ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย คุณสนุก, 4 พฤศจิกายน 2010.

  1. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975
    [​IMG]
    Thanks: ฝากรูป
    [​IMG]
    Thanks: ฝากรูป
    [​IMG]
    Thanks: ฝากรูป
    พุทธังสะระณังคัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงซึ่งพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งที่ระลึกเป็นสรณะอันสูงสุดกำจัดภัยได้จริง
    ธัมมังสะระณังคัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงซึ่งพระธรรมะเจ้าเป็นที่พึ่งที่ระลึกเป็นสรณะอันสูงสุดกำจัดภัยได้จริง
    สังฆังสะระณังคัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงซึ่งพระสังฆะเจ้าเป็นที่พึ่งที่ระลึกเป็นสรณะอันสูงสุดกำจัดภัยได้จริง
    นะโมโพธิสัตว์โตอาคันติมายะอิติภะคะวา
     
  2. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา
    นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา
    นะโมโพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา
     
  3. JirLe

    JirLe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +1,367
    อยากลงไปกราบแบบนี้อีกซักครั้งเหมือนกัน
    (tm-love)(tm-love)(tm-love)

     
  4. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    อ่านเจอมาค่ะ....

    บันทึกแห่งสัจจธรรม พิสูจน์…เรื่องเล่าจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และความลี้ลับมหัศจรรย์ของลูกแก้วกายสิทธิ์ของหลวงปู่ทวด ณ ยอดเขาแก้ว เทือกเขาสันการาคีรี

    *เทือกเขาสันกาลาคีรี (น่าจะพิมพ์แบบนี้)



    จากบทความบันทึกแห่งสัจจธรรม ที่หนังสือโลกทิพย์ลงฉบับที่ 308 ปีที่ 14 พฤศจิกายน 2538 ได้ลงบทความเกี่ยวกับการพิสูจน์… เรื่องเล่าจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และความลี้ลับมหัศจรรย์ของลูกแก้วกายสิทธิ์ ณ ยอดเขาแก้ว เทือกเขาสันการาคีรี


    โดยมีคณะกลุ่มหนึ่งได้ขึ้นไปบนยอดเขาแก้ว เทือกเขาสันการาคีรี เพื่อสร้างบารมีให้เจตสิกของเราหรือดวงแก้วที่อยู่ในกายเราสว่างมีความบริสุทธิ์ เจตสิกที่สว่างนั้นคือดวงแก้วที่ทุกคนกำลังปรารถนานั้นเอง เจตสิกเหล่านี้แหละที่จะเข้าสู่ในขั้นอธิษฐานบารมีคือ สามารถนำบารมีที่เราเคยปฏิบัติมาแล้วนั้นมาอธิษฐานจิตอย่างไรก็ตามความปรารถนา แต่ถ้าไม่มีบารมีเลย แล้วจะเอาอะไรไปใช้ในการอธิษฐานจิตเหมือนคนอื่นล่ะ

    ณ พระเกตุแก้ว ฯ นั้นเป็นสถานที่สัปปายะเหมาะแก่การปฏิบัติแบบอุกฤษฎ์มาก เพราะไม่มีอะไรมารบกวนเราได้เลย มีแต่พวกนก ลิง ค่าง และชะนีเท่านั้นเองที่จะอาศัยอยู่บนยอดเขาสูงๆ ได้ เพราะไม่มีแหล่งน้ำ ดังนั้นสัตว์ใหญ่ๆ จะอาศัยอยู่แถบเชิงเขาและกลางเขาได้ และ ณ ที่ยอดเขาแก้ว เทือกเขาสันการาคีรีแห่งนี้ หลังจากที่หลวงปู่ทวดได้ขึ้นไปแสวงหาสถานที่สัปปายะและเหมาะสมในการปฎิบัติอุกฤษฎ์บนยอดเขาสันการาคีรีแล้ว หลวงปู่ทวดท่านได้ขออธิษฐานจิต ให้ญานของแก้วพระไตรรัตน์ลงมาจุติ เพื่อสร้างบารมีในรูปของมหาโพธิสัตว์ เมื่อหลวงปู่ทวดได้อธิษฐานจิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต้นกัลปพฤกษ์ (ต้นกากะทิง) จึงเกิดขึ้นเองโดยอิทธิปาฏิหาริย์ เพราะหลวงปู่ทวดท่านได้สู่ยอดเขาสันการาคีรีด้วยธาตุ 4 ขันธ์ 5 จึงสามารถที่จะอัญเชิญลูกแก้วพระไตรรัตน์ให้ลงมาจุติเกิดได้ อีกทั้งการขึ้นยอดเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทวดนั้น เพื่อแสวงหาโมกข์ธรรมมาเก็บสะสมเอาไว้ในเจตสิกของท่านด้วย

    ภาระหน้าที่ของกลุ่มคณะเราก็คือ การขึ้นไปบนยอดเขาแก้ว พร้อมกันนั้นยังได้สวดมนต์ไหว้พระ ทำสมาธิ จุดธูปจุดเทียนจำนวน 10,000 ดอก เพื่อแผ่เมตตาให้กับสรรพวิญญาณทั้งหลายได้ไปสู่ภพภูมิอื่นที่ดีขึ้นเป็นลำดับ ตลอดทั้งเทพพรหมที่อยู่ในยอดเขาแก้ว


    เหตุการณ์ระหว่างเดินป่า ณ ยอดเขาแก้ว เทือกเขาสันการาคีรี

    หลังจากที่กลุ่มคณะเดินทาง โดยการนำของพรานป่า ระหว่างทางได้หลงป่าอยู่นาน 2 ชั่วโมง เพราะมีแต่ต้นไม้กับป่าเท่านั้นเอง ระหว่างทางเจอหนามและฝากอันแหลมคมต่างๆ ความเจ็บปวด ความเหน็ดเหนื่อย น้ำในกระติกก็หมด จะต้องดื่มน้ำจากเถาวัลย์ทีละหยด และในการที่จะต้องปีนหน้าผาลงไปหาน้ำข้างล่าง มันเหมือนกับเราจะไปตาย เหวแต่ละเหวลึกมาก ทั้งหิว ทั้งอดและหนาวด้วย แต่เมื่อเดินผ่านต้นไม้ขนาดใหญ่ กลุ่มคณะจึงอธิษฐาน เพื่อขอให้รุกขเทวดาที่สิงสถิตอยู่ตามต้นไม้ช่วยลูกช้างด้วยเถิด นำทางให้เราด้วยเถิด ให้เราได้พบกับทางที่ถูกต้องเถิด

