การเตรียมตัว เตรียมใจ ไปสู่ยุคภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Aunyasit, 12 มีนาคม 2012.

  1. ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    3,277
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,490
    อนุโลมมุสา คือ การไม่แสดงเรื่องเท็จทั้ง ๗ (มุสาวาท ๗) แต่เจตนาให้เขาเจ็บใจหรือแตกร้าวกัน เช่น

    -พูดเสียดแทง กระทบกระแทก แดกดัน
    -พูดประชด ยกให้เกินความจริง
    -พูดด่ากดให้ต่ำกว่าความเป็นจริง
    -พูดสับปลับ ด้วยความคะนองวาจา
    -พูดคำหยาบ คำต่ำทราม

    เหล่านี้ไม่จัดเป็นมุสาวาทแต่ทำศีลด่างพร้อย


    วจีกรรมทางชั่ว มี 4 อย่าง คือ พูด เท็จ พูดคำหยาบ พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าวจีทุจริต


    ตรวจศีลข้อ4

    ศีลข้อ 4 มุสาวาท เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ
    ศึกษาสมาทานเพื่อการลด งด เว้นขาด จากความเท็จ ความไม่แท้
    เจตนารมณ์ศีลข้อ 4 เพื่อลดมุสา พัฒนาสัจจวาจา

    ศีลขาด
    คือ เจตนากล่าวคำเท็จ โกหก หลอกลวง บิดเบือนไปจากความจริง หรือสัจจะ

    ศีลทะลุ
    คือ เจตนากล่าววาจา ระบายโทสะ บำเรอโลภะ บำรุงราคะ เป็นคำหยาบ

    ศีลด่าง
    คือ มีวาจาส่อไปในทางเสียด เสียดสีเชิงโทสะบ้าง เสียดสีเชิงโลภะบ้าง เสียดสีเชิงราคะบ้าง เสียดสีเชิงมานะทิฏฐิบ้าง เสียดสีเชิงมานะอัตตาบ้าง แม้จางบางเบา หรือพูดกบคนโน้นทีคนนี้ที เพื่อให้เกิดวิวาทบาดหมาง แยกก๊ก แบ่งเหล่า ก็จัดเข้าอยู่นัยนี้ เป็นวาจาส่อเสียด

    ศีลพร้อย
    คือ มีวาจาเรื่อยเปื่อยเฉื่อยฉ่ำไป เพ้อไป พล่อยไป พล่ามไป จะโดยแรงเร้าจากโทสะที่จากบางเบา โลภะที่จางบางเบา ราคะที่จางบางเบา หรือมานะทิฏฐิที่จางบางเบา มานะอัตตาที่จางบางเบา ก็จัดเข้าอยู่นัยนี้ เป็นวาจาเพ้อเจ้อ

    เป็นไทโดยศีล
    ขัดเกลาตนจนอิสระเสรี มีวาจาประชาสัมพันธ์ เป็นไปโดยสามารถของตนไร้อิทธิพลจากโทสะ โลภะ ราคะ มานะทิฏฐิ มานะอัตตามาครอบงำ หรือไม่มีความพร้อย ความด่าง ความทะลุ หรือขาดทางศีลธรรม โดยเฉพาะเรื่องราว ลดมิจฉาสู่สัมมา หรือลดมุสา (วาจาอันเป็นเท็จจากสัจจะ) พัฒนาสัจจวาจา


    ผลกรรมผิดศีลมุสาคือ
    ๑. พูดไม่ชัด
    ๒. ฟันไม่เป็นระเบียบ ฟันไม่สวย ฟันผุ
    ๓. ปากเหม็นมาก
    ๔. ไอตัวร้อนจัด
    ๕. ตาไม่อยู่ในระดับปกติ เช่น ตาลอย ตาเหลือก
    ๖. กล่าววาจาด้วยปลายลิ้นและปลายปาก
    ๗. ท่าทางไม่สง่าผ่าเผย
    ๘. จิตไม่เที่ยงคล้ายคนวิกลจริต

    ปูตีมุขเปตวัตถุ
    ว่าด้วยบุพกรรมของเปรตปากเน่า
    ท่านพระนารทะถามเปรตตนหนึ่งว่า
    [๘๘] ท่านมีผิวพรรณงามดังทิพย์ ยืนอยู่ในอากาศ แต่ปากของท่านมีกลิ่น
    เหม็น หมู่หนอนพากันมาไชชอนอยู่ เมื่อก่อนท่านทำกรรมอะไรไว้?
    เปรตนั้นตอบว่า

