เมื่อพระอภิญญาท่านว่า...

ได้รับแล้วค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ ขณะกําพระอยู่ขนลุกซู่ตั้งแต่ปลายเท้าไล่ขึ้นมาๆๆทีละตอนจนถึงผมถึงสามครั้ง พอเอาใส่ฝ่ามือแล้วหลับตาจะเห็นเป็นสีแดงเหมือนอยู่ท่ามกลางแสงแดด ดีใจมากกว่าได้เพชร(800%) มาเร็วเกินคาด สงสัยท่านบินมาแน่ๆเลยchearrhp_day

 

เมื่อคืนคุณแม่Supatorn ได้โทรมาแจ้งว่าได้รับของแล้ว น้ำเสียงสดใสตื่นเต้นน่าดู+++

เราดีใจ!ที่มีส่วนทำให้ชีวิตคุณแม่Supatornได้มีสีสรรกระชุ่มการชวย ...เรียกความสาวกลับมาอีกครั้ง

วัตถุมงคลที่จัดส่งไปให้แบบด่วนข้ามประเทศ แบบไม่เสียดายค่าส่ง(เพราะเป็นเงิน..ของแกเอง ฮิๆ) ประกอบด้วยสิ่งละอันพันน้อย กระจุกกระจิก ตามประสาคนโรแมนติก

ได้แก่ - พระรุ่นเจ้าส้วพิมพ์จิ๋ว 3+1 องค์

- พระรุ่นแช่น้ำกรด คู่เล็กใหญ่( ชาย-หญิง) 1ชุด(2 องค์)

- พระสมเด็จเนื้อผง หลังรูปพระอาจารย์นั่งหลังเสือ(หรือ รุ่นฟ้าผ่า) 1 องค์ ปี39 (ขณะปลุกเสกเดี่ยวที่ศาลาเกิดฟ้าผ่า ข้างศาลากลาง วันแสกๆ แดดจ้า)

- โคตรแร่เหล็ก 7 สี สีสวยสดใสประกายรุ้ง 1 ชิ้น

พร้อมแถมวัสดุกันกระแทกให้ไปอีกหน่อยหนึ่ง
ตอบแทนสาวน้อยรุ่นอาวุโสที่เป็นแฟนคลับ ที่เชียร์ส่งเสริมให้กำลังใจกันดีเหลือเกิน และมีศรัทธาธรรมส่งเงินมาร่วมทำบุญทอดผ้าป่าสร้างศาลา ในวันที่ 9 กย. ที่ผ่านมานี้ 100 $. ขออนุโมทนาในผลบุญ

=====

ท่านอื่นที่รับพระไปแล้ว ขอบคุณที่มีน้ำใจสำหรับการทดสอบแล้วแจ้งกลับเข้ามา

ที่จัดส่งให้ก็ด้วยน้ำใจ กลัวหายไม่ได้รับ ก็จ่ายเงินลงทะเบียนหลายคนก็หลายบาท..
มิใช่มุ่งผลประโยชน์หวังผลทางการค้าเคลือบแฝงใดๆ

เจตนาหลักโดยสุจริต..อยากให้ได้ลองสัมผัสพลังงานที่ต่างจากวัตถุมงคลอื่นๆ ว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง ใช้จิตจับองค์พระเป็นพุทธานุสติก็เป็นบุญกุศล ระหว่างที่โน้มจิตเพื่อสัมผัสพลังงานโมเลกุลในร่างกายและคลื่นสมองจะเรียงตัวกันเป็นระเบียบมากขึ้นสมองทำงานน้อยลง อายุยืนขึ้น ระหว่างนั้นพลังงานธรรมชาติของธาตุศักดิ์สิทธิ์จะเข้าไปเสริมปรับธาตุทั้งสี่ให้สมบูรณ์ดียิ่งขึ้น ส่วนที่บกพร่องก็จะลดลง ตามสภาวะของแต่ละท่านที่จะต่างกันไป (จึงมีปรากฏการณ์ที่ตื่นเต้นต่างกัน)และเมื่อท่านสำผัสถึงพลังงานเหล่านี้ได้ ก็จะสามารถพัฒนาพื้นฐานการฝึกสมาธิในระดับอื่นๆให้ดียิ่งขึ้นไปอีก

*********

ส่วนท่านที่ส่งไปแล้วเงียบกริบ...ก็อาจมีเหตุผลไม่สะดวก หรือไม่ได้ให้ความใส่ใจนัก
..ต่างคนต่างจิตต่างใจเงื่อนไขไม่เหมือนกัน...ก็ไม่เป็นไร

แค่จะจำไว้แค่นั้น... อืม!

