เราควรตั้งประชาคมเพื่อเตรียมกู้เหตุการณ์ตอนนี้หรือไม่ และจะทำอะไรบ้าง

จู่ๆ ผมก็เกิดความคิดแว็บเข้ามาว่าจะต้องโพสต์กระทู้นี้ ความคิดอาจจะกระจ่างบ้างมากน้อย ก็ต้องออกตัวไว้ก่อนว่าไม่ได้ร่างไว้ เป็นความรู้สึกที่ออกมาสดๆ

ณ ขณะนี้ ผมคิดว่าพวกเราจำนวนไม่น้อยคงตามข่าวภัยพิบัติกันมานานหลายปีแล้ว ตัวผมเองก็อยู่ในคนกลุ่มนั้น ผมคิดว่าผมผ่านจุดที่จะมาอาศัยแค่ประสบการณ์และความเชื่อส่วนตัวแล้ว และเพราะได้ตามข้อมูลวิทยาศาสตร์มามากหลายปี

ผมสังเกตแนวโน้มว่าภัยธรรมชาติมากขึ้นโดยเฉลี่ยและแรงขึ้นเรื่อยๆ อันนี้เป็นความจริงที่ยอมรับ ก็มีความเป็นได้สูงที่วันหนึ่งเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งอาจเกิดขึ้น ร้ายแรงมากน้อยก็ตามแต่ปัจจัยต่างๆ ที่จะมาเปลี่ยนเหตุการณ์ไป

เราส่วนมากก็คงไม่รู้ว่าภัยอะไรร้ายแรงจะเกิดเมื่อไร แรงแค่ไหน ตัวเราจะเป็นอะไรหรือไม่ หรือตอนนี้หลายๆ คนก็อาจจะไม่ใส่ใจมากนักว่าตัวจะรอดหรือไม่ก็ได้ ผมเองรู้สึกอย่างนั้นตอนนี้

แต่ผมคิดว่าในส่วนรวม หากว่าอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นจริงตามแนวโน้มที่เกิดทั่วโลก เราคงอยากให้เมืองไทย ให้คนไทยส่วนใหญ่ ให้สังคมของเรารอดอยู่ได้ ให้วัฒนธรรม ให้อะไรดีๆ ของเราอยู่ได้ เพื่อลูกหลานไทย ส่วนตัวเราเองจะอยู่รอดหรือเปล่านั้นเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ ทางพุทธศาสนาเป็นเรื่องของกรรม เราก็ทำเท่าที่ทำได้ แต่เรื่องของส่วนรวม การทำเพื่อส่วนรวมเป็นเรื่องที่เรารวมพลังกันทำได้ ตอนนี้เหตุการณ์ยังไม่มีอะไรมาก เรายังมีสมองที่น่าจะใช้กันได้ การสื่อสารที่ยังทำได้ดีอยู่

ถึงเวลาหรือยัง ที่เราจะมาระดมสมองพูดกันเรื่องการเตรียมกู้ภัยของสังคมของเรา หากว่ามีภัยธรรมชาติเกิดขึ้น เพื่อรักษาอารยธรรมไทยของเราไว้ เพื่อรักษาสังคมของเรา เพื่อเตรียมช่วยคนอื่น ที่เป็นคนที่จะรอดและต้องการความช่วยเหลือ เพื่อจัดการเรื่องฉุกเฉินต่างๆ อย่างเป็นระบบ ไม่ให้เป็นเรื่องสับสนวุ่นวาย

ผมอยากให้กระทู้นี้มีคนมาช่วยระดมสมองคิดว่า เหตุการณ์อะไรกันบ้างที่เชื่อว่าจะเกิด มีอะไรบ้าง ลำพังแต่ละคนเราอาจจะคิดว่าไม่ไหว ต้องปล่อยมันเกิดไปตามยถากรรม แต่ว่าในแง่ของประชาคม คนในเว็บพลังจิต ผมคิดว่ามีความเป็นได้สูง ที่เราจะช่วยรวมตัวกันทำอะไรบางอย่าง เพื่อลดผลกระทบ เราจะระดมสมองกันว่า เราจะทำอะไรกันได้บ้าง เพื่อเตรียมรองรับ หากว่าเกิดเหตุการณ์ขึ้น

ผมจะยกตัวอย่าง หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศต่างๆ ก็มีการจัดตั้งเว็บฉุกเฉินขึ้นมา เช่นที่นิวซีแลนด์ ที่เฮติก็เคยมีเว็บฉุกเฉินรายงานเหตุการณ์ แบบเดียวกันกับ เว็บจับตาเลือกตั้งปี 54 ของไทย ที่ จับตาเลือกตั้ง’54
นี้ก็โดยใช้ ระบบ Ushahidi เพื่อรองรับ เราควรจะมีใครเตรียมจัดตั้งกันหรือเปล่า จะทำได้ไหมถ้าอินเตอร์เน็ตทั่วโลกล่ม แต่เมืองไทยจะไม่ให้ล่มเฉพาะในประเทศเราจะทำได้ไหม ควรจะเซ็ทเซอรฟเวอร์ที่เชียงใหม่หรือเปล่า อะไรทำนองนี้ เป็นตัวอย่าง ผมคิดว่า อยากให้คนมีความรู้มาช่วยกันพูดคุย อยากให้กระทู้นี้ เป็นการพูดคุยด้วยเหตุผลทางเทคนิค และความเป็นไปได้ นอกจากนี้ก็อาจถึงขั้นว่าเราจะทำเครือข่ายประสานงานช่วยเหลือจากทั่วประเทศกันได้อย่างไร อันนี้เราพูดถึงงานภาคประชาชนที่เราจะทำเอง หากว่าตอนนั้นหน่วยงานกลางของรัฐเกิดเดี้ยงขึ้นมา

