พ ญ า น า ค กั บ พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย เทพออระฤทธิ์, 10 เมษายน 2009.

  1. ปัญจ์ธน

    ปัญจ์ธน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    417
    ค่าพลัง:
    +855
    อนุโมทนาครับ

    ได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกมากเลย ขอขอบคุณเจ้าของกระทู้ด้วยครับที่ค้นคว้ามาให้อ่าน


    ธรรมะไม่กลับมา โลกวินาศ
     
  2. apichartmatiyapak

    apichartmatiyapak Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2012
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +96
    อ่านแล้วได้สาระ ความรู้ดี ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆ แบบนี้นะขอรับ:cool:
     
  3. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,029
    [​IMG]

    กราบโมทนา สาธุ ท่านผู้มีใจบุญใจกุศล เสียสละเวลาหาบทความ นำบทความที่ดี มีสาระประโยชน์ ให้ผู้อ่านได้ศึกษา อันก่อให้เกิดปัญญาในการพิจารณา เมื่อปัญญาพิจารณาแล้ว จิตจะเป็นผู้กำหนด เป็นผู้เลือกความถูกต้อง ถือว่าเป็น จาคะ คือการให้และการให้นั้น ให้ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน อีกทั้ง ถือว่าการให้นั้น เป็นธรรมทาน เป็นบุญใหญ่ สมดั่งพระธรรมคำสั่งสอนของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตอบปัญหาท้าวสักกะผู้เป็นจอมเทพยดา ปรากฏใน ตัณหาวรรค ธรรมบท ว่า “การให้ธรรมทาน ชนะการให้ทั้งปวง ผู้ใดให้ธรรมะเป็นทาน ผู้นั้นชื่อว่าให้พระนิพพานแก่คนทั้งหลาย“ ขอโมทนาสาธุ
     
  4. hot25714

    hot25714 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +11
    เยอะจังง่ะ..................................
     
  5. pengkasit2009

    pengkasit2009 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +72
    อนุโมทนา ขอบคุณครับ<!-- google_ad_section_end --> บทความที่ดี มีสาระประโยชน์ ถือว่าการให้นั้น เป็นธรรมทาน เป็นบุญใหญ่ สมดั่งพระธรรมคำสั่งสอนของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพูดไว้ การให้ธรรมทาน ชนะการให้ทั้งปวง ผู้ใดให้ธรรมะเป็นทาน ผู้นั้นชื่อว่าให้พระนิพพานแก่คนทั้งหลาย“ ขอโมทนาสาธุ<!-- google_ad_section_end -->
     