    เมื่อได้ยินเสียงคุณวีระศักดิ์หนึ่งในสมาชิกกลุ่มคณะสั่งให้หยุด แล้วให้กลับสู่ยอดเขาใหม่ ใจจึงค่อยชื่นขึ้น เมื่อขึ้นจากหุบเขาเหวได้ จิตใจของเราก็เริ่มดีขึ้น มีกำลังใจขึ้น เพื่อที่จะต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ ให้จงได้ เมื่อกลุ่มคณะได้เดินทางถึงยอดเขาแล้ว ท่ามกลางเมฆหมอกที่ขาวนวล และเสียงของน้ำค้างตกลงมาตลอดคืนนั้น มันเหมือนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายกำลังให้ความอุ่นใจกับเรามากเหมือนกับพวกเขากำลังยินดีที่มีต่อพวกเรามากๆ เลย มันช่างเหมือนกับมีใครๆ ที่กำลังมาแสดงความรู้สึกที่ดีต่อเรามากมายเหลือเกิน

    ในขณะที่ทุกคนกำลังหัวเราะเพลินอยู่นั้นเอง เสียงเล็กแหลมเหมือนเสียงเด็กๆ ดังขึ้นมากลางปล้อง ป้าบุญเรือนของเรากลายเป็นกุมารไปแล้ว กุมารตรีเพชรหรือหนุมาน ที่เราเรียกกันว่า ลูกตรี เพื่อลงมาทำหน้าที่แทนปู่อินทร์ ตอบข้อสงสัยของพวกเราให้หายข้องใจ

    องค์ตรีเพชรได้ลงมาบรรยายให้เราฟังว่า การขึ้นเขาแก้วนั้นไม่ใช่การเดินป่าแบบธรรมดา ใครก็ตามที่สามารถขึ้นไปได้ถึงยอดเขาย่อมเกิดจากแรงอธิษฐาน และความตั้งใจมั่นจริงๆ เหมือนกับที่ปู่อินทร์ได้บอกเอาไว้ไง….ว่าใครอยากได้อะไรก็ให้อธิษฐานจิตขอกันเอาเอง เพราะภูเขาแก้วทั้งลูกคือ แก้วสารพัดนึก ใครอยากจะได้อะไรก็ให้นึกเอา

    ลูกตรีพูดต่อไปว่า ถ้าคณะของเราสามารถที่จะอดทนอยู่บนยอดเขาแก้วเกิน 7 วันไปแล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในรูปของลับแลต่างๆ ก็จะต้องออกมาทำบุญกับพวกเราด้วย…ในเมื่อพวกเรายังคงมีความอดทนไม่พอ เพียงแค่ 3 วัน จะไปเห็นอะไรดีของเหล่าเทวดาเขาได้ย่างไรเล่า มันง่ายเกินไป พอพูดถึงจุดนี้ ลูกตรีก็ชี้ให้เแหงนขึ้นไปดูท้องฟ้า ในขณะนั้นกำลังเกิดเป็นภาพนิมิตเป็นลำแสงพุ่งไปมาในบริเวณนั้น เหมือนกับเป็นการยืนยันในคำพูดของลูกตรี และที่ได้เห็นอริยพรหมทรงเครื่องเหมือนพระศรีอริยเมตไตรนั้น จริงๆ แล้วนี้คือ พระอิศวรภาคสมบูรณ์ของเบื้องบน…ที่จะต้องมาตรวจตราดูแลรักษาธาตุขันธ์ของแก้วพระไตรรัตน์ด้วยเหมือนกัน

    ถึงแม้ว่าจิตวิญญาณหรือเจตสิกของหลวงปู่ทวดได้ไปจุติเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อสะสมบารมีของมหาโพธิสัตว์ที่จะรับรวมอริยธรรมทั้งหลายของวัฏสงสารนี้ มาสะสมเอาไว้ในเจตสิก เพื่อนำมาสั่งสอนเวไนยสัตว์ที่ปรารถนาจะหลุดพ้นในยุคที่ท่านสำเร็จเป็นพุทธะ แสงปาฏิหาริย์ต่างๆ ของลูกแก้วจึงหายไป คงมีแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น จะต้องดูแลรักษาเอาไว้สืบต่อไปในภายหน้า ณ ภูเขาสันการาคีรีนี้ไว้ เพราะยังเป็นพันธะของพระโพธิสัตว์กับพระศรีสรรเพชรสืบต่อไปอีก

    เราลองมาพิจารณาดูซิว่า…เรามาอยู่แค่เชิงเขาเท่านั้นเราก็สบายกันแล้ว ถ้าขึ้นไปอยู่บนยอดเขาแก้วไปนานๆ มันสบายเพิ่มมากขึ้นแค่ไหน ขนาดตรงนี้ยังไม่มีสิ่งรบกวนจากภายนอก มีสายลมโชย แสนจะสบายมีดาวเต็มท้องฟ้า มีเสียงน้ำตก แล้วเราจะไปหาความสงบแบบนี้จากที่ไหนอีก ถ้าไม่ใช่ป่ารกชัฏ นี้แหละเป็นที่ฝึกหัดสมาธิได้ยอดเยี่ยมที่สุดเลย แต่ต้องเขานิโรธได้นะ อยู่ปฏิบัติสักเดือน สองเดือนก็เห็นผลแล้ว

    ลูกตรียังคงพูดต่อไปอีกว่า การขึ้นเขาแก้วนั้น เขาต้องการให้รู้จักทุกข์ และหาหนทางให้พ้นทุกข์ หิวก็เป็นทุกข์ อิ่มก็เป็นทุกข์ ขึ้นเขาเหนื่อยๆ ก็เป็นทุกข์ เขาให้เราพิจารณาว่าทุกๆ อย่างนั้นเป็นทุกข์ เพื่อมิให้พวกเราไปหลงยึดมั่นถือมั่นในร่างกายสังขาร เพราะจะทำให้จิตของเราไปจับอยู่กับกองทุกข์ทั้งหลายได้อีก ให้เอาจิตยกขึ้น ไม่ไปสนใจร่างกายสังขารเพราะมันไม่ใช่ของเรา

