ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Me, myself, 3 มีนาคม 2009.

  1. Patiharn^^

    Patiharn^^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +556
    เณรสนใจที่จะฝึกมโนยิทธิมาได้สักพักตั้งแต่ยังเป็นฆราวาส จนตอนนี้ได้มาบวชแล้วจะลาสิกขา1เดือนหน้าเวลาว่างเณรไม่มีอะไรจะทำก็ลองนั่งภาวนา นะมะ พะธะ มาได้3-4วันแล้ว แต่ก็ปฏิบัติไม่เป็นสักที ไม่ทราบว่าโยมสอนด้วยใช่ไหม? ถ้าสอนนี้สอนที่ไหนเหรอ? สอนเดี่ยวหรือแบบกลุ่ม? ถ้าลาสิกขาไปแล้วอาจจะได้ไปฝึกกับโยม หรือถ้าไม่ได้ฝึกก็จะขอคำแนะนำทางนี้เอาก็ได้ เจริญพร และขออนุโมทนาบุญในการกระทำความดีของโยมที้งหมดทั้งปวง
     
  2. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0

    นมัสการค่ะ รายละเอียดตามลิงค์นี้เลยค่ะ

    เปิดสอนมโนมยิทธิ ณ บ้านใจดี - มโนมยิทธิ - OurMaNoMaYitTi.com - Powered by Discuz!
     
  3. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    ใช่ค่ะ แต่พี่ฝนบอกว่าพี่รู้ดีที่สุดคือ พี่รู้ด้วยญาณของพี่อยู่แล้วว่าใครคิดยังไง อะไรแบบนี้ แต่นับถือน้ำใจพี่ที่พี่ปล่อยวางได้ค่ะ

    ค่ะ ใช่ ทุกวันนี้ฝนก็มีแต่ก้มหน้ารับเหมือนกัน แต่ฝนยังทำได้ไม่ดีพอ เมื่อวานท่านพ่อแนะนำพี่คนนึงผ่านฝนมา

    ท่านแนะนำว่า ทำเท่าที่เราทำได้แล้วสบายใจ ไม่น้อยเกินและไม่มากเกินไปนั่นแหล่ะคือความพอดี สำหรับฝนคิดว่าฝนยังน้อยไป คงเพิ่มความเพียรได้อีก

    ฝนเองให้ฝนเป็นครูคงไม่ไหว คงพาลูกศิษย์แอบไปวิ่งเล่นตามสวน แวะเดินชมดอกไม้ตามสวน ตามป่า ตามเขามากกว่าพาเค้าขึ้นไปจุฬามณีค่ะ สุดท้ายแทนที่เค้าจะไปพระนิพพานคงได้ไปยืนเป็นรุกขเทวดