กรรมของสัตว์เดียรัจฉาน...คนที่ตายแล้วไปเกิดในภพสัตว์เดียรัจฉาน

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย เทพออระฤทธิ์, 26 พฤษภาคม 2009.

  1. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,048
    สัตว์เดียรัจฉาน
    โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง


    ท่านสาธุชนทั้งหลาย เรานอนพักกันในดินแดนของมนุษย์ แล้วก็อยู่ในระหว่างพวกสัมภเวสี อสุรกาย แล้วก็เปรตมาเจ็ดวัน ท่านทั้งหลายมีความสุข มีความทุกข์เป็นประการใด อันนี้ก็เป็นเรื่องของญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายที่มีโอกาสมาทัศนาจรและชมสภาวะของคนที่ตายไปแล้ว ทีนี้ ต่อจากนี้ไป เราก็มาพูดกันถึงเรื่องของสัตว์เดียรัจฉานบ้างยังเป็นอบายภูมิอยู่


    สัตว์เดียรัจฉานที่เราเห็นอยู่ที่นี้ทั้งหมดไม่ใช่ใคร เป็นคน ตั้งแต่สัตว์ตัวเล็กๆ ตั้งแต่เล็นไรขึ้นมาถึงช้าง สภาวะของสัตว์ มีความรู้สึกนึกคิดเหมือนคน มีความต้องการเท่าคน แต่ว่าบรรดาคนทั้งหลายนี่แหละอุปโลกให้บรรดาสัตว์เหล่านั้น ที่ว่าสัตว์เหล่านี้มีสมองเล็กบ้าง มีสมองใหญ่บ้าง อะไรต่ออะไรตามเรื่องของท่าน สมมติว่าสัตว์มีความต้องการไม่เท่าคน เพราะอะไร บรรดาท่านพุทธบริษัท? เพราะว่าสัตว์เหล่านี้อกุศลกรรมความชั่วยังสนองอยู่ จึงได้มีความลำบาก แต่ความจริงถ้าจะว่ากันไปก็ยังดีกว่าเปรต อสุรกาย นี่กรรมมันเบาขึ้นมาแล้ว เมื่อสัตว์ประเภทนี้ตายไปแล้วจากคนไปเกิดในนรก เป็นเปรต อสุรกาย แล้วก็มาสัตว์เดียรัจฉานเป็นประเภทนี้ก็มี แล้วบางประเภทตายจากคนไปเป็นสัตว์เดียรัจฉานก็มี ตายจากพระไปเป็นเดียรัจฉานก็มี นี่เรื่องของเพศเรื่องของเครื่องแบบไม่แน่นัก อันนี้จะว่าถึงสัตว์ที่มาจากนรก

    [​IMG]

    สัตว์ประเภทนี้ต้องเสวยกฎของกรรม ตั้งแต่เป็นสัตว์เล็กถึงสัตว์ใหญ่ ต้องใช้หนี้ชีวิตสัตว์ หมายความว่าเราฆ่าสัตว์ประเภทใด ๑ ตัว เราก็ต้องให้หนี้ชีวิตเขา ๑ ชีวิต สมมติว่าเราฆ่าปลาสักพันตัว นี่เราก็ต้องเกิดเป็นปลาสักพันครั้งให้เขาฆ่าพันครั้ง อันนี้ถูกหรือไม่ถูกก็ไม่ทราบนะ บางทีท่านบอกว่าใช้หนี้ชีวิตมากกว่า ๑ ชีวิตก็มี เป็นว่าสัตว์ประเภทนี้มีความลำบาก ความต้องการเท่าคน เพราะอะไร? เพราะว่าเป็นคนนั่นเอง ความรู้สึกเป็นคน แต่ว่ามาอยู่ในร่างกายของสัตว์ เป็นเหตุให้คนด้วยกันมีความปรานีน้อย บางทีก็เห็นว่าสัตว์ประเภทนี้เป็นอาหารเอาไปยิงกินเสียบ้าง ยิงเล่นเสียบ้าง จนกระทั่งมีเรื่องราวกันต่างๆ นี่เพราะอะไร เพราะกรรมของสัตว์นั้น เคยฆ่าเขามาก่อน แม้จะอยู่ในป่าลึกสักเพียงใดก็ตามที มีคนเมตตาปรานีให้อภัยแก่สัตว์นี้ว่าไม่ควรฆ่า เลี้ยงไว้เพื่อเป็นสวนสัตว์ รักษาพันธุ์เข้าไว้ แต่มีคนใจร้ายเข้าไปยิง เขาว่าอย่างนั้นนะเขาบอกมีคนใจร้ายเข้าไปเข่นฆ่า แต่ว่าความรู้สึกของอาตมาไม่ใช่ยังงั้น ถือว่าคนที่เข้าไปฆ่านั้น เคยมีกรรมต่อกันมา คือสัตว์ประเภทนี้เคยฆ่าเขาถึงแม้ว่าจะอยู่ในสถานที่ปลอดภัยแล้วเขาให้อภัยแล้วก็ยังต้องถูกฆ่า นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายโดยถ้วนหน้า ที่ติดตามกันมาทัศนาจรดูฝูงสัตว์พึงเข้าใจ แล้วสัตว์ก็มีความลำบาก เพราะมีความต้องการอย่างคน แต่ความปรารถนาไม่สมหวัง ต้องการกินเนื้อเขาให้ผัก ต้องการกินเนื้อเขาให้น้ำ ต้องการอย่างโน้นเขาให้อย่างนี้ ต้องการความเป็นอยู่อย่างเป็นสุข เขาก็ให้อยู่อย่างเป็นทุกข์ นี่แหละการเกิดเป็นสัตว์มันก็ยังไม่ดี แต่ว่าดีกว่าเป็นเปรตกับอสุรกายมาก ยังพอหาอาหารกินเองได้ แล้วอาหารที่ได้กินก็เป็นเนื้อจริงๆ