     
  5. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    ถ้าเราเอาจิตไปจับอยู่กับตัวทุกข์ ถ้าเราเอาจิตไปจับเอาไว้ตรงนั้น มันก็เจ็บ มันก็ปวด มันก็เมื่อย มันก็ทุกข์ เราจึงต้องเอาจิตยกขึ้นมา แต่เรามันเกาะติดอยู่กับธาตุ 4 ขันธ์ 5 ของเรา ทั้งหมดนี้ก็เพื่อทำให้พวกเราได้รู้จักทุกข์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ถ้าเรารู้แล้วว่านั้นแหละคือตัวทุกข์ ที่จะต้องเกิดมาเป็นธาตุขันธ์ มันทุกข์ทั้งนั้น เราก็ไม่เอาจิตของเราไปจับอยู่กับทุกข์ (ธาตุขันธ์) เราก็ปล่อยไป กลายเป็น ละ วาง หยุด นี่ตรงนี้แหละ ที่พระสงฆ์องค์เจ้าต้องออกไปจาริกธุดงค์ ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อท่านทั้งหลายจะได้มีโอกาสที่จะได้รู้จักกับตัวทุกข์ พอรู้ทุกข์แล้ว ถ้าเราปฏิบัติไปเรื่อยๆ มันก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว เราจะรู้ว่า อ๋อ…ทุกข์มันเป็นอย่างนี้นะ

    แต่กว่าจะผ่านความทุกข์ไปได้ เราจะต้องเจอด้วยตัวเราเองเสียก่อน ถ้าไม่เจอก็ไม่รู้ เพราะถ้าทุกคนไม่เคยผ่านทุกข์ เมื่อเรารู้จักทุกข์แล้ว เราจึงจะหาทางให้ไปจากกองทุกข์ได้ เพราะเรารู้ว่ามันเกาะติดอยู่ในธาตุขันธ์ เกาะติดอยู่ในปัญญา เกาะติดอยู่ในเวทนา เกาะติดอยู่ในวิญญาณ ทั่วทุกส่วนของร่างกายสังขารเลย วิญญาณไม่ใช่ปัญญานี่ แต่ปัญญาคือจิตของเรา ลูกตรีจึงสรุปว่า การขึ้นเขาสันการาคีรีของเราในครั้งนี้ เพื่อให้เกิดปัญญา ไม่ประมาท ไม่ขาดสติ กำจัดความเคยชินและความสะดวกสบายออกไปจากเรา เพราะนั่นคือสิ่งที่ทำให้เกิดทุกข์ จนมองไม่เห็นทุกข์ไปเสีย ต่อ ๆไปเราจะเกิดความสำรวม ระวัง ต่อสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า มันจะทำให้เราเกิดความอดทนและอดกลั้นจริงไหมล่ะ เพราะเคยลำบากยากเข็ญจากขึ้นเขามาแล้ว เราพอรู้แล้วว่าทุกข์มันคืออะไร…เราก็กลายเป็นผู้ที่มักน้อย ปรมัตถ์นี้แหละที่เขาเรียกว่า ปรมัตถธรรมหรืออริยธรรมที่เราได้รับมา มีเหตุที่จะต้องขึ้นเขาหลังจากขึ้นเขาลงมาแล้ว ผลจะเกิดขึ้นในทันที คือได้ผลกันทุกคน ผลอะไร ก็ผลแห่งกองทุกข์ แล้วยังต้องหาทางออกจากทุกข์

    เพราะในสัญชาตญาณของความเป็นคนนั้น ไม่มีใครเลยที่เขาอยากจะทุกข์ เพราะเขากำลังผจญอยู่กับกองทุกข์ โดยที่เขาไม่รู้ตัวเลย เพราะทุกคนกำลังหากินกัน ย่อมเป็นธรรมดาของคนที่อยากร่ำอยากรวย อยากได้อยากดี อยากมี อยากเด่น และอยากดัง นี่แหละคือความพยายามที่จะหาทุกข์มาใส่ตัว หากองทุกข์กองใหญ่เลยมาใส่ตัว…แต่ไม่มีใครที่อยากจะพ้นไปจากกองทุกข์จริงๆ

    ผลของการปฎิบัติอุกฏษฏ์ของเราในคราวนี้ นอกจากเทพเทวาทั้งหลายที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ จะมาร่วมโมทนาบุญกับเราแล้ว เรายังสามารถที่จะนำประสบการณ์ของความทุกข์ต่างๆ ที่เราได้ไปเจอมานั้น มาชี้แนะให้แก่ผู้คนโดยทั่วไป เพื่อให้พวกเขารู้จักทุกข์ได้เหมือนกัน เพราะเราได้ประสบการณ์แห่งทุกข์ออกมาแยกแยะ แจกแจงให้ผู้คนโดยทั่วไปได้เกิดปัญญาร่วมได้มากมาย ส่วนผลของบารมีในการปฏิบัติอุกฤษฎ์นั้น เราไม่ต้องไปพูดถึงหรอก เพราะที่เขาเรียกกันว่าอุกฤษฏ์คือ ต่อๆ ไปเราก็จะสามารถที่จะปฏิบัติด้วยตนเองได้แล้ว…เพราะเราเคยปฏิบัติผ่านมาแล้ว ผ่านความทุกข์สุดๆ มาแล้ว จากการปฏิบัติอุกฤษฏ์ในคราวนี้

    แต่ถ้าเราไปปฏิบัติตามสถานที่ต่างๆ ก็คงจะไม่ต้องทุกข์มากนัก ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็มีคนเขาต้องการจะมาทำบุญด้วย มีชาวบ้านเขาเอามาให้กิน ก็สบายไปเลย ถ้าเราได้พิจารณาให้ถี่ถ้วนแล้ว เราสามารถเห็นได้ตั้งแต่แรกเกิดเลย เอาเราเริ่มเกิดออกมาจากท้องพ่อท้องแม่ เรายังไม่รู้จักตนเลย ยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่มีอาสวะกิเลสได้แปดเปื้อนได้เลย ปีแรกๆ นั้นความบริสุทธิ์และไร้เดียงสาของเด็กนั้น ถ้าเราจะเปรียบไปแล้วเหมือนกับดวงแก้ว ที่กำลังใสและบริสุทธิ์มาก เสมือนกับพระอรหันต์องค์หนึ่งเลยทีเดียว

