พระผู้เป็นเจ้าอยู่ดาวอื่น และมีหลายองค์ แล้วใครคือผู้ดูแลโลกใบนี้กันแน่ละ?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อู่หยาจื่อ, 4 กรกฎาคม 2012.

  1. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    สวัสดีครับ มีเรื่องหนึ่งที่สำคัญมาก
    เพราะเกี่ยวข้องกับความวุ่นวายทั้ง
    หลายบนโลกนี้ คือ "ผู้นำสูงสุด"
    ที่เรียกว่าพระเจ้า ก็ดี ท่านมีบทบาท
    มากต่อโลกใบนี้ และเราควรทำความ
    เข้าใจให้มาก เพราะมีผลมากต่อการ
    เข้าใจโลกและการเปลี่ยนแปลงของ
    โลกด้วย


    ผมจะอธิบายให้ง่ายที่สุดนะครับ
     
  2. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    โลกนี้ ไม่มี "พระเจ้าหนึ่งเดียว" ที่ประจำอยู่ตลอด ต่างจากดาวดวงอื่น


    เอาละ นี่คือ สิ่งที่ท่านต้องเข้าใจโลกใบนี้ให้ดี เป็นอย่างแรกที่ท่านได้ลืม
    ตาขึ้นมาดูโลกใบนี้ เพราะถ้าท่านได้ไปเกิดแล้วลืมตาขึ้นมาดูโลกใบอื่น
    ทันทีท่านจะได้พบกับ "พระผู้เป็นเจ้าสูงสุดที่ปกครองดาวดวงนั้น" เพื่อ
    ให้ท่านเข้าใจทุกอย่างและขึ้นตรงต่อผู้ปกครองของท่าน ทว่า "ยกเว้น
    ดาวเคราะห์โลกนี้" เท่านั้นที่ไม่มีแบบนั้น มันต่างจากดาวดวงอื่นโดยสิ้น
    เชิง ดังนั้น "ท่านจึงสับสนและวุ่นวาย" ว่าจะขึ้นตรงต่อใครดี? จะรับฟัง
    คำสั่งจากใครดี? เพราะอะไร? เพราะโลกนี้ไม่มีพระเจ้าหนึ่งเดียว ที่อยู่
    แบบประจำยาวนานยังไงละ จะมีก็แต่ "ชั่วคราว" ระยะหนึ่ง แล้วก็เกิด
    การเปลี่ยนองค์ไปเรื่อยๆ ก็เท่านั้น มันจึงส่งผลให้โลกนี้เปลี่ยนแปลงไป
    เรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด และถูกลองผิด-ลองถูกหลายครั้งจากหลายๆ ท่าน
    จนสุดท้ายเมื่อการทดลองล้มเหลวก็ต้อง "ล้มกระดาน" คือ "ล้างโลก"
    อยู่บ่อยๆ เอาละ มันไม่ใช่ความผิด-ถูกอะไรนะ โลก เป็นเช่นนี้เองแหละ
    ดังนั้น ท่านจึงต้องเข้าใจว่า "โลกนี้ต่างจากดาวเคราะห์ดวงอื่นมาก" ที่
    ไม่มี "พระผู้เป็นเจ้าที่ปกครองประจำอยู่ตลอด" ในขณะที่ดาวอื่นก็มีกัน
     
  3. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    โลกนี้ มีแต่ "พระผู้เป็นเจ้าชั่วคราว" ที่ประจำอยู่ชั่วคราวเป็น "ยุคๆ" ไป


