ไม่ควรมีการเททองหล่อพระอีกต่อไป

หมายถึงการสร้างนั้นไม่ดี แต่ถ้าห้ามกลัวคนจะคิดเป็นอกุศลใช่หรือไม่

ผมว่าถ้าไม่ดีจริง การห้ามนั้นก็เป็นประโยชน์ เหมือนอย่างกพระที่ห้ามคนนับถือผีแล้วหันมายึดพระรัตนตรัย ดังนั้นถ้าแนะนำสิ่งที่ถูกก็ย่อมไม่ต้องกลัว

ปัญหาคือ สิ่งที่คุณคิดและสิ่งที่คุณอ้างว่าเทวดาบอกนั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ต่างหากครับ

 

ผมยังมีความรู้และสติปัญญา พอเอาตัวรอดได้ในยุคต่างมานานแสนนาน ท่านควรเรียนรู้ การเรียนรู้เพื่อพ้นจากการตกเป็นทาสที่บริสุทธิ์ ไร้เดียงสา เลิกอ่อนเดียงสาซะที่เติบโตทางจิตวิญญาณกันได้แล้ว พุทธศาสนาจะยิ่งใหญ่ถ้าคนไทย สามัคคีในสิ่งที่ถูกที่ควร ศึกษาให้มากๆ จะรู้ว่า เทพหรือมาร ฝ่ายใหนมีเยอะกว่ากั น

 

- ผมคิดว่าเรื่องศาสนาอื่นจะห้ามก็ช่างเขา แต่ศาสนาเราไม่ได้ห้ามครับ (การไม่พูดไม่ได้แปลว่าห้ามนะครับ)

พอดี copy ไว้ทัน เลยได้เห็นว่าอะไรเป็นอะไร
- ถ้าเชื่อตามศาสนาพุทธจริง มนุษย์จะอายุยืนยาวได้ก็เพราะมีศีลมีธรรม ไม่ได้เกี่ยวกับนาโนเทคโนโลยีหรือไซเบอร์ตรอนอะไรนั่นหรอก และศาสนาพุทธก็ไม่มีความเชื่อเรื่องพระศิวะด้วยครับ

 

ผมมีธรรมะสั้นๆอยู่ข้อหนึ่ง เวลาท่านออกจากร่างอันเป็นเรือนกายท่าน ท่านจะนำ อิเล็คตรอน หรือโปรตรอน หรือ เม็ดทรายซักเม็ดไปด้วยได้ใหม ท่านรู้หรือไม่ว่า ดินเม็ดนึงที่ท่านเิดนเหยีบทุกวันสร้างมาจากอะไร ท่านรู้ไหมว่าท่านเิดนอยู่บนกองทุกข์ของผู้อื่น ท่านจะช่วยเขาใหม แผ่บุญ ถือศีล 5 เจริญสมาธิ ฝึกปัญญา นี่คนบ้าสอนท่านนะ ยังไม่ต้องให้พระอนหันมาสอนหรอก ลองพิจารณา มหาพิจารณาตรึกตรองดู เคยรู้ชาติก่อนชาตินี้ของตัวไหมว่าในขณะที่ท่านสุขกับการเสวยบุญมีใครตกทุกได้ยากบ้างใครค้ำท่านทั้งหลายไว้ ธรณีจึงไม่สูบ หรือที่พวกท่านเรียกว่าหลุมยุบนั่นแหละ มันกลวงมากแล้ว นะในเมืองใหญ่ ตรองดูเถิด หลุมยุบขนากกว้าง 10-20กิโลเมตรพลังอะไรค้ำชาติศาสนกษัตริย์ไว้ ถึงเวลตอบแทนคุณของแผ่นดินพ่อแผ่นดินแม่สร้างสรรค์สิ่งที่ถูกที่ควรแล้วหรือยัง

 

พระพุทธเจ้า มี เทพมี มารมี ผีมี ครุฆ ตัวเป็นก็มี ศิวะมี เทวดา มี พ่อแม่ที่ตายไป ไปอยู่ภพภูมิ ต่างๆมี ศึกษาหลายศาสนาเพื่อค้นหาสิ่งเดียว

 

ทำไมท่านถึงมีตาดำในตาขาว ท่านตาดำๆ แล้ว มนุษย์ที่มีแต่ตาดำไม่มีตาขาวเิกิดจากอะไร

 

- เรื่องศรีวิไล civilize ก็ไม่ได้เกี่ยวกับพระยูไล
แบบนี้เรียกว่า clang association ครับ เป็นอาการผิดปกติทางด้านความคิดอย่างหนึ่งนะ

- ส่วนเรื่องอื่นคงไม่ต้องชี้แจงเพิ่มก็น่าจะทราบกันได้...