    [​IMG]


    ทีนี้ เรามานั่งมองดูสัตว์กัน มองดูสัตว์ที่มีสภาวะไม่เสมอกัน สัตว์บางพวกมีคนเมตตาปรานีมาก สัตว์บางพวกไม่มีใครสนใจ นี่เป็นเพราะอะไร เป็นเพราะสัตว์พวกนั้นแสวงหาเลี้ยงชีพเอง ดีไม่ดีเข้าไปในเขตของบ้านใครเขาก็ตีบ้างไล่ขว้างเอาบ้างอย่างไม่มีความปรานี ถ้ามองไปดูสัตว์อีกประเภทหนึ่ง แหมช่างดีเหลือเกิน เจ้าของกินน้ำพริกปลาร้า แต่ว่าสัตว์ประเภทนี้กินเนื้อมีคนเมตตาปรานีมาก แต่อย่าเข้าใจผิดนะว่ามันดีถึงที่สุด ยังก่อน ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะความต้องการของสัตว์ประเภทนี้อาจจะต้องการอย่างอื่นบ้าง แต่ว่าเจ้าของคิดว่าสัตว์มีความต้องการอย่างนี้ นี่ก็มีความทุกข์ใจอยู่เหมือนกัน ถ้าจะถามว่าทำไมมันถึงจะเป็นอย่างงั้น ก็ตอบไม่ยาก ตอบว่าเพราะผลความชั่วน้อยลงไป อำนาจทานบารมีกับเมตตาบารมีของสัตว์นี้ที่เคยบำเพ็ญมาสมัยเป็นคนเริ่มให้ผล เริ่มมีความดีขึ้นแล้วจึงมีคนเมตตาปรานี แล้วก็สัตว์ประเภทนี้ ถ้าตายจากความเป็นสัตว์คราวนี้ก็ไปใหม่ จะไปเกิดเป็นคนหรือเกิดเป็นเทวดาก็ตามใจ ด้วยอำนาจผลบุญที่สร้างไว้ นี่เรียกว่าสัตว์ที่ตายเป็นลำดับ คือรับผลตั้งแต่นรกขึ้นมา

    [​IMG]


    ตานี้ มีสัตว์พิเศษอีกพวกหนึ่ง สัตว์ประเภทนี้ เวลาตายจากคนแล้วก็เกิดเป็นสัตว์เดียรัจฉาน อันนี้เพราะเราสังเกตได้ง่าย สัตว์ประเภทนี้มีการรู้ภาษาคนมาก เราพูดอะไรเธอจะรับฟังรู้เรื่อง สำคัญเราเท่านั้นเหละที่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องของสัตว์ ทำไมจึงเป็นอย่างนั้นก็ขอตอบว่าเพราะใจเราอยากจะเป็นอย่างงั้น ใจมันเป็นอย่างไงล่ะ? เวลาจะตายใจมันอยากเป็นสัตว์เดียรัจฉาน บางกรรมที่ทำไว้เกินกว่าความเป็นสัตว์เดียรัจฉาน มีความชั่วควรจะลงนรก แต่เวลาตาย ใจมันอยากเป็นสัตว์เดียรัจฉานเสีย ก็เลยกลายเป็นสัตว์เดียรัจฉานไป ยังไม่ลงนรกก่อน ตานี้กรรมที่จะต้องทำให้ลงนรกมันยังติดตามอยู่ คอยให้ผลในชาติต่อๆไป ถ้ามีโอกาสเมื่อไรเป็นเล่นงานเมื่อนั้น เป็นอันว่าจะต้องตกนรกกันเมื่อนั้น นี่ เป็นอย่างนี้ ทำไมคนจึงอยากเป็นสัตว์เดียรัจฉาน? ก็จะพูดให้ฟัง เอาตัวอย่างมาพูดให้ฟัง พระพุทธเจ้าท่านกล่าวว่าจิตน่ะมีความสำคัญ ท่านพุทธบริษัทจิตมีความสำคัญมาก เวลาเราจะตาย ถ้าจิตมีความต้องการอะไร มันจะไปตามความต้องการ ถ้าเราทำความชั่วไว้มาก แต่ถ้าเวลาจะตายจิตมันเกิดมีความรู้สึกดีขึ้นมานึกถึงความดี เช่น นึกถึงคุณ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดามารดา นึกถึงผลของทาน การให้ มีความเลื่อมใสในความดี อารมณ์เกิดผ่องใสขึ้นมา ตอนนี้บาปยังให้ผลไม่ได้ จิตไปตามกำลังของความดี ที่ตัวนึกถึงอยู่ก่อน

