คุยกันฉันท์เพื่อน - ( ๔๑) ^_^

จากนั้น เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลหัวหินมาให้ความรู้ในเรื่องการปฐมพยาบาลและการดูแลผู้ป่วย ซึ่งในเรื่องของการปฐมพยาบาล โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากว่าในช่วงที่พบผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บ หรือแม้แต่ว่าเราเองเป็นผู้ป่วย/ได้รับบาดเจ็บ หากเรามีสติและรู้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ ก็จะสามารถช่วยเหลือตัวเราเองและนำผู้ป่วยส่งถึงมือแพทย์ได้อย่างปลอดภัยค่ะ


ในภาพ หากตัวเราหรือพบผู้ป่วยที่แขนหัก แต่ไม่มีอุปกรณ์ปฐมพยาบาล เราสามารถประยุกต์สิ่งที่เรามี ในภาพคือเข็มขัด นำมารัดที่แขนข้างที่หัก เพื่อช่วยพยุงและลดแรงเสียด ลดอาการเจ็บปวดให้ผู้ป่วยได้ในระดับหนึ่ง


ส่วนภาพนี้ ถ้าไม่มีเข็มขัด เสื้อผ้าที่เราใส่ก็ยังประยุกต์ได้


การใช้เสื้อยืดมัด..เพื่อไม่ให้แขนผู้ป่วยขยับ

 

จากงานสัมมนา .. ได้ไปที่ชุมพรคาบาน่า ด้วยเหตุคือขอไปพบเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานาน และขอไปเรียนรู้กสิกรรมธรรมชาติที่คาบาน่าทำอยู่ในปัจจุบัน "เศรษฐกิจพอเพียง"

ขออนุญาตเก็บภาพที่ประทับใจมาฝากกันค่ะ




ยิ่งทำยิ่งได้ ยิ่งให้ยิ่งมี

 

เคยอ่านเจอว่า อีกหน่อยคนจะต้องสอยมะเขือกิน.. พอได้ยินแล้วคิดว่าเราคงจะไม่ได้อยู่ในยุคนั้น แต่พอไปที่คาบาน่า.. ต้องเปลียนความคิดใหม่เพราะต้นมะเขือที่นี่...สูง..จนต้องสอยมะเขือกินค่ะ





บ้านคนมีน้ำยา..ต้องแวะเข้ามาชมการทำน้ำยาต่างๆ จากน้ำหมักชีวภาพ ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาล้างจาน, สบู่อาบน้ำ, แชมพู ที่ใช้ภายในโรงแรม รวมไปถึงขายในแบรนด์ "อุ้มชู"



เก็บภาพบ่อน้ำนี้มาให้ หากสังเกตดูดีๆ จะพบว่าบ่อน้ำนี้ไม่ได้ลึกมาก แต่มีความสมบูรณ์ทีทั้งพืชน้ำ และปลา ทางเจ้าหน้าที่ของชุมพรคาบาน่าเล่าให้ฟังว่า บ่อน้ำนี้เป็นบ่อพักน้ำ ที่นำน้ำจากการใช้งานทั้งโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นน้ำที่ลูกค้าอาบ หรือการชำระล้างต่างๆ ต่อลงท่อมารวมไว้ที่คลองที่ทางโรงแรมขุดไว้ (ใหญ่และยาวพอควรค่ะ)

เป็นการพักและบำบัดน้ำระยะที่ ๑ ต่อมาก็จะสูบน้ำมาพักตามบ่อเล็กๆ มีอยู่ทั่วไป พืชน้ำและสัตว์น้ำจะเป็นตัวชี้วัดคุณภาพของน้ำ ถามไปเหมือนกันค่ะว่า แบบนี้ปลาหรือสัตว์น้ำจะตายก่อนหรือไม่คะ เจ้าหน้าที่ตอบว่า พืชน้ำจะเฉาก่อน แต่ทางโรงแรมจะมีการสำรวจบ่อยครั้ง



โครงสร้างของตัวโรงแรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อลดความเสี่ยงของภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้น อาทิ ความแรงของพายุที่พัดมาจากทะเล ด้วยโครงสร้างของโรงแรมเป็นอาคารที่สูงเพียง ๓ ชั้น ไม่มีลิฟท์ ไม่มีบันไดเลื่อน

ตัวอาคารที่สร้างเป็นระดับช่วยลดแรงปะทะของลมพายุได้และทำให้ห้องพักทุกห้องได้เห็นทัศนียภาพได้ทั่ว

