** ฉันทะ ** วัตถุมงคล หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา **

พระสวยทั้งสององค์เลยครับ(ping)(ping)(ping)

 

ได้รับพระสมเด็จของหลวงปู่ดู่แล้วค่ะ ขอบคุณพี่ๆทุกท่านมากๆค่ะ

 

เป็นอีกชุดหนึ่งในพระของหลวงปู่ดู่ ที่ปัจจุบันคนรู้จักกันน้อยลง เนื่องจากไม่มีระบุในหนังสือรวมพระเครื่องของหลวงปู่ (ตกหล่น) เรียกว่า " พระกริ่งไพรทอง" ครับ

จำนวนการสร้างไม่มากนัก ผมเองก็จำข้อมูลแน่นอนไม่ได้แล้วว่าแต่ละเนื้อสร้างจำนวนเท่าไร ต้องถามที่เซียนนิวส์เรา น่าจะจำได้อยู่ มีทั้งหมดด้วยกันรวม 3 เนื้อ คือ เนื้อเงิน เนื้อทองเหลือง และ เนื้อทองแดง

ชุดนี้เป็นอีกชุดหนึ่งของผมที่ยังขาดเนื้อเงิน เนื่องจากหายากเหลือเกิน ลองๆชมภาพ 2 องค์เท่าทีมีไปก่อนน่ะครับ





อนึ่งพระชุดนี้..ยังมีพระที่มีลักษณะเป็นรูปแบบพิมพ์เดียวกัน ทุกอย่างเหมือนกันใกล้เคียงกันมาก จนผู้ไม่ชำนาญยากจะแยกออก ต่างกันเพียงแค่ขนาดจะย่อมกว่ากันเล็กน้อย และเนื้อหาก็จะต่างกัน คือ ชุดของคุณสุธันว์ ทำถวายให้หลวงปู่ฯ ซึ่งจะเรียกไปอีกชือหนึ่งว่า ชุดพระนาคปรกหลัง ภปร. อ.สุธันว์ ครับ

 

สวัสดีครับ ผมเพิ่มเข้ามาดูกระทู้นี้ได้ไม่นาน เป็นกระทู้ที่ให้ความรู้เกี่ยวพระหลวงปู่ดู่มากๆ จนคิดว่านี่ไม่ใช่กระทู้ให้บูชาพระ แต่เป็นกระทู้พูดคุยของลูกศิษย์สายนี้

วันนี้ผมนำพระขุนแผนขอหลวงปู่ที่อยู่กับผมมากว่าเจ็ดปีแล้วมาให้ชมกันครับ ภาพถ่ายจากกล้องบีบีอาจาไม่ชัดเท่าไหร่นะครับ ติชมได้ครับ

 

ได้รับพระที่ทันหลวงปู่ดู่ปลุกเสก แล้วครับ ผมจะนำมาห้อยติดตัว ครับ และขอให้บุญกุศลที่ทั้ง 5 ท่านด้านล่างที่ได้สละมอบพระให้กระผมและท่านอื่นๆ ขอให้บุญกุศลที่ท่านทำในครั้งนี้จงดลบรรดาลให้ท่านละครอบครัว จงพบแต่ความสุขความเจริญ ประสบแต่ความสำเร็จในทุกประการเทอญ



รายชื่อผู้มอบพระสมเด็จ ปี2527(ทันหลวงปู่ดู่ปลุกเสก) พี่โจ 6องค์ , คุณอิญมอญ 6องค์ , คุณSKTC 6องค์ , คุณฉันทะ 6องค์ และคุณนิวส์ 6องค์ครับ(รวม30องค์)

 

ยินดีต้อนรับครับ คุณ Tumm.. ว่างๆมีเวลาก็แวะเข้ามาพูดคุย มาแลกเปลี่ยนความรู้ มาเล่าประสบการ์ณกันได้นะครับ..

