ชะตาชีวิต(อนาคต)ถูกกำหนดไว้แล้ว หรือไม่

ชะตาชีวิต(อนาคต)ของคนเราหรือสิ่งของสถานที่ต่าง ๆ นั้นได้ถูกกำหนดไว้แล้วในอนาคตและเราก็ต้องเป็นไปตามนั้น หรือไม่fficeffice" /><O></O>
<O> </O>
ผมติดอยู่กับคำถามนี้มานานเพราะมันมีส่วนจริงอยู่บ้าง เช่นคำทำนายต่างๆไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์บ้านเมือง ชะตาชีวิตของแต่ละคนที่ดูจากลายมือบ้างวันเดือนปีเกิดบ้าง อย่างผมนี่แม่เอาวันเดือนปีเกิดไปให้พ่อหมอดูว่าจะจบปริญญาหรือเปล่าโดยที่ผมไม่รู้ พ่อหมอว่าไม่จบ และแล้วก็เป็นจริงโดยที่ยังไม่ทันได้จ่ายเงินลงทะเบียนเลยแต่ตอนนั้นสอบเข้าได้แล้วน้ะ บวกกับตามน้ำไปกับเพื่อนๆก่อน จนสุดท้ายบอกแม่ว่า ไม่เรียนแล้ว สาเหตุคือ เบื่อ บวกกับเป็น ไมเกรน ผมไม่เสียใจเลยคิดว่าปริญญาตรีมันก็พอๆกับปริญญาใจนั้นแหละ 5555ฮือๆๆๆๆๆๆ<O></O>
<O></O>
ผมขอออกตัวก่อนว่าผมไม่รู้เรื่องดาราศาตร์โหราศาตร์แต่อย่างใด<O></O>
ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตคล้ายหุ่นยนต์โดยที่ทำกิจวัตรประจำวันผ่านไปผ่านไป โดยที่มีวันเดือนปีเกิดของตนเองและอิทธิพลจากดวงดาวต่างๆเป็นตัวควบคุมหลักรวมไปถึงรูปร่างหน้าตาที่เรียกว่า โหงวเฮ้ง หรือชื่อของตัวเองที่มีส่วนส่งผลต่อนิสัยใจคอ สติปัญญา ที่ถูกล็อกค่าไว้แล้ว เช่น ลองสังเกตุคนที่มีหูยาวดูส่วนมากจะฉลาดได้เป็นเจ้าคนนายคน ส่วน นิสัยใจคอ สติปัญญา ที่เรียนรู้จากการเรียน หรือในสังคมรอบข้างเป็นของอย่างหยาบ นานๆลืมกันได้<O></O>
<O> </O>
จากการที่ผมสนใจเรื่องลึกลับของอวกาศ เอเลี่ยน ยูเอฟโอ อะไรพวกนี้ จึงหาดูทางเน็ตแต่ไปๆมาๆ ก็มาจบที่พระพุทธศาสนา ตอนนี้ผมสนใจเรื่องการทำสมาธิ เข้าฌาน สมาธิหมุนอะไรทำนองนี้เคยอ่านมาว่าช่วยให้ลดอิทธิพลจากดวงดาวต่างๆ ตัวเองจะเป็นคนกำหนดชะตาชีวิต ทำให้เวรกรรม(พลังงานที่ติดมากับจิต ,,อันนี้ผมมั่วเอาเอง) หมดไปบ้าง<O></O>
<O> </O>
แต่ก็นั่นล่ะไม่รู้ว่าชะตาชีวิต(อนาคต)ได้กำหนดให้ผมมาแนวนี้หรือเปล่าเหมือนที่คุณต้องมานั่งอ่าน ส่วนตอนที่ผมพิมพ์อยู่นี้เป็นอดีตไปแล้ว ถ้าสมมุติว่าสามารถรู้อนาคตได้แล้วเราลองฝืน มันจะเป็นยังไง ขนาดพุทธศาสนาที่มี<O></O>
สมณโคดม เป็นศาสดา จะอยู่ได้5000ปี จากที่รู้มา จะต้องเป็นเช่นนี้แก้ไขอะไรไม่ได้จริงรึป่าว<O></O>
<O> </O>
ส่วนใครที่พอรู้เรื่องแบบนี้ช่วยอธิบายหน่อย ไม่รู้ว่าจะมีเรื่อง ควอนตัมฟิสิกส์ มาเกี่ยวบ้างรึป่าว

