"เงา" ของวีรบุรุษ จะฟื้นขึ้นมาสร้างตำนานใหม่หรือเลือกทางเดินของตนเอง?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อู่หยาจื่อ, 19 มิถุนายน 2012.

  1. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ผมมีเรื่องๆ หนึ่ง
    จะขออนุญาติอธิบายให้ท่านฟัง กล่าวคือ
    ในสังขารของมนุษย์ จะมี "รูปธรรมชีวิต"
    อยู่มากกว่า 1 รูปธรรมชีวิตสร้างบุญบารมี
    ร่วมกันใน "ชาติ" หนึ่งๆ เมื่อสิ้นชาติแห่ง
    มนุษย์นั้นแล้ว ทั้งสองรูปธรรมชีวิต จะเป็น
    "คู่มหาบุรุษ" คนหนึ่งคือ ภาคสว่าง อีกคน
    คือตัวแทนของภาคมืด สิ่งนี้เรียกว่าทวิภาวะ
    แห่งบุรุษ (Duality) ใช่แล้ว วันนี้ ผมจะมา
    พูดเรื่อง Duality นี่ละ ท่านจะได้เห็นคู่แห่ง
    มหาบุรุษเกิดขึ้น พวกเขาจะปะลองบารมีกัน
    เอง และคัดเลือก "หนึ่งตัวตน" ที่จะเดินก้าว
    หน้าต่อไป น่าตื่นเต้นดีไหมครับ เชิญทัศนา!
     
  2. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    [​IMG]


    Duality คู่แห่งแสงและเงาที่จะปะลองกันเอง
     
  3. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    "ทวิภาวะแห่งบุรุษ" (Duality) คือ อะไร?


    ดังที่ได้อธิบายแล้วว่า "สังขารมนุษย์มีมากกว่า 1 รูปธรรมชีวิต" เสมอ
    ในการบำเพ็ญบารมีในหนึ่งชาติมนุษย์ เมื่อสิ้นชาตินั้นแล้ว สังขารสิ้นลง
    รูปธรรมชีวิต "ภาคสว่าง" จะสถิตย์ยังสรวงสวรรค์ ส่วนอีกหนึ่งรูปธรรม
    ชีวิต "ภาคมืด" จะต้องกลายเป็น "พลังงานเก่า" ที่ตกค้างอยู่บนโลกนี้
    และเขาจะอาศัยบารมีที่ได้ทำร่วมมาในร่างสังขารเดียวกันนั้น เพื่อหาที่
    เกิดใหม่ ในทิเบตเรียกว่า "ตุลกู" ซึ่งจิตวิญญาณภาคสว่างของลามะที่
    ปฏิบัติดีแล้วจะขึ้นสวรรค์ไป แต่ "จิตวิญญาณภาคมืด" จะตกค้างอยู่บน
    ผืนแผ่นดินเดิม หรือประเทศเดิม เพื่อ "หาท้องแม่เกิดใหม่" อีกครั้ง เรียก
    ว่าตุลกู นั่นเอง เมื่อเขาเกิดแล้ว เขาก็จะได้รับพลังจาก "ตัวตนในมิติที่สูง
    ขึ้น" หรือภาคสว่างที่ขึ้นสวรรค์ไปก่อน ควบคุมไว้ เขาก็จะมีสภาพคล้าย
    "คนทรง" หรือ "ม้าทรง" ดังที่เราเห็นพระลามะสวมหน้ากากเทพนักษัตร
    ร่ายรำ นั่นคือ เขาเป็นดั่ง "ม้าทรงของลามะผู้สูงส่งที่ล่วงลับและสถิตย์บน
    สวรรค์" นั่นเอง หรือเขาก็คือ ตัวแทนของท่านผู้สูงส่งที่ล่วงลับไปแล้ว นั้น
    ทว่า เหตุการณ์ไม่จบง่ายๆ เช่นนี้ เมื่อ "ตัวตนภาคสว่าง" เบื้องบนได้แบ่ง
    ภาคส่วนพลังของเขาลงมาเกิดด้วย ดังนั้น ทวิภาวะแห่งบุรุษ (Duality)
    จึงเกิดขึ้น บุคคลทั้งสองเหมือนคนเดียวกัน คนหนึ่งเหมือนแสงสว่าง อีกคน
    เหมือนเงา ทั้งสองได้รับพลังจาก "ตัวตนเบื้องบนหนึ่งเดียวกัน" แต่ทั้งสอง
    ก็ต้องเข้าสู่ Selection matrix เพื่อคัดสรร ให้เหลือ "ตัวตนหนึ่งเดียว"
    (The one) การปะลองบารมีของ "คู่แห่งมหาบุรุษ" จึงเกิดขึ้น ดังกล่าว
     