    เอาละ อย่างที่สองคือ "โลกนี้มียุคสมัยที่ต่างกัน" เปลี่ยนแปลงไปตามการ

    ปกครองของ "พระผู้เป็นเจ้าสูงสุด" ของโลกในแต่ละยุคนั้นๆ โลก จึงมีคำ
    ว่า "ยุคสมัย" ที่แตกต่างกันไปมากมาย ในขณะที่ดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ นั้น
    ไม่มียุคสมัยนะ พวกเขาอยู่กันแบบ "คลาสสิค" นานเท่าไรก็เหมือนเดิม ไม่
    ได้เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยเหมือนโลกของเรา แปลกไหมละครับ แต่ว่า
    มันก็เป็นจริงอย่างนั้น เอาละ ผลจากการที่โลกไม่มีพระเจ้าอยู่ประจำตลอด
    ทำให้เกิดมียุคสมัยต่างกันไปขึ้นอยู่กับ "พระผู้เป็นเจ้าของโลกในแต่ละยุค
    สมัย" นั้น คำถามต่อไปคือ "แล้วใครคือพระผู้เป็นเจ้าผู้ปกครองโลกในแต่
    ละยุคสมัยละ?" คำตอบก็คือ "จักรวาลจะคัดสรรมาให้" ครับ เขาจะถูกส่ง
    มาจากจักรวาลลงมายังโลกใบนี้ ไม่จำเป็นต้องมาจากโลกใบนี้เสมอไป นะ
    ครับ จะมีการคัดเลือกจากทั่วจักรวาลแล้วจึงเลือกมา ซึ่งอาจจะมาจากโลก
    ใบนี้หรือว่าต่างดาว ก็ได้ ท่านจะต้องเข้าใจด้วยว่า "ดาวเคราะห์โลกดวงนี้
    เป็นสมบัติสาธารณะของจักรวาล" ดังนั้น มันจึงมี "การอ้างสิทธิ์" กันมาก
    มาย ต่างก็อ้างสิทธิ์ว่าเป็นเจ้าของโลก แล้วก็เข้ามาทดลอง สร้างโลก ให้มี
    ลักษณะและความเป็นไปตามแบบของตน มากมาย มันจึงยุ่งเหยิงมากเลย
    ดังนั้น โลกนี้จึงต้องมี "พระผู้เป็นเจ้า ผู้ปกครองสูงสุดในแต่ละยุคนั้น" เช่น
    พระนาราย, พระพุทธเจ้า, พระเจ้าจักรพรรดิ์ ฯลฯล้วนถูกส่งลงมาปกครอง
    โลกใบนี้ "ในยุคสมัยที่แตกต่างกัน" และสร้างสรรค์สิ่งที่แตกต่างกันด้วย !
     
  4. kountee

    kountee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +166
    บ้าไปแล้ว
     
  5. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    "พระผู้เป็นเจ้า" มากมายจาก "หลายโลกธาตุ" ต่างทำกิจต่อโลกใบนี้


    ต่อไปที่ท่านต้องเข้าใจอีกประการคือ ในจักรวาลนี้มีดวงดาวมากมาย ใน

    ดวงดาวที่พิเศษมีรูปธรรมชีวิตอาศัยอยู่ จะมี "พระผู้เป็นเจ้า" สูงสุด ทำ
    หน้าที่ปกครองดูแลอยู่ และท่านเหล่านั้น "จำนวนมาก จำนวนหนึ่ง" ได้
    ทำกิจ "สร้างโลกและดูแลโลกนี้" ร่วมกัน หลายท่าน หลายฝ่าย หลาย
    ไม้ หลายมือ แตกต่างกันไป ตาม "ความคิด, จิตใจ, มุมมอง, โลกทัศน์"
    และส่งผลให้เกิด "ความยุ่งเหยิง" (สภาวะ Chaos) ขึ้นในโลกมนุษย์
    ซึ่งมันไม่ใช่ความผิดพลาดของพระเจ้าองค์ใดเลย และไม่ใช่มาตรฐาน
    ของความถูกต้องอะไรด้วย มันเป็นเพียง "ปกติ ตามธรรมชาติชองโลก
    ใบนี้" ก็เท่านั้น ดังคำกล่าวของพระพุทธเจ้าที่ว่า "โลกแปลว่าฉิบหาย"
    นั้น ก็หมายถึง ความวุ่นวายสับสนอลหม่านที่เกิดแก่โลกนี้ นั่นเอง แต่ว่า
    ท่านอย่าเพิ่งรู้สึกบวกหรือลบกับสิ่งนี้ละ ดังที่บอกแล้วว่า "มันเป็น ปกติ
    เช่นนั้นเอง" เอาละ พระผู้เป็นเจ้าทั้งหลาย จากโลกธาตุต่างๆ ท่านไม่ได้
    อยู่บนโลกใบนี้เลย "ท่านจึงไม่เคยทราบว่าการอยู่บนโลกใบนี้นั้นมันเป็น
    เช่นไร?" ท่านจึงต้องส่ง "พระบุตร" ก็ดี, "เทวทูต" ก็ดี, ฯลฯ ลงมาเกิด
    ยังโลกใบนี้ (พระบุตรและเทวทูต มาจากดาวดวงอื่นด้วยบางส่วนเหมือน
    กัน) และเพราะท่านอาศัยอยู่ในดาวดวงอื่น ไม่เคยอาศัยอยู่ในโลกนี้ นั่น
    เอง ทำให้ "ท่านทำบางอย่างตามอุดมคติของท่านเอง" มิใช่ทำตามปกติ
    ตามแบบที่สัตว์ในโลกนี้อยู่และเป็น เอาละ มันไม่ใช่ความผิดของพระเจ้า
    หรอกนะ แต่มันคือ "ปกติของพระเจ้าทุกองค์" ท่านทำได้เท่านี้ ดังนั้น จึง
    ต้องมีพระบุตร, เทวทูต ฯลฯ มากมาย ลงมาเกิดบนโลกมนุษย์ อยู่ในโลก
    ใบนี้เหมือนสัตว์ทุกตัวในโลกนี้ เป็นสิ่งที่พระเจ้าทำไม่ได้และไม่ใช่กิจของ
    ท่านที่จะกระทำ เป็นกิจของผู้ที่มีสังขารเป็นสัตว์โลกจึงจะทำได้ (หวังว่า
    คุณคงจะเห็นความสำคัญและจำเป็น ของการไม่ได้เป็นพระเจ้า ของพวก
    เราชาวมนุษย์โลก บ้างแล้วนะ) เพราะนี่คือ "หน้าที่ของสัตว์โลกที่แม้แต่
    พระเจ้าก็ทำไม่ได้" และไม่ได้ทำเพราะท่านไม่ได้มีกิจจะทำเช่นนี้ นั่นเอง
    (หวังว่าคุณคงจะภาคภูมิใจ ในความเป็นสัตว์โลก ของพวกคุณด้วยนะ)
     
