WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

เผยน้ำเข้าอ่าง เขื่อนภูมิพลจ.ตากเพิ่มวันละ80 ล้านลบ.ม.

เมื่อวันที่ 13 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตาก ถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ว่า ทางเจ้าหน้าที่เขื่อนภูมิพลได้ระบุว่า ขณะนี้เริ่มมีน้ำไหลเข้าไปในอ่างวัน ละ 70 - 80 ล้านลูกบาศก์เมตร จากเดิมวันละประมาณ 50 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้เกี่ยวกับร่องความกดอากาศ ที่มีฝนตกเหนือเขื่อนภูมิพล แต่เมื่อเทียบกับช่วงวิกฤติการณ์น้ำในช่วงปี 2554 ที่ผ่านมา ถือว่า ยังเป็นปริมาณน้ำ ที่ยังน้อยอยู่ อย่างไรก็ตาม ทางเขื่อนภูมิพลได้พิจารณาการระบายน้ำออกวันละ 2 - 3 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนกรณีน้ำวังล้น ท่วมอำเภอบ้านตากนั้น ไม่เกี่ยวกับเขื่อนภูมิพล เพราะน้ำวังอยู่ท้ายเขื่อนภูมิพล.


แม่น้ำยมล้นท่วมตำบลรังนก อ.สามง่าม พิจิตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพิจิตรในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำยม น้ำเหนือจากจังหวัดสุโขทัย และน้ำสะสมในพื้นที่ เริ่มส่งผลกระทบกับพื้นที่ตำบลรังนก อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ข้อมูลจากสถานีวัดน้ำ Y 17 อำเภอสามง่าม ระดับน้ำแม่น้ำยม เพิ่มขึ้นวันนี้วันเดียวอีก 24 เซนติเมตร ส่งผลให้น้ำแม่น้ำยมแม้ว่าจะยังไม่ถึงจุดวิกฤติแต่ก็ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำตลอดแนวในเขตตำบลรังนก อำเภอสามง่าม ในพื้นที่ 5 หมู่บ้าน จำนวนกว่า 100 หลังคาเรือน ส่งผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ ต้องช่วยตัวเองด้วยการสร้างสะพานชั่วคราว บางส่วนต้องลุยน้ำ เข้า-ออกบ้าน ขณะที่ส่วนใหญ่เริ่มนำเรือเพื่อใช้ในการสัญจรอีกครั้ง
สำหรับพื้นที่ตำบลรังนก อำเภอสามง่าม เป็นพื้นที่เฝ้าระวังอุทกภัยของจังหวัดพิจิตร เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มประสบปัญหาอุทกภัยทุกปี ขณะที่จังหวัดพิจิตรประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ลุ่ม 4 อำเภอ คือ อำเภอสามง่าม อำเภอโพธิ์ประทับช้าง อำเภอบึงนาราง และอำเภอโพทะเลเตรียมรับมือน้ำก้อนใหญ่จากจังหวัดแพร่ สุโขทัย ที่จะไหลผ่านอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก เข้าสู่พื้นที่อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ซึ่งจะส่งผลกระทบของอุทกภัยที่จะสร้างความเดือดร้อนเสียหายกับประชาชนในพื้นที่ลุ่มทั้ง 4 อำเภอดังกล่าว.


พิษณุโลกฝนตกหนักมีน้ำท่วมขังถนนหลายเส้นทาง

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 13 กันยายน ที่จังหวัดพิษณุโลก เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง 3 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลาประมาณ 03.00 -05.00 น. วัดปริมาณน้ำฝนได้ 71.5 มิลลิเมตร ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในเขตเทศบาลนครพิษณุโลกหลายจุด ในช่วงเช้า ตำรวจจราจรต้องทำงานอย่างหนัก มีการปิดกั้นเส้นทางจราจรถนนราเมศวร บริเวณแยกธนารักษ์ถึงแยกเกษตร น้ำท่วมผิวจราจร 10-20 เซนติเมตร แม้ว่ารถจะสามารถสัญจรผ่านได้ แต่หากปล่อยให้รถผ่าน แรงคลื่นของน้ำจะสร้างผลกระทบเข้าไปท่วมร้านค้าที่อยู่ริมถนน
อีกจุดที่ท่วมสูง คือบริเวณ ถนนวิสุทธิกษัตริย์ ถึงถนนอู่ทอง ตั้งแต่สามแยกหน้าบ้านกำนันอนุมัติ จนถึงสี่แยกอู่ทอง ระยะทางประมาณ 300 เมตร น้ำท่วมขังผิวจราจรสูง 20-30 เซนติเมตร ได้ปิดกั้นการจราจร รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ นอกจากนี้ บริเวณถนนพญาเสือ ก็มีน้ำท่วมผิวจราจรเช่นกัน แต่รถสามารถสัญจรผ่านได้ และผลจากน้ำท่วมขังผิวจราจร ส่งผลให้การจราจรในช่วงเช้าของเมืองพิษณุโลกติดขัดอย่างหนัก.