ให้ระวังพระเจ้าสัว...จะหายกลับเข้าถ้ำคืนล่ะ
เคยได้ยินเรื่อง..พระเสด็จกลับมั๊ย!นี่ขู่ซะเลย

 

ยินดีกับคุณsupatorn ด้วยครับ สำหรับโคตรเหล็กไหลเจ็ดสีนี่สุดยอดนะครับ ผมยังไม่มีเลย ไม่รู้จะหาได้อย่างไร ถามใครก็ไม่มีใครรู้จัก

 

ช่วงฤดูฝนนี้...บางพื้นที่เริ่มมีเหตุการณ์น้ำท่วม
ก็ขอเป็นกำลังใจสู้ภัยน้ำท่วม ให้ผ่านไปได้ด้วยดีด้วยกำลังกายและจิตใจที่เข้มแข็งนะครับ

ผู้ที่อยู่เคยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยปีที่แล้ว.... ก็ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิทั้งหลายจงคุ้มครอง ให้แคล้วคลาดปลอดภัย อย่าต้องเผชิญเหตุร้ายจากภัยอันตรายทั้งปวงเทอญ...เชื่อว่าไม่น่าเลวร้ายเท่าปีที่แล้วแน่ๆ..สาธุๆ

ช่วงนี้เข้าหน้าฝน..บางที่ก็น้ำท่วมแล้ว ทีวีก็มีหนังเรื่องผีๆเข้ามานำเสนอเยอะซะจริง และเผื่อไม่ให้ตกเทรนด์ประเภท.. กุ๊กๆกู๋

..งั้นศุกร์ เสาร์-อาทิตย์นี้ มาฟังประสบการณ์ เรื่องผีๆสางๆ เทวดาภุมมานัง กับพระอาจารย์วัดถ้ำกันดีกว่าๆ

=======
และมาพูดคุยเรื่องสภาวะความรู้สึกของแต่ท่าน ในการรับพลังงานจากการทดสอบใช้จิตสัมผัสพระเครื่องเนื้อแร่กายสิทธิ์ เจ้าสัวพิมพ์จิ๋ว..ที่จิ๋วแต่ชื่อเท่านั้น..

เดี๋ยวเราลองมาวิเคราะห์กันเป็นรายๆไปเลยดีกว่า ว่าเพราะอะไร....เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น?

ใครที่ยังไม่รายงานผลการทดสอบสัมผัสเข้ามา ก็รีบๆเข้านะครับ!
(เราตามมาง้อท่าน...อีกรอบแล้ว)

 

มาติดตามเป็นกำลังใจเหมือนเดิมขอรับ
เอ้า..า..า..เร๊ว..ว..ว..เหล่าแฟนเพลงทั้งหลาย..เอ๊ย.!..แฟนพันธ์แท้ทั้งหลายรีบ.รีบ.มารายงานตัวกัน..เร๊ว.ว.ว.(sing)(sing)denceedenceedenceedenceechearrchearrchearrchearr

 

สภาวะความรู้สึกของแต่ท่าน ในการรับพลังงานจากการทดสอบใช้จิตสัมผัสพระเครื่องเนื้อแร่กายสิทธิ์ เจ้าสัวพิมพ์จิ๋วเดี๋ยวเราลองมาวิเคราะห์กันเป็นรายๆไปเลยดีกว่า ว่าเพราะอะไร....เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น?

ท่านทั้งหลายโปรดใช้วิจารณาญานในการรับชมรับฟัง..ให้จงหนัก เพราะนี่เป็นเพียงการแสดงทัศนคติของข้าพเจ้า Toplus99 แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ขออภัยที่อาจมีความเห็นแย้งจากผู้รู้ท่านอื่นๆ ดังนั้นจึงขออภัยมา ณ โอกาสนี้