    เมื่อเราค่อยๆ โตขึ้นมา ก็ได้รับความอบอุ่นจากพ่อจากแม่ จากญาติพี่น้อง และสังคม ได้เรียนรู้ เพื่อให้เกิดปัญญาเพื่อความอยู่รอดในสังคมได้……แต่ในบางครั้ง ปัญญาที่เราได้รับจากพ่อแม่ พี่น้อง ครูบาอาจารย์ และสังคมนั้น ไม่มีใครบอกเราเลยว่า ให้เราใช้ปัญญาอย่างไรถึงจะถูกต้องทั้งทางโลกและทางธรรม เพราะฉะนั้นสภาวะแวดล้อมนี้สำคัญมากเช่น ลูกพ่อเดียวกัน…แม่เดียวกัน แต่ตกไปอยู่ในที่ดีก็ต้องดีเป็นธรรมดา ….ถ้าตกไปอยู่ในสถานที่ชั่ว…..ก็ต้องชั่วเป็นธรรมดา แต่ในขณะพวกเรากำลังตกอยู่ในสถานที่ที่ดีๆ อยู่แล้วเราก็เลยต้องมาฝึกหาความดีกันเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ให้ดีที่สุด แต่การกระทำความดีนั้น ยังกระทำได้ยากขึ้น มันจึงจะรู้ได้ว่าดีหรือชั่ว ความดีจึงทำยากกว่าทำชั่ว

    ถ้าเขาติดสนุก ติดสบายเขาคงไม่หาความลำบากหรอก ทุกข์ก็ทุกข์ แถมยังต้องมาเสียเงินเสียทองอีกตั้งมากมาย เพราะบางคนเขาคิดว่าไร้สาระ ไม่มีค่าพอ….แต่ความจริงมันมีค่า มันล้ำค่ามากๆ เลย นี่แหละคือบารมีที่ได้ เราทำมาได้มากๆ เลย จนเราไม่สามารถที่จะนำบารมีที่เราได้รับมา…..เปรียบเทียบกับอะไรได้เลย

    บารมีนั้นยังลึกซึ้งและละเอียดอ่อนกว่าบุญมาก เพราะบารมีนั้นจับต้องไม่ได้…มันเป็นเพียงอานิสงส์ของการสร้างคุณงามความดี…ไม่ว่าคุณจะสร้างบุญ สร้างโบสถ์ สร้างวิหาร หรือทานบารมีใดๆ ก็คือการสร้างบุญและบารมี เพื่อให้เกิดสิ่งดีๆ กับตัวเรา ที่แน่ๆ เราได้รู้จักทุกข์ เราได้เห็นของจริงๆ เลย ดีกว่าการกระทำใดๆไม่ว่าศีล หรือสมาธิ เพื่อหาอุบายมาให้จิตของเราได้เกิดปัญญาเท่านั้น จะได้รู้ว่าสิ่งใดผิด สิ่งใดถูก แต่ถ้าเราได้เห็นทุกข์จริงๆ ความรอบรู้นี้เองที่ทำให้เราเกิดปัญญา

    และที่เรากำลังนั่งคุยอยู่นี้ มิใช่ว่าจะเฉพาะพวกเราเท่านั้นที่ร่วมรับฟัง แต่ยังมีเหล่าเทพเทวาอีกไม่รู้กี่ 100,000 กี่ 1,000,000 ล้านดวงจิต เขาก็อยากจะรู้อริยธรรมชั้นสูงเหมือนกัน เขาจึงมาร่วมรับฟังธรรมด้วย เพราะเขาได้ช่วยผู้ปฏิบัติอยู่เนืองๆ เมื่อเราได้ธรรมสัจจะ เขาก็ได้รับธรรมสัจจะนั้นด้วย ตามบารมีของแต่ละรูปแต่ละนาม ว่าจะรับกันได้มากน้อยแค่ไหน สรุปง่ายเข้า เทพ-เทวาทั้งหลายเขาก็ต้องมาร่วมโมทนากับเราด้วย

     
  6. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    จะว่าไปแล้วมันก็เป็นสัจจธรรมอย่างหนึ่งของต้นกากะทิงหรือต้นกัลปพฤกษ์นั้น ที่เทพเทวาทั้งหลายถือว่าคือ ต้นพฤกษาชาติประจำชาติไทยของเรา ที่มีพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติและเป็นศาสนาเดียวที่อบรมสั่งสอนจิต ด้วยอุบายอันยอดเยี่ยมของศีล สมาธิ จนเกิดปัญญาและรู้แจ้งเห็นจริงในความไม่เที่ยงที่จะต้องเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปในที่สุด เมื่อมองเห็นความไม่เที่ยงแล้ว จิตก็จะละ วาง หยุด ไปโดยปริยาย

    ส่วนผู้ที่มีบารมีน้อย ก็ปรารถนาความสำเร็จเหมือนกัน จึงปรารถนาที่จะเกิดให้ทันในยุคของพระศรีอริยเมตไตร เพื่ออาศัยพระบารมีของท่านให้ช่วยนำพาเจตสิกของเราเข้าสู่กระแสพระนิพพานตามพุทธทำนายไว้ แต่จะมีสักกี่คนละที่รู้และเข้าใจว่า ทำอย่างไรจึงจะสามารถไปเกิดในยุคของพระศรีอาริยเมตไตรได้….ยุคนั้นๆ ไม่ใช่ใครๆ จะไปเกิดกันได้ง่ายๆ หรอกนะ

    เพราะจะต้องผ่านการปฏิบัติเพื่อสะสมบารมีกันตั้งแต่ตอนนี้ อย่างน้อยก็จะต้องมีศีล 5 ที่บริสุทธิ์จริงๆ ต้องมีศีล 5 ที่บริสุทธิ์เสียก่อน ต่อจากนั้นจึงค่อยเริ่มเข้าสู่การปฏิบัติสวดมนต์ไหว้พระและหัดสมาธิบ้าง เพื่อชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิ์ ตั้งมั่นอยู่ในการสำรวมกาย วาจา ใจและที่สำคัญที่สุดเลยคือ สติ

    การธุดงค์มี 2 แบบ คือ
    แบบที่ 1 สบายๆ แต่ไม่รู้จักทุกข์
    แบบที่ 2 รู้ทุกข์ แต่ไม่สะดวกสบาย

