"พลังสามวิเศษ" ร่วมกันได้อย่างไร พลังงานเก่า-พลังคลาสสิค-พลังงานใหม่?

สวัสดีครับ ผมคงต้องอธิบายต่อเนื่องในเรื่อง
"พลังงาน 3 วิเศษ" สักนิดหนึ่ง เพราะอาจ
ยังมีบางท่านยังไม่เข้าใจ หรือเข้าใจไม่แจ้ง
พลังงานที่ผมแยกออกให้ท่านพิจารณาสาม
ชนิดคือ 1. พลังงานเก่า ซึ่งท่านได้เข้าใจมา
พอสมควรแล้ว 2. พลังงานใหม่ ก็ได้อธิบาย
ไปมากแล้ว เช่นกัน 3. พลังงานคลาสสิค อัน
นี้ จำเป็นต้องอธิบายเพิ่มสักนิด เพื่อให้ท่านมี
ความเข้าใจแจ้งชัดขึ้น ดังต่อไปนี้

 

พลัง "สามวิเศษ" อันมีที่มาและที่ไป แตกต่างกันอย่างไร?


สรุปให้ง่ายที่สุด ดังต่อไปนี้

1. พลังงานเก่า คือ พลังงานที่รอเข้าสู่กระบวนการชำระล้างเพื่อให้กลับ
คืนสู่ธรรมชาติเดิมแท้ได้โดย "ไม่เกิดมลภาวะต่อมิติต่างๆ" ซึ่งเมื่อได้รับ
การชำระล้างแล้ว จะหมดหน้าที่เก่าของตน จะมีสภาวะใหม่ หน้าที่ใหม่

2. พลังงานใหม่ คือ พลังงานที่เข้ามาขับเคลื่อนโลกเพื่อนำพาโลกก้าวไป
สู่ "โลกยุคใหม่" หรือเป็นพลังงานที่ยังมีความใกล้เคียงกับ "ต้นทางเดิม"
มากที่สุด ถูกส่งมาจากที่ใดก็ได้ทั่วจักรวาลนี้ ลงมา "ใหม่" ยังโลกมนุษย์

3. พลังงานคลาสสิค คือ พลังงานเก่าที่ยังไม่ถึงวาระที่ได้รับการชำระล้าง
จึงยังต้องทำหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะถึงเวลานั้น ดังนั้น จึงกลายเป็นพลังงาน
ที่ยังคงมีอยู่ต่อไปคู่โลกอีกยาวนาน เพื่อขับเคลื่อนโลกไปตามควรที่จะเป็น


เอาละ พลังงานทั้งสามชนิดนี้ท่านควรเข้าใจและใช้ให้ถูกวิธีเพราะถ้าท่าน
ใช้ผิดทางจะเกิดปัญหาได้มากมาย หรือทำให้เกิดความแปรปรวนกระทบ
กระทั่งกันเองได้ในที่สุด เพราะเป็นพลังงานที่มีความแตกต่างกันอย่างมาก

 

แหล่งพลัง "สามวิเศษ" ทั้งสามชนิดมีที่มาแตกต่างกันอย่างไร?


พลังงานทั้ง 3 ชนิดมีที่มาจากแหล่งพลังงานที่ต่างกันด้วย ดังนี้

1. พลังงานเก่า มีที่มาจาก แหล่งพลังงานในโลก ในระดับที่ต่ำกว่าพื้นดิน
ลงไป เป็นพลังงานที่ถูกกักเก็บเอาไว้ใต้พื้นโลกนานแล้ว หรือในโลกส่วน
อื่นๆ นานแล้ว แล้วได้รับการ "ปลดปล่อย" ออกมาเพื่อรับการชำระล้าง

2. พลังงานใหม่ มีที่มาจาก แหล่งพลังงานนอกโลก เช่น จากดาวต่างๆ,
มาจากจักรวาล, ไม่ใช่พลังงานจากสวรรค์ทั้ง 6 ชั้นของโลกนี้ จึงมีความ
แปลกแตกต่างจากพลังงานเดิมที่ขับเคลื่อนโลกนี้ มาแต่เก่าก่อนทั้งหมด