น้ำทะลักท่วมเมืองอ่างทองชาวบ้านเร่งเก็บของ

08.00 น. -13 กันยายน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบยังบริเวณหมู่ที่ 1 ต.จำปาหล่อ อ.เมือง จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งจากนายมานพ นิรันดร นายก อบต.จำปาหล่อ ว่าน้ำได้ล้นทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอีก หลังจากรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่า น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชนชนแถบที่ติดอยู่กับแม่น้ำโดยเฉพาะบริเวณติดกับวัดเสาธงทอง ชาวบ้านเก็บข้าวของหนีน้ำกัน
นางปิ้ม จำนงศาสตร์ อายุ 83 ปี อยู่บ้าน ต.จำปาหล่อ อ.เมือง จ.อ่างทอง กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาน้ำยังไม่เข้าท่วมเลยแต่หลังจากตนมาทำธุระที่วัดเสาธงทองกลับไปก็พบว่าน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้ไหลมาทางแม่น้ำเข้าท่วมบ้านเรือนตนต้องเร่งเก็บของขึ้นที่สูงเพราะไม่คิดว่าน้ำจะท่วมเลยไม่ได้เตรียมเก็บของเตรียมไว้ก่อน
ด้านนายมานพ นิรันดร นายก อบต.จำปาหล่อ กล่าวว่า วันนี้น้ำในแม่น้ำสูงกว่าเมื่อวานนี้เกือบ 10 ซ.ม.ทำให้น้ำได้ล้นตลิ่งที่ข้างวัดเสาธงทองซึ่งไม่มีคันกั้นน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอย่างรวดเร็วตนต้องส่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือเก็บข้าวของซึ่ง ณ.ตอนนี้น้ำได้เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในหมู่ที่ 1 ไปแล้วจำนวน 25 หลังคาเรือนและมีแนวโน้มที่จะขยายวงกว้างมากขึ้นที่สำคัญมีคนพิการนอนอยู่ชั้นล่างต้องช่วยกันนำหนีน้ำขึ้นที่สูง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากน้ำได้ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในหมู่ที่ 1 นั้นปลาชนิดต่างๆได้มากับน้ำชาวบ้านต่างจับปลาขายได้เงินกันเป็นจำนวนมาก.

 

กทม.หวั่นฝนตกหนัก-สั่งเร่งสำรวจจุดบอดริมคลอง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 กันยายน 2555 09:22 น.

พ.ญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงการเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำ หลังกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนฝนตกหนักทั่วประเทศ ประกอบกับสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ ว่า ทางกรุงเทพมหานครได้เตรียมรับมือในส่วนสำคัญพร้อมหมดแล้ว และวันนี้ได้สั่งการให้ทุกเขตลงสำรวจพื้นที่รอยรั่ว และจุดบกพร่องตามริมต่างๆ และรายงานให้ทราบเพื่อเร่งปรับปรุงแก้ไขและเตรียมความพร้อม แม้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะรับน้ำได้อีกมาก แต่ต้องบริหารจัดการความเสี่ยง พร้อมเตรียมพร่องน้ำรองรับฝนที่จะตกหนัก
อย่างไรก็ตาม จากกรณีวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา เกิดน้ำท่วมขัง เนื่องจากมีฝนตกมากกว่า 100 มิลลิเมตร จึงให้เร่งสำรวจเตรียมพื้นที่ช่วงวันที่ 14-17 กันยายนนี้ ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือน ส่วนกรณีประกาศเตือนชุมชนนอกแนวกั้นน้ำ เป็นการป้องกัน โดยจะแจ้งให้ประชนทราบเพื่อเก็บข้าวของขึ้นสู่ที่สูงเตรียมพร้อมไว้ก่อน จะได้ไม่ฉุกเฉินเมื่อน้ำมา รวมไปถึงการอพพยด้วย

 

นนทบุรี ปทุมฯ เสียววูบ นายกเผยอาจมีท่วมฉับพลัน

เขียนโดย NaiNat โพสต์เมื่อ วันพฤหัสที่ 13 กันยายน 2555



รายงานข่าวแจ้งว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้น
ซึ่งในตอนหนึ่งนักข่าวถามว่า น้ำจะท่วมมาถึง จ.นนทบุรี และ จ.ปทุมธานี หรือไม่
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ถ้าเป็นปริมาณน้ำที่เกิดจากการระบายน้ำ จะพยายามควบคุม แต่ถ้ากรณีที่เป็นร่องความกดอากาศเป็นปริมาณน้ำฝนที่เยอะ อาจจะมีบ้างที่จะท่วมขังบางพื้นที่ หรือที่เรียกน้ำท่วมฉับพลัน แต่การระบายจะทำได้เร็วกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน
ทั้งนี้ เมื่อถามต่อว่า การระบายน้ำทั้งฝั่งซ้ายและขวาของ กทม.ไม่มีปัญหาใช่หรือไม่
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เรียกว่าดีขึ้นมีประสิทธิภาพดีกว่าปีที่ผ่านมา
เมื่อถามว่า ประชาชนต้องเตรียมความพร้อมอะไรหรือไม่
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า สิ่งที่อยากฝากพี่น้องประชาชนคือ อย่างแรกอาจช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับน้ำ ถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับสุโขทัย แจ้งเราล่วงหน้า เราจะได้เข้าไปทำงานในพื้นที่ซึ่งจะเป็นประโยชน์ ขณะเดียวกันอยากจะขอให้ในส่วนของการเตือนที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติได้มีการเตือนภัยไป อยากให้ประชาชนได้ระมัดระวังและออกจากพื้นที่ เพื่อจะเป็นการช่วยเรื่องของชีวิตความปลอดภัยของประชาชน
Mthai News