 

ขอบคุณมากๆเลยครับคุณโจสำหรับการต้อนที่อบอุ่น เมื่อวานนี้วันพระพฤหัส วันดี ผมเริ่มนำพระขุนแผนองค์นี้มาบูชาอีกครั้งหลังจากที่ปล่อยให้ท่านจำวัดอยู่ที่บ้านผมนานหลายปี เพิ่งรู้วิธีบูชาพระของหลวงปู่ให้ถูกต้องจากกระทู้นี้และกระทู้ของคุณ Specializeในหน้าประสบการณ์ รู้สึกว่าแตกต่างจากทีบูชาเหน็บกระเป๋าเป็นครั้งแรกเมื่อหลายปีมาแล้ว ผมไม่ชอบแขวนพระหลายองค์ ตอนนี้เลยบูชาพระองค์นี้คู่กับเหรียญห้ารอบของหลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ เอาไว้มีประสบการณ์ดีๆจะนำมาเล่าสู่กันฟังครับผม

 

ได้รับพระแล้วครับ ขออนุโมทนาบุญกุศลครั้งนี้ให้กับทุกๆท่าน ขอให้ทุกๆท่านมีแต่ความสุขความเจริญทุกๆท่าน ขอบคุณครับ

 

--------------------------------------------------------------------------------------------

" เริ่มนำพระหลวงปู่กลับขึ้นห้อยแล้ว " สาธุ..สาธุ..ครับ

ปล. ดูจากพระของคุณ Tuumm นี่..สงกะสัยจะได้เพื่อนเล่นหาสากล เป็นมาตรฐานเพิ่มอีกท่านหนึ่งเสียแล้วกระมังครับ..

--------------------------------------------------------------------------------------------

อย่างไรก็ดี..ความเป็นหลวงปู่ดู่ท่าน ตามความเห็นผม..จะว่าไป..

หลวงปู่ดู่ท่านดูเหมือนมีอยู่ 4 เวอร์ชั่นในองค์เดียวกันน่ะครับ สังเกตุให้ดี..

1. มีความเป็นพระเกจิขมังเวทย์อยู่ในตัว คือ ความเป็นถึงศิษย์หลวงปู่กลั่น แห่งวัดพระญาติ พระเกจิขมังเวทย์ที่ถูกยกเป็นระดับปรมาจารย์เมืองไทย ชื่อเสียงโด่งดังควบคู๋กับหลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า ศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคม ณ สำนักประดู่ในทรงธรรม หรือ โรงธรรม สำนักแห่งความขลังตามตำรับพระภาคกลางแต่โบราณกาล ขึ้นชื่อเรื่องความเหนียว แคล้วคลาด คงกระพัน เป็นปกติแห่งท้องถิ่นอยุธยา สิงบุรี ชัยนาท เมืองคนดุ เมืองนักเลงหัวไม้แต่ครั้งอดีต เป็นต้น

2. มีความเกี่ยวเนื่องด้วยองค์หลวงปูทวดท่านเป็นกรณีพิเศษ

3. ยังมีความเป็นพระปฏิบัติธรรมกรรมฐาน แนวความคิด แนวการปฏิบัติ แนวการสอน หลายๆอย่างของหลวงปุ่ดู่ทาน แม้ไม่เหมือนกันทั้งหมด แต่ก็ไม่ขัดกัน ท่านปฏิบัติตน ดำเนินจิตออกในแนวพระป่ากรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ซึ่งเป็นอีกองค์หนึ่งที่หลวงปู่ดู่ให้ความเคารพเป็นอย่างสูง ถึงกับนำคำสอนของหลวงปู่มั่นไปติดไว้ที่ฝาผนังห้องท่าน ยังปรากฏอยู่จนทุกวันนี้ และให้ศิษย์ที่ถามถึงวิธีการเดินจงกลม ท่านว่าให้ไปอ่านตามวิธีที่ท่านพระอาจารย์มั่นท่านเคยพาทำพาสอนมา อันเป็นการแปลกไปจากประเพณีปกติของพระท้องถิ่นเดิมในสมัยนั้น หรือเรียกว่ามีเพียงองค์เดียวในสมัยนั้นที่ดำเนินจิตในลักษณะพระกรรมฐานมาตลอดชีวิตท่าน

4. และยังเกี่ยวพันไปกับหลวงปู่เกษม อันเป็นพระล้านนา นอกจากผูกพันธ์กันทางจิตแล้ว ทั้งสององค์ท่านยังเป็นที่เคารพรักใคร่กันมาก ให้ศิษย์นำผง หรือน้ำมนต์ถวายแก่กันและกัน และก็กลายเป็นวัตถุมงคลถึงพวกเราทุกวันนี้ (เช่นนี้หนอ..??..จึงทำให้พระท่านขึ้นพระธาตุทั้งคู่..)