  6. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,568
    ค่าพลัง:
    +4,560
    ชื่อในเว๊บผมก็ นาคา มาจากชื่อจริงชื่อนาค เพราะเกิดปีมะโรง 2495พ่อเลยตั้งให้ มีพี่ชายเกิดปีขาล พ่อเลยตั้งชื่อว่า พยัคฆ์....ตอนหลังเปลี่ยนเป็นณรงค์ อยู่อุดร.....
    .....ผมย้ายมาภูเก็ต จากแพร่ แต่เกิดกรุงเทพฯเพราะมีภูเขาชื่อ เขานาคเกิด เป็นศิริมงคลกับผม แล้วมีเกาะนาคาเล็ก นาคาใหญ่...แสดงว่า ผมอยู่ใกล้บรรดาญาติพี่น้องเพื่อนฝูงทั้งนั้น....
    ...บังเอิญมีรุ่นพี่คนหนึ่ง ปัจุบันแกเสียแล้ว แต่แกมีวิชา...แกเที่ยวไปบอกใครต่อใครว่า ผมเป็นพญานาคมาเกิด จะไม่มีใครทำอะไรผมได้...ทำนองนี้...เลยเป็นที่ฮือฮากันไปในหมู่เพื่อนและคนใกล้ชิด.....
    ...เหตุนี้ผมจึงแทบหลงตัวเองว่า คงจริงมั๊ง...เรามาจากภพนาคมั๊ง...คิดไปโน่นเรื่อยเปื่อย(ฮา)
    ...ผมก็อ่านและศึกษา ทางพระไตรปิฎก พระสูตร ชาดกฯลฯต่างๆ..ก็ประทับใจ..
    ..ยิ่งไปศึกษาพระป่า พระอาจารย์มั่น ภูริทัติโตและองค์อื่นๆที่ลูกศิษย์ลูกหาบันทึกไว้ โดยเฉพาะอาจารย์มหาบัว ก็ยิ่งแน่ใจว่า พญานาคมีจริงแท้แน่นอน เพียงแต่อยู่คนละภพกับมนุษย์เท่านั้น...เหมือนผี ก็มีจริงแท้แน่นอน แต่อยู่คนละภพกับเราเท่านั้น...
    ..ดังนั้นโอกาสพบเจอจึงยาก คือ ถ้าไม่ซวยจริงๆก็บุญจริงๆจึงจะได้พบ ทั้งผี หรือ พญานาค....แต่ผมถือเป็นโชคดี เคยพบเจอผีมาแล้ว3ครั้ง พบเทวดา1ครั้ง...ไม่ได้หลับไม่ได้ฝัน เจอด้วยตาเนื้อล้วนๆ ถูกผีสัมผัสกายหยาบของผมด้วย(โดนมือผีดึงเท้า...เห็นจะ จะ ชัดเจน...บรื้อ...ฮา)นี่เป็นเรื่องจริงไม่ได้มุสา.....
    ...แต่ที่ผ่านมาก็เป็นช่วงเด็กและวัยรุ่น แต่จำได้แม่นยำชัดเจน......
    ปัจจุบัน ผมใช้วิธีสอบทานกับพระปฏิบัติสายพระป่า อย่างอาจารย์แดง วัดไม้ขาวภูเก็ต (ละสังขารแล้ว)อาจารย์เขียว ศิษย์อาจารย์แดง..ก่อนหน้านั้นก็เคยกราบถามหลวงปู่ผาง ศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทัติโต(ละสังขารแล้ว) ตอนท่านมาจำพรรษาที่ภูเก็ต...ผมกราบเรียนถามท่านถึงพญานาค ว่ามีจริงไหม...ท่านเมตตาตอบผมแบบไม่ลังเลเลยว่า"มีจริง ตัวใหญ่เท่าต้นตาล มีหงอนแดง"(ราวๆพศ.2545)...นี่ ท่านคงตรวจดูจริตวาสนาศรัทธาและอดีตชาติของผมแล้ว ท่านจึงตอบอย่างกล้าหาญชาญชัยยิ่งนัก...
    ...แต่เพียงแค่นี้ ผมก็สิ้นสงสัยแล้ว....เพราะพระระดับเดินป่าตลอดชีวิต และศิษย์สายอุดรฯก็ส่งข่าวมาว่า สังเกตุท่านดีๆท่านน่าจะได้อนาคามีแล้ว...อีกไม่นานมีวาสนาก็คงได้อรหันต์เป็นแน่แท้.......นี่ พระป่าของจริง แสดงสัจจะแบบนี้ ไม่เชื่อก็โง่แล้ว....
    ...พระอย่างท่าน ถ้าไม่บริสุทธิ์ ธุดงค์ในป่า เสือคาบไปกินนานแล้ว......แต่ผมกราบเรียนถามท่านอีกหลายเรื่อง ซึ่งยังไม่ขอเปิดเผย...เพราะอาจจะไปกระทบความเชื่อของคนอีกหลายๆคนก็ได้ เอาแต่เรื่องพญานาคว่า มีจริงแท้แน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์.....เรื่องพวกนี้ผมสังเกตุ มีหลายครั้ง ญาติโยมมาถาม แต่ท่านไม่ตอบ...นั่นอาจเป็นไปได้ว่า ท่านสำรวจจิต สำรวจอดีตผู้ถามแล้ว ท่านจึงนิ่ง เพราะตอบไป มันอาจจะเห็นว่าบ้าก็ได้ ตอบไป มันก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี....เหตุแบบนี้ ผมมักจะเห็นอยู่เป็นประจำ...ทั้งๆที่ปัญหานั้นๆ ตัวผมเคยกราบเรียนถามท่านแล้ว ท่านตอบให้รู้หมดสิ้นสงสัย....แต่คนอื่นถาม ท่านกลับไม่ตอบ
    ...ข้อเขียนแบบนี้ ไร้หลักฐานทางจิตพระปฏิบัติ เพราะคนอ่านมี4กลุ่มแบบบัวเหนือน้ำ ใต้น้ำ...พระปฏิบัติท่านตรวจได้จึงเลือกตอบ ไม่ตอบ....แต่ข้อเขียนนี้เลือกไม่ได้ ขึ้นอยูกับวาสนาจริตของแต่ละคน...ซึ่งมันย่อมมากกว่า หรือ น้อยกว่า เวลานั่งกราบเรียนถามต่อหน้าองค์ท่านอยู่แล้ว...ถ้าคนไม่เชื่อต้องด่าผม อย่าไปด่าพระ...ขืนทำ...นรกกินกะบาล..ฮา
     