    แม้การขึ้นยอดเขาแก้ว เทือกเขาสันการาคีรีครั้งนี้จะเต็มไปด้วยอันตราย ความหิวทั้งอด ทั้งโหด ทั้งเหนื่อย แล้วก็หมดแรง แม้กระทั่งความกลัว การหลงป่า มันมีอยู่พร้อมทุกๆ อารมณ์ และทุกๆ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นยากเย็น ไม่มีใครเขาสนใจไม่มีใครเขาอยากทำ….แต่เราก็ภาคภูมิใจที่เราสามารถค้นหาต้นโพธิ์พระศรีอาริยเมตไตร หรือต้นกากะทิงต้นที่ 5 จนพบ นี่ก็เพราะความปรารถนากันจริงๆ ถ้าใครอยากอุกฤษฏ์ก็ต้องทดลองขึ้นไปพิสูจน์ ณ ยอดเขาสันการาคีรีสักครั้งหนึ่ง เพื่อให้ถึงซึ่งอริยธรรมของพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์ สาธุ สาธุ สาธุ……

    คนใด ไม่ว่าหนาว หรือร้อน มีลม แดด เหลือบยุง
    ก็ไม่พรั่นทนหิวทนกระหายได้ทั้งนั้นสิ่งที่เป็นประโยชน์มาถึงตามกาลก็ไม่ปล่อยให้สูญเสียไป คนนั้นย่อมเป็นสิ่งที่ชอบใจของสิริโชค สิริโชคสิริโชคขอพักพิงอยู่กับเขา


    ธรรมกลางดง…..ใน ทุก ป่า มี ธรรม


    ในดอนดงยังคงเดินเพลินไพรพฤกษ์
    ในป่าลึกยังฝึกฝนทนสังขาร
    ในเส้นทางระหว่างวันแสนกันดาร
    ในสายธารสนานธรรมฉ่ำใจกาย

    ทุกก้าวย่างที่ย่างย่ำเปี่ยมสำนึก
    ทุกความตรึกอันลึกเปี่ยมความหมาย
    ทุกลมปราณยังหาญกล้าสู้ท้าทาย
    ทุกความตายคือคำเตือนเหมือนตำรา

    ป่าดงดานย่านไพรใช้แทนวัด
    ป่าปฏิบัติขจัดภัยในสังสาร
    ป่าดอยดงพงพฤกษ์ลึกสุดตา
    ป่าเชิงผาสารพัดชัฏเชิงไพร

    มีนกน้อยคอยขับขานกังวานเสียง
    มีสำเนียงแห่งสิงห์สาพนาสัย
    มีความเงียบเปรียบดนตรีกวีใจ
    มีหริ่งไรในแดนเถื่อนเป็นเพื่อนนอน

    ธรรมชาติประกาศธรรมอันล้ำค่า
    ธรรมดาท้าให้เห็นเป็นคำสอน
    ธรรมทัศน์ขจัดเขลาเกล่านิวรณ์
    ธรรมธรบวรสงฆ์ผู้ทรง


    * ขอขอบพระคุณและโมทนาบุญอย่างสูงสำหรับข้อมูลจาก :
    โลกทิพย์ 308 ปีที่ 14 พฤศจิกายน 2538 “บันทึกแห่งสัจธรรม พิสูจน์...เรื่องเล่าจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และความลี้ลับมหัศจรรย์ของลูกแก้วกายสิทธิ์ ณ ยอดเขาแก้ว เทือกเขาสันการาคีรี”: อริยะ เรียบเรียง: กรุงเทพมหานคร, 2538. หน้า 90-98.
    • หลวงพ่อพระคุณปัญญาโสภิต (สำรวย ฐิตยโส). “เหตุมหัศจรรย์บนเส้นทางธุดงค์
    ค้นหาโมกขธรรมของหลวงพ่อสำรวย”: ภาพชุดสุดยอดวัตถุมงคลของท่านเจ้าพระคุณพระสุนทรธรรมากร. หน้า 54.


    อ้างอิง....
    บันทึกแห่งสัจจธรรมลูกแก้วกายสิทธิ์ของหลวงปู่ทวด ณ ยอดเขาแก้ว เทือกเขาสันการาคีรี - บทความพระอริยะ - แดนนิพพาน "โมทนาทุกดวงจิตถึงซึ่งแดนนิพพาน" - Powered by Discuz!
     
  7. dinso

    dinso เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2005
    โพสต์:
    4,863
    ค่าพลัง:
    +9,562
    กราบพ่อทวด ครับ อยู่กทม
     
  8. จงอาง

    จงอาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,537
    ค่าพลัง:
    +7,799
    <NOSCRIPT></NOSCRIPT>[​IMG]



    คมเลนส์ส่องพระประจำวันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ.2555 : แล่มจันท์พิศาโล