เมืองไทยการสะสมพระก็มีเท่านี้ล่ะครับ..สายใต้ก็ต้องหลวงปู่ทวด สายอีสานก็พระป่าฯ พระอริยะสงฆ์ พระอรหันต์ เข้ากรุงก็พระส่วนกลางเกจิขมังเวทย์ ขึ้นเหนือก็พระล้านนา

บางทีการเก็บพระหลวงปู่ดู่ท่าน เหมือนได้พระครบทั้ง 4 ภาค 4 แนวแห่งวิชชาน่ะครับ

ผู้ที่นิยมด้านพุทธคุณ เชื่อในความศักดิ์สิทธิ์เป็นหลัก ไม่ต้องเลือกองค์ที่แพงๆหรอกครับ แค่องค์ละ 3-400 บาทก็พอ ศักดิ์สิทธิ์ทั้งนั้น พระหลวงปู่ศักดิ์สิทธิ์เท่ากันหมดทุกองค์ ไม่ว่าจะรุ่นไหนรุ่นไหน ได้พระหลวงปู่องค์เดียวเหมือนได้ครบหมด ทั้งเจตนาการสร้างก็บริสุทธิ์มาแต่ยุคเก่า (ไม่เหมือนพระใหม่ๆออกทุกวันทุกวัด ในทุกวันนี้ เจตนาแท้จริงยังไงก็ไม่รู้..ได้แต่เชื่อๆไปตาม Brochure ที่ทีมงานเขาพากันโฆษณาเอา ลึกๆ..พระครึ่งหนึ่ง กรรมการครึ่ง นายทุนผู้สร้างอีกครึ่งหนึ่งเสียก็ไม่รู้..อุ๊บ..เผลอไป..อย่าพูด..:'( )

แถมบางที่พระหลวงปู่แท้ๆ มีอายุพอสมควร ยังมีราคาเช่าหาถูกกว่าพระที่เพิ่งออกเมื่อวานนี้เสียอีกน่ะครับ (น่าแปลกดีเหมือนกัน.. !! )..แต่เห็นเช่นนี้..พระหลวงปู่ฯก็ใช่จะหาแท้ๆ ทันๆ กันได้ง่ายๆน่ะครับ คนที่เขายังหาไม่ได้ ยังไม่พบ ก็ยังหาไม่ได้จนทุกวันนี้ และยังมีอีกจำนวนมากมายมหาศาลทีเดียวครับ

--------------------------------------------------------------------------------------------

อย่างไรก็ดี..ขอนุญาตเขียนฝากถึงเพื่อนๆน้องๆ สมาชิกท่านใหม่ๆ ที่อาจเพิ่งเข้ามาได้พบกับหลวงปู่ดุ่ท่าน
ความเป็นศิษย์หลวงปู่ท่านแล้ว..นอกจากเรื่องพระเครื่องแล้ว คงต้องไม่พ้นเรื่อง "ปฏิบัติธรรมกรรมฐาน" ควบคู่ไปด้วย

เดี่ยวนี้มีการเผยแพร่สำนักศิษย์อันเป็นสายหลวงปู่มากมายหลายแห่ง (และจะมีมากขึ้นไปอีกเรื่อยๆ ) หลายๆอย่างผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง ใกล้ชิดข้อมูลมาก รู้มาก ยิ่งรู้ยิ่งพูดไม่ได้ อึดๆอัดๆ เอาเป็นว่าสรุปๆ อยากแนะนำกันแบบพี่ๆน้องๆกัน (แต่รับฟังหรือไม่นั้น ไม่เป็นไรน่ะครับ ในโลกเราทุกคนต่างมีความเห็นที่แตกต่างกันได้ แต่อย่าได้ไปยึดติดกับเพียงตัวบุคคล แต่ให้ควรยึดติดกับพระพุทธเจ้าเป็นหลัก)

ผมฟันธงว่า.. ลองเข้าไปศึกษาที่เวบ Luangpudu.com ที่นั่นมีอะไรดีๆมาก..เป็นแนวปฏิบัติของศิษย์ที่ทันยุคหลวงปู่ท่าน ทีผมพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นของจริงของแท้ไม่แปลกปลอม ไม่หลงงมงาย ควรแก่การศึกษาเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติธรรมตามแนวหลวงปู่ดู่ท่านที่ถูกต้องครับ