  7. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,029
    [​IMG]
     
  8. Thammasawasdee

    Thammasawasdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2013
    โพสต์:
    292
    ค่าพลัง:
    +869
    ได้ความรู้ดีๆเพิ่มเติมมากเลย ขอบคุณค่ะ

    ธรรมะสวัสดี :)

    ขออนุโมทนา สาธุจร้า

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  9. ลูกแม่ปลีก

    ลูกแม่ปลีก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2012
    โพสต์:
    61
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +465
    [​IMG]

    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๔ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๔ มหาวรรค ภาค ๑

    เรื่องนาคแปลงกายเป็นมนุษย์มาขอบวช

    [๑๒๗] ก็โดยสมัยนั้นแล นาคตัวหนึ่งอึดอัด ระอา เกลียดกำเนิดนาค
    นาคนั้นจึงได้มีความดำริว่า ด้วยวิธีอะไรหนอ เราจึงจะพ้นจากกำเนิดนาค และกลับได้อัตภาพเป็นมนุษย์
    เร็วพลัน.


    ครั้นแล้วได้ดำริต่อไปว่า พระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตรเหล่านี้แล เป็นผู้ประพฤติธรรม ประพฤติสงบ ประพฤติพรหมจรรย์ กล่าวแต่คำสัตย์ มีศีล มีกัลยาณธรรม หากเราจะพึงบวชในสำนักพระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตร ด้วยวิธีเช่นนี้ เราก็จะพ้นจากกำเนิดนาคและกลับได้อัตภาพเป็นมนุษย์เร็วพลัน

    ครั้นแล้วนาคนั้นจึงแปลงกายเป็นชายหนุ่ม แล้วเข้าไปหาภิกษุทั้งหลายขอบรรพชา.
    ภิกษุทั้งหลายจึงให้เขาบรรพชาอุปสมบท.


    สมัยต่อมา พระนาคนั้นอาศัยอยู่ในวิหารสุดเขตกับภิกษุรูปหนึ่ง.
    ครั้นปัจจุสสมัยแห่งราตรี ภิกษุรูปนั้น ตื่นนอนแล้ว ออกไปเดินจงกรมอยู่ในที่แจ้ง.
    ครั้นภิกษุรูปนั้นออกไปแล้ว. พระนาคนั้นก็วางใจจำวัด. วิหารทั้งหลังเต็มไปด้วยงู. ขนดยื่นออกไปทางหน้าต่าง.


    ครั้นภิกษุรูปนั้นผลักบานประตูด้วยตั้งใจจัก เข้าวิหาร ได้เห็นวิหารทั้งหลังเต็มไปด้วยงู เห็นขนดยื่นออกไปทางหน้าต่าง ก็ตกใจ จึงร้องเอะอะขึ้น.

    ภิกษุทั้งหลายพากันวิ่งเข้าไปแล้วได้ถามภิกษุรูปนั้นว่า อาวุโส ท่านร้องเอะอะไปทำไม?
    ภิกษุรูปนั้นบอกว่า อาวุโสทั้งหลาย วิหารนี้ทั้งหลังเต็มไปด้วยงู ขนดยื่นออกไปทางหน้าต่าง.