  4. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    ท่านจะได้พบ "คู่แฝดทางจิตวิญญาณ" ของท่าน และท่านก็ต้องปะลอง !


    ท่านที่ได้เข้าสู่ Selection Matrix เพื่อคัดเลือก The one จะได้พบกับ
    "คู่แฝดทางจิตวิญญาณ" ของท่านเอง ท่านและเขาเหมือนดังแสงและเงา
    เหมือนดัง "ภาพสะท้อนของกระจกเงา" และต้องรับแบบทดสอบเดียวกัน
    หรือได้รับ "พลังต้นสายจากเบื้องบน" อย่างเดียวกัน ทำให้ท่านคิด, มอง,
    เห็น, รู้สึก, มีความต้องการ ฯลฯ เดียวกันและท่านอาจต้องปะลองเพื่อแย่ง
    กันไปสู่ "ความปรารถนา" ของท่านนั้นเอง ผู้ที่แข็งแกร่งกว่าและสอบผ่าน
    จะได้รับการเลือกให้ก้าวสู่ "ด่านต่อไป" ประตูแห่งผู้กล้าจะเปิดออกเพื่อรับ
    เขาอย่างสมเกียรติ์เพื่อพบกับ "คู่แฝดคนต่อๆ ไป" และการปะลองก็จะเริ่ม
    ขึ้นอีก อย่างนี้ ไม่มีที่สิ้นสุด จนกว่า The one จะผ่านการทดสอบของทุก
    "ตัวตนคู่แฝดของเขา" ซึ่งมีอยู่มากมาย อนึ่ง ตัวตนแต่ละตัวของเขา เป็น
    ดัง "ตัวแทนของการบำเพ็ญบารมีในแต่ละชาติ" ที่ผ่านมาของเขา นั่นเอง
    ส่วนท่านที่ "พ่ายแพ้" ก็จะต้อง "จมปลักอยู่กับบ่วงกรรม" ในชาติเก่านั้น
    เพียงคนเดียวเพื่อเป็นกำแพงกั้นกรรมที่เคยทำไว้ร่วมกัน (ในร่างเดียวกัน)
    นั้น ได้รับการชำระโดยผู้รับผิดชอบอย่างน้อย 1 คน ส่วนคนที่ชนะและได้
    ไปต่อ ก็จะไม่ต้องนั่งรับกรรมนั้นๆ เขาจะผ่านเข้าสู่ด่านการทดสอบที่สูงขึ้น
    ต่อไปเพื่อพบกับ "คู่แฝดทางจิตวิญญาณ" คนต่อไปผู้เป็นตัวแทนของการ
    บำเพ็ญบารมีในชาตินั้นๆ อีกชาติหนึ่ง ยิ่งกว่านั้น คนที่ชนะ ก็จะมีพลังแห่ง
    "ความสว่างไสว" เพิ่มขึ้น ส่วนผู้แพ้จะต้องกลายเป็น "ตัวตนที่มืดมน" ไป
    ดังนั้น บางตัวตนอาจเกิดจากภาคสว่างบนสวรรค์แต่เมื่อพ่ายแพ้ก็จะกลาย
    เป็นตัวตนภาคมืดไป เพื่อจะเรียนรู้ภาคมืด สิ่งนี้ ไม่เที่ยง แปรเปลี่ยนได้ตาม
    การกระทำของบุคคลในปัจจุบันชาตินั้นๆ (ตัวตนภาคมืด ถ้าบำเพ็ญบารมี
    ได้ดีกว่าก็จะกำเนิดใหม่เป็นตัวตนภาคสว่าง แล้วก้าวหน้าต่อไปได้เช่นกัน)
     
