ท่านใด...มีประสบการณ์เกี่ยวกับ..."พระธาตุเสด็จ"...บ้าง

มีบูชาอยู่นิดหน่อย ของพระบรม พระปัจเจก พระโมคคัลลานะ พระสีวลี
ได้มาเท่าไหร่ มีอยู่เท่าเดิม ไม่เพิ่มไม่ลด
จึงยังไม่เห็นความอัศจรรย์อะไร นอกจากพลังพุทธคุณที่มากกว่าพระเครื่องทุกชนิด...

 

ลองดูในกระทู้นี้ครับ เป็นงานถวายพระบรมสารีริกธาตุ และแจกพระบรมสารีริกธาตุด้วย ซึ่งมีประสบการณ์ การเสด็จมาเพิ่มและพระธาตุเสด็จหายไปด้วย

เยอะหน่อยครับ

http://palungjit.org/threads/งาน-พระธาตุ-ของพวกเรา-พลังจิตพิชิตภัยพิบัติ.79786/

 

เมื่อต้นปี 2536 ขณะที่ผมบวชเป็นสามเณรน้อยอยู่นั้น ได้มีโอกาสเดินทางไปที่ วัดป่าสาละวัน นครราชสีมา โดยเดินทางไปกับพระอีกรูปหนึ่ง พอไปถึงในช่วงบ่ายๆ หลังจากได้กุฏิที่พักแล้ว จึงนำผ้าจีวรมาซัก ขณะที่กำลังซักอยู่นั้น หลวงพี่ที่มาด้วยกันก็ถามผมว่า เชื่อในเรื่องของพระธาตุไหม ผมก็ตอบท่านไปว่า เชื่อสิครับ ทำไมรึครับ ท่านก็บอกว่า ตัวท่านเองไม่เชื่อหรอก พระพุทธเจ้าท่านทรงเสด็จดับขันธ์ไปตั้งนานแล้ว จะมีพระธาตุหลงเหลือมาจนถึงทุกวันนี้ได้อย่างไร คนโบราณเขาหลอกเราให้เชื่อนะ เพื่อจะได้เป็นการสืบพระพุทธศาสนา เลยสร้างพระเจดีย์กันไว้เยอะแยะมากมายเพื่อให้คนได้กราบไหว้


พอผมฟังเสร็จก็ตกใจ จึงบอกท่านไปว่า เอางี้หลวงพี่ เย็นนี้หลังจากที่ทำวัตรเย็นเสร็จแล้ว หลวงพี่กับผมเข้าไปกราบเรียนถามเรื่องนี้กับองค์หลวงพ่อพุธด้วยกัน ดีไหมครับ ท่านก็ตอบตกลง


หลังจากที่ทำวัตรเย็นเสร็จแล้ว ประมาณ 2 ทุ่มเศษๆ ผมก็ไปยืนรอหลวงพี่ที่หน้ากุฏิขององค์หลวงพ่อพุธ ฐานิโย รอสักพักยังไม่เห็นมา ผมก็เลยเข้าไปนั่งรอด้านในกุฏิหลวงพ่อ พอเข้าไปถึงก็เห็นองค์หลวงพ่อกำลังนั่งฉันหมากอยู่อย่างอารมณ์เย็น บรรจงเจียนหมากไป บ้วนน้ำหมากไป ผมก็ก้มลงกราบท่านด้วยเบญจางคประดิษฐ์อย่างนอบน้อมที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเคยอ่านคำสอนและประวัติของท่านมาก่อน ทราบว่า องค์ท่านเป็นศิษย์ขององค์หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล เมื่อครั้งยังเป็นสามเณร และ ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาก เชี่ยวชาญในเรื่องของสมาธิภาวนามาก อธิบายได้อย่างละเอียดละออ