 

ทั่วไทยฝนตกหนักมาก กทม.เตือน 27ชุมชน ยกของขึ้นที่สูง

เขียนโดย NaiNat โพสต์เมื่อ วันพฤหัสที่ 13 กันยายน 2555



กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัย “ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย” ฉบับที่ 4 ระบุว่า

ในช่วงวันที่ 13-17 กันยายน 2555 ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากสภาวะอากาศดังกล่าว และติดตามข่าวพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิดในระยะนี้ ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย 60% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

อนึ่ง เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (13 ก.ย.) พายุโซนร้อน “ซันปา” (SANBA) ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่นแล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ ที่ละติจูด 14.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 129.9 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตร/ชั่วโมง และคาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ไต้หวัน และเกาะโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงวันที่ 15-16 กันยายน 2555
กทม.เตือนประชาชน 27 ชุมชนยกของขึ้นที่สูง

พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า

สำนักการระบายน้ำ (สนน.) ได้รายงานข้อมูลการพยากรณ์อากาศว่า

ระหว่างวันที่ 14-17 กันยายนนี้ ในพี้นที่ กทม.จะเกิดฝนตกหนาแน่น และน้ำทะเลหนุนสูง

ปลัด กทม.จึงได้ออก ว.8 สั่งการให้ทั้ง 50 สำนักงานเขต เตรียมรับมือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น

โดยเฉพาะการติดตั้งเครื่องสูบน้ำให้พร้อมในจุดอ่อน อย่างพื้นที่ลุ่มต่ำที่มีน้ำท่วมขังเป็นประจำ

เพื่อเร่งสูบน้ำระบายออกทันที และขอให้เตือนประชาชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา 27 ชุมชน

ให้เตรียมพร้อมยกของขึ้นที่สูงและระมัดระวังในวันดังกล่าว และให้สำนักงานเขตในพื้นที่ซ่อมแซมและเสริมสะพานไม้ด้วย
Mthai News

 

พบกรดร้ายแรง ปนเปื้อนน้ำในนา ย่านลาดกระบัง

เขียนโดย Itsara โพสต์เมื่อ วันพุธที่ 12 กันยายน 2555



(ขอบคุณภาพประกอบจาก mcot.net)
กทม.ระบุ น้ำในนาย่านลาดกระบัง ปนเปื้อนกรดร้ายแรง
จากกรณีที่ มีประชาชนเข้าแจ้งกับสำนักงานเขตลาดกระบังว่า น้ำในที่นาบริเวณด้านข้างทางเข้าสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่องลาดกระบัง มีสัตว์น้ำตายเป็นจำนวนมาก และน้ำยังมีลักษณะเป็นสีแดง มีตะกอน และมีคราบสีแดงลอยเหนือผิวน้ำ ประกอบกับต้นไม้ใกล้ๆ มีสภาพยืนต้นตาย
ล่าสุด นายสัญญา จันทรัตน์ ที่ปรึกษาผู้ว่าการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากการลงไปสำรวจตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว พร้อมส่งตัวอย่างน้ำไปตรวจพบว่า น้ำในที่นาบริเวณดังกล่าว มีฤทธิ์เป็นกรดอย่างร้ายแรง แต่ยังระบุไม่ได้ว่าเป็นชนิดใด เพื่อไม่ให้มีผลกระทบเป็นวงกว้างตอนนี้จึงได้สั่งห้ามระบายน้ำออกจากที่นา
เบื้องต้นได้นำปูนขาวละลายน้ำมาฉีพ่นเพื่อให้กรดเจือจางลง พร้อมทั้งตรวจสอบทุกๆ 48 ชั่วโมง คาดว่าใน 1 สัปดาห์ น้ำน่าจะเจือจางลง จากนั้นจึงปรับคุณภาพดิน ส่วนการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต้องรอตรวจสอบอีกทีว่าสารดังกล่าวถูกปล่อยมาจากโกดังไหน ซึ่งผู้กระทำจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 5 ปี นายสัญญา กล่าว
Mthai News

 

อุทัยธานี..น้ำป่าทะลักเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน อ.ทัพทัน