    ขณะนั้น พระนาคนั้น ได้ตื่นขึ้นเพราะเสียงนั้น แล้วนั่งอยู่บนอาสนะของตน.
    ภิกษุทั้งหลายถามว่า อาวุโส ท่านเป็นใคร?
    น. ผมเป็นนาค ขอรับ.
    ภิ. อาวุโส ท่านได้ทำเช่นนี้เพื่อประสงค์อะไร?
    พระนาคนั้นจึงแจ้งเนื้อความนั้นแก่ภิกษุทั้งหลาย.


    ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค.
    ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมภิกษุสงฆ์ ในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วได้ทรงประทานพระพุทธโธวาทนี้แก่นาคนั้นว่า

    "พวกเจ้าเป็นนาค มีความไม่งอกงามในธรรมวินัยนี้เป็นธรรมดา ไปเถิดเจ้านาค
    จงไปรักษาอุโบสถในวันที่ ๑๔ ที่ ๑๕ และที่ ๘ แห่งปักษ์นั้นแหละ
    ด้วยวิธีนี้เจ้าจักพ้นจากกำเนิดนาค และจักกลับได้อัตภาพเป็นมนุษย์เร็วพลัน."


    ครั้นนาคนั้นได้ทราบว่า ตนมีความไม่งอกงามในพระธรรมวินัยนี้เป็นธรรมดา
    ก็เสียใจหลั่งน้ำตา ส่งเสียงดังแล้วหลีกไป.

    ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เหตุแห่งความ ปรากฏตามสภาพของนาค มีสองประการนี้ คือ
    เวลาเสพเมถุนธรรมกับนางนาค ผู้มีชาติเสมอกัน ๑
    เวลาวางใจนอนหลับ ๑

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เหตุแห่งความปรากฏตามสภาพของนาค ๒ ประการนี้แล


    ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนุปสัมบัน คือ สัตว์ดิรัจฉาน ภิกษุไม่พึงให้อุปสมบท ที่อุปสมบทแล้ว ต้องให้สึกเสีย.



    ที่มา http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=4&A=3517&w=%B9%D2%A4
    ขอบคุณภาพจาก http://i1045.photobucket.com/
     
  10. siwatcha

    siwatcha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    219
    ค่าพลัง:
    +1,242
    ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของกระทู้นะคะที่ได้นำเรื่องราวในอดีตชาติขององค์สมเด็จพระ

    สัมมาสัมพุทธเจ้ามาเล่าไว้ให้ได้ทราบ และนอกจากความรู้แล้ว ยังให้ข้อคิดสะกิดใจมาก

    จริงๆ ท่านเชื่อหรือไม่ว่า!!เรื่องที่ท่านเล่ามาโดยเฉพาะพระชาติของพระโพธิสัตว์ที่เสวย

    เป็นพญานาคแล้วถูกพราหมณ์จับด้วยมนต์อารัมพายท์ จะมี drama เกิดขึ้น มากมาย

    จริง ๆ คนอื่นอาจขำ และคิดว่าบ้าหรือเปล่า อ่านเอาสนุก ๆเป็นอะไรไม่เห็นเป็นไรหนุก

    ดี ก็สุดแท้แต่ความคิดของแต่ละคน แต่สำหรับข้าพเจ้าไม่ ๆ สนุก เลย สำหรับข้าพเจ้า

    ขนาดทิชชู หมดไปครึ่งม้วน อะไรมันจะขนาดนั้น? แต่เป็นจริงทุกคำพูดเลยคะคล้ายกับ

    เป็นเรื่องโดนใจสุดๆ ต่อข้อถามว่า ได้อะไรจากที่อ่านหรือ? ถึงได้เป็นเช่นนั้น ตอบว่า

    มากมายยิ่ง ก่อนที่พระองค์จะโดนจับด้วยซ้ำไปหากพระองค์จะหนีไปก็ย่อมได้แต่ที่ไม่หนี

    ไม่ไปเพราะท่านไม่อยากเสียสัตย์ที่ตั้งปณิธานไว้ว่าจะขึ้นมารักษาศีลให้บริสุทธิ์อดทนอด