ที่สำคัญโครงสร้างอาคารยังสามารถรองรับการไหวตัวของแผ่นดินไหวได้ถึง ๗.๘ ริคเตอร์ ไม่น่าเชื่อนะคะ ว่ามีผู้บริหารที่คิดการณ์ไกลแบบนี้ ทางคุณวริสรบอกว่าผมก็ไม่ได้คิดเผื่อไว้มากกว่านี้ครับ ทำเท่าที่จะมีปัญญาทำได้ และมีเงินพอเท่านี้

 

แผ่นดินไหวฟิลิปปินส์ 7.9
ผู้รู้ทั้งหลาย ขอคำแนะนำครับ
ทุกมิติครับ <!-- google_ad_section_end -->
__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->โมฆะแมน
มาคนเดียว ไปคนเดียว<!-- google_ad_section_end -->

 

แวะมาเอาภาพงานหล่อ สมเด็จองค์ปฐมและพระราชพรหมยาน ด้วยทองคำหน้าตัก ๙ นิ้ว
ณ วัดป่าเลไลยก์ จังหวัดกาญจนบุรี ในวันเสาร์ที่ ๑ กันยายน ที่ผ่านมา

ครั้งนี้ผมได้ร่วมบุญอื่นๆ หล่อพระหลายรายการ บุญกฐิน วิหารทานและบุญถวายข้าวสารแก่สำนักสงฆ์เจโตวิมุตติ
มาให้ทุกๆ ท่านอนุโมทนาครับ










ภาพพ่อแม่ครูอาจารย์ทั้งสายหลวงพ่อพระราชพรหมยานและหลวงปู่มั่น










หลวงพ่อแก่น วัดเขื่อนท่าทุ่งนาประชาสรรค์ ท่านเมตตามากๆ ครับ





​

 

โบสถ์ที่ทำการพุทธาภิเษก ในงานหล่อสมเด็จองค์ปฐมทองคำ
ตำนานกล่าวว่า พระยากาญจนบุรีหรือขุนแผนได้เสียชีวิตที่โบสถแห่งนี้ (ฟังเขาเล่ามาอีกที)




ข่าวงานบุญสักเล็กน้อย
ระหว่างพิธีงานหล่อพระผมได้มุดๆ ลอดๆ เข้าหาครูบาอาจารย์ ได้สนทนากับหลวงพ่อวิรัช
หลวงพ่อหนุน และพระอาจารย์ติงลี่ เป็นที่น่าเสียดายที่ผมรู้จักครูอาจารย์น้อย จำครูบาอาจารย์ก็ไม่ค่อยได้และ
ครูบาอาจารย์บางท่านผมไม่สามารถเข้าไปสนทนาได้ ต้องขออภัยครับ

๑.ทางวัดธรรมยาน ของพระปลัดวิรัช (พระเลขาฯ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน)
กำลังดำเนินการก่อสร้างพระอุโบสถ อยู่ที่ ต.นาเฉลียง อ.หนองไฝ่ จ.เพชรบูรณ์

๒.วัดประตูด่าน ของพระอธิการสมมาศ (พระอาจารย์ติงลี่)
จะทำการทอดกฐินบูรณะวัด ในวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน อยู่ที่ ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
(พระอาจารย์ท่านฝากซองมาให้ ด้วยความเลวของผม ซองเลยหายไปกับใครไม่ทราบ หวังว่าท่านนั้นคงจะ
ไปกระจายข่าวบุญต่อนะครับ)

ส่วนวัดพุทธโมกข์ หลวงพ่อหนุนนั้นผมไม่ทราบว่ากำลังก่อสร้างอะไรบ้าง
ทราบแต่ว่ามีงานก่อสร้างและจะมีงานหล่อพระ งานใหญ่เดือนพฤศจิกายน
มีโอกาสไปร่วมบุญกันนะครับ บุญวิหารทานเป็นบุญใหญ่เลยทีเดียว
ท่านใดอยากทราบเบอร์ของวัดเพื่อติดต่อทำบุญ สามารถแจ้งมาได้ครับ

 

ประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา

ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 02 กันยายน 2555
ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย ตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในช่วงวันที่ 2-6 กันยายน 2555 นี้ไว้ด้วย
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 3-6 กันยายน 2555 จะมีคลื่นกระแสลมตะวันออกเคลื่อนจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ประกาศ ณ วันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 22.30 น.
(ลงชื่อ) สมศรี ฮั่นตระกูล
(นางสาวสมศรี ฮั่นตระกูล)
อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

 

อนุโมทนาทุกบุญทุกกุศลด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ

 