 

อจินไตย คำของพระพุทธองค์ ประเสริฐที่สุดแล้ว..โมทนาสาธุการ

 

มีสิ่งหนึ่งที่อยากจะสอนชาวเว็บพลังจิตมากๆคือเรื่องบุญกริยาวัตรถุ กับเรื่อง บุญศีลวัตร
2 อย่างนี้เอื้อกัน มีสิ่งหนึ่งจึงพัฒนามาเป็นสิ่งหนึ่ง 2 อย่างนี้จะขยายความให้ฟัง
ทาน บริจาค วัตถุบูชา รวมถึง การ ขุดบ่อ ก่อศาลา เททองหล่อพระ ถวายสลากภัตร ถวายดอกไม้
เป็น บุญกริยาวัตรถุ ใช้วัตถุสละวัตถุที่มีเพื่อประโยชแก่ชนหมู่อื่น
ทีนี้มาถึง บุญศีลวัตร เป็นบุญที่เกิดจากการถือศีล ปฏิบัติธรรม เจริญภาวนา แผ่เมตตา บุญ 2อย่างนี้เกื้อกูลกัน
บุญหนึ่ง มีสวรรค์และภพภูมิเป็นแดนเกิด อีกบุญหนึ่ง เป็นพุทธบูชาเป็นที่ตั้ง เป็นบุญกริยาศีลวัตร คือการปฏิบัติบูชา
แม้ว่าเราจแบกตู้พระไตรปิฏก 100ตู้พันตู้มาศึกษา ก็ไม่ได้อานิสงค์เท่า บุญศีลวัตร หรอก เพราะศึกษามากก็ให้พะว้า
พะวงมากหากไม่แตก ฉานเรื่องปัญญา การที่เรามัวเมาบุญในลักษณะกริยาวัตถุทานนั้น ดั่ง เขาเอาไหมารองรับพร้อมโอ่ง
บุญกริยาวัตุทานนักมักใหลไปกองอยู่บยสำนักใดสำนักหนึ่งที่เขาปูรากฐานไว้ดีแล้ว ทำให้มีพุทธทำนายว่า
ภายภาคหน้าจะมีให ใหญ่เต็มจนล้นให้น้อย บ่อมีน้ำ นั่นแหละ ตามหลักธรรมดา ท่านทั้งหลายว่า ปฏิบัติธรรมถือศีลภาวนาบูชา
กับบริจาคบูชาอันใหนบุญมากกว่ากัน หากท่านบริจาคจนหมดทั้งตัวแล้วท่านจะบริจาคอะไรอีก ก็มาถึงบุญศีลวัตร
แล้วล่ะ ต้องใช้ปัญญาอย่างมากในการพิจารณาจึงจะรู้แจ้ง ว่าการแบกของหนัก กับ การวางของหนักมาเอาของเบาอันใหนสุขกว่ากัน
ดังนั้นสิ่งที่ต้องเร่งการสอนมนุษย์ในยุคนี้คือ การ เจริญความเมตตาต่อกัน ความเมตตาอย่างเดียวนี้ รวมถึงการให้อภัย การเชิดชูคนอื่น
การมีความปราถนาโดยไม่ปราถนา ให้ผู้อื่นตกทุกข์ได้ยาก ทางนี้จึงเป็นทางลัด คือเมื่อหมดภาระในบุญกริยาวัตถุแล้ว ก็มาปฏิบัติบูชา
คือศีลวัตรปัฏติบัติบูชา มาถึงช่วงนี้ก็เป็นเรื่อง ขั้นเจริญมหาสติปัญญาแล้วละ เพราะกว่าจะมาถึงวันนี้ ผู้เขียนข้อความก็บริจาคมาเยอะมาก
คือวัศดุก่อสร้าง รถเป็นคัน ถวายให้วัดให้ภิกษุสงค์มาแล้ว มาถึงจุดที่ลงทุนน้อย ที่สุด แต่ ผลามากกว่าคือ บุญศีลวัตร ถือศีล 5 ปฏิบัติบูชา
ทำนุบำรุงบิดามารดา ครู และ เพื่อน มิตร สหาย สมณ ด้วย ธรรม ที่เป็นแก่นสารที่แท้จริง เอาเท่านี้ก่อนแล้วไปคิดต่อเอาเอง

