เมื่อข้าพเจ้าป่วยเป็นโรคจิตเภท(คนบ้า)

ได้อ่านเรื่องราวของคุณ ก็อยากบอกว่ามีคนเป็นโรคนี้กันเยอะมาก รวมทั้งตัวฉันเองด้วย มีอาการหูแว่ว ได้ยินเสียงคุยต่าง ๆ ไปพบจิตแพทย์และก็กินยามาเกือบ 10 ปี แต่ตอนนี้ฉันเลิกยาทั้งหมดแล้วคะ เพราะเพิ่มพลังจิตให้กับตัวเอง โดยการนั่งสมาธิ ฉันได้ไปเข้าเรียนหลักสูตรครูสมาธิ เป็นเวลา 6 เดือน ได้ปฏิบัติสมาธิทุกวัน วันละครึ่งชั่วโมง เมื่อมั่นใจว่าตัวเองหายดีแล้ว จึงตัดสินใจหยุดยา เพราะการทานยานี้ จะทำให้ง่วงนอนมาก ถ้านอนไม่พอจะรู้สึกเบลอ ไม่สามารถทำงานได้ ถ้าได้ยาแรงไปก็จะมีอาการสั่น บางครั้งยาจะไปบีบหัวใจ ทำให้เจ็บหัวใจ อาการข้างเคียงเยอะมาก ปัจจุบันนี้เลิกยามาได้ 6 ปีกว่าแล้วคะ ไม่มีอาการกำเริบอีกเลย ฉันยังคงนั่งสมาธิบ้างตามโอกาส ลองพยายามนั่งสมาธิดูนะคะ นอกจากจะหายจากโรคแล้วยังเพิ่มพลังจิตให้กับตัวเองอีกด้วย

 

ขอให้คุณหายเป็นปกติไวๆนะค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ แล้วโรคซึมเศร้านี่ อาการเป็นอย่างไรค่ะ

 

โรคซึมเศร้า (Major depressive disorder)
โดย : ผศ.นพ.สเปญ อุ่นอนงค์

โรคซึมเศร้า เป็นโรคทางจิตเวชที่พบได้บ่อยที่สุด คนที่เป็นโรคซึมเศร้าไม่ได้เป็นบ้าและไม่ได้เป็นคนไม่ดี แต่เป็นคนที่มีอาการป่วยทางอารมณ์อย่างหนึ่งซึ่งต้องการการรักษา

ภาวะซึมเศร้า (depressive episode)

เมื่อ ผู้ที่ป่วยอยู่ใน ภาวะซึมเศร้า ผู้ป่วยจะมีอารมณ์เศร้า หดหู่ ไม่แจ่มใส ไม่อยากสนใจสิ่งต่างๆ แม้กระทั่งสิ่งที่ตนเคยชื่นชอบ เวลามีอะไรดีๆ เกิดขึ้นก็ไม่รู้สึกเป็นสุข กินอะไรก็ไม่อร่อยแม้แต่ของที่เคยชอบ เบื่ออาหาร กินได้น้อยลง ผ่ายผอมลง หมดเรี่ยวหมดแรง คิดแต่เรื่องร้ายๆ บางคนรู้สึกเบื่อชีวิตมากจนคิดอยากตาย บางคนพยายามฆ่าตัวตาย ในคนที่มีอาการซึมเศร้ามากๆ บางรายอาจมีหูแว่วได้ยินเสียงคนที่ตายไปแล้วมาชวนไปอยู่ด้วย บางรายเกิดความหลงเชื่อผิดคิดว่าตนเองตายไปแล้ว หรือคิดว่าตนเองทำบาปทำกรรมไว้มากต้องฆ่าตัวตายชดใช้กรรม ผู้ป่วยบางรายมีอาการทางร่างกายเด่นกว่าอาการทางอารมณ์ เช่น ปวดหัว ปวดท้อง คลื่นไส้ อ่อนเพลีย วิงเวียน ใจสั่น หายใจไม่เต็มอิ่ม ผู้ที่กำลังอยู่ในภาวะซึมเศร้า จะมีอาการต่างๆ เกือบตลอดเวลาแทบทุกวันและเป็นอยู่เป็นสัปดาห์ๆ ไม่ใช่เพียงชั่วครู่ชั่วยาม

โรคซึมเศร้า (Major depressive disorder)