    กลั้นทุกอย่าง จะมีใครในโลกนี้บ้างที่ถูกเหล็กแหลมร้อนราวเปลวเพลิงแหย่เข้าไปในรูหู

    ขนาดนั้นแล้วจักยังเฉยไม่โกรธและจะอดใจไม่เข้าทำร้ายศัตรูอันที่จริงพระองค์จะทำร้าย

    พราหมณ์ก็ย่อมทำได้ง่ายมากแต่ท่านก็ทนข่มความเจ็บปวด ทุกขเวทนา ทั้งกระดูกก็ถูก

    หักพับเป็นท่อน ๆ เหมือนพับผ้าขนาดนั้น ทั้งพ่นยาซึ่งทั้งต้องปวดแสบปวดร้อนจนเขี้ยว

    หลุดเลือดกลบปากแดงฉาน ท่านก็เพียรทนข่มกับทุกข์เวทนาสาหัสไม่มองหลับพระเนตร

    ลงข่มพระสติทุกอย่างเพียงเพื่อจักรักษาไว้ซึ่งศีลบริสุทธิ์ และจะต้องใช้ขันติขนาดไหนถึง

    จะไม่ทำร้ายคนที่ทำกรรมต่อท่านด้วยความอดทน อดกลั้น อย่างที่สุด

    อีกทั้งออกมาส่ายร่ายรำ ให้บุคคลทั่วไปได้ดู เพื่อให้พราหมณ์เก็บเงิน ล้วนแล้วแต่เป็น

    สิ่งที่ท่านต้องทั้งทน ทั้งยอม ทั้งอดกลั้นใจเย็น ต่อทุกขเวทนา ต่อการหยามหยัน

    ต่าง ๆ ท่านจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ข้าพเจ้าอ่านแล้วต้องกลับมาพิจารณาดูตัวเองทันที

    หลายๆเรื่อง หลาย ๆ เหตุการณ์ที่ตัวเรามักขึ้งโกรธ ยอมไม่ได้ เสียเกียรติ หรือที่คิดว่า

    ตัวเองนั้นได้มีความอดทนแล้วต่ออะไรต่อมิอะไรที่เคยคิดว่าทุกข์แล้ว บัดนี้ต่อไปไม่ว่า

    จักต้องเจอกับอะไรสมควรที่จะน้อมนำเรื่้องราวในอดีตของพระองค์มาคิดให้มากอันจะทำให้

    เรื่องใด ๆ ก็จักบรรเทาและจะต้องข่มลงให้จงได้และต้องทำให้ได้ เพราะสิ่งที่มนุษย์

    คิดว่าทุกข์ทรมานนั้น ก็มิอาจเทียบได้แม้สักกระผีกหนึ่งในครั้งที่เสวยพระชาติเป็นพญานาค

    ได้โลกนี้มีใครอีกหรือที่้เลือดกลบปากจนฟันเขี้ยวหลุดหมดเช่นนั้นแล้วแม้มีฤทธิอยู่กับตัวก็

    ไม่ทำอันตรายต่อศัตรูแต่ยอม ๆ และยอมอดทนกดข่มเพื่อรักษาศีล เพื่อธำรง สัจจะวาจา

    หรือสัจจาธิษฐานไว้ให้สำเร็จเพื่อคุณงามความดีแม้เสวยพระชาติเป็นพญานาคซึ่งเป็น(สัตว์

    เดรัจฉาน) แต่จิตใจนั้น ยิ่งใหญ่เหลือเกิน โชคดีเหลือเกินในชาตินี้ที่ได้มีโอกาสพบพระ

    พุทธศาสนาของพระพุทธองค์

    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

    ข้าพเจ้าขอถือ เอาพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ
     
  11. นางสาวอยู่จ้ะ

    นางสาวอยู่จ้ะ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +3,865
    กำลังอยากรู้ว่านาคในศาสนา มีกี่หัว กี่ตระกูลกันบ้าง
    อยู่ๆก็มีคนทำกระทู้ขึ้นมา..ขนลุกค่ะ..อย่างว่าล่ะนะ
    คนในนี้สายบุญเดียวกัน 55555555
     
  12. ใฝ่รู้

    ใฝ่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +240
    ขอบคุณมากค่ะ ขอให้คุณเจริญยิ่งๆขึ้นไป ที่ได้เผยแพร่นาคราชธรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...