    เมื่อก่อนข้าพเจ้าเป็นสมณะลามก มีวาจาชั่ว สำรวมกายเป็นปกติ ไม่
    สำรวมปาก ผิวพรรณดังทองข้าพเจ้าได้แล้ว เพราะพรหมจรรย์นั้น แต่
    ปากของข้าพเจ้าเหม็นเน่าเพราะกล่าววาจาส่อเสียด ข้าแต่ท่านพระนารทะ
    รูปของข้าพเจ้านี้ท่านเห็นเองแล้ว ท่านผู้ฉลาดอนุเคราะห์กล่าวไว้ว่า
    ท่านอย่าพูดส่อเสียดและอย่าพูดมุสา ถ้าท่านละคำส่อเสียดและคำมุสา
    แล้ว สำรวมด้วยวาจา ท่านจักเป็นเทพเจ้าผู้สมบูรณ์ด้วยสิ่งที่น่าใคร่.



    http://84000.org/tipitaka/pitaka_ite...07&pagebreak=0
     
  2. ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    3,277
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,490
    โรคปากเสีย คือ โรคชอบต่อกรรม

    วิธีแก้ปากเสีย (วจีกรรม4) โดยให้หลักไว้ดังนี้


    โรคปากเสีย คือ โรคชอบต่อกรรม เมื่อถูกกระทบทางทวารทั้ง 6 (ประตูทั้ง 6 คือ รูป เสียง กลิ่น รส สิ่งที่มากระทบผิวกาย และธรรมารมณ์)


    เพราะอุเบกขา หรือวางเฉยไม่เป็น เบรกจึงแตกเป็นปกติ มีผลทำให้กรรมบท 10 หมวดวาจา ไม่เต็มสักที (กรรมบท 10 หมวดวาจา 4 มี ไม่พูดโกหก, ไม่พูดคำหยาบ , ไม่พูดส่อเสียดหรือพูดนินทาผู้อื่น และไม่พูดเรื่องไร้สาระไม่เกิดประโยชน์)


    วิธีปฏิบัติ

    แก้โดย

    1) พยายามคิดเสียก่อนจึงค่อยพูด

    2) หรือพยายามคิดอยู่ตลอดเวลาที่ฟังคนอื่นเขาพูด

    3) พยายามดึงจิต อย่าไปไหวตามคำพูดของผู้อื่น (โดยฟังอย่างเดียว ห้ามปรุงแต่งธรรมนั้นๆ)

    4) พยายามฟังแล้วกรองเอาสาระจากคำพูดนั้นๆ ของเขา ว่ามีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์ (ด้วยปัญญา)

    5) เวลาคนอื่นเขาพูด จะยาวจะสั้น ปล่อยเขาพูดให้จบก่อน เราใช้ความคิดฟังไปแล้ว จะรู้ว่า คำพูดนั้นๆ มีสาระหรือไม่มีสาระ ควรพูดหรือไม่ควรพูด หรือ ควรวาง ควรตัด ก็รู้ได้ด้วยความคิด ไม่ใช่ประโยคไหนมากระทบหูแล้ว กูอยากจะพูดก็ว่าไปเรื่อย โดยไร้ความคิดพิจารณา

    6) หากทำตาม 5 ข้อแรกแล้ว คิดอยากพูดบ้างก็ให้พิจารณาว่า พูดแล้วเป็นคุณหรือโทษ มีสาระหรือไม่มีสาระ ยิ่งเป็นสาระธรรมในพระพุทธศาสนายิ่งสำคัญ จะต้องมั่นใจเสียก่อนว่าเป็นความจริง ไม่ผิดศีล-ไม่ผิดพระวินัย ไม่ผิดพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ถ้าไม่ผิดก็พูดได้ สรุปว่าต้อง นิสสัมมะ กรณัง เสยโย หรือใคร่ครวญด้วยปัญญาเสียก่อนจึงค่อยพูด เพราะแม้ว่าจะเป็นจริงแต่พูดแล้วคนฟังไม่เชื่อ-ไม่ศรัทธา ก็ไร้ประโยชน์ที่จะพูด


    สมเด็จองค์ปฐม ทรงเมตตาแนะนำต่อ และสั่งสอนต่อ มีความสำคัญโดยย่อดังนี้

    ก) " วาจา เป็นเหตุให้เกิดศัตรู และสร้างศัตรู ผู้รู้พึงกล่าววาจาด้วยความตริดตรองเสียก่อน เพื่อประโยชน์ให้แก่ตนเอง แต่ผู้ไร้สติ-สัมปชัญญะขาดปัญญา จักกล่าววาจาให้เกิดโทษแก่ตนเองและผู้อื่นอยู่เนืองๆ เพราะฉนั้นให้รู้สำรวมวาจาให้มากๆ โดยการพิจารณาเสียก่อนจึงพูด ''


    ข) " กำลังใจของคนไม่เท่ากัน จงอย่าไปตำหนิใคร เพราะทำไปหรือตำหนิไปก็รังบแต่จักเพิ่มกิเลสขึ้นในจิต และสร้างศัตรูขึ้นแก่จิตของผู้อื่น ดังนั้นจึงควรสงบถ้อยคำไว้เป็นดีที่สุด แม้จักกล่าวว่าด้วยความหวังดีก็ตาม มันก็เป็นเนื่องด้วยกิเสอยู่ดี"


