นายทุนไทยเตรียมล้ม? รับศึก 3 อภิมหาอำนาจผู้ยิ่งใหญ่

ขณะที่ประเทศไทยมี "ต้นทุนการผลิต" สูงขึ้นเรื่อยๆ
แต่ประเทศทั้งสามโดยรอบนั้น กลับมีต้นทุนต่ำมาก
เมื่อ "จีนเข้ามาลงทุนด้านพลังงานในลาว" และมี
"อเมริกาเตรียมลงทุนที่พม่า" และ "ญี่ปุ่นลงทุนให้
เงินสร้างนิคมอุตฯ แก่เขมร" ประเทศไทยจึงตกอยู่
ในวงล้อมของสามอภิมหาอำนาจ รอเวลาที่สินค้า
ต้นทุนต่ำจะทะลักเขามาตีตลาด ทั้งสามทิศ สามทาง


ไทยจะรับมืออย่างไร?

 

นายทุนไทยเหลือเวลาไม่มากแล้ว
เมื่อสามประเทศ ได้รับการสนับสนุน
จากอภิมหาอำนาจ เท่ากับตกอยู่ใต้
วงล้อมของ "สินค้าต้นทุนต่ำ" ไป
โดยปริยาย ...

 

แล้วจะทำยังไงต่อดีคะ? ตรงๆไม่ต้องอ้อมนะคะ...ขอบคุณค่ะ

 

เมื่อเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบ
แน่นอนการเมือง ก็จะได้รับผลกระทบ
ไปด้วย ไม่ว่ารัฐบาลไหนเข้ามาบริหาร
ประเทศ ถ้าแก้ไข โจทย์ข้อนี้ไม่ได้
ก็จะต้องพบกับ "การประท้วงของแรง
งาน" ไม่เว้นแต่ละวันเชียว ...

 

1. ทำให้การเมืองมีเสถียรภาพให้ได้ก่อน
2. ค่อยกำหนดยุทธศาสตร์พลิกวิกฤติเป็นโอกาส


แต่ตอนนี้ โจทย์แรกยังแก้ไม่ได้
ไม่มีประโยชน์ที่จะเดินเกมข้อ 2 ...

 

ถูกค่ะ...ข้อนี้ก็เห็นด้วย

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=QmxChvPBNK0]เพลงประกอบภาพยนตร์โทรทัศน์ชุด "สามก๊ก" - YouTube[/ame]

 

มีแผนฯ แต่ขาดแม่ทัพ
ทัพจะเดินได้ อย่างไร?

 

ภายในแตกแยกสามเหล่าก๊ก
ภายนอกถูกกระหนาบสามด้าน
ศึกนอก ศึกใน หรือศึกใจ?
โอ้ อนาถแท้ กรรมหนอ...

 

เศรษฐกิจพอเพียง อย่างเดียวเท่านั้น

 

แบบนั้น จะถอยหลังเข้ายุคฤษี
เราก้าวหน้ามาขนาดนี้แล้ว ถอยไม่ได้
นายทุนล้ม ก็จะมีแรงงานปฏิวัติแน่นอน

 

เมื่อทุกคนพอเพียงแล้วมันก็ไม่มีการประท้วง แต่ที่ประท้วงเพราะมันเกินพอเพียง

 

ก็ดี นี่....
ให้มันเป็นไปอย่างนั้นแหละ ดีมากๆ
ทะลึ่งขึ้นราคากันดีนัก อ้างโน่นอ้างนี้

ราคาปุ๋ย ราคาพลังงาน มันมือชกกันเลยทีเดียว


ให้มันโดนล้อม อย่างนั้นแหละ


ข้าวแพงเหรอ .... เจอข้าวนำเข้าราคาถูก
ปุ๋ยแพงเหรอ เจอปุ๋ยนำเข้าราคาถูก

ไปไล่จับกันเอาเอง ละกัน

สองสูง สามสูง .... จะให้เงินบาทกลายเป็น แบ็งค์กงเต็งเหรอไง ?
คนเงินหนา ให้ สิบสูง ก็อยู่ได้

คนทั่วไป จะตายห่าน กันอยู่แล้ว



เพราะฉนั้น....LET it BE .

