นายทุนไทยเตรียมล้ม? รับศึก 3 อภิมหาอำนาจผู้ยิ่งใหญ่

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย พรเทพ คชมาศ, 27 พฤษภาคม 2012.

  1. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระราชดำรัสที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง
    “...เศรษฐศาสตร์เป็นวิชาของเศรษฐกิจ การที่ต้องใช้รถไถต้องไปซื้อ เราต้องใช้ต้องหาเงินมาสำหรับซื้อน้ำมันสำหรับรถไถ เวลารถไถเก่าเราต้องยิ่งซ่อมแซม แต่เวลาใช้นั้นเราก็ต้องป้อนน้ำมันให้เป็นอาหาร เสร็จแล้วมันคายควัน ควันเราสูดเข้าไปแล้วก็ปวดหัว ส่วนควายเวลาเราใช้เราก็ต้องป้อนอาหาร ต้องให้หญ้าให้อาหารมันกิน แต่ว่ามันคายออกมา ที่มันคายออกมาก็เป็นปุ๋ย แล้วก็ใช้ได้สำหรับให้ที่ดินของเราไม่เสีย...”
    พระราชดำรัส เนื่องในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
    ณ ศาลาดุสิดาลัย วันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๒๙

    “...เราไม่เป็นประเทศร่ำรวย เรามีพอสมควร พออยู่ได้ แต่ไม่เป็นประเทศที่ก้าวหน้าอย่างมาก เราไม่อยากจะเป็นประเทศก้าวหน้าอย่างมาก เพราะถ้าเราเป็นประเทศก้าวหน้าอย่างมากก็จะมีแต่ถอยกลับ ประเทศเหล่านั้นที่เป็นประเทศอุตสาหกรรมก้าวหน้า จะมีแต่ถอยหลังและถอยหลังอย่างน่ากลัว แต่ถ้าเรามีการบริหารแบบเรียกว่าแบบคนจน แบบที่ไม่ติดกับตำรามากเกินไป ทำอย่างมีสามัคคีนี่แหละคือเมตตากัน จะอยู่ได้ตลอดไป...”
    พระราชดำรัส เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
    ณ ศาลาดุสิดาลัย วันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๓๔

    “...ตามปกติคนเราชอบดูสถานการณ์ในทางดี ที่เขาเรียกว่าเล็งผลเลิศ ก็เห็นว่าประเทศไทย เรานี่ก้าวหน้าดี การเงินการอุตสาหกรรมการค้าดี มีกำไร อีกทางหนึ่งก็ต้องบอกว่าเรากำลังเสื่อมลงไปส่วนใหญ่ ทฤษฎีว่า ถ้ามีเงินเท่านั้นๆ มีการกู้เท่านั้นๆ หมายความว่าเศรษฐกิจก้าวหน้า แล้วก็ประเทศก็เจริญมีหวังว่าจะเป็นมหาอำนาจ ขอโทษเลยต้องเตือนเขาว่า จริงตัวเลขดี แต่ว่าถ้าเราไม่ระมัดระวังในความต้องการพื้นฐานของประชาชนนั้นไม่มีทาง...”
    พระราชดำรัส เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา

    ณ ศาลาดุสิดาลัย วันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๓๖
    “...เดี๋ยวนี้ประเทศไทยก็ยังอยู่ดีพอสมควร ใช้คำว่า พอสมควร เพราะเดี๋ยวมีคนเห็นว่ามีคนจน คนเดือดร้อน จำนวนมากพอสมควร แต่ใช้คำว่า พอสมควรนี้ หมายความว่าตามอัตตภาพ...”
    พระราชดำรัส เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
    ณ ศาลาดุสิดาลัย วันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๓๙

    “...ที่เป็นห่วงนั้น เพราะแม้ในเวลา ๒ ปี ที่เป็นปีกาญจนาภิเษกก็ได้เห็นสิ่งที่ทำให้เห็นได้ว่า ประชาชนยังมีความเดือดร้อนมาก และมีสิ่งที่ควรจะแก้ไขและดำเนินการต่อไปทุกด้าน มีภัยจากธรรมชาติกระหน่ำ ภัยธรรมชาตินี้เราคงสามารถที่จะบรรเทาได้หรือแก้ไขได้ เพียงแต่ว่าต้องใช้เวลาพอใช้ มีภัยที่มาจากจิตใจของคน ซึ่งก็แก้ไขได้เหมือนกัน แต่ว่ายากกว่าภัยธรรมชาติ ธรรมชาตินั้นเป็นสิ่งนอกกายเรา แต่นิสัยใจคอของคนเป็นสิ่งที่อยู่ข้างใน อันนี้ก็เป็นข้อหนึ่งที่อยากให้จัดการให้มีความเรียบร้อย แต่ก็ไม่หมดหวัง...”
    พระราชดำรัส เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
    ณ ศาลาดุสิดาลัย วันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๓๙