    ค) “ สังขารุเบกขาญาณ เป็นธรรมเบื้องสูง ของผู้ถึงจุดสุดยอดแห่งมรรคผลนิพพาน " ขอให้พวกเจ้าหมั่นซ้อมหมั่นปฏิบัติเข้าไว้ วางอุเบกขาให้ถูกลักษณะของมัชฌิมาปฏิปทา โดยอาศัยศีลเป็นพื้นฐานที่ตั้งของสมาธิและปัญญา ตัว สังขารุเบกขาญาณก็จักเกิดขึ้นได้ไม่ยาก หมั่นอัตตนา โจทยัตตานัง สอบจิต-สอบกาย-สอบวาจา เข้าไว้ว่า คิดเช่นนี้ ทำเช่นนี้ พูดเช่นนี้ มันผิดหรือถูกในหลักธรรมที่ตถาคตได้สั่งสอนมา พิจารณาให้มาก ๆ

    ถ้าผิดก็จงอย่าทำเป็นอันขาด ถ้าถูกก็จงรีบทำด้วยความมั่นใจ ขยัน-พากเพียรเข้าไว้ มรรคผลที่ได้จากการกระทำของตนเองนั้นเป็นของแท้ ดีกว่าฟังคนอื่นพูดหรือเล่าว่า เขาทำเช่นนั้นได้ผลเช่นนี้


    ง) มาเถิดเจ้า เข้ามาสู่หลักปฏิบัติธรรม อันเข้าสู่โลกุตรธรรมเบื้องสูงอย่างแท้จริง ตั้งใจไปเลยทิ้งทวนของชีวิตเสี้ยวที่เหลือนี้ให้แก่พระธรรม


    ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป จงหมั่นคุมสติกำหนดรู้กิริยาของกาย-วาจา-ใจให้แน่วแน่มั่นคง อา นาปานัสสติกับคำภาวนา อย่าทิ้งเป็นอันขาด ใครจักพูดอะไร ขอให้มีสติฟังให้ดี ๆ พิจารณาเข้าอิงพระธรรมคำสั่งสอน กลั่นกรองหาสาระให้ได้ แล้วเวลาที่จักพูด ก็จงคิดพิจารณาให้ดีว่ามีสาระหรือไม่ ถ้าไม่มีจงอย่าพูด อย่าทำเช่นนั้นเป็นอันขาด "




    [​IMG]


    (หลวงปู่บุดดา)

    “ไอ้คนเรานี้มันก็แปลก ชอบเอาลมปากเผากัน เอาไฟกิเลส โมหะ โทสะ ราคะเผากัน เผาตนเอง เผากาย เผาใจตนเองยังไม่พอ

    ชอบเผื่อแผ่ไปเผาชาวบ้าน ชาวช่องเขาด้วย เผาจิตเผากายของเขามันสนุกหรืออย่างไร วิสัยชาวโลก ชอบนินทา-สรรเสริญ ไฟร้อน ไฟเย็น ก็เผาได้เผาดี ”


    http://tangnipparn.com/page6_b00k2.html
     
  3. ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    3,277
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,490
    อดทนต่อถ้อยคำล่วงเกินของผู้อื่นได้ "ประเสริฐยิ่ง"

    [​IMG]


    อดทนต่อถ้อยคำล่วงเกินของผู้อื่นได้ "ประเสริฐยิ่ง"

    วจนกฺขโม = อดทนต่อถ้อยคำล่วงเกิน


    เมื่อใดที่เราเป็นผู้อดทนต่อถ้อยคำหยาบ คำเสียดสี...


    เราจะลดและบรรเทากรรมเวรที่ต้องตอบโต้กับผู้กล่าววาจาร้ายใส่เราได้


    เป็นการฝึก ขันติ (อดกลั้น) ทมะ (ข่มใจ) รวมไปถึงอภัยทาน(ทานที่ทำได้ยากเมื่อทำได้จะตัดเวรตัดกรรม) แก่ผู้ที่มาทำร้ายทางวาจา


    บางท่าน ใครพูดทับถม หรือเสียดสีเล็กๆน้อยๆ ก็ร้อนใจ นอนไม่หลับ กินไม่ลง สายตาระทม ผิวพรรณหม่นหมองเพราะแรงฟุ้ง เป็นกิเลสอย่างหนึ่งทำให้คิดหมุนวน

    นี่เป็นผลของการเก็บเอาคำพูดของคนอื่นมาทิ่มแทง
    ใครล่ะที่ยินดีเก็บคำพูดของคนอื่นไว้ ถ้าไม่ใช่ใจท่านเอง

    บางท่าน โดนด่า โดนพูดเสียด ตั้งแต่เดือนก่อน แต่เก็บเอาคำพูดมาแทงตัวเองทุกๆวัน
    รู้หรือไม่ ว่าคนที่ด่าท่าน เขาลืมไปนานแล้ว ท่านต่างหากที่ยังไม่ลืม และใช้ใจตัวเองหมักหมมถ้อยคำไร้สาระเก็บไว้ไม่ยอมสลัดทิ้ง

