เกิดก่อนเกิด..พรแปดประการ...

หญิงมณี มีคลังดวงจิต นี่ ....

ไม่ยากที่คิด แกัไขไดั เรียกวิญญาณ/กายทิพย์ เข้าขันธ์

ผนึกดัวยดวงจิต ก่จบ เรียกว่าเกิดใหม่อีกรอบ

สำคัญว่ามัน จะนอบน้อมยอมแก้ไขหรือเปล่าเท่านั้น

ต้องรอสถานศักดิสิทธิ์ กำเนิดก่อน ที่เชียงใหม่

ถึงเวลานั้น ต้องขอยืม กล่องเก็บดวงจิต ให้มันสักครา

แต่มันต้องเข้าสู่แดนนรกก่อน เพื่อไปยืมดวงจิตจาก หญิวมณี

สถานที่ศักดิสิทธินั่น มีทั้งสวรรค์ นรก และมนุษย์

อยู่ในที่เดียวกัน

ภาระกิจคือ การกลับคืน ฝากไว้ให้ทุกสิ่งใด้กลับคืน

ไม่มีอะไรที่ หญิงมณี กับ มหามิตร ทำไม่ได้

 

มโนธาตุ มาจากไหน ... มาจากผู้สร้าง

ทุกคนถูกต่อเชื่อมกับ ผู้สร้างอยู่ มีธาตุของผู้สร้าง

อยู่ในตัว ใครทำดี ใครทำชั่ว คิดหรือจะหลอกสิ่งศักดิสิทธิ์ได้

ความดีงาม วัดตรงที่ เหลือ หรือ สร้าง ให้มี มโนธาตุ ได้มากน้อยเพียงใด

หรือ ใครที่เรียกว่า ใจ นั่นล่ะ

น้ำใจ ใจงาม ใจดี ใจกล้า ใจสว่าง


สิ่งที่แสดงผลที่แท้คือ ใจ

การเรียก สติ แค่สมมติเรียก

ของจริงอย่างที่สุด คือ ใจ

ใจ จะเป็นตัวบอกเองว่า ควร ทำ หรือ ไม่ ควรทำ

ใครที่มีใจ เป็นกำลังแก่กายทิพย์ เวลาทำชั่วจะผิดศีล

จะรู้สึกตัวเช่น ขนหัว ขนแขนลุกชัน ขึ้นมาเอง

บุคคลนั้น เข้าใกล้มากแล้ว....

 

พวกคุณปลดปล่อยจิตวิญญาณบ้างยังไงกันน่ะครับ พวกจิตวิญญาณน่ะ เค้าน่าสงสารนะ ว่างๆ ผมอยากจะไปปลดปล่อยด้วยจัง

 

สงสัยที่เว็ปโดนโจมตี เป็นเพราะคนในเว็ป เป็นหนอนบ่อนไส้เองซะล่ะมั้งง

(แค่สงสัย เดี๋ยวจะหาว่าใส่ร้าย)

 

(เป็นนิทานและความเชื่อส่วนตัวโปรดพิจารณา)

เราจะขอตั้งชื่อเรื่องนิทานเราว่า....."ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย"....

....คำเตือน...สำหรับเพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่านนิทานของเรา ถ้าหากจิตของคุณมิใช่ผู้ที่ถูกคัดเลือกให้รอด จะไม่สามารถเข้าใจและเข้าถึง นิทาน ที่เราเล่า ...เพราะนิทานที่เราเล่า หรือแต่งนี้ เราก็บอกแล้ว ว่า มีแค่เรื่องเดียว ในจักรวาลก็ได้

.....และนิทานที่เราเขียน หรือเล่า มันอาจจะไม่เหมือนนิทานที่ผู้อื่นแต่ง..ย้ำ...ก็เพราะมันเป็นนิทาน นิทาน นิทาน...(เพื่อนๆ ลองไปทำความเข้าใจ กับคำเขียนของเราทุกครั้งด้วย)

....และนิทานของเรานะ มันมี "อาถรรพ์"...ก็ที่เราย้ำนั้นแหละ นิทานเรานั้นมันจะ มีการแฝง ปริศนา แต่อาจจะมีอิงชื่อบุคคลสำคัญบ้าง มันจะผิดด้วยหรือ ในเมื่อมัน เป็นนิทาน...และถ้าหากเพื่อนบางคนที่อ่านแล้วมีอาการแปลว่า ไม่เข้าใจคำว่า"นิทาน"...และ

.."ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย"..ความหมาย..ความจริงไม่มีวันตายไง จริงก็คือจริง ...ต่อให้มนุษย์ หรือโลก หรือสัพย์สิ่ง หรือจักรวาล จะดับหรือสูญไป "ย้ำ...ถ้าหากสิ่งที่กล่าว หรือพูด ..เป็นเรื่องจริง...มันก็คือเรื่องจริง...ไม่มีวันตาย หรือ ดับไปได้

...มิต่างกันกับคำว่า.."ตัวจริง..ก็คือ ตัวจริง"..."ตัวปลอม...อย่างไง..ก็คือ..ตัวปลอม"..."โกหก...ยังไง...ก็คือ โกหก"

...เราถึงพยายามเขียนย้ำเพื่อนๆเสมอว่า นิทานเรามันแฝงทั้งปริศนาธรรม และสัจธรรม และมันก็คือนิทาน และเป็นความเชื่อส่วนตัว โปรดพิจารณา