    “...การจะเป็นเสือนั้นไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่เรามีเศรษฐกิจแบบพอมีพอกิน แบบพอมีพอกินนั้น หมายความว่า อุ้มชูตัวเองได้ ให้มีพอเพียงกับตนเอง ความพอเพียงนี้ไม่ได้หมายความว่าทุกครอบครัวจะต้องผลิตอาหารของตัวเอง จะต้องทอผ้าใส่เอง อย่างนั้นมันเกินไป แต่ว่าในหมู่บ้านหรือในอำเภอ จะต้องมีความพอเพียงพอสมควร บางสิ่งบางอย่างผลิตได้มากกว่าความต้องการก็ขายได้ แต่ขายในที่ไม่ห่างไกลเท่าไร ไม่ต้องเสียค่าขนส่งมากนัก...”
    พระราชดำรัส เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
    ณ ศาลาดุสิดาลัย วันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๓๙.

    “...เมื่อปี ๒๕๑๗ วันนั้นได้พูดถึงว่า เราควรปฏิบัติให้พอมีพอกิน พอมีพอกินนี้ก็แปลว่า เศรษฐกิจพอเพียงนั่นเอง ถ้าแต่ละคนมีพอมีพอกิน ก็ใช้ได้ ยิ่งถ้าทั้งประเทศพอมีพอกินก็ยิ่งดี และประเทศไทยเวลานั้นก็เริ่มจะเป็นไม่พอมีพอกิน บางคนก็มีมาก บางคนก็ไม่มีเลย...”
    พระราชดำรัส เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
    ณ ศาลาดุสิดาลัย วันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๔๑

    “...พอเพียง มีความหมายกว้างขวางยิ่งกว่านี้อีก คือคำว่าพอ ก็พอเพียงนี้ก็พอแค่นั้นเอง คนเราถ้าพอในความต้องการก็มีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อยก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย ถ้าประเทศใดมีความคิดอันนี้ มีความคิดว่าทำอะไรต้องพอเพียง หมายความว่าพอประมาณ ซื่อตรง ไม่โลภอย่างมาก คนเราก็อยู่เป็นสุข พอเพียงนี้อาจจะมี มีมากอาจจะมีของหรูหราก็ได้ แต่ว่าต้องไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น...”
    พระราชดำรัส เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
    ณ ศาลาดุสิดาลัย วันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๔๑

    “...ไฟดับถ้ามีความจำเป็น หากมีเศรษฐกิจพอเพียงแบบไม่เต็มที่ เรามีเครื่องปั่นไฟก็ใช้ปั่นไฟ หรือถ้าขั้นโบราณกว่า มืดก็จุดเทียน คือมีทางที่จะแก้ปัญหาเสมอ ฉะนั้นเศรษฐกิจพอเพียงก็มีเป็นขั้นๆ แต่จะบอกว่าเศรษฐกิจพอเพียงนี้ ให้พอเพียงเฉพาะตัวเองร้อยเปอร์เซ็นต์นี่เป็นสิ่งทำไม่ได้ จะต้องมีการแลกเปลี่ยน ต้องมีการช่วยกัน ถ้ามีการช่วยกัน แลกเปลี่ยนกัน ก็ไม่ใช่พอเพียงแล้ว แต่ว่าพอเพียงในทฤษฎีในหลวงนี้ คือให้สามารถที่จะดำเนินงานได้...”
    พระราชดำรัส เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
    ณ ศาลาดุสิดาลัย วันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๔๒