    ท่านห้ามพระอาทิตย์ไม่ให้ส่องแสงได้ ท่านคงสามารถห้ามคนนินทาได้

    ธรรมดา..ที่ต้องเกิดมาเจอถ้อยคำกล่าวโทษ เพ่งโทษ

    ธรรมดา..ที่ต้องเกิดมาเจอถ้อยคำเสียดสี เหน็บแนม

    ธรรมดา..ที่ต้องเกิดมาเจอถ้อยคำด่าทอ ผรุสวาท



    แต่อะไรก็ตามที่เป็นสิ่งสมมุติ ล้วน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ในที่สุด


    ถ้อยคำล่วงเกินต่างๆ มันได้"ดับ"ไปนานแล้วตั้งแต่ที่คนๆนั้นเขาพูดเสร็จ
    แต่ท่านเอง กลับทำให้ถ้อยคำเหล่านั้น "เกิดใหม่"ทุกๆวัน ด้วยการเก็บเอามาคิดแค้นใจ น้อยใจ เสียใจ ไม่หยุดหย่อน


    [​IMG]



    ข้อความจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    “......ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อาสวะอันภิกษุพึงละด้วยความอดกลั้น.... คือภิกษุในธรรมวินัยนี้ พิจารณาโดยแยบคายแล้ว ย่อมเป็นผู้อดทนต่อหนาว ร้อน หิว กระหาย เหลือบ ยุง ลม แดด ย่อมเป็นผู้อดทนต่อถ้อยคำหยาบ คำเสียดสี... อดกลั้นต่อทุกขเวทนาทางกาย.... เมื่อเธออดทนอยู่ อาสวะเหล่านั้นที่ทำความคับแค้นและความเร่าร้อนย่อมไม่มีแก่เธอ...."

    พระพุทธองค์ท่านก็ยังกล่าวถึงการอดทนต่อถ้อยคำต่างๆที่มากระทบเรา หากอดทนได้ ก็เป็นปัจจัยในการปล่อยวางต่อกิเลสเครื่องร้อยรัดดวงจิตของเราได้



    ปัญหา เมื่อเราถูกด่าว่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย เราควรจะปฏิบัติอย่างไร?

    พุทธดำรัสตอบ “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทางแห่งถ้อยคำที่บุคคลอื่นจะพึงกล่าวกะท่านมีอยู่ ๕ ประการ คือ
    กล่าวโดยกาลอันสมควรหรือไม่สมควร ๑
    กล่าวด้วยเรื่องจริงหรือไม่จริง ๑
    กล่าวด้วยคำอ่อนหวานหรือคำหยาบคาย ๑
    มีจิตเมตตาหรือมีโทสะในภายในกล่าว ๑
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคลอื่นจะกล่าวโดยกาลอันสมควรหรือไม่สมควรก็ตาม
    จะกล่าวด้วยเรื่องจริงหรือไม่จริงก็ตาม
    จะกล่าวด้วยคำอ่อนหวานหรือคำหยาบคายก็ตาม
    จะกล่าวถ้อยคำประกอบด้วยประโยชน์หรือไม่ประกอบด้วยประโยชน์ก็ตาม
    จะมีจิตเมตตาหรือมีโทสะภายในกล่าวก็ตาม
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แม้ในข้อนั้น พวกเธอพึงศึกษาอย่างนี้ว่า จิตของเราจักไม่แปรปรวน

    เราจักไม่เปล่งวาจาลามก
    เราจักอนุเคราะห์ด้วยสิ่งอันเป็นประโยชน์
    เราจักมีจิตเมตตา ไม่มีโทสะในภายในเราจักแผ่เมตตาจิตไปถึงบุคคลนั้น
    และจักแผ่เมตตาจิตอันไพบูลย์ ใหญ่ยิ่งหาประมาณมิได้ ไม่มีเวร ไม่มีพยาบาทไปตลอดโลก ทุกทิศทุกทางซึ่งเป็นอารมณ์ของจิตนั้นดังนี้
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเธอทั้งหลายถึงศึกษาด้วยอาการดังที่กล่าวมานี้แลฯ ”


    หากท่านกำลังฝึกปล่อยวาง ลองสำรวจดูอีกสักหน่อย ว่าได้ปล่อยวางคำพูดของผู้อื่นแล้วหรือยัง

    พึงจดจำข้อความที่ให้กำลังใจท่านในการอดทนต่อคำพูดของคนอื่น
    "อดทนต่อคำที่ล่วงเกินได้ ประเสริฐยิ่ง"

    เมื่ออดทนได้แล้ว ให้ใช้เมตตาลบล้างอำนาจโทสะในใจท่าน การไม่สบายใจในคำพูดของคนอื่นก็เป็นโทสะอย่างหนึ่งที่ท่านเก็บฝังไว้
    จงระงับโทสะจิตด้วย