...แต่นิทานของเรา ก็ที่เราบอกแล้วว่า มันมี .."อาถรรพ์"..."ชื่อเรื่องและคำที่เราย้ำก็คือ..."ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย"...แต่นิทานเรามันมีอาถรรพ์..อย่างไรอยากรู้ไหมคะ เพื่อนๆ ก็คือ...คนที่เข้ามาอ่านแล้ว บางคนที่จิตไม่บริสุทธิ์ พอรับรู้นิทานที่เราเล่าไปแล้วก็จะมีอาการที่เรียกว่า

..."พอรู้ความจริง"...ก็คือตาย เพราะจิตใน นั้นรับ"ความจริง"ไม่ได้..และมีปริศนา และอาถรรพ์อีกอย่างคือ

..."ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย"...จริง...ไม่ตาย

...ไม่จริง...ตาย

..เพื่อนๆลองทำความเข้าใจ และใช้ "ใจสื่อใจ" เข้าไปสำผัสให้ลึกๆ กับคำว่า..จริง..ไม่จริง...

....เช่น ตัวจริง ก็คือ ตัวจริง...เรื่องจริง ก็คือ เรื่องจริง....

...แต่ที่เรารับรุ้และสำผัสมา มนุษย์นะ ส่วนใหญ่ "กลัวความจริง"...เช่นอะไรนั่นเหรอ ก็อย่างเช่น

..."ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดก็ไม่มิด"...คำกล่าวนี้หมายถึงอะไรหรือคะเพื่อนๆ..???

..ความหมาย."ความผิดหรือความชั่วร้ายแรงที่รู้กันทั่ว จะปิดอย่างไรก็ไมมิด".

...แต่ถ้าหากสิ่งทั้งหมด หรือการกระทำมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม คิดว่า เป็นสิ่งที่จริง และถูกต้อง จะกลัวอะไรเล่า และ ถ้าหากคิดว่าเป็นตัวจริงก็ไม่ต้องกลัว

...แต่ถ้าหากสิ่งที่พูดหรือกล่าวไม่จริง หรือ ไม่ใช่ตัวจริง ก็คงเหมือน สุภาษิต ที่กล่าวว่า.."ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดก็ไม่มิด"

....เพื่อนๆ คะ ในจิตของเรา เราจะรับรู้แต่ว่า ..ความจริง มันก็คือ จริง..ตัวจริง..มันก้คือจริง

และสิ่งที่หนีไม่ได้เลยก็คือ..จิตและตัวตนของเราที่จะรับรุ้ว่ามันจริงหรือไม่จริง..เพราะ "ตัวตนที่แท้จริงเป็นยิ่งกว่าสิ่งใด"

...ต่อให้เรื่องราวเหล่านั้น ผืนโลกนั้น มนุษย์ จะกี่ภพกี่ชาติ ถ้าหากสิ่งที่กล่าวมันเป็นเรื่อง จริง ..มันก็จะอยู่คู่ไปตลอด

...และถ้าหาก มนุษย์..บุคคลนั้น เป็นตัวจริง..จะเกิดอีกกี่ภพกี่ชาติ..มันก็คือ.."จริง"

ปล. ความหมายนิทาน...นิทาน เป็นเรื่องเล่าสืบต่อกันมา กล่าวได้ว่าเป็นวรรณกรรมที่เก่าแก่ที่สุด นิทานอาจมีกำเนิดพร้อม ๆ กับครอบครัวของมนุษยชาติ

.....นิทาน...นิทาน (บาลี) เป็นเรื่องต้นเหตุของเหตุการณ์ในปัจจุบัน เช่น เจ้าชายสิทธัตถะ ก็จัดเป็นอวิทูเรนิทานของพระพุทธเจ้า เพราะเจ้าชายสิทธัตธะเป็นเรื่องต้นเหตุของเหตุการณ์ที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ ถ้าไม่มีเจ้าชายสิทธัตธะที่ออกบวช พระพุทธเจ้าพระนามว่าโคดมก็มีไม่ได้ เป็นต้น

นิทาน - วิกิพีเดีย

คำเตือน..เพื่อนๆคะ ก่อนที่จะเอ๋ยอะไรที่ จะทำให้เกิดความวุ่นวายในกระทุ้ของเรา โปรดไปศึกษา ความหมายของคำว่า "นิทาน" ก่อนที่จิตภายใน"จะแตกสลายไปก่อนเวลาอันควร"..นี่แหละคือสิ่งที่เราย้ำ ไว้เสมอ ว่าบางคนนั้นจะถูกลงโทษ ก็คือ พวกที่มีจิตแตกสลายก่อนเวลา..แต่ร่างกายยังอยุ่ได้แค่รอเวลาหมดอายุขัยก็เท่านั้นเอง

...เพราะมันเป็นนิทาน"ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย"..ที่คนที่เข้ามาอ่าน..ไม่ใช่คนจริง หรือ รับความจริง ไม่ได้ มันก็ทำให้ มนุษย์คนนั้น.."ตาย"...ก็คือ.."ดวงจิตสลาย"ก่อนเวลาอันควรนั้นเอง

...คำเตือน..ถ้าเพื่อนๆ คิดว่า ไม่ใช่คนจริง หรือ รับรุ้นิทานเรื่องจริงไม่ได้ อย่าได้มาอ่าน..เพราะนิทานเรื่องนี้มีอาถรรพ์..และซ่อน ด้วย..ปริศนาธรรม และสัจธรรม