    ตานี้สมมติว่า ถ้าเราทำความดีไว้มาก เวลาจะตายจิตกับไปเกาะความชั่วเข้านิดหนึ่ง แล้วก็เกาะไม่ปล่อย เวลาตายต้องไปรับผลของความชั่วก่อน มีตัวอย่างคนที่จะเกิดเป็นสัตว์เดียรัจฉาน แต่ว่าสร้างความชั่วไว้แยะ ควรจะลงนรก แต่ว่าไม่ลงนรกไปเกิดเป็นสัตว์เดียรัจฉาน

    [​IMG]

    ตัวอย่างก็มีว่าในสมัยก่อนนั้น สมัยก่อนที่พูดนี่น่ะ เวลานั้นมีคนอยู่คนหนึ่ง ชื่อว่านายโกตุหริกะกับภรรยาคนหนึ่ง แล้วก็ลูกเล็กๆ ที่ยังเดินไม่ได้อีกคนหนึ่ง เขาอยู่เมืองๆหนึ่ง แต่ทว่าเมืองนั้นเกิดโรคระบาดที่เขาเรียกกันว่าห่าลงเมือง คือว่าโรคอหิวาต์หรือกาฬโรคนี่เอง หมอสมัยนั้นยังมีสมรรถภาพไม่ดีนัก เวลาเป็นกันขึ้นมาก็ตายกันเป็นตับ แล้วเขาก็มีประเพณีอยู่ว่า เวลาเกิดโรคนี้ขึ้นเมื่อใด ถ้าใครจะหนีโรคนี้ก็จะต้องพังฝาเรือนออก ลงทางบันไดไม่ได้โรคมันจะเห็น เรียกว่าพวกห่ามันเห็น มันจะตามมากิน สองคนตายายก็รวบรวมทรัพย์สินกับอาหารพอที่จะกินไปในตามทางเท่าที่จะพึงมีแล้วก็เดินไปในป่า ลัดเลาะตัดไปอีกเมืองหนึ่ง ในระหว่างทางก็ปรากฎว่าอาหารหมด คราวนี้ชักยุ่ง มันก็เกิดความหิว กำลังก็น้อยลงมา ไอ้ผัวก็เลยบอกเมียว่า ไอ้ลูกของเรานี่มันสร้างความลำบากต้องมานั่งผลัดกันอุ้ม ปล่อยให้มันตายเสียดีกว่าเรายังหนุ่มยังสาวอยู่ แล้วพี่จะทำให้ใหม่สักคนหรือจะเอาอีกหลายๆคนก็ได้ จะช่วยทำให้ แต่ว่าเมียนี่ ขึ้นชื่อว่าแม่มีความรักลูกมาก เพราะว่าเลือดในอก จึงได้ห้ามปรามบอกว่า ทำอย่างนั้นไม่ได้ ฉันไม่ยอมให้ทำ จะฆ่าลูกไม่ได้ อีตาผัวก็ตั้งใจว่าเมื่อเผลอเมื่อไรจะจัดการกับลูกคนนี้ เพราะมันเป็นมารขวางคอไอ้เราหิวก็หิว เหนื่อยก็เหนื่อย อาหารก็ไม่มีกิน มันก็ต้องให้เราอุ้มอยู่ตลอดเวลา พอถึงเวลาใกล้ค่ำ เขาก็หานโยบายรับลูกมาจากเมียให้เมียเอาหาบไปหาบแทน แล้วตัวเขาเองก็เอาลูกมาอุ้ม ทำเป็นเดินช้าๆ เวลามันใกล้ค่ำ เวลามันมัวตาลงแล้ว เขาก็บอกกับภรรยาว่าปวดปัสสาวะ ประเดี๋ยวจะนั่งปัสสาวะ สักหน่อยหนึ่ง ให้ภรรยาล่วงหน้าไปก่อน ภรรยาก็เชื่อ พอเดินล่วงหน้าไปเขาก็นั่งข้างพุ่มไม้ เอาเจ้าเด็กคนนี้ซุกเข้าไปโคนต้นไม้แล้วก็เอาใบไม้ใบหญ้าคลุมเสีย ก็เด็กกำลังมันอ่อนเท่านั้น ประเดี๋ยวมันก็ตาย เขาก็แกล้งนั่งปัสสาวะเสียนาน แล้วเวลาเดินตามภรรยาไปก็เดินช้าๆ ไม่ยอมให้ทันเร็วนัก เพราะเกรงภรรยาจะถามความเป็นจริง ในเมื่อไปพบภรรยาเข้าก็ปรากฎว่ามันค่ำมากแล้ว ภรรยาก็ถามว่าลูก ไปไหน เขาเลยบอกว่าพี่เอาซุกเสียโคนต้นไม้โน่นแล้ว เมียก็บอกว่าไปตามกับคืนมาเขาก็บอกว่าจำทางไม่ได้แล้วมันมืด ป่านนี้มันก็คงจะตายแล้ว ไม่เป็นไรหรอกน้องรัก เอาเถิดถ้าเจ้าต้องการลูกละก้อ?