  5. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    น่า สนุก... ฟัง ครับ

    เพราะ ที่ มา ของ เงามืด ก่ มา จาก The One เหมือน กัน
     
  6. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    "ตัวแทนของภาคสว่าง" หรือ "ตัวตนภาคสว่างตัวใหม่" ท่านเลือกเองได้


    ในกรณีที่ท่าน "พ่ายแพ้" ท่านจะ "จมปลักอยู่ ณ ตำแหน่งเดิม" และท่าน
    จะได้รับพลังจากตัวตนภาคสว่างที่ประจำตำแหน่งเดิมนั้น เมื่อสิ้นชาตินั้น
    แล้ว ท่านจะไปแทนที่ "ตัวตนภาคสว่าง" ท่านจะเป็น "ตัวแทน" ของเขา
    สืบทอดตำแหน่งและหน้าที่บนสวรรค์ต่อจากเขา และตัวตนภาคสว่างนั้นก็
    จะลงมาเกิดเพื่อสร้างบารมีใหม่ ให้เหนือกว่าเดิมยิ่งๆ ขึ้นไป สืบต่อไป ทว่า
    ในกรณีที่ท่าน "ชนะ" ท่านก็จะเข้าสู่การปะลองกับตัวตนตัวใหม่ ที่มีบารมี
    กล้าแกร่งกว่าเดิมซึ่ง "กำลังรอท่านอยู่เบื้องหน้า" เขาจะสร้างบารมีมาจน
    เหมือนกับ "สิ่งที่ท่านคิดได้ใหม่" นั้น ราวกับเป็นคนๆ เดียวกันเลยทีเดียว!
    ถ้าท่านแพ้ ท่านจะต้องนั่งแทนที่เขา ไปต่อไม่ได้ ส่วนเขาจะได้รับการต้อน
    รับสู่ประตูแห่งผู้กล้าในระดับที่สูงขึ้นต่อไป แต่ถ้าท่านชนะ ท่านจะได้ไปต่อ
    ก้าวหน้าต่อไป เรียนรู้แบบทดสอบใหม่ต่อไปเรื่อยๆ จากตัวตนที่รออยู่เบื้อง
    หน้านั้นๆ อีกมากมายเลยทีเดียว และด้วยวิธีนี้ ท่านจึงทราบว่า "ตัวตนซึ่ง
    มาจากแหล่งเดียวกับท่าน" มีใครบ้าง และในอดีตชาติที่ผ่านมาท่านสร้าง
    บารมีอะไรไว้บ้าง นั่นเอง ซึ่งสิ่งนี้มีปรากฏอยู่ทั้งหมดแล้ว ณ ปัจจุบัน เพื่อ
    ให้ท่านเห็นภาพเข้าใจง่ายๆ เราจะยกตัวอย่างจริงสัก 1 ตัวอย่าง ท่านคง
    เห็นข่าว "ศึกฟุตบอลยูโร-จอดำ" กันไปแล้ว นั่นแหละ คือ "การปะลอง"
    ของ "คู่แห่งมหาบุรุษ" ในบริษัทหนึ่งมีตัวตนภาคสว่าง อีกบริษัทหนึ่งก็มี
    ตัวตนภาคมืด เขาทั้งสองคือ "คู่แฝดทางจิตวิญญาณ" กัน ที่จะต้องแข่ง
    ขันกันจนเหลือเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น คนที่พ่ายแพ้จะกลายเป็นมืด และผู้
    ที่ผ่านการทดสอบจึงจะได้รับ "แสงสว่างที่เหนือกว่าต่อไป" และเมื่อใดที่
    ไม่มีผู้ใดแข่งขันกับท่านได้อีกแล้ว ท่านก็จะกลายเป็น "ตัวตนใหม่ที่สร้าง
    เส้นทางเดินใหม่ของท่านเอง" ไม่ได้เดินตามรอยใคร ไม่ได้เดินใต้เงาใคร
    และไม่ได้กลายเป็นตัวแทนของใคร ท่านก็จะเป็น "ผู้ชนะอย่างแท้จริง" !
     