โรค ซึมเศร้า เป็นโรคที่ทำให้เกิดการป่วยทางอารมณ์ คือจะเกิดภาวะซึมเศร้าขึ้น อาการป่วยนี้สามารถเกิดขึ้นหลังจากมีเรื่องเครียด หรืออาจเป็นได้ทั้งๆที่ไม่มีเรื่องเครียด บางรายอาจมีเรื่องเครียดเพียงเล็กน้อย ผู้ป่วยจะมีภาวะซึมเศร้า และเปลี่ยนไปจากเดิมชัดเจนและมีโอกาสฆ่าตัวตายได้ถ้าเป็นมากๆ อย่างไรก็ดีทั้งตัวผู้ป่วยเอง และญาติมักสังเกตุเห็นว่าผู้ป่วยมีความผิดปกติขึ้นแล้ว ในบางรายที่พอมีความรู้มักมารับการรักษาได้ค่อนข้างเร็ว

โรคซึมเศร้า สลับกับอารมณ์ดีผิดปกติ (Bipolar disorder)

มีโรคทางอารมณ์อีกชนิดหนึ่งคือ โรคไบโพล่าร์ คนที่ เป็นโรคชนิดนี้เมื่อป่วยขึ้นมาจะมีอาการได้ 2 แบบ คือ แบบซึมเศร้า และแบบตรงข้ามกับซึมเศร้า เวลาที่มีอาการแบบซึมเศร้า (depressive episode) ผู้ป่วยจะมีอาการเหมือนโรคซึมเศร้าทั่วๆ ไป แต่เมื่อมีอาการตรงข้ามกับซึมเศร้า (manic episode) ผู้ป่วยจะมีอารมณ์ดีผิดปกติ มีความสุขมาก พูดมาก หัวเราะเก่ง ใจดี ใช้เงินเปลือง มีโครงการใหญ่ๆโตๆ ผุดขึ้นมาในหัวเต็มไปหมด บางรายก้าวร้าวเที่ยวไปก้าวก่ายคนอื่น บางรายมีความต้องการทางเพศมาก บางรายมีอาการหลงเชื่อผิดด้วย เช่น คิดว่าตนเป็นซุปเปอร์แมนมาพิทักษ์ชาวโลก โรคซึมเศร้า สลับกับอารมณ์ดีผิดปกตินี้ต้องการการรักษาด้วยาที่ต่างไปจาก โรคซึม เศร้า ธรรมดาดังนั้นเมื่อพบผู้ป่วยที่มีภาวะซึมเศร้า แพทย์มักจะถามว่า เคยมีช่วงที่อารมณ์ดีผิปกติหรือไม่เพื่อช่วยแยกโรคให้ถูกต้อง

โรคซึมเศร้า เกิดจากอะไร

ใน ปัจจุบันเรายังไม่สามารถบอกสาเหตุของ โรคซึมเศร้า ได้ทั้งหมดแต่เราก็พอจะทราบว่า มีการเปลี่ยนแปลงของสารสื่อนำประสาทในสมองของผู้ที่กำลังอยู่ในภาวะซึมเศร้า และเราสามารถแก้ไขความผิดปกตินี้ได้ด้วยยา และเราก็ยังทราบอีกว่า โรคซึมเศร้า สามารถถูกถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ได้ แต่ก็ยังมีสิ่งที่เราไม่ทราบอีกมาก ในอนาคตถ้าเรามีความรู้มากกว่านี้เราคงสามารถให้การรักษาได้ดีกว่าใน ปัจจุบัน

การรักษา โรคซึมเศร้า

การรักษา โรคซึมเศร้า ด้วยยา

โรค ซึมเศร้า สามารถรักษาได้ด้วยยาแก้ โรคซึมเศร้า ( antidepressant drugs) ยาแก้ โรคซึมเศร้า มีอยู่หลายชนิด มีทั้งชนิดที่ทำให้ง่วงและที่ไม่ง่วง ยาแก้ โรคซึมเศร้า จะไม่ทำให้เกิดการเสพติด และผู้ป่วยสามารถหยุดยาได้เมื่อหมดความจำเป็น ยาแก้ โรคซึมเศร้า ไม่ได้ออกฤทธิ์เพียงแค่ลดความกังวล แต่มันจะออกฤทธิ์ทำให้อารมณ์หายซึมเศร้าจริงๆ ยาแก้ โรคซึมเศร้า จะออกฤทธิ์ค่อนข้างช้า โดยต้องรับประทานยาต่อเนื่องนานอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ จึงเริ่มเห็นว่าอารมณ์แจ่มใสขึ้น และมักต้องใช้เวลา 4-6 สัปดาห์ยาจึงจะออกฤทธิ์เต็มที่ เมื่อหายแล้วผู้ป่วยจะกลับเป็นคนเดิม และแพทย์จะให้ยาต่ออีกอย่างน้อย 6 เดือน แต่ในรายที่เป็นบ่อยแพทย์อาจพิจารณาให้ยานานกว่านั้น