เริ่มจากท่านแรก: คุณแม่ Supatorn

ขณะกําพระอยู่ขนลุกซู่ตั้งแต่ปลายเท้าไล่ขึ้นมาๆๆทีละตอนจนถึงผมถึงสามครั้ง

:อาการขนลุกเป็นอาการของอารมณ์ปิติ หนึ่งในสภาวะแห่งฌานสี่ เริ่มแต่ขั้น วิตก วิจาร ปิติ สุข เอกัคคา สูงสุดจนถึงอุเบกขา เมื่อจิตเริ่มนิ่งขึ้นโมเลกุลในร่างกายจะปรับสภาพธาตุทั้งสี่เรา ให้มีสภาวะเป็นสื่อกลางไฟฟ้า หรือสื่อคลื่นความถี่สูงของสนามพลังงานอื่นๆได้ดีมากขึ้น (เคยทดสอบวัดค่าความต้านทานโดยใช้ตัวโอห์มิเตอร์วัดค่า เช่นก่อนทำสมาธิ ใช้มือจับสายวัดที่ขั้วบวก,ลบ วัดค่าความต้าทาน ครั้งแรกอาจอยู่ที่ 2 เมกกะโอห์ม **แต่ละคนจะมีค่าจำเพาะเริ่มต้นไม่เท่ากัน** และเมื่อทำสมาธิลึกลงไปเรื่อยๆค่าความต้านทานจะลดลงเรื่อยๆจนเหลือแค่800โอห์ม เป็นต้น ลองทดสอบกันดูได้)นั่นบอกถึงว่าเมื่อเรามีระดับสมาธิที่ลึกขึ้น ร่างกายเราจะมีความสามารถในการเป็นสื่อพลังงานของสนามไฟฟ้าได้ดีขึ้น

ทำไมอาการขนลุก เริ่มไล่จากปลายเท้าขึ้นมาที่ศรีษะ ?

: เมื่ออยู่ในสภาวะอารมณ์ฌานการปรับธาตุสมดุลย์ในร่างกาย ที่เกิดจากธาตุพลังงานแร่จากองค์พระ ที่มีอยู่ควบคู่กับอายุโลก และจิตเจตสิกขององค์ญาณที่เข้ายึดครองอยู่ จะปรับจูนให้เราใกล้เคียงกับสภาวะฌานขององค์เจตสิกและพลังฌานขั้นพื้นฐานของครูบาอาจารย์ผู้อธิษฐานปลุกเสกองค์พระ โดยปรับบรรยกาศที่อยู่ใกล้เคียงและร่างกายเรามีไฟฟ้าสถิตย์ของสนามแม่เหล็กโลกที่สมดุลย์กัน

ดังนั้นถ้าจะให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นขณะทดสอบจับองค์พระนี้ แล้วบริกรรม นะ มะ พะ ธะ ควรถอดรองเท้าเปลือยเท้าเปล่าเหยียบสัมผัสพื้นดินด้วย เพื่อปรับค่าให้ไฟฟ้าสถิตย์ในร่างกายเรากับพื้นโลกเท่ากัน อาการเหมือนมีไฟวิ่งขึ้นจากพื้นล่าง ปลายเท้าขึ้นสู่ส่วนบนของร่างกาย น่าจะเกิดจากไฟฟ้าในตัวเราน้อยกว่าไฟฟ้าพื้นโลก จึงมีไฟฟ้าจากโลกย้อนกลับเข้าหาร่างกายผู้ถือองค์พรไว้ะ และมีการเดินรอบปรับสภาพถึง3ครั้ง จึงรู้สึกเหมือนมีไฟฟ้าวิ่งจากปลายเท้าขึ้นมาผ่านออกไปที่ศรีษะ
เข้าใจว่าหลังจากนั้นร่างกายจิตใจ น่าจะสดชื่นขึ้นมาพอสมควรอย่างน้อยก็ทั้งวันล่ะ... อาการภูมิแพ้ต่างๆ หรืออาการที่เคยปวดหัวบ่อย แขนขาที่เคยอ่อนแรงน่าจะมีเรี่ยวแรงดีขึ้นมาก เพราะลมกระแสปราณเราได้ถูกจัดระเบียบให้ดีขึ้นแล้ว

