พลังขั้วบวกแห่งดาวไซย่า จะฟื้นคืนสนามพลังแม่เหล็กโลกได้หรือไม่?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อู่หยาจื่อ, 6 กรกฎาคม 2012.

  1. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    เมื่อเรา "เชื่อใจ" ใครสักคน
    เหตุผล ก็ไม่ต้องมี แม้มันจะ
    ไม่มีเหตุผล เราก็จะเชื่อเขา


    แต่เพราะ "เราไม่เชื่อใจเขา"
    เราจึงเฝ้าถามเหตุผลเขาอยู่
    เสมอ และยังคง "ดื้อด้าน"
    ดันทุรังตามความคิดตนเอง
    เช่นเดิม ...
     
  2. idontknowitwell

    idontknowitwell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +131
    ก็ถึงว่า เมื่อช่วงวันก่อน ยังดูสารคดีที่เกี่ยวกับ พายุสุริยะ กับหายนะของโลกอยู่เลย
     
  3. idontknowitwell

    idontknowitwell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +131
    เหตุผล มันก็น่าจะมีบ้าง ไม่ได้ต้องการเหตุผล 100 เปอร์เซ้นต์

    แต่มันน่าจะมีบ้าง เพื่อเป็นตัวยืนยันในความเชื่อถือและไว้วางใจ

    แม้สักนิดก็ยังดี (นิเล่นมุึขขำไม่ออกตลอด ใครจะไปทนไหว)
     
  4. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    เมื่อความเชื่อจอมปลอมของเรา
    ได้ถูกสร้าง ถูกปรุงแต่งขึ้นมาแล้ว
    ด้วยเหตุผล ด้วยสถานการณ์ ด้วย
    อะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ ที่ปรุงมัน
    แต่งมันขึ้นมา ให้เราเชื่ออย่างนั้น


    นั่นแหละ "ความเชื่อจอมปลอม"
    ได้เกิดขึ้นแก่เราแล้ว เพราะความ
    เชื่อที่แท้จริง จะเกิดขึ้นโดยไม่มี
    สิ่งอื่นใดมาปรุงแต่งให้มันเกิดขึ้น
    เพราะอะไร? ก็เพราะเราเชื่อไงละ
     
  5. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828

    ผมให้เหตุผลไปมากมาย
    หลายรอบเหลือเกินกำลัง
    แล้ว แต่มันคงน้อยกว่า
    ความดื้อด้านของคนที่
    "ไร้ความเชื่อ" มังครับ


    ไม่จริงเลย ที่ว่าผมไม่ให้เหตุผล
    แต่จริงอย่างยิ่ง ถ้าจะบอกว่ามัน
    เป็นเพราะความดื้อด้านของบางคน
     
  6. idontknowitwell

    idontknowitwell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +131
    ยังไม่เต็มศรัทธาธิกะล่ะสินะ ต้องเจอขนาดนี้เลยเหรออ

    ตลกร้ายแบบนี้ ใครจะไปทนไหว
    [​IMG]
     
  7. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    หมดเวลาละ
    บะบายครับ


    :z8
     
  8. idontknowitwell

    idontknowitwell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +131
    ร้ายอย่างกะ "ดีนี่" แบบนี้ ใครจะไปตามมันทัน
    [​IMG]
    มาทุกมุข และมีอยู่ตลอด
     
  9. idontknowitwell

    idontknowitwell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +131
    เอาล่ะเพียงดาว จงเป็นคนใหม่ "อย่าสติแตก และอย่าหลงกล นังดีนี่"

    [​IMG]
     
  10. idontknowitwell

    idontknowitwell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +131
    สรุปสิ่้งที่สื่อออกมาจากสื่อ

    ดีนี่ = ดาวมฤตยู
    [​IMG]

    เพียงดาว = เหยื่ออันโอชะ(ของดีนี่)
    [​IMG]

    ตั้งสติให้ดีก็แล้วกันนะ "เพียงดาว" อย่าส่งพลังจิตด้านลบไปให้มันก็แล้วกันนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 กรกฎาคม 2012
  11. idontknowitwell

    idontknowitwell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +131
    เหลืออีกตั้ง 6 ปีนี้ จะผ่านไปได้ด้วยดีมั้ยเนี่ยยย
     
  12. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    ทุกคนกำลังรอคอยอะไรกันอยู่ อย่าไปยุ่งกับสิ่งไม่มีตัวตนมากนัก
    อยู่กับสิ่งที่เห็นปัจจุบันขณะแล้วทำมันให้ดีที่สุดจะดีกว่า นอกเสียว่าเขาต้องการให้รู้
     