 

ด้วยเหตุที่ท่านรักษาศีล 5
ซึ่งท่านจะไม่มุสาวาทา ( ผิดศีลข้อ4 )


ทำให้เชื่อได้ว่า ท่าน บ้าจริง ตามอ้าง

แต่อาจจะบ้า ไม่เต็มร้อย คือ บ้าเป็นบางขณะจิต





เมื่อคนบ้านั่งหลับตา จึงมองเห็นหลุมยุบ ขนาด 10 -20 กิโลเมตร
และคนบ้า ไม่ต้องการให้ สร้างพระพุทธรูป

นั้นล้วนเป็นความคิด ที่มาจากคนบ้า


คนบ้า ถือเป็นผู้ป่วย ที่สมควรได้รับการดูแล รักษา


ดั้งนี้ ท่านทั้งหลายจึงไม่ควร ถือสาหาความ หรือถือโทษโกรธตำหนิ คนบ้า
ควรแต่จะให้ความเมตา และให้อภัยในสิ่งที่เขากระทำ




อย่าโกรธ คนโง่ อย่าโมโหคนบ้า ....หาประโยชน์อะไรไมได้เลย

 

เห็นอ้าง ว่าบ้า .............

 

จับประเด็นทั้งทียังจับไม่โดน สุดยอดมนุษย์ผู้ฉลาดล้ำในโลกมีเพียงนี้หรือ

 

ผมมีธรรมะสั้นๆอยู่ข้อหนึ่ง เวลาท่านออกจากร่างอันเป็นเรือนกายท่าน ท่านจะนำ อิเล็คตรอน หรือโปรตรอน หรือ เม็ดทรายซักเม็ดไปด้วยได้ใหม ท่านรู้หรือไม่ว่า ดินเม็ดนึงที่ท่านเิดนเหยีบทุกวันสร้างมาจากอะไร ท่านรู้ไหมว่าท่านเิดนอยู่บนกองทุกข์ของผู้อื่น ท่านจะช่วยเขาใหม แผ่บุญ ถือศีล 5 เจริญสมาธิ ฝึกปัญญา นี่คนบ้าสอนท่านนะ ยังไม่ต้องให้พระอนหันมาสอนหรอก ลองพิจารณา มหาพิจารณาตรึกตรองดู เคยรู้ชาติก่อนชาตินี้ของตัวไหมว่าในขณะที่ท่านสุขกับการเสวยบุญมีใครตกทุกได้ยากบ้างใครค้ำท่านทั้งหลายไว้ ธรณีจึงไม่สูบ หรือที่พวกท่านเรียกว่าหลุมยุบนั่นแหละ มันกลวงมากแล้ว นะในเมืองใหญ่ ตรองดูเถิด หลุมยุบขนากกว้าง 10-20กิโลเมตรพลังอะไรค้ำชาติศาสนกษัตริย์ไว้ ถึงเวลตอบแทนคุณของแผ่นดินพ่อแผ่นดินแม่สร้างสรรค์สิ่งที่ถูกที่ควรแล้วหรือยัง
.......................................................
ไฮไล ทั้งที ไฮไลท์ให้มี เทศอันเป็นประโยชน์

 

เชื่อมั่นตนเองมากกว่าจะยอมรับสิ่งใหม่ ลองดูสิ แล้วค่อยว่าไม่ดี สร้างพระหล่อพระผมทำมาแล้ว จนถึงปัจจุบันนี้แหละ ตอนนี้สร้างพระที่ใจ

 