วันพฤหัสบดี ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555



น้ำป่าจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ที่ไหลบ่ามาตามแม่น้ำตากแดด เขื่อนระบายไม่ทันทะลักเข้าท่วมหลายหมู่บ้านเหนือเขื่อนในอำเภอทัพทัน นาข้าวที่อยู่ในระยะตั้งท้องออกรวงถูกน้ำท่วม จนชาวนาต้องตัดสินใจเกี่ยวข้าวก่อนกำหนด ขายได้ราคาต่ำ

สถานการณ์น้ำป่าที่เกิดจากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ที่ไหลบ่าลงสู่แม่น้ำตากแดด ด้านเหนือเขื่อนวังร่มเกล้า ที่เพิ่มมากขึ้น และมีการระบายน้ำสู่ท้ายเขื่อนเพื่อไม่ให้พื้นที่เหนือเขื่อน ใน ต.หนองยายดา และ ต.โคกหม้อ อ.ทัพทัน น้ำเอ่อล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนและพื้นที่นาข้าว ล่าสุดได้ทะลักเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวจมอยู่ใต้น้ำที่ ต.หนองยายดา และตำบลโคกหม้อ อ.ทัพทัน ได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง

โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ที่ 2 บ้านเกาะพะยอม หมู่ที่ 3 บ้านโคกหม้อ ต.โคกหม้อ อ.ทัพทัน น้ำได้ทะลักท่วมบ้านเรือนราษฎรกว่า 30 หลังคาเรือน นาข้าวที่อยู่ในช่วงตั้งท้องออกรวงในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.หนองยายดา ถูกน้ำทะลักเข้าท่วมเป็นบริเวณกว้าง ทำให้ชาวนาในพื้นที่นี้และใกล้เคียงที่อาจได้รับผลกระทบจึงต้องเร่งเกี่ยวข้าวที่ยังเขียงสุกไม่เต็มที่ เพื่อหนีน้ำที่กำลังจะเอ่อเข้าท่วม ทำให้ขายข้าวได้ในราคาต่ำเพียงเกวียนละ 5,000-7,000 บาทเท่านั้น

ขณะพื้นที่ท้ายเขื่อนวังร่มเกล้าที่เขื่อนระบายน้ำไปถึง ที่ตำบลหนองไผ่แบนคันดินกั้นน้ำริมแม่น้ำตากแดดพังลง ยังส่งผลให้น้ำท่วมหลายหมู่บ้าน ยังไม่ลดลง เนื่องจากยังมีการระบายน้ำจากเขื่อนวังร่มเกล้ามาท้ายเขื่อนอย่างต่อเนื่อง

 

ราชบุรีแล้งหนักฝนทิ้งช่วงจอมบึง ชาวบ้าน-พระเดือดร้อน

พระอธิการสมบูรณ์ พลธรรมโม เจ้าอาวาสวัดรางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวบ้าน 3 หมู่บ้าน โรงเรียนและวัดอีก 3 แห่ง เดือดร้อนอย่างหนักจากปัญหาขาดแคลนน้ำ เพราะแหล่งน้ำในตำบลรางบัวเหือดแห้ง โดยเฉพาะสระน้ำของวัดเนื้อที่กว่า 40 ไร่ ไม่สามารถส่งน้ำไปช่วยเหลือพื้นที่ใกล้เคียงได้ ปริมาณน้ำที่เหลืออยู่ใช้ได้ไม่ถึง1 สัปดาห์ สาเหตุเป็นเพราะฝนทิ้งช่วง แม้ก่อนหน้านี้มีฝนตกในพื้นที่ แต่น้อยมาก และปกติเดือนเมษายนจะมีน้ำหลากมา แต่ปีนี้กลับไม่มีน้ำ ซึ่งปัญหาความแห้งแล้งนอกจากกระทบต่อชาวบ้านแล้วยังทำให้ไร่นาและมันสำปะหลังของชาวบ้านขาดน้ำหล่อเลี้ยง จึงอยากให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือพื้นที่อย่างเร่งด่วน



 

ไฟป่าเผาวอดที่รัฐไวโอมิง กินพื้นที่เกือบ 25 ตารางไมล์ บ้านเรือนบนเขาวอดไป 7 หลัง เจ้าหน้าที่เร่งดับเพลิงควบคุมสถานการณ์



September 12, 2012 – WYOMING - Firefighters are taking advantage of cooler, more humid weather to dig in around a wildfire burning on Casper Mountain. Crews were focusing Wednesday on building containment lines around the northwest corner of the Sheep Herder Hill Fire, the portion closest to most of the 750 homes threatened by the blaze. The fire has destroyed seven homes on the mountain overlooking Casper since breaking out Sunday. It hasn’t spread much in the last 24 hours and is listed at nearly 25 square miles and 10 percent contained. Investigators will also be in the fire zone looking into how the fire started. Fire spokeswoman Susan Ford said that’s a standard procedure when there aren’t any obvious signs of how a fire started, such as a lightning strike. –KULR 8

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=6NGGodu1fsA&feature=player_embedded"]Wyoming Fire Burns 24 Square Miles - YouTube[/ame]

B5 - War Room Falkman

 

เชียงรายระทึกเขย่าอีก3.4ริกเตอร์ใกล้ตัวเมือง 15กม.

วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน 2555 เวลา 09:21 น.



สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว รายงาน เกิดเหตุแผ่นดินไหว 3.4 ริกเตอร์ ที่ ต.จอมหมอกแก้ว อ.แม่ลาว ห่างตัวเมืองเชียงรายประมาณ 15 กม. ไม่มีรายงานความเสียหาย

<!-- /.content --><!-- /#featured-caption -->
เมื่อเวลา 08.55 น. วันที่ 13 ก.ย. สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า ได้เกิดแผ่นดินไหวบนบก วัดความสั่นสะเทือนได้ขนาด 3.4 ริกเตอร์ ที่ ละติจูด 19.76 องศาเหนือ ลองจิจูด 99.82 องศาตะวันออก ศูนย์กลางอยู่ที่ ต.จอมหมอกแก้ว อ.แม่ลาว จ.เชียงราย ห่างออกทาง อ.เมืองเชียงราย ไปทางทิศใต้ ประมาณ 15 กม.

ตรวจสอบแล้ว ชาวบ้าน อ.แม่ลาว อ.เมืองเชียงราย และใกล้เคียง ต่างรู้สึกถึงความสั่นไหวเพียงเล็กน้อย รวมทั้งกรมอุตุนิยมวิทยา เชียงราย และบรรเทาสาธารณภัยเชียงราย (ปภ.) ต่างยังไม่ได้รับการรายงานถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่อย่างไร.

B5 - War Room Falkman

 

13 ก.ย.55

การวางแนวเกเบียน(ตะแกรงเหล็กบรรจุหิน)และบิ๊กแบ็กล้อมรอบบริเวณที่น้ำลอดกำแพงแล้วเสร็จตั้งแต่เมื่อคืน ขั้นตอนต่อไปคือการระดมเครื่องสูบสูบน้ำออกจากพื้นที่ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 - 2 วัน จึงจะกลับสู่ภาวะปกติ



เครดิต # Sukhothainews

B5 - War Room Falkman

 

ตรัง ประกาศเตือนประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัย

วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ.2555 12:34น.



ตรัง ประกาศเตือนประชาชาพื้นที่เสี่ยงภัย พร้อมรับสถานการณ์ฝนตกหนัก ขณะที่ เรือประมง งดออกหาปลา

จังหวัดตรัง ได้ออกประกาศให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ได้แก่ บริเวณที่ราบลุ่ม ที่ราบเชิงเขา ได้เตรียมเฝ้าระวัง พร้อมรับสถานการณ์เนื่องจากฝนตกหนัก และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตั้งแต่วันที่ 12-16 กันยายนนี้ เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ที่อาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจน พื้นที่ทางการเกษตร ที่อาจจะเกิดขึ้นจากสภาวะดังกล่าว โดยเฉพาะชาวประมง ให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ ซึ่งขณะนี้ เรือประมงพื้นบ้าน เรือท่องเที่ยวที่บริเวณหาดปากเมง อ.สิเกา กว่า 100 ลำ ได้จอดลอยลำ ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ติดตามตรวจสอบสภาวะอากาศกับ กรมอุตุนิยมวิทยา อย่างใกล้ชิด

B5 - War Room Falkman

 

ตลาดบ้านแพนกรุงเก่าน้ำทะลัก

วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน 2555 เวลา 11:32 น.


<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-container -->
<!-- /.images-list-wrapper -->ตลาดบ้านแพน จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำทะลัก สูงกว่า 20 ซ.ม.เทศบาลเร่งสร้างสะพานสูบน้ำออก

<!-- /.content -->เทศบาลเมืองเสนา จ.พระนครศรีอยุธยา สร้างสะพานบนถนนหลังน้ำทะลักเข้าแล้ว
<!-- /.content -->ผุ้ประกอบการร้านค้าในตลาดบ้านแพน อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา นำบังเกอร์เหล็กออกมาเตรียมป้องกันน้ำท่วม ชาวบ้านเตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วมในตลาดบ้านแพน
<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /#featured-caption -->เวลา 10.30 น.วันที่ 13 ก.ย. นายกิตติศักดิ์ ตรารุ่งเรือง นายกเทศมนตรีเมืองเสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ระดมกำลังคนงานของเทศบาลสร้างสะพานไม้บนเสนานาวิน ซอยกลาง ซึ่งน้ำท่วมสูงผิวการจราจรสูง 20 ซ.ม. เป็นระยะทางยาวกว่า 50 เมตร แลยังท่วมถนนสายอื่นๆอีก 3 สายในเขตเทศบาล ทำให้ประชาชนต้องสัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก นอกจากนั้นยังได้ทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำที่บริเวณเขื่อนริมแม่น้ำน้อยจำนวน 1 เครื่อง เพื่อสูบน้ำที่ท่วมถนนริมแม่น้ำออกให้ประชาชนสามารถสัญจรไปมาได้ ส่วนประชาชนส่วนใหญ่ที่อยู่ในตลาดบ้านแพน ก็เตรียมที่จะสร้างบังเกอร์ป้องกันน้ำแล้ว บางร้านก็นำบังเกอร์เก่าที่เป็นแผ่นเหล็กมาติดตั้ง เพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วม ส่วนบางบ้านน้ำก็ท่วมเข้าบ้านไปแล้ว เช่นบ้านของนายทองอยู่ รองเสียงล้ำ อายุ 59 ปี แต่ก็ทำใจเนื่องจากน้ำท่วมเข้ามาในบ้านทุกปี โดยอาศัยติดตามข่าวสารจากโทรทัศน์