    1.เมตตาต่อคนที่ด่าเรา(สงสาร)
    2.กรุณาต่อคนที่ด่าว่าเราด้วยการไม่ตอบโต้
    3.มุทิตา ยินดีที่ได้ชดใช้กรรมให้เขาด่า (เพราะในอดีตเราต้องเคยทำกรรมกับเขาไว้ เขาจึงตามมาด่า-ทุกอย่างมีเหตุปัจจัย)
    4.อุเบกขา เห็นถึงความไม่เที่ยงของคำพูด มีเกิดมีดับ

    ชีวิตนี้น้อยนัก สั้นนัก คนเราได้เวลามาเท่ากัน คือ 1นาทีก็มี60วินาที เท่ากัน อยู่ที่ใครจะทำให้มีความสุขที่แท้จริงมากกว่ากัน

    ดังนั้นอย่าเสียเวลากับการคิดหมุนวนในคำพูดของคนอื่นเลย....
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ผมขอเสนอให้ลบทั้งคำถามที่ไม่สุภาพ รวมทั้งถ้อยคำที่เสียดสี ประชดประชัน กระทบกระแทกแดกดัน ใสร้ายป้ายสี ด้วยใจที่มีแต่อคติไม่เคารพในความคิดเห็นและความเชื่อของคนอื่น ออกไปทั้งหมดเลยจะดีกว่านะครับ เพื่อคนที่เข้ามาอ่านในภายหลัง จะได้ไม่สับสนและขุ่นเคืองใจไปกับถ้อยคำที่เลวร้ายเหล่านั้นไปด้วยครับ
     
  5. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    ผมเริ่มงงแล้วครับ ว่าจะเริ่มตอบคำถามเรื่องสถานที่ปลอดภัยให้ใครบ้าง ต้องขอเวลาทะยอยอ่านดูก่อนครับ สำหรับท่านที่ถามเรื่องสถานที่มาซ้ำกับสถานที่ที่เคยมีคนอื่นถามมาแล้วก็ขอให้ไปดูข้อมูลจากที่ผมเคยตอบไปแล้วนะครับ ขอเรียบเรียงข้อมูลก่อน แล้วจะรีบตอบให้ครับ
     
  6. roma171

    roma171 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +131
    ขอเป็นกำลังใจให้คุณ Aunyasit ค่ะ ^ ^
    รู้สึกขอบคุณอยู่เสมอ ที่ทำให้ดิฉันและเพื่อนๆได้มีโอกาสร่วมบุญใหญ่ ถึงจะเป็นปัจจัยเล็กน้อย แค่คิดก็อิ่มบุญค่ะ
    ปกติเวลาที่ได้รับเตือนเรื่องภัยพิบัติ ดิฉันและเพื่อนๆก็จะระมัดระวัง และรู้สึกขอบพระคุณสำหรับการเตือนทุกครั้ง แต่พอภัยไม่เกิด ดิฉันและเพื่อนๆก็ดีใจค่ะ เพราะทำให้พวกเราได้มีเวลาสะสมบุญต่อไปอีกหน่อย
    ...บนโลกใบนี้ ไม่มีความบังเอิญ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีเหตุและผล...
     
  7. buddhpunjat

    buddhpunjat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    1,114
    ค่าพลัง:
    +4,188
    เป็นวจีที่สวยงามมากเลยค่ะ...นานๆทีจะได้เจอความรู้สึกที่สวยงามละเมียดละมัยแบบนี้ (f)
     
  8. darakul

    darakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +364
    คิดคล้ายๆ กันเลยมีคนเตือนก็ดีหายประมาทในชีวิตไปได้เยอะ ได้เร่งปฏิบัติจากที่เคยหย่อนยานบ้างเป็นระยะๆ ถึงเวลาแล้วไม่เกิดก็ดี เพราะอย่างน้อยเรายังมีโอกาสได้ทำอะไรมากขึ้น ขอบอกกันตามตรงว่ากระทู้นี่ล่ะทำให้เกิดแรงใจได้เข้าห้องพระสวดมนต์นั่นสมาธิเกือบทุกวัน จากเดิมเดือนนึงเข้าไม่กี่ครั้ง ใครจะเป็นอย่างไรหรือได้ประโยชน์อะไรไม่รู้นะ รู้แต่ว่าเราสะสมบุญได้มากขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
     
  9. darakul

    darakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +364
    บ้านที่พร้าวเสร็จเมื่อไหร่บอกด้วยนะ ไว้ไปวัดเจติฯ เมื่อไหร่จะได้แวะไปเยี่ยม
     
  10. BBB

    BBB Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +73
    ขออนุโมทนา กับหลายท่าน ที่มีใจเป็นมิตร มีจิตร่มเย็น มองโลกในแง่ดี