ไม่ทราบว่าท่านอื่นเห็นว่าอย่างไรครับ ประเด็นนี้เป็นประเด็นในทางปฏิบัติ เราจะไม่พูดเรื่องความเชื่อว่าจะเกิดหรือไม่ แต่ว่าพูดในเงื่อนไขว่า หากเกิด เราจะทำอะไรเพื่อส่วนรวมได้บ้าง จะช่วยกัน จะร่วมมือกันได้อย่างไร
({)

 

เป็นความคิดที่ดีมาก...ครับ

แต่ปัญหา...ที่เคยเกิดขึ้นคือ....สมาชิกในเวบนั้นอยู่กระจัดกระจาย...และรวมตัวกันเฉพาะกลุ่มเล็กๆ

การได้มาพบปะกัน...ก็เฉพาะช่วงที่มีการจัดสัมนาของเวบพลังจิต

จึงอยากให้มีการรวมกลุ่ม การร่วมมือเชิงปฏิบัติการ ในรูปธรรมมากขึ้น....ครับ


ข้อมูลกิจกรรมที่เคยทำไว้

1. กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ (สมาชิกพบปะพูดคุยกัน) ริเริ่มโดยสมาชิกเวบพลังจิต มีคุณ KANANUN ผู้ดูแลห้องภัยพิบัติ (เดิม) เป็นหัวหน้ากลุ่ม

และกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติในภาคต่างๆ...ซึ่งมีกิจกรรมของกลุ่มในโอกาสต่างๆกันไป

ปัจจุบันไม่ได้มีการประชุมกล่มใน กทม. แล้ว


2. การออกภาคสนาม ไปสำรวจสถานที่ต่างๆเพื่อดูว่า...พื้นที่ใดเหมาะสมแก่การหลบภัย...โดยการประสานงานกับสมาชิกในพื้นที่

ปัจจุบันมีข้อมูลตามกระทู้ต่างๆมากพอสมควรแล้ว


3. การรวมตัวกันสั่งของจากต่างประเทศ บางรายการที่ไม่มีขายในประเทศไทย หรือมีราคาแพง

ปัจจุบันมีเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆที่ร้านค้าสั่งจากต่างประเทศมากแล้ว


4. การรวมตัวกันจัดตั้ง War Room เฝ้าระวังภัย....ซึ่งขณะนี้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและมีสมาชิกพอสมควร...สมาชิกแต่ละท่านทำงานผ่านทาง Face Book และเวบพลังจิต...ตามโอกาสและเวลาของแต่ละท่าน


.

 

ผมเห็นด้วยกับ 2 ท่านข้างต้น ขณะนี้ผมและผู้ที่มีความคิดเห็นตรงกันกำลังรวมตัวกันทำหมู่บ้านหลบภัย ก็จะมีปัญหาเกิดขึ้นหลายอย่างในทางปฏิบัติ ผมอยากได้ข้อมูลทางเทคนิคที่จำเป็นสำหรับการรวมกลุ่มมาใช้กับกลุ่มผมบ้าง ข้อมูลดังกล่าว คือ
1.ระเบียบข้อกำหนดของการรวมกลุ่ม
2.การแบ่งงานกันทำของสมาชิกในกลุ่มเพื่อให้อยู่รอดปลอดภัยจากภัยพิบัติ
3.หากมีสมาชิกผิดกฎขึ้นมาจะทำกันอย่างไร
4.ถ้าประสงค์จะขอความช่วยเหลือจากกลุ่มอื่นหรือเพื่อนกลุ่มอื่นร้องขอความช่วยเหลือจากเรา จะประสานติดต่อกันอย่างไร
ขอทราบความคิดในปัญหา 4 ข้อก่อนครับ

 

