วิศวรนาซ่า "ดร ก้องภพ" เชื่อ 2012 อาจเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่

วิศวกรนาซ่าเชื่อ 2012 อาจเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่

<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/F-fQJyMyCm0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/RJzHKUzZThM" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ใครสนใจเรื่องภัยพิบัติ แนะให้ไป like เพจ ดร ก้องภพ เขาคอย update ข้อมูล ภัยที่อาจจะเกิดอยู่ตลอด https://www.facebook.com/KongpopUyen

 

ข้อมูลของอาจารย์ก็เหมือนๆกับหลายฝ่ายที่เคยบอกกล่าวกันมาแล้ว

อยู่ที่ว่าจะมีผู้คนเชื่อกันมากน้อยขนาดไหนและจะป้องกันรับมือกันอย่างไร
ส่วนตัวเชื่อว่ามนุษย์โลกก็คงเป็นไปตามหลายฝ่ายที่ทำนายมาก่อนนี้ คือ เหลือแค่ 10%
เพราะกรรมกำลังทำงานอย่างเที่ยงตรง

โลกไม่ได้แตกสลายในปี 2012-2013 แน่นอน
แต่มนุษย์ต่างหากที่จะวิบัติไปตามกรรม
หลังจากการทำลายล้างของธรรรมชาติ สิ่งดีๆจะเกิดขึ้นเหมือนฟ้าหลังฝน

 

ความแตกต่างระหว่างคำว่า อุเบกขา กับ ดูดาย กับเหตุการณ์ภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นเพื่อเตรียมรับมือสำหรับช่วยตนเองและเพื่อนร่วมโลก...

อุเบกขา=การพยายามอย่างสุดกำลังตามที่มีได้ผลอย่างไรแล้วค่อยปล่อยวาง
ดูดาย= การวางเฉยไม่รู้ร้อนรู้หนาว คิดว่าเป็นอุเบกขาแต่ในความเป็นจริงเป็นอย่างนั้นหรือ?

 

อาจจะ ไม่ได้แปลว่า แน่นอน

 

เห็นด้วยครับ กล่าวอีกนัยหนึ่ง อุเบกขามีทั้งอย่าง โลกียะ(หรือเคหสิตะอุเบกขา)เป็นความรู้สึกกลางๆไม่ทุกข์ไม่สุขของคนทั่วไป รับรู้สิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้วไม่ได้ชอบหรือชังรู้สึกเฉยๆแต่ไม่ได้ผ่านกระบวนการใช้ปัญญาหรือธรรมวิจัย

ส่วนอุเบกขาอีกอย่างเป็นแบบโลกุตตระ(หรือเนกขัมมสิตะอุเบกขา) เป็นการปล่อยวางโดยไม่มีกิเลสไปปรุงแต่งแต่มีการกระทำไปตามเหตุปัจจัยที่ควรแก่ธรรม เมื่อพิจารณาว่าอะไรเป็นเหตุอะไรเป็นผลอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ ใช้ปัญญาใคร่ครวญโดยปราสจากกิเลศ(เป็นแรงขับ)แล้วจึงลงมือกระทำโดยมีจิตที่ปล่อยวาง

 

เมื่อไรจะเริ่มล้าง น่าจะล้างได้แล้ว โลกจะได้สะอาดและสมดุลย์ ยินดียอมรับกรรมอย่างเต็มใจ

 

สำหรับคนที่มีแต่ความเศร้า หรือผิดหวังในชีวิต คงจะเป็นเรื่องดีที่ชีวิตจะได้จบๆไป ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานกับสิ่งที่เป็นอยู่

 

อะไรจะเกิด เกิดเมื่อไร เกิดที่ไหน มันขึ้นกับความเหมาะสม องค๋ประกอบที่พร้อม ตามเหตุและปัจจัย ไม่มีใครบังคับหรือจะห้ามได้ มนุษย์เป็นเพียงส่วนหนึ่งของธรรมชาติ คงหนีไม่พ้น กับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น เพราะสาเหตุทั้งหลายทั้งปวง (นอกเหนือจากธรรมชาติ) มาจากฝีมือมนุษย์เท่านั้น ไม่มีใครทำเรา แต่เราทำตัวเราเอง