...เพราะคนเล่าและคนเขียน.."ตัวตนที่แท้จริงเป็นยิ่งกว่าสิ่งใด"

 

จิตวิญญาน หรือ กายทิพย์

หากกรรมยังไม่ได้ชำระ และ ศีลไม่สมบูรณ์บริบูรณ์

ยังไม่ถึงเวลาปลดปล่อย ออกจากขันธ์

จักต้องชำระกรรมให้สะอาด

มี 2 วิธี(เท่าที่รู้) คือ

การอโหสิกรรม และ ยินยอมให้กระทำ รับบาปมา กระทำ

หากในนรก คือ ถูกนายนริบาล ทารุณกรรม

บนโลกมนุษย์ คือ อาการผิดปกติ อาการป่วยแปลกประหลาด

ก่มีให้เลือกเอา 2 อย่าง

เมื่อบริสุทธิ์แล้ว กรรมที่บันทึก ไม่มีแล้วก่อนุญาตให้ ปลดปล่อยกายทิพย์

หรือ ปฏิบัติตนดีมีศีลจนกระทั่ง มีอุปนิสัยดี ไม่กลับคืน ก่ อนุญาต ปลดปล่อยได้ (เมื่อหลุดพ้นจะต้องไม่เบียดเบียน มนุษย์ด้วยกัน คิดดี ทำดี เสมอต้น ปลาย)

(รายละเอียดยังมีอีก เอาคร่าวๆ)

 

(เป็นนิทานและความเชื่อส่วนตัวโปรดพิจารณา)

...นิทานเรื่อง.."ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย"....


ปล. ความหมายนิทาน...นิทาน เป็นเรื่องเล่าสืบต่อกันมา กล่าวได้ว่าเป็นวรรณกรรมที่เก่าแก่ที่สุด นิทานอาจมีกำเนิดพร้อม ๆ กับครอบครัวของมนุษยชาติ
....นิทาน...นิทาน (บาลี) เป็นเรื่องต้นเหตุของเหตุการณ์ในปัจจุบัน เช่น เจ้าชายสิทธัตถะ ก็จัดเป็นอวิทูเรนิทานของพระพุทธเจ้า เพราะเจ้าชายสิทธัตธะเป็นเรื่องต้นเหตุของเหตุการณ์ที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ ถ้าไม่มีเจ้าชายสิทธัตธะที่ออกบวช พระพุทธเจ้าพระนามว่าโคดมก็มีไม่ได้ เป็นต้น

นิทาน - วิกิพีเดีย

คำเตือน..เพื่อนๆคะ ก่อนที่จะเอ๋ยอะไรที่ จะทำให้เกิดความวุ่นวายในกระทุ้ของเรา โปรดไปศึกษา ความหมายของคำว่า "นิทาน" ก่อนที่จิตภายใน"จะแตกสลายไปก่อนเวลาอันควร"..นี่แหละคือสิ่งที่เราย้ำ ไว้เสมอ ว่าบางคนนั้นจะถูกลงโทษ ก็คือ พวกที่มีจิตแตกสลายก่อนเวลา..แต่ร่างกายยังอยุ่ได้แค่รอเวลาหมดอายุขัยก็เท่านั้นเอง

...เพราะมันเป็นนิทาน"ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย"..ที่คนที่เข้ามาอ่าน..ไม่ใช่คนจริง หรือ รับความจริง ไม่ได้ มันก็ทำให้ มนุษย์คนนั้น.."ตาย"...ก็คือ.."ดวงจิตสลาย"ก่อนเวลาอันควรนั้นเอง

...คำเตือน..ถ้าเพื่อนๆ คิดว่า ไม่ใช่คนจริง หรือ รับรุ้นิทานเรื่องจริงไม่ได้ อย่าได้มาอ่าน..เพราะนิทานเรื่องนี้มีอาถรรพ์..และซ่อน ด้วย..ปริศนาธรรม และสัจธรรม

...เพราะคนเล่าและคนเขียน.."ตัวตนที่แท้จริงเป็นยิ่งกว่าสิ่งใด"

 

แต่สำหรับผู้ปฏิบัติผิดวิธี พยายามทำร้าย ทำลายดวงจิต

เพื่อการปลดปล่อยตัวเองออกจากขันธ์ ในขณะที่ ศีล ของตน

ที่จักถูกบันทึกในสัญญาขันธ์ ยังไม่บริสุทธิ์บริบูรณ์สมบูรณ์

และขณะกรรมบาปยังไม่ได้ชำระให้สิ้นสุด

ตัวเองก่ ทำปฏิบัติทำดวงจิตแตก หมายถึง การตาย นั่นล่ะ

แต่ การหยาบยังไม่ตายด้วย แต่ กายทิพย์ / หรือวิญญาณ

กระเด็นออกจากขันธ์ ไป ทำให้ไม่มีอะไรมาปกปักรักษาขันธ์

จึงทำให้เหล่า อมนุษย์ ไม่ว่าจะ ดี หรือ ไม่ดี

พรหม เปรต สัมเวสี สามารถ เข้ามายังขันธ์ ควบคุมร่างได้

ขึ้นอยู่กับว่าขณะนั้น ผู้ปฏิบัติมีศีล ระดับไหน

เลวร้ายที่สุด คือ อมนุษย์ ที่ต่ำทราม

ถาม หญิง มณี ต่อ ก่ได้

บุคคลนั้น แม้ว่าจะทำดีแค่ไหน บุญกรรม ก่ไม่ได้บันทึก

หรือได้รับการชำระ เพราะรหัสผิด ไม่สามารถแก้ไขหรือบันทึก

 