    ถ้าอาหารมีกินสมบูรณ์เมื่อไร พี่จะจัดการสร้างลูกให้ใหม่ ตามความประสงค์ของเธอ เมียก็จนใจเพราะกลับไปเอาคืนไม่ได้ ก็เป็นอันว่าเลิกกัน เดินทางต่อไปรอนแรมไปในป่าสิ้นเวลาประมาณ ๗ วัน เพราะอดอาหาร เข้ามาถึงเมืองโกสัมพี ตอนนี้ก็เห็นบ้านท่านมหาเศรษฐีหรูหราใหญ่โตมีคนมาก ก็ปรึกษากัน ๒ คน ตายายว่าเรานี่อดอาหารเป็นคนจนจะเข้าไปหาบ้านคนจนก็คงไม่มีประโยชน์นัก ไปบ้านมหาเศรษฐีนี่แหละไปรับจ้างท่าน จะได้ยังอัตภาพให้เป็นไปพอมีชีวิตอยู่ พอเรี่ยวแรงดีมีกำลังดีที่จะได้เร่งรัดสร้างลูกทดแทนลูกที่ตายไป เขาว่ายังงั้นหรือเปล่าก็ไม่ทราบ แต่คงจะพูดแบบนั้นไอ้ที่พูดตรงนี้น่ะมันเลยตำราไปนิด เดี๋ยวจะหาว่าเอ๊ะนี่ตำราเขาไม่ได้พูดไว้นี่ เอามาพูดทำไมมันอยากพูดก็เลยพูดแบบนี้แหละเพราะคนเขาชอบยังงั้น เขาชอบสร้างลูกกัน แต่ความจริงตัวเองคนเดียวก็หนักอยู่แล้ว

    พระพุทธเจ้ากล่าวว่า ภาราหเว ปัญจักขันธา ขันธ์ทั้ง ๕ เป็นภาระอันหนัก แต่ว่าคนเราไม่ชอบ มีขันธ์ ๕ หนักพอแล้ว มีขันธ์ ๕ เข้ามาอีก ๕ ขันธ์ รวมสามีหรือภรรยามันก็เป็น ๑๐ ขันธ์ หนักเข้าไปอีก ต้องการลูกอีกคน ห้าขันธ์ ขันธ์มันก็หนักกันใหญ่ เมื่อหนักมาก หนักเกินไป ดีไม่ดีไอ้ความหนักมันก็ถ่วงลงนรกไป อ้าว นี่มันเรื่องของชาวบ้าน พระไม่เกี่ยว ว่ากันต่อไป