เราอาจจะเริ่มต้นจากกลุ่มเล็กๆ พูดคุยกันก่อน เช่นอาจจะผ่าน แชทรูม ก่อน โดยต้องมีการสมัครสมาชิกที่ชัดเจน ในการพูดคุยกันแต่ละครั้ง ก็อาจจะเหมือนประชุมกลุ่มย่อย เอาความเห็นมาเสนอกัน มีเวลาที่กำหนดเช่น ทุกวัน 21.00-23.00 น. โดยมีหัวข้อการพูดคุยที่ชัดเจน เหมือนการประชุม เพื่อที่จะได้รวมเป็นประเด็นเดียวกัน แล้วสามารถสรุปออกมาเป็นผลการพูดคุยกันได้
เช่น ถ้าเกิด แผ่นดินไหวจนคาดว่า จะเกิดสึนามิขึ้น ควรจะทำอย่างไร แล้วช่วยกัน สรุปเป็นขั้นตอน จากความเห็นของหลายๆคน แล้วค่อย ทำเป็นเอกสาร สรุปลงเว็บอีกครั้งนึง ซึ่งมันจะช่วยให้หลายๆคน สามารถนำไปใช้ได้จริง
ถ้าให้ดี การพูดคุย ควรจะมี ประธาน กับเลขา ด้วยก็ดีครับ จะได้ควบคุมหัวข้อตามที่ต้องการ ส่วนวันไหนจะปล่อย คุยทั่วไป ก็ตามสะดวกครับ
แบบนี้ในแต่ละสัปดาห์ เราอาจจะได้บทความดีๆ ที่รวบรวมจากหลายๆ ท่าน สัก 1-2 บทความ มันจะเป็นประโยชน์อย่างมาก ครับ

 

จริงๆก็เห็นด้วยกับความเห็นข้างบน นะครับ

แต่ปัญหาของประเทศไทยคือ คนในบ้านนี้ เมืองนี้ ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างมีความเชื่อ
และที่สำคัญที่สุดคนในครอบครัวเดียวกันยังมีความเห็นต่างกันสุดขั้ว นี่เป็นสาเหตุใหญ่ที่ไม่สามารถรวมตัวกันได้

ถ้าจะรวมกันได้อีกทีก็คือ เกิดภัยพิบัติขึ้นแล้วหรือเห็นความพินาศมาอยู่ตรงหน้าเท่านั้นแหละ ครับ จะเห็นได้จากหลายเหตุการณ์ในอดีตตั้งแต่เสียกรุงครั้งที่ 2 ก็เป็นไปในทำนองเดียวกัน

อีกเรื่องหนึ่งที่ควรพิจารณาก็คือ ทุกสาย ทุกสำนัก บอกตรงกันว่าผู้คนบนโลกจะเหลือรอดจากภัยพิบัติไม่เกิน 10% ดังนั้นการรวมตัวกันได้ก็คงต้องเป็นผู้มีปัจจัยในชีวิตใกล้เคียงกัน เห็นไปในทางเดียวกันและตกลงจะเดินไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งวันนี้ Nirvana ยังไม่เห็นตรงนี้อย่างชัดเจน ก็ได้แต่เพียงตอบคำถามทาง pm ของผู้เข้ามาถามเท่านั้น

สำหรับคำตอบของตัวเองเชื่อว่า หลังภัยพิบัติจะมีผู้กล้ามากบารมีบังเกิดขึ้นมาเพื่อรวบรวมผู้คนที่ยังเหลืออยู่ให้เป็นปึกแผ่น แล้วใช้สติปัญญาตลอดจนการติดต่อกับชาวโลกอื่นเพื่อฟื้นฟูสังคมของโลกมนุษย์ที่เชื่อว่า วันนั้นเหลือเฉพาะแต่ผู้ทำกรรมดี มีต้นทุนทางบุญกุศลเหลืออยู่ ครับ

 

เห็นด้วยนะครับ ที่จะทำ

แต่ควรจะแบ่งเรื่อง ความเชื่อ คำทำนาย ข้อมูลจากพลังจิตอำนาจวิเศษ

กับ

ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ การศึกษาของนักวิชาการ

ให้ชัดเจนหรือเปล่า


แล้วอาจหา ความเชื่อมโยงกัน หรือดูสถิติ ให้นำหนักกับข้อมูล


ไม่เช่นนั้นแล้ว อาจจะเตรียมตัวเตรียมการกันเรื่อยไปไม่สิ้นสุดและตื่นตระหนกกับข้อมูลที่หลากหลาย

 

ขอคอมมเม้นท์อีกประเด็น...นึง

ทุกวันนี้ผู้คนในเวปยังมาพูดคุยกันว่า ภัยพิบัติจะเกิด/ไม่เกิด กันอยู่นั่นแหละ

เพราะถ้าเชื่อว่าจะเกิดขึ้น วันนี้ถ้าไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย....ถือว่าสายเกินแก้แล้ว
คงต้องเตรียมตัวอพยพแบบไปตายเอาดาบหน้า

ต่างประเทศเค้าเตรียมการมาเป็นเวลาหลายปี ลองเข้าไปค้นหาดูนะครับ

ส่วนคนที่ไม่เชื่อก็นอนฟังเพลงอยู่บ้านให้สบายใจ เดี๋ยวท่านก็จะทราบเอง

ข้อคิดในวันนี้ก็คือ ถ้าเชื่อว่าจะเกิดภัยขึ้น ให้รีบตัดสินใจและลงมือทำเสียแต่วันนี้
เวลาเหลือน้อยมากแล้ว รายการนี้ไม่มีก๊อกสอง ธรรมชาติจัดเต็ม ครับ

 