    โลกจะเย็นขึ้นเพราะ กระแสจิตเป็นมิตร จิตเมตตา แบบนี้



    ส่วนตัว คิดว่า การที่ รู้ไว้ก่อน ได้เตรียมใจ เตรียมกายก่อน ย่อมได้เปรียบ


    ส่วนภัยพิบัติ มันจะเลื่อนหรือไม่เกิดก็ดี ใช่มั้ยค๊ะ :cool:


    จิตเรา อย่าไปคิดว่าจะต้องเกิดสิคะ คนญี่ปุ่นบอก ''พลังจิตมนุษย์รุนแรง''

    มีเด็กญี่ปุ่นไม่อยากไป ร.ร. จึงชอบโกหกแม่ว่า ขาเจ็บ เดินไม่ได้

    อีก 6 ปีต่อมา ขาก็เดินไม่ได้จริงๆ

    หลวงพ่อมิตซูโอะ คเวสโก เทศน์สอนว่า... จิตของเรานี้มีพลัง คิดอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น


    -----


    และ ถ้าไม่เกิดแล้ว อย่าไปบ่น ว่าให้คนที่เขามาบอก ให้เขาเสียกำลังใจกัน เป็น บาป


    คุณ อย่าไปสร้างกรรมทางวจี เลย


    คุณด่าว่า คนเดียว แต่กระทบใจ ไปถึงบุคคลอื่นๆ ที่เป็นแฟนคลับ หรือรักเขาเป็นหลายร้อยๆนะคะ

    คุณ ดังตฤณ ก็สอนไว้ว่า กรรมทางอินเตอร์เน็ท มันรวดเร็ว


    หลวงปู่หลวงตา ก็เทศน์แล้วสอนว่า ภัยพิบัติจะมา ให้เร่งเพียรปฎิบัติกัน ถือ ศีล 5 เป็นพื้นฐาน ให้ร่มเย็น

    แต่บางท่าน กลับชอบ ทำให้ห้องนี้ ร้อน คือ ชอบสร้างภัยพิบัติจำลอง กันเอง


    เคยฟังดร.ท่านนึงเคยบอกไว้ประมาณว่า ยิ่งดัง-ยิ่งจับตาสังเกต-ยิ่งเลื่อน เพราะเจ้ากรรมนายเวรเขารู้ตัว

    สังเกตส่วนใหญ่ภัยที่เกิดๆไปแล้ว มันมักจะมาตอนไม่สนใจมัน ไม่ให้ตั้งตัว





    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2012
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เรียนคุณอัญญาสิทธิ์ ด้วยความเคารพ

    ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป ผมอยากจะทราบภาพรวมของภัยพิบัติทั้งหมด ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ ว่าจะมีผลกับประเทศไทยและกับโลกของเรานี้อย่างไรบ้าง เอาแบบตั้งแต่เริ่มต้น ไปจนถึงพระเจ้าจักรพรรดิ์ปรากฏพระองค์เลยนะครับ

    จากการที่ผมได้รวบรวมคำทำนายในศาสนาคริสต์ ได้พบความจริงว่าเป็นเรื่องของมนุษย์ต่างดาวแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าการเสด็จมาของพระคริสต์ครั้งที่สอง(มนุษย์ต่างดาวฝ่ายดี) และการมาครอบครองโลกของซาตานในช่วงเวลาแห่งการชำระโลก(แอนตี้ไคร้สต์,อิลูมินาติ,มนุษย์ต่างดาวฝ่ายชั่ว)

    ผมจึงอยากทราบเรื่องของมนุษย์ต่างดาว ทั้งฝ่ายดีและฝ่ายชั่วนี้ ว่าพวกเขาจะมีบทบาทกับโลกและประเทศไทยอย่างไรบ้าง เพราะผมทราบมาว่ามีผู้ปฏิบัติธรรมหลายท่าน ได้พบปะพูดคุยกับมนุษย์ต่างดาวเหล่านี้้ รวมทั้งได้ไปเห็นฐานปฏิบัติการของมนุษย์ต่างดาว ที่ซ่อนอยู่ในภูเขาแห่งหนึ่งในประเทศไทยด้วยครับ

    สุดท้ายนี้ผมขออนุโมทนา ในกุศลเจตนาของคุณอัญญาสิทธิ์และหมู่คณะ ที่กำลังทำงานช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อยู่ในขณะนี้ ถึงจะมีผู้ไม่หวังดีคอยขัดขวางอยู่บ้าง ก็ขออย่าได้ท้อถอย ขอให้อดทนเพื่อความอยู่รอดของคนดีมีศีลธรรมต่อไปครับ
     
  12. DarkTanKun

    DarkTanKun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +392
    รบกวน คุณอัญญาสิทธิ์ ช่วยฟันธงเรื่องน้ำท่วม ว่าน้ำจะท่วมสูง

    ประมาณเท่าไหร่จากระดับน้ำทะเลได้ไหมครับ จะได้ง่ายต่อการ

    หาพื้นที่หลบภัย ขอบพระคุณมากครับ
     
  13. Alphaneomatrix

    Alphaneomatrix Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +77
    ผมก็รู้สึกเช่นเดียวกันครับ ขออนุโมทนาด้วยครับ
     