ธรรมชาติคือผู้สร้าง แต่มุนษย์กลับเป็นผู้ทำลาย ภายใต้คำว่า invention, innovation, Creation, Construction, Production, Evolution ซึ่งถ้าเอาผลพวงทั้งหมดมารวมกัน มันคือ Destruction นั่นเอง

 

ปู พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ : อันคนใดใด - YouTube

 

เตรียมใจรับมหันตภัยโลกกับอาศรมไผ่มรกต.com

การฝึกนิโรธสัญญาและเจริญพระธารณะปริตร ความศักดิ์สิทธิ์เมื่อมีการสวดพระธารณปริตร อันเป็นบทสรรเสริญพระพุทธคุณอย่างย่อสั้น แต่สมบูรณ์ ทุกชีวิตวิญญาณ ของผู้สวดและผู้ฟัง แม้ทวยเทพต่างก็ชื่นชมเบิกบานมาก ที่ได้ยินพระคาถาอันทรงคุณเป็นเลิศนี้ หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ กล่าวว่าผู้ที่อาราธนามนต์พระปริตรบทนี้ทุกๆวัน อย่างน้อยวันละ ๑ ครั้ง พร้อมกับเร่งบริจาคทาน รักษาศีลและเจริญภาวนา จะสามารถรอดพ้นจากวิกฤติ มหาอุบัติภัยหรือภัยพิบัติโลก ที่จะบังเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้ได้ อย่างน่าอัศจรรย์ และแม้ในที่สุด จะยังสามารถบรรเทาภัยพิบัติของโลกได้ ไม่มากก็น้อย โดยหลังจากเจริญ พระปริตบทนี้แล้ว ให้ตั้งจิตน้อมแผ่เมตตา แผ่คุณความดีบุญกุศลของเรา ที่ได้ทำมาตั้งแต่อดีตชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ อุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรของตนเอง และทุกชีวิตทั่วไตรโลกธาตุ อนันตจักรวาล ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันชาติ และควรทำจิตให้นิ่งว่างเปล่าชั่วขณะ แล้วภาวนาว่า ่่่ "พุทธัง อนันตัง ธัมมัง จักรวาลัง สังฆัง นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ" พระคาถาป้องกันมหันตภัย {หัวใจพระธารณปริตร]} ทิฏฐิลา ฑันทิลา ใครคิดร้ายขอให้พ่ายแพ้ไปหอก ดาบ ปืน ไฟ อย่าแผ้วพาน มันติลา โรคิลา เวทมนต์ ศักด์สิทธิ์เรืองฤทธิ์กล้า โรคา เบาคลาย หายผ่าน ขะระลา ทุพพิลา รอดพ้นโรคร้ายในจักรวาล เครื่องพันธนาการหลุดทันที เอเิตนะ สัจจะวัชเชนะ ด้วยอำนาจแห่งสัจจะวาจานี้ โสตถิเม ( เต) โหตุ สัพพะทาขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้า (ปวงท่าน) ทุกท่านทุกเมื่อเทอญ(พึงให้ทาน รักษาศิลห้าและเจริญภาวนา เพื่อความศักดิ์สิทธิ์ของพระคาถานี้ ) หมายเหตุ: ได้ความอนุเคราะห์ มาจาก ลุงเล็ก ลุงหนุ่ม ไทยรัฐ วัดท่าซุง

 

ผมเรียก ."อาวุธโธโลยี" ดาบสองคม ที่เลือกใช้อยู่ ขอให้เปนด้าน+ มากกว่านั่นก้คือเพื่อสันติภาพและสันติสุข

 

ขอโมทนาและขอบคุณ ครับ