การรักษา โรคซึมเศร้า โดยไม่ใช้ยา

เปลี่ยนความคิดอ่าน เปลี่ยนความคิดพิชิตความเศร้า

คน ที่กำลังเศร้าจะมองโลกในแง่ร้าย และคนที่มองโลกในแง่ร้ายก็จะซึมเศร้าได้ง่าย เป็นวัฏจักรที่ทำให้ภาวะซึมเศร้าเป็นอยู่นาน ดังนั้นเมื่อเกิดอารณ์ซึมเศร้าขึ้นมา ให้ผู้ป่วยลองหยุดเศร้าสักประเดี๋ยวแล้วมองย้อนกลับไปว่าตะกี้เกิดอะไรขึ้น และเมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้นมันมีความคิดอะไรแวบขึ้นมาในสมอง แล้วลองพิจารณาว่าความคิดอันนั้นมันถูกต้องแค่ไหน ถ้าคิดได้ว่ามันไม่ค่อยสมเหตุผลเท่าไรอารมณ์จะดีขึ้นทันที อย่างน้อยก็จนกว่าจะเผลอไปคิดอะไรในแง่ร้ายอีก แต่ถ้าคิดแล้วรู้สึกว่ามันก็สมเหตุผลดีก็ค่อคิดต่อว่า แล้วจะทำอย่างไรกับเรื่องนั้นดี

เปลี่ยนพฤติกรรม

ผู้ ที่อยู่ในภาวะซึมเศร้ามักไม่อยากทำอะไร หมดเรี่ยวแรง นั่งๆนอนๆ แต่ในสมองจะคิดไปเรื่อยและมักคิดแต่เรื่องร้ายๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งลุกไม่ขึ้น ให้แก้โดยการหาอะไรทำ หาอะไรที่ได้ลงไม้ลงมือทำ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นงานที่สำคัญขอให้ได้ลงมือทำเป็นใช้ได้ เช่น จัดตู้หรือลิ้นชักที่รกๆ เอาของที่แตกที่หักมาลองซ่อมดู เช็ดรถ รดน้ำต้นไม้ แย่งงานคนใช้ทำฯลฯ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ความคิดฟุ้งซ่านจะลดลงและอารมณ์จะดีขึ้น

การรักษา โรคซึมเศร้า ด้วยไฟฟ้า (ECT, electroconvulsive therapy)

ใน รายที่เป็นมากหรือเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายมากๆ แพทย์จะให้การรักษาด้วยไฟฟ้า เครื่องจะปล่อยกระแสไฟฟ้าผ่านสมองทำให้ผู้ป่วยเกิดการชัก (convulsion) ภาวะซึมเศร้าจะหายได้อย่างรวดเร็ว (ในเวลาประมาณ 1 สัปดาห์) การรักษาด้วยไฟฟ้าในปัจจุบันมีความปลอดภัยสูงมาก แต่เนื่องจากสังคมได้รับข้อมูล ที่ผิดพลาดจากสื่อต่างๆ ทำให้การรักษาแบบนี้ไม่ค่อยเป็นที่ยอมรับกัน แพทย์จึงจะใช้การรักษาแบบนี้ในรายที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น