    “...โครงการต่างๆ หรือเศรษฐกิจที่ใหญ่ ต้องมีความสอดคล้องกันดีที่ไม่ใช่เหมือนทฤษฎีใหม่ ที่ใช้ที่ดินเพียง ๑๕ ไร่ และสามารถที่จะปลูกข้าวพอกิน กิจการนี้ใหญ่กว่า แต่ก็เป็นเศรษฐกิจพอเพียงเหมือนกัน คนไม่เข้าใจว่ากิจการใหญ่ๆ เหมือนสร้างเขื่อนป่าสักก็เป็นเศรษฐกิจพอเพียงเหมือนกัน เขานึกว่าเป็นเศรษฐกิจสมัยใหม่ เป็นเศรษฐกิจที่ห่างไกลจากเศรษฐกิจพอเพียง แต่ที่จริงแล้ว เป็นเศรษฐกิจพอเพียงเหมือนกัน...”
    พระราชดำรัส เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
    ณ ศาลาดุสิดาลัย วันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๔๒

    “...ฉันพูดเศรษฐกิจพอเพียงความหมายคือ ทำอะไรให้เหมาะสมกับฐานะของตัวเอง คือทำจากรายได้ ๒๐๐-๓๐๐ บาท ขึ้นไปเป็นสองหมื่น สามหมื่นบาท คนชอบเอาคำพูดของฉัน เศรษฐกิจพอเพียงไปพูดกันเลอะเทอะ เศรษฐกิจพอเพียง คือทำเป็น Self-Sufficiency มันไม่ใช่ความหมายไม่ใช่แบบที่ฉันคิด ที่ฉันคิดคือเป็น Self-Sufficiency of Economy เช่น ถ้าเขาต้องการดูทีวี ก็ควรให้เขามีดู ไม่ใช่ไปจำกัดเขาไม่ให้ซื้อทีวีดู เขาต้องการดูเพื่อความสนุกสนาน ในหมู่บ้านไกลๆ ที่ฉันไป เขามีทีวีดูแต่ใช้แบตเตอรี่ เขาไม่มีไฟฟ้า แต่ถ้า Sufficiency นั้น มีทีวีเขาฟุ่มเฟือย เปรียบเสมือนคนไม่มีสตางค์ไปตัดสูทใส่ และยังใส่เนคไทเวอร์ซาเช่ อันนี้ก็เกินไป...”
    พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล
    ๑๗ มกราคม ๒๕๔๔

    คัดลอกมาจาก เศรษฐกิจพอเพียง
     
  2. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    มี ให้ เล่น ได้ อยู่ มั่ง

    พลัง น้ำมัน ที่ ขาย ให้ ต่าง ชาติ

    ก่ ริบ คืน เปอร์เซนต์ กลับ คืน มา เสีย

    เพราะ ตอน นี้ มัน ขาย น้ำมัน ใน ประเทศ ราคา ถูก

    ให้ ต่าง ชาติ เพราะ สัมปทาน ง่าว ๆ อยู่ ... เนื่อง จาก ได้ รับ ผล ประโยชนฺ์

    กัน ทั้ง สอง ฝ่าย

    แล้ว มัน ก่ ซื้อ น้ำมัน ราคา แพง จาก ต่าง ประเทศ มา ให้ คน ใน ใช้

    เพราะ มัน ถือ สอง กระเป๋า สอง บัญชี อยู่

    หาก เอา มา ปน กัน จะ เห็น ตัว เลข เห็น ความ ลับ ของ มัน

    จึง แยก กระเป๋า

    คน ใน ประเทศ จึง ได้ ใช้ น้ำมัน แพง เพราะ อ้าง ได้ ว่า ซื้อ มา แพง

    แต่ บัญชี จาก พลัง งาน ภาย ใน ที่ ขาย ไป ไม่ ได้ อยู่ ใน บัญชี ตรวจ

    สอบ

    หาก จะ มี ให้ เล่น ก่ เล่น ได้ มัน ไม่ กล้า ดอก

    ก่ มา วัด กัน สิ ว่า จะ สามารถ เล่น กับ ไทย ได้

    เพราะ มัน มี ผล ประโยชน์ กับ ไทย อยู่
     
  3. lite

    lite สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2011
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +21
    มีคนได้ประโยชน์ ย่อมมีคนเสียประโยชน์

    มองได้อีกอย่าง นายทุนบ้านเราควรต้องเพิ่มศักยภาพ การบริหารตัวเองด้วยหรือเปล่า

    แต่จะว่าไปในบ้านเรา โรงงานใหญ่ๆของต่างชาติก็เยอะนะ ใช้ทรัพยากรบ้านเราเยอะเหมือนกัน
     