  13. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    การสลับขั้วแม่เหล็กโลก

    <!-- /firstHeading --><!-- bodyContent --><!-- tagline -->จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
    <!-- /tagline --><!-- subtitle -->
    การสลับขั้วแม่เหล็กโลกในปัจจุบัน


    การสลับขั้วแม่เหล็กโลก (อังกฤษ: geomagnetic reversal) เป็นการเปลี่ยนแปลงทิศทางของสนามแม่เหล็กโลกโดยที่มีการสลับขั้วกันระหว่างขั้วแม่เหล็กเหนือกับขั้วแม่เหล็กใต้ ปรกติเหตุการณ์นี้จะเกี่ยวข้องกับการที่สนามแม่เหล็กโลกมีความเข้มข้นลดลง ตามด้วยการกลับคืนมาอย่างรวดเร็วหลังจากการสลับขั้วเกิดขึ้น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเป็นช่วงระยะเวลาตั้งแต่หลายหมื่นปีไปจนหลายล้านปี
    <TABLE id=toc class=toc><TBODY><TR><TD>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ประวัติ

    ในช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 บรรดานักธรณีวิทยาได้เริ่มสังเกตเห็นว่าหินภูเขาไฟบางแห่งมีสภาพเป็นแม่เหล็กในทิศทางที่ตรงกันข้ามจากที่คาดหวัง การตรวจสอบครั้งแรกเกี่ยวกับช่วงเวลาของการสลับขั้วแม่เหล็กนั้นดำเนินการโดยโมโตะโนริ มัสซึยามะในช่วงทศวรรษที่ 1920 ซึ่งเป็นผู้สังเกตเห็นว่ามีหินในญี่ปุ่นที่มีสนามแม่เหล็กที่สลับขั้วและทั้งหมดมีอายุอยู่ในช่วงต้นของสมัยไพลสโตรซีนหรือแก่กว่า ในช่วงนั้นเขาได้ตีพิมพ์ข้อเสนอของเขาว่าสนามแม่เหล็กมีการสลับขั้ว แต่เรื่องราวเกี่ยวกับสนามแม่เหล็กนั้นยังเป็นที่เข้าใจกันน้อยจึงมีผู้ให้ความสนใจกันน้อยถึงโอกาสที่สนามแม่เหล็กจะเกิดการสลับขั้ว.<SUP id=cite_ref-Cox1973_0-0 class=reference>[1]</SUP>
    สามทศวรรษต่อมา ได้มีทฤษฎีกล่าวถึงสาเหตุของสนามแม่เหล็กและบางส่วนก็รวมถึงโอกาสของการสลับขั้วด้วย การวิจัยสนามแม่เหล็กโลกโบราณทั้งหมดในช่วงปลายทศวรรษที่ 1950 นั้นเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งของขั้วแม่เหล็กและเกี่ยวกับทวีปจร แม้ว่าจะได้รับการค้นพบว่าหินบางชนิดมีการสลับขั้วในสนามแม่เหล็กขณะที่กำลังเย็นตัวลง ทำให้ดูเหมือนว่าหินอัคนีที่ถูกทำให้มีสภาพเป็นแม่เหล็กทั้งหมดมีร่องรอยของสนามแม่เหล็กโลก ณ ช่วงเวลาที่มันเย็นตัวลง แรกๆนั้นดูเหมือนว่าการสลับขั้วจะเกิดขึ้นทุกๆ 1 ล้านปีแต่ในช่วงทศวรรษที่ 1960 เป็นที่รู้กันว่าช่วงเวลาของการสลับขั้วนั้นไม่แน่นอน<SUP id=cite_ref-Cox1973_0-1 class=reference>[1]</SUP>
    เรือวิจัยในช่วงทศวรรษที่ 1950 – 1960 ได้มีการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความแปรผันในสนามแม่เหล็กโลกไว้ เพราะว่าเส้นทางการเดินเรือนั้นซับซ้อนประกอบกับข้อมูลด้านการนำร่องกับการอ่านค่าจากเครื่องวัดสนามแม่เหล็กนั้นมีความยุ่งยาก แต่เมื่อข้อมูลทั้งหมดถูกพลอตลงบนแผนที่กลับทำให้เห็นว่ามีแถบสนามแม่เหล็กที่เป็นระเบียบและต่อเนื่องตลอดพื้นมหาสมุทรอย่างน่าพิศวง<SUP id=cite_ref-Cox1973_0-2 class=reference>[1]</SUP>