 

ชะตาชีวิตปรับเปลี่ยนกันได้ครับ คิดซะว่าการตัดสินใจกระทำอะไรแต่ละครั้ง มีทางเลือกให้กระทำเพียงสองทาง คือ ทำ และไม่ทำ เส้นทางที่เลือกเหมือนกิ่งก้านสาขาของต้นไม้ ชะตาชีวิตก็เพียงแค่เป็นแนวทาง ชะตากรรมไม่ดี แต่เลือกกระทำดี ก็จะได้ดี แต่ดีมากน้อยขึ้นอยู่กับบุญกรรม ถ้าชะตากรรมไม่ดี และยังเลือกกระทำไม่ดี เลือกสิ่งที่คิดว่าง่าย คิดว่าสบาย ใช้อารมณ์กระทำ ชะตากรรมก็จะยิ่งแย่ขึ้นไปใหญ่
ขอให้คิดว่าการกระทำใดๆ ก็ตาม มีผลในอนาคตทั้งนั้น เลือกทางที่ดี ชีวิตก็จะดี

 

เคยได้ฟังเรื่องที่พระอานนท์(ใช่รึเปล่าไม่ทราบ) ท่านทำนายชะตาชีวิตเณรองค์หนึ่งว่าจะมีชีวิตอยู่ไม่เกิน 7 วัน พอเณรองค์นี้เดินทางไปหาญาติที่ต่างเมือง ระหว่างทางได้เจอปลาที่อยู่ในปลักโคลนใกล้แห้ง หากแดดแรงน้ำต้องแห้งปลาก็จะตายแน่นอน เณรองค์นั้นจึงเอาชายจีวรช้อนเอาปลาเหล่านั้นไปปล่อยลงที่แม่น้ำใกล้ๆ ปลาเหล่านั้นจึงรอดตาย ต่อมาเณรองค์นี้ก็มีอายุยืนยาวเกิน 7 วัน ลบคำทำนายของพระอานนท์ไปเลย

กรรมในปัจจุบันมีอำนาจเปลี่ยนแปลงชะตาคนเราให้ดีขึ้นหรือเลวลงได้ค่ะ

 

แน่นอน ชีวิตถูกกำหนดไว้แล้วด้วยพรหมลิขิต ขีดชะตา ฟ้ากำหนด ... 555+

บางคนเกิดมาบนกองเงินกองทอง ไม่ต้องทำอะไร ก็มีกินมีใช้สบายไปทั้งชาติ
บางคนเกิดมาปากกัดตีนถีบหาเช้ากินค่ำ ใช้ชีวิตอย่างแสนสาหัสลำบากตลอด

เพราะว่าชะตาของแต่ละคนถูกกำหนดไว้แล้ว แม้แต่วันตายก็ถูกกำหนดไว้แล้ว
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หากแต่ทุกชีวิตย่อมอยู่ภายใต้กฏ นั่นคือ "กฏแห่งกรรม"..

 

ทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วอนาคตก็จะดีเอง กรรมเป็นตัวกำหนดเหตุการณ์ทุกอย่าง

 

ชะตาชีวิตถูกกำหนดไว้แล้วจากการกระทำ ณ ปัจจุบัน
คนเรามันเปลี่ยนกันได้! หุหุ

 

กำหนดมั่งไม่กำหนดมั่ง
เป็นส่วนๆไป

 

มีทั้งส่วนที่กำหนดมาแล้วและยังไม่ได้กำหนด บางอย่างก็เปลี่ยนแปลงได้บางอย่างก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ครับ

 