บทบาทของญาติ

ญาติ เป็นคนสำคัญในทีมรักษา การคอยให้กำลังใจแก่ผู้ป่วยว่าโรคซึมเศร้าเป็นโรคที่ รักษาได้ จะช่วยได้มาก เพราะผู้ป่วยมักมองโลกในแง่ร้าย และมักจะลืมประเด็นนี้อยู่เรื่อยๆ นอกจากนี้ยังต้องให้กำลังใจให้ผู้ป่วยรับประทานยาให้สม่ำเสมอ เพราะความที่ยาออกฤทธิ์ช้าทำให้ผู้ป่วยอาจเข้าใจผิดว่ายานี้ไม่ได้ผล ในรายที่เป็นมากและมีความคิดจะฆ่าตัวตาย ญาติควรเก็บสิ่งที่จะใช้ในการฆ่าตัวตายได้ เช่น เชือก มีด กรรไกร ยาฆ่าแมลง อาวุธต่างๆ ให้มิดชิดและคอยดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ในรายที่มีความมุ่งมั่นที่จะฆ่าตัวตายมากๆ ควรให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยในในโรงพยาบาลที่มีการดูแลผู้ป่วย อย่างใกล้ชิด

 

ขอบคุณคุณพุทธนำทางที่ให้คำแนะนำ หวังว่าสักวันข้าพเจ้าจะหาย และจะลองทำตามที่คุณแนะนำดูคะ

 

ผมก็ เป็นครับ เป็นโรค Panic น้่าจะใกล้เคียงกับท่าน เจ้าของกระทู้ ครับ น่าจะเิกิดจากความสะสม ตั้งแต่เด็ก เพราะครอบ ครัวผมไม่อบอุ่น อยู่กะตา ยาย บางครั้ง ท่าน ก็ ทะเลาะกันเป็น ประจำ และพอโตมา พ่อแม่ ก็ เสียตอน ปริญญาตรี ต้อง ต่อสู้กะ ชีวิต น่าดู พอเริ่มทำงาน ได้ หลงทางเดินใช้จ่ายเกินตัว ประกอบกับต้อง สงเสียน้อง 2 คน หนี้สิน เริ่ม พอกพูน จน เมื่อ 2 ปี เกิด ภาวะ เครียด แต่ก็ ไม่คิดอะไรมาก พยายาม ข่มใจ จนรถมาโดนชน ต้องซ่อมหนัก แต่ ผมไม่เป็นไร เป็นมาเป็นไข้หวัดใหญ่ ก็หาเรื่อง สนุกทำ แต่ พอเกิด อุบัติเหตุ รถ แอร์ เสียต้องขับรถติดช่วงเย็น เกิดความ เครียดสุด ๆ มือไม้สั้น มือชา ขาชา คิดว่าคงเป้น ลมคารถแล้ว ก็ พยายามประคองจอด รถ จนได้ จะหาอะไรกินใน ร้าน Family มาร์ท คิดว่าจะหาย ที่ไหนได้ อาการมา เลย หน้าซีด แขนข้างอ่อน แรง ใจเต้นแรง แน่นหน้า อก หายใจไม่ทัน ต้องไปหาที่นั่งสงบ จิตสงบ ใจ ก็ เอาไม่อยู่ หรือ ปลง ก็ เอาไม่อยู่ สุดท้าย เกิดอาการ กลัว เกือยสุดขีด ว่าเราเป็นอะไรไป จะตายเหรอ ทำให้ กลัวตายใจที่เต้นแรงก็ เต้นหนัก แน่นหน้าอกหนัก ต้องนั่ง แท็กซี่ ไปห้องฉุกเฉิน พอพักสักพักก็ เบาขึ้น หมอตรวจ ก็ ปกติ ช่วงนั้น เข้าห้องฉุกเฉินเป็นว่าเล่น เพราะ อาการ ใจเต้นแรง แน่นหน้า อก หายใจไม่ทัน
จนมาหา ข้อมูลในเน็ต ก็ เข้าข่าย โรค แพนิค ก็ รักษา มาเรื่อย ตอนเป็นหนัก ๆ นอน ไม่ได้ เลย หัวมันคิด ตลอด นั่งเซืองซึม มาเปลี่ยนโรค พยาบาลได้ ยา มารักษา ปรับสารเคมี ภายในสมอง Fulox 20 และ ZOLAM 0.25 ก็ ดีขึ้นมาก เหมือนรักษามา ถูกทาง แต่ เหมือน ฟ้า ซ้ำกรรม ซัด มารู้ข่าวว่า แฟนเก่าแต่งงาน ไป โดย ที่เค้า ยังมาหา อยู่ หลังจากที่ เลิกกันไปแล้ว ไม่กี่ เดือน อาการทรุด เล่ย ครับ เป็นอะไรที่ยาก อธิบาย นอน ไม่เคยหลับหลายต่อหลายวัน งานการก็ แทบจะทำไม่ได้ ฝืนสังขาร มาตลอด เดิน สักพัก ก็ เหนื่อย หอบ ดี ที่ได้ เพื่อน แนะนำ ในการ ปฏิบัติธรรมและชี้แนะทาง ออก ให้ แต่ ใช่ว่าจะทำ แล้วจะเห็นผล เลย ต้อง พยายาม อย่างหนักมาก ครับ ทั้ง ทาน ศีล ภาวนา ทำมา ประมาณ ปี เริ่มดี ขึ้น เลยลองลดยา เอง เหลือ ครึ่งนึง ผมลอง ปล่อย ชีวิต ตาม ปกติ ไม่ทำ สมาธิ ก็ รู้ สึกอาการจะกลับมา บ้าง ก็ เลยทำทั้ง ก่อนนอน และ ตอนเช้า รู้ สึกว่า จิต มี กำลังและรู้เท่าทัน อาการ ที่จะเกิด ตอนนี้ ดี ขึ้นมาก ครับ รู้จักระวาง ปล่อยวาง หลายสิ่ง หลาย อย่าง ได้ แต่ก่อนจะเอาจริง เอาจัง ทั้งทำงาน และเรียนไปด้วย เกรดก็ จบ ออกมา 3 กว่าๆ ตอนนั้น ทำกิจกรรมไปด้วย เพื่อนยัง บอกว่าเรา เป็น ซุปเปอร์แมน แต่ เหตุการณ์ใน ครั้งนี้ ทำให้ รู้เลยครับ ว่า เราวิ่งหา อะไร หาเงินหา ทอง มาก จน ลืมการสั่งสม บุญบารมี จน ทะนงตนว่าเก่งที่ผ่านอะไรต่อมิอะไรไปได้ แต่ พอมาจอกรรม ตอนโต แล้ว รู้สึก ชีวิต จะประมาท ไม่ได้เลย เพราะตอนเด็กวิงไปชนรถ 6 ล้อ ซี่โครงหัก ปอกช้ำ ม. 5 เพื่อนขับรถเราซ้อนแหกโค้ง ต้องใส่เฟือกคอ คิดว่าหนักแล้ว มาเจอตนโตอีก ทำให้ พอละ อย่างน้อย ต้อง ปฎิบัติ ทาน ศีล ภาวนา ตาม พระพุทธ องค์ อย่างสม่ำเสมอ ตอนนี้ ผม อายุ 32 ยังไง ก็ ขอ ให้ ท่าน เจ้าของ กระทู้หายเร็วนะครับ