  7. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829

    ผมก็เป็นเงาของคนอื่นมาก่อนเหมือนกันนะ
    ลองทายสิว่า ผมเคยเป็นเงาของใครเอ่ย ...
     
  8. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    ตัวตนภาคสว่างจะปรากฏโดดเด่นก่อน ตัวตนภาคมืดจะถูกเก็บซ่อนไว้


    ตัวตนภาคสว่าง จะปรากฏให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชนก่อนเสมอ
    เพราะพวกเขาคือ "ภาคสว่าง" แต่เมื่อใดที่พวกเขาใช้พลังสว่างของเขา
    จนหมดแล้ว พวกเขายังดื้อจะเสวยบุญต่ออีก "ภาคมืด" ก็จะสวมรอยเข้า
    เสริมพลังให้เขา และเขาจะค่อยๆ เดินเข้าสู่ "ทางมืด" ในที่สุดได้เหมือน
    กัน (เพราะไม่ยอมหยุดเสวยผลบุญ ทั้งๆ ที่ผลบุญหมดสิ้นแล้ว เขาจึงมืด)
    ในขณะที่ "ตัวตนภาคมืด" จะถูกซ่อนเก็บไว้ในที่ลับ ต้องอยู่เหมือนพวก
    มืด อยู่เบื้องหลัง อยู่อย่างไม่มีใครเห็น ไม่มีใครรู้จัก เพราะนี่คือ รอยกรรม
    หรือ "พลังงานเก่า" ที่พวกเขาเคยทำไว้ เขาเคยเป็นแบบนี้ เขาจึงต้องมี
    สภาพเช่นนี้อีกครั้ง ทว่า "การชำระล้าง" จะช่วยให้เขาพ้นจากความมืด
    ไปได้ หรือ "ความอดทนรอคอย" ให้ "พลังงานเก่า" เคลื่อนผ่านไปตาม
    กาลเวลาที่ผันแปร ก็จะทำให้เขาออกมาสู่ "ความสว่างไสว" ได้ในที่สุด
    ดังนั้น พวกเขาจึงต้องมี "ช่วงเวลาของการเก็บตัว" หรือ "กักตน" นาน
    บ้างก็เก็บตัว 3 ปี, 5 ปี, 10 ปี, 15 ปี หรือ 20 ปี ก็มี! แม้แต่ผู้ทรงธรรม
    เช่นท่านตั๊กม้อ ก็ต้องเก็บตัวนั่งสมาธิหันหน้าเข้าหาผนังถ้ำถึง 9 ปี ทาง
    พุทธมหายานจะเรียกช่วงนี้ว่า "ตันตระ" หรือ "ลัทธิลับ" ที่ชอบเก็บตัว
    ลึกลับอยู่นานๆ ก่อนที่จะเปิดเผยตัวตนออกมาในภายหลัง สำหรับเราจะ
    เรียกว่า Blank time ซึ่งเป็นเรื่องคล้ายกัน เอาละ ถ้าตัวตนภาคสว่าง
    ยังทำหน้าที่ได้ดีอยู่ "ไม่มีก้าวพลาด" พวกเราชาวโลกมืด ก็จะไม่ได้รับ
    การเปิดเผยให้ทำหน้าที่แต่ถ้าเมื่อใดพวกเขาก้าวพลาดและทำหน้าที่ต่อ
    ไม่ได้แล้ว เราก็จะได้รับโอกาส ได้พ้นมาจาก "โลกมืด" เสียที แต่ช่วงนี้
    พวกเราเหล่า "ตัวตนภาคมืด" ก็จะต้องเก็บตัว, ชำระล้างพลังงานเก่า,
    และฝึกฝนตนอย่างยิ่งยวดให้เหนือกว่าตัวตนภาคสว่างขึ้นไปให้ได้ จึง
    จะมี "โอกาส" สร้างพลังสั่นสะเทือนถึงเขาได้และนำไปสู่การปะลองกัน
     