แล้วถ้าเกี่ยวข้องกับคนอื่นหละครับจะกำหนดได้ไหม

 

แล้วที่ว่ากรรมที่เราทำไม่มีทางลบล้างได้นอกจากชดใช้มันแล้วยังมีการสะเดาะเคราะห์ ฯลฯ เราจะทำมันทำไมหละครับ

 

เลื่อนมันออกไปให้เราได้มีเวลาฝึก
มันจะได้ไม่ส่งผลต่อจิตใจจนถึงอบายภูมิ

 

เราอาจจะกำหนดคนอื่นไม่ได้ แต่เรากำหนดตัวเราเองได้ว่าจะกระทำกับคนอื่นอย่างไรครับ

เราสามารถทำกรรมดีเพื่อหนีวิบากกรรมชั่วได้ โดยเราทำความดีสร้างกุศลต่อเนื่องไม่เปิดโอกาสให้วิบากกรรมไม่ดีส่งผล เมื่อถึงจุดหนึ่งถ้าเราไม่ประมาทวิบากกรรมไม่ดีก็อาจจะกลายเป็นอโหสิกรรมได้ เปรียบเหมือนมีสุนัขวิ่งไล่เรามา ถ้าเราวิ่งหนีโดยไม่ยอมหยุดที่สุดสุนัขนั้นก็จะวิ่งตามเราไม่ทัน (สุนัขนี้ก็เปรียบเหมือนวิบากกรรมชั่ว ส่วนการวิ่งก็คือการสร้างบุญบำเพ็ญกุศลของเรา)

 

เชื่อครับว่า ชะตาชีวิตเราถูกกำหนดไว้แล้ว(หรืออาจแค่มันเกิดขึ้นแล้ว แต่เรายังอยู่ในอดีตของเหตุการณ์นั้น ก็ไม่รู้นะ) แต่ถึงจะกำหนดไว้แล้ว ผมเชื่อว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ส่วนหนึ่งคือเราต้องเลือกว่าที่จะเดินตาม หรือต่อสู้ ได้มากน้อยอย่างไร แ้ล้วแต่ความเพียร หรือเคราะห์กรรมหรือเปล่าผมไม่รู้นะ สาเหตุที่ผมเชื่อว่าีมีผุ้กำหนดไว้แล้วคือ ผมมักจะได้ไปสถานที่ ที่ไม่เคยเไป และเห็นเหตุการณ์ในอนาคต แบบที่ นักวิทยาศาสตร์งี่เง่าๆ ไม่สามารถแย้งได้ แม้กระทั่งกรณีที่ตึกเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ ผมก็ฝันเห็นเครื่องบินสองลำทิ้งละเบิดใส่ตึกที่สูงที่สุด และการระเบิด เถ้าถ่านอะไรเหมือนในฝันมากเลย ในฝันรู้สึกได้เลยว่าตืื่นเต้นมาก หลังจากนั้นไ่ม่กี่เดือน ผมก็ได้เห็นเหตุการณ์นี้ทางทีวี จนขนลุก
--------------
มีเรื่องแปลกๆ อีกเยอะ (ถ้าผมเป็นคนดี และอยู่ในศิลกว่านี้ผมอาจเจอเรื่องแปลกๆ กว่านี้อีกเยอะ เพราะผมไม่ใช่คนทีเท่าไหร่ แบบว่า รู้ใจตัวเองอ่ะคับ)

 