การที่ผมเสนอแนวคิดเรื่องนี้ ก็คล้ายกับเป็น "การเตรียมทำประกันภัย" รูปแบบหนึ่ง การเตรียมการตั้งรับบางส่วน ถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิด ก็ต้องถือว่าแรงกายแรงใจที่ลงไปเป็นการจ่ายค่าเบี้ยประกันไป

ที่เราคิดจะทำไม่ใช่เพื่อตัวเราเอง แต่เพื่อสังคมส่วนรวม ตัวเราเองไม่สำคัญเท่าไร เพราะยิ่งเหตุการณ์เกิดมันมีโอกาสน้อยมากตามความน่าจะเป็นเท่าไร ผลต่อสังคมโดยรวมมันก็ยิ่งร้ายแรงมากขึ้นเท่านั้นถ้าเกิดขึ้นมา ผมมองเห็นว่า ถ้ายิ่งแรงมาก สังคมยิ่งรวนมาก หากไม่เตรียมรับไว้ก็เสียหายมาก

ที่อยากให้พูดกันนี้คงเป็นระดับเหนือกว่าการเตรียมของแต่ละหมู่บ้านภัยพิบัติ ผมคิดว่าควรพูดในภาพรวมเป็นภูมิภาคไป เช่น การเตรียมการประสานงานระหว่างกลุ่มในจังหวัดต่างๆ การช่วยเหลือ การติดต่อกันข้ามจังหวัด หากมีปัญหาการสื่อสาร อะไรแบบนั้น

อย่างที่มีข่าวบางกระแสบอกว่ามนุษย์ต่างดาวเตือนมาว่า อินเตอร์เน็ตกำลังจะล่ม ก็ต้องเผื่อไว้ว่ามันอาจจะเป็นไปได้ ก็เลยถามว่า ถ้างั้นใครที่ทำงานเกี่ยวกับ ISP ของไทยจะมีทางเซ็ทระบบเพื่อกันผลกระทบว่า เน็ตต่างประเทศหรือระหว่างประเทศล่ม แต่เน็ตในประเทศเราไม่ล่ม ทำได้ไหม นี่เป็นตัวอย่างครับ

ผมจะยกตัวอย่าง หากว่า top level DNS ต่างประเทศล่ม เน็ตเราจะล่มไปด้วยไหม

 

อ้อ แล้วก็มีคำถามอีกว่า ถ้าดาต้าเซ็นเตอร์ต่างๆ ในกรุงเทพฯ พากันล่ม จะทำให้เน็ตใช้ไม่ได้ไปทั้งประเทศหรือไม่ มีทางจะลดผลกระทบได้ไหม

 

แค่ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้....ระบบสื่อสารทุกเครือข่ายก็ล่มอยู่แล้ว ไม่มีทางแก้หรอกครับ

น้า Mythi เคยบอกแล้วว่า "โลกมนุษย์นี้ เปราะบางมาก" หากการสื่อสารหยุดชะงัก จะเกิดความโกลาหลไปทั่วโลก

ลองไปคิดเล่นๆว่า ถ้าวันไหนไม่ได้พกมือถือออกจากบ้าน ชีวิตจะเป็นอย่างไรบ้าง

วันนี้ Nirvana จัดทำระบบสื่อสารแบบพึ่งตนเองทั้งย่าน 140 และ 245 กะตั้งเสา 4 Stage ไว้คุยกับผู้คนรัศมี 300 ก.ม. แค่นี้ก็คงจะพอแล้วสำหรับในวันวิกฤต

เวลาที่เหลือก็นั่งภาวนาไปเรื่อยๆตามที่ได้ตั้งใจไว้

 

มีใครทำระบบการสื่อสารผ่านสัญญานวิทยุคลื่นสั้นบ้างครับ สมัยก่อนมีการใช้อยู่ปัจจุบันเงียบหายไป ใครมีข้อมูลช่วยบอกด้วยครับ ขอบคุณครับ

 

ขอบคุณ คุณ Nirvana ที่ช่วยเปิดประเด็นเรื่องเครือข่าย ว. ครับ

ผมเสริมว่า ถ้ามีนักวิทยุสมัครเล่นเข้ามาดูกระทู้ที่เว็บนี้มากพอสมควร ประเด็นนี้อาจจะมีประโยชน์ อาจจะคิดตั้งเสาสูงกันเหมือนที่คุณคิดจะทำ

และก็ โดยที่ไม่มีไฟฟ้าจากระบบสายส่ง ท่านเหล่านั้นก็คงต้องเตรียมหาซื้อแผงโซล่าร์เซล์ แบตเตอรี่ไว้เก็บไฟฟ้า ตัว inverter และตัวควบคุมปริมาณการชาร์จแบ็ต ไว้ด้วยนะครับ ๔ อย่างนี้ก็ราคาประมาณหมื่นกว่าบาท เพื่อไว้ชาร์จแบตเครื่อง ว. ของท่าน

 

สำหรับเครื่องมือถือก็คงใช้แผงโซล่าเซลชาร์จได้ ครับ

ส่วนเครื่อง Mobile ขนาด 100 วัตต์ ขึ้นไปปกติก็ใช้กระแสไฟ DC. 13.5 Volt
อยู่แล้ว ก็สามารถดัดแปลงให้รับกระแสตรงจากหม้อแบตตารี่ได้เลย