3. พลังงานคลาสสิค มีที่มาจาก แหล่งพลังงานในโลก ทว่า แตกต่างจาก
พลังงานเก่า เพราะมีความบริสุทธิ์มากกว่าแต่ได้รับการ "เก็บรักษาเอาไว้"
อย่างดี เซฟไว้เพื่อรอเวลา "มอบให้คนที่ควรรับนำไปใช้" ขับเคลื่อนโลก


ดังนั้น พลังงานคลาสสิคและพลังงานใหม่ จึงเป็นพลังงานที่จะมีความโดด
เด่นมากกว่าพลังงานเก่า จะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของโลก แทนที่พลัง
งานเก่าทั้งหลาย ที่จะหมดวาระต่อไป อนึ่ง ท่านต้องเข้าใจว่าพลังงานเก่า
กับพลังงานคลาสสิคนั้น แตกต่างกัน พลังงานเก่ามักมืดมนแล้ว แต่พลัง
งานคลาสสิคยังไม่มืดมน ยังบริสุทธิ์มากอยู่ เช่น พลังงานจากคริสตัลใต้
โลก (ที่บางท่านกล่าวถึง), พลังงานของไกอา ฯลฯ เป็นต้น พลังงานนั้น
เป็นพลังงานที่ยังมีความบริสุทธิ์มากอยู่ และไม่มืดดำ ยังสามารถใช้เป็น
พลังงานขับเคลื่อนโลกได้ต่อไปจนกว่าจะเสื่อมสภาพและมืดดำลงกลาย
เป็นพลังงานเก่ารอการชำระล้างต่อไป ซึ่งกำลังจะถูกปลดปล่อยมาแล้ว!

 

มาทำความรู้จักพลัง "คลาสสิค" (Classic power) ของโลกนี้กันบ้าง


พลังงานคลาสสิค (Classic power) เป็นแหล่งพลังงานที่อยู่ในโลกนี้
มายาวนานแล้ว แต่ได้รับการ "เก็บรักษาไว้อย่างดี" เพื่อรอเวลามอบให้
แด่ "ผู้ที่สมควรได้รับ" ซึ่งจะต้องผ่านการทดสอบก่อน พลังงานนี้เป็นพลัง
งานเก่าของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ซึ่งบำเพ็ญบารมีร่วมกันไว้แต่กาลก่อน
เป็นพลังที่มีความศักดิสิทธิ์และยิ่งใหญ่มาก เป็นพลังงานที่นำพาโลกนี้ไป
ทางที่ถูกต้อง และต้องนำพาพลังงานใหม่ให้เดินตามไปด้วย เพราะว่าพลัง
งานใหม่นั้น ยัง "ใหม่ต่อโลกนี้มาก" มันจึงยังปรับตัวเข้ากับโลกนี้ ได้ยาก
อยู่ และอาจทำอะไรที่ "ใหม่เกินไปกว่าที่โลกจะรับได้" ดังนั้น พลังงานซึ่ง
มีหน้าที่ดูแลเป็นผู้นำพลังงานใหม่อีกที ก็คือ "พลังงานคลาสสิค" นั่นเอง
(พลังงานใหม่ เป็นผู้ช่วย แต่พลังงานคลาสสิคเป็นผู้นำ) เพื่อไม่ให้โลกนี้
ถูกพลังงานใหม่นำพาไปสู่อนาคตเร็วเกินไปกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งพลังงาน
คลาสสิคนั้น ได้รับการชำระล้างไปแล้ว 4 ใน 5 ส่วน เหลือเพียง 1 ส่วนก็
เท่านั้น คือ ส่วนพลังงานเก่าของพระศรีอาริยเมตตรัย ซึ่งยังไม่ได้นิพพาน
นั่นเอง พลังงานเหล่านี้ บางอย่างมีรูปธรรมชัดเจน เช่น มีรูปเป็นพระขันธ์,
มีรูปเป็นสังข์, มีรูปเป็นจักร ฯลฯ มันถูกเก็บรักษาไว้ในโลกนี้มานานแล้วจน
กว่า "ผู้ที่สมควรได้รับและใช้มันเป็น" จะผ่านการทดสอบและนำมันไปใช้

 