ตามรอยวิทยาศาสตร์

ไอน์สไตน์ค้นคว้าวิจัยแล้วว่า อดีต สามารถไปได้
หลักทางพุทธคือญาญย้อนอดีตแรกตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ตรงกัน
ไอน์สไตน์ว่าอนาคต ไปได้ แสงจะโค้งงอหรือหักเห
หลักทางพุทธคือญาญอนาคตของพระพุทธเจ้าก็กล่าวว่าไปได้
โดยถ้าเป็นของพระพุทธเจ้าจะแม่น
ถ้าเป็นของสาวกอาจแม่นเพียงไม่กี่ปีแต่เกินไปแล้วอาจเปลี่ยนแปลงได้
จึงสรุปได้ว่า กรรม คือการกระทำทั้งทางกายวาจาใจ ในอดีตและปัจจุบันสามารถส่งผลในอนาคตได้แน่นอน แต่มีข้อแม้คือกรรมปัจจุบัน ถ้าเปลี่ยนไปในทางดีแล้ว จะบวกกับกรรมในอดีตรวมกันแล้วหักเหไปตามพลังกรรม(การกระทำทางกายวาจาใจ)ในปัจจุบันให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงได้ แต่เปลี่ยนในลักษณะที่หนีกฏแห่งกรรมไปมิได้
คือกรรมในอดีตถ้าส่งผลให้ชดใช้ แม้จะสร้างกรรมในปัจจุบันดีเพียงใดก็ไม่สามารถหลีกได้ ยกเว้นผู้สร้างกรรมสามารถเป็นอริยะบุคคล คือสำเร็จอรหันต์แล้ว จิตจะไม่ถูกกรรมตามทันแต่ร่างกายถ้าอยู่ต้องเสวยกรรมนั้นหนีไม่พ้นแม้แต่พระพุทธองค์
การทำนายอนาคตแม้แต่เทวดายังทำนายนิมิตผิด เพราะอนาคตเปลี่ยนได้ตามกฏแห่งกรรมที่กล่าวมาและตรงตามทฤษฎีไอน์สไตน์ที่แสงจะโค้งหรือหีกเหเปลี่ยนทิศได้ ก็คือเปลี่ยนอนาคตไปตามแสงแห่งกรรม(ของไอน์สไตน์)นั่นเอง

 

เราไม่ควรท้อกับโชคชะตา กรรมหนีไม่พ้น แต่สามารถเบี่ยงเบนได้ ผ่อนหนักเป็นเบาได้ ยกตัวอย่าง คุณบุญยง
สมมุตินะครับ สมมุติว่าคุณบุญยงถูกลิขิตว่าต้องตายด้วยโรคเกี่ยวกับหัวใจ
จากวิถีการใช้ชีวิตของคุณบุญยงขณะนี้ ถ้ายังไม่เปลี่ยน คุณก็อาจจะทำงาน แต่ไม่มีครอบครัว และหมกมุ่นจนเส้นเลือดตีบ ตายโดยไม่มีความหมาย และทรมาน
หรือถ้าเปลี่ยน เรียนจนจบ เลิกนิสัยหมกมุ่น ทำงานออกกำลังกาย ได้งานที่ดี เป็นใหญ่เป็นโต ร่ำรวยมาก มีครอบครัวอบอุ่น กินดีอยู่ดี จนหัวใจอ่อนแอ และหัวใจวาย แต่ตายในครอบครัวที่อบอุ่น ทุกคนเสียใจกับการจากไป และไม่มีกังวลใดๆ
เห็นมั๊ยครับว่าการเดินจากจุด A ไปจุด B มีทางให้เดินหลายทาง และจบที่จุดหมายเดียวกัน แต่คนละวิธีเท่านั้นเอง
คุณจะเลือกแบบไหน ถ้ามัวแต่ท้อชะตาชีวิต ไม่ปรับเปลี่ยนตัวเองตั้งแต่ตอนนี้

 

ชะตาฟ้ากำหนด 1 ส่วน / สิ่งแวดล้อมกำหนด 1 ส่วน / ตัวเรากำหนด 1 ส่วน / ฟ้ากำหนดเราอาจเปลี่ยนไม่ได้...นอกจากหลุดพ้น / สิ่งแวดล้อมกำหนด ถ้าเราเห็นว่ามันไม่ดีเมื่ออยุ่ในสภาพแวดล้อมนี้ ก็เปลี่ยนมันซะ / ตัวเรากำหนด ตรงนี้...เราจะกำหนดวิถีทางของเราได้.../ ถ้ากำหนดให้ดีพร้อมทั้ง 3 อย่างก็ถือว่า ดีมากเลยทีเดียวครับ / ดังนั้นจะเห้นได้ว่า ฟ้ากำหนด 1 ส่วนเท่านั้น แต่เรากำหนดได้เอง 2 ส่วน /