อืมมินาโกะ ก็สนใจเรื่องปลดปล่อยจิตวิญญาณเหมือนกันนะ เพราะเห็นเค้าบอกว่ามันมีเยอะมาก ที่ไม่มีที่เกิด และบ้างต้องร่อนเร่พเนจรไปตามที่ต่างๆน่ะ และบางทีก็มารบกวนมนุษย์ (มันก็น่าอยู่หรอก ก็มนุษย์น่ะ สบายและเห็นแก่ตัวเกินไป ก็เค้ากำลังทุกข์นิเนาะ)

เราว่านะ มนุษย์ น่าจะเรียนรู้และหาวิธีช่วยพวกเค้าน่ะ

เพราะบางพวก ที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากที่ต่างๆ เขาแค้นมนุษย์ ที่มนุษย์ไม่สนใจใยดีเค้า แถมยังไปรบกวนเค้าต่างๆนานา น่ะ ภัยพิบัติทางธรรมชาติหลากหลายประการ ก็เกิดจากเหตุการณ์นี้นั่นแหละ

มนุษย์ไม่ช่วยให้เขาได้รับความสุขจากการเลื่อนระดับทางจิตวิญญาณของเขาน่ะ เขาก็เลยมารบกวนมนุษย์ในรูปแบบต่างๆนานา นั่นก็เป็นเพราะว่า "เขากำลังทุกข์ทรมาน ในสภาวะที่ตนเป็นอยุ่น่ะ"

 

(เป็นนิทาน และความเชื่อส่วนตัว โปรดพิจารณา)

.......นิทาน เรื่อง "ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย"...

..ยกตัวอย่างนิทานอีสบ...
http://www.fungdham.com/fable/fable.html

ใครหนอ...สร้างนิทานอีสป

นิทานที่ได้รับความนิยมและเชื่อว่าเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกมากที่สุดรวมถึงในประเทศไทยด้วย คงหนีไม่พ้นนิทานอีสป ซึ่งนอกจากจะมีเรื่องราวสนุกสนานแล้วด้านหลังเล่มยังมีคติสอนใจจากเนื้อเรื่อง ด้วยคำว่า นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...

หลายคนนึกสงสัยว่า ใครหนอ ช่างคิดเรื่องราวที่สนุกและแฝงแง่คิดที่ใช้ได้ไม่ล้าสมัยน้า...

วันนี้มีคำตอบมาเฉลยให้หายสงสัย

"นิทานอีสป" มีต้นกำเนิดอยู่ที่อาณาจักรกรีกโบราณ ซึ่งเจ้าของเรื่องเล่าอันสุดแสนสนุกไม่ใช่นักปราชญ์แต่เป็นทาสที่ไร้การศึกษาแต่เปี่ยมไปด้วยเชาวน์ปัญญาต่างหาก!!!

และชื่อของเขาคือ อีสป ซึ่งเป็นที่มาของชื่อนิทานอีสปนั่นเอง

อีสปเป็นชายผิวสีชาวแอฟริกาที่มีชีวิตอยู่ในนครรัฐกรีกและต้องการทำมาหากินโดยการขายตัวเป็นทาส แต่โชคร้ายที่รูปร่างหน้าตาของเขาไม่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานที่พิจารณาคนที่มีความสามารถด้านการต่อสู้เป็นหลัก แต่พระเจ้ากลับประทานมันสมองอันเลอเลิศให้แก่อีสปเป็นการตอบแทน เขาจึงหันมาใช้สติปัญญาในการหาเลี้ยงชีพแทนการใช้กำลัง

สุดท้ายแล้วอีสปก็สามารถเอาชนะใจคนกรีกได้ ด้วยการเล่าเรื่องธรรมดาๆ แต่สอดแทรกด้วยปรัชญา แง่คิด และคติสอนใจต่างๆ ซึ่งเมื่อใครได้ฟังก็สามารถเข้าใจได้ง่ายๆ อีกทั้งยังนำคติสอนใจที่ได้รับไปประยุกต์ใช้กับการดำเนินชีวิตประจำวันของตัวเองได้ด้วย

ลักษณะเด่นอีกอย่างหนึ่งของเรื่องราวจากอีสปก็คือ เขาจะใช้ตัวละครที่เป็นสิงสาราสัตว์ทั่วไป เช่น "หมาป่ากับลูกแกะ, สุนัขกับเงา, ราชสีห์กับหนู" หรือ "สุนัขจิ้งจอกกับกา" เป็นต้น

ความรู้ไม่จำเป็นต้องอยู่ในตำราหรือในระบบการศึกษาเท่านั้น หากเรารู้จักค้นคว้าหาความรู้รอบตัวก็จะเป็นคนฉลาดแบบอีสปได้เหมือนกันนะ

 

เราคิดว่า สิ่้งที่กำหนดอายุไขของร่างสังขารของมนุษย์ มันมีหลายสิ่งมาก "ไม่ใช่แค่ดวงจิตหรอกนะ"

แล้วบางทีที่ว่าจิตวิญญาณสลายน่ะ เป็นการดีสำหรับจิตวิญญาณระดับล่าง ที่จิตวิญญาณเขาสลาย และได้เลื่อนระดับขึ้นไป เป็น "เทพ เทวดา"

ส่วนที่ว่าจิตวิญญาณในระดับที่สูงมากขึ้นไปกว่านั้นที่ว่าสลายน่ะ "เช่น เดิมทีจิตวิญญาณพระโพธิสัตว์ หรือพุทธะ เราไม่เรียกว่าสลายน่ะ เราเรียกว่า แบ่งภาค ไม่ได้สลายไปเลยจร้าา

 

...........