พลัง "คลาสสิค" ทำให้โลกนี้ยังมีบางอย่าง "เหมือนเดิม" อยู่ต่อไป


ในขณะที่พลังงานใหม่ จะเปลี่ยนแปลงโลกให้ไปสู่โลกแห่งอนาคต โลก
ยุคใหม่นั้น พลังงานคลาสสิคกลับตรงกันข้ามคือ จะไม่เปลี่ยนแปลงโลก
เพื่อคงสภาพโลกไว้ดุจเดิมทั้งในด้านวัตถุหรือในด้านจิตใจเช่น ความเชื่อ
ค่านิยม, วัฒนธรรมบางอย่าง เป็นต้น เพราะการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่
ดูล้ำหน้าทันสมัยและดีเกินไป ก็อาจไม่เข้ากับ "ประชาชนส่วนใหญ่ในยุค
ปัจจุบัน" ก็ได้ เมื่อมันไม่เข้ากัน มันก็กลายเป็น "ต้นเหตุแห่งปัญหา" เสีย
เองเช่น ความทันสมัยเกินไปของวัตถุบางอย่าง เช่น เครื่องมือสื่อสาร มือ
ถือ Tablet ก็อาจกลายเป็นเครื่องทำลายการเรียนรู้ อย่างเป็นธรรมชาติ
ของเด็ก ก็ได้ แทนที่เด็กจะเรียนรู้ด้วยการเล่นด้วยกันกลางสนามหญ้าใน
วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส เด็กทะเลาะกัน, เด็กเรียนรู้ที่จะขอโทษกัน, ให้อภัยกัน
ก็จะเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ "ขอโทษเป็น" และ "ให้อภัยเป็น" ทว่า เมื่อได้
แท็บเล็ตไปแล้ว เด็กอาจไม่มีอโอกาสที่จะเรียนรู้ร่วมกันในโลกกว้างอีก แต่
ละคนก็มีแท็บเล็ตของตัวเอง มีโลกส่วนตัวของตัวเอง ไม่สนใจกันและกัน?

 

"พลังสามวิเศษ" ไม่จำเป็นต้องนำมารวมกันแต่ควรเรียนรู้ที่จะใช้ต่างกัน


พลังงานทั้งสามชนิด คือ พลังงานเก่า, พลังงานใหม่, พลังงานคลาสสิค
นั้น ไม่จำเป็นต้องนำมารวมกัน มันถูกแยกออกจากกันเพราะเหตุผล ดังที่
ได้กล่าวไปแล้วนั้น ดังนั้น เราจึงมีหน้าที่เรียนรู้, ทำความเข้าใจและใช้มัน
ไปตามธรรมชาติอย่างที่มันเป็น อย่างถูกวิธี ก็เท่านั้น หลายครั้งที่ท่านไม่
เข้าใจมัน พลังงานต่างชนิดนั้นจะขับดันให้ท่าน "ขัดแย้งกันได้ง่ายมาก"
เช่น บางท่านจะพัฒนาโลกให้เข้าสู่ยุคใหม่ ในขณะที่บางท่านอาจยึดติด
อยู่กับสิ่งเดิมๆ และบางท่านก็อาจทำสิ่งที่คลาสสิคอยู่ดังเดิม? เช่นนี้ จึงมี
โอกาสสูงมากที่ท่านทั้งหลายจะขัดแย้งกัน เมื่อได้รับพลังงานทั้งสามส่วน
แตกต่างกันไป เพราะมันจะมีผลต่อความคิด, จิตใจ, การกระทำของท่าน
ด้วยไปในทิศทางที่ต่างกันสิ้นเชิง หากท่านทั้งหลายไม่ทำความเข้าใจมัน
ให้กระจ่าง ก็อาจจะทำให้เกิด "ความขัดแย้ง" มากมายขึ้นได้ในประเทศ
ของท่าน หรือแม้แต่ในเวทีระดับโลก เราไม่มีความมุ่งหวัง ที่จะให้ท่านนั้น
ใช้พลังงานที่แตกต่างกันนี้ไปเพื่อ "การทำลายล้างกัน" เลย โปรดเข้าใจ

 