ต้องเรียนว่า ผมแนะนำไปนี้ ไม่ได้รู้จักท่านเจ้าของเวบเขาเป็นการส่วนตัวเลยน่ะครับ และเวบเขาก็ไม่มีผลประโยชน์ ไม่มีการเรี่ยไรบริจาคใดๆโดยเด็ดขาด ไม่มีวัตถุมงคล ไม่มีใดๆทั้งสิ้น เป็นแต่เรื่องธรรมะ ข้อธรรมคำสอนอย่างเดียว Only

เพียงแต่ศึกษาดูแล้ว พิจารณาเทียบเคียงกับศิษย์ทันยุคท่านเก่าๆคนอื่นๆ (ที่ได้ชื่อว่าปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ และหลวงปู่ยกย่องแต่ครั้งนั้นน่ะ พวกโลๆเลๆไม่นับ ) หรือเปรียบเทียบกับแนวทางปฏิบัติสายพระป่ากรรมฐานที่ผมคุ้นเคยมาตลอดชีวิต เห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี ถูกต้องดีงาม ไม่ผิดเพี้ยนผิดแนวไป ก็มาแนะนำกันครับ (แต่อย่าได้ไปว่าศิษย์สายใดๆน่ะครับ ต้นทางต่างดีด้วยกันทั้งนั้น ต่างสอนให้เป็นคนดีทั้งนั้น แต่สอนให้ไปถึงจุดหมายปลายทางที่หลวงปู่ท่านต้องการสอนไปให้ถึงหรือไม่นั้น อาจแตกต่างกัน (คือสอนเพื่อการละ หรือ สอนเพื่อการสะสม /กับสอนเพื่อการพิจารณาแยกแยะหาเหตุหาผลแห่งตัวปัญญา กับ สอนเพื่อความหลง เพื่อความงมงาย เพื่อการเชื่อตามกัน เป็นต้น )

--------------------------------------------------------------------------------------------

ด้วยความเคารพ...JOpaa

 

วันนี้เมื่อบ่ายๆ ได้รับพระเนื้อผงหลวงพ่อเกษม ออกวัดพลับพลา ปี 2517 เรียบร้อยแล้วครับ ...

ขอบพระคุณมากครับพี่โจ & พี่ตุ้ย _/\_

ปล. ผ่านขึ้นภาคเหนือเมื่อไหร่ แจ้งมาได้นะครับ เดี๊ยวพาไปทานก๊วยเตี๋ยว อิอิ

 

วันนี้เอา ซีรี่ย์ พระพุทธเจ้าเหนือพรหม เนื้อผง มาฝากเพื่อนๆครับผม
จะว่าไปแล้ว พระเครื่องของหลวงปู่ ทำออกมาหลายรุ่นหลายพิมพ์มา โดยส่วนมากก็จะเป็นการถอดพิมพ์พระจากหลายๆ สำนัก เช่น สมเด็จวัดต่างๆ พระหลวงปู่ทวด พระหลวงพ่อปาน พระเจ้าคุณนรฯ ฯลฯ และอีกมากมาย

แต่พระที่เป็นเอกลักษณ์ของหลวงปู่ท่านเองคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าคือ พระพิมพ์พระพุทธเจ้าเหนือพรหม ซึ่งลองนับดูแล้วก็มีการสร้างอยู่ไม่กี่รุ่นเท่านั้นเอง คือ




1. พระพุทธเจ้าเหนือพรหมพิมพ์ใหญ่ สร้างประมาณ ปี พ.ศ.2517 เป็นต้นมา ซึ่งรุ่นนี้ก็แบ่งได้เป็นหลายพิมพ์ เช่น พิมพ์จัมโบ้ พิมสายฟ้า พิมพ์คอปาด(ใครเป็นคนตั้งก็ไม่รู้ - -") แต่ที่จำแนกได้ชัดเจน ก็จะเป็นรุ่นไม่มีขอบ(ซึ่งสร้างขึ้นมาเป็นรุ่นแรกสุด) และรุุ่นที่มีขอบ



2. พระพุทธเจ้าเหนือพรหมพิมพ์กลาง สร้างประมาณปี พ.ศ.2519 เป็นต้นมา ซึ่งรุ่นนี้หาสวยยากหน่อย ส่วนใหญ่จะเห็นเป็นหน้าสังขยา เสียส่วนใหญ่