 

อนุโมทนา สาธุ ในธรรมทานนี้ เป็นประโยชน์ดีแล้ว
ขอ ธรรม รักษาคุ้มครอง พ้นทุกข์ พบสุข นะครับ

 

เป็นกำลังใจให้ ขอกุศลของดิฉันให้เป็นกำลังในการดำรงสติ รู้ เท่าทัน รักษาศีล 5 ตราบเท่าฃีวิต สู้ สู้ ค่ะ

 

หมั่นทำทาน...รักษาศีล ๕...เจริญสมาธิภาวนาครับคือ..พยายามกำหนดสติอยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
ที่เป็นบุญกุศลบ่อยๆ เช่นนึกถึงบุญที่ได้เคยทำมา หรือเหตุประทับใจในเรื่องของสิ่งดีงาม
และอย่าพยายามนึกในสิ่งที่ไม่ดีงามหรือเป็นอกุศล....ปล่อยวางในสิ่งที่ล่วงพ้นมาแล้ว
เอาจิตอยู่กับปัจจุบัน อดีต อนาคต พยามยามปล่อยวางไปก่อนครับ
ดังคำพระที่ว่า " ปล่อยก็ว่าง วางก็เบา เอาก็หนัก "
หรือกำหนดรู้ลมหายใจเข้า - ลมหายใจออก พร้อมบริกรรม พุท - โธ อย่างนี้เป็นต้น
ทำเท่าที่ทำได้...ไม่เคร่งเครียด ได้เท่าไหน เอาเท่านั้น สบายๆ หรือสูดลมหายใจเข้าพร้อม
นึกน้อมเอาสิ่งที่ดีงาม เป็นบุญกุศลเข้ามาในตัว หายใจออกเอาสิ่งที่ไม่ดี ความเครียด โรคภัย
ฯลฯ อะไรที่ไม่ดีออกจากตัวเราไป....หมั่นทำทานปล่อยสัตว์ ปล่อยปลาฯ หรือถวายยารักษาโรค