นายกิตติศักดิ์ เปิดเผยว่าตลาดบ้านแพนอยู่ติดกับแม่น้ำน้อยซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเพียงวันเดียวน้ำท่วมสูงขึ้น 20 ซ.ม. และมีบางจุดที่น้ำทะลักเข้ามาตามท่อระบายน้ำเข้าไปในจุดที่ต่ำที่สุดในเขตเทศบาลทำให้น้ำท่วม จึงเร่งให้ความช่วยเหลือด้วยการสร้างสะพานและสูบน้ำออกบางจุดดังกล่าว ขณะที่นางโชตินุช กู้เกียรติ์โอฬาร อายุ 66 ปี เจ้าของร้านขายทองในตลาด เปิดเผยว่าน้ำท่วมบริเวณซอยเสนานาวินซอยกลางเป็นเส้นแรกทุกปี โดยที่ทางเทศบาลก็แก้ไขไม่ได้ ซึ่งเป็นสัญญานเตือนว่าน้ำมาแล้ว.

B5 - War Room Falkman

 

ชลประทานออกคำเตือน ครั้งที่ 4 ขอให้4จังหวัดรับมือน้ำหลาก

วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน 2555 เวลา 11.33 น.<!--วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2554 เวลา 14:02 น.-->

สำนักชลประทานที่ 12 แจ้งเตือนครั้งที่ 4 ให้ประชาชนพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้<WBR>าพระยา ตั้งแต่ จ.ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำเจ้า<WBR>พระยาท้นตลิ่งตั้งแต่วันนี้เป็น<WBR>ต้นไป เนื่องจากเขื่อนเจ้าพระยาจะค่อย<WBR>ๆ เพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อน เพื่อระบายมวลน้ำที่ค้างอยู่ในพ<WBR>ื้นที่ตอนบน ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเจ้า<WBR>พระยาสูงขึ้น 25-50 เซนติเมตร

B5 - War Room Falkman

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ชาวพิชัยผวาหลังพายุฝน-ลมกระหน่ำกลางดึก ทำต้นไม้-เสาไฟหักโค่น-บ้านพังเสีหาย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 กันยายน 2555 12:22 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

อุตรดิตถ์ - พายุฝนพร้อมลมแรงถล่ม ต.คอรุม อ.พิชัยกลางดึกทำบ้านพัง ต้นไม้-เสาไฟฟ้าหักโค่น ชาวบ้านโอดตั้งตัวไม่ทันเหตุปกติในพื้นที่มีแค่ฝนตกหนักแต่ลมพัดแรงแบบนี้เพิ่งเคยเจอ ด้านไฟฟ้า-อบต.เข้าให้ความช่วยเหลือแล้ว


วันนี้ (13 ก.ย.55) รายงานจาก จ.อุตรดิตถ์ แจ้งว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดพายุฝนกระหน่ำและลมพัดแรง ในพื้นที่บ้านคลองกล้วย หมู่ 8 ต.คอรุม อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มและนาข้าวราว 100 ไร่ ขณะเดียวกันกระแสลมที่พัดแรงมากได้ทำให้ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ริมถนนหักโค่นเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ต้นไม้ยังหักทับสายไฟและเสาไฟฟ้าจนหักโค่น 8 ต้น ทำให้กระแสไฟฟ้าถูกตัดทันที ส่วนบ้านเรือนของประชาชนก็ถูกลมพัดหลังคาและฝาบ้านเสียหายรวม 11 หลัง

ทั้งนี้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาพิชัย ได้เร่งเข้าไปแก้ไขเพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับประชาชนในเช้าวันนี้แล้ว ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลคอรุม ก็ได้ออกสำรวจความเสียหายที่ประชาชนได้รับ เพื่อรายงานอำเภอพิชัยให้ทราบและดำเนินการช่วยเหลือต่อไป

นายมานัส รัตนสากล ผู้ใหญ่บ้านคลองกล้วย หมู่ 8 กล่าวว่า พายุฝนตกหนักและกระแสลมพัดแรงมาตั้งแต่เวลาประมาณ 02.00 น.เป็นต้นมา ที่ผ่านมาในพื้นที่เคยมีเพียงฝนตกหนักเท่านั้น แต่กระแสลมที่แรงขนาดนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ชาวบ้านจึงไม่ทันระวังและไม่คิดว่าจะรุนแรงถึงขั้นต้นไม้หักโค่น กระแสไฟฟ้าดับและบ้านเรือนพังเสียหายเช่นนี้ อย่างไรก็ตามได้เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อแจ้งให้ทางอำเภอพิชัยทราบและเร่งให้การช่วยเหลือประชาชนต่อไปแล้ว