พอเอาใส่ฝ่ามือแล้วหลับตาจะเห็นเป็นสีแดงเหมือนอยู่ท่ามกลางแสงแดด

: สมาธิที่สามารถเห็นแสงหรือสีต่างๆได้ ก็อยู่ในขั้นของปิติ เป็นอุคหนิมิต อย่างหนึ่ง หรือทำสมาธิชำนาญในระดับอุปจารสมาธิแล้วนั่นเอง จึงเห็นปรากฏการณ์นี้ได้ การเห็นแสงที่เหมือนแสงกลางวัน อาจเป็นนิมิตหมายแห่งทิพยจักขุญาณ หรือจักระที่6 หรือดวงตาที่3 กำลังเปิดขึ้นมาแล้ว ส่วนพลังแสงสีแดงถ้าเป็นสีแดงแบบสดใส ก็เป็นสิ่งที่บอกถึงความสดใส มีพลังกระชับกระเฉงกระตือรืนล้น มีพลังแห่งการต่อสู้เป็นอย่างดี หรือทำงานได้อย่างไม่รู้เหน็ดรู้เหนื่อย
เรียกว่าเป็นหนุ่มเป็นสาวกว่าเดิม...ว่างั้นเชียว

นี่คือการวิเคราะห์เชิงแถๆ ของtoplus99ไปตามเรื่องตามราว..เท่านั้นนะ อย่าเชื่อมากล่ะ

 

จะให้วิเคราะห์เลยไหม? แต่อย่าเพิ่งเลย เพราะคุณอยู่ในขั้นกำลังฝึกทดสอบเพิ่มเติม....งั้นรอรายงานอีกดีกว่า

 

วิเคราะห์เดาส่งเดชการบ้าน ของคุณ Powernext

วาระแรก..หลังจากนิมนต์และขอขมาหลวงพ่อแล้วมีพลังหน่วงขึ้นแขนวนขึ้นศรีษะด้านขมับและตึงแขนนิดหน่อย

:การที่พลังานเดินผ่านขึ้นแขนแล้ววนขึ้นด้านขมับ เป็นไปได้ที่ระบบประสาทคุณอาจมีปัญหาอยู่หรืออยู่ในสภาวะที่เรียกว่าสะกดจิตตนเองนั่นเอง เนื่องจากช่วงแรกใช้กำลังจิตเพ่งมากเกินไป ต้องลองแผ่เมตตาให้ตนเอง และสรรพสัตว์ให้จิตอ่อนโยนลงกว่าเดิม..ในสมาธิให้แย้มน้อยๆในดวงใจเข้าไว้..
และที่มีอาการปวดตึงๆที่แขน เป็นการเดินพลังงานที่ออกมาด้านมหาอุด ปกป้องแคล้วคลาด พลังงานก็จะเดินแบบตึงๆหน่วงๆชาแขนแบบนี้เอง..

วาระสอง..วางจิตเบาๆเห็นในจิตเป็นวงรัศมีสีเขียวแก่ๆหลังจากนั้นมีพลังไล่ขึ้นตามแขนเหมือนมดไ่ต่คันยุบยิบขึ้นหัวไหล่ขึ้นศรีษะ

:รัศมีสีเขียวแก่ เป็นรังสีประจำกายของพลังแร่ที่คุณได้รับ ซึ่งจะช่วยในการบำบัดรักษาโรคต่างๆได้ดี แต่ต้องพยายามปฏิบัติสมาธิบ่อยๆเพื่อปรับสภาพให้ใกล้เคียงกับพลังแร่จากองค์พระ มิฉะนั้นคุณจะมีอาการตัวชาคล้ายๆเป็นเหน็บชาบ่อยๆเพราะถูกพลังแร่เบียดให้คุณใกล้เคียงเขา และพลังแบบเหมือนมีมดตัวเล็กๆวิ่งกันยุกยิกๆ เต็มไปหมด นั่นคือพลังงานแห่งเอกลักษณ์ของแร่ตระกูลเหล็กไหล ต่างจากพลังปลุกเสกด้วยกำลังฌานจะออกอาการชาๆเหมือนกระแสไฟอ่อนๆค่อยๆวิ่งขึ้นมาสู่ลำตัว

วาระสาม..ตลอดเวลารู้สึกเหมือนร่างกายมีสนามแม่เหล็กคลุมอยู่แม้ไม่ได้พกพระอยู่กับตัว