ขอย้ำกับเพื่อนสามาชิก นะครับ
ต่อไปภายภาคหน้า วิทยุสมัครเล่นจะมีส่วนสำคัญในทุกด้านของการดำรงอยู่ของมนุษย์ ครับ การสื่อสารกันไม่ได้ก็คือ หูหนวก ตาบอด นั่นเอง

 

รับทราบและเตรียมพร้อมปฏิบัติการครับ อาจยังมีคนส่วนน้อยมาก ที่ติดตามเรื่องภัยพิบัติแรงๆ เพราะแต่ละคนยังคงยุ่งอยู่กับการดำรงชีพหาเลี้ยงครอบครัว เลยไม่ได้ใส่ใจ ส่วนตัวก็ยังคงเป็นเช่นนั้นครับ
แต่ก็พอจะเตรียมความพร้อมพอสมควร อาจจะไม่ถึง 100% แต่ก็น่าจะพอรับมือได้และพอช่วยเหลือคนอื่นได้ เช่น รถ 4WD เสบียงอาหาร ที่ดิน อุปกรณ์กู้ภัย อุปกรณ์สื่อสาร ฯลฯ
ภารกิจก็ยังต้องอยู่ใน กรุงเทพฯครับ แต่ถ้าเหตุการณ์เกิดแรงๆก็คงต้องออกเดินทางทันที ตอนปี 54 ช่วงน้ำท่วมก็ออกไปโคราชมาครั้งหนึ่งแล้ว เส้นทางก็พอจะไปได้ อาจจะไม่สะดวกเท่าไรนัก

ส่วนเรื่องรวมกลุ่มต่างๆนั้น คิดว่าคงมีความสำคัญพอสมควรหลังจากเกิดเหตุการณ์แล้ว ถ้าเหตุการณ์ยังไม่เกิดคิดว่าโอกาสน้อยครับ

:z8

 

ประเทศไทย เรามีกิจการวิทยุสมัครเล่นเป็นข่ายสื่อสารสาธารณะสำรองในยามฉุกเฉินหรือภัยพิบัติ อยู่แล้ว ในย่านความถี่ 144 - 146 MHz.. โดยมีสถานีทวนสัญญาณ (Repeater) ตามพื้นที่การกำกับดูแล ทั้งหมด 9 กลุ่มครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศเพื่อใช้สื่อสารรายงานเหตุการณ์ต่างๆแก่ประชาชนได้รับทราบ .. ดังนั้น สำหรับประชาชน ที่อยู่ประจำบ้าน แค่วิทยุสื่อสาร ประเภทเครื่องมือถือ (Handdy) หรือเครื่องโมบาย<ST1 (Mobile</ST1) สำหรับติดรถยนต์ ..ก็น่าจะเพียงพอในการรับฟัง ติดตามข่าวสาร และแจ้งเหตุเตือนภัย หรือขอความช่วยเหลือได้...เราไม่ควรเสียค่าใช้จ่ายไปจัดหาอุปกรณ์ราคาแพงๆ หรือตั้งสถานีซ้ำซ้อน (แต่ถ้าใครมีทุนทรัพย์มากพอซื้อหา อันนี้ก็ไม่ว่ากัน).. สิ่งสำคัญคือ ควรเรียนรู้วิธีการใช้วิทยุสื่อสารเบื้องต้น ในการรับฟัง หรือแจ้งเหตุฉุกเฉิน.. โดยใช้ทรัพยากรของชาติ ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด..<O</O
<O</O
<O</O

ในกรณีฉุกเฉินเมื่อเกิดภัยพิบัติต่าง ๆ โดยทั่วไป เราจะปรับความถี่ ไปใช้ช่องความถี่หลักเพื่อ Standby รับฟังสถานการณ์ ที่ความถี่ 145.0000 (Emergency, Distress and Calling) หรือ ความถี่ี 144.9000 (General Notice and Calling) แต่ถ้าหากเราจะประสานงานเพื่อขอความช่วยเหลือ และแจ้งความคืบหน้าในสถานการณ์นั้นๆ ส่วนใหญ่ เราจะประสานงานเรียกผ่านไปที่ ความถี่ของRepeaterแม่ข่าย ที่เรา Standby อยู่ในรัศมีพื้นที่นั้น ๆ ..ให้สถานีทวนสัญญาณฯช่วยส่งต่อข้อความเข้าข่ายหลัก หรือประสานงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบ อีกที.. <O</O
<O</O

สิ่งสำคัญ.. มารยาทในการใช้วิทยุสื่อสารในช่วงเหตุการณ์ภัยพิบัติ (เช่นกรณีอุทกภัย)ทุกท่านควร Standby ติดตามฟังข้อความให้มาก.. เพื่อประเมินสถานการณ์..สื่อสารเท่าที่จำเป็น ..ทำความถี่ให้ว่างไว้..เพื่อกรณีฉุกเฉินให้ประชาชนที่มีความจำเป็นเร่งด่วนจริงๆ ได้ใช้...แจ้งเหตุ และขอความช่วยเหลือ