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center width="33%" align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=bottom background=/images/a_up.gif align=middle></TD><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=center background=/images/a_L.gif width=2 align=right></TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/a_R.gif width=2 align=right></TD></TR><TR><TD height=2 vAlign=top width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=top background=/images/a_Dn.gif align=middle></TD><TD height=2 vAlign=top width=2 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=middle></TD><TD vAlign=center width="33%" align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=bottom background=/images/a_up.gif align=middle></TD><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=center background=/images/a_L.gif width=2 align=right></TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/a_R.gif width=2 align=right></TD></TR><TR><TD height=2 vAlign=top width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=top background=/images/a_Dn.gif align=middle></TD><TD height=2 vAlign=top width=2 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=middle></TD><TD vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=bottom background=/images/a_up.gif align=middle></TD><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=center background=/images/a_L.gif width=2 align=right></TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=center align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
B5 - War Room Falkman


</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE style="FILTER: progidXImageTransform.Microsoft.Gradient(startColorStr=#C0FFFFCC, endColorStr=#10FFFFFF, gradientType=0)" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-LEFT: gray 1px solid; BORDER-RIGHT: gray 1px solid" width="100%" colSpan=3 align=middle>ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย"

ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 13 กันยายน 2555


</TD></TR><TR><TD style="BORDER-LEFT: gray 1px solid; PADDING-BOTTOM: 10px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-RIGHT: 10px; BORDER-RIGHT: gray 1px solid; PADDING-TOP: 10px" width="100%" colSpan=3 align=left>บริเวณความกดอากาศสูงได้แผ่ลิ่มลงมาปกคลุมถึงประเทศจีนตอนใต้ทำให้ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังแรงขึ้น โดยจะเริ่มเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 14-15 กันยายน 2555 ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักในช่วงวันที่ 13–17 กันยายน 2555 ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในช่วงวันเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “ซันปา” (SANBA) มีศูนย์กลางอยู่บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ คาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงวันที่ 15-16 กันยายน 2555 พายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย


ประกาศ ณ วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 11.30 น.

</TD></TR></TBODY></TABLE>

B5 - War Room Falkman

 

แผนที่คาดการณ์ฝน

12 SEP 2012 - 13 SEP 2012
24 Hour Precipitation Forecast


13 SEP 2012 - 14 SEP 2012
24 Hour Precipitation Forecast


14 SEP 2012 - 15 SEP 2012
24 Hour Precipitation Forecast


15 SEP 2012 - 16 SEP 2012
24 Hour Precipitation Forecast


16 SEP 2012 - 17 SEP 2012
24 Hour Precipitation Forecast


B5 - War Room Falkman

 

สภาพอากาศล่าสุด

ภาพถ่ายจากดาวเทียม GOES-9 IR1




ภาพแผนที่แสดงศักยภาพการเกิดน้ำท่วมโดย NASA (24 ชั่วโมง)


B5 - War Room Falkman

 

กรมชลฯเร่งพร่องน้ำเหนือ เตือนชัยนาทถึงอยุธยาน้ำสูง

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน เตรียมพร้อมแผนรับมือน้ำเหนือ ที่มีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้น โดยใช้เขื่อนเจ้าพระยาในการบริหารจัดการน้ำ เร่งระบายน้ำให้ไหลลงสู่ทะเลโดยเร็ว พร้อมแจ้งเตือนจังหวัดต่างๆในลุ่มน้ำเจ้าพระยาแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาว่าในช่วงวันที่ 13 - 17 กันยายนนี้ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น จะทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง ซึ่งจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำจำนวนมากไหลลงสู่แม่น้ำสาขาต่างๆ ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมรับมือล่วงหน้ากับสถานการณ์น้ำเหนือที่มีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้น ทั้งที่มาจากแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน และแม่น้ำเจ้าพระยา กรมชลประทาน ได้วางแผนในการบริหารจัดการน้ำ โดยใช้เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารจัดการน้ำเหนือ ด้วยการพร่องน้ำทางตอนบนให้ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราประมาณ 1,800 - 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตั้งแต่วันนี้(13 ก.ย.)เป็นต้นไป เพื่อผลักดันน้ำที่มีอยู่ในปัจจุบันให้ไหลลงสู่ทะเลอ่าวไทยโดยเร็ว ลักษณะดังกล่าวนี้ จะทำให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาตั้งแต่จังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง และ พระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำสูงขึ้นในระยะต่อจากนี้ไป ประมาณ 25 - 50 เซนติเมตร
ในการนี้ กรมชลประทาน ได้ทำหนังสือแจ้งเตือนจังหวัดต่างๆในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี และพระนครศรีอยุธยา เพื่อให้แจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด รวมทั้ง ให้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้น โดยการขนย้ายสิ่งของไว้บนที่สูง และป้องกันพื้นที่ไว้ล่วงหน้าแล้ว หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะๆ ต่อไป

 

น้ำยมสุโขทัยยังผุดตามท่อระบายน้ำ

วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ.2555 13:52น.