  14. buddhpunjat

    buddhpunjat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    1,114
    ค่าพลัง:
    +4,188
    คงอีกประมาณ 5 เดือนมังคะ เซ็นสัญญาสร้างไปแล้ววันก่อน
    แฮ่ะๆ...แล้วคงจะกลายเป็นบ้านตัวอย่างของไทยนาโนเฮ้าส์ทางโซนภาคเหนือด้วย
    แบบนี้คงทำบ้านรกไม่ได้แล้วสิ...:'(
    แต่ตั้งแต่เดือนหน้าจะย้ายไปอยู่บ้านเช่าไปพลางก่อนแล้วล่ะค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2012
  15. รพินทร์นาถ

    รพินทร์นาถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    351
    ค่าพลัง:
    +844
    เคยมีครั้งหนึ่งทางบ้านพาไปหาพระอาจารย์ที่นับถือและศรัธาว่าดูดวงชะตาแม่นมาก ท่านพระครูได้ทำนายดวงชาตะ ผมพร้อมทั้งบอกให้ระวังเรื่องอุบัติเหตุ ภายในปีนี้อาจทำให้ขาหักหรือพิการได้ ตอนนั้นผมยังวัยรุ่ยคึกคะนอง พอเลยปีที่ทำนายมาผมกับปรามาส ท่านว่าท่านดูดวงไม่แม่น ไม่เห็นขาหักเลยอุบัติเหตุก็ไม่มี แล้วก็คิดต่ำไปตามเวลาที่ว่างอยู่โดยไม่ได้มองดูจิต ตัวเองเลยว่าหลงไปถึงไหน จิตนาการไปต่างๆนานา ว่ากล่าวท่านกับ ทางบ้านที่นับถือท่าน สุดท้ายพอเวลาพาไป ผมศึกษาธรรมะมากขึ้น ก็เข้าใจขึ้นตามลำดับ
    การที่ผมไม่เป็นไรเลยถือว่าผมโชคดีระหว่างปีนั้นทางบ้านพาไปทำบุญ ทำทาน เพราะเหตุนี้มั่งที่ทำให้ผมไม่เป็นไรเจ้ากรรมนายเวรอาจจะเลื่อนหรืออโหสิกรรม ให้กับเรา เรื่องที่คุณอัญญาสิทธิ แจ้งและเตือนผมถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ทำให้เราหมั่นทำบุญทำทาน มากขึ้นบุญที่มาจากจิตในการให้ การสร้าง การถือศิล สมาธิ ปัญญา จิตแรกที่ทำสำคัญมากกว่า สิ่งที่ทำไปอยู่ที่ไหน ใครเอาไปเอาไปทำอะไร ให้นึกถึงจิตที่เราทำแว๊ปแรกที่เราคิดดีนั่นล่ะที่จะทำให้เรามีความสุข มากกว่าการค้นหาว่าเงินทำบุญไปไหน เอาไปสร้างแล้วสร้างจริงหรือเปล่า (ผมไม่ได้มาเขียนเชียร์นะครับ) ขอให้เข้าใจไว้นะครับว่าผมพูดถึงการตั้งใจทำบุญแว๊ปแรกที่ทำบุญสำเร็จไปแล้ว มันไม่ลดหรือเพิ่มขึ้น ส่วนหลังจากที่ทำจะ อนุโมทนาหรือว่ากล่าวก็เป็นบุญอีกตัวที่เกิดขึ้นมาอีก เรื่องนี้เป็นเรื่องของใครของมัน

    คติธรรมคำสอนของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
    * ​
    [FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]จิต เป็นสมบัติสำคัญมากในตัวเราที่ควรได้รับการเหลียวแล ด้วยวิธีเก็บรักษาให้ดี ควรสนใจรับผิดชอบต่อจิต อันเป็นสมบัติที่มีค่ายิ่งของตน วิธีที่ควรกับจิตโดยเฉพาะก็คือภาวนา ฝึกหัดภาวนาในโอกาสอันควร ตรวจดูจิตว่า มีอะไรบกพร่องและเสียไป จะได้ซ่อมสุขภาพจิต นั่งพินิจพิจารณาดูสังขารภายใน คือ ความคิดปรุงแต่งของจิตว่า คิดอะไรบ้าง มีสาระประโยชน์ไหม คิดแส่หาเรื่อง หาโทษ ขนทุกข์มาเผาตนอยู่นั้น พอรู้ผิด[/FONT][/FONT]-[FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]ถูกของตัวบ้างไหม พิจารณาสังขารภายนอกว่า มีความเจริญขึ้นหรือเจริญลง สังขารมีอะไรใหม่หรือมีความเก่าแก่ชราหลุดไป พยายามเตรียมตัวเตรียมใจเสียแต่เวลาที่พอจะทำได้ ตายแล้วจะเสียการให้ท่องในใจอยู่เสมอว่า เรามีความแก่[/FONT][/FONT]-[FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]เจ็บ[/FONT][/FONT]-[FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]ตาย อยู่ประจำตัวทั่วหน้ากัน