    เหรียญหลวงพ่อทวดวัดช้างให้พิมพ์ช้างปล้องเนื้ออัลปาก้าปี๒๕๐๔จัดเป็นพิมพ์นิยมสุดในบรรดาเหรียญรุ่น๓ด้วยกันสร้างด้วยเนื้ออัลปาก้าทั้งหมดปัจจุบันหาสภาพสวยแท้ได้ยากค่านิยมในเหรียญสภาพสวยระดับแชมป์เวลานี้ทะลุหลัก๒แสนขึ้นไปแล้วสำหรับเหรียญที่มีสภาพสวยคมชัดล่าสุดมีเหรียญเก๊ชนิดเฉียบขาดปาดคอเซียนสามารถทำตำหนิติดคมชัดแทบทุกจุดวิธีเก๊คือนำเนื้อทองแดงมาปั๊มแล้วมาชุบอัลปาก้าฉาบด้วยกะไหล่เงินบางๆอีกชั้นหนึ่งเพื่อให้เทียบเคียงเหรียญแท้สาเหตุที่ทำเช่นนี้ก็เพราะทองแดงเป็นโลหะเนื้ออ่อนเวลาปั๊มสามารถติดตำหนิจุดเล็กๆหรือเส้นขนแมวบางๆได้อย่างไรก็ตามพระเก๊ก็คือเก๊ผู้รู้ที่ชำนาญการสามารถแยกเก๊แท้ออกจากกันได้ไม่ยากนักแต่คงยากมากสำหรับมือใหม่ จุดสังเกตของเหรียญเก๊ที่ว่านี้แม้ว่าจะสามารถถอดพิมพ์เก็บรายละเอียดได้ดีแต่ธรรมชาติของเส้นสายยังขาดความคมชัดลักษณะพลิ้วไหวอย่างธรรมชาติโดยเฉพาะเส้นและจุดตำหนิบริเวณงวงช้างทั้งสองข้างรวมทั้งเส้นตามซอกต่างๆอีกทั้งกระแสเนื้ออัลปาก้าที่แลดูเปล่งสดใสผิดธรรมชาติพระเก่าและแท้จุดสังเกตอีกจุดหนึ่ง คือหากสังเกตให้ดีๆที่บริเวณหูเหรียญหรือขอบเหรียญมักมีผิวเนื้อในที่เป็นทองแดงแลบออกมาเนื่องจากมีข้อบกพร่องในกระบวนการผลิต(ใช้วัตถุแหลมสะกิดก็จะเห็นเนื้อทองแดงนี้หากต้องการพิสูจน์จริง) ขณะเดียวกัน เหรียญรูปไข่รุ่น๔เนื้ออัลปาก้าก็เก๊ด้วยกรรมวิธีเดียวกันนี้เช่นกันสำหรับเหรียญในภาพนี้นับเป็นเหรียญสภาพแชมป์ที่คงความสวยและสมบูรณ์ตามสภาพเหรียญเก่าเก็บมีกะไหล่เงินเคลือบกระจายทั่วทั้งเหรียญสภาพเหรียญคมชัดมากโดยเฉพาะจุดสำคัญของเหรียญคือจมูกที่โด่งคมสันและตำหนิที่สำคัญติดคมลึกทุกซอกมุมพระองค์นี้ได้รับรางวัลที่๑จากงานประกวดพระครั้งใหญ่ที่รับรองโดยสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทยมาแล้ว๓ครั้งงานล่าสุดคืองานศิษย์เก่านักเรียนนายร้อยจปร.รุ่นที่๓๒เมื่อวันอาทิตย์ที่๙กันยายนที่ผ่านมาณศูนย์ประชุมม.ธรรมศาสตร์รังสิตเป็นเหรียญของศ.ดร.ผดุงศักดิ์รัตนเดโชผู้ครองแชมป์ชนะเลิศโต๊ะหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ในงานนี้

    ---------------------------------------------------------------------------------
    ขอบคุณ
    คมเลนส์ส่องพระ 15 กันยายน 2555
     
  9. พลศิริ

    พลศิริ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    7,978
    ค่าพลัง:
    +18,982
    กราบหลวงปู่ของลูกหลาน
    สวัสดีเช้าวันหยุดเด้อพี่น้อง
    วันนี้หยุดงาน แต่พรุ่งนี้ทำงานครับผม:cool:
     
  10. Aimee2500

    Aimee2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,703
    ค่าพลัง:
    +1,765
    ลองดูที่นีสิค่ะ
    วัดพะโค๊ะ – วัดเมือง : ++รูปหล่อลอยองค์หลวงปู่ทวด....เนื้อเงิน...วัดพะโค๊ะ...หมายเลข828 สวยมากครับ++
    G-Pra.com: ประมูลพระเครื่องการันตีพระ.คอม
    รูปหล่อองค์ลอยรุ่นแรกเนื้อเงินหลวงปู่ทวด วัดพะโค๊ะ ปี2505 รูปหล่อ : ร้าน พลังจิต รวมร้านบ้านพระ บ้านนี้มีแต่พระ... บ้านพระ Baanpra.com
    รูปหล่อ ลอยองค์ หลวงปู่ทวด เนื้อเงิน ฐานตอกโค๊ด เลข"235" วัดพะโค๊ะ สวยกริ๊บๆ สร้างน้อย : Shopping.co.th
    รูปหล่อหลวงปู่ทวด วัดพะโค๊ะ เนื้อเงิน ปี 35 (มงคลบพิตร)
    https://www.google.co.uk/search?q=ป...nK0QXjwYCgBw&ved=0CDMQsAQ4Cg&biw=1193&bih=662
     
  11. anusart34

    anusart34 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2011
    โพสต์:
    509
    ค่าพลัง:
    +868

    ของที่ไหนครับ เขาอ๋อ ป่าวครับ
     
  12. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    สวัสดียามเช้าค่ะ.....

    ค้นมาให้ค่ะ....


    [​IMG]screen.width*0.8) this.width=screen.width*0.8">

    [​IMG]รูปภาพที่แนบมา: IMG_5696.JPG (2-2-2012 21:48, 59.24 KB) / ดาวน์โหลดจำนวน 4
    http://www.khalong.com/board2/attac...7ea69b07cd879136b21c2&t=1347672296&sid=55Ic5k

    [​IMG]screen.width*0.8) this.width=screen.width*0.8">
    <HR color=#808080 SIZE=2 width="100%" noShade>โดย: peach เวลา: 2-2-2012 21:50

    ตรงฐานบัวมีอักษรรอบ อ่านว่าสมเด็จเจ้าพะโค๊ะ หลวงปู่ทวดเหยีบน้ำทะเลจืด
    <HR color=#808080 SIZE=2 width="100%" noShade>โดย: wawatep เวลา: 2-2-2012 22:14


    สวยครับ เอามาแจกเหรอครับ ถ้าแจกขอสักองค์นะครับ(แซวเล่นนะครับ) สวยงามมาก
    <HR color=#808080 SIZE=2 width="100%" noShade>โดย: peach เวลา: 2-2-2012 22:44


    สวยครับ เอามาแจกเหรอครับ ถ้าแจกขอสักองค์นะครับ(แซวเ ...
    ต้นฉบับโพสโดย wawatep เมื่อ 2-2-2012 22:14 [​IMG]
    ขอบคุณครับเนื้อเงินครับองค์หนักเหมือนกันขนาดเท่านิ้วมือ1ข้อเลยครับ
    <HR color=#808080 SIZE=2 width="100%" noShade>โดย: หิรัญ เวลา: 3-2-2012 00:46