"พลังคลาสสิค" ถูกปลดปล่อยออกจากโลกซึ่งแตกต่างจากพลังงานเก่า


พลังงานคลาสสิคและพลังงานเก่า ต่างถูกปลดปล่อยออกจากโลกเช่นกัน
ทว่า มันต่างกันมาก เพราะพลังงานเก่านั้นจะมีความมืดมนอยู่ แต่พลังงาน
คลาสสิคจะมีความบริสุทธิ์ในตัวเอง เมื่อมันถูกใช้ไปแล้ว ท่านอาจมองเห็น
ว่า "เปลือกนอกดูล้าหลัง หรือเลวร้ายเหมือนกัน" ทว่า มันไม่เหมือนกันนะ
พลังงานอย่างหนึ่งจะหมดยุคสมัย มืดมน และไม่เหมาะสมที่จะ กระทำซ้ำ
แต่พลังงานคลาสสิค จะกระทำไปด้วยความบริสุทธิ์ ไม่ใช่ความมืดมนและ
มันจะเกิดขึ้นได้อีกซ้ำๆ และช่วยให้เกิดสิ่งที่ควรจะเป็นต่อไป มันไม่ใช่ทั้ง
ความดี หรือความชั่ว, ความถูก หรือความผิด อะไรใดๆ เลย แต่มันก็ต้อง
ทำหน้าที่ของมัน เช่น การที่ผู้ชายเอาเปรียบผู้หญิง และเป็นใหญ่ในบ้าน
จนผู้หญิงเป็นฝ่ายถูกกระทำซ้ำๆ จะเป็นสิ่งที่คุณเห็นได้เสมอๆ และมันไม่
มีทางจบสิ้นได้ง่ายๆ เพราะมัน "คลาสสิค" นั่นเอง มันจำเป็นที่จะต้องขับ
ดันไปเช่นนี้ เพื่อให้ผู้หญิงเบื่อหน่ายและเห็นทุกข์มีจิตตรงนิพพาน มันใช้
ได้มาตลอดทั้งภัทรกัปนี้เลย ถ้าท่านไม่ใช้ ท่านไม่ทำเช่นนี้ ผู้หญิงก็จะไป
สู่ชาติข้างหน้าอีกยาวไกล และไม่ยอมตรงสู่นิพพาน หรือไม่อาจคิดได้ว่า
"เกิดเป็นหญิง แท้จริงเป็นทุกข์ ทำอย่างไรจึงหลุดพ้นทุกข์?" มันไม่มีสิ่ง
ที่เหมาะสมและดีไปกว่านี้แล้ว ที่จะช่วยให้เขาหลุดพ้นจากพลังงานเก่าที่
ยึดตรึงให้เขาเป็น "หญิงตลอดกาล" ไปได้ นอกจากสิ่งที่ท่านเห็นกันอยู่
ในครัวเรือน การทะเลาะบาดหมาง ความน่าเบื่อ ความทุกข์ ฯลฯ แต่มันก็
ยังคงมีอยู่ต่อไป เพราะมันเป็น "พลังงานคลาสสิค" (ไม่ใช่พลังงานเก่า)

 