    ในปี 1963 เฟรดเดอริกค์ ไวน์ และ ดรัมมอนด์ แมตทิวส์ ได้ให้คำอธิบายง่ายๆโดยการผสมผสานทฤษฏีการแยกเคลื่อนที่แผ่ออกของพื้นมหาสมุทรของแฮรี แฮมมอนด์ เฮสส์กับความรู้ด้านมาตรธรณีกาลของการสลับขั้วแม่เหล็กว่า ถ้าพื้นทะเลที่เกิดขึ้นมาใหม่มีสนามแม่เหล็กโลกแบบปัจจุบันแล้ว การแยกแผ่ออกไปของพื้นมหาสมุทรจากเทือกเขากลางสมุทรจะก่อให้เกิดแถบสนามแม่เหล็กที่ขนานไปกับแนวเทือกเขานั้นๆ<SUP id=cite_ref-vine1963_1-0 class=reference>[2]</SUP> ลอว์เลนซ์ มอร์เลย์ ชาวแคนาดาก็ได้เสนออย่างอิสระโดยอธิบายในลักษณะคล้ายๆกันในเดือนมกราคม 1963 แต่ผลงานของเขาถูกปฏิเสธโดยวารสารวิทยาศาสตร์ “Nature” และ “Journal of Geophysical Research” และก็ไม่ได้รับการตีพิมพ์จนกระทั่งปี 1967 ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน “Saturday Review” ของสหรัฐอเมริกา.<SUP id=cite_ref-Cox1973_0-3 class=reference>[1]</SUP>
    Further information: Morley-Vine-Matthews hypothesis
    โครงการสำรวจทางธรณีวิทยาลามอนต์-โดเฮอร์ที ได้เริ่มต้นขึ้นในปี 1966 ทำให้นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบแนวตัดขวางสนามแม่เหล็กผ่านเทือกเขากลางสมุทรแปซิฟิก-แอนตาร์กติกว่ามีความสมมาตรกันและสดคล้องกับที่พบในเทือกเขากลางสมุทรเรย์กจาเนสของมหาสมุทรแอนแลนติกเหนือ ค่าความผิดปรกติของสนามแม่เหล็กในลักษณะเดียวกันนี้มีการค้นพบในพื้นมหาสมุทรทั้งหมดทั่วโลกและทำให้สามารถประมาณการช่วงเวลาของการเกิดแผ่นเปลือกโลกใต้มหาสมุทรได้<SUP id=cite_ref-Cox1973_0-4 class=reference>[1]</SUP>
    จากการวิเคราะห์ข้อมูลแม่เหล็กโลกโบราณ ทำให้เดี๋ยวนี้ทราบได้ว่าสนามแม่เหล็กโลกได้มีการสลับขั้วมานับเป็นหมื่นๆครั้งแล้วตลอดประวัติของโลก ด้วยการเพิ่มความแม่นยำของตารางเวลาขั้วแม่เหล็กโลก (Global Polarity Timescale - GPTS) ทำให้ทราบได้ว่าอัตราการเกิดการสลับขั้วนั้นมีความแปรผันตลอดระยะเวลาในอดีตกาล บางช่วงเวลาทางธรณีวิทยา (อย่างเช่น ช่วงสนามแม่เหล็กแบบนอร์มอลที่ยาวนานยุคครีเทเชียส (Cretaceous Long Normal) สังเกตได้ว่าสนามแม่เหล็กโลกมีการรักษาทิศทางการวางตัวแบบนอร์มอลอยู่ทิศทางเดียวเป็นระยะเวลาที่ยาวนานนับเป็นสิบๆล้านปีเลยทีเดียวโดยมีทิศทางแบบรีเวอร์สเพียง 2 ครั้งรวมเป็นระยะเวลาเพียง 50,000 ปีเท่านั้น ทิศทางของสนามแม่เหล็กโลกแบบรีเวอร์สครั้งสุดท้ายคือช่วงรีเวอร์สบรุนเฮส-มัสซึยามะเมื่อประมาณ 780,000 ปีที่ผ่านมานี่เอง
    [แก้] สาเหตุ