แล้วอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร ที่เราได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินเขามา
หรือสวดแผ่เมตตา...สวดมนต์ก็ได้ (กรณีที่นั่งสมาธิยังไม่ค่อยได้)
ทำบ่อยๆ.............................................ก็จะพอบรรเทาไปได้บ้างครับ..ไม่มากก็น้อย
เรื่องบางอย่าง...มันเป็นกฏแห่งกรรม ต้องยอมรับมัน...หรือยอมรับความจริง
หมั่นเข้าหา...หรือพูดคุยกับผู้รู้หรือกัลยาณมิตรที่รู้ธรรม...ก็เป็นอีกวิธีทางหนึ่ง..เหมือนกัน
ขอให้หายเร็วๆ....มีสติ สัมปชัญญะมั่นคง ตามรู้ ตามจิตได้ มีกำลังใจที่จะฟันฝ่าอุปสรรค...ครับ

 

สวัสดีครับ

ผมเข้าใจและรู้สึกเห็นใจคุณมาก
ผมอยากให้คุณเข้ามาเที่ยวเล่นที่กระทู้ผมบ้าง
ลองมาเล่าให้ฟังกันที่นี่บ้าง
และผมอยากให้คุณลองมาปฎิบัติจิตเกาะพระกันดูบ้าง
ดูสิว่าจะทำให้จิตคุณดีขึ้นบ้างหรือไม่
อย่าลืมมาเยี่ยมกันบ้างนะ และผมจะรอ...(ที่กระทู้ข้างล่าง)

คำว่า "ร่างกาย" ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า "จิตของตนเอง"
แต่จิตจะดีได้ด้วยต้องสติตนเองเท่านั้น จึงต้องเจริญสติให้มาก
ผมขอเอาใจช่วยคุณอีกคนนึงนะครับ

จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ
http://palungjit.org/threads/จิตพร้อม-รับภัยพิบัติ.334019/page-192

 

เมื่อข้าพเจ้าป่วยเป็นโรคจิตเภท(คนบ้า)
คุณเจ้าของกระทู้ไม่ทราบว่าคุณได้อ่านของผม บ้างไหม ที่แรกผมนึกว่าคุณไม่เคย ปฏิบัติธรรมาเลย สุดท้ายคุณก็เคย ผมอ่านของคุณแรกๆ แต่ก็ลืมเกือบหมด จึงแวะเข้ามาเยี่ยมเยียนอีกครั้ง ขอให้คุณหายเร็วๆนะครับ ลองไปอ่านของผมให้จบสิครับ วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องใหม่เรื่องจริง ไม่ได้อิงนิยายครับ มีผู้ชายคนหนึ่ง แกปฏิบัติธรรมอยู่ เมื่อมีผู้มาฝึกให้ แกนำไปปฏิบัติ จนเห็ตผีบ้าง พระบ้าง เทวดาบ้าง เห็นวิมานบ้าง ตามอัตภาพ จนกระทั้ง อยู่มาวันหนึ่ง แกเห็น จนเป็น

ปรกติ นั่งนอน ยืนเดิน หลับตา ลืมตา ก็เห็น แกก็นึกว่า กูบ้าหรือเปล่าวะ อารมย์เริ่มเฝือ ตามจิตไม่ทัน จะขี้ จะเยี่ยว ก็เห็นตลอดเวลา บางครั้ง ได้ยินได้เห็นแบบคุณ ที่ว่ามา เขาก็เลยเลิก กว่าจะหายไปจากใจ ใช้เวลา หลายเดือน นี่แหละพระท่านได้ของดีไม่ตาม รักษาตามดูมันไม่ทัน นึกว่าตัวเองบ้า เมื่อศึกษามากเข้า ไอ้สิ่งที่ปรากฎ แก่ตน ที่เป็นมา ไม่เคยได้อีกเลย ทำยังไง ก็ไม่ได้ครับ เพราะมันเสื่อมไปแล้ว จะกลับเอามานั้น แสนยาก ของดีไม่ได้รักษาเอาไว้ ได้ ทุกวันนี้เขาผู้นั้น ยังปฏิบัติธรรมแบบธรรมดา อยู่เนืองๆ ตามหลักธรรมของพระพุทธองค์อยู่เสมอมิได้ขาด แค่นี้ก่อนครับ ยังมีอีกเยอะที่ไม่ได้เล่า พิมยาวแล้วไม่มีคนอ่าน ฮ่าฮ้าๆๆๆๆๆๆๆ<!-- google_ad_section_end -->