แม่น้ำยมสุโขทัย ยังผุดตามท่อระบายน้ำ เจ้าหน้าที่ เร่งอุดรอยรั่ว กลางกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ขณะที่ ผู้ค้า เริ่มเข้าทำความสะอาดร้านค้า

ถึงแม้ว่า เจ้าหน้าที่และทหาร จากจังหวัดทหารบกพิษณุโลก พร้อมด้วยเครื่องจักรกลหนัก จะสามารถปิดโพรงน้ำที่ทะลักออกมาจนเป็นเหตุให้น้ำท่วมตลาดสดเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี เป็นวงกว้างได้แล้ว และสามารถลดดันน้ำที่เคยพุ่งแรงให้เบาลงได้ อย่างไรก็ตาม ระดับน้ำที่ทางเจ้าหน้าที่สะกัดไว้นั้น ได้ไหลตามท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ ทำให้มีน้ำผุดตามท่อระบายน้ำ ห่างออกไปอีก 50 เมตร จำนวนหลายจุด ทางเจ้าหน้าที่ป้องกันของเทศบาล ต้องเร่งนำกระสอบทรายขนาดเล็ก ไปอุดในท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ ก่อนจะนำบิ๊กแบ็ก วางทับอีกชั้นหนึ่ง

นอกจากนี้ ในรอยต่อระหว่างบิ๊กแบ็ก จะมีช่องว่างให้น้ำผ่านได้ ทางเจ้าหน้าที่ ก็ต้องนำกระสอบทรายขนาดเล็ก มาอุดลงไปด้วยเช่นกัน โดยการทำงานในครั้งนี้ ต้องกระทำกันในกระแสน้ำที่เชี่ยวและลำบาก ขณะที่ระดับน้ำลดลง แม่ค้าที่บริเวณตลาดแม่น้ำ ริมน้ำยม ก็เริ่มเข้ามาดูข้าวของของตน ทำความสะอาด บ้างก็ตรวจดูสิ่งของ เพื่อเตรียมตัวที่จะกลับเข้ามาขายของในทันทีที่น้ำลดลง



B5 - War Room Falkman

 

พายุฝนถล่มอุตรดิตถ์ บ้านพัง 11 หลัง เสาไฟฟ้าโค่น 8 ต้น

อุตรดิตถ์- พายุฝนถล่ม ต.คอรุม อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ บ้านพังเสียหาย 11 หลัง เสาไฟฟ้าหักโค่น 8 ต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจากนายมานัส รัตนสากล ผู้ใหญ่บ้านคลองกล้วย หมู่ 8 ต.คอรุม อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ว่า เกิดเหตุบ้านพักเสียหายจากกระแสพายุพัดอย่างรุนแรง และไม่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่มาก่อน จาการสำรวจพบเสาไฟฟ้าหักโค่น 8 ต้น กระแสไฟฟ้าถูกตัดทันที ส่วนบ้านเรือนของประชาชนก็ถูกลมพัดหลังคาและฝาบ้านเปิดเสียหายรวม 11 หลัง รายงานให้ทางอำเภอพิชัยเพื่อให้คามช่วยเหลือชาวบ้าน
นายมานัส กล่าวว่า เมื่อเวลา 02.23 น.วันที่ 13 กันยายน เกิดพายุฝนกระหน่ำ และลมพัดแรงในพื้นที่บ้านคลองกล้วย หมู่ 8 ต.คอรุม อ.พิชัย ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่ม และนาข้าวราว 100 ไร่ กระแสลมที่พัดแรงมากทำให้ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ริมถนนหักโค่นจำนวนมาก นอกจากนี้ต้นไม้ยังทับสายและเสาไฟฟ้าหักโค่น 8 ต้น กระแสไฟฟ้าถูกตัดทันที ส่วนบ้านเรือนของประชาชนก็ถูกลมพัดหลังคาและฝาบ้านเปิดเสียหายรวม 11 หลัง กระทั่งรุ่งเช้าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สาขาพิชัย ได้เร่งเข้าไปแก้ไขเพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับประชาชน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลคอรุม ก็ออกสำรวจความเสียหาย เพื่อรายงานอำเภอพิชัยให้การช่วยเหลือต่อไป
โดยเกิดพายุฝนตกหนักและกระแสลมที่แรงมากตั้งแต่ 02.00 น.วันที่ 13 กันยายนเป็นต้นมา ชาวบ้านไม่ทันระวังตัวเพราะเหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รุนแรงสุดก็เพียงฝนตกหนักแต่กระแสลมที่แรงมากขนาดนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ชาวบ้านจึงไม่ทันระวังและไม่คิดว่าจะรุนแรงถึงขั้นต้นไม้หักโค่น กระแสไฟฟ้าดับ และบ้านเรือนพังเสียหายเช่นนี้ อย่างไรก็ตามได้สำรวจความเสียหายแจ้งอำเภอพิชัยทราบแล้ว