มีสิ่งหนึ่งที่อยากจะสอนชาวเว็บพลังจิตมากๆคือเรื่องบุญกริยาวัตรถุ กับเรื่อง บุญศีลวัตร
2 อย่างนี้เอื้อกัน มีสิ่งหนึ่งจึงพัฒนามาเป็นสิ่งหนึ่ง 2 อย่างนี้จะขยายความให้ฟัง
ทาน บริจาค วัตถุบูชา รวมถึง การ ขุดบ่อ ก่อศาลา เททองหล่อพระ ถวายสลากภัตร ถวายดอกไม้
เป็น บุญกริยาวัตรถุ ใช้วัตถุสละวัตถุที่มีเพื่อประโยชแก่ชนหมู่อื่น
ทีนี้มาถึง บุญศีลวัตร เป็นบุญที่เกิดจากการถือศีล ปฏิบัติธรรม เจริญภาวนา แผ่เมตตา บุญ 2อย่างนี้เกื้อกูลกัน
บุญหนึ่ง มีสวรรค์และภพภูมิเป็นแดนเกิด อีกบุญหนึ่ง เป็นพุทธบูชาเป็นที่ตั้ง เป็นบุญกริยาศีลวัตร คือการปฏิบัติบูชา
แม้ว่าเราจแบกตู้พระไตรปิฏก 100ตู้พันตู้มาศึกษา ก็ไม่ได้อานิสงค์เท่า บุญศีลวัตร หรอก เพราะศึกษามากก็ให้พะว้า
พะวงมากหากไม่แตก ฉานเรื่องปัญญา การที่เรามัวเมาบุญในลักษณะกริยาวัตถุทานนั้น ดั่ง เขาเอาไหมารองรับพร้อมโอ่ง
บุญกริยาวัตุทานนักมักใหลไปกองอยู่บยสำนักใดสำนักหนึ่งที่เขาปูรากฐานไว้ดีแล้ว ทำให้มีพุทธทำนายว่า
ภายภาคหน้าจะมีให ใหญ่เต็มจนล้นให้น้อย บ่อมีน้ำ นั่นแหละ ตามหลักธรรมดา ท่านทั้งหลายว่า ปฏิบัติธรรมถือศีลภาวนาบูชา
กับบริจาคบูชาอันใหนบุญมากกว่ากัน หากท่านบริจาคจนหมดทั้งตัวแล้วท่านจะบริจาคอะไรอีก ก็มาถึงบุญศีลวัตร
แล้วล่ะ ต้องใช้ปัญญาอย่างมากในการพิจารณาจึงจะรู้แจ้ง ว่าการแบกของหนัก กับ การวางของหนักมาเอาของเบาอันใหนสุขกว่ากัน
ดังนั้นสิ่งที่ต้องเร่งการสอนมนุษย์ในยุคนี้คือ การ เจริญความเมตตาต่อกัน ความเมตตาอย่างเดียวนี้ รวมถึงการให้อภัย การเชิดชูคนอื่น
การมีความปราถนาโดยไม่ปราถนา ให้ผู้อื่นตกทุกข์ได้ยาก ทางนี้จึงเป็นทางลัด คือเมื่อหมดภาระในบุญกริยาวัตถุแล้ว ก็มาปฏิบัติบูชา
คือศีลวัตรปัฏติบัติบูชา มาถึงช่วงนี้ก็เป็นเรื่อง ขั้นเจริญมหาสติปัญญาแล้วละ เพราะกว่าจะมาถึงวันนี้ ผู้เขียนข้อความก็บริจาคมาเยอะมาก
คือวัศดุก่อสร้าง รถเป็นคัน ถวายให้วัดให้ภิกษุสงค์มาแล้ว มาถึงจุดที่ลงทุนน้อย ที่สุด แต่ ผลามากกว่าคือ บุญศีลวัตร ถือศีล 5 ปฏิบัติบูชา
ทำนุบำรุงบิดามารดา ครู และ เพื่อน มิตร สหาย สมณ ด้วย ธรรม ที่เป็นแก่นสารที่แท้จริง เอาเท่านี้ก่อนแล้วไปคิดต่อเอาเอง

 

ที่ post มานี่ อยู่ในสภาวะ ปรกติ ใช่ใหม่ เพราะ ไม่เห็นอ้างว่าบ้า


ท่านยังเอง ไม่เคารพตัวเองเลย แล้วท่านจะไปสอนใครเขาล่ะเนี่ย ใครเขาจะไปเชื่อล่ะเนี่ย ก็เพราะที่ท่านอ้างตัวว่า บ้า น่ะ


login name ' bade ' นี่ สงสัยไปไม่รอดแล้ว

ท่านเปลี่ยน login name ใหม่ แล้วเข้ามาแบบ คนปรกติ จะดีกว่าใหม่
แล้วอย่าดูหมิ่นตัวเองอีก.......... ไม่ดีหรอกท่าน