:นั่นเพราะพลังงานของแร่ พลังจากการอธิษฐานจิตปลุกเสก และด้วยพลังกำลังฌานของคุณยังตกค้างอยู่เรียกว่าพลังเฉื่อยคงค้างก็ว่าได้ แล้วก็จะค่อยลดกำลังลงเรื่อยๆ
ถ้าหมั่นฝึกฝนบ่อยๆให้โยนิโสมนสิการ หรือโน้มจิต จนจดจำระลึกถึงอาการหรือพลังงานที่คุณเคยสัมผัสไว้ได้จนชำนาญคุณก็อาจดึงพลังงานของการคุ้มกันที่เกิดจากแร่เหล็กไหลและพลังฌานของบารมีธรรมโดยผู้ปลุกเสก นั่นมาปกป้องคุ้มกันตนเองได้โดยไม่ต้องพกพาองค์พระนี้ไปด้วย ย่อมเกิดได้เพราะใช้การสื่อสารเชื่อมโยงกันด้วยกระแสจิตต่อกระแสจิตด้วยพลังฌานสมาธิ...นั่นเอง

นี่คือการวิเคราะห์เชิงแถๆ ของtoplus99ไปตามเรื่องตามราว..เท่านั้นนะ อย่าเชื่อมากล่ะ

 

ได้รับพระแล้วครับ ยังไม่ได้ทำการบ้านครับ
เพราะเมื่อคืนก่อนไปหล่อพระเจ้า 5 พระองค์ที่
วัดเกตุงฯ จังหวัดสมุทสาครมาครับ หล่อตอนตี 2.30 น.
กว่าจะกลับเข้ากรุงก็เช้า พอดี นอนตื่นก็ออกไปธุระต่ออีก
กลับเข้ามาก็ต้องซักผ้าอีก กว่าจะเสร็จก็เที่ยงคืน ง่วงแล้วด้วยครับ
กะว่าจะทำการบ้านคืนนี้ก่อนนอนแต่ไม่รุจะไว้หรือเปล่า
ผลสอบเป็นประการใดจะพยายามมาส่งการบ้านให้ครับ
สาธุ

อนุโมทนาบุญครับ
เจริญในธรรม

 

น้อมกราบคารวะขอรับ..

 

บรรยากาศวันนี้ดูเงียบจัง

งั้นช่วงนี้อยู่กันเงียบๆบ้างก็ดีครับ... ไปล่ะ

 

อ้าว อุตสาห์รอ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์
สงสัย ติดน้ำท่วมหมดมั้ง คนดูน้อย หนังเลยไม่ฉายเลย

 

<!--[if gte mso 9]><xml> <o:OfficeDocumentSettings> <o:AllowPNG/> </o:OfficeDocumentSettings> </xml><![endif]--> [FONT=&quot]สวัสดีครับ.. ขออนุญาตมาเล่าเรื่องของความฝันต่อเนื่องจากคราวที่แล้ว ก่อนได้รับพระนะครับ เป็นฝันที่ห่างอยู่สัก 1-2 วัน คือฝันว่าต่อเนื่องจากตอนที่พระท่านเป่ามือแล้วมือเป็นสีดำพร้อมสายฟ้าในมือ ท่านก็ถามว่าเป็นยังไง ผมก็งงๆ มีอาการคล้ายครึ่งหลับครึ่งตื่น ไม่ทันได้ตอบอะไร ท่านก็บอกว่าถ้างั้นเรามาลองกันว่าเป็นยังไง จากนั้นท่านก็ให้ยื่นมือข้างไหนก็ได้ ผมก็ยกขึ้นทั้ง 2 ข้าง ท่านก็จับมือด้านซ้ายของผม พร้อมกับหยิบมีดคล้ายมีดปอกผลไม้ขึ้นมาทันที จากนั้นท่านเอามีดปาดไปบนมือไปมา จากหลังมือผ่านร่องนิ้วไปฝ่ามืออยู่ 2-3 รอบ คือความรู้สึกช่วงที่ท่านปาดมีดไปมา ใจผมมันหล่นไปแล้ว คิดว่ามือขาดแน่ๆ แต่ว่ามันเหมือนมีดไม่คมทื่อๆ ทั้งๆที่ดูแล้วมันคมมาก จากนั้นท่านก็บอกว่าเป็นยังไง....... ผมก็ยกมือดูว่าเป็นอะไรไหม แฮะๆ เนียนเหมือนเดิม ผมก็เลยบอกท่านไปว่าไม่เป็นอะไรเลยครับ ดีใจสุด ๆ มือไม่ขาด[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
[FONT=&quot]จากนั้นท่านก็บอกว่า ให้ทำการไหว้ครูใน 10ปีนี้นะ มีดอกไม้ ธูป เทียน และเงิน 32 บาท และเน้นต่อว่าภายใน10ปีนี้นะ[/FONT]
[FONT=&quot]จากนั้นผมก็ตื่นมาทบทวนความฝันกันลืม....[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
[FONT=&quot]หลังจากนั้นก็ได้รับพระมา แต่ยังไม่ได้ทำการไหว้ครูจนวันนี้ ว่าจะทำภายในสัปดาห์นี้ครับ... รบกวนคุณ [/FONT][FONT=&quot]toplus99 [/FONT][FONT=&quot]ช่วยแนะนำหน่อยครับว่าควรทำอย่างไร ต้องกล่าวอะไรบ้าง เพื่อที่ผมจะได้ไม่ขาดตกบกพร่องในการทำการพิธีไหว้ครูตามที่พระท่านสั่งไว้[/FONT]