    เมื่อเข้าไปถึงบ้านท่านมหาเศรษฐีกำลังกินข้างมธุปายาส แล้วมีสุนัขตัวเมียตัวหนึ่ง เป็นหมาตัวโปรดของท่านมหาเศรษฐี กำลังนอนอยู่ใกล้ๆ ท่านมหาเศรษฐี กินข้าวมธุปายาสไปพลางก็ส่งให้หมากินบ้างท่านกินบ้าง น่ากลัวจะมีจริยาคล้ายๆ กับคนพูด คนพูดนี่ก็เหมือนกัน ถ้าลงกินข้าวหรือกินขนมใกล้หมาใกล้แมวแล้วอดแบ่งไม่ได้ เพราะถือว่าเรามันเป็นเพื่อนกิน เพื่อนเกิด เพื่อนแก่ เพื่อนเจ็บ เพื่อนตาย เพื่อนมีความทุกข์ คือว่าหมากับแมวหรือสัตว์เดียรัจฉานทุกประเภทมีสภาวะเหมือนกับผู้พูด เสมอกัน ไม่เห็นว่าจะมีอะไรดีกว่ากัน สุนัขถ่ายอุจจาระมาเหม็น ไอ้เราขี้มาก็เหม็นเหมือนกัน มันก็เท่ากัน สุนัขแก่ได้ เราก็แก่ได้ สุนัขตายได้ เราก็ตายได้ สุนัขป่วยไข้ไม่สบายฉันใด เราก็ป่วยไข้ไม่สบายเหมือนกัน เพราะว่ากรงน่ะเขาไม่ได้สร้างให้สัตว์เดียรัจฉานอยู่ กฎหมายเขามีไว้เขาไม่ได้ลงโทษสัตว์เดียรัจฉาน พวกนี้ได้รับความปลอดภัย แต่คนพูดหรือคนฟังนี่แหละสำคัญ หรือท่านทั้งหลายที่ติดตามมาเที่ยวนี่ก็เหมือนกัน ระวังนะ กฎหมายเขามีไว้ลงโทษพวกท่าน ต่างกับสัตว์เดียรัจฉาน ไม่มีกฎหมายฉบับไหนสั่งให้สัตว์เข้าคุกเข้าตารางกี่ปีกี่วันกี่เดือน แต่ว่าคนนี่มีกฎหมายลงโทษ เป็นอันว่ากฎหมายนี่ให้สิทธิ์พิเศษแก้สัตว์เดียรัจฉาน แต่ว่าอย่าไปอยากเป็นเลย มาพูดถึงว่าคนอยากเป็นสัตว์เดียรัจฉาน ในเมื่อสองตายายเข้าไปหาท่านมหาเศรษฐีและสมัครทำงานกับท่าน เล่าความเป็นจริงว่าเดินมาในป่าอดอาหารมาหลายวันเพราะความยากจน เพราะโรคระบาดมันเกิด ท่านมหาเศรษฐีก็มีความเมตตา บอกว่าจะไปจัดข้าวมธุปายาสสำหรับที่ฉันกินนี่แหละเอามาให้กับสองตายายนี่ เขาจะได้กิน แม่ครัวก็จัดมาเป็น ๒ ส่วน มาส่งให้ ๒ คน ภรรยามีความรักสามีมาก หรือว่าจะมีความปรารถนาให้สามีสร้างลูกชดใช้ก็ไม่ทราบ ส่วนของตัวเลยไม่กิน ยั้งไว้ก่อน สามี แหมไอ้ตัวนี่ลำบากนะ ท่าจะรักเมียน้อย ผู้ชายนี่ถ้าจะรักผู้หญิงน้อยกว่าผู้หญิงรักผู้ชาย จะเหมือนกันทุกคนหรือไม่เหมือนก็ไม่ทราบ นี่เป็นข้อสังเกต เพราะว่าเจ้าผัวพอเขาส่งให้ก็หม่ำไม่รอ กินไม่รอ มีเท่าไหร่กินหมด เมียยังไม่กิน พอเห็นผัวกินหมดแล้วก็ส่งส่วนของตัวให้ บอกว่าขอให้ท่านจงบริโภคให้อิ่ม ถ้าหากว่าท่านมีชีวิตอยู่ฉันก็ชื่อว่ามีความสุข ถ้าหากว่าท่านไม่มีชีวิตอยู่ฉันจะหาความสุขไม่ได้ อีตรงนี่สงสัยว่าทำไมความสุขของผู้หญิงจึงต้องอาศัยผู้ชาย แปลก บางทีพ่อเจ้าประคุณ กินเหล้าเมายา ก็เตะตุ๊บ เตะตั้บ ด่าเมียบ้าง ซ้อมเมียบ้าง แล้วบางทีก็ปล่อยให้เมียนั่งคอยจนดึกจนดื่นแต่ว่าทำไมหนอ สงสัยเหลือเกิน ทำไมเขากล่าวว่าท่านมีชีวิตอยู่ฉันก็ชื่อว่ามีความสุขทั้งๆ ที่ผัวก็ใจร้าย เอาลูกไปฆ่า ไปทิ้งให้ตายในป่า อีตรงนี้คนพูดไม่เข้าใจนะ ท่านที่ติดตามมาทัศนาจร ท่านเป็นผู้หญิง ผู้ชาย ท่านเข้าใจละก็ไม่ต้องบอกหรอก ไม่รับฟัง เพราะไม่อยากจะฟัง ไม่อยากจะเกิดมันอีกแล้ว เข็ดเต็มที เป็นอันว่าเจ้าผัวตะกละคนนี้เลยล่อเสีย ๒ ส่วน ของเมียก็กินหมด ของตัวเองก็กินหมด แต้ระหว่างที่เขานั่งอยู่เขากินอยู่ เขาเห็นแต่หมาตัวเมียของเศรษฐี นึกว่าหมาตัวนี้นี่มันดีกว่าเรานะ มันอยู่กับท่านมหาเศรษฐี ไม่ต้องทำงานทำการ กินข้าวมธุปายาส ท่านมหาเศรษฐีก็โปรดปราน แหมดีกว่าเรามาก เราเป็นคนเสียอีกข้าวมธุปายาสพึ่งได้กินครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่เจ้าหมาตัวนี้กินเป็นปกติ งานก็ไม่ต้องทำ จิตใจก็สนอยู่กับสุนัขตัวเมียเท่านั้น ล่อข้าวเข้าไป ๒ จานหมด ทีนี้ร่างกายมันเพลียอยู่แล้ว ในบาลีท่านบอกว่าไฟธาตุไม่สามารถจะย่อยอาหารได้หมด เพราะเพลียมาก กำลังไฟน่ากลัวจะน้อยไป อาหารไม่ย่อยแกก็ท้องอืดตายเสียเวลานั้นเอง เวลาที่แกจะตาย อาศัยที่ใจแกจับอยู่ที่สัตว์เดียรัจฉานตัวนั้น หมาตัวนั้น ไอ้จิตที่ออกจากร่างที่เรียกว่าอทิสมานกาย กายภายในทีมันออกจากร่างนั้น ก็ปาเข้าไปอยู่ในท้องหมานี่ เลยกลายเป็นลูกหมาไป เมื่อครบกำหนดแล้วก็ออกมาเป็นหมา ไม่ยักเป็นคน เห็นไหมล่ะ นี่ คนอยากเป็นสัตว์เดียรัจฉาน ก็เป็นไม่ยาก พระพุทธเจ้า จึงกล่าวว่า กัมมัง สัตเต วิภัชชติ กรรมย่อมเป็นเครื่องจำแนกสัตว์ ไอ้กรรม คือการกระทำหรือความดีนี่น่ะ เป็นคนแท้ๆ แต่ไปสนใจกับหมา เวลาตายก็เลยเข้าท้องหมาไป เมื่อครบกำหนดหมาคลอด เจ้าลูกหมาตัวนี้มีความรู้ภาษาคนมาก ท่านมหาเศรษฐีก็โปรดปราน เรียกว่าชอบใจมันมาก ชอบใช้ชอบเรียก จะพูดอะไรมันรู้ภาษาคนมาก


    นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัท คนเรานี่นะ ถ้าหากว่ามีเจตนาชั่วเสียอย่างเดียวเวลาตายแล้วมันเกิดเป็นคนใหม่ได้ยาก นี่ความจริงเจ้าโกตุหลิกะนี่เขาจะต้องตกนรกเพราะฆ่าลูก แต่ทว่าผลของกรรม คือจิตก่อนที่จะตายไปสนใจกับสุนัข ไปสนใจหมา (พูดว่าหมามานานแล้วนี่ จะมาว่าสุนัขกันยังไง) เมื่อตายแล้วเข้าไปอยู่ในท้องหมา ออกมาแล้วตัวก็เป็นหมา ตานี้เมื่อตัวเป็นสัตว์เดียรัจฉาน ความรู้สึกก็เป็นมนุษย์ทุกอย่าง มีความต้องการอย่างมนุษย์ นี่ท่านจะเห็นความลำบากไหม มนุษย์เราต้องการกินอะไรบ้างล่ะ ต้องการเสื้อผ้านุ่งห่ม ต้องการทีนอนดีๆ ต้องการหมอนมุ้ง ต้องการอาหารรสเปรี้ยวหวานมันเค็ม แต่ทว่า มันไม่ได้สมความปรารถนา ถึงแม้ว่าจะมีความสุขเพราะเขาเลี้ยง แต่ก็สุขไม่พอ


    นี่ละ บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท จำให้ดีนะ แล้วก็หมาตัวนี้ เวลานั้น ท่านมหาเศรษฐีมีความเคารพในพระปัจเจกพุทธเจ้าอยู่องค์หนึ่ง เวลาที่ท่านนิมนต์พระปัจเจกพุทธเจ้า ก็เอาหมาตัวนี้ไปด้วย ถ้าวันไหนท่านไม่ได้ไป ก็ใช้เจ้าหมาตัวนี้ไปแทน หมาตัวนี้ก็ไป ที่ตรงไหนที่ท่านมหาเศรษฐีเคยส่งเสียงดังๆ เป็นต้นไม้ที่เป็นพุ่มใหญ่ๆ ท่านเกรงว่าสัตว์ร้ายในจะสิงอยู่ ก็ตีพุ่มไม้ส่งเสียงดังให้มันตกใจ มันจะได้หนีไป เกรงว่ามันจะทำอันตรายแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า เวลาที่ใช้เจ้าหมาตัวนี้เป็นอิสระ ไปตามโดยเฉพาะไปตามพระปัจเจกพุทธเจ้า ไปถึงพุ่มไม้นั้น มันก็เห่ากระโชก เป็นการไล่สัตว์ที่นั่น พอไปถึงหน้ากุฏิพระปัจเจกพุทธเจ้า มันก็เห่าบ้างหอนบ้าง เป็นการนิมนต์ นี่เขาใช้หมาไปนิมนต์พระกันนะ เมื่อพระปัจเจกพุทธเจ้าทราบว่าเจ้าสุนัขหมาตัวนี้มานิมนต์ ท่านก็ออกจากกุฏิเดินตามมันไป มันก็เดินนำหน้า บางวันท่านก็ลองใจหมา ลองใจดูซิว่ามันจะรู้จริงหรือไม่จริง พอถึงทางเลี้ยวเข้าบ้านท่านไม่เลี้ยวแกล้งเดินตรงไป เจ้าหมาตัวนี้ก็เจ้าขวางหน้าเห็นท่านไม่หยุดก็เข้าดึงจีวร เอาปากคาบสบงบ้าง จีวรบ้าง ดึงให้เข้าทาง ได้เจ้าหมาตัวนี้มีความรักในพระปัจเจกพุทธเจ้ามาก เพราะว่าไปจากคน เมื่อพระปัจเจกพุทธเจ้ากลับสู่ภูเขาคันธมาทน์ เวลาเข้าพรรษา ลาท่านมหาเศรษฐี ถ้าเวลาออกพรรษาแล้วจะมาใหม่ เจ้าสุนัขตัวนี้ มันมองพระปัจเจกพุทธเจ้าที่เหาะไปในอากาศ เมื่อพระปัจเจกพุทธเจ้าลับตามันไปแล้ว มันก็เลยขาดใจตาย