    ความคิดเห็นทางวิทยาศาสตร์ถึงสาเหตุของการเกิดการสลับขั้วแม่เหล็กโลกนั้นแบ่งออกเป็นหลายความคิดเห็น นักวิทยาศาสตร์จำนวนมากเชื่อว่าการสลับขั้วแม่เหล็กโลกเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปรกติธรรมดาของทฤษฎีไดนาโมที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสนามแม่เหล็ก มีการจำลองด้วยคอมพิวเตอร์สังเกตพบว่าบางครั้งเส้นสนามแม่เหล็กมีลักษณะยุ่งเหยิงและไม่เป็นระเบียบผ่านการเคลื่อนไหวที่ไร้ระเบียบ (chaotic motion) ของโลหะที่เป็นของเหลวในส่วนของแกนโลก
    ในการจำลองบางครั้งก็เกิดความไม่เสถียรที่สนามแม่เหล็กทำให้เกิดการสลับขั้วอย่างรวดเร็วไปในทิศทางที่ตรงกันข้าม ลักษณะเช่นนี้ได้รับการสนับสนุนจากการสังเกตสนามแม่เหล็กดวงอาทิตย์ที่มีการสลับขั้วได้เองทุกๆ 7 – 15 ปี อย่างไรก็ตามจากการสังเกตพบว่าความเข้มข้นในสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์นั้นจะเพิ่มขึ้นสูงมากในช่วงที่มีการสลับขั้วขณะที่การสลับขั้วทั้งหมดบนโลกของเราดูเหมือนว่าจะเกิดขึ้นในช่วงที่สนามแม่เหล็กมีสภาพที่อ่อนตัวลง
    วิธีการคำนวณในปัจจุบันมีการนำมาใช้ทำให้อยู่ในรูปแบบที่ง่ายลงอย่างมากเพื่อที่จะสร้างแบบจำลองที่จะให้ได้มาตรเวลาที่ได้รับการยอมรับกันสำหรับโครงการวิจัย
    มีแนวคิดอันหนึ่งโดยริชาร์ด มูลเลอร์ที่ว่าการสลับขั้วแม่เหล็กโลกไม่ได้เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นเองแต่ถูกกระทำโดยเหตุจากภายนอกที่ไปขัดจังหวะการไหลของสารในแกนโลกโดยตรง กระบวนการทั้งหลายอาจรวมถึง การเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกเข้าไปถึงส่วนของเนื้อโลกโดยเพลตเทคโทนิกที่แนวมุดตัว การเริ่มต้นของแมนเทิลพลูมจากขอบเขตรอยต่อของแกนเนื้อโลก และอาจรวมถึงแรงเฉือนของแกนเนื้อโลกที่เกิดจากการกระแทกอย่างใหญ่หลวง ผู้ให้การสนับสนุนทฤษฎีนี้ถือว่าเหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้สามารถนำไปสู่การขัดจังหวะในวงกว้างของไดนาโมจนเกิดการหมุนกลับของสนามแม่เหล็กโลกได้ เพราะว่าสนามแม่เหล็กจะมีสภาวะที่เสถียรไม่เป็นแบบเหนือ-ใต้อย่างที่เห็นในปัจจุบันหรือไม่ก็เสถียรในทิศทางตรงกันข้าม พวกเขาเสนอว่าเมื่อสนามแม่เหล็กกลับคืนจากการถูกขัดจังหวะหนึ่งๆมันก็จะเลือกเองว่าจะไปอยู่ในสถานะไหนซึ่งนั่นหมายความว่าการกลับคืนจะเป็นแบบรีเวอร์สเสียประมาณครึ่งหนึ่งของทั้งหมด การขัดจังหวะสั้นๆซึ่งไม่ส่งผลให้เกิดรีเวอร์สก็เป็นที่รู้จักกันและเรียกกันว่า geomagnetic excursion
    [แก้] สังเกตการณ์สนามแม่เหล็กโลกในอดีต