 

ขอสอบถาม ทวนการเล่าของคุณเกิดมาลุยอีกครั้งนะครับ

- ความฝันนั้นก่อนรุ่งเช้าในช่วงเวลา ตี4-5 หรือเวลาอื่น?
- หลังจากตื่นนอน จำความฝันได้ติดตาประทับอยู่ในใจ หรือแบบคลุมเคลือ?
- คุณตีความหมายการเป่าไป มือแล้วกลายเป็นสีดำพร้อมสายฟ้าในมือว่าอย่างไร?
- เข้าใจความหมายของ การทำพิธีไหว้ครู นั้นว่าอย่างไร?
- ทำไมต้องใช้เงินไหว้ครู 32 บาท ?

ให้ลองตอบมา ผมก็พอมีคำตอบอยู่ในใจให้คุณ พรุ่งนี้วันพระด้วย

- ที่ผมไม่เข้าใจ ขอถามเพิ่มเติม คือคำว่า "ภายในเวลา 10 ปีนี้นะ"
นี่คือตลอด10 ปี นับจากวันที่คุณฝัน หรือว่าอีก10 ปีข้างหน้าแล้วค่อยมาทำพิธีไหว้ครู?ลองตอบมาตามความรู้สึกของตัวเองที่มีนะครับ

 

ท่านใดที่ได้ทดสอบจับพลังสัมผัสพระเจ้าสัวแล้ว และอยากให้ Toplus99
วิเคราะห์ในปรากกการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ขอให้แจ้งมาเป็นรายบุคคลก็แล้วกันนะครับ...

เพราะเกรงว่าคนที่ไม่เชื่อในเรื่องแบบนี้จะว่าเพ้อเจ้อ..ไร้สาระ!

 

คืนวันนี้สงสัยว่า... ผีคงมาไม่ทันแล้วล่ะครับ

รู้แล้วว่าชาวแฟนคลับเรา เขาชอบมาหลัง 2 ทุ่ม

คราวหน้าจะได้เตรียมเครื่องฉายให้ถูกเวลา...

งั้นพรุ่งนี้..ก็แล้วกัน ค่อยว่ากันใหม่

วันนี้เดินเล่นดูโปรแกรมหนัง แทะป๊อบคอร์นหน้าโรงไปก่อนล่ะกัน..

 

วันนี้รถติดมั่งครับ ผมก็รอหนังฉาย สนุกดีครับ ผมรบกวนสอบถามหน่อยนะครับ การเช็คพลังพระ นี้นอกจาก นะมะพะทะ-- พุทธังอาราธนานัง ธัมมังอราธนานัง สังฆังอาราธนานัง -- สองคาถานี้มีความแตกต่างกันไหมครับ

 

ถ้าถามมา...ก็ขอบอกตามตรงว่า ไม่ใช่ผู้เชียวชาญเรื่องนี้ ..พูดมากก็มีแต่ขายหน้าครูผู้รู้ซะเปล่าๆ

แต่พออธิบายแบบตามความเข้าใจของตัวเองก็แล้วกัน...