พอผมกราบองค์ท่านเสร็จก็นั่งรอนิ่งๆ ต่อไป รอว่า เมื่อไหร่หลวงพี่ท่านจะมาสักที สักพักไม่ถึงนาที องค์หลวงพ่อท่านก็กวักมือเรียกผม เพราะว่าตอนนั้นผมนั่งอยู่ห่างจากท่านมาก มัวแต่คอยชะเง้อมองหาหลวงพี่ พอเข้าไปใกล้ๆ ท่าน ก็กราบท่านด้วยเบญจางคประดิษฐ์อีกรอบ กราบเสร็จท่านก็ถามผมว่า อยากดูพระธาตุหรือ ผมจึงได้พนมมือเรียนตอบท่านไปว่า ครับ (แบบอึ้งๆ เพราะตัวผมเองนั้น ยังไม่ทันจะปริปากใดๆ เลย) พูดเสร็จท่านก็ลุกขึ้นทันทีแล้วเดินขึ้นไปบนห้องของท่านชั้นบนประมาณ 2 นาที ผมเห็นท่านเดินลงมาจากบันไดช้าๆ อย่างระมัดระวังมาก มือขวาถือแว่นขยายอันใหญ่ มือซ้ายประคององค์พระเจดีย์แก้วใสไม่ใหญ่มาก พอท่านนั่งเรียบร้อยแล้ว ก็เปิดฝาผอบ แล้วจับแว่นขยาย สั่งให้ผมนับองค์พระธาตุในนั้น ผมนับได้ 22 องค์ แล้วก็เรียนท่านไป ท่านบอกว่า ตอนแรกท่านได้มา 4 องค์ ตอนนี้มี 22 องค์ เป็นพระธาตุของหลวงปู่บุญมี สิริธโร ท่านจึงบอกผมต่อไปว่า ขนาดพระธาตุของพระอรหันต์ในยุคปัจจุบันยังเสด็จมาได้ แล้วทำไม พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า นั้น จะเสด็จมาบ้างไม่ได้


ท่านยังได้อธิบายเรื่องของ พระบรมสารีริกธาตุลักษณะต่างๆ ให้แก่ผมด้วย และ สั่งว่า ทุกคืนนับจากนี้ไปเป็นเวลา 10 วัน ให้ผมมาหาท่านหลัง 3 ทุ่ม ท่านจะสอนในเรื่องของสมาธิให้ ผมก็รับปากท่าน ก่อนกราบลาออกมาคืนนั้น ท่านยังเมตตามอบน้ำผึ้งมา 1 ขวด ให้แก่ผมด้วย


คืนนั้น ผมเดินกลับกุฏิไปด้วยความสุขใจ อิ่มใจเป็นอย่างมาก รุ่งเช้าเจอหลวงพี่ ก็ถามท่านว่า ท่านไปไหนมาเมื่อคืน ไม่เห็นมาตามนัด ท่านบอกว่า ท่านลืมไป มัวแต่ไปนั่งฉันน้ำปานะแล้วคุยกับพระรูปอื่น ผมเลยได้แต่รับทราบ เห็นท่านไม่ไต่ถามอะไรผม ผมก็เลยนิ่งเงียบ เฉยๆ ไปเสีย


หลังจากครบ 10 วัน 10 คืนแล้ว ผมก็ไปกราบลาองค์หลวงพ่อ แต่ตอนนั้น คนเยอะมาก แน่นกุฏิไปหมด ผมเลยเข้าไปอีกทาง ที่เคยเข้าประจำ เพราะทุกวันผมจะต้องเข้าไปล้างกระโถนให้องค์หลวงพ่อ (ชานหมากของท่าน ที่เคยเก็บไว้ ผมก็เอาไปสร้างพระหมดแล้ว) ผมเข้าไปกราบองค์ท่านที่ด้านข้างๆ อีกด้าน แล้วเรียนท่านว่า หลวงพ่อครับ ผมมาลาครับ จะไปต่อแล้วครับ หลวงพ่อหันมายิ้ม แล้วล้วงเข้าไปในย่ามของท่าน ส่งผอบเล็กๆ มาให้ผม ท่านบอกว่า นี่เป็น พระบรมสารีริกธาตุ ขอให้เณรเก็บรักษาไว้ให้ดี ขอให้ตั้งใจปฏิบัติ จะมีความเจริญก้าวหน้าต่อไป ช่วยกันจรรโลงพระศาสนานะ กล่าวเสร็จท่านก็ยกเหรียญของท่านส่งมาให้ผมอีก 1 ถุงใหญ่ แต่ผมกราบเรียนท่านไปว่า เกล้ากระผมต้องออกเดินธุดงค์อีก ไม่สามารถจะแบกถุงพระไปได้ ท่านก็ยิ้มแล้วบอกว่า ดีแล้ว ท่านจึงเปิดถุงเหรียญของท่านออกมาแจกแก่ญาติโยมในห้องนั้น ไปคนละ 1 กำมือ คนก็หลั่งไหลมารับกันไป