 

สัวสดีครับ ก็อย่างที่ยกตัวอย่างครับ เช่นคำว่าดาบสองคม และคำว่าขี่ตู้พระธรรมท่องwebsite โปรดสัตว์ (คำเปรียบเปรยแบบปัจจุบันทันสมัย) ถ้าท่านbadeหรือท่านใด ที่เข้าใก้ล หรือเข้าถึงแก่นแท้ของพระธรรม สดับรับฟังความคิดเห็นต้องไม่มีจิตถือโกรธขุ่นเคืองกันนะครับ (ผ่านมา 10 หน้า) ถึงตอนนี้ท่านคงเข้าใจน่ะว่าการที่เรามีข้อมูลเชิงลึกด้านพระธรรมะ-คำภีรย์ก็ไม่ได้หมายความว่าเราท่านจะแสดงธรรมกันได้ทุกท่านไป ต้องมีสติปัญญาและวิธีเผยแผ่พระธรรมด้วย
ตัวอย่าง...เช่น... พระที่ปลุกเศกพระเครื่องนี่ท่านก็กล่าวคำว่า บาป-อาบัติ-และยึดติด คำนี้มันก็ไปรวบโดนเข้ากับพระที่มีคนรพหลายท่าน เช่นสมเด็จโต หลวงพ่อปาน หลวงปู่บุญ เสด็จพ่อกรมหลวงชุมพร หลวงพ่อเปิ่น หลวงพ่อคูณ หลวงพ่อจรัญ หลวงปู่โต๊ะ และอีกเป็นร้อยรูป ผมก็เลยต้องมีคำถามเพื่อถามกลับนะครับ ว่าหลวงพ่อทั้งหลายที่กล่าวมานั้น
ท่านสร้างพระขึ้นมา ทำไมไม่กลัวคนยึดติด แล้วไม่ผิดเพี้ยนไปจากพระธรรมในพระไตรปิฏกฉบับที่ท่านยึดถือเหรอครับ หรือว่าพระไตรปิฏกที่ท่านbadeนำมาสอนนี่แปลกันคนละแบบ ทำไมหลวงพ่อทั้งหลายที่ผมกล่าวข้างมาต้น รู้ว่าอาบัติสร้างนอกเหนือจากคำสอนของพระพุทธเจ้าก็ยังสร้าง เยอะด้วย ที่ผมยกเหตุท่านสมเด็จฯโต เพราะว่าเหตุของความชัดเจนโดยเฉพาะในเรื่องของกาลเวลาครับมองเห็นได้ถนัดเพราะสมเด็จฯโตท่านเกิดมากว่า 100 ปี ผมเลือกที่จะเชื่อว่าหลวงปู่ หลวงพ่อที่กล่าวมาข้างต้นนะเข้าถึงพระไตรปิฏก ส่วนที่ท่านมีอยู่และศึกษาอยู่อันนี้ผมยังไม่มั่นใจ ท่านลองกลับไปอ่านกระทู้เก่าที่ท่านตอบกับหลายท่านดู มันมีโยง มียึด มีตัดพ้อ มีทั้งใช่และไม่ใช่ในเวลาเดียวกัน และอีกประการที่สำคัญที่สุดที่เราท่านทั้งหลายอาจมองข้าม ก็คือสมเด็จโตท่านแตกฉานในภาษาบาลี และภาษาขอม ส่วนฉบับอื่นใครแปลผมไม่ทราบ ผมจึงยึดอย่างที่สมเด็จและหลวงพ่อทั้งหลายเพื่อกันเอาก่อน ยังมิอาจยึดตามแบบที่ท่านศึกษา (กราบขออภัย) นี่แหละสิ่งที่เราคุยกัน แรกเปลี่ยนกัน มิได้คิดเป็นอื่นไกล ขอบคุณอีกครั้งที่ได้ปรึกษาธรรม
ปล. (ไม่รู้ว่าใครเริ่มคำนี้) สมเด็จสมเด็จฯโต ท่านศึกษาจากใบลานเพราะท่านอ่านภาษาเดิมได้ (แตกฉาน) มิได้ศึกษาจากฉบับแปล แบบที่ท่านศึกษาและยึดถืออยู่ ดูความน่าเชื่อถือผมเลยต้องเลือกแบบสมเด็จฯโตท่านนะครับ มันป็นเหตุผลในใจครับ....
ตอบกลับด้วยครับ....