    [/FONT]
    [/FONT]* [FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]ทาน[/FONT][/FONT]-[FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]ศีล[/FONT][/FONT]- [FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]ภาวนา ธรรมทั้ง [/FONT][/FONT]3 [FONT=Angsana New,Angsana New][FONT=Angsana New,Angsana New]นี้ เป็นรากแก้วของความเป็นมนุษย์ และเป็นรากเหง้าของพระศาสนา ผู้เกิดมาเป็นมนุษย์ ต้องเป็นผู้เคยสั่งสมธรรมเหล่านี้มาอยู่ในนิสัย ของผู้จะมาสวมร่างเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ด้วยมนุษย์อย่างแท้จริง
    [/FONT]
    [/FONT]
     
  16. ดุสิตาลัย

    ดุสิตาลัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2012
    โพสต์:
    353
    ค่าพลัง:
    +1,955
    จะมาสร้างอยู่ตำบลใดของอำเภอพร้าวครับ? จะได้ไปดูตัวอย่างบ้านแบบใหม่ไว้เป็นแนวทาง
     
  17. Sonk

    Sonk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +197

    ถ้าไม่เป็นการรบกวนมากเกินไป ผมรบกวนพี่อัญญาสิทธิ์ กรุณาตอบโดยลำดับการถามที่ตกค้างในหน้าที่ 1 ถึงหน้า 50 (ก่อนครับที่เหลือค่อย ทีหลัง) อย่างไรก็ตามพี่สามารถพิจารณากรองจากที่ผมเสนอและเลือกตอบได้อีกนะครับ คำถามที่ยังไม่ได้ตอบโดยมากจะสื่อถึงสถานที่ปลอดภัยหรือไม่ และสื่อถึงความรู้ได้ น่ะครับ

    ขออนุญาตเริ่มต้น ลำดับกระทู้ถาม หมายเลขที่ 103-106 (p. 6 คือ หน้า 6)
    121 (p.7)
    193-195, 198, 200 (p.10)
    205-217 (p.11)
    228,233,238,239 (p.12)
    263,271,273,274,275,276 (p.14)
    294,300 (p.15)
    379 (p.19)
    388,396 (p.20)
    422,426,429,434 (p.22)
    488,492-493 (p.25)
    511,520 (p.26)
    521,522-523,534-537 (p.27)
    555 (p.28)
    640 (p.32)
    644 (p.33)
    ุุ666 (p.34)
    800 (p.40)
    824,826 (p.42)
    850 (p.43)
    905, 907-908 (p.46)
    924,928-931,940 (p.47)
    944-945,951,957 (p.48)

    คำถามที่เรียบเรียงข้างบน ส่วนตัวผมก็อยากทราบคำตอบในบางคำถามเช่นเดียวกันครับ รบกวนพิจาราณาด้วยครับ ขอบคุณมากครับ
     
  18. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    ขอบคุณทุกท่านและขอบคุณน้อง Sonk ด้วยครับที่ช่วยจัดเรียงคำถามมาให้

    แต่ตอนนี้งานยุ่งนิดนึง ผมจะค่อยๆมาทะยอยตอบ มากบ้างน้อยบ้างตามแต่เวลาจะเอื้ออำนวย ครับ
     
  19. Sonk

    Sonk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +197
    เชิญพี่อัญญาสิทธิ์ตามสะดวกไ้ด้เลยครับ
    ทั้งปวงนี้พี่ก็กรุณาให้สติในข้อมูล, ภูมิศาสตร์ที่ปลอดภัย และความรู้เชิงลึก
    ทางพระพุทธศาสนา ให้แก่พวกผมตลอดแล้วล่ะครับ ขอเป็นกำลังใจ และอยากทราบความรู้จากพี่ในแง่เชิงวิชาการ การเตรียมตัว เตรียมใจต่อไปอีกครับ
    ขอบพระคุณมากครับ
     
  20. วรุตม์ นคร

    วรุตม์ นคร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2011
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +11
    รบกวนถามหน่อยนะครับ 1. ตอนนี้หัวหน้ากลุ่มอัญญาสิทธิอยู่ประเทศอะไร
    2.รองหัวหน้ากลุ่มอัญญาสิทธิคนที่1อยู่ที่ไหน
    3.รองหัวหน้ากลุ่มอัญญาสิทธิคนที่2อยู่ที่ไหน
    เพราะเห็นแล้วไม่ค่อยสบายใจเท่าไรนัก
    เอาอย่างนี้ดีกว่า อีก2-3เดือน กรีซประกาศล้มละลาย ตามด้วนสเปนและอิตาลี
    ทำให้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจในเดือนตุลาคม ฟันธงครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...