  9. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    เงา หน้า เหลี่ยม
     
  10. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    ตัวตนภาคสว่างได้โอกาสเลือกทางใหม่แต่ตัวตนภาคมืดจะถูกควบคุมไว้


    ในขณะที่ตัวตนภาคสว่างซึ่ง "ผ่านการทดสอบจากเบื้องบนแล้ว" จะเลือก
    "เส้นทางเดินใหม่ๆ ของเขาเอง" เพื่อก้าวหน้าต่อไป ไม่ย่ำอยู่กับที่เดิม แต่
    ตัวตนภาคมืดซึ่ง "ยังไม่ผ่านและต้องสอบซ่อม" ก็จะถูก "พลังของตัวตน
    ในมิติที่สูงขึ้น" ควบคุมเอาไว้ ทำให้เรามีลักษณะเหมือนคนทรง, ม้าทรง,
    หรือคนที่ถูกพลังงานควบคุมไว้ให้เดินตามรอยของพวกเขานั้นๆ ไม่อาจที่
    จะเลือก "เส้นทางเดินชีวิตของตนเองได้" เราจะต้องอยู่ภายใต้ "แสงของ
    พวกเขา" ไปก่อน จนกว่าจะผ่านการสอบซ่อมแล้ว เขาจึงจะปล่อยเราไป
    ได้ และเราก็จะได้รับ "แสงในระดับที่สูงกว่า" ต่อไป ควบคุมเราอีกเพื่อให้
    เราเดินตามรอยแสงสว่างนั้นๆ นี่คือ "ความแตกต่างของตัวตนภาคสว่าง
    และตัวตนภาคมืด" ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจน ทว่า เมื่อใดที่ตัวตนภาคสว่าง
    ที่กำลังถูกทดสอบอยู่บนโลกมนุษย์ "สอบไม่ผ่าน" พวกเขาก็จะได้รับสิ่ง
    ที่เบาลง (แบบทดสอบที่ง่ายขึ้น) ถูกควบคุมโดยตัวตนภาคสว่างเบื้องบน
    ที่บำเพ็ญบารมีอ่อนลง ต่อไป เพื่อสอบซ่อมให้ดีขึ้น, ปรับระดับให้ง่ายขึ้น
    แต่พวกเขาจะมีระดับที่ตกลง เสื่อมถอยลง นั่นเอง มาถึงตรงนี้ พวกสว่าง
    ที่สอบตก ก็จะขาดอิสรภาพ ไม่มีความเป็นตัวของตัวเองดังเดิม อีกต่อไป
    และต้องถูกควบคุมดยตัวตนในมิติที่สูงขึ้น "ตัวอื่นๆ" ในขณะที่ถ้าตัวตน
    ภาคมืดกลับสอบผ่านได้ เขาก็จะได้รับโอกาสให้ "เลือกเส้นทางเดินเอง"
    เส้นทางใหม่ๆ เขาจะมีอิสระที่จะได้เลือก เมื่อเขาเลือกแล้ว นั่นหมายถึง
    การได้รับแบบทดสอบใหม่ ที่มี "คะแนน" มากหรือน้อย ไม่เท่ากัน ตาม
    แต่เขาจะเลือกอีกด้วย (ถ้าสอบผ่าน ก็ได้คะแนนไป ถ้าสอบตก ก็ต้องมา
    ซ่อม มีสภาพเหมือนภาคมืดต่อไป) ดังนั้น พวกเขา จึงต้องแข่งกันมาก
     
  11. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829

    ผ่านด่านนั้นไปนานแล้วครับ
     
  12. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    "วีรบุรุษในตำนาน" จะฟื้นคืนชีพ จากตัวตนภาคมืดที่ผ่านการทดสอบ?