(เป็นนิทานและความเชื่อส่วนตัวโปรดพิจารณา)

..นิทานเรื่อง..."ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย"...

(บุคคลนั้น แม้ว่าจะทำดีแค่ไหน บุญกรรม ก่ไม่ได้บันทึก

หรือได้รับการชำระ เพราะรหัสผิด ไม่สามารถแก้ไขหรือบันทึก)

..คำกล่าวนี้ท่านกล่าวได้ถูกต้องแล้วคะ ท่านภูดิส..ขอบคุณที่นำความจริงมาช่วยเราเปิด ในนิทาน..ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย

...แต่ แต่ แต่..มันยังมีอะไรที่ลึกกว่านี้อีก.."ถ้าเรามีเวลาเราจะมาเล่านิทานเรื่องนี้ให้ฟัง แบบอธิบายสั้นๆ แต่ได้ใจความคะ..เพื่อนๆ

 

คำศัพท์ที่สูงๆ ในทางธรรมะบางคำ และหรือ หลายๆคำ คนเราไม่อาจจะเข้าใจได้น่ะ ท่านโปรดได้ใช้ศัพท์ภาษาพื้นๆ เพื่อให้ง่ายแก่การเข้าใจน่าจะดีกว่านะ ดูโอ มากกว่ากันเยอะเลย

 

ถ้าเพื่อนๆเคยศึกษาชีวประวัติของท่านอาจารย์ ทองโต เทพโลกอุดร
ท่านเล่าว่าท่านบำเพ็ญบารมีถึงขนาดที่ขโมยฤทธิ์ เทพเทวามนุษย์มีฤทธิ์
เล่าแค่นี้อยากรู้ต่อไปท่านต้องอ่าน

 

เราไม่ค่อยเห็นด้วยเลย กับการที่คนไทยมาศึกษาศาสนาพุทธเพียงเพราะ "ฤทธิ์ เดช อภิญญา" แล้วก็เอามาประหัตประหารกัน เพราะเราคิดว่า สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ทำให้คนเรา "หลงโลกก"

แต่เราเห็นด้วยกับฝรั่งตรงที่ว่า ที่เขามาศึกษาศาสนาพุทธ ก็ตรงที่ "เขามีความทุกข์ และเขาก็พบคำตอบที่สามารถตอบโจทย์ได้ทุกโจทย์ได้ศาสนาพุทธ" นี่ต่างหาก ที่เราชื่นชม

และที่สำคัญ เราก็ไม่ได้ปฏิเสธพิธีกรรม ที่เปรียบเสมือนเป็น "เปลือกนอกของศาสนา" ก็เพราะต้นไม้ ย่อมจะมีเปลือกไว้ห้อหุ้มลำต้นเอาไว้(แกน) เพื่อไม่ให้ลำต้นมันเน่าไปเสียก่อนก็เท่านั้นเอง

 

ของบางอย่าง "เราเข้าใจในแบบฉบับของตนเองก็มี" ตามที่เราคิดว่าน่าจะเหมือนกับที่คนอื่นๆเขาเข้าใจ

ซึ่งบางที มันไม่ใช่ความเข้าใจในความคิดของคนอื่น ตามที่เรามักจะคิดว่า "เขาเข้าใจเหมือนเรา"

แล้วสิ่งใดล่ะ ที่จะทำให้เราเข้าใจได้เหมือนกับคนอื่นๆได้มากที่สุด ซึ่งนั่นก็คือ (มินาโกะคิดว่าอานะ คิดดว่าาาา)

ภาษาพื้นๆนี่เองแหละ

(เมื่อท่านจะพูดภาษาในทางธรรมระดับสูง หรือแตกต่างกัน กรุณาใช้ภาษาพื้นเพ ที่ดูเข้าใจง่าย น่าจะดีกว่านะ)

 

.................

(เป็นนิทาน และความเชื่อส่วนตัว โปรดพิจารณา)

........นิทานเรื่อง..."ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย"...

(ความรู้ไม่จำเป็นต้องอยู่ในตำราหรือในระบบการศึกษาเท่านั้น หากเรารู้จักค้นคว้าหาความรู้รอบตัวก็จะเป็นคนฉลาดแบบอีสปได้เหมือนกันนะ)

ตัวอย่างคร่าว..http://www.oknation.net/blog/print.php?
id=419930

รวมธรรมปฏิเวธ ถามตอบ ชุด ความคิดเห็นเรื่องพระเจ้า จากบล็อก โอเคเนชั่น oknation.net

....เพื่อนๆ ลองศึกษาเวปนี้สิคะ..เขาเขียนดีนะคะ..แต่ถ้ามีส่วนไหนที่เราคิดว่ามันไม่จริง..มีบ้างไหม...และถ้ามีเราจะมาทำแก้..หรือ.."เล่านิทาน..ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย"

....เพราะถ้าเพื่อนๆ ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ตัวตน ดวงจิต และระบบท้ั้งหมดแล้วจะเข้าใจ...