    ที่ไหนครับใครพอทราบบ้าง ได้มาแบบงงเนื้อเงินมีโค๊ต

    ...
    ต้นฉบับโพสโดย peach เมื่อ 2-2-2012 21:48 [​IMG]
    มาแบบ งงๆ ก็แจกแบบงงๆก็ได้ครับ :mad: :mad: เอกลักษณ์วัดของนี้จะสร้างแบบ มีลูกแก้วคู่บารมีในมือ กับ ฐานงูใหญ่ ตามประวัติหลักฐานบงบอกว่าหลวงปู่ทวดจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้ช่วงดำรงตำแหน่งพระสังฆราชในยุคกรุงศรีอยุธยา
    ประวัติวัดพะโคะ (วัดพระราชประดิษฐาน)
    บ้านเมืองเราเป็นเมืองแห่งพระพุทธศาสนา จนได้ชื่อว่า “ เป็นแผ่นดินธรรม ” วิถีชีวิตผู้คนเกี่ยวเนื่องกับวัดแทบทั้งสิ้น การสร้างศาสนสถานแต่ละแห่ง คนโบราณส่วนใหญ่มักจะสอดแทรกเรื่องราวเกี่ยวกับคติธรรมความเชื่อไว้อย่างแยบคาย ศาสนสถานล้วนมีจุดเด่น ของดีของวิเศษแตกต่างกันออกไป
    เดิมวัดนี้ปรากฏว่าพระชินเสนเป็นผู้สร้างราว พ.ศ.๕๐๐ ชื่อว่าวัดพระราชประดิษฐาน ฝังวิสุงคามสีมา พ.ศ.๘๔๐ พระยาธรรมรังคัลเจ้าเมืองพัทลุง (สทิงคามสีมา) เป็นศาสนูปถัมภ์สร้างถาวรวัตถุหลายอย่างเพราะเห็นความสำคัญของวัดเขาพระพุทธบาท หรือวัดพระราชประดิษฐาน ครั้นต่อมา ระหว่าง พ.ศ.๒๐๙๑-๒๑๑๑ พระยาดำธำรงกษัตริย์(บางแห่งกล่าวว่าพระยาธรรมรังคัล) ได้นิมนต์พระมหาอโนมทัสสี พระณไสยมุยและ พระธรรมกาวา ให้ไปเอากระบวนพระมหาธาตุ เมืองลังกา และมาสร้างเจดีย์ศรีรัตนมหาธาตุ สูงหนึ่งห้าวา ทำพระวิหารธรรมศาลา ทำอุโบสถ สร้างกำแพงสูงหกศอกระหว่างเขตสังฆาวาสที่พักสงฆ์อาศัยส่วนลดต่ำทางทิศตะวันตกของพื้นที่วัดส่วนที่ เป็นเนินสูงราบเป็นชั้น ๆ พื้นที่วัดทางทิศตะวันออกเป็นพุทธาวาส สถานที่ปลูกสร้างปูชนียวัตถุโบราณสถาน เช่น พระวิหาร พระพุทธไสยาสน์ พระเจดีย์ อุโบสถ ธรรมศาลา เป็นต้น และสร้างพระพุทธไสยาสน์ ชื่อว่าพระพุทธโคตรมะตามความนิยมของชาวบ้านเรียกชื่อวัดตามชื่อพระโคตรมะ ชื่อวัดพระราชประดิษฐานเดิมไม่นิยมใช้เรียกกันครั้นต่อมาวัดพระโคตะมะ เรียกเพี้ยนเป็นวัดพะโคะ ในกาลครั้งนั้นกษัตริย์หัวเมืองพัทลุง (สทิงพระ) และคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ทำฎีกาเข้าไปยังกรุงศรีอยุทธยาขอทำกัลปนาต่อพระเจ้าอยู่ได้พระราชทานที่กัลปนาแก่วัดวาอารามต่าง ๆ
    ในเขตหัวเมืองนครศรีธรรมราช และเมืองพัทลุง (ดังปรากฏว่าด้วยการพระราชทานที่กัลปนาสำเนาจากหนังสือเทศาภิบาลเล่ม ๑ ที่นำมาลงพิมพ์บางตอนพอเป็นสังเขปซึ่งเกี่ยวกับพะโคะเท่านั้น)
    วัดพะโคะ (เดิมชื่อ วัดหลวง) ปัจจุบันชื่อ วัดราชประดิษฐาน ตั้งอยู่ บริเวณเขาพัทธสิงค์ หมู่ที่ 6 ตำบลชุมพล อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา
    ปี พ.ศ. 1919-2039 สมัยอยุธยาตอนต้น ชาวเผ่าอินโดนีเซีย จากปลายคาบสมุทรมลายูบริเวณหมู่เกาะ ซึ่งเป็นกลุ่มชนที่เจริญซึ่งนับถือศาสนาอิสลาม มีการ ติดต่อกับชาวอาหรับเปอร์เซีย ตั้งแต่ตอนกลางพุทธศตวรรษที่ 19 ได้ส่งกองโจรสลัดมาทางมหาสมุทรเพื่อปล้นสะดมชุมชนต่าง ๆ ทางตอนกลางคาบสมุทรมลายูมีหลักฐานบันทึกในหนังสือเรื่องกัลปนาวัดในสมัยอยุธยากล่าวถึง โจรสลัดยกทัพยกกำลังเข้าปล้นตีเมืองพะโคะ แถบคาบสมุทรสทิงพระหลายครั้ง
    พ.ศ. 2057 สมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ได้สร้างวัดพะโคะ (เดิมชื่อ วัดหลวง) ต่อมา ได้สร้างวัดพะโคะ บนเขาพะโคะ ปัจจุบันชื่อ เขาพัทธสิงค์
    พ.ศ. 2091 - 2111 สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ได้รับพระราชทานที่กัลปนาวัด เรียกว่า วัดราชประดิษฐาน
    พ.ศ. 2148 - 2158 สมเด็จพระเอกาทศรถ ได้บูรณะพระมาลิกเจดีย์สูง 1 เส้น 5 วา และได้พระราชทานยอดพระเจดีย์เนื้อเบญจโลหะ ยาว 3 วา 3 คืบ
    ความสำคัญ
    ใช้เป็นสถานที่กระทำพิธีดื่มน้ำพระพิพัฒน์สัตยา
    ประดิษฐานพระมาลิกเจดีย์พระพุทธไสยาสน์หรือพระโคตมะ
    พระมาลิกเจดีย์ เป็นสถาปัตยกรรมภาคใต้แบบลังกาสมัยอยุธยา
    บรรจุพระบรมธาตุ
    พระพุทธบาทข้างซ้ายเหยียบประทับเป็นรอยอยู่บนหินความยาว 17 นิ้ว
    วัดพะโคะหรือวัดพระราชประดิษฐาน ตั้งอยู่ห่างจากสงขลา 48 กิโลเมตร เป็นวัดจำพรรษาของ สมเด็จพะโคะหรือหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ซึ่งประชาชนให้ความนับถือเป็นอันมาก สร้างประมาณ พ.ศ.500 เล่ากันว่า วันหนึ่งมีโจรสลัดแล่นเรือเลียบมาตามฝั่ง เห็นสมเด็จพะโคะเดินอยู่มีลักษณะแปลกกว่าคนทั้งหลายจึงใคร่จะลองดี โจรสลัดจอดเรือและจับสมเด็จพะโคะไป เมื่อเรือแล่นมาได้สักครู่เกิดเหตุเรือแล่นต่อไปไม่ได้ ต้องจอดอยู่หลายวัน จนในที่สุดน้ำจืดหมดลงโจรสลัดเดือดร้อน สมเด็จพะโคะสงสาร จึงเอาเท้าซ้ายแช่ลงไปในน้ำทะเลเกิดเป็นประกายโชติช่วง น้ำทะเลกลายเป็นน้ำจืด โจรสลัดเกิดความเลื่อมใสศรัทธากราบไหว้ขอขมา และนำสมเด็จพะโคะขึ้นฝั่ง ตั้งแต่นั้นมาประชาชนจึงพากันไปกราบไหว้บูชากันเป็นจำนวนมาก ภายในวัดมีโบราณสถานสำคัญคือ พระสุวรรณมาลิกเจดีย์ศรีรัตนมหาธาตุ ซึ่งภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
    การเดินทาง
    ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 407 ทางสะพานติณสูลานนท์ผ่านเกาะยอ แล้วเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 408 (สงขลา-ระโนด) หลักกิโลเมตรที่ 110 ทางซ้ายมือ จะมีป้ายบอกทางเข้าวัดพะโคะ