  4. gun2555

    gun2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    701
    ค่าพลัง:
    +1,205
    อย่าตั้งโจทย์ ให้คนคิดมาก สินค้าที่ผลิตมาจากพม่า ลาว เขมร ก็คงเหมือนสินค้าที่ผลิตจากบางประเทศที่คุณภาพต่ำ พูดถึงนะแม้ผลิตขายในประเทศก็คงมีคนใช้ไม่มาก ดูอย่างเวียตนาม ผลิตสินค้ามาแล้วไม่มีศักยภาพในการบริโภคผลสุดท้ายบริษัทต่างชาติล้มเอง และอีกอย่างที่สำคัญก็คือแรงงานคุณภาพ และความต้องการในการบริโภค ประเทศเหล่านั้นมีความพร้อมแล้วยัง มันไม่เหมือนประเทศไทย ขนาดเรามีการขัดแข้งขัดขากันเราก็พอเดินไปได้ เพราะกำลังซื้อในการบริโภคมันต่างกัน ถ้าคนไทย สนับสนุนในด้านการศึกษาให้คนมีคุณภาพ คนไทยรู้จักคิดไตร่ตรอง มีเหตุผล ลดความขัดแย้ง พวกข้าราชการลดการคอรับชั่น ข้าราชการและประชาชนมองประโยชน์ของชาติเป็นหลักประเทศไทยจะเจริญมากกว่านี้ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ถ้าประเทศไทยตัดพวกข้าราชการ พวกคอรับชั่นมากที่สุด ข้าราชการที่ทำให้ประเทศวุ่นวาย เป็นข้าราชการที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากที่สุด ไม่คำนึงถึงชาติบ้านเมืองเอาแต่ประโยชน์ของกูเป็นหลักใครจะเป็นอย่างไรก็ช่าง
     
  5. ttoorrhh

    ttoorrhh Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +26
    ไทยเราก็ย้ายฐานการผลิตไปยังประเืทศเพื่อนบ้านอยู่เยอะพอสมควร...
     
  6. พรเทพ คชมาศ

    พรเทพ คชมาศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +1,295

    สินค้าผลิตในพม่า กัมพูชา ก็จริง
    แต่เทคโนโลยีและนายทุนคือ อเมริกาและญี่ปุ่น
    คุณคิดว่าสองประเทศนี้ ผลิตได้มาตรฐานต่ำกว่าเราจริงหรือ?


    ประมาทคู่แข่งหรือไม่?
     
  7. มินาโก๊จัง

    มินาโก๊จัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +138
    แค่ยืนยังจะยากเลยเนาะ
     
  8. nun-rayong

    nun-rayong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    320
    ค่าพลัง:
    +1,312
    ชีวิตย่อมมีหนทางของมัน
     
  9. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,568
    ค่าพลัง:
    +4,560
    เรียนคุณคนบาป
    คุณเป็นห่วงเกินไป...ผ่อนคลายลงบ้าง....
    เศรษฐกิจมหภาค...เราดูกันที่โครงสร้าง...เราทำการส่งออก...ดีอยู่แล้วในอาเซียนนี้ในสินค้าหลายๆรายการ(รวมสินค้าที่เป็นการลงทุนของต่างชาติ เราได้แต่ค่าแรงเป็นต้น)
    การเปิดเสรีอาเซียนในปี2558นี้ เราก็มีการเตรียมความพร้อมกันไว้แล้ว....
    ..การลงทุนในสามประเทศนี่ ไม่ใช่มีแต่ชาติอื่นๆที่เป็นยักษ์ใหญ่ ของพี่ไทยเราก็ใช่ย่อย ครองส่วนแบ่งการตลาดไว้ได้มากในส่วนจุลภาค เรา ค้าขายกันมานาน ต่างชาติ กว่าจะมาทำความคุ้นเคยกับผู้คนในย่านนี้....น่าจะสู้เราค่อนข้างยาก...ยกเว้นการลงทุนใหญ่ๆเช่น โรงแรมห้าดาว ต่างชาติอาจจะลงทุน....แต่ไทย ก็ไม่รู้พ่อเลี้ยง นายหัวโรงแรมห้าดาวขยับแล้วหรือยัง...แต่ก็คงบินไปเจรจากันแล้ว โดยเฉพาะพม่าที่กำลังเปิดประเทศ..
    ..สินค้าเกษตร....แน่นอน...เราอาจจะสู้จีนไม่ได้แน่นอน...เพราะขนาดไม่เปิดเสรี หอม กระเทียม เรายังแย่แล้ว...ตัวนี้ รัฐ ต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การช่วยเหลือ หรือ สร้างงานอาชีพใหม่ให้เกษตรกร....เลี้ยงหมาขายเอาไหม เหมือนแถวๆสกล...รายได้ดีนะ...ฮา
     
  10. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    อยาก ให้ ไทย เป็น มหา รัฐ ก่ ไม่ ยาก เลย

    เน้น เฉพาะ อาหาร ก่ หวาน หมู แล้ว

    เมือง สะอาด ปลอด พิษ ภัย ....
     