 

*** หาก จะเปลี่ยนแปลงชะตาลิขิต ****

ชะตาลิขิต...เป็นผลมาจาก การกระทำในอดีต
นิสันสันดาน...ส่งผลให้เกิดการกระทำ เดิมๆ ซ้ำๆ
คนๆ นั้น...จึงต้องรับ กรรม ในรูปแบบเดิมๆ ...เพราะ เป็นผลจากการกระทำเดิมๆ จากนิสัยสันดานตัวเดิม
การที่เราจะเปลี่ยนแปลง...ชะตาลิขิตได้
จะต้องเปลี่ยนแปลง....นิสัยสันดานเดิมที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด....ต้องทำให้มันค่อยๆลดลง ...และดีที่สุด คือ นิสัยสันดานตัวนั้นหมดไปจากจิตใจในที่สุด

ทางตรงที่สุด ที่จะลดนิสัยสันดานลงได้....คือ "สัจจะ"
เพราะ สัจจะ คือ การกำหนดสิ่งที่ดีให้ตัวเองได้ปฏิบัติ....กำหนดไม่ทำในสิ่งที่ไม่ดี ที่ตัวเองชอบทำ...เป็นการให้ความชัดเจนกับตนเอง...ว่าจะมีกำหนดทำถึงเมื่อไหร่
เมื่อ เราทำได้จริงตาม "สัจจะ" ....ย่อมมีผลตอบแทนแน่นอน
เมื่อ ปฏิบัติบ่อยๆ สุดท้ายนิสัยไม่ดีจะหมดไปในที่สุด

ผลของการกระทำ...ไม่ตาย ไม่สูญสลาย ติดตัวเราไปตลอดกาล ...เรียกว่า "ตัวกระทำ"
ตัวกระทำ...จะส่งผลให้ กรรม เบี่ยงเบนไปได้
จึงเกิดเป็นเหตุการณ์โชคดี....แคล้วคลาด ปฏิหาริย์.......

"สัจจะ" ...จึงเปลี่ยนแปลง ชะตาลิขิต ได้จริง !!!!!!!

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

พูดเล่นเปล่าครับ คุณบุญยง

 

วาสนาสร้างเองได้

 

อันว่าตัวกรรม-การกระทำ วาสนาเราคือผู้สร้าง กรรมเก่าส่งผลมากน้อยขึ้นกับปัจจุบันเราเป็นคนเช่นไร ถึงแม้จะลบล้างกันไม่ได้มาก แต่ก็ยังส่งผลให้คุณ และเราสามารถก้าวเดินต่อได้ไม่สดุดหกล้มไป แค่อาจเดินเซ บุญเท่านั้นที่คงอยู่และทำให้เราเปลี่ยนจากร้าย มาก ถึงร้ายน้อยที่สุด หรือไม่มีเลย การสะเดาะเคราะห์เป็นกุศโลบายให้สบายใจเหมือนการสะกดจิตตัวเราเองว่าเราจะมีความสุขขึ้น ถึงแม้อาจจะมีเรื่องร้ายเกิดปัญหาก็จะกลายเป็นเรื่องเล็กน้อย อีกประการการสะเดาะเคราะห์ เป็นแค่การหลบเจ้าหนี้ชั่วระยะหนึ่งก็ถือว่ายังดีสำหรับบางคน เพราะมีเวลาตั้งตัวแก้ไขปัญหาของตนได้ไม่มากก็น้อย หากแต่ไม่สามารถลบการกระทำชั่วในอดีตได้เท่านั้นเอง ทุกอย่างมีทางออกทางแยก สุดท้ายผลแห่งการกระทำตัวบุญที่ยังคงอยู่ชั่นนิจนิรันต์เรามองหลายที่หลายอย่างสรุปธรรมของพระพุทธเจ้าประเสริฐ์แล้วที่สุด