ระบอบทุนนิยม เป็นต้นเหตุแห่งภัยพิบัติทั่วโลก! (หรือไม่.?)

เมื่อย้อนไปคิดทบทวนคำพูด-คำทำนายบางช่วง ทำให้นึกขึ้นได้ถึงบางตอนที่ว่า "เป็น เพราะมนุษย์เราเห็นแก่ตัว บริโภคทรัพยากรณ์จนเกินความต้องการ การค้าการลงทุนข้ามชาติ ชนิดมือใครยาวสาวได้สาวเอา มันจึงพาโลกเราจมดิ่งสู่ยุคแห่งภัยพิบัติ"

เพราะระบอบทุนนิยมในทางการค้าเสรีนี้หรือไม่ มันจึงเป็นแนวทางให้บางประเทศ บางคน งาบทรัพยากรณ์ที่ธรรมชาติให้ไว้จนมีสภาพอย่างที่เห็น สุดท้ายโลกป่วย แม่ธรณีป่วย เราไม่มีกฏหมายห้ามทำร้ายโลก ประเทศไหนหรือใครมีความสามารถมากกว่า ก็กัดกินกันขนานใหญ่ เมื่อไม่พอกับกิเลส จึงขยายกิจการข้ามไปงาบทรัพยากรณ์อีกที่หนึ่ง "จนบางครั้งเหลือแต่ตอ"



และผมไม่กล้าปฏิเสจดอก.. ว่าไม่ชอบเทคโนโลยีและความเป็นอยู่ที่สบาย แต่เพราะเทคโนโลยีและการค้าการลงทุนแบบปัจจุบันนี้หรือไม่ จึงทำให้โลกเราเปลี่ยน

ในความคิดตอนนี้ คอมพิวเตอร์,อินเตอเนท,โทรมือถือ,สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆไม่มีก็ได้ ในชีวิตนี้ไม่ต้องการอะไรนอกจากปัจจัยสี่ แต่ด้วยกระแสบริโภคและสภาพสังคม จึงต้องวิ่งตามกระแสน้ำ (แบบขอไปที)

หลายคนมีชีวิตอยู่อย่างยากลำบากหาเช้ากินค่ำ จนพวกเขาไม่สนใจหรอกกับคำว่าโลกจะแตกหรือไม่แตก บางครั้งพวกเขาก็อยากให้มันแตกๆไป หวังเผื่อจะได้ไปเกิดใหม่พร้อมกับเจออะไรที่มันดีกว่าเก่า

และด้วยความรู้น้อย และใช่ว่าผมต้องการหรือไม่ต้องการระบบทุนนิยมหรือเสรีนิยม แต่ด้วยความสงสัย ว่าถ้าตั้งแต่เริ่มเดิมทีหากโลกเราปกครองไปในแบบอีกลักษณะหนึ่ง โลกเราจะพบกับภัยธรรมชาตินาๆนับประการที่ทั่วโลกประสบอยู่และกำลังจะถูกรีเซ็ตใหม่นี่ไหม?

..ตามคำทำนาย หลังยุคภัยพิบัติจึงมีผู้มีบุญ มีความรู้ความสามารถมาเกิด มาปกครองเป็นผู้นำโลก นำพามนุษย์สู่โลกแนวใหม่ ที่ไม่เลวร้ายแบบปัจจุบัน โอ้...ว่าแต่โลกแบบในอนาคตนั้น จะมีการค้าการปกครองแบบลักษณะไหนหนอ??

หรือหากจะคิดอีกแบบ หรือว่าทุกสิ่งอย่างมันเป็นวัฏจักรในตัวของมันเอง คือมันต้องเป็นอย่างนี้ แบบนี้ ในรอบหมื่นๆปี โดยดาวหางนิบิรุ หรือโดยใครก็ไม่รู้คอยจัดสรรปั้นแต่ง??

แล้วในความคิดของท่านๆในที่นี้ อยากมีผู้นำโลก และให้โลกของเราถูกปกครอง-การค้าขายกันแบบลักษณะไหน???