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=hpPrHE0nyQQ]The Beatles - Let It Be (Original Vinyl Version) - YouTube[/ame]

 

เท่าที่ไปลาวมาคนที่นั่นชอบสินค้าไทยเพราะมีคุณภาพมากกว่าจีน ถ้าเราทำดีซะอย่าง อะไรก็มาหยุดไม่ได้หรอกครับ

 

รวยด้วยการขึ้นราคา ....
เฮ้ย ... งายดีนี่

เมื่อมองว่าประชาชนคนทั่วไป คือ ฐานของปิรามิดทางเศรฐกิจที่จะทำอะไรกับมันก็ได้ตามสั่ง


แต่ เฮ้ย .... ฐานทีไร้ความมั่นคง แล้วยอดมันลอยอยู่บนอากาศได้ ก็ให้มันลอยไป


ห้ามบ่น อย่า จิ๊..จ๊ะ !!

 

ก็มัวแต่กอบโกย เอารัดเอาเปรียบ ประชาชน คนสุจริตกัน มัวแต่กลัว กัน เพราะ ไก่เห็นตีนงูๆ เห็น นมไก่ คนดีอยู่ไม่ได้ เพราะไปทำลายผลประโยชน์ ของคนชั่ว ถ้ามีใครสัก กลุ่ม ที่ไม่รักชาติแต่ปาก เข้าไป เป็นนายก และรัฐมนตรี โอ้ย สหรัฐหรือจีน หรืใครๆ ในโลกนี้ ก็สู้ประเทศไทยลำบาก ประเทศไทย มีบ่อน้ำมันคิดเป็นพื้นที่ ครึ่งนึง ของประเทศ แต่พวกนักการเมืองมันเห็นแก่ตัว พอมีคน ออกมาพูด แป๊ปเดียวเรื่องเงียบ ไหนจะมีภูเขาที่มีแร่ทองคำมากมาย คิดดู เหมืองทองคำต่างชาติ เขาต้องไประเบิดหินเอาหินมาป่นมาเผา กว่าจะได้ทองคำ เหมืองใหญ่ในต่างชาติเขาทำกันแบบนี้ เหมืองก็คือมีมากแล้วเขาถึงไปลงทุน แต่ประเทศไทย ไม่ต้องไประเบิดหิน แค่ไปร่อน ตามแม่น้ำก็ได้ทองคำกันแล้ว แล้วคุณคิดว่าต้นสายของเศษทองคำที่ไหลตามน้ำมาแบบไม่ต้องนำมาถลุงเลยนั้น ไม่ต้องบอกนะครับ ว่าจังหวัดอะไร ที่เขาร่อนหาแร่ทองคำตามแม่น้ำกัน คุณคิดว่า ต้นสายบยองทองคำ ที่ไหลมากับแม่น้ำ จะมากมาย ขนาดไหน ไม่ต้องไปรอพึ่งใครมาลงทุนแล้วครับ เราจัด การกันได้เอง ในประเทศ รอคนดีจริง มาเป็น นายก หรือรัฐมนตรี เท่านั้น

 

เน้นคุณภาพค่ะ สินค้าจากไทยก็มีคุณภาพดีอยู่แล้ว คนไทยต้องช่วยกันกินของไทยใช้ของไทย (ชาตินิยมเข้าไว้อยู่ได้แน่นอน) พูดถึงสินค้าจากจีนคุณภาพต่ำฝรั่งหัวเราะถ้ามาจากจีน ส่วนที่ลาว เช่น ดิฉันซื้อข้าวหอมมะลิมาจากลาวสู้ไทยไม่ได้เลยขอบอกราคาเท่ากันแต่เหมือนข้าวไม่พอน้ำ ไม่นุ่มหอมเหมือนของไทย ฝากข้อคิดสำหรับคนไทย รักชาติ นิยมของไทย ชาติใดๆในโลกเขาก็ใช้วิธีชาตินิยมเหมือนกัน นำเข้าแต่มีข้อจำกัด.....^^

 

คิดถึงเหล่าอัศวินโต๊ะกลม กับสภาเจไดกันเลยทีเดียว แต่รู้สึกเหมือนสองอย่างนี้จะแตกต่างกันอยู่นะครับ *0*

 

โดยหลักการ หากมีประเทศ ดั้มคุณภาพ และ ราคา การผลิต มันก็มี
สองวิธีคือ ลดตัว ลดคุณภาพชีวิต ทั้งหมดทั้งมวล แล้ว ลงไปแข่งกับเขา

นั่นคือ วิธีคิดว่า จะไปแข่งกับเขา

ส่วนอีกวิธีหนึ่ง คือ เรายอมรับฐานะที่สูงขึ้น มีประเทศอื่นเป็นฐานหนุนให้
เราสูงขึ้น แต่วิธีนี้ หากประเทศง่อนแง่น มีความเหลื่อมล้ำทางฐานะ รายได้
อยู่ เราจะถีบตัวขึ้นไปไม่ได้