    การสลับของสนามแม่เหล็กในอดีตสามารถพบถูกบันทึกอยู่ในแร่เหล็กของแหล่งสะสมตะกอนที่แข็งตัวเป็นหินหรือในลาวาภูเขาไฟที่เย็นตัวลงบนพื้นโลก อย่างไรก็ตามเดิมทีนั้นการสลับของสนามแม่เหล็กโลกในอดีตสังเกตเห็นเป็นครั้งแรกจากค่าผิดปรกติของแถบแม่เหล็กบนพื้นมหาสมุทร ลอว์เลนซ์ มอร์เลย์ เฟรด ไวน์ และ ดรัมมอนด์ แมตทิวส์ได้ทำการเชื่อมต่อการแยกเคลื่อนที่แผ่ออกของพื้นสมุทรในสมมุติฐานมอร์เลย์-ไวน์-แมตทิวส์ <SUP id=cite_ref-vine1963_1-1 class=reference>[2]</SUP><SUP id=cite_ref-2 class=reference>[3]</SUP>ซึ่งต่อมานำไปสู่การพัฒนาทฤษฎีเพลตเทคโทนิก ที่ก่อให้เกิดที่ว่าพื้นสมุทรมีการแยกเคลื่อนที่แผ่ออกไปในอัตราที่ค่อนข้างคงที่ นี้ยังผลให้แถบบนพื้นสมุทรจากการที่ขั้วของสนามแม่เหล็กโลกในอดีตสามารถอนุมานได้จากข้อมูลการวัดค่าของเครื่องวัดสนามแม่เหล็กไปตามพื้นสมุทร อย่างไรก็ตามเพราะว่าไม่มีพื้นสมุทรส่วนที่ไม่เกิดการมุดตัว (หรือพื้นสมุทรที่เคลื่อนย้อนมุมต่ำไปบนแผ่นทวีปอย่างเช่นกรณีของโอฟิโอไลต์) ที่มีอายุมากว่าประมาณ 180 ล้านปี ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้วิธีการอื่นๆที่จะตรวจหาการสลับขั้วที่มีอายุแก่กว่านี้ หินตะกอนทั้งหมดประกอบไปด้วยแร่ที่อุดมไปด้วยเหล็กจำนวนเล็กน้อยซึ่งทิศทางการวางตัวได้รับอิทธิพลมาจากสนามแม่เหล็กโลก ณ ช่วงเวลาที่มันสะสมตัวอยู่ ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสมมีความเป็นไปได้ที่จะสกัดข้อมูลความแปรผันในสนามแม่เหล็กออกจากเนื้อหินตะกอนชนิดต่างๆได้ อย่างไรก็ตามกระบวนการการก่อเกิดใหม่ (diagenesis) หลังจากการฝังกลบอาจทำลายหลักฐานของสนามแม่เหล็กดั้งเดิมเหล่านี้ได้
    เพราะว่าสนามแม่เหล็กพบอยู่ทั่วโลก การหารูปแบบความแปรผันของสนามแม่เหล็กที่มีรูปแบบอย่างเดียวกัน ณ ที่ตำแหน่งต่างๆกันนั้นเป็นวิธีการหนึ่งที่จะใช้ในการเปรียบเทียบอายุของชั้นหินระหว่างตำแหน่งที่แตกต่างกันได้ ในช่วง 4 ทศวรรษที่ผ่านมาจำนวนข้อมูลแม่เหล็กโลกโบราณเกี่ยวกับอายุของพื้นสมุทรจำนวนมาก (เก่าแก่ถึงประมาณ 250 ล้านปีมาแล้ว) ถูกเก็บและกลายเป็นเครื่องมือที่สะดวกและมีความสำคัญที่จะประมาณการอายุของภาคตัดขวางทางธรณีวิทยา มันไม่ใช่เป็นวิธีการหาอายุได้โดยตรงแต่จะขึ้นอยู่กับวิธีการหาอายุแบบสัมบูรณ์เหมือนวิธีการทางกัมมันตรังสีเพื่อให้ได้อายุที่เป็นตัวเลข มันกลายเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์สำหรับนักธรณีวิทยาหินอัคนีและหินแปรที่การใช้ซากดึกดำบรรพ์ดัชนีในการประมาณการอายุเป็นสิ่งที่ไม่เคยหาได้มาก่อน
    [แก้] มาตรเวลาของขั้วแม่เหล็กโลก

    ไฟล์:Lowrie.gif บันทึกของขั้วแม่เหล็กโลกสำหรับอายุ 0 – 160 ล้านปีมาแล้ว จากลอว์รี่ (1997) "Fundamentals of Geophysics"


    [แก้] การเปลี่ยนแปลงความถี่ของการกลับขั้วแม่เหล็กโลกตามกาลเวลา

    อัตราของการเกิดรีเวอร์สในสนามแม่เหล็กโลกนั้นมีความแปรผันกว้างตลอดระยะเวลา ในช่วง 72 ล้านปีที่ผ่านมาสนามแม่เหล็กมีการเกิดรีเวอร์ส 5 ครั้งในช่วงหลายล้านปีหนึ่งๆ ในช่วง 4 ล้านปีหนึ่งที่ช่วงกึ่งกลางอยู่ที่ 54 ล้านปีมาแล้วมีการเกิดรีเวอร์ส 10 ครั้ง ที่ประมาณ 42 ล้านปีมาแล้วมีจำนวนรีเวอร์ส 17 ครั้งในช่วงระยะเวลา 3 ล้านปี ในช่วง 3 ล้านปีที่ช่วงกึ่งกลางอยู่ที่ 24 ล้านปีมาแล้วมีการเกิดรีเวอร์ส 13 ครั้ง มีจำนวนรีเวอร์สไม่น้อยกว่า 51 ครั้งที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเลา 12 ล้านปีที่ช่วงกึ่งกลางอยู่ที่ 15 ล้านปีมาแล้ว มหายุคของการเกิดรีเวอร์ซอลบ่อยๆนี้จะมีช่วงซูเปอร์ครอนส์ไม่กี่ครั้ง (ซูเปอร์ครอนส์หมายถึงช่วงที่ไม่มีการสลับขั้วเกิดขึ้นเลยเป็นระยะเวลายาวนาน) <SUP id=cite_ref-3 class=reference>[4]</SUP>
    โดยทั่วไปแล้วความถี่ของการสลับขั้วแม่เหล็กโลกนั้นมีลักษณะสุ่มอย่างไม่แน่นอน และในปี 2006 จำนวนรึเวอร์สที่รู้จักกันมีความสอดคล้องกับหลักความน่าจะเป็นอย่างต่อเนื่องแบบ Lévy distribution
    [แก้] ช่วงซูเปอร์ครอนส์แบบนอร์มอลที่ยาวนานของยุคครีเทเชียส

