเป็นวาระสำคัญยิ่งที่จะแสดงให้เห็นถึงความรัก ความสามัคคี และสมานฉันท์ของปวงชนชาวไทย ดังที่ทรงมีพระประสงค์ให้คนรักและสามัคคีกันตลอดมา

ประชาชนจะมีส่วนร่วมอย่างไร
งานมหามงคลเฉลิมพระเกียรติฯ

1.ร่วมประดับธงผืนผ้าสีเหลืองที่มีตราสัญลักษณ์คู่กับธงชาติไทยตามอาคารบ้านเรือน สามารถทำได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากสำนักราชเลขาธิการ

2.ร่วมสวมเสื้อเหลืองโดยพร้อมเพรียงกัน ตลอดช่วงการจัดงานโดยไม่จำเป็นต้องมีตราสัญลักษณ์เพื่อเป็นการประหยัด

3.ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคม รับการถวายพระพรในวันที่ 5 ธันวาคม 2550

4.ร่วมบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศลตามความเชื่อของแต่ละคน และการบริจาคในการบูรณปฏิสังขรณ์ปูชนียวัตถุและปูชนียสถานต่างๆ ตามศรัทธา

5.ร่วมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และประกอบคุณงามความดีต่อส่วนรวมสนองพระมหากรุณาธิคุณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

6.ร่วมเข้าชมนิทรรศการและการแสดงมหรสพสมโภชและงานเฉลิมฉลองซึ่งจัดให้มีขึ้นทั่วราชอาณาจักร

7.เข้าร่วมอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติเนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550

8.ร่วมซื้อเข็มที่ระลึกของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อนำเงินรายได้ทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อทรงใช้สอยตามพระราชอัธยาศัย นอกจากนี้ยังมีเหรียญที่ระลึก ตราไปรษณียากรที่ระลึก และบัตรโทรศัพท์ที่ระลึก

การสร้างสวนสาธารณะ

เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา
กรมธนารักษ์ได้ดำเนินการจัดทำ โครงการสร้างสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550

โดยโครงการนี้ได้ดำเนินการสำรวจและคัดเลือกที่ราชพัสดุ ซึ่งเป็นที่ดินแปลงใหญ่อยู่ไม่ไกลจากชุมชน และมีศักยภาพเหมาะสมที่จะสร้างสวนสาธารณะ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจะใช้เป็นสถานที่แสดงภาพพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ประชาชนรุ่นหลังได้ศึกษาและเรียนรู้

อีกทั้งได้ดำเนินการขอคืนและขอความยินยอมเพื่อนำพื้นที่ที่ราชพัสดุที่เป็นที่ว่าง หรือที่อยู่ในความครอบครองของส่วนราชการอื่น แต่มิได้ใช้ประโยชน์หรือใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่ มาใช้ดำเนินการในโครงการนี้ด้วย โดยจะประสานความร่วมมือกับจังหวัด ส่วนราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ขณะนี้กรมธนารักษ์ได้คัดเลือกที่ราชพัสดุที่จะเสนอเข้าโครงการ จำแนกตามภูมิภาค ดังนี้

ภาคเหนือ ที่จังหวัดลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก
ภาคใต้ ที่จังหวัดสงขลา และนครศรีธรรมราช
ภาคกลาง ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นครปฐม และระยอง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัดนครราชสีมา และกาฬสินธุ์
กรุงเทพมหานคร ที่แปลงสนามฝึกซ้อมกอล์ฟทุ่งมหาเมฆ แปลงซอยสวนผัก และแปลงที่ตั้งโรงพยาบาลยาสูบ (เก่า)

หนังสือที่ระลึก
หนังสือจดหมายเหตุ
เฉลิมพระเกียรติ

คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุ ในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ได้พิจารณาเห็นชอบจัดทำหนังสือที่ระลึก และหนังสือจดหมายเหตุ 10 รายการ คือ

หนังสือที่ระลึก 6 รายการ ได้แก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช : พลังแห่งแผ่นดินนวมินทรมหาราชา ของสำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี, เหรียญรัตนาภรณ์ ของสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี, พระทรงเป็นพลังแผ่นดิน ของสถาบันดำรงราชานุภาพ กระทรวงมหาดไทย, สมุดภาพไตรภูมิ ฉบับอักษรขอม ภาษาไทย ของสำนักหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร, สมุดภาพโคลงฤๅษีดัดตน ของสำนักหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร, กวีนิพนธ์ "มรดกของแผ่นดิน นวมินทรบูชา" ของสำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร

หนังสือจดหมายเหตุเฉลิมพระเกียรติ 1 รายการ ได้แก่ จดหมายเหตุงานเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ของสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร

หนังสือที่หน่วยงานภาครัฐและเอกชนเสนอขอร่วมพิมพ์เฉลิมพระเกียรติฯ จำนวน 3 รายการ ได้แก่ 8 ทศวรรษ ฉัตรแก้วของแผ่นดิน ของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ, พระเกียรติคุณในต่างแดน ของกระทรวงการต่างประเทศ และหนังสือพิมพ์กสิกรฉบับพิเศษ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ที่ระลึกในโอกาสครบรอบ 80 ปีหนังสือพิมพ์กสิกร ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์


ข้อมูลและภาพประกอบจาก
​

 

​

 

วันที่5ออกไปร่วมถวายพระพรกันเยอะๆ
อย่าให้โจรชิงแผ่นดินมันได้ใจ

 

ขอบคุณมากครับ