 

อยากจะให้อ่าน ลิ้ง ที่แปะให้
สมาธิกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์
พบเจอสิ่งดีก็เลยนำมาฝาก

อยากให้ปฎิบัติธรรมด้วย แต่ว่า คงต้องไปแบบ เป็นคอร์ส มีอาจารย์คุม (แต่คุณเองก็ต้องหาแพทย์แผนปัจจุบัน+ทานยาตามหมอสั่ง ฯลฯ)
แต่ถ้าทำได้เองที่บ้าน ก็เจริญสติปฎิฐาน 4 ช่วยได้หลายอย่าง ไม่อันตรายอะไร แพทย์เองก็ยังอธิบายไม่ได้ ว่าเพราะอะไร ทำไมขัดกับเครื่องมือแพทย์ เราก็ป่วยมานานมากๆ ด้วยโรคอื่นนะ

เป็นกำลังใจให้นะ

 

เป็นกำลังใจให้ค่ะ คุณมีสติรู้ตัว อาการน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ สู้ๆ ค่ะ

 

เป็นกำลังใจให้ค่ะ เมื่อก่อนนี้คิดว่าโรคพวกนี้ เมื่อเป็นแล้วจะไม่รู้ตัวเอง แต่นี่คุณรู้ทุกอย่าง ไม่น่าจะเป็นโรคจิตนะ เออ เราเข้าใจผิดมานาน อ่านทุกข้อความของสมาชิกที่เข้ามาให้กำลังใจ อ่านแล้วดีมาก มีความรู้เยอะมาก ดีจัง ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาโพสค่ะ

 

หลงอ่านนึกว่ามันจะเอาใจช่วยเขา ที่ไหนได้ ขายยา...ฮ่วย ช่างไม่ดูกระทู้เลยพี่น้อง

 

ขอบคุณครับ ที่ช่วยถ่ายทอดประสบการณ์ เอาใจช่วยให้หายไวๆ ในสังคมบ้านเราคงเยอะอยู่มากแต่มีทั้งรู้ตัว และไม่รู้ตัว หาที่อากาศบริสุทธิ์ นอนให้สบาย ลองถอยจิตดูนะครับ ตัวนอกนี้ไม่ใช่ตัวเรา มันจะเดินเข้าไปหาความตายทุกวัน มันเป็นอะไรก็ช่างมัน ช่างมัน เบาๆ ไปเรื่อยๆ คนเราแค่หนึ่งอิ่ม หนึ่งหลับ ก็อยู่ได้ หมดญาติ พ่อแม่ พี่น้อง ทรัพย์สิน เงินทอง หรือใครก็ตามทอดทิ้งเราไปหมดก็ ไม่ต้องร้อนใจ แค่หนึ่งอิ่ม หนึ่งหลับ แค่ห้องกว้าง สองวา ยาวสามวา ก็เพียงพอกับกายนี้ พึงระวังรักษาใจให้ผ่องใสอยู่เสมอ นึกถึงพระนิพพาน ไปเรื่อยๆ ช่างมัน ช่างมันๆๆๆ

 

ขอเป็นกำลังใจให้จขกท.หายเร็วๆคะ ขอเอาใจช่วยคะ

 

ขอให้หายไวไว เป็นกำลังใจให้ครับ

 

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาให้กำลังใจค่ะ ส่วนตัวคิดว่าโรคนี้ถ้ารักษาทันหมั่นไปพบแพทย์ ก็จะดำเนินชีวิอยู่ได้แบบคนปกติ แต่ถ้าไม่รักษาไม่ทานยา ก็อาจจะกลายเป็นคนบ้าที่ไม่มีสติ ไม่รู้ตนเอง เดินร่อนเร่อยู่ตามข้างถนน ก็เป็นได้คะ

 

จากที่ได้อ่านการเขียนเรื่องราวและตอบความเห็นของท่านจขกท ข้าพเจ้าเข้าใจว่า ท่านหายจากโรคแล้วเกือบ 100%..เพราะมี"สติ"ระลึกและสามารถลำดับสิ่งที่เกิดได้โดยละเอียดเป็นขั้นตอน ทั้งยังสามารถ วินิจฉัยได้ด้วยตนเองว่าอาการเหล่านี้มีที่มาจากอะไร ..ซึ่งคนเป็นโรคจิตโดยปรกติทำได้ไม่ง่ายนัก..