  6. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    "พระพุทธเจ้าสมณโคดม" ได้รับเลือกเป็น "ผู้ปกครองสูงสุดในยุคนี้"


    นี่คือ "ธรรมเนียมปกติของโลกใบนี้" กล่าวคือ ยามใดที่มีพระพุทธเจ้าลง
    มาตรัสรู้ในโลกใบนี้ เราจะนับว่าท่านคือ "ผู้ปกครองสูงสุดของโลกนี้" ไป
    ด้วย ดังนั้น เทวดาทั้งหกชั้นสวรรค์ ก็จะเชื่อฟังท่านด้วย (แต่ก็มียกเว้น ผู้
    ที่เป็นมาร) ตามธรรมเนียมของโลก มันเป็นเช่นนี้มานานแล้ว ทว่า แม้แต่
    พระพุทธเจ้า ก็อาจมีบารมีไม่พอที่จะปกครอง "ทุกรูปธรรมชีวิต" ในโลก
    นี้ได้ เพราะโลกเป็นแหล่งรวมของรูปธรรมชีวิตมากมาย อยู่ด้วยกัน ดังที่
    ได้กล่าวแล้วว่า "โลกนี้ก็คือ สาธารณสมบัติของจักรวาล" นั่นเอง ดังนั้น
    เราจึงเห็น "ศาสนาอื่นๆ เกิดขึ้นบนโลกใบนี้" และมี พระเจ้าองค์อื่นๆ เข้า
    มากระทำกิจต่างๆ ร่วมด้วย "โลกจึงขาดเอกภาพในการปกครอง" นอก
    จากนี้ พระพุทธเจ้าจะเข้านิพพานแล้ว ท่านจะไม่สั่งใช้ใคร เพราะการสั่ง
    ใช้ก่อให้เกิดบุญกรรมร่วมกับผู้ถูกสั่งใช้ และขวางทางนิพพานได้ ท่านก็
    จะไม่สั่งใช้ เช่น แม้ยามท่านจะปรินิพพาน ท่านก็ไม่สั่งใช้พระอานนท์ว่า
    ให้ทูลขอให้ท่านอยู่ต่อ หรือยามที่ท่านแลกจีวรกับพระมหากัสสปะ ก็ทำ
    ให้พระมหากัสสปะต้องตีความไปเองว่าท่านให้ปกครองดูแลธรรมวินัยก็
    ไม่มีการสั่งโดยตรง "นี่คือ พุทธวิสัยตามปกติของพระพุทธเจ้า ที่จะไม่มี
    การสั่งใช้ผู้ใด" (แต่พระอัลเลาะห์จะสั่งใช้พระนบีมูฮัมหมัดโดยตรง) นี่
    ไม่ได้กล่าวว่าท่านใดดีหรือไม่ดีกว่าท่านใด? แต่บ่งบอกว่าท่านต่างกัน ก็
    เท่านั้นเอง เพราะแต่ละท่านเป็นคนละองค์กัน ทำงานต่างกันก็เท่านั้นเอง
    สรุปก็คือ แม้พระพุทธเจ้าจะได้รับการยอมรับในฐานะผู้ปกครองโลกนี้ แต่
    ก็ยังต้องอาศัยพระผู้เป็นเจ้าองค์อื่นๆ ในการทำกิจร่วมกันด้วย เพราะท่าน
    จะเข้านิพพานแล้วจะไปชี้สั่งใช้ใคร ไม่ได้ หวังว่าท่านคงจะเข้าใจจุดนี้นะ
     