  11. manforlove

    manforlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +216
    เอาอุตสาหกรรมเข้าบ้าน โง่จะตายชัก บริหารประเทศแบบง่าว มันผิดมานานแล้ว ระยองมาบตาพุด ดูสิ อาศัยยังจะไม่ได้ ไทยต้องเป็น นิคคมกสิกรรม ปลูกอะไรก็ดี สมกับบรรพบุรุษย์ได้สละเลือดไว้บนผืนดิน
     
  12. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    ;ปรบมือ;ปรบมือ;ปรบมือ.ใช่ครับ ฝีมือแรงงานเราดีกว่ามาก ในที่สุดก็ต้องกลับมาไทยอยู่ดี ตอนนี้ก็ได้ทราบว่ามีหลายกลุ่มย้ายกลับมาไทยแล้ว :cool:
     
  13. โพชน์

    โพชน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    140
    ค่าพลัง:
    +1,904
    ไทยเป็นแค่ฐานผลิตสินค้าเท่านั้นครับ มีต่างชาติเป็นนายทุน จะเสือตัวไหนมาผลิต คนไทยก็ใช้ของแพงวันยังค่ำ จะมีประเทศไหนเป็นฐานการผลิต ก็มีสามเสือมหาอำนาจพวกนี้มันอวยกันอยู่แล้วมันน่าตื่นเต้นตรงไหน ในเมื่อคนไทยไม่เคยได้มีโอกาสเป็นเจ้าของกิจการใหญ่ๆสักอย่างเลย มีแต่เปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามา พี่ไทยด้วยกันกีดกันกันเอง มันมีความหมายตรงไหน เปิดรับวัฒนธรรมบ้าบอจากเกาหลี ญี่ปุ่น มากันเพียบ จนเสียดุลทางด้านวัฒนธรรมไปแล้ว ตื่นกันเสียที พี่น้องไทยเอ๋ย
     
  14. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    ข้อนี้จริงๆๆ ต้องตื่นตัวกันแล้ว ใช่ๆๆๆ:cool:
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** ก้าวไม่พ้นกรรม ****

    เมื่อ...ผู้คนขาดสัจจะ ขาดความจริงจังในการดำเนินชีวิต
    ขาดความซื่อสัตย์เด็ดขาด การกระทำจึงไม่เที่ยง
    ผลตอบแทนย้อนกลับมา จึงไม่เที่ยง หาความเที่ยงอะไรไม่ได้
    เรื่องกรรมนี้ ไม่มีใครช่วยท่านได้ เป็นเรื่องบุคคล ท่านต้องช่วยตนเอง
    ต้องรักษาสัจจะ รักษาสัญญาใจตนเอง รักษาคำพูดตนเอง
    ศีลที่ประกาศออกไป เมื่อทำไม่ได้ ก็กลายเป็นหอกทิ่มแทงตนเอง
    ดินฟ้าอากาศ...เป็นสักขีพยาน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  16. พรเทพ คชมาศ

    พรเทพ คชมาศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +1,295

    ถูกไปครึ่งหนึ่งละ


    ประเทศไทยถูกน้ำท่วมหนัก แสดงถึง
    ภาวะเสียสมดุลทางธรรมชาติ ไทยจึง
    ไม่ควรเป็นประเทศอุตสาหกรรม (Nics)
    มากไปกว่านี้


    แต่เราก็ไม่ควรจมปลักอยู่แค่กสิกรรม
    ดูที่ดินที่กรุงเทพฯ อนาคตราคาขึ้นไป
    เรื่อยๆ ใช่ไหม? ถ้าคุณยึดถือเกษตรกรรม
    คุณเอาที่ดินกรุงเทพฯ มาทำนา แทนที่จะ
    ปลูกอาคารพาณิชย์ คุณคงต้องขาดทุน
    ย่อยยับ ดังนั้น คุณต้องเข้าใจ "ธรรมชาติ
    ของราคาที่ดิน" ด้วย นานวันไปที่ดินมีราคา
    มากขึ้น มันจะไม่คุ้มต่อการเกษตรกรรม