ข้าพเจ้าใคร่ขอเรียนเชิญท่านจขกท ลองให้ความสนใจในการมีพระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์เป็นที่พึ่งก่อน..เพราะจิตที่ไม่มีที่พึ่ง มักเคว้งคว้าง ตกไปกับความฟุ้งซ่าน เป็นปรกติ ..เมื่อท่านปลูกศรัทธาได้แล้ว ท่านย่อมเห็นประโยชน์ในการศึกษาพระธรรมอันเป็นเรื่องราวเกี่ยวข้องกับชีวิต ตั้งแต่เกิดจนตาย ท่านจะทราบชัดในสิ่งทั้งหลายที่ปรากฏเกิดในชีวิตท่านได้ว่า..ทั้งหลายนั้น มีที่มาที่ไปหรือเหตุผลอันใด ซึ่งไม่มีใครสามารถอธิบายได้ชัดเจนเท่า..เมื่อทราบเหตุผลแล้วย่อมสามารถจัดการแก้ไขเยียวยาได้อย่างถูกต้อง อันจะมีผลในการ"รักษา"ครอบคลุมไปแม้ในอัตภาพต่อๆไปอันจะมีมาอีกนับไม่ถ้วนนะครับ..

หากท่านจขกท นับถือศาสนาอื่นอยู่ ข้าพเจ้ากราบขออภัยเป็นอย่างยิ่งในการแสดงความเห็นนี้ครับ..

เ็ป็นกำลังใจให้ครับ ..ขอให้ท่านจขกท หายขาดโดยเร็ว กลับคืนสู่ปรกติและไม่กลับเป็นอีกตลอดไปครับ..

 

ข้าพเจ้านับถือศาสนาพุทธ เคยศัทธาในพระสงฆ์หลายรูปอย่างเช่น หลวงพ่อฤาษีลิงดำ พระป่าสายหลวงปู้มั่น หลวงปู่แหวน ก่อนหน้าที่จะป่วยหนักชอบอ่านและศึกษาคำสอนของท่านเหล่านี้ และช่วงหนึ่งตอนที่จะป่วยได้หลงไปกับเรื่องราวอิทธิปาฏิหารเรื่องลี้ลับเรื่องเล่า จากอาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ทำให้ข้าพเจ้าเชื่ออย่างสนิทใจว่ามีเจ้ากรรมนายเวรอยู่จริง และข้าพเจ้าคิดว่าตัวเองออกจะหมกมุ่นเกินไป จนช่วงที่ป่วยนั้นหลงคิดไปว่ามีเจ้ากรรมนายเวรตามมาจะเอาชีวิต ทำให้เกิดอาการหวาดระแวง อย่างหนักทั้งๆที่ความจริงแล้วมันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ข้าพเจ้าหลงคิดไปว่าตนเองระลึกชาติได้เพราะได้อ่านเรื่องราวการระลึกชาติต่างๆจากหนังสือ ซึ่งแท้ที่จริงเป็นการหลงผิดคิดไปเอง พอรักษาอาการและเริ่มได้สติ จึงรู้ว่าหลายสิ่งที่คิดและเชื่อไปนั้น มันผิดและไม่ถูกต้อง จึงปล่อยวางและไม่ได้สนใจในเรื่องเหล่านี้อีกทั้งเรื่องอิทธิปาฏิหาร การระลึกชาติ เจ้ากรรมนายเวร ข้าพเจ้าเริ่มที่จะเลือกเชื่อ เฉพาะสิ่งที่สัมผัสได้จริง มีอยู่จริง ประสพการณ์การหลงผิดทำให้ข้าพเจ้าไม่เชื่ออะไรง่ายๆอีกต่อไป และในขณะนี้ข้าพเจ้ายังคงนับถือศาสนาพุทธ และยังคงทำบุญ ข้าพเจ้าพยายามที่จะฝึกสมาธิแต่ทำได้ยากมาก โรคนี้ทำให้สมาธิของข้าพเจ้าสั้นลง ต้องทานยาปรับสมาธิ ขอบคุณท่านที่ให้คำแนะนำค่ะ