  7. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    จิตวิญญาณ "ศูนย์กลาง" ของดาวโลกดวงนี้ ควรจะเป็นใครกันแน่?


    อีกประการหนึ่งคือ พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ จะ "ดับขันธปรินิพพาน"

    ไป ดังนั้น คำถามจึงเกิดขึ้นว่า "แล้วใครจะดูแลปกครองโลกทั้งสามภพ
    ที่แสนจะยุ่งเหยิงวุ่นวายนี้" คำตอบช่างสับสนเหลือหลาย เพราะต่างก็
    "อ้างกรรมสิทธิ์" ในการปกครองโลก ท่านว่าท่านคือพระเจ้าผู้สร้างโลก
    นี้ กันทั้งนั้น ซึ่งก็ใช่ จริงทั้งหมด ทว่า ถ้าเป็นเช่นนี้ "เอกภาพในการดูแล
    โลก" จะไม่มีเลย และจะทำให้โลกวุ่นวายยุ่งเหยิง ดังนั้น จำเป็นที่จะต้อง
    มี "จิตวิญญาณประจำโลก" เหมือนกับดาวดวงอื่นๆ เช่น ดาวพุธ ก็มีพระ
    พุธ เป็นจิตวิญญาณประจำ, ดาวศุกร์ ก็มีพระศุกร์เป็นจิตวิญญาณประจำ
    ดังนั้น ถ้าโลกมีพระพุทธเจ้าดูแลแล้ว พระพุทธเจ้า ก็จะเข้านิพพานไม่ได้
    เพราะท่านต้องปล่อยวางทุกภารกิจแล้ว ดังนี้ จึงต้องคัดเลือกจิตวิญญาณ
    เก่าแก่ประจำโลก "หนึ่งท่านมาดูแลในฐานะ ศูนย์กลางการประสานงาน"
    เช่น เทพีไกอา หรือจะเป็น เจ้าแม่หนี่วา เป็นต้น ซึ่งเราต้องเข้าใจว่าท่านนี้
    ไม่ได้มาในฐานะพระเจ้าปกครองโลก แต่เป็น "จิตวิญญาณประสานงานที่
    อยู่ประจำโลก เป็นศูนย์กลาง ในการประสานงานกับพระเจ้าทุกๆ องค์" ก็
    เท่านั้น เพราะการดำรงอยู่คู่โลกยาวนานนั้นจึงจะช่วยในการดูแลโลกได้ดี
     
  8. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    ร่างมนุษย์ "ศูนย์กลาง" ของดาวโลกดวงนี้ ควรจะเป็นใครกันแน่?