    มีช่วงระยะเวลาที่ยาวนานอยู่ช่วงหนึ่งที่ไม่มีทิศทางการวางขั้วแม่เหล็กแบบรีเวอร์สเลยคือช่วงนอร์มอลที่ยาวนานยุคครีเทเชียส (Cretaceous Long Normal หรือที่เรียกกันว่า ซูเปอร์ครอนส์ยุคครีเทเชียส หรือ C34) ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาจาก 120 ถึง 83 ล้านปีมาแล้ว ช่วงระยะเวลาดังกล่าวนี้อยู่ในช่วงของยุคครีเทเชียสจากแอพเตียนตลอดจนถึงแซนโตเนียน
    มีสิ่งที่น่าสนใจอันหนึ่งเมื่อพิจารณาที่ความถี่ของการเกิดการสลับขั้วแม่เหล็กก่อนจะถึงและหลังจากช่วงซูเปอร์ครอนส์ยุคครีเทเชียสกล่าวคือ ช่วงก่อนที่จะถึงช่วงซูเปอร์ครอนส์ความถี่ของการสลับขั้วมีการลดลงอย่างต่อเนื่องไปจนไม่มีการสลับขั้วเลยในช่วงซูเปอร์ครอนส์ และหลังช่วงซูเปอร์ครอนส์ความถี่ของการสลับขั้วก็กลับมามีการเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆตลอด 80 ล้านปีต่อมาจนถึงปัจจุบัน
    [แก้] โซนสงบยุคจูแรสซิก

    โซนสงบยุคจูแรสซิกคือแนวตัดขวางหนึ่งของพื้นท้องทะเลที่ปราศจากแถบแม่เหล็กโดยสิ้นเชิงขณะที่ที่สามารถพบได้ในบริเวณอื่นๆ นี่หมายความว่ามีช่วงระยะเวลาช่วงหนึ่งที่ขั้วแม่เหล็กมีเสถียรในช่วงยุคจูแรสซิกคล้ายๆกับช่วงซูเปอร์ครอนส์ยุคครีเทเชียส มีความเป็นไปได้อันหนึ่งคือมันเป็นแนวตัดขวางของพื้นท้องทะเลที่มีอายุแก่ที่สุดที่สภาพของการเป็นแม่เหล็กที่เคยเป็นถูกขจัดไปโดยสิ้นเชิงจนถึงปัจจุบัน โซนสงบยุคจูแรสซิกพบบริเวณขนานไปกับขอบของแผ่นทวีปในมหาสมุทรแอตแลนติกและรวมไปถึงหลายส่วนทางด้านตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก (อย่างเช่นทางตะวันออกของร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนา)
    [แก้] ช่วงซูเปอร์ตรอนส์แบบรีเวอร์สที่ยาวนานเกียแมน

    ช่วงระยะเวลาอันยาวนานที่ปราศจากการสลับขั้วแม่เหล็กโลกนี้อยู่ที่ช่วงปลายของยุคคาร์บอนิเฟอรัสไปจนถึงช่วงปลายของยุคเพอร์เมียนจากประมาณ 316 – 262 ล้านปีมาแล้ว สนามแม่เหล็กอยู่ในทิศทางตรงกันข้ามกับสภาพปัจจุบัน ชื่อเกียแมนได้มาจากชื่อหมู่บ้านในออสเตรเลียบริเวณที่หลักฐานทางธรณีวิทยาของซูเปอร์ครอนส์นี้ถูกค้นพบในปี 1925.<SUP id=cite_ref-4 class=reference>[5]</SUP>
    [แก้] ช่วงซูเปอร์ครอนส์รีเวอร์สโมเยโร