 

ความถี่ของสถานีทวนสัญญาณ (Repeater) ทั้ง 9 กลุ่ม มีดังนี้<O</O
<O</O

เขต 1
1.กรุงเทพมหานคร HS1AB ความถี่ 145.6750
2.ชัยนาท HS1AI ความถี่ 145.0750
3.นนทบุรี HS1AN ความถี่ 145.6750
4.ปทุมธานี HS1AP ความถี่ 145.6750
5.ลพบุรี HS1AL ความถี่ 145.6625
6.สมุทรปราการ HS1AM ความถี่ 145.6500
7.สระบุรี HS1AR ความถี่ 145.6375
8.สิงห์บุรี HS1AH ความถี่ 145.7000 145.1000
9.อยุธยา HS1AY ความถี่145.6750
10.อ่างทอง HS1AT ความถี่ 145.0625

เขต. 2
1.จันทบุรี HS2AB ความถี่ 145.6875
2.ฉะเชิงเทรา HS2AS ความถี่ 145.7125
3.ชลบุรี HS2AC ความถี่ 145.7000
4.ตราด HS2AT ความถี่ 145.6625
5.นครนายก HS2AN ความถี่ 145.6250
6.ปราจีนบุรี HS2AP ความถี่ 145.6250
7.ระยอง HS2AR ความถี่ 145.6375
8.สระแก้ว HS2A ความถี่ 145.6250

เขต. 3
1.ชัยภูมิ HS3AC ความถี่ 145.6750
2.นครราชสีมา HS3AN ความถี่ 145.7000
3.บุรีรัมย์ HS3AB ความถี่ 145.6875
4.ยโสธร HS3AY ความถี่ 145.6875
5.ศรีสะเกษ HS3AK ความถี่ 145.6875
6.สุรินทร์ HS3AS ความถี่ 145.6375
7.อุบลราชธานี HS3AU ความถี่ 145.6875
8.อำนาจเจริญ HS3AG ความถี่ 145.6875

เขต 4
1.กาฬสินธุ์ HS4AG ความถี่ 145.7125
2.ขอนแก่น HS4AK ความถี่ 145.6875
3.มหาสารคาม HS4AM ความถี่ 145.6500
4.มุกดาหาร HS4AD ความถี่ 144.8500
5.ร้อยเอ็ด HS4AR ความถี่ 145.6750
6.เลย HS4AL ความถี่ 145.6250
7.สกลนคร HS4AS ความถี่ 145.7000
8.หนองคาย HS4AN ความถี่ 145.7000
9.อุดรธานี HS4AU ความถี่ 145.6750

<O></O>
เขต 5
1.เชียงใหม่ HS5AC ความถี่ 145.6750
2.เชียงราย HS5AR ความถี่ 145.6625
3.น่าน HS5AN ความถี่ 145.6375
4.พะเยา HS5AY ความถี่ 145.7000
5.แพร่ HS5AP ความถี่ 145.6875
6.แม่ฮ่องสอน HS5AH ความถี่ 145.7000
7.ลำปาง HS5AM ความถี่ 145.6500
8.ลำพูน HS5AL ความถี่ 145.6250
9.อุตรดิตถ์ HS5AU ความถี่ 145.6500 <O></O>

เขต 6
1.กำแพงเพชร HS6AK ความถี่ 145.6375
2.ตาก HS6AT ความถี่ 145.7000
3.นครสวรรค์ HS6AN ความถี่ 145.6250
4.พิจิตร HS6AJ ความถี่ 145.7000
5.พิษณุโลก HS6AP ความถี่ 145.7125
6.เพชรบูรณ์ HS6AB ความถี่ 145.6500
7.สุโขทัย HS6AS ความถี่ 145.6750
8.อุทัยธานี HS6AU ความถี่ 144.9000

เขต 7
1.นครปฐม HS7AN ความถี่ 145.6875
2.ประจวบคีรีขันธ์ HS7AJ ความถี่ 145.6250
3.เพชรบุรี HS7AP ความถี่ 144.5500
4.ราชบุรี HS7AR ความถี่ 145.6625
5.สมุทรสงคราม HS7AM ความถี่ 144.5250
6.สมุทรสาคร HS7AT ความถี่ 145.6375
7.สุพรรณบุรี HS7AS ความถี่ 145.7125

เขต 8
1.กระบี่ HS8AK ความถี่ 145.6250
2.ชุมพร HS8AC ความถี่ 145.7000
3.นครศรีธรรมราช HS8AN ความถี่ 145.6500
4.พังงา HS8AP ความถี่ 145.6750
5.ภูเก็ต HS8AT ความถี่ 145.7000
6.ระนอง HS8AR ความถี่ 145.6250
7.สุราษฎร์ธานี HS8AS ความถี่ 145.6750

เขต 9
1.ตรัง HS9AT ความถี่ 145.0000
2.นราธิวาส HS9AN ความถี่ 145.6250
3.ปัตตานี HS9AI ความถี่ 145.6875
4.พัทลุง HS9AP ความถี่ 145.6250
5.ยะลา - เบตง HS9AY ความถี่ 145.6625
6.สงขลา HS9AS OJ07ความถี่ 145.6375
7.สตูล HS9AL OJ06ความถี่ 145.7000