    เพราะ "ตัวตนภาคมืด" เคยเป็นเงาของวีรบุรุษมาก่อน แต่พวกเขายังไม่

    พ้น "ความมืด" จึงต้องมาเกิดอีกครั้งเพื่อชำระล้างพลังงานเก่าของพวก
    เขาก่อน แล้วกำเนิดใหม่เป็น "ตัวตนภาคสว่าง" ถ้าเขาตกลงที่จะอยู่ ณ
    ตำแหน่งนั้นๆ เขาก็จะกลายเป็น "ตัวแทนของวีรบุรุษในตำนาน" ผู้นั้นได้
    และทำหน้าที่ "เจริญรอยตามวีรบุรุษผู้นั้น" อีกครั้งหนึ่ง เขาจึงกลายเป็น
    "วีรบุรุษในตำนานผู้ฟื้นคืนชีพ" นั่นเอง ทว่า ถ้าพวกเขาไม่ยอมหยุดเดิน
    ยังก้าวหน้าเดินต่อไปเพื่อแสวงหา "แบบทดสอบที่ยากขึ้น" ไปเรื่อยๆ อีก
    เขาก็จะละทิ้ง "ตัวตนแห่งวีระบุรุษในตำนาน" นั้นไป พวกเขาจะมีโอกาส
    เลือกเส้นทางเดินใหม่ในแบบของตัวเองได้ แล้วสร้างเส้นทางเดินนั้นใหม่
    ของตัวเอง (เพื่อขึ้นเป็นองค์ปฐมต้นแบบ ที่อยู่เบื้องบนต่อไป) หรือถ้าเขา
    ไม่ได้สร้างทางเดินใหม่ แต่เขารับ "แบบทดสอบจากตัวตนที่สูงขึ้น" เพื่อ
    การ "เลื่อนระดับ" ไปก่อน ฝึกฝนนเองไปก่อน ให้ถึงระดับที่พอใจก่อน ก็
    ค่อย "สร้างเส้นทางเดินใหม่ของตนเอง" แบบนี้ ก็มีได้ เป็นไปได้เหมือน
    กัน "บางตัวตนภาคมืด" เมื่อกำเนิดใหม่เป็นภาคสว่างแล้ว ก็ไม่ได้เลื่อน
    ระดับต่อไปอีก เขาตกลงรับตำแหน่งที่เขาได้ เขาผ่าน จุดนั้น ก็ได้ แต่ถ้า
    เขากำเนิดใหม่แล้ว ต้องการเลื่อนระดับขึ้นไปอีก เขาก็จะไม่รับตำแหน่งที่
    ได้รับ ณ จุดนั้น เขาก็จะก้าวเดินไปข้างหน้าต่อไป เพื่อสร้างทางเดินใหม่
    หรือรับ "แบบทดสอบใหม่ที่สูงขึ้น" ก็ได้ เช่นกัน ดังนั้น วีรุบุรุษในตำนาน
    จะฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่อีกครั้งหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับ "การเลือกของเขานั้น"
     