3. พระพุทธเจ้าเหนือพรหมรุ่นฉลอง 200 ปีกรุงเทพมหานคร สร้างปี พ.ศ.2525 หรือที่เรียกกันว่า พรหมยิ้ม ด้วยลักษณะใบหน้าของพระพรหม พิมพ์นี้นับได้ว่าเป็นพิมพ์ที่สวยมาก มีความคมชัดกว่าพระเหนือพรหม รุ่นอื่นๆ จำนวนการสร้าง 200 องค์



4. พระพุทธเจ้าเหนือพรหมเนื้อดินเผา สร้างปี พ.ศ.2531 (ศิษย์สร้างถวาย) พระพุทธเจ้าเหนือพรหมรุ่นนี้มีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 800 องค์ โดยจะแบ่งเป็น ดินเผาสีแดง 500 องค์ และ ดินเผาสีขาว 300 องค์ และ พระรุ่นนี้ต่อมาได้เป็นต้อนแบบของ พระพุทธเจ้าเหนือพรหม ปี พ.ศ.2532


5. พระพุทธเจ้าเหนือพรหมพิมพ์เล็ก(พรหมเกศา) สร้างปี พ.ศ.2532 พระรุ่นนี้จะพิเศษตรงที่มีการบรรจุเกศา ของหลวงปู่ลงไปด้วย (น่าบูชามากองค์เล็กสวยกำลังดี ได้ทั้งเกศา เลี่ยมขึ้นคอก็ไม่ใหญ่มาก)


6. พระพุทธเจ้าเหนือพรหมถอดพิมพ์จาก เหรียญหล่อพรหม ปี 22 พระพรหมพิมพ์นี้จะมีขนาดใกล้เคียงกับพระพรหมเกศาปี 32 แต่ที่เห็นส่วนใหญ่จะมีขนาดบางกว่า พิมพ์จะไม่ค่อยชัดเหมือนพระพรหม ปี32


<O</O7. พระพุทธเจ้าเหนือพรหม(รุ่นพิเศษ) ไม่ทันหลวงปู่อธิฐานจิต เป็นพระเหนือพรหมที่สร้างขึ้นมาจากมวลสารผสมอังคารธาตุของหลวงปู่จำนวนการสร้างน้อย และได้เมตตาจาก พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย และหลวงปู่ทิมวัดพระขาว อธิฐานจิตด้วยครับ<!-- google_ad_section_end --> (ขอบคุณ น้องนิวส์ให้ข้อมูลเพิ่มครับ)

พระผงพุทธคุณ พระพระพุทธเจ้าเหนือพรหม เท่าที่เห็นก็น่าจะมีอยู่เท่านี้ (ไม่รวมพระผงถอดพิมพ์หลวงปู่สี) ครับ