    ช่วงระยะเวลานี้อยู่ในยุคออร์โดวิเชียน (485 ถึง 463 ล้านปีมาแล้ว) ที่ถูกสงสัยว่าจะเป็นช่วงซูเปอร์ครอนส์อีกอันหนึ่ง (พาว์ลอฟ และแกลเลต์ 2005 - Episodes, 2005) แต่จนถึงปัจจุบันสิ่งที่อาจเป็นซูเปอร์ครอนส์นี้พบเฉพาะที่แนวตัดขวางแม่น้ำโมเยโรทางตอนเหนือของอาร์คติกเซอร์เคิลในไซบีเรียเท่านั้น


    อนาคตของสนามแม่เหล็กปัจจุบัน


    ความแปรผันในสนามแม่เหล็กโลกตั้งแต่ช่วงรีเวอร์สครั้งสุดท้าย


    ในปัจจุบัน สนามแม่เหล็กโลกทั้งหมดกำลังอ่อนตัวลงในอัตราหนึ่งที่หากยังคงดำเนินต่อไปจะส่งผลทำให้สนามแม่เหล็กแบบขั้วคู่เกิดการเสียสภาพชั่วคราวในช่วงประมาณปี ค.ศ. 3000 – 4000 ค่าผิดปรกติแอตแลนติกใต้ถูกเชื่อโดยบางคน<SUP class="noprint Inline-Template">[เป็นใคร?]</SUP>ว่าเป็นผลมาจากปรากฏการณ์นี้ ความเสื่อมสภาพอย่างรุนแรงในปัจจุบันนี้ลดลงประมาณ 10 – 15% ตลอด 150 ปีที่ผ่านมาและมีอัตราที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ด้วย อย่างไรก็ตามความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กโลกมีการลดลงอย่างต่อเนื่องจากค่าสูงสุด 35% ในปัจจุบันจากเมื่อประมาณ 2000 ปีที่แล้วมา อย่างไรก็ตามอัตราการลดลงของความเข้มสนามแม่เหล็กในปัจจุบันอยู่ในช่วงของการแปรผันที่ปรกติดังที่ปรากฏบันทึกสนามแม่เหล็กในอดีตที่ปรากฏอยู่ในเนื้อหิน
    ธรรมชาติของสนามแม่เหล็กโลกเป็นหนึ่งในความผันผวนแบบเฮเทอโรสเคดาสติก การวัดค่าอย่างฉับพลันหรือการวัดค่าหลายๆครั้งตลอดช่วงเวลาเป็นทศวรรษหรือศตวรรษพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงไม่เพียงพอที่จะต่อขยายแนวโน้มทั้งหมดในค่าความแกร่งของสนามแม่เหล็ก มีการขึ้นๆลงๆในอดีตโดยยังไม่ทราบเหตุผล นอกจากนี้ความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กแบบขั้วคู่ในระดับท้องที่ (หรือความผันผวน) ยังไม่เพียงพอที่ทราบลักษณะของสนามแม่เหล็กโลกในภาพรวมทั้งหมดขณะที่มันก็ไม่ได้เป็นสนามแม่เหล็กแบบขั้วคู่อย่างจริงๆด้วย องค์ประกอบของขั้วคู่ของสนามแม่เหล็กโลกสามารถจะลดลงได้แม้ขณะที่สนามแม่เหล็กทั้งหมดจะยังคงที่หรือเพิ่มขึ้น
    ขั้วเหนือแม่เหล็กของโลกกำลังมีการเคลื่อนที่จากแคนาดาเหนือไปยังไซบีเรียด้วยอัตราความเร่งในปัจจุบันประมาณ 10 กิโลเมตร/ปีที่ช่วงต้นของศตวรรษที่ 20 และเพิ่มขึ้นเป็น 40 กิโลเมตร/ปีในปี 2003<SUP id=cite_ref-5 class=reference>[6]</SUP> ปัจจุบันยังคงไม่ทราบว่าการเคลื่อนที่นี้จะมีความต่อเนื่องในความเร่งหรือไม่
    แกลตซ์เมียร์และผู้ร่วมงานพอล โรเบิร์ตแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่ลอสแองเจลลีส (UCLA) ได้จัดทำแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของแม่เหล็กไฟฟ้า กระบวนการพลศาสตร์ของไหลภายในโลก และคำนวณออกมาด้วยเครย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ผลลัพธ์ได้ลักษณะที่สำคัญของสนามแม่เหล็กตลอดระยะเวลามากกว่า 40,000 ปี (ปีจำลอง) นอกจากนี้สนามแม่เหล็กที่ได้จากการจำลองด้วยคอมพิวเตอร์นี้มีการสลับขั้วด้วย [1]