ทีนี้ ในทางปฏิบัติ จริงๆเขาก็ทำกันอยู่ แต่ความสำเร็จไม่ขยาย ก็คือ ตลาดทุน

ความสำเร็จมีนะ แต่ วงขยายมันน้อย เอาชัดๆ ก็ ช่วงไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมา
เศรษฐกิจ ตลาดหุ้นเขาทิ้งเหวกันหมด ดัชนีของเราก็ตกด้วย แต่ทว่า

แรงซื้อ หรือที่เรียกว่า คนในประเทศสั่งซื้อหุ้น(ลงทุน) บวกทุกวัน วันละ 2000ล้าน
ติดต่อกัน สองสามอาทิตย์ได้ นี่ก็แปลว่า

การพัฒนาที่ว่าด้วย การยอมรับฐานะถีบตัวขึ้นเป็น นายทุน มันมีอยู่

ถ้าทำได้มากๆ เนี่ยะ

สังเกตุนะ เราก็ไปสนับสนุนให้ ลาว พม่า และ เขมร เปิดตลาดหุ้นไว้แล้ว

ดังนั้น คนไทยก็สามารถใช้เงินทำงานแทนได้ ไม่ต้องไปออกแรงทำ

ก็เรียกว่า เป็น ยุทธศาสตร์ทางการพัฒนาของเมืองจีนเขา เขาเป็นสังคมนิยม
แต่เขามีตลาดทุน มีการให้ ชาวนาถือหุ้น เป็นเจ้าของธุรกิจ แทนการหลังขดหลัง
แข็งทำนา ทำไร่ ( แต่ในทางปฏิบัติ เขาก็ให้ คนทำนา ทำไร่ เช่นเดิม ไม่งั้นเข้าคุก
หรือไม่ก็ประหาร มั้ง !!)

***********************

สรุปคือ

ถ้าโดยรอบเขาทุ่มตลาด เป็นภาคการผลิต เราก็เลือกว่า

จะลดตัวลดฐานะไปสู้ หรือว่า มานั่งใช้เงินทำงานแทนตน

เลือกแล้ว ก็ต้องสร้างโอกาสทำความเข้าใจ

ที่แน่ๆ ประเทศเราเป็นประชาธิปไตย ซึ่ง มีอิสระภาพที่จะทำ ตัดสินใจ

ความแตกต่างของ คนที่ลดฐานะลงไปสู้ กับ คนที่วางตัวเป็นนายทุน มันจะต้อง
กว้างขึ้น อันนี้ ก็ต้องทำความเข้าใจให้ดีว่า มันเป็นธรรมชาติทางเศรษฐศาสตร์สังคม

อย่าให้ใคร หน้าไหน อาศัย ความเหลื่อมล้ำ สร้างความร้าวฉาน สร้างภาพ
ว่าเป็นความผิดของ พ่อ แล้ว มันจะอาศัยลดอำนาจพ่อ เพื่อสนองความ
ทะยานอยากบางอย่างของตน !!

 

กล่าวอีกนัยหนึ่ง

เพื่อนบ้านเขาจะพัฒนาไปอย่างไร เราก็สามารถที่จะ อนุโลมตามโดย
ขึ้นเป็นนายทุน ร่วทกิจการผ่านระบบตลาดการเงินเสียก็ได้ เขาทำงาน
เราได้เงินปันผล

หรือจะปฏิโลมก็ได้ คือ ลงไปแข่งด้วย ไหนๆทุกวันนี้ก็ต้องเอาแรงงาน
จากเขา ให้แรงงานเขาเข้ามา เราก็ไปเปิดโรงงานในประเทศเขา เขา
จะได้ไม่ต้องเสียเวลามา สินค้าที่ผลิตได้ ก็เป็นของไทยอยู่ดี ส่วนพนัก
งานคนไทยก็ถูกจ้างในฐานะซุปเอร์ไวเซ่อร์(เอารายได้เข้าประเทศได้อีก)

อนุโลมก็รู้

ปฏิโลมก็รู้

รู้ รู้ รู้

มีแต่รู้

หยุดอยู่ที่รู้ ตั้งมั่น เป็นกลางต่อการรู้ โลกจะผันแปรอย่างไร รู้ ก็เป็นธรรมหนึ่ง
เป็นธรรมอันเอก ที่ทำให้เรา ไม่สัดส่าย ไม่ต้องทุกข์ร้อนใจ เย็นสนิท สุขอย่างยิ่งได้