ทำไมถึงเป็นพระพุทธเจ้าเหนือพรหม
ในการสร้างพระเครื่องประเภทเนื้อปูนผสมผงพุทธคุณของหลวงปู่ดู่นั้น จักสังเกตุเห็นได้ว่าหลวงปู่ดู่ท่านจะสร้างพระเครื่องไว้เพื่อเป็นพุทธานุสติแก่บรรดาศิษย์เพื่อให้ระลึกเสมอว่าพระพุทธองค์ทรงเป็นผู้ทรงประเสริฐสุดหาที่เปรียบมิได้ ดังที่จะกล่าวในพระชุด ”พระพุทธเจ้าเหนือพรหม”นี้ ลป.ดู่ท่านได้หยิบยกพระพุทธตำนานตอนหนึ่งซึ่งเป็นพระตำนานที่อยู่ในบทสวดพระคาถาพาหุงบทหนึ่งว่าfficeffice" /><O></O>
“ทุคคาหะทิฏฐิ ภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง
พรหมมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง<O></O>
ญาณาคะเทนะวิธินา ชิตะวา มุนินโท<O></O>
ตันเตชะสา ภะวะตุเต ชะยะมังคะลานิ”<O></O>
…พระคาถาบทพาหุงบทนี้ ตามพุทธตำนานได้กล่าวถึงตอนสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ปราบทิฐิของท้าวผกาพรหมที่ว่าตนเองมีอิทธิฤทธิ์มากและมีความอมตะไม่ตาย จึงคิดท้าพระพุทธเจ้าให้มาลองอิทธิฤทธิ์กัน โดยการท้าลองครั้งนี้คือให้อีกฝ่ายซ่อนและอีกฝ่ายหา หากผู้ใดซ่อนและผู้หา หาไม่พบถือว่าชนะและฝ่ายแพ้จะต้องมาเป็นสาวกของฝ่ายชนะ…เริ่มจากฝ่ายท้าวผกาพรหมเป็นผู้ซ่อนก่อน ท้าวผกาพรหมแปลงกายเป็นธุลีเม็ดทรายหนึ่งเม็ดโดยซ่อนตนเองปะปนอยู่ในทะเลทราย ด้วยพระบารมีของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ใช้ฌาณ ตรวจหาไม่นานก็ค้นพบท้าวผกาและชี้ถูกว่าท้าวผกาพรหมเป็นเม็ดทรายเม็ดไหนอย่างถูกต้องครั้งนี้ท้าวผกาพรหมจึงเป็นฝ่ายแพ้ พอถึงคราวพระพุทธเจ้าเป็นผู้ซ่อนบ้าง พระพุทธองค์ทรงย่อพระวรกายให้เล็กลงแล้วเสด็จขึ้นไปประทับซ่อนอยู่ในมวยผมบนเศียรของท้าวผกาพรหม ฝ่ายหาคือท้าวผกาพรหม ก็เริ่มตามหาพระพุทธเจ้าหายังไงก็หาไม่เจอ หาทั่วทั้ง๓ภพ(ภพโลก ภพสวรรค์ ภพนรก)ก็หาไม่เจอหาไปสุดขอบแดนจักรวาลก็หาไม่เจอ ท้าวผกาพหรมจึงยอมแพ้ เมื่อพระพุทธองค์ทรงพิจารณาเห็นว่าท้าว ผกาพรหมลดทิฏฐิลงมากแล้ว พระพุทธองค์จึงคลายฤทธานุภาพกลับสู่สภาพเดิม และทรงแสดง พระธรรมเทศนาโปรดท้าวผกาพรหม จนบรรลุเป็นพระโสดาบัน แต่ขณะนี้เป็นพระอนาคามีแล้ว จักเข้าถึงพระนิพพาน ในยุคพระศรีอริยเมตไตรย จากนั้นมาจึงมีพระนามเรียกขานกันว่า “พระพรหม”


<O> .............................................................................................................................................</O>
ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลเพียงเบื้องต้นสำหรับผู้ศึกษาใหม่นะครับ หากผิดพลาดขาดตกบกพร่งประการใด ขอน้อมรับทุกคำ ติ ครับ......<O></O>

 

ดีจังเลยครับคุณอิฐมอญ......ได้ความรู้อีกแล๊ววววว

 

พี่โจสงสัยพี่เปิดเครื่องโทรศัพท์ โทรติดต่อไม่ได้คับ ......อิอิ

 

ช่วยตรวจสอบ และ เพิ่มเติมข้อมูลให้ด้วยนะครับ นิวส์
พี่โจ สงสัย จะหลับเมื่อคืนดึก อิอิ

 

สุดยอด..ดดด น้าแบงค์จัดชุดใหญ่..!!

ครบถ้วนจบกระบวนความ..ยกชุด "พระพุทธเจ้าเหนือพรหม"

คาดว่าน่าจะเป็นการจัดชุด อธิบายไว้ละเอียดพร้อมภาพประกอบ ที่มีการเผยแพร่เป็นครั้งแรก

โดยเฉพาะพิมพ์ที่ 6 กับ 7 ยังอาจมีอีกหลายๆท่าน ที่ยังไม่รู้ว่ามีพิมพ์นี้กับเขาด้วยหรือ..??

อิ..อิ..อยู่กันเมื่อคืน เพิ่งคุยกันเรื่อง เพื่อนๆสมาชิก pm.มาเตือนให้ใส่ชื่อที่องค์พระด้วย

วันนี้เอาเลยน่ะ..สอนมั้ง..สอนมั้ง !!

 

ได้เลยครับผม ACDsee ก็ใส่ได้นะครับพี่

 

สรุปได้ครบถ้วนคับ ขอเพิ่มเติมอีกนิด ของพระพุทธเจ้าเหนือพรหมเนื้ออังคารธาตุ นอกเหนือจากอาจารย์นอง วัดทรายขาวเเล้ว ยังมี อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย และหลวงปู่ทิมวัดพระขาว อธิฐานจิตด้วยครับ

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมครับผม รู้ลึก รู้จริง ต้องเซียน นิวส์