    อีกประการหนึ่งคือ "ร่างสังขารมนุษย์" ที่จะมาเป็น "ศูนย์กลางในการ

    ประสานงาน" ในภาคมนุษย์ ในภาคสังขาร ในภาควัตถุที่มองเห็นได้ ก็
    ต้องมีด้วยเพราะในมิติแห่งจิตวิญญาณต้องประสานงานกับมิติแห่งวัตถุ
    สสารด้วย ในบางยุคสมัย จะมีการคัดเลือกผู้ปกครองโลกมนุษย์ในภาค
    มนุษย์ลงมาเกิด เช่น พระนารายณ์ ก็เคยได้รับการคัดเลือกให้มาเกิดยัง
    โลกมนุษย์ในฐานะผู้ปกครองโลกมนุษย์ ก็มี, หรือแม้แต่พระอิศวร ก็เคย
    ได้รับการคัดเลือกให้ลงมาสร้างโลก ในบางยุคสมัย ก็มี ดังนั้น เพื่อให้มี
    การประสานงานระหว่างมิติแห่งพลังงานและมิติแห่งสสารวัตถุ จึงต้องมี
    "สังขารมนุษย์" ที่ทำหน้าที่ "เป็นศูนย์กลางในการประสานงานด้วย" ก็
    จะทำให้งานที่กระทำต่อโลกนี้ "มีเอกภาพมากขึ้น" ซึ่งร่างสังขารมนุษย์
    ผู้นี้จะมาในฐานะ หรือตำแหน่งใดก็แล้วแต่ แต่ต้องเหมาะสมและควรที่จะ
    ทำหน้าที่ได้ราบรื่นดีก็แล้วกัน ไม่เช่นนั้น โลกก็จะยุ่งเหยิงวุ่นวายอยู่ต่อไป
    ไม่มีใครช่วยได้ ไม่มีใครแก้ไขได้ และรังแต่จะนำพาไปสู่สงคราม ในที่สุด
     
  9. philosophi

    philosophi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    883
    ค่าพลัง:
    +1,896
    ฟังแล้ววุ่นวายจังวุ๊ย..อย่าเกิดมาดีที่สุด
     
  10. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    เทพสวรรค์ที่คอยช่วยเหลือในด้านการปกครองโลกมนุษย์ นั้นคือใคร?


    ในสมัยพระพุทธเจ้าสมณโคดมยังอยู่ ท่านได้กล่าวถึงเทพสวรรค์ที่ดูแล
    ปกครองโลกทั้งสี่ท่านคือ "ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่" ซึ่งจะอยู่ในสวรรค์ชั้น
    ที่หนึ่งและสองเท่านั้น สำหรับท่านที่อยู่บนสวรรค์ชั้นสูงกว่านี้ขึ้นไป ไม่มี
    หน้าที่โดยตรงที่จะดูแลโลก เทวดาเหล่านั้น เสวยบุญอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำ
    งานดูแลโลก ก็ได้ ปกติ ก็เป็นอย่างนี้มายาวนาน ทว่า ปัจจุบัน โลกนี้ได้มี
    การเยี่ยมเยือนของ "ชาวต่างดาว" เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นท่านที่มาจาก
    "พรหมโลกธาตุ" ก็ดี, "สุขาวดีโลกธาตุ" ก็ดี, ฯลฯ ยุ่งเหยิงไปหมด แต่
    ละท่านก็ล้วนมาด้วยเจตนาที่ดี นำสิ่งดีๆ มาสู่โลกทั้งสิ้น ไม่มีท่านใดที่จะ
    คิดร้ายต่อโลกเลย ทว่า เพราะท่านมาจากดาวคนละดวงกัน ท่านจึงมีวิธี
    ทำงานและวิธีคิดที่แตกต่างกัน และส่งผลให้ "โลกขาดเอกภาพ" และมี
    แต่ความยุ่งเหยิงเต็มไปหมด เอาละ มันไม่ได้ผิดอะไรหรอกนะ เพราะมัน
    เป็นธรรมชาติปกติของโลกใบนี้อยู่แล้ว ทว่า ในฐานะและกิจ ของผู้ดูแล
    โลกใบนี้ จำเป็นต้องช่วยเหลือให้โลกมีศูนย์กลาง มีเอกภาพในการดูแล
    และปกครองต่อไป ซึ่งปัญหาก็คือ "ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่" ก็ปกครองได้
    ไม่ทั่วถึงเพราะโลกนี้ "มีจิตวิญญาณมากมายที่อยู่นอกการปกครองของ
    ท่านทั้งสี่นี้ด้วย" ดังนั้น จักรวาลจึงส่ง "พลังงานใหม่" หรือจิตวิญญาณ
    หรือเทพกลุ่มใหม่ ลงมาช่วยดูแล ซึ่งจะขึ้นตรงต่อ "จิตจักรวาล" นั่นเอง
     