    อีตรงนี้ซิ บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท เขาขาดใจตายเพราะจิตใจจับอยู่ที่พระปัจเจกพุทธเจ้า คือ จับอยู่ในความดี อาศัยที่มีอารมณ์ความดีมีความรักในพระปัจเจกพุทธเจ้ากระทั่งถึงตัวตาย ผลบุญที่สนอง ผลบุญที่ทำความดี คือนึกถึงความดีของพระปัจเจกพุทธเจ้าบันดาลให้เขาไปเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เทวโลก มีนามว่าโฆษกเทพบุตรเห็นไหมละ นี่หมาก็ไปสวรรค์ได้นะ ตายจากคนเป็นหมา ตายจากหมาเป็นเทวดา เป็นอันว่าหมาดีกว่าคน เอ๊ะแปลกนะ บรรดาท่านพุทธบริษัท แต่มันก็ไม่แปลก เพราะพระพุทธเจ้ากล่าวว่า เจตนาเป็นตัวกรรม เวลาที่เราจะตายอาศัยใจเท่านั้น ที่ชักชวนบรรดาท่านพุทธบริษัทเจริญมหาสติปัฏฐานสูตรมาในพรรษาก่อน ก็เพื่อจะให้บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายทำใจให้หยั่งอยู่ในกุศลจิต คือจิตจับในส่วนที่เป็นกุศลไว้โดยเฉพาะ ทำให้มีอารมณ์เคยชิน เมื่ออารมณ์มันชินดีแล้ว เวลาจะตายจริงๆ จิตก็จับอยู่เฉพาะแต่สิ่งที่เป็นกุศล หรืออารมณ์ที่เป็นกุศล เมื่อตายจากคนแล้ว เราจะเป็นเทวดาก็ได้ พรหมก็ได้ หรือว่าไปนิพพานก็ได้ สุดแล้วแต่กำลังของจิต หากว่าเราจะกลับมาเกิดเป็นคน ก็เป็นคนชั้นดี เป็นคนที่มีความสุข เป็นคนที่มีบุญญามาก จึงได้ชวนให้บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนเจริญสมถกรรมฐาน วิปัสสนากรรมฐาน และมหาสติปัฏฐานสูตร (ความจริงก็มีอรรถเสมอกัน)


    นี่แหละ บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท ทุกท่าน และบรรดาท่านทั้งหลายที่ติดตามการทัศนาจร เมื่อท่านเห็นสัตว์เดียรัจฉานแล้ว ขอได้โปรดให้ความเมตตาปรานี ถ้าเราจะให้ขนมสักนิด อาหารสักหน่อย เศษอาหารสักนิดก็ตาม ก็ให้ด้วยความปรานี อย่าให้ด้วยความจำใจ เพราะว่าการให้ทานแกสัตว์เดียรัจฉานย่อมมีผลประโยชน์เป็นความดีแก่ท่านพุทธบริษัทมาก เพราะว่าจะได้เป็นเกราะป้องกันนรกด่านแรกของเรา ทั้งนี้เพราะอะไร? เพราะทาน การบริจาคเป็นการกำจัดโลภะ ความโลภของจิต แล้วคนที่จะให้ทานได้ก็ต้องประกอบไปด้วยความเมตตาและกรุณา ตกอยู่ในอำนาจของพรหมวิหาร ๔ ถ้าคนใดจิตจับอยู่ในอำนาจของพรหมวิหาร ๔ วันหนึ่งสักชั่วขณะจิตเดียว พระพุทธเจ้ากล่าวว่า “เรากล่าวว่าบุคคลผู้นั้นเป็นผู้ไม่ว่าจากฌาน” แล้วคนใดที่มีเมตตาจิตอยู่แล้วองค์สมเด็จพระประทีปแก้วกล่าวว่า เขาผู้นั้นเป็นผู้มีอภัยทาน มีอานิสงค์มาก ตกนรกไม่เป็น