  13. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    งั้น ก่ เคย เป็น
     
  14. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    สุดท้ายนี้ ท่านจะได้พบกับ "คู่แฝดทางจิตวิญญาณ" (Duality) เฉพาะ
    ใน Selection matrix เท่านั้น ไม่พบในแมทริกซ์อื่น นั่นหมายความว่า
    "คู่แข่งขันที่แท้จริงของท่าน" ใน Selection matrix ก็คือตัวตนคู่แฝด
    ของท่านนั่นเอง ไม่ใช่ใครอื่นเลย เมื่อใดที่ท่านต่อสู้กับผู้อื่น ที่ไม่ใช่คู่แฝด
    ของท่าน แสดงว่าท่านไม่ได้อยู่ใน Selection matrix ด้วย นั่นคือ ท่าน
    ไม่ได้กำลังถูกเลือกเป็น The one นั่นเอง ดังนั้น ต่อให้ท่านชนะผู้อื่นใดก็
    ไม่อาจเป็น The one ได้ เอาละ การปะลองของ "คู่แห่งมหาบุรุษ" กำลัง
    จะดุเดือดและสนุกสนานขึ้นทุกขณะ ท่านอาจเป็นส่วนหนึ่งของมัน หรือไม่
    ก็อาจจะมีส่วนร่วมเพียงการส่งเสียงเชียร์ก็แล้วแต่ ทว่า มันกำลังจะเกิดขึ้น
    และส่งผลกระทบถึงทุกท่านอีกด้วย ดังนั้น อย่าได้วิตกกังวลอะไรไปเลย นี่
    ไม่ใช่ครั้งแรก มันเกิดขึ้นเสมอๆ มานานแล้วและท่านก็ได้รับผลกระทบจาก
    มันมาอยู่เสมออยู่แล้ว (เช่น ต้องทนดู "จอดำ" ก็มีมาแล้ว) ดังนั้น มันก็ไม่
    ใช่เรื่องที่น่าตกใจอะไร ตรงกันข้าม มันน่าลุ้นไม่แพ้ "ฟุตบอลโลก" เลยที
    เดียว เอาน่า ไหนๆ ก็มาถึงจุดนี้แล้ว ฮึกเหิมหน่อย แล้วยิ้มสู้กับทุกอย่าง สู้
    พร้อมรับทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นได้แล้ว ไม่ก็ลงสนาม Selection matrix
    ไปกับเขาด้วยเลย ท้าทายตัวเองหน่อย กล้าหาญขึ้นอีกนิด ตกลงไหมครับ


    อย่าลืม "หัวใจที่ฮึกเหิม" ของผู้กล้าที่อยู่ในตัวท่านทุกคนด้วย สวัสดีครับ
     
  15. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    19 มิ.ย. 2555


    "เสียงจาก The Matrix"
    รับสื่อสารโดย


    瑠璃王
     
  16. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    [​IMG]


    นี่เขาก็นั่งรอ "คู่แข่ง" จนเหงาแย่แล้วละ ฮ่า ๆๆ
     
  17. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    มหาบุรุษหนึ่ง
    ก่อตั้งนิคมฯ ด้วยตนเอง
    อีกมหาบุรุษหนึ่ง
    ใช้ต่างชาติ ก่อตั้งนิคมฯ


    ทั้งสองจะเป็นดังคู่แฝด
    ที่จะปะลองบารมี
    สร้างความดีแข่งกัน
    เพื่อหา The one นั่นเอง
     
  18. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    ปี 2555
    ปีที่สอง (ฮ่าๆๆ)
    จะมาปะลองกัน
    เพื่อคัดสรร The one


    แข่งกันสร้างความดี
    ใช้บารมีโปรดสัตว์
    แฝดที่ต้องงัดข้อกัน
    เพื่อหา The one คนนั้น
     
  19. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=dGSSvv8J5hM]MVฟงอวิ๋น2 - YouTube[/ame]


    ฮึกเหิมหน่อยผู้กล้าทั้งหลาย ...
     
  20. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    ลม กับ เมฆ ปะลอง
    อะไรจะลอยสูงกว่า?
    ผู้กล้าขึ้นขี่มังกรฟ้า
    ผู้พ่ายลงสู่ภาคพื้นดิน


    ฟง และ อวิ๋น ทะยาน
    ขี่เมฆา ลอยล่องลม
    เหนือฟ้าเหนือดารา
    เหลือผู้กล้าเพียง 1 เดียว
     

แชร์หน้านี้

Loading...