บทบริกรรมว่า " พุทธังอาราธนานัง ธัมมังอราธนานัง สังฆังอาราธนานัง "

นั่นคือการอัญเชิญคุณบารมีแห่ง พระรัตนตรัยที่มีอยู่ในจักรวาลสากล เข้ามาร่วมประสิทธิ ประสาท ดึงลงมาที่ตัวเราและ ลงมาที่องค์พระเครื่องที่เรามีอยู่ด้วย และอีกนัยหนึ่ง คือการดึงพลังงานจากองค์พระที่ถูกปลุกเสกโดยกระแสพลังจิตที่ถูกบันทึกไว้ ชาร์ทเก็บในพระเครื่องนั้นจะโดยผู้ทรงฌานทรงญาณ หรืออาจมาจากกระแสจิตที่มีกำลังเพียงพอแล้วสามารถถ่ายทอดลงวัตถุมงคลนั้นๆเอาไว้ เมื่อเราสวดด้วยจิตที่มีกำลังศรัทธา ก็เป็นการเปิดกุญแจต่อสายสัญญาณจากแหล่งกำเนิดให้กระตุ้นไหลผ่านแผ่ออกมายังผู้บริกรรม...

ที่เคยได้ยินว่า...ส่วนใหญ่จะใช้บทนี้ในการอัญเชิญพลังพระเครื่องให้มาคุ้มครองผู้ถือครอง แต่จะให้ได้ประสิทธิภาพตามสูตรโบราณ ก็ต้องอาราธนาจนเกิดอาการปิติ ขนลุกซู่ซ่าๆนั่นแหละ.. จึงจะว่าขลัง

ส่วนบท นะมะพะทะ นั่นเป็นบทย่อ ถอดมาจากบทใหญ่ของคาถาหัวใจธาตุทั้งสี่ น้ำ ดิน ไฟ ลม
ซึ่งปรกติการปลุกเสกทั้งหลาย
โบราณกาลไทยเรา ก็ใช้บทย่อที่ถอดมาจากคาถา หัวใจพระเจ้า ๕ พระองค์ นะ โม พุท ธา ยะ
หัวใจธาตุสี่ นะมะพะทะ
หัวใจพระธาตุกรณี จะภะกะสะ
หัวใจแก้ว ๔ ดวง นะมะอะอุ

ซึ่งคาถาธาตุนี้จะมีการนำมา สลับใช้กันได้มากมายหลายสูตรแล้วแต่ครูบาอาจารย์สอนแนะนำมาว่าอย่าไร ทั้งการตั้งธาตุ หนุนธาตุ ปลุกธาตุ สลับธาตุ เรียกธาตุ และอีกนานับประการ

หลวงปู่ครูบาอาจารย์ ที่นำเข้ามาถ่ายทอดแพร่หลาย ที่ชำนาญการใช้ธาตุวิธีนี้ในไทย ส่วนใหญ่จะมาจากสายสมเร็จลุน จำปาสัก ประเทศลาวโน่น

สรุปง่ายๆ ตามความเข้าใจ ว่า นะมะพะทะ นั่นคือการเข้ารหัส ปลุกเรียกธาตุสี่ (ทีมีอยู่ในวัตถุทั้งหลายที่เข้าใจว่าเป็นของมงคล )เพื่อการกระตุ้นธาตุหลักที่มีอยู่ในจักรวาล ที่สิ่งของนั้นมีอยู๋ (คงไม่มีใครนำสิ่งของที่อยู่นอกจักรวาลเอามาทำวัตถุมงคลได้แน่) ให้อนุภาคที่มีอยู่เกิดการสั่นสะเทือน แผ่สะท้อนออกมา
ให้ผู้บริกรรมที่มีจิตสมาธินิ่งสงัดพอที่จะ สัมผ้สรับรู้ในการสั่นสะเทือนตามพลังงานอนุภาคนั้นออกมาได้

งง..ไหม..ตอนนี้ตัวเองก็ชักงงๆแล้ว...เอาประมาณนี้ก็แล้วกัน

พระอาจารย์ท่านว่าคาถาที่เกี่ยวกับพวกธาตุทั้งหลายเช่น...นะมะพะทะ นี้ไม่ใช่แค่คำท่องกันเฉยๆ แต่มันมีคลื่นพลังงานพิเศษ ที่เรียกกันว่าพลังจักวาล ซุกซ่อนเอาไว้ในแต่ละคำอยู่ด้วย ...

ถ้าไม่คิดอะไรมาก
...โบราณเขาบอกให้ท่องอะไร ก็ท่องๆไปก่อนเถอะ!
เกิดวิจิกิจฉา สงสัยมาก ทำสมาธิใดๆก็จะสำเร็จเกิดผลได้ยาก..เพราะมันเป็นศรัตรูของสมาธิ

 

OKjaah;aa16 .

 

ขออ้างอิงไว้ก่อน กลัวหาย
ตอบได้ดียิ่งครับ