 

เรียงตามช่อง CB 245

ภาคกลาง

กรุงเทพมหานคร
ช่อง 01 จส.100
ช่อง 02 ศูนย์ฉิมพลี
ช่อง 03 ศูนย์กู้ภัยพหลฯ
ช่อง 09 ศูนย์วีอาร์ จราจร
ช่อง 10 ศูนย์กู้ชีพบูรณะ / ซีบีเจริญนคร / ศูนย์ทุ่งครุ
ช่อง 11 ศูนย์ชำนิ แจ้งข่าว สภ.เมืองสมุทรปราการ
ช่อง 12 ศูนย์มีนบุรี
ช่อง 14 ศูนย์ประกันกลาง
ช่อง 15 นิคมบางปูสัมพันธ์
ช่อง 16 ศูนย์พิรุณ
ช่อง 25 กลุ่มเบาะแสบางปู
ช่อง 26 ศูนย์ข่าวเบาะแสปราการ
ช่อง 36 ศูนย์ร่วมด้วย / กู้ภัยทรัพย์สนอง / สมิติเวช
ช่อง 39 ศูนย์ชาลีกรุงเทพ
ช่อง 40 กู้ชีพเพชรสมุทร
ช่อง 47 ศูนย์แจ้งข่าวดอนเมือง
ช่อง 48 ศูนย์พุฒตาล / ศูนย์กู้ชีพศรีวิชัย 3
ช่อง 49 ศูนย์พญาอินทรีย์
ช่อง 50 ศูนย์กู้ชีพศรีวิชัย 1 / ศูนย์พุธไทช่อง / ศูนย์กู้ชีพเจ้าพระยา
ช่อง 51 ศูนย์กู้ชีพศรีวิชัย 2
ช่อง 52 ศูนย์กู้ชีพวิภาวดี / กู้ชีพวิภาวดีราม / ศูนย์กู้ชีพเจ้าพระยา
ช่อง 54 ศูนย์พระราม 2
ช่อง 55 ศูนย์กู้ชีพศรีวิชัย 5
ช่อง 56 ศูนย์เวหาปราการ
ช่อง 57 ศูนย์กู้ชีพมหาชัย 1
ช่อง 64 ศูนย์กู้ชีพศาลายา
ช่อง 69 ศูนย์กู้ชีพมหาชัย 2
ช่อง 70 ฐานธนปราการ
ช่อง 73 ศูนย์ร่วมปทุมฯ
ช่อง 77 ศูนย์เหยี่ยวเวหา
ช่อง 79 ศูนย์วิทยุอาร์ คอมกรุงเทพ
ช่อง 80 ศูนย์วิทยุพระรามเก้า

จ.ปทุมธานี
ช่อง 65 ชมรมวิทยุปทุมฯ สัมพันธ์ (สมาชิกแจ้งข่าวอาชญากรรม)

จ.ลพบุรี
ช่อง 46 ศูนย์ชลสิทธิ์

จ.สระบุรี
ช่อง 71 ศูนย์ตะวัน

จ.สิงห์บุรี
ช่อง 33 อาสาฯ ร่วมกตัญญูสิงห์บุรี

จ.พระนครศรีอยุธยา
ช่อง 37 ชมรมกู้ชีพอยุธยา

ช่อง 51 ศูนย์กู้ภัยพุทไธสวรรย์ ภาคตะวันออก
จ.สระแก้ว
ช่อง 50 อ.อรัญญประเทศ

จ.ชลบุรี
ช่อง 07 ศรีราชา
ช่อง 61 โลมา (พัทยา)
ช่อง 55 EN (พัทยา)
ช่อง 79 ศูนย์อมตะ
ช่อง 09 เพื่อนๆ ในนิคมอมตะนคร
ช่อง 45 พญาค้างคาว (สัตหีบ)
ช่อง 41 กลุ่มพิทักษ์ชล (พัทยา)
ช่อง 19 ศูนย์ปอวินสัมพันธ์

จ.ปราจีนบุรี
ช่อง 29 ศูนย์พญาอินทรีย์

จ.ระยอง
ช่อง 23 ศูนย์กู้ภัยปลวกแดง
ช่อง 35 ช่องคุยเล่นถามทาง
ช่อง 59 รส.รย แจ้งเหตุแจ้งข่าว

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
จ.นครราชสีมา
ช่อง 1 หน่วยกู้ภัยฮุก 31 โคราช
ช่อง 18 ศูนย์กู้ชีพ EMS 1669 ร.พ.มหาราชนครราชสีมา

จ.อุบลราชธานี
ช่อง 09 ชมรมศิษยืจึ้งกง
ช่อง 55 ศูนย์เหยี่ยวเวหา

จ.กาฬสินธุ์
ช่อง 19 กู้ภัยเต็กก่า จีสิ่งเกาะ
ช่อง 11 กู้ชีพเทศบาลกุตหว้า อ.กุฉินารายณ์
ช่อง 23 กู้ชีพ อบต.แจนแสน อ.กุฉินารายณ์
ช่อง 33 กู้ชีพ อบต.หนองห้าง อ.กุฉินารายณ์
ช่อง 51 กู้ชีพ อบต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์
ช่อง 67 ศูนย์สั่งการการแพทย์ฉุกเฉิน