    ผลกระทบต่อชีวภาคและสังคมมนุษย์

    เพราะว่าเราไม่เคยพบว่าสนามแม่เหล็กจะเกิดการสลับขั้วได้โดยฝีมือมนุษย์ด้วยเครื่องมือใดๆ และกลไกลของการเกิดสนามแม่เหล็กนั้นก็ยังไม่เป็นที่เข้าใจกันดีนัก มันจึงเป็นการยากที่จะกล่าวว่าลักษณะอย่างไรของสนามแม่เหล็กที่จะนำไปสู่การสลับขั้ว บ้างก็คาดเดากันว่าสนามแม่เหล็กที่ลดลงอย่างมากในช่วงที่กำลังมีการสลับขั้วนั้นจะทำให้พื้นผิวโลกขาดสิ่งปิดบังและสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงอันเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของการแผ่รังสีคอสมิก อย่างไรก็ตามมนุษย์โบราณ (Homo erectus) และบรรพบุรุษของเขาก็อยู่รอดมาได้จากเหคุการณ์การสลับขั้วแม่เหล็กโลกในอดีตที่ผ่านมาหลายครั้งแล้ว และก็ไม่มีหลักฐานว่าการสลับขั้วแม่เหล็กโลกนั้นจะมีผลต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต มีการอธิบายหนึ่งที่อาจเป็นไปได้ที่ว่าลมสุริยะอาจจะมีผลชักนำให้สนามแม่เหล็กในชั้นบรรยากาศไอออนโนสเฟียร์ให้เป็นเกราะป้องกันพื้นผิวโลกจากอนุภาคมีพลังงานอย่างรังสีคอสมิกแม้ว่าจะอยู่ในสภาพที่ไร้สนามแม่เหล็กแบบนอร์มอลของโลกก็ตาม<SUP id=cite_ref-6 class=reference>[7]</SUP>
    <SUP></SUP>
    <SUP></SUP>
    การสลับขั้วแม่เหล็กโลก - วิกิพีเดีย
     
  14. ฝันในฝัน

    ฝันในฝัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +154
    อ่านเเล้ว รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาเลยครับ
    ผมคนนี้นี่เเหละ จะเป็นคนทำเอง ผมจะทำให้ความหวังของคุณต้นหลิวเป็นจริงเองครับ
     
  15. มินาโก๊จัง

    มินาโก๊จัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +138
    เอาด้วย (หวาายยย มันเอาด้วยคนว่ะ 5555 มันมาแล้วๆ)
     
  16. นายเบทร์

    นายเบทร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    882
    ค่าพลัง:
    +91
    ดาวไซย่าระเบิดไปแล้วนิ
     
  17. 2please4me

    2please4me สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2011
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +11
    ตอนแรกนั่งอ่านกระทู้ เห็นเป็นความรู้

    พอเห็น น้องนางจอง
    อะไรของมันวะ (ความคิด)

    ซักพัก ฝันในฝันโผล่มา
    เมิงอีกแล้วเรอะ (ความคิด)

    ซักพัก มินาโก้ มาอีก
    ไอ..@$@. เว็บนี้ ไม่มีคนปกติอยู่เลยเรอะ...............

    ขำๆ นะจ๊ะ
     
  18. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828

    มีไฟ ก็ต้องมีควันละ ธรรมดา
     
  19. 2please4me

    2please4me สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2011
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +11
    ตั้งสติอยู่กับตัวเองไม่คิดไปไกล หลับตาลง อยู่กับตัวเอง ปล่อยตัวไปตามสบาย สัมผัส บางสิ่งในใจที่อยู่ในใจ ( มันจะมาเอง ) ทำก่อนนอน -.-

    ลองทำดู

    อีกอัน

    ตั้งสติอยู่กับตัวเองไม่คิดไปไกล หลับตาลง อยู่กับตัวเอง ปล่อยตัวไปตามสบาย ทำใจสบายๆ แล้วนึกถึงอวกาศ แบบความกว้างใหญ่ หรือ แค่รู้สึกก็ได้ -*- ทำก่อนนอน

    คิดไงกับการทำแบบนี้

    สำหรับผมเหมือนการชาตพลัง มั้ง
     
  20. greendyasd

    greendyasd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +121
    ไปหาหมอกัน้างท่าจะดีน่ะครับ[/B]
     

แชร์หน้านี้

Loading...