 

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ดูแค่บ้านเราตอนนี้ผ่านไปเห็นภูเขาแต่ละที่แล้วอดสมเพศไม่ได้ มีแต่ภูเขาหัวโล้นเต็มไปหมด ถึงยุคมือใครยาว สาวได้สาวเอาจริงๆครับ:'(

 

เหตุจริงๆคือกิเลสในใจคนที่ไม่ถูกควบคุมให้อยู่ในความสมดุลย์
ทำให้แสวงหาไม่รู้จักอิ่มจักพอ ยิ่งหายิ่งหิว
เมื่อคนนึงหิว คนอื่นๆก็ติดโรคหิวไปด้วย แข่งขันกันหาไม่มีขอบเขต
ตราบใดที่ไม่อิ่มไม่พอ โลกทั้งใบก็ไม่ทำให้อิ่มได้ ทำให้โลกเสียสมดุลย์
เพราะมนุษย์ไม่รู้เท่าทันกิเลส

เมื่อโลกภายนอกเสียสมดุลย์ ก็เกิดขบวนการปรับเข้าสู่สมดุลย์
ช่วงที่ปรับเข้าสู่สมดุลย์ ก็ต้องกระทบกับทุกชีวิตบนโลก
คงไปโทษผู้อื่นไม่ได้ เพราะเราก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคมโลก

แก้ได้ที่ตัวเราบริโภคใช้สอยแต่พอดี ควบคุมกิเลสของเราให้ได้
อย่าให้กิเลสออกหน้า ทำได้แค่นี่แหละครับสำหรับคนๆนึงที่จะตอบแทนให้โลก

โลกให้อะไรเรามากมาย แต่เราไม่เคยตอบแทนสิ่งใดกลับคืนสู่โลก
มีแต่แข่งขันกันทำลาย

เคยคิดไหมว่าโลกก็มีชีวิต

 

เห็นด้วยครับ ทุนนิยมเป็นต้นตอที่สำคัญฉุดให้ความหายนะมาเร็วขึ้น
เปรียบเทียบง่ายๆ เมื่อสมัยร้อยสองร้อยปีที่ผ่านมา บรรพบุรุษเราอยู่
กับธรรมชาติ อิงแอบอยู่กับธรรมชาติ มีความอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณธัญญาหาร
และมีศีลธรรมประจำใจกันเป็นส่วนใหญ่ มีการเบียดเบียนกันน้อย(ยกเว้นภาวะภัยสงคราม)
อยู่กันอย่างพอเพียง พอกิน พออยู่ ไม่หาไม่สะสมให้เกินตัว

ซึ่งตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับสมัยนี้ ที่บริโภคกันเกินตัว มือใครยาวสาวได้สาวเอา
เบียดเบียนกันทุกรูปแบบ ทำอย่างไรก็ได้แม้จะผิดศีลธรรมเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง
ไม่มีจิตสำนึกแห่งความถูกต้องและศีลธรรม และนับวันก็จะยิ่งมากขึ้นๆทุกที
...โลกอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีการปรับตัว ภัยพิบัติ คงจะหลีกเลี่ยงกันไม่พ้น...
ทุกอย่างขึ้นกับกรรมที่ทำร่วมกันมา จะมากหรือน้อยก็ต้องร่วมกันรับกรรมที่ทำมา....หนีไม่พ้น....

 

โดยพื้นฐานก็กิเลสนั่นแหละ หลักๆ ก็ ๓ ตัว จาก ๑๐ ตัว
ส่วนมากโลภมากเกินไป
แต่มีอีกอย่างคือ มิจฉาทิฎฐิ พวกฝรั่งเป็นพวกนักคิดแยะ มีทฤษฎีต่างๆ มากมายหลายสำนัก แต่ส่วนมากเขาไม่เคยใส่ใจเรื่องกิเลส เรื่องจิตใจของคน และเป็นพวกสุดโต่งตามทฤษฎีก็แยะ
อย่างในสหรัฐ เขาเชื่อว่า เศรษฐกิจต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของตลาด(คือ ความโลภของนายทุน นักค้าเงิน นักเก็งกำไร นายแบงก์) ไม่ต้องควบคุม รัฐต้องพยายามไม่ไปยุ่งเกี่ยว ถึงจะถูกต้อง ก็เลยมีปัญหา หรือ อย่างปัญหาเศรษฐกิจในกรีซ และประเทศอื่นๆ ก็ทำนองเดียวกัน
ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมก็เช่นกัน เขาเชื่อว่า คนเป็นผู้ครอบครองทรัพยากร ใครมือยาวสาวได้สาวเอา ไม่คิดถึงผู้ด้อยโอกาสที่เป็นคนส่วนมาก ไม่คิดถึงสัตว์ พืช ที่ต้องสูญพันธุ์ไปเท่าไร

 