 

ถือว่าเมตตาสงสารละกัน คนเรามันปัญญาไม่เท่ากัน มันจะเข้าใจ มันจะบรรลุธรรมได้ไม่เหมือนกัน

พระท่านจึงบอกว่าบัวมีสี่เหล่า ครั้นจะให้ผู้ที่มีกิเลสหนาไปปฏิบัติตัดสังโยชน์เลย มันก็คงยาก ก็ค่อยๆขัดเกลากันไป บางคนเขาไม่พร้อม ไม่เชื่อลองไปบอกแม่ค้าขายปลาให้เขาเลิกฆ่าปลาสิ เผลอๆ เอ็งจะโดนปังตอไล่ฟัดเเข้าให้ ปัญญาเขายังไม่พร้อม เขาต้องเก็บต้องสะสมอีกเยอะ ให้เขาได้กราบได้ไหว้ เพื่อพอที่จิตจะได้เก็บสะสมสิ่งดีเอาไว้บ้างก็ยังดี

 

พระพุทธรูปเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า เป็นเครื่องระลึกถึงความดี งานมงคลงานกุศล นั้นมักแจกพระ ให้ระลึกได้ว่านี้เราทำความดีแก่พระศาสนามากเท่านี้ๆจึงได้มา เกิดบุญที่ใจ นี้แค่เปลือกก็โน้มใจให้ละเอียดอิ่มเอมได้แล้ว... คนส่วนมากหากไม่เห็นไม่มีเครื่องเตือนใจ ก็ไม่นึกถึงกัน อันนี้เป็นธรรมชาติ ถูกมั้ย... ถ้าใจไม่มา ใจไม่ชอบ แล้วจะเริ่มสวดมนต์ไหว้พระศึกษาธรรม ได้ยังไง

 

ครับถือว่าเมตตาสงสารเช่นกันครับยึดถือพระธรรมแบบเขาแปลมาก็ดีครับ แต่ผมเพียงไม่เข้าใจว่าหลวงพ่อปาน สมเด็จฯโต ท่านสร้างพระ แล้วไม่กลัวคนยึดติดหรือ กลัวอาบัติหรือครับ (เห็นบอกว่าบาป ยึดติด อาบัติ) เพราะท่านล้วนศึกษาพระไตรปิฏกด้วยมิใช่หรือครับ ผมจึงขอเลือกแบบที่หลวงพ่อปาน และสมเด็จฯโต และหลวงพ่อที่กล่าวมาข้างต้นเป็นแบบอย่างก่อนครับ ส่วนแบบที่ท่านได้เรียนมาศึกษามาและนำมาบอกเล่าผมขอน้อมรับไว้ก่อน (ขอขอบคุณ)
แล้วในของส่วนพระสงฆ์ที่สร้างพระแบบพุทธพาณิชย์ผมไม่เคยสนเรื่องของเขา หลวงพ่อปานเคยบอกว่าแค่คิดจะสร้างพระหลอกชาวบ้าน แค่คิดนะ ยังไม่ต้องลงมือสร้างก็ขาดความเป็นสงฆ์แล้วไม่เห็นต้องหยิบยกขึ้นเทียบกับพระสงฆ์เลยไม่ต้องไปติดว่าเขาเป็นสงฆ์ วางเขาลงเลย นี่แหละธรรมหลวงพ่อปานง่ายดี แต่ธรรมะที่ท่านมี ท่านไม่วางกลัวคนโดนหลอก กลัวโน่น กลัวนี่ ต้องอธิบายกันเยอะแยะหลายหน้าก็ยังเข้าใจยากต้องยกพระไตรปิฏก เล่มนั้น หน้าที่เท่านี้ ผมก็เคยเห็นสมมุติสงฆ์ที่หลอกคนสุดท้ายก็อยู่ไม่ได้ อย่างท่านยันตระไง มาในรูปพระนักวิปัสนา พระป่า หลอกเงินญาตโยมไปเยอะทุกวันนี้ก็อยู่ไม่ได้ สมมุติสงฆ์พวกนี้โดนจับเข้าคุกมานักต่อนัก ว่าที่เณรแอร์ไง....วันนี้สวัสดี