    ดู สิงคโปรค์ ฮ่องกง เป็นตัวอย่าง
    ประเทศเล็ก เป็นทางผ่านสินค่า
    แต่ไม่ต้องมีโรงงานผลิตเอง
     
  17. ขุนบรม

    ขุนบรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +35
    สินค้าลาวส่งมาขายที่กรุงเทพบ้างไหม ท่านใดทราบช่วยส่ง PM มาบอกผมหน่อยต้องการมาก พวก นมเปรี้ยว แหนม เสื้อยืด ผ้าทอเวียงจันทน์ มีไหมครับ

    สังเกตไหม ความสัมพันธ์ ไทย-ลาว โดยลึกๆ แล้ว แปรตามดวงประเทศ


    ผมขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้ที่ถามเรื่องอนึ่ง อนึ่งการแผ่นดินยุควิทยาศาสตร์นั้นผมสู้ศึกในวงการวิทยาศาสตร์ไม่ไหว ถอยทัพแตกระส่ำระสายมา เตรียมหาทางไปประเทศ จันทบุรีศรีสัตตนาคณหุต
     
  18. พรเทพ คชมาศ

    พรเทพ คชมาศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +1,295
    ไทยเคยเลือกที่จะเป็น "ประเทศอุตสาหกรรม" (NICS)
    แต่นั่นคือ การเดินทางที่ผิดทิศ ทางเลือกใหม่ยังมีเวลา


    1. ประเทศกสิกรรม
    2. ประเทศอุตสาหกรรม
    3. ประเทศพาณิชยกรรม


    ยังพอมีเวลาเลือกได้ ...
     
  19. พรเทพ คชมาศ

    พรเทพ คชมาศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +1,295
    เวียดนามอยากเป็นหนึ่งด้านกสิกรรม ก็ให้ไป
    พม่า, กัมพูชา อยากเป็นประเทศอุตสาหกรรม ก็ทำไป


    10 ประเทศอาเซียน เหมือนกันมากเกินไป จะแข่งกันเองรุนแรง
    จำเป็นต้องทำ "Country positioning" หรือ การวางตำแหน่ง
    ของตัวตนของประเทศตนเองว่าจะอยู่ในสถานภาพอย่างไรในเชิง
    อ้างอิง เพื่อลดการแข่งขันกันเองลง จะได้ไม่ซ้ำรอย "ยูโร โซน"
     
  20. พรเทพ คชมาศ

    พรเทพ คชมาศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +1,295
    ความเหลื่อมล้ำของรายได้ ไม่ใช่ปัญหาเศรษฐกิจที่แท้จริง


    ระบบเศรษฐกิจ จะหมุนเวียนไปได้เพราะ "ความแตกต่างทางความ
    ต้องการ" เหมือนน้ำไหลจากที่สูงลงที่ต่ำ กระแสไฟฟ้ามีความต่าง
    ศักย์จึงการไหลเวียน ฉะนั้น ดังนั้น ความแตกต่างทางรายได้ จึงไม่
    ใช่ปัญหาที่แท้จริง


    แล้วปัญหาที่แท้จริงมันคืออะไรละ?


    มันก็คือ "ความไม่เท่าเทียมกันในการเข้าถึง โอกาสทางธุรกิจ
    ที่เหมาะสมกับตนเอง" นั่นเอง หมายความว่า ถ้าทำให้คนจน
    มีโอกาสเข้าถึง งาน หรือเวทีที่ทำให้เขามีรายได้ ได้ มันก็ไม่
    ใช่ปัญหาอีกต่อไป เหมือนการเชื่อมต่อวงจรไฟฟ้า แต่ละจุด
    แม้จะมีความต่างศักย์กัน ก็ไม่ใช่ปัญหา เราเพียงทำให้มันเกิด
    การ "หมุนเวียน" และแต่ละจุดได้รับไฟฟ้าอย่างทั่วถึงคือได้
    มีโอกาสทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อให้ได้มาซึ่งรายได้ก็พอ


    ทว่า ประเด็นนี้ มักใช้เป็นข้ออ้างทางการเมือง เพื่อยืมมือ
    ประชาชน ไปแย่งชิงอำนาจในกลุ่มนักการเมืองกันเองเสมอๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...