ผมกราบลาท่านเสร็จ ก็เดินออกมาอีกทาง ปรากฏว่า ญาติโยมทั้งหลายที่อยู่ในห้องนั้น ต่างออกมายืนรอเป็นสองแถว เปิดทางตรงกลางให้ผมเดิน แล้วแบมือขอ พระบรมธาตุ จากผมกันยาวเหยียด ผมก็แจกๆ ไป คนละองค์ สององค์ สามองค์บ้าง แล้วแต่เขาจะขอ สุดท้าย คนขับรถของหลวงพ่อก็มาขอด้วย บอกว่า ผมอยู่กับหลวงพ่อมา 5 ปีแล้ว ยังไม่เคยได้เลย ขอหน่อยหลวงพี่เณร ผมก็เลยให้เขาไป 9 องค์ เขาก็บอกว่า หลวงพี่เณรรอเดี๋ยว เขาวิ่งไปที่รถนำของมาให้ผม แล้วบอกว่า นี่เป็นพระธาตุของหลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก ผมได้มานานแล้ว ขอถวายหลวงพี่เณร ผมก็เลยรับไว้ แล้วออกเดินธุดงค์ต่อไป ส่วน พระบรมสารีริกธาตุ ที่ได้รับมานั้น ผมนำมานับดูมีประมาณเกือบ 300 องค์ได้ แล้วได้นำไปถวายครูบาอาจารย์อีกหลายวัด และ แจกคนไปมากแล้ว ตอนนี้งดแจกแล้ว จึงต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย




อานิสงส์ใดที่จะพึงบังเกิดมี จากการเล่าประสบการณ์นี้ อันจะช่วยให้ท่านที่เข้ามาอ่านได้บังเกิดความศรัทธาเพิ่มขึ้นในคุณของพระรัตนตรัย


ขออานิสงส์นั้น จงเป็นไปเพื่อ พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และ เผื่อแผ่ไปยัง ทุกๆ ท่าน ด้วยเทอญ สาธุ



(ไว้ว่างๆ ผมจะมาเล่าประสบการณ์ เรื่อง "พระธาตุเสด็จ" อีก นะครับ)

 

เคยมีประสบการณ์โดยตรงที่เกิดกับตัวเอง คือพระธาตุเสด็จเหมือนกันค่ะ ได้ทางทีมงานคุณคณานันท์ได้มอบให้ 3 ถุงๆ ละ 5 องค์ ตอนแรกได้มาก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันว่าเป็นอะไรกันแน่ๆ เพราะเคยได้ยินบ้างเกี่ยวกับพระธาตุเสด็จ แต่ไม่รู้ว่าพระธาตุมีลักษณะอย่างไง จนได้มาจากทีมงาน ก็ถุงแรกก็คิดว่าจะเก็บไว้ 1 ถุง อีกสองถุงก็คิดว่าจะนำไปถวายวัด กับเก็บไว้ที่บ้านที่กรุงเทพฯอย่างละถุง เราก็แยกส่วนที่เราจะเก็บไว้บูชาส่วนตัว อีกสองถุงก็ยังเก็บไว้ในห่อเหมือนเดิม เพราะยังหาผอบไม่ได้ พออีกไม่ถึงสองอาทิตย์ ก็ขออนุญาติเปิดดู ก็งงว่าทำไมมีพระธาตุเพิ่มมาอีก เป็น 6 องค์ ก็เลยไปเปิดถุงอีกสองถุงดู ปรากฏว่าอีกถุงนึง เพิ่มมาเป็น 8 องค์ อีกถุงนึงยังมี 5 องค์เหมือนเดิม ก็รู้สึกดีใจมาก ก็เลยหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต ว่าพระธาตุเสด็จใช่แบบนี้หรือไม่ ซึ่งก็มีหลายเว็บที่อธิบายไว้แบบนี้เหมือนกัน ตอนนี้ที่เรามี 6 องค์นั้น ส่วนตัวเองมีความรู้สึกว่าแต่ละองค์มีการอขายองค์ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จากตอนแรกเล็กๆ ตอนนี้แต่ละองค์ก็ใหญ่พอสมควร อันนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวค่ะ เพื่อนธรรมหลายคนบอกว่า ให้ถือศีล 5 ทำสมาธิเป็นประจำ ท่านจะเสด็จมาเองค่ะ

 

ไม่เคยมีประสบการณ์พระธาตุเสด็จ แต่เคยไปหาตามถ้ำที่ จ.อุทัยธานี ที่นั่นมี พระธาตุพระสีวลี ลงไปในถำลึกมาก และมืดด้วยต้องจุดเทียนทิ้งไว้ตลอดทาง กันหลงทาง

 

บอกไปแล้ว อย่าตกใจนะครับ จะเชื่อก็ได้ ไม่เชื่อก็ได้ครับ ตามถ้ำต่างๆ ที่มี หินปูนลักษณะตะปุ่มตะป่ำขนาดต่างๆ นั้น คนโบราณเรียกว่า "นมผา" ครับ เกิดจากการจับตัวกันของแร่ธาตุต่างๆ ภายในถ้ำ จนเกิดการตกผลึกครับ คนโบราณใช้ฝนกับฝาละมี (ฝาหม้อดินเผา) ผสมกับน้ำซาวข้าว ใช้แก้ไข้ และ อาการตัวร้อน ได้ครับ เพราะเป็นยาเย็น

ผมเคยกำหนดจิตถามเทวดาที่รักษาถ้ำดูแล้ว ท่านเรียกว่าเป็น หัวใจพระแม่ธรณี มีอำนาจทางยา ครับ ผมเองก็เคยได้มาเยอะครับ มีหลายขนาด แจกเขาไปหมดแล้ว เหลือแค่องค์เท่าผลมะนาว แค่องค์เดียว ผมไว้บูชาแทน องค์พระธาตุสิวลี ครับ

พระธาตุสิวลี องค์จริงๆ นั้น เหล่าเทวดาพรหมย่อมนำไปสักการบูชา ไม่ปล่อยให้อยู่ในที่ต่างๆ เลยครับ

แต่ในบางถ้ำ ก็มี พระธาตุของพระอรหันต์อยู่จริงๆ ครับ แต่มีไม่มากนัก

 

การที่พระธาตุเสด็จนั้นมี องค์ประกอบ 3 อย่างตามโบราญจารย์เล่ามา ว่า
1.ต้องมีพระธาตุอยู่แล้วบ้าง
2.ต้องมีบทสวดมนตร์ บูชาพระธาุต
3.ต้องเป็นผู้ปฏิบัต และเคารพในคุณของพระรัตนไตร
ผมเองมีช่วงนึงที่ถึงศีล และ นั่งสมาธิสวดมนตร์ทุกเย็น ช่วงนั้นมีพระธาตุเสด็จมาที่พระที่บ้่นครับ

 

แม้จะนั่งสมาธิทุกคืนก่อนนอน (ยกเว้นช่วงไม่สบาย) นานบ้าง สั้นบ้าง แล้วแต่โอกาส
สวดมนต์ก็เฉพาะวันโกนกับวันพระ แบบนี้โอกาสที่พระธาตุจะเสด็จมา ดูท่าแล้วคงจะยาก

 

ผมเคยได้พระธาตุ มาจากวัดปันเสาครับ จากนั้น ก็สวดมนต์ และนั่งสมาธิทุกวันครับ มีเสด็จมาหา หลายครั้ง ซึ่งครั้งแรก เป็นปลื้ม มีปิติมากครับ แต่ หลังๆกลับ รู้สึกเป็นปกติ แต่มีอยู๋ครั้งหนึ่งครับ ที่มีเสด็จมาที่บริเวณห้องนอน มีอยู่สามองค์ แต่มีอยู่องค์หนึ่งมีลักษณะ พิเศษแปลกๆ คล้ายๆ เพรชที่เจียรไนแล้วมีความแวววาว สวยงาม เมื่อลองค้นคว้าหรือศึกษา ตามเวปไซต์ มีลักษณะ ตรงกับพระจักษุธาตุ และก็ได้สอบถาม นักปฎิบัติธรรม ที่วัดปันเสา ได้ความว่า เป็นพระหทัยธาตุ หรือ ส่วนหัวใจของพระพุทธเจ้า แต่ส่วนตัวผม ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นส่วนใดของพระพุทธเจ้าครับ

 

อืมๆๆ พอมีครับ แต่จริงๆไม่ค่อยอยากเล่าให้ฟังเท่าไร.. ตอนแรกมีองค์กลางองค์เดียวและมีองค์สีแดงอย่างเดียวองค์เล็กๆล้อมรอบไม่กี่องค์ ผ่านไปช่วงหนึ่งประมาณ 3-4 เดือนหลังมีเหตุการณ์บางอย่างในนิมิตร เลยลองไปเปิดผอบที่ผมเป็นคนใส่กับมือและตาตัวเอง ในห้องพระ..พบว่าเสด็จมาเพิ่มอีก 2 -3 เท่ามีหลายสีมากๆและขนาดก็ใหญ่กว่าเดิม.ให้คนดูเค้าบอกว่าเป็นพระสรีระที่เสด็จมาเพิ่มให้ครบครับ..ประมาณนี้ครับ..

 

สมัยเด็ก เคยเล่นพระที่โชว์อยู่หน้าร้าน จะเจอเกล็ดใสๆ เต็มไปหมด ก็เลยถามแม่ว่าเพชรรัสเซียหรือเปล่าที่ตกอยู่ที่ถาด ตอนหลังมารู้ว่าสมัยก่อนหลวงปู่สิมท่านแวะมาที่ร้านประจำตอนรอคนขับรถเข้ามาจ่ายตลาด ซื้อของ ท่านขอถาดพระเครื่องของพ่อแล้วมาปลุกเสกให้ พ่อเล่าให้ฟังว่าหลังจากที่ท่านมาทุกครั้งแล้ววันต่อมานี่ลูกค้าแทบจะแย่งกันมาซื้อที่ร้านเต็มไปหมดเลย ทั้งๆที่ขายทอง ราคาก็สูง แต่มาแย่งกันซื้อ พ่อก็แปลกใจดี แต่ก็ยังสงสัยเกล็ดใสๆนั้นว่าคืออะไร

 

อนุโมทนาด้วยครับ..แต่ก่อนผมได้มาเยอะเลย จากพี่ชายตอนนั้นท่านบวช แล้วเอาให้ผม..แต่ผมดันไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้เลย..รักษาศีลก็ไม่คอ่ยได้..ครบบ้าง ไม่ครบบ้าง..สวดมนต์ บ้างเป็นบางครั้ง..แต่แปลกครับท่านมาอยู่กับผมน่าจะหลายเดือนเหมือนกัน เสด็จหายหมดเลย..ไม่รู้ท่านหายไปไหน ยังงงอยู่ทุกวันนี้..แต่ปัจจุบันผมเริ่มปฏิบัติใหม่ครับ.ตั้งใจรักษาศีล ให้ครบ สวดมนต์ นั่งสมาธิทุกวัน.. ตอนนี้เริ่มได้จากเพื่อนๆนำมาให้บ้าง....ตอนพี่ๆเขาเอามาให้เป็นเม็ดเล็กๆๆแต่ผ่านไปไม่กี่วัน..พระธาตุ ใหญ่ขึ้น.ใสขึ้น อัศจรรย์มาก ...

 

ภาพการเสด็จพระบรมสารีริกธาตุ

 

ผมไปกราบพ่อกับแม่ หลังจากนั้นก็คุยกับพ่อว่าอยากได้พระธาตุไว้บูชา พ่อก็เล่าเรื่องพระธาตุเสด็จมาเพิ่มที่หิ้งพระให้ฟังแล้วบอกว่าถ้าอยากได้ก็ไปหาภาชนะแบ่งไป วันรุ่งขึ้นผมไปไหว้พระที่วัดระฆัง ข้างโบสถ์เขานำพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุมาตั้งให้สักการะ ผมก็ไปไหว้และทำบุญสร้างพระ 100 บาท โดยไม่ทราบว่า เจ้าหน้าที่เขากำลังแจกพระบรมสารีริกธาตุกัน เขาก็แจกให้ผมด้วย ผมเลยได้รับมา 20 องค์ คนแจกบอกว่าคุณโชคดีนะวันนี้แจกเป็นวันสุดท้าย ถึงพระบรมสารีริกธาตุไม่ได้เสด็จมาโดยปฏิหารย์ แต่ก็อดแปลกใจในความบังเอิญครั้งนี้มากๆ เลยโทรเล่าให้แม่ฟังและบอกพ่อด้วยว่าได้พระบรมสารีริกธาตุไว้บูชาแล้ว

 

..ประสบการณ์พระธาตุเสด็จ..

​

จากประสบการณ์เคยเสด็จหลายครั้งค่ะ จำได้ว่า เมื่อหลายปีก่อน

-พระธาตุข้าวบิณฑ์ เป็นพระธาตุที่เสด็จมาในห้องพระที่บ้าน และมีครั้งต่อมาอีก ๒ ครั้ง

-พระธาตุของพระอนุรุทธเถระ หลังจากพระธาตุข้าวบิณฑ์เสด็จ เป็นเรื่องแปลกต่อมาทำให้มีทิพยจักขุญาณแจ่มใสมากขึ้น และสมาธิพัฒนาขึ้นตามลำดับ

-พระธาตุแก้วจักรพรรดิ หรือพระธาตุเชียงแสน ทราบว่า พระธาตุนี้อาจจะไม่มีการรับรองจากผู้เชี่ยวชาญเรื่องพระธาตุ

แต่จากประสบการณ์ หากไม่มีจริงจะเสด็จมาได้อย่างไร ปกติเวลาพระธาตุ สังเกตุอากาศในวันนั้นจะเย็นสบาย หรืออาจจะมีฝนตกพรำ ๆ พระธาตุจะเสด็จ ส่วนใหญ่จะเสด็จในห้องพระ หรือหน้าห้องพระค่ะ

พระธาตุแก้วจักรพรรดิ สามารถเปลี่ยนสีได้ตามจริตของเจ้าของ

-พระบรมสารีริกธาตุเพิ่มขึ้นในผอบ ตักแจกเท่าไรไม่หมด

การเสด็จของพระบรมสารีริกธาตุ หรือพระอรหันต์ธาตุที่เสด็จมาเอง หรือมีผู้ให้ก็ตาม เพื่อเป็นกำลังใจในปฏิบัติธรรมของเรา และชำระจิตเราให้สะอาดบริสุทธิ์ยิ่ง ๆ ขึ้น

การเสด็จพระธาตุนั้น เป็นการยืนยันว่า พระพุทธเจ้า มีจริง พระอรหันต์มีจริงในโลก เพื่อให้เรายึดมั่นในพระรัตนตรัย พระพุทธองค์เคยตรัสว่า กึ่งพุทธกาล พระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองคล้ายสมัยพุทธกาล เรื่องการเสด็จของพระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุก็เป็นเครื่องยืนยันอย่างหนึ่ง

จะเห็นได้ว่ามนุษย์ในยุคนี้ มักไม่เชื่อเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ ท่านจึงเสด็จมาให้เห็น เพื่อประจักษ์แก่สายตาว่า สิ่งเหล่านี้มีจริง เพื่อให้เราเดินสู่หนทางมรรคผล และพระนิพพานในที่สุด

ขออนุโมทนาบุญกับคุณหมอ และทุก ๆ ท่านที่นำประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังค่ะ

Numsai

 

ท่านใดที่ต้องการชมภาพการเสด็จพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ แนะนำเข้าไปดูใน FACEBOOK มีให้ชมร่วม 100 ภาพการเสด็จ "กลุ่มบูชาพระบรมสารีริกธาตุ"
คลิ๊กเข้าไปที่ เข้าสู่ระบบ | Facebook (สมัครเข้าร่วมกลุ่ม)

 

...ประสบการณ์เกี่ยวกับพระธาตุเสด็จนั้น เคยได้พระบรมสารีริกธาตุจากเพื่อนที่กรุงเทพ ได้มา3องค์ ได้เอาไส่กรอบห้อยคอเดินทางจากกรุงเทพมาที่อำเภอลี้เพื่อนำมาถวายให้หลวงปู่วงศ์ร่วมบรรจุลงในเจดีย์ศรีเวียงชัย ปรากฏว่าตอนถึงลี้พระธาตุเหลือแค่2เม็ด หายไป1 ถามหลวงปู่ หลวงปู่ไม่ตอบหลวงปู่หัวเราะ หึ หึ ต่อมาได้รับพระธาตุจากหลวงปู่เป็นพระโลหิตธาตุได้มา 1ตลับเสต๊ปซิล ผมได้แจกให้คนที่ศรัทธาไปบูชา แจกไปเท่าไหร่ ก็รู้สึกว่าไม่หมดเลยครับ พร่องไปเยอะ พอเปิดตลับดูก็รู้สึกว่าจะมีมาเพิ่ม และมีพระธาตุแบบอื่นมาด้วยครับ ตอนแรกพระโลหิตธาตุจะเป็นสีออกม่วง ๆ คล้ำ ๆ ขนาดประมาณหัวตะปู ต่อมามีพระธาตุลักษณะเป็นผลึกสีขาวขุ่นและสีใส ๆ ขนาดเท่าเมล็ดผักกาดเพิ่มมาครับ และลักษณะเป็นเส้นผมใส ๆ ก็มี เป็นผลึกสีเขียวขนาดประมาณปลายนิ้วก้อยก็มีครับ...
....ใครอยากได้ผมยินดีแบ่งให้บูชาครับ มารับได้เลยฟรีจร้า...

 

ผมขอบันทึกไว้ในกระทู้นี้เช่นกัน ซึ่ง อาจเป็นพลังศรัทธาแก่พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ดังนี้

น้องผมได้พระธาติมาประมาณ ๗ หรือ ๙ องค์ ประมาณปี ๒๕๔๔ นำไปไว้ที่บ้านพ่อไม่เคยเปิดดูมาเลยจนกระทั่ง

ปี ๒๕๕๐ ก่อนพ่อผมจะตาย ๑๕ วัน พ่อผมขอดูพระธาติ ปรากฏว่าพระธาตุได้แตกเป็นเม็ดเล็ก ๆ กระจายเต็มเจดีย์เล็ก

หลังจากเผาศพพ่อแล้ว จึงทำการแบ่งพระธาตุเป็น ๓ ส่วน เพื่อนำไปไว้ที่บ้านผม น้องชายผม และไว้ที่บ้านเดิม สังเกตุว่าพระธาตุขณะนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม

เฉพาะที่บ้านผมต่อจากนั้นประมาณไม่เกินเดือน พระธาตุมีขนาดใหญ่ขึ้น มีลักษณะแต่ละองค์หลากหลายไม่ซ้ำกัน และมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ ๓๐ กว่าองค์ เป็น ๕๐ กว่าองค์

ปัจจุบันผ่านมามากกว่า ๕ ปี แล้ว จำนวนน่าจะเท่าเดิม เพราะไม่ได้นับแล้ว ส่วนรายละเอียดพระธาตุมีการเปลี่ยนแปลงสภาพไม่มากเหมือนตอนแรก ๆ

ไม่ค่อยได้บอกใครเพราะคนส่วนใหญ่คงจะไม่เชื่อ และอาจปรามาส ซึ่งเป็นบาปกรรมเปล่า ๆ

ว่าแต่ว่าพระบางองค์หลอกอ้างพระธาตุเสด็จก็มีไม่น้อยนะ มากซะด้วย การเล่นกลทำกันไม่ยากหรอก ผมเป็นพนักงานสอบสวน เห็นคนโกหกมาเยอะ พระนี่แหละตัวดีเลย