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม....ปรามาจารย์รัฐศาสตร์ว่าไว้
...มนุษย์จึงเป็นสัตว์ที่เรียกว่าตัวเองฉลาดที่สุดในห่วงโซ่อาหาร...
ระบบทุนนิยม เป็นการเรียกของ คาลน มาร์กซ์ ที่เรียก การค้าเสรี เป็น ทุนนิยม...
..การค้าเสรี อดัมส์ สมิทธ ก่อกำเนิดขึ้น เพื่อแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ แต่ด้วยความโลภของมนุษย์จึงเกิดการสงคราม การทูต การค้าฯลฯเพื่อดึงทรัพยากรไปยังประเทศของตน...เมื่อประเทศที่แข็งแรง ก็ต้องการทรัพยากรมาก ดูดได้มาก...มาร์กซ์จึงเห็นว่า มันไม่เป็นธรรม จึงเรียกเป็นทุนนิยมดังกล่าว...
..ดังนั้น ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม จึงไม่ใช่ตัวการทำลายโลกหรือ สร้างภัยพิบัติแต่อย่าง
ใด
..ตัวการที่แท้จริงคือ กิเลศ ความโลภ โกรธ หลง นี่แหละคือตัวการหรือสาเหตุ
..ในหลวงเห็นความจริงนี้ตามพุทธองค์ จึงนำเศรษฐกิจพอเพียงมาสอนพวกเรา...
..ถ้าใช้แบบในหลวงทั้งโลก ก็จะไม่มีภัยพิบัติ...

 

โลกเคยเกิดมหาภัยพิบัติมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เราเรียกว่าภัยพิบัติเพราะตัวเราได้รับผลกระทบ แต่โลกอาจเรียกว่าการปรับตัว ปรับสมดุลย์ ตามประสาความไม่เที่ยงของโลก

จะมีมนุษย์หรือไม่ โลกก็ยังคงต้องปรับตัวเองอยู่เป็นระยะ ถ้าช่วงนั้นมีมนุษย์ศัยอยู่ ก็ถือว่ามนุษย์กลุ่มนั้นซวยเอง(วิบากกรรมที่เกิดในช่วงนั้นพอดี) ถ้าวิบากกรรมดี ก็ย่อมไปอยู่ในที่สุคติ เป็นไปตามกฏแห่งกรรม

ระบบทุนนิยม นำความอุดมสมบูรณ์ สะดวกสบาย มาสู่ประชากรบางส่วน และบางส่วนก็ยากไร้ ความสมบูรณ์นั้น แปลงมาจากทรัพยากรทั้งหลายประดามีในโลก มนุษย์ทุกวันนี้บริโภคเกินความจำเป็นพื้นฐานไปมาก จนยากจะหยุด และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ทรัพยากรก็ต้องนำมาใช้เพิ่มเป็นเงาตามตัว สิ่งเหล่านี้ช่วยกระตุ้นให้โลกเสียสมดุลย์ได้มาก เมื่อเสียสมดุลย์ก็ย่อมต้องปรับตัวเอง เมื่อนั้นเราก็จะเรียกว่า ภัยพิบัติ

เราทุกคนในโลกนี้ ล้วนอยู่ในกระแสบริโภคแบบไร้ขีดจำกัด มีส่วนใช้ทรัพยากรของโลกทุกคน มากน้อยต่างกันไป ดังนั้น เมื่อโลกเกิดอะไรขึ้นมา เราย่อมได้รับผลกระทบนั้นอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง โทษใครไม่ได้เลย

 

ผู้ปกครอง มีคุณธรรมมีความยุติธรรม ไม่มีระบบนายทุน เน้นการกสิกรรม พัฒนาเทคโนโลยีที่สะอาด พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม

 

เน้นๆเลยครับ ความเห็นแก่ตัวของมนุษยครับ ถ้าตัดตรงนี้ออกไปได้รับรองไม่มีเรื่องแย่ๆแบบนี้เกิดขึ้นแน่ๆครับ ความเห็นแก่ตัวเป็นต้นเหตุของปัญหาทุกๆอย่างครับ

 

เห็นด้วยกับกิเลส ตัณหา ความไม่รู้จักพอ ครับ

อย่าไปโทษระบบเลย คนนั่นแหละที่เป็นต้นเหตุ เพราะไม่รู้จักพอและมิฉาทิฐิ
สังคมอเมริกันที่เป็นสุดยอดทุนนิยม มีคติว่าทำงานเพื่อเงินและ Sex ครับ

ดูง่ายๆว่าอย่างเกาหลีเหนือก็ไม่ได้เป็นทุนนิยม แต่เป็นพวกมิจฉาสุดโต่ง
กลายเป็น Rouge State สร้างปัญหาไปทั่ว ถ้ามีประเทศแบบนี้มากๆโลกจะเป็นอย่างไร

แต่อีกไม่นานเกินรอ สภาวะอันอึดอัดทั้งหมดนี้จะหมดไปเพราะธรรมชาติกวาดล้าง