  11. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    ท้ายที่สุดนี้ หวังว่าท่านคงจะเห็นภาพ "โลกใบนี้" ในมุมใหม่ๆ ที่กว้างขึ้น
    และลึกซึ้งขึ้น แล้วท่านจะได้เข้าใจว่า ทำไมโลกใบนี้จึงมีความวุ่นวายนัก
    เอาละ ดังที่ผมบอกแล้วว่ามันไม่ได้เลวร้ายหรือดีงามอะไร มันเป็นแค่ปกติ
    ของโลก ที่โลกนี้เคยเป็นมา และยังจะเป็นอยู่ต่อไป ก็เท่านั้นเอง ซึ่งมันไม่
    ใช่ปัญหาของการดำรงอยู่ เพราะการดำรงอยู่บนโลกนี้ "เราจะดำรงอยู่ก็
    เพียงชั่วคราว" เท่านั้น เราจะไม่อยู่กันแบบระยะยาว นั่นคือเราจะไม่มีการ
    ใช้ชีวิตนิรันด์ในโลกใบนี้ ชีวิตนิรันด์จะมีได้ในดาวดวงอื่นที่เหมาะสมกว่า
    ก็เท่านั้น และโลกใบนี้ มีหน้าที่เพียง "เป็นหลอดทดลอง" ในเราบ่มเพาะ
    และพัฒนาตัวเองให้ เลื่อนระดับขึ้นไป ยังจุดที่เราต้องการเป็น, ต้องการ
    อยู่แบบ "ชีวิตนิรันด์" ในสวรรค์นิรันด์หรือไม่ก็ "นิพพาน" ไปเลย ก็ไม่มี
    อะไรผิด เลือกได้ทั้งนั้นครับ แต่ โลกนี้ไม่ใช่บ้านถาวรของเรา อย่าลืมละ


    สุดท้ายนี้ ขอให้พลังแห่งความเป็นเอกภาพ ช่วยนำทางท่านด้วย สวัสดี
     
  12. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    4 ก.ค. 2555


    "เสียงจากสภาฯ"
    รับสื่อสารโดย


    瑠璃王
     
  13. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    น่าจะเป็น "พลังงาน" บางอย่าง
    ที่ผ่านมาแล้วผ่านไปนะครับ เพราะ
    ผมก็เคยคิดและรู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน


    เขาไม่ใช่เรา แต่เขาผ่านมาให้เรารู้สึกร่วม
     
  14. xfiless

    xfiless สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +6
  15. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829

    น่าจะเป็น Lucifer มากกว่า
     
  16. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    โพสกระทูนี้ ก็ต้องรวบรวมความกล้า
    เหมือนกันนะ เพราะคนอีกกลุ่ม จะมา
    ด่าว่าเราเป็นบ้า ประจำเลยละ ...


    แต่หลังจากดู บางคนกล้า โชว์ห่วย
    ในรายการ ไทยแลนด์ ก็อดทาเล้นท์
    ทำให้เกิดความกล้าหาญขึ้นเยอะเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 กรกฎาคม 2012
  17. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829

    แยกแยะนารายณ์
    ที่เป็นพลังมืดกับ
    ที่เป็นพลังคลาสสิค
    ได้ยังละ? มันต่างกันนะ
     
  18. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829

    เขาอยู่ตรงข้าม เขาก็ต้องทำอย่างนั้น
    ทว่า มันไม่ใช่ความผิด หรือถูกอะไร
    หรอก ธรรมชาติของพระเจ้า ก็คือ
    พระเจ้า ไม่ใช่มนุษย์ ดังนั้น ท่าน
    ทำได้อย่างพระเจ้าทำ ไม่ใช่แบบ
    มนุษย์กระทำ จักรวาล ทำไมต้อง
    มีทั้งพระเจ้าและมนุษย์ละ?


    เพราะมันขาดอะไรไม่ได้ ทุกอย่างมี
    ความสำคัญทั้งสิ้น ในฐานะที่ต่างกัน
    หน้าที่ต่างกัน ไม่มีใครถูกหรือผิดหรอก
     
  19. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    ยกตัวอย่างนะ


    ถ้า นาย ก. มีกรรมจะต้องเป็นหมัน มีลูกไม่ได้
    จึงใช้กรรมพอดีในหนึ่งชาตินั้น ทว่า ลูซิเฟอร์
    บอกว่า มาร้องขอเขาสิ ถ้ายอมแลก เขาจะให้
    แต่พระเจ้าบอกว่า "ไม่ได้" นั่นผิดกฏแห่งกรรม
    แหกกฏแห่งกรรมนั้นไม่ได้ ต้องตรงไปตรงมา


    แล้วควรเชื่อใครดีละ? แล้วใครถูกใครผิดละ?
     
  20. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829

    ความคิดเห็นส่วนตัว
    ก็ของใครของมันนะครับ
    ไม่จำเป็นต้อง "หาแนวร่วม"
    หรอกนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...