อย่างนี้ผิดศีลไม่ครับ

ไม่ได้จะลบหลุ่ท่านนะครับ เพราะตามนิกายท่านคงทำได้

แต่.... หากพระวินัยเป็นของแท้ เที่ยงตรง ทนทานต่อการพิสูจน์ตามกาลเวลาจริง หลักปฏิบัติต้องไม่ขัดกัน ดังนั้นมันต้องมีเส้นแบ่งระหว่าง ผิด กับ ไม่ผิด พระวินัย

ไม่ใช่ว่าผมมองเป็น ขาว-ดำ นะครับแต่คำว่าพระวินัยมันเป็นไปตาม 'กฏ' แห่งกรรมนี่ครับมันคงไม่มีข้อยกเว้น

ขอความคิดเห็นด้วยครับ

ผมเองเคยอ่านงานของท่านก็๋ชอบนะครับ

 

จากภาพถ้าองค์ดาไลลามะจับมือนางอองซานซูจี ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ไม่มีจิตกำหนัด

ไม่ผิด อาบัติสังฆาทิเลส (กายสังสัคคิสิกขาบท)

แต่ถ้าเป็นพระสงฆ์ไทย ทำกริยาแบบนี้ ... โลกวัชชะ(โลกติเตียน)

.

 

เรื่องนี้ละเอียดอ่อนมาก...สำหรับปุถุชนอย่างเราๆ

วางใจเป็นกลางดีกว่า งดออกเสียงครับ...

________________
ดูจิต.........ด้วยสติ

 

ผมเห็นภาพนี้จากข่าวในเว็บ matichon.co.th ครับเหตุการณ์เดียวกัน ดังนั้นผมจึงเกิดความสงสัย และคิดว่าคนอื่นๆทั่วไปที่ได้เห็นก็คงเกิดความสงสัยเช่นกัน มันคงไม่ใช่แค่ผมคนเดียวหากมีใครถามก็คงต้องมีคำอธิบายให้เขาเข้าใจได้
อย่างไรก็ตามที่นี่เป็นเพียงความเห็นครับ ผมคิดว่าทุกท่านในที่นี้ก็คงทราบว่าเป็นเพียงความเห็น

 

สิ่งที่พระศาสดาทรงบัญญัติย่อมมีเหตุเสมอครับ และผลคือละเมิดเมื่อใดย่อมได้รับทุกข์เมื่อนั้น ไม่มียกเว้นหรือหลีกหนี ไม่มีเล็กน้อยหรือหนักหนา แต่หากมีคนถาม ก็บอกไปว่า เรามาสังเกตตนเองก่อนดีไหมว่าเราทำตามพุทธโอวาทหรือยัง แบบนี้น่าจะดีกว่าครับ การเอาความหวังว่าจะไปเคารพชื่นชม "คนอื่น" มันป็นการไปยึดในบุคคลไม่ยั่งยืน ขอให้เราเข้าใจในหลักการนำไปสู่การประพฤติชอบของตนจะดีกว่า

 

พิจารณาดูใจให้ดีเถิด
ในท่านลามะ นั้นไม่ได้ติดข้องใดๆ เลย
แต่ใจของผู้ใดกัน ที่ติดข้อง?

 

นิทานนี้เคยได้ยินมานานมากแล้วนะเนี่ยเพิ่งรู้ เป็นนิทาน zen ขอบคุณที่นาให้อ่าน แต่.......

ไม่ตรงประเด็น

 

เฮียปอ ตอบให้แล้วในลำดับที่ 2 ครับ

 

ก็เหมือนกับการแตะหมึกที่ถึงแม้ไม่คิดอะไรแตีสีมันก็คงติด ก็ต้องใช้เวลากว่ามันจะเจือจาง แต่ถ้าหากว่าใจหนักแน่นก็ไม่ต้องกลัวจะสกปรกความสกปรกทางกายล้างออกได้ ทางใจสิ ถ้าใจ้ราสะอาดก็ไม่ต้องกลัว ทางที่ดี อย่าไปแตะต้องดีที่สุด ยิ่งอธิบายยิ่งงง งงมั้ยครับ แต่ผมเข้าใจ

 

ท่านทั้งหลายเคยดู หรือเคยทราบ จาริยะวัตร ของท่านองค์ดาไลลามะหรือไม่ครับ ใน24ชม. ท่านจะต้องกระทำภาระกิจ อย่างใดบ้าง ท่านเป็นผู้นำทุกด้านของชาวทิเบต เป็นทั้งกษัติย์ เป็นทั้งพระสงฆ์สาวก ขนบและทำเนียมประเพณีของทิเบต และกฏมณเทียรบาล ของเขามีมาแบบนี้ การจับมือกับอิสตรีเพศ ว่ากันตรงๆผิด วินัย คือผิดศีล แต่
เรื่องศีล พระพุทธเจ้าเราบัญญัตืไว้ ทำไม ทำไมพระสงฆ์สาวกต้องถือศีล แล้วศีลช่วยให้บรรลุธรรม อย่างไร

ทุกอย่างอยู่ที่เจตนา และกิเลสมันฟุ้งเฟื่องฟูกระจายขึ้นมาหรือเปล่า หรือแค่ด้วยเมตตาจิตหรือด้วยหน้าที่ ถ้าบอกว่าศีลไม่มีข้อยกเว้นก็ไม่ใช่ เพราะจับมือสตรีผู้เป็นมารดา เป็นต้น นี่ท่านอนุญาตุ ดังนั้น
1ขอให้เราคิดดีก่อน เพื่อสะท้อนจิตเราเอง
2ขอให้พิจารณาที่มาที่ไปให้ดี อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็นเสมอ แต่ให้ใจ ดูใจคือดูเจตนา คือดูความคิดของใจ ดูอารมณืของจิต มันเป็นการปรุงแต่งตามกิเลสหรือเปล่า
3. อย่าลืมว่าศีลมีไว้เป็นกรอบให้ปฏิบัติดี และเมื่อปฏิบัติดีแล้ว การเข้าถึงธรรมและหลุดพ้นจากกองทุกข์ก็สำเร็จโดยง่าย ดังนั้นแล้วต้องพิจารณาให้ดี และละเอียดรอบคอบนะครับ

 

ให้อ่านอีกรอบ
ถ้ายังไม่รู้เรื่องก็อ่านวนไปเรื่อย ๆ