    เอาละ บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท ชมวันนี้ก็ได้แค่นี้เท่านั้น เพราะอะไร เพราะเวลามันหมด นี่เราพักกันในดินแดนของสัตว์เดียรัจฉานสัก ๗ วันนะ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย พอครบวันพุธหน้า เรามาคุยกันใหม่ ตานี้ จะได้เดินไปในดินแดนของมนุษย์ มีเรื่องอะไรควรจะเล่าให้ฟังในดินแดนของมนุษย์ ก็จะเล่าให้ฟังตามสมควรแก่เวลาและตามความรู้ที่จะพึงมีมา สำหรับวันนี้ต้องลาท่านก่อน


    ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล จงมีแด่บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนผู้รับฟังทุกท่าน สวัสดี. .

    โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง อุทัยธานี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กรกฎาคม 2012
  2. kaioueng

    kaioueng Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +27
    ขออนุโทนาด้วยนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 กรกฎาคม 2012
  3. baimaingam

    baimaingam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    634
    ค่าพลัง:
    +880
    ขออนุโมทนาสาธุครับ...
    ...หันหลังคืนฝั่ง พ้นจากทะเลทุกข์...
     
  4. รีนาโมจัน

    รีนาโมจัน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2012
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +55
    เราเคยฆ่าตะขาบตายตัวนึงด้วยการใช้แฟ็บราดตรงที่มันเลื่อยอยู่ มันชอบเข้ามาอยู่ในห้องน้ำ ที่ทำอย่างนั่นเพราะว่าทุบเท่าไรมันไม่ตาย และเราก็กลัวตะขาบ ใจจริงจริงไม่อยากฆ่า อย่างนี้จะต้องไปเกิดเป็นตะขาบไหมเนี้ย
     
  5. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,027
    [​IMG]

    กราบโมทนา สาธุ ท่านผู้มีใจบุญใจกุศล เสียสละเวลาหาบทความ นำบทความที่ดี มีสาระประโยชน์ ให้ผู้อ่านได้ศึกษา อันก่อให้เกิดปัญญาในการพิจารณา เมื่อปัญญาพิจารณาแล้ว จิตจะเป็นผู้กำหนด เป็นผู้เลือกความถูกต้อง ถือว่าเป็น จาคะ คือการให้และการให้นั้น ให้ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน อีกทั้ง ถือว่าการให้นั้น เป็นธรรมทาน เป็นบุญใหญ่ สมดั่งพระธรรมคำสั่งสอนของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตอบปัญหาท้าวสักกะผู้เป็นจอมเทพยดา ปรากฏใน ตัณหาวรรค ธรรมบท ว่า “การให้ธรรมทาน ชนะการให้ทั้งปวง ผู้ใดให้ธรรมะเป็นทาน ผู้นั้นชื่อว่าให้พระนิพพานแก่คนทั้งหลาย“ ขอโมทนาสาธุขอเป็นกำลังใจ
     
  6. Pinbow

    Pinbow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    130
    ค่าพลัง:
    +297
    เรื่องยังไม่จบป่าว เหมือนมีต่อแต่เอามาลงไม่หมดป่าวจ๊ะ ยังไงก็อนุโมนาบุญสำหรับบทความดีๆ

    เรามีน้องหมาน่ารักชื่อคุ๊กกี้ เป็นหมาตัวเมีย เหตุที่เขาเกิดมาเป็นมาเพราะหลายชาติก่อนเขาเป็นทหารองครักษ์ของเราแล้วก็เป็นชู้กับเรา เราใช้เขาเพื่อเอาชนะสนมคนอื่นๆน่ะ แต่เขารักเรามากก็เลยตามมาช่วยเหลือทุกชาติ จนชาตินี้เป็นหมาน้อยน่ารัก นั่นอาจเป็นเพราะเขามีกรรมมากอยู่ เราก็รักและเอ็นดูนะเพราะเขาน่ารักมากเป็นพุ๊ดเดิ้ลผสมชิสุ เราก็บอกเขาว่าตามชาตินี้ชาติสุดท้ายนะ ขอให้เป็นอิสระต่อกัน ขอบใจที่จะช่วยเราตลอด แต่เราตั้งใจจะนิพพานและอยากให้เขาตั้งใจที่จะเข้านิพพานในอนาคตด้วย เขาจ้องตาเรานะ มันแปลก อธิบายไม่ถูก วันพระเราพาเขาใส่บาตรด้วยทุกวันเลย สวดมนต์ให้ฟัง ด้วยหวังให้เขาไปเกิดในภพภูมิที่ดี ไ้ด้เป็นมนุษย์หรือเทวดา แล้วก็บรรลุธรรมในเร็ววัน
     
  7. chuchart_11

    chuchart_11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    764
    ค่าพลัง:
    +2,932
    ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านหลวงปู่สำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...