....เพื่อนๆ คะ..เวลาอ่านหรือพิจารณา ..ขอใช้ "ใจสือใจ"..กับเนื้อหา หรือ ตัวบุคคล..นะคะ...และเพื่อนๆ ก็จะรับรุ้ได้ ว่า ..สิ่งนี้จริงหรือปลอม..คนนี้จริง หรือปลอม

.ปล...อย่าพึ่งใจ ตาใน ตานอก และด่วนสรุป หากยังไม่ได้ใช้ ระบบ.."ใจสือใจ"..เป็น และอย่าพึ่ง ฟังแต่เขาพูด (เพราะมนุษย์ปัจจุบัน นิยมแต่ เรื่อง.."โกหก")

...และมนุษย์ ปัจจุบัน ..มิได้..วัดค่ากันที่ความดี..แต่วัดค่ากันที่...อำนาจ และเงินตรา..และความชั่ว มากกว่าความดี

...ตัวอย่าง..พระปฎิบัติ จะมีญาติโยม เข้าหาน้อยกว่า พระที่บอกว่ามีปฎิหาริย์..ทั้งๆ ที่ไม่รุ้เลยว่าจริงหรือปลอม...

..เราถึงย้ำไงคะว่า..."ภพนี้เป็นภพแห่งการเปิดเผย แต่มี ระบบสองอย่างคือ...เปิดเผยความจริง...และเปิดโปงสิ่งหลอกลวง

...เปิดเผยความดี....เปิดโปงความชั่ว

...เปิดเผยตัวจริง.....เปิดโปงตัวปลอม

(ดวงตาสวรรค์ ผู้รู้ ผุ้ตื่น ผุ้เปิดเผย)


(ระบบ ตาดีได้ ตาร้ายเสีย)..แปลภาคมนุษย์ ..ทำดีต้องได้ดี ทำชั่วต้องได้ชั่ว


(เกิดก่อนเกิด ตายก่อนตาย)


(เกิดก่อนเกิด...ผู้ที่มาเปลี่ยนแปลงที่มีรหัสนี้คือผู้ที่ เกิดก่อนที่จะมีโลกใบนี้ และเกิดก่อนจะมีทุกสรรพสิ่งในจักรวาล)

(ตายก่อนตาย...สติและกรรมฐานจะทำให้รอดจากความตาย...มนุษย์โลก เมื่อไรที่ ผุ้ที่รหัส เกิดก่อนเกิด ..ได้เปิดเผยความจริง หรือเปิดเผยตัวตน หรือเปิดเผยดวงจิต ...เมื่อนั้นมนุษย์ทั้งหลาย..จงใช้สติ และกรรมฐาน เท่านั้น ถึงจะทำให้มนุษย์ผุ้นั้นรอด และดำเนินชีวิตอยู่ต่อได้ ในโลกใบใหม่ง...ก็คือ โลกแห่งยุคศิวิไลย์)

...เพราะผุ้ที่มี รหัส..เกิดก่อนเกิด...เป็นผุ้ที่สามารถจะทำอะไรก็ได้ที่เป็นการทดสอบและเล่มเกมส์ ที่มนุษย์มิคาดคิดและคิดถึง..ในการทดสอบ ..และคัดคนนั้นเอง....เพราะ..นิทานของเรามันคือ...ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย.....


....(ปล....เพื่อนๆ วันนี้ นิทานที่เราจะนำมาเล่า มันอาจจะมีอะไรที่ ..มันยิ่งกว่าอะไรอีกก็ได้นะ..เพื่อนๆ คอยติดตามอ่านก็แล้วกัน...แต่

..คำเตือน..โปรดอ่านทำความเข้าใจ สิ่งที่เราย้ำ จากการเขียนนิทานวันละห้ารอบ..ก่อนที่เพื่อนๆ จะ.."ตายก่อนตาย"...ไม่ได้ขู่ แต่...

...ที่เราย้ำตั้งแต่แรก นิทานความจริงเป็นสิ่งไม่ตายมีอาถรรพ์..

...จริงไม่ตาย...แต่ถ้าไม่จริงตาย

...ตัวจริงไม่ตาย...แต่ตัวไม่จริงตาย

...เพราะนิทาน เรื่องนี้เราแต่งเขียนและเล่าเพื่อ..ค้นหาตัวจริง และความจริง...เพื่อนำพาไปสู่ (โลกยุคใหม่..นั่นก็คือ ความจริงทีกำลังรอมนุษย์อยู่..)

....ปล. นิทานเรื่องนี้ เป็น "เกมส์" ที่เราสร้างขึ้นมา เพื่อ มา วัด และแข่ง..ให้มนุษย์ได้ร่วมเล่นเกมส์ กับเรา เพื่อตาม หา ตัวจริง หรือฮีโร่ ..และตามหา "หลักสัจธรรม..และตามหา..การหลุดพ้น..เข้าสู่ความว่าง..และตามหายุคศรีวิไลย์...และตามหา พระศรีฯอริยะเมตรไตรย..และตามหา "ผุ้ที่มีจิตที่บริสุทธิ์"..และตามหา"องค์กามเทพ"..และ...

....บทสรุปก็คือ...เป็นการตามหาขั้นตอนสุดท้าย ก็คือ การค้นหาผุ้รอดจาก ระบบ"ตาดีได้ ตาร้ายเสีย"..ที่รอดจาก .."ตายก่อนตาย"

...เพื่อนๆ คะ ..และเพื่อนๆนะ กล้าหรือปล่าวที่จะมาร่วมเล่นเกมส์กับเรา ..โดยการที่เราจะใช้นิทาน "ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย"..แต่ถ้าหากเพื่อนๆ คนไหน..กล้า..