สวัสดีครับ
ออกตัวก่อนว่าไม่ใช่ผู้รู้อะไร ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์หรือธรณีวิทยา หรือผู้มีญาณ ล่วงรู้เหตุการณ์
ผมก็เพียงผู้ศึกษาเล็กๆ น้อยๆ ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แทบไม่รู้อะไรเลย


แผ่นดินไหวที่ผ่านมารู้สึกว่ามี ซึนามิขนาดเล็ก มีผู้เสียชีวิตนี้ไม่แน่ใจว่ามีหนึ่งคนหรือไม่
ผมตามข่าวจาก CNN เอา
ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และพม่า ประเทศเหล่านี้อยู่เขตรอยเลื่อนของเปลือกโลก
ผมเองไม่แปลกใจที่มันเกิดบ่อยๆ และตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาเกิดบ่อยมาก
ทุกเดือนก็ว่าได้ เอาแบบว่าใกล้เราดีกว่าครับ พม่า เกิดบ่อยและถี่มากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ไม่รู้ว่าว่าทราบกันหรือเปล่า ในภัยพิบัติและการเตรียมการน่าจะมีนะครับ
เห็นเอารายงานเอามาลงตลอด



แต่ที่แน่ๆ เตรียมพร้อมทั้งกายและใจ เผื่อวันใดวันหนึ่งเกิดเข้ามาประเทศเราบ้าง
จะได้รับมือ หรือเอาตัวรอดได้จากเหตุการณ์ ช่วงนี้พม่าและอินโดนีเซีย มีการเกิดถี่และบ่อย
เตรียมตัวไว้ก็ไม่เสียหายนะครับ

 

http://110.77.141.195/~arsom/index.php?option=com_content&view=article&id=32:2012-08-27-02-43-06&catid=3:2012-08-28-02-52-36&Itemid=31การฝึกนิโรธสัญญาและ เจริญพระธารณะปริตร ความศักดิ์สิทธิ์เมื่อมีการสวดพระธารณปริตร อันเป็นบทสรรเสริญพระพุทธคุณอย่างย่อสั้น แต่สมบูรณ์ ทุกชีวิตวิญญาณ ของผู้สวดและผู้ฟัง แม้ทวยเทพต่างก็ชื่นชมเบิกบานมาก ที่ได้ยินพระคาถาอันทรงคุณเป็นเลิศนี้ หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ กล่าวว่าผู้ที่อาราธนามนต์พระปริตรบทนี้ทุกๆวัน อย่างน้อยวันละ ๑ ครั้ง พร้อมกับเร่งบริจาคทาน รักษาศีลและเจริญภาวนา จะสามารถรอดพ้นจากวิกฤติ มหาอุบัติภัยหรือภัยพิบัติโลก ที่จะบังเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้ได้ อย่างน่าอัศจรรย์ และแม้ในที่สุด จะยังสามารถบรรเทาภัยพิบัติของโลกได้ ไม่มากก็น้อย โดยหลังจากเจริญ พระปริตบทนี้แล้ว ให้ตั้งจิตน้อมแผ่เมตตา แผ่คุณความดีบุญกุศลของเรา ที่ได้ทำมาตั้งแต่อดีตชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ อุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรของตนเอง และทุกชีวิตทั่วไตรโลกธาตุ อนันตจักรวาล ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันชาติ และควรทำจิตให้นิ่งว่างเปล่าชั่วขณะ แล้วภาวนาว่า "พุทธัง อนันตัง ธัมมัง จักรวาลัง สังฆัง นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ" พระคาถาป้องกันมหันตภัย. {หัวใจพระธารณปริตร} ทิฏฐิลา ฑันทิลา ใครคิดร้ายขอให้พ่ายแพ้ไปหอก ดาบ ปืน ไฟ อย่าแผ้วพาน มันติลา โรคิลา เวทมนต์ ศักด์สิทธิ์เรืองฤทธิ์กล้า โรคา เบาคลาย หายผ่าน ขะระลา ทุพพิลา รอดพ้นโรคร้ายในจักรวาล เครื่องพันธนาการหลุดทันที เอเิตนะ สัจจะวัชเชนะ ด้วยอำนาจแห่งสัจจะวาจานี้ โสตถิเม ( เต) โหตุ สัพพะทาขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้า (ปวงท่าน) ทุกท่านทุกเมื่อเทอญ(พึงให้ทาน รักษาศิลห้าและเจริญภาวนา เพื่อความศักดิ์สิทธิ์ของพระคาถานี้ )