"พลังคลาสสิค" คือ สิ่งที่คุณควรปล่อยไป ไม่ต้องไปแก้ ไม่ต้องไปยุ่งก็ได้


พลังงานคลาสสิค มันมีลักษณะคล้ายพลังงานเก่าอยู่เหมือนกัน เพราะมัน
ขับดันให้คนเหมือนมี "ความคิดเก่าๆ" ทว่า มันไม่ใช่การตกยุค, ตกสมัย
หรือความล้าหลังแต่ประการใด ตรงกันข้าม "มันใช่ได้ทั้งภัทรกัป" นี้เลย
ทีเดียว เมื่อคุณเข้าใจพลังงานคลาสสิคนี้ได้ คุณจะไม่เข้าไปเปลี่ยนแปลง
โลกนี้มากเกินไป คุณจะแยกแยะได้ว่าอะไรที่ควรเปลี่ยนแปลงได้และอะไร
ที่ "ยังไม่ถึงเวลาเปลี่ยนแปลง" ควรต้องปล่อยให้มันเป็นไป อย่างนั้นก่อน
คุณก็จะเข้าใจคำว่า "ปัญหาสังคมที่ต้องแก้" และ "สิ่งที่คล้ายปัญหาแต่
ไม่ใช่ปัญหาสังคม" เพราะคนส่วนใหญ่ อยู่กับมันได้ ถ้าไปแก้ไขมันเข้าก็
กลายเป็น "ยุ่งเหยิง" ไปแล้วท่านเองจะกลายเป็น "ลิงติดตัง" ได้ในที่สุด
เอาละ การทำความเข้าใจ "พลังงานคลาสสิค" ทำให้คุณ สบายมากขึ้น
ไม่ต้องไปนยุ่งยากแก้ไขในสิ่งที่ไม่จำเป็น, ยังไม่ถึงเวลา หรือแก้ไขไป ยิ่ง
จะเกิดปัญหาใหม่ไม่รู้จบ เพราะ "ความเป็นไปได้น้อย" ที่มันควรจะได้รับ
การแก้ไข และ "ความฝันความคาดหวัง" ของใครบางคน หรือบางกลุ่ม
อาจควรเป็น "เรื่องของอนาคต" เพราะมันยังไม่ถึงเวลา ความฝันก็จะยัง
คงเป็นความฝันต่อไป มันไม่จำเป็นต้องเป็นความจริงเสมอเพราะในความ
เป็นจริง มันอาจแตกต่างจากความฝันมากมายนัก แต่มันก็อาจเป็นจริงได้
ในอนาคตข้างหน้า ซึ่งยังอีกยาวไกล ไม่ใช่สิ่งที่จะรีบร้อนให้เป็นได้ยามนี้


ขอให้พลังแห่งความคลาสสิคเหล่านั้นจงช่วยจูนท่านให้ตรงทาง สวัสดี...

 

24 มิ.ย. 2555


"เสียงจากสภาฯ"
รับสื่อสารโดย


瑠璃王

 

ตกลงเราไปทำงานของเราเพื่อพัฒนาโลกขึ้นได้แล้วใ่ช่มั้ย เช่น ขายของเล็กๆน้อยๆ

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=xA4-32CmlMU]ฟงอวิ๋น2 - YouTube[/ame]


สัจธรรม ก็มีในทุกสรรพสิ่งนั่นแหละ
สำหรับผู้มี "ใจเป็นธรรม" ละนะ

 

งั้นเราคงหมดสิทธิ์..................................

 

ว่างๆ อยากไปทำบุญอ่านะ..................

 

อยากไปเที่ยวรอบโลกซะมากกว่า...............

 

อาจจะเป็นพระเทวทัต หลอกพระบุตร เตะบิดา จนพระบุตรขาหักนะสิครับ พระบุตร ไม่เตะ ไม่ฟัน พระบุตร เรียนๆๆๆๆ รู้ครับ

 

การปฏิรูป อาจหมายถึง การเปลี่ยนแปลงไปซะหมด
อาจหมายถึง การรื้อหมดทั้งโครงสร้าง แล้วก็ "พัง"


ถ้าทำไม่เป็นอะนะ ...


นึกถึงคำพูดของคุณ "ตัน" เตือนสติใครบางคนที่คิดว่าเขาจะเล่นการเมือง
ว่า "ผมเป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่นักการเมือง ชาติบ้านเมืองไม่ใช่ของเล่น"

 

ยุึคสมัยของพระพุทธเจ้าที่โปรดผู้ชายมันยังไม่จบสินะ ยังเหลืออีกตั้ง 1 ยุคแน่ะ

 

ครั้งหนึ่ง เจ้าแคว้นๆ หนึ่ง ร้องขอให้ "ซุนปิน"
ปฏิรูปประเทศให้บ้าง เหมือนกับที่ซางหยาง
ปฏิรูปรัฐฉิน ซุนปินปฏิเสธ แล้วบอกว่าเขาเป็น
นักการทหาร ไม่อาจปฏิรูปประเทศได้ (ปฏิรูป
ผิดวิธี ประเทศก็พังพินาศ) ประมาณนั้น ...

 

พูดกับคุณ ยิ่งลักษณ์ อภิสิทธิ์ ทักษิณ ในหลวง และพระราชินี ฯลฯ 555

 

ซุนปิน? ซางหยาง? ใครกันวะ...............