จ.ร้อยเอ็ด
ช่อง 8 โทน 10 OD ร้อยเอ็ดข่าว 100 วัตต์
ช่อง 35 ศูนย์เสลภูมิหน่วยกู้ชีพ รพ.เสลภูมิ
ช่อง 41 กลุ่มฯ ซีบี 245 เมืองเกษ (อ.เกษตรวิสัย)
ช่อง 40 ศูนย์พิทักษ์ชีพ (อ.เสลภูมิ)
ช่อง 57 ศูนย์กู้ชีพ ฟาร่า (อ.เกษตรวิสัย)
ช่อง 59 ชมรมฯ ซีบี 245 ร้อยเอ็ด
ช่อง 65 กู้ชีพพีรย์คำทอน รพ.ร้อยเอ็ด
ช่อง 79 ศูนย์ศิลานครหน่วยกู้ชีพศิลานคร

จ.ขอนแก่น
ช่อง 07 ศูนย์หลักเมืองชุมแพ อ.ชุมแพ
ช่อง 31 ศูนย์ข่าวฯ ประชาธรรม
ช่อง 33 กลุ่มเพื่อนอินทรีย์
ช่อง 46 ศูนย์ข้อมูลแก่นทิพย์
ช่อง 49 ศูนย์ข่าวทานตะวัน
ช่อง 63 กลุ่มพันธมิตร
ช่อง 68 ชมรมอรุณธรรม
ช่อง 79 กู้ภัยเต็กก่า จีแชเกาะ อ.ชุมแพ
ช่อง 80 ศูนย์วิทยุนารายณ์ขอนแก่น

จ.มหาสารคาม
ช่อง 73 กู้ภัยเต็กก่า จีเสียงเกาะ

 

ท่านที่ใช้วิทยุ หากเป็นไปได้ ลงทุนซื้อ เครื่องปั่นไฟขนาดเล็กไว้ด้วยก็ดีครับ
ราคาไม่เกินหมื่นบาท ใช้น้ำมันเบ็นซิน มันเบาพอที่จะหิ้วไปไหนมาไหนได้ง่าย

หน้าตาประมาณนี้

เรื่องกำลังไฟที่ได้ แล้วแต่รุ่นครับ

หิ้วขึ้นรถมอเตอร์ไซด์ หรือจักรยาน พอไหว


หากเอาแบบวัตสูง ขนาดจะใหญ่ จนอาจยกไม่ขึ้นนะครับ

(น้ำท่วมปีที่แล้ว หาซื้อยากมากเพราะขายหมดเกือบทุกร้าน )

 

ขอบคุณท่าน "เจ้าเวหล" นะครับ

ข้อมูลดีเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
ถ้ามีอะไรคืบหน้าช่วยอัพเดตให้เพื่อนสมาชิกด้วย นะครับ

 

การก่อตั้งหรือรวมกลุ่มไม่ยากครับ แต่ที่ยากคือการักษากลุ่มสมาชิกให้อยู่รอดได้ต่างหากครับ ที่ผมพูดถึงเฉพาะในช่วงปกตินะครับ พื้นเพ, ภูมิธรรม, นิสัย, พื้นฐานด้านสังคม เมื่อมีพื้นฐานไม่เสมอกัน ในการรักษากลุ่มให้คงอยู่ จะทำอย่างไร ????

บุคคลที่จะเป็นผู้นำกลุ่ม จะเป็นใคร ????? ผมว่าปัญหาเหล่านี้ สมาชิกยุคแรกๆของห้องนี้น่าจะเข้าใจกันดีครับ

บางคนเข้ามาเพื่อช่วย บางคนเข้ามาเพราะอยากรอด บางคนเข้ามาเพื่อพิสูจน์ บางคนเข้ามาเพื่อศึกษาธรรม บางคนเข้ามาเพื่อสนุก บางคนเข้ามาเพาะวาระกรรม

ที่ผมบอกไปไม่ได้ต้องการให้ทุกคนยกเลิกการรวมกลุ่มนะครับ แต่ต้องการให้ทุกคนพิจารณาสิ่งที่จะทำต่อไปนี้ว่าจะทำอย่างไรให้มันถูกต้องและดีที่สุดต่อทุกคนที่เข้ามา
เพราะในการอยู่ร่วมกัน จะมีการแบ่งปันความรู้ประสบการณ์ ที่ถูกต้องและไม่ถูกต้อง เราจะตัดสินใจว่า สิ่งไหนถูกสิ่งไหนผิด สิ่งไหนเหมาะสมสิ่งไหนไม่เหมาะสม สิ่งไหนควรปฏิบัติส่งไหนไม่ควรปฏิบัติ ได้อย่างไร

ถ้าเราไม่สามารถพิจารณาหรือตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง ผลลัพธ์ที่ตามมาจะเป็นอย่างไร???