    <HR color=#808080 SIZE=2 width="100%" noShade>
    โดย: iamgumunza เวลา: 3-2-2012 00:55

    สวยมากครับ
    <HR color=#808080 SIZE=2 width="100%" noShade>
    โดย: player_korn เวลา: 3-2-2012 01:07

    ผมมีอยู่องค์นึง ต้องยอมรับเลยว่า สภาพที่คุณ peach นำมาลง สภาพสวยกว่าผมมาก น่าจะเรียกว่า สภาพเต็ม 100 ก็ว่าได้ครับ ยินดีด้วยครับ
    <HR color=#808080 SIZE=2 width="100%" noShade>
    โดย: หิรัญ เวลา: 3-2-2012 02:41

    แก้ไขล่าสุด หิรัญ เมื่อ 3-2-2012 02:46

    ลืมบอกไป รูปหล่อหลวงปู่ทวด วัดพะโค๊ะ เนื้อเงิน เลียนพิมพ์ ปี 35 หากเป็นปี 2535 ใต้ฐานโค๊ตดอกจัน แล้วหมายเลขคล้ายๆแบบนี้ รูปปี 2535

    [​IMG]รูปภาพที่แนบมา: 6346231387524400001.jpg (3-2-2012 02:46, 79.56 KB) / ดาวน์โหลดจำนวน 3
    http://www.khalong.com/board2/attac...142ebb8cf4ad39fd388ed&t=1347672296&sid=55Ic5k


    [​IMG]screen.width*0.8) this.width=screen.width*0.8">

    ลองดูลิงค์นี้ค่ะ...
    เมืองเสน่ห์กาหลง มหาเสน่ห์ มหาเมตตา มหานิยม - Powered by Discuz! Board
     
  13. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,820
    ที่นี่เหรียญช้างปล้องเก๊แบบสวยๆระบาด องค์ละหมื่น โดนไปหลายคน
     
  14. อั๋นวัดสาม

    อั๋นวัดสาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    4,259
    ค่าพลัง:
    +9,022
    สวัสดีเช้าวันเสาร์ครับ หลวงพ่อทวด วัดพระโคะสวยมากครับ:cool:
     
  15. prom20

    prom20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    3,086
    ค่าพลัง:
    +8,975
    ********************[​IMG]
    Thanks: ฝากรูป
    [​IMG]
    Thanks: ฝากรูป
    พุทธังชีวิตตังเมปูเชมิ ข้าพเจ้าขอบูชาพระพุทธเจ้าด้วยชีวิต
    ธังมังชีวิตตังเมปูเชมิ ข้าพเจ้าขอบูชาพระธรรมด้วยชีวิต
    สังฆังชีวิตตังเมปูเชมิ ข้าพเจ้าขอบูชาพระสงฆ์ด้วยชีวิต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 กันยายน 2012
  16. Jopaa

    Jopaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,720
    ค่าพลัง:
    +4,867
    ขอบพระคุณ..คุณเอมี่..และ คุณนวลมากครับ

    ที่กรุณาเสียสละเวลาค้นหามาให้..ได้เข้าไปอ่านทุกลิ้งค์แล้วครับ

    ขอบคุณมากครับ
     
  17. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205

    ค่ะยินดีค่ะ ....พี่นวลว่า พระหลวงพ่อทวด ศักดิ์สิทธิ์หมดค่ะ..
     
  18. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,820
    ..............................
    [​IMG]

    [​IMG]
     
  19. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,205
    ...เรื่องพระหลวงพ่อทวดที่ท่านเจ้าอาวาส
    สำนักสงฆ์ต้นเลียบ มอบมา 200 องค์ "รุ่นสัมฤทธิ์ผล" พิธี รุ่นศรัทธาชนะมาร

    ได้ติดต่อพี่ผาแดงค่ะ ส่งมอบให้กับหน่วย(E.O.D)ทำลายล้างวัตถุระเบิด
    จำนวน 50 องค์
    ตำรวจ(E.O.D) จ.ปัตตานี 25 องค์
    ตำรวจ(E.O.D) จ.ยะลา 25 องค์

    น้องที่เป็นตำรวจที่ยะริ่ง จ.ปัตตานี 50 องค์

    อีก 50 องค์ กำลังประสานไปที่จ. นราธิวาสค่ะ....
     
  20. anusart34

    anusart34 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2011
    โพสต์:
    509
    ค่าพลัง:
    +868

    อนุโมทนาด้วยครับ พี่นวล
     

แชร์หน้านี้

Loading...