...และคิดว่า เป็น..ตัวจริง เสียงจริง..ดวงจิตที่แท้จริง..ตัวจริงที่แท้จริง...ไม่กลัวความจริง...เราขอท้า..มาตามล่าหาความจริง "ในนิทานที่เรากำลังเล่าเขียน..ที่แฝงด้วยสัจธรรม ปริศนาธรรม..และเป็นเกมส์แห่งการ..เข้าสู่ยุคศรีวิไลย์..เพื่อการหลุดพ้น..เข้าสู่ความว่าง..

...ปล.เราขอเตือน ถ้าเพื่อนคนไหนที่ใจไม่นิ่ง ไม่อดทน เพียงพอ อย่าได้ลองมาอ่่านนิทานที่เราเขียนและเล่า..หรือ..อย่าได้มาเล่นเกมส์นี้กับเรา ..เพราะตัวตนของเราชอบ ระบบ.."ตาต่อตา ฟันต่อฟัน"

..คำเตือน..ไม่งั้นเพื่อนๆ จะ .."ตายก่อนตาย"...อย่างที่เพื่อนๆ หลายคนเป็นมาแล้ว ก็คือ ดวงจิตถูกสลาย ก่อนเวลาอันควร ..(มันทรมานนะเพื่อนสำหรับผู้ที่ดวงจิตถูกสลาย แต่เพื่อนๆกล้าที่จะเสี่ยงก็ได้)

...ความหมายของ.."ดวงจิตถูกสลาย"..ก็ไม่ต่างจาก ผุ้ที่มีแต่ตัว แต่ไม่มีหัวใจหรือดวงจิต..และเพื่อนจะเรียกบุคคล เหล่านี้ว่า ..เป็นมนุษย์ ที่มีตัวตนและจิตใจที่สมบูรณ์หรือไม่

...เพราะคำว่ามนุษย์ ที่แท้จริง มันต้องมีครบทุกระบบในร่างกายถึงจะเรียกว่า

(ตัวตนที่แท้จริงเป็นยิ่งกว่าสิ่งใด)


....เริ่มต้นแห่งเวลาเล่านิทาน "ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย"...วันนี้จะเป็นฉากของเกมส์ ตามล่า หาแผ่นที่โลกใบใหม่....แอ่น อี้ แอ้น....(k)

 

ท่านคือ 1 ใน 3 ที่มาทำหน้าที่ และมีสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงมอบมาให้มา และอยู่ในตัวท่านเอง
หญิง มณี...
(ผิดพลาดขออภัยและขออโหสิกรรม)

 

............

(เป็นนิทาน และความเชื่อส่วนตัวโปรดพิจารณา)

...นิทานเรื่อง...ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย...

(ความรู้ไม่จำเป็นต้องอยู่ในตำราหรือในระบบการศึกษาเท่านั้น หากเรารู้จักค้นคว้าหาความรู้รอบตัวก็จะเป็นคนฉลาดแบบอีสปได้เหมือนกันนะ)

..คุณกล่าวไว้ ..จริง..แล้วคะ.." ก็เพราะต้นไม้ ย่อมจะมีเปลือกไว้ห้อหุ้มลำต้นเอาไว้ เพื่อไม่ให้ลำต้นมันเน่าไปเสียก่อนก็เท่านั้นเอง"

(แต่ แต่ แต่..บางสิ่งที่เรากล่าว "ดวงจิตแตกสลายจากการถูกทำลายก็คงไม่ต่างจาก..."ข้างนอกสุขใส ข้างในปะติงโน่ง..หรือ ประมาณว่า.."สวยแต่รูปจูบไม่หอม"..ก็เท่านั้นเองคะ..)

..ฉันใดก็ฉันนั้น...มนุษย์ก็ยังมีกายหยาบ กับกายละเอียด..และกายนอก ก็ห่อหุ้ม สังขายกายใน ก็คือ..ดวงจิต ของเรานั้นเอง

..และเพื่อนๆโปรดรับรู้ไว้ด้วย ว่า ศาสนาพุทธ กับ พราหม์ เป็นของคู่กันและค้ำกันทุกภพทุกภาคเพื่อระบบสร้างมาเพื่อค้ำจุนกันนั้นเอง..ตัวอย่างเช่น..

(ก่อนพระพุทธเจ้าจะตรัสรู้ ก็ต้องมีครูบาอาจารย์ ก็คือ บรรดาปู่ฤาษีนั่นเอง...และศิษย์ ก็ต้องมีอาจารย์..และนักเรียน ก็ต้องมี ครูสอน....มีลูก ก็ ต้องมีพ่อและแม่...มีน้ำ ก็ต้องมีปลา..มีดิน ก็ต้องมีฟ้า...)

...ฉันใดก็ฉันนั้น.."ศาสนาพุทธ" เราจะเน้น ให้รู้จักกตัญญู และ บุญคุณ และสัจจะ..(เพราะ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีจุดเริ่มต้นก่อนเสมอ (เกิดก่อนเกิด) ก่อนที่มีศาสนาพุทธก็มีพราหม์ มาก่อนนั้นเอง..และจะทิ้งหรือ ลืมบุญคุณท่านได้อย่างไร

..เช่น..ก่อนที่จะมีโลก ก็ต้องมี "พระแม่ผู้สร้างโลก"..และจะลืมท่านได้อย่างไร..ถ้าไม่มีท่านแล้วจะมีโลกใบนี้เหรอ

...และถ้าไม่มีพื้นดิน(หรือพระแม่ธรณี) มนุษย์จะอยู่ได้เช่นไร..อยู่บน ฟ้า หรือน้ำได้หรือไม่(น้ำก็ยังมีคำว่า ดินอยุ่ดี

...เราถามเพื่อนหน่อย ..ถ้าหากบุคคลนั้นไซร์ ขาดซึ่ง สัจจะ และกบฏต่อ สัจจะ ต่อหน้าที่ ต่อศรัทธา ต่อตัวเอง..และที่สำคัญคือ กบฏต่อสิ่งที่ทำให้พวกเขาได้มีทั้งกาย ดวงจิต และพื้นที่ที่เขาได้อยู่อาศัยและเหยียบย้ำ ..พวกมนุษย์เหล่านี้ มิเรียกว่า.."กบฎ" ก็ถูกแล้วมิใช่เหรอ



...ก็คงไม่ต่างจาก "แผ่นดินไทย ก็ยังต้อง ผูกดวงไว้กับทหารนั้นเอง"

...และทีสำคัญที่สุด..แผ่นดินไทย เป็นแผ่นดินแห่งศักดิ์สิทธิ์ ..จะต้องมีสามสิ่งที่อยู่และค้ำแผ่นดินไทยไว้..หากสูญสิ้นอย่างใด อย่างหนึ่ง จะมิมีคำว่า .."ไทย"..หรือ.."ไท"..อีกเลย (เพราะนี้มันคือ เรื่องจริงเป็นสิ่งไม่ตาย)

..สิ่งที่ทำไว้และค้ำไว้ ณ.จุดเริ่มต้นแห่งแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์นี้..ก็คือ.."ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์"...ก็ไม่ต่างจาก "สามร่มโพธิ์ศรี"..หรือ.."พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์"

...เพราะเพื่อนๆ รู้หรือไม่ ว่ากว่าจะมาเป็นแผ่นดินไทย แผ่นดินที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ในอดีตกาล นั้นต้องมีการสำรวจและทำสัญญาลักษณ์เอาไว้..หรือ การซ่อน "รหัส" นั่นเอง...

...เพื่อนๆ ลองไปย้อนความจำนิทาน ที่เราเขียนมาตั้งแต่แรกๆสิคะ ที่เรากล่าวถึง..เขาพระวิหาร ..ที่เราบอกว่า ..แม่นางดวลโตน คือแม่นางขอม องค์แรกของขอมนั้น เป็นผุ้สร้าง เพื่อเป็น"แกนกลางของจักรวาล"..และก็เป็นจุดแรกแห่งการเปลี่ยน จากศาสนาฮินดู มาพุทธ..(แต่พราหมณ์นั้น ก็ถูกผูกไว้กับพุทธจนกาลละนานไป) และเขาพระวิหารนะ ..ความจริง ก็คือ ซ่อนพระธรรมจักรชิ้นแรกของศาสนาพุทธไว้ที่นั้น..และก็ซ่อนปลาตะเพียน สัญญาลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ไว้ทีนั้น (และอีกหลายอย่าง)..เพราะมันคือความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย

...และที่เราเล่านิทานไว้ว่า "สภาแอนโดรมีดร้า หรือเจ้าหญิง" ได้นำหลักฐานจากดวงดาวมาซ่อนและทำสัญญาลักษณ์ไว้มากมาย.."แม้นแต่ที่ ..วัดป่าเขาสวนกวาง" ขอนแก่น..ก็มีสัญญาลักษณ์ ..ถ้าหากเพื่อนๆ มีโอกาสลองไปพิสูจน์ดูนะคะ สำหรับหิน..และสัญญาลักษณ์ที่ทางต่างดาว มาทำหลักฐานไว้...


...และความจริง ก็คือ..ที่นั่นแหละที่ เป็นที่ซ่อน "บัลลังค์ "เจ้าพิภพ" และผุ้ที่เป็นตัวจริงเสียงจริงวันหนึ่งต้องได้ขึ้นไปนั่งตามวันเวลาที่ถูกกำหนดของระบบวัฐจักรนั้นเอง ..เพราะมัน เป็นสถานที่ที่ทางต่างดาวมาทำและซ๋อนไว้ ไว้เมือไร คนที่เป็นตัวจริงเสียงจริงจะต้องขึ้นไปนั่งบัลลังค์ทองแห่งนี้..นั้นเอง..(แต่มันอยู่ในป่าลึกต้องเดินหลายกิโล)เพราะวัดป่าเขาสวนกวางมีพื้นที่ เกือบหกร้อยไร

..และไหนจะซ่อน ของจากต่างดาวสภาแกแล๊คซี่แอนโดรมีด้า..ไว้ที่ วัดวรเชษฐ์ อยุธยา ..ฯลฯ..(ไว้มีโอกาสจะมาเล่าบทสรุปให้ฟังอีกทีคะ)

 

"""""""""""""""""""""

(เป็นนิทานและความเชื่อส่วนตัวโปรดพิจารณา)

....นิทานเรื่อง...ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย.....

(ความรู้ไม่จำเป็นต้องอยู่ในตำราหรือในระบบการศึกษาเท่านั้น หากเรารู้จักค้นคว้าหาความรู้รอบตัวก็จะเป็นคนฉลาดแบบอีสปได้เหมือนกันนะ)

..."ตัวตนที่แท้จริงเป็นยิ่งกว่าสิ่งใด"....

..."สัจจะ และอโหสิกรรม"...