บุญทำให้สวย... หรือ.... กรรมผ่าตัด ฉีด ทำให้สวย....

ดูข่าว ที.วี. เรื่องสาวน้องกระแต หรือไร ไปเสริมสะโพก เพราะความจำเป็นเรื่องงาน แต่พลาด กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไป น่าสงสาร
ดารา นางแบบฝรั่งใช้วิธีเสริมแต่งความหล่อ ความงามกันมาก

คือพวกที่อยู่ด้วยบัญญัติสมมุติ หลงไหลในรูปของตนหรือคนอื่น มักจะมี
ทัศนคติด้านการค้าเสรีนิยมนี้ เป็นลักษณะสุดโต่ง สร้างกิเลศทั้งสิ้น
เป็นการโกงความสวยความหล่อ โกงอายุฯลฯแล้วเผลอๆก็เกิดกรรมไม่ดีขึ้นแก่ตนเองในที่สุด
พวกประชาชนก็เหมือนกัน ทั้งโลกรวมทั้งไทย ก็ลืมเศรษฐกิจพอเพียง

ลืมปัจจัยพื้นฐานของมนุษย์ว่า ขอให้มีอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรคและที่อยู่อาศัยก็พอแล้ว ยิ่งราษฎรที่รายได้ต่ำยิ่งน่าสงสาร ปัจจัยพื้นฐานยังไม่ครบ เพราะการกระจายรายได้ในระบบทุนนิยมนั้นมันโหดร้ายยิ่งนัก...

การสร้างกุศลกรรมความดี ทำให้จิตใจสวยหล่อ ดีกว่า ไปสวยในรูป
สวยหล่อในจิตใจ ในวาจา ดีกว่า สวยหล่อในรูปมหาศาล จริงอยู่อาจมีบางคน สวยทั้งรูป จูบก็หอม แต่ก็หายากเต็มทน...

การสร้างบุญสร้างทานเพื่อทำให้ใจสวยและเลยไปถึงชาติหน้ารูปก็จะสวยด้วย ดีกว่าไปสร้างรูปให้สวยด้วยหลักวิทยาศาสตร์ แต่ใจอาจไม่สวยตามและอาจมีกรรมมาเยี่ยมด้วย...

นี่เหลียวดูสังคมรอบๆตัวแล้ว โน้มนำธรรมะมาพิจารณาได้ดังนี้แล...

 

เห็นด้วยกับพี่ NARKA มากครับ

สังคมเราเดี๋ยวนี้สะกดกลั้นความอยากได้ อยากมี อยากเป็น กันมิค่อยจะได้ จึงปล่อยใจเตลิดเปิดเปิงไปตามกิเลส โดยมีความเป็นโลกาภิวัฒน์เป็นตัวเร่งปฏิกริยา

คนเราถ้าไม่รู้จักคำว่าพอใจในสิ่งที่ตนเองมีเสียอย่างเดียว ก็ต้องทุรนทุราย กระเสือกกระสนเพื่อให้ได้มา ได้เป็นซึ่งคำบัญชาการของกิเลส

ผมเคยคิดว่า กฏไตรลักษณ์ ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าครอบคลุมทุกๆเรื่องในสังคมโลก โลกเราปัจจุบันผ่านวิวัฒนาการจากจุดต่ำสุด มาจนเข้าสู่สภาวะสูงสุดแล้ว เปรียบก็เหมือนพลุไฟที่ถูกขับดันด้วยแรงดินประสิว สว่างจ้า สวยงาม แต่เมื่อหมดแรงขับดันของดินประสิวแล้วก็ดับสลาย ร่วงหล่นลงมายังพื้นดิน เป็นเช่นนี้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปในท้ายที่สุด

ถ้าทุกคนในโลกนี้เข้าใจธรรมชาติข้อนี้กันหมด และเข้าใจในความหมายของการกำเนิดมาเป็นมนุษย์ โลกเราคงร่มเย็น สังคมไม่มีการเบียดเบียนซึ่งกันและกัน แต่น่าเสียดายที่ .......

 

ฮั่นแน่ คุณลุง วันนี้มาแปลก ไม่มีฮามาด้วย ...
แต่หนูว่าคุณลุงเก่งมาก กระทู้ของลุงทำให้หนูคิดถึงคำพูดพระคุณเจ้า ที่ว่า "ธรรม" มีอยู่ทุกที่ รอบๆตัวเรา ไม่จำเป็นต้องวิ่งเข้าวัดไปหาธรรม อย่างลุงอ่านข่าว แล้วน้อมนำมาพิจรณา คนเราทุกวันนี้"ขวานขวาย" ให้ตัวเองอยู่เหนือกรรม เหนือพันธุกรรม ไม่มีดั้งก็เสริม คางใหญ่ก็เหลาแหลม ผิวสีแทนต้องเอาขาว ตีนกาออกก็ไปดึงหน้า ฉีดสารพัดฯลฯ วัตถุนิยม และค่านิยมมันเสื่อมโทรม ทุกอย่างไม่เป็นไปตามธรรมชาติ เมื่อก่อนปัจจัย 4 นะลุง อะไรมั่งล่ะ ก็
-อาหาร
-เครื่องนุ่งห่ม
-ยารัษาโรค
-น้ำ
แต่เดี๋ยวช่วงที่หนูโตมานี่ (สมัยคุณพ่อยังหนุ่ม)มันเพิ่มมาอันที่ 5
-พาหนะ (รถเครื่อง รถยนต์)
และนี่มาอีกยุคสมัยที่คุณพ่อแก่แล้ว (ประมาณคุณลุงนี่แหละ)มันเพิ่มาอีกเป็น6
-กิ๊ก
ถามว่ามันจำเป็นหรือเปล่า ก็คิดดูเอาเอง และ 30 บ้านน่าจะมีประมาณ 1-3 หลัง และมีแนวโน้มจะมากขึ้นเรื่อยๆ
(ใช้วิจรณญาณนะคะ)
สังคมที่เป็นพื้นๆ แถวชนบทก็เป็นกันแพร่หลาย ....
ปัญญาในการพิจรณาธรรมของหนู มันยังน้อยนักแต่หนูเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง ของคน ของสังคม ของโลก .. แต่ก็ต้องปลงและลงอุเบกขา ในเมื่อจิตตัวเองก็ยังวิ่งวนกับกิเลสเหล่านั้นไม่หยุด ก็ยังไปช่วยสังคมและโลกไม่ได้เลย

จะมีก็แต่พ่อหลวง ที่ท่านพยายามบอกเราๆให้ อยู่อย่างพอเพียง ท่านห่วงพวกเรา แต่ก็เราๆอีกนั่นแหล่ะ ที่ไม่เคยสำนึกและห่วงตัวเองเลย ... เอวัง (ด้วยคน)

 

มีประโยชน์ ได้ความรู้ มีสาระ ในสังคมปัจจุบัน ดีมากเลยครับ

 

ถูกต้องนะครับ พูดได้โดนใจมากครับ เราเกิดมาทำอะไร เกิดมาเป็นคนยากจะตาย มัวแต่ลุุ่มหลงไปกับโลก เรื่องแบบนี้ไปบอกพวกพริตตี้เขาก็อาจจะตอกกลับมาว่า ต้องการเงิน คืออาชีพ เงินดี จริงๆ เงินไม่ต้องดีมาก็อยู่ได้ จะว่าไปอาชีพพริตตี้มันก็ไม่ควรเท่าไหร่ แต่งสั้นๆ แบบนั้น

 

บุญ ทำให้ สวย ​

กิเลส ทำห้ายๆๆๆ อยากๆๆ สวยๆๆๆๆ​

 

อนุโมทนาบุญกับคนที่สั่งสมบุญมาตลอดทั้งในอดีตชาติและปัจจุบันชาติทำให้เกิดมาโชคดีทุกอย่างในชีวิตค่ะ ทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และคุณสมบัติ และขอให้มีจิตใจที่ดีงามสมกับรูปสมบัติด้วยนะคะ อันหลังนี้คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
คนจะงาม งามน้ำใจ ใช่ใบหน้า

 

ขอบคุณคะสำหรับแง่คิดดีๆ

เราควรพอใจในสิ่งที่เรามีเราเป็น

 

พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า..คำว่าบังเอิญ..ไม่มีในโลก จะสวยด้วยยาหรือธรรมชาติ หรือต้องตายด้วยยาล้วนเกิดจาก(บุญ-กรรมทั้งนั้น) จากประสบการที่ผ่านมาเคยเห็นคนขี้แหล่แต่ตอนหลังกลับมาสวย(มากๆด้วย) ก็เพราะ(บุญ)ทั้งนั้น ว่าไม่ได้หลอก ความสวยความงามอยู่ที่(จริต)คน บ้างคนต้องเข้าสังคม บ้างคนก็ต้องอาสัยความสวยความงามเลื้ยงชืพ บางคนชอบทำบุญโดยเฉพาะการสร้างพระพุทธรูป-ซ้อมแซมพระพุทธรูป-ถวายผ้าไตรจีวร ก่อพระเจดีย์ทรายด้วยมือด้วยความเคารพพระรัตนตรัย จากคนธรรมดาๆๆ ทำไปหลายๆปีติดต่อกันเข้า กลับสวยงามเดินไปที่ไหนก็มีแต่คนชมชอบมีความสวยงามปรากฏชัดร่างกายที่อ้วนกลับกรายเป็นสวย งามทุกๆอย่าง อันนี้เห็นมากับตาเลย ว่าไม่ได้หลอกจะไปทำมาหรือจากธรรมชาติล้วนมาจาก(บุญ)ส่งผลทั้งนั้น....ส่วนคนที่ถูก(กรรมชั่ว)บังคับให้(ขี้แหล่)กี่ปีกีชาติจนวันตายก้ไม่สามารถสวยได้เช่นกัน (พระท่านยังมีให้พรเลย ...ขอให้เจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ)
วรรณะ มีความหมาย คือ 1.หมายถึงผิวพรรณ หน้าตาอิ่มเอมผ่องใสสวยงามมีเสน่ 2.หมายถึงการยกย่องสรรเสริญ ได้รับการยอมรับจากสังคม 3.หมายถึง ยศชั้น ฐานันดร ตำแหน่งหน้าที่การงานต่างๆ ให้เจริญก้าวหน้ามั่นคงถาวร

 

โลกทุกวันนี้อยู่ด้วยการหลอกลวงกัน
.. โกงความสวยความหล่อ ..

 

ความอยาก ยังคงเป็นผู้ร้ายตัวจริง ของคนเดินดินกินข้าวเช้า เที่ยง เย็น เสมอรากเหง้าเกิดจากปัจจัย45678...ตอนนี้ถึงปัจจัยไหนแล้วไม่รู้ คนนี่แหละร่วมกันสร้างสรรค์ สิ่งที่คิดว่าดีที่สุด โดยลืมโครงสร้างรากฐานของคำว่า พอดี (deejai)

 

ทุกวันพระ จะไปวัด วัดหนึงเป็นประจำ ทุกครั้งที่ไป จะเจอผู้หญิงชาวบ้าน ยากจนคนหนึ่งเธอจะนั่งเงียบๆ ช่วยจัดอาหาร ล้างจานของเธอไป ใครจะคุยกันยังไงเธอก็จะได้แต่ยิ้มๆ เงียบ สังเกตุเธอมานานจึงเข้าไปคุยด้วย หลังจากได้พูดคุยรู้จักกับเธอเป็นเวลาพอสมควร จึงได้รู้ว่าเธอเป็นชาวไร่จนๆ แต่ก็แบ่งปันอาหารมาทำบุญแทบทุกวัน สามีเธอทานมังสวิรัต ตัวเธอเองจะทานเฉพาะวันพระ และทั้งครอบครัวรักษาศีลห้าโดยคร่งครัด ตัวเราเองก็รักษาศีลห้าจนเป็นนิสัย แต่ความสุขุม สำรวม สู้เธอไม่ได้ พอนานวันเข้าก็ยอมรับได้เต็มใจว่าเธอคนนี้ สวยงามเหลือเกิน สวยงามทั้งจิตใจ กริยา รูปลักษณ์ภายนอกที่คนอื่นมองไม่เห็นว่าสวย แต่เราชื่นชมเธอได้เต็มหัวใจ

 

ความสวยคงเกิดขึ้นเพราะกรรม ทำกรรมดีเอาไว้มาก ๆ ครับ ตามที่ฟังมา ท่านให้ ... ไม่ฆ่าสัตว์ และแผ่เมตตาทุก ๆ วัน ... ใจเป็นสุข ผิวพรรณจะดี เลือดลมในกายจะไม่ร้อน คือสุขในปัจจุบัน และหากต้องเกิดมาอีก จะได้สวย ๆ หล่อ ๆ และมีผิวพรรณดี ... สาธุ


ลป.บุญมี คุณสาโร (พระครูธรรมสุตาภรณ์ )วัดสุตธรรมาราม จ.นครนายก สอนผมตอนนิมนต์มาทำบุญบ้านน้องชาย ว่า คนเราเวลาทำบุญแล้วไม่ระลึกนึกถึงบุญ บุญนั้นสะสมเหมือนเรามีเงินฝากในธนาคาร และบุญอย่างหนึ่งคือการนึกถึงบุญที่เราทำนี่เอง ไม่ใช่ทำทิ้ง ทำแล้วลืมไป เมื่อเรานึกถึงบุญแล้ว เราจะมีใจเป็นกุศล เป็นบุญ ท่านให้ทำทุกวัน ๆ ตอนสวดมนต์ไหว้พระ ให้เรานั่งห้อยเท้าลงสบาย ๆ ให้เลือดไหลเวียนสะดวก ๆ แล้วรู้ลมหายใจสบาย ๆ ระลึกถึงบุญเข้าไว้ เลือดในกายจะเย็น ใบหน้าจะผ่องใส มีบารมี คนเคารพยำเกรง .... ดูหลวงปู่ท่าน อายุเกิน 90 ปีแล้ว ใบหน้ายังตึงอยู่นะ *-*

 

เกิดเป็นมนุษย์มีครบ 32 เลือกทำสิ่งที่นำติดตัวไปกับเราได้ตลอดดีกว่า การทำดี-การสร้างบุญสร้างกุศล เป็นสิ่งที่เดียวไปกับเราได้ สิ่งอื่นใดนอกจากนี้นำพาแต่ความห่วงความหนักใจ ก็อย่าไปคิดนำเข้ามาในชีวิตเราจะดีกว่า คิดได้-ปลงได้-ตัดใจได้- แค่นี้ความทุกข์ก็ลดลงแล้วจ้ะ

 

สวยๆ

อุปาทานสี่ สร้าง กิเลศ กิเลศไปสร้างเหดุ เหดุ เลยไปสร้างผล

พอรับผล ไม่พอพระทัย ก็ ไปโทษ ปี่ กับกลอง

 

ใจสวยดีกว่าจ้ะ

 

พูดตามจริงนะคะ ไม่เคยเลือกคบหาเพื่อนจากความสวย ความหล่ิอ หรือรูปลักษณ์ภายนอกเลยค่ะ
อุปนิสัย และทัศนคติต่างหาก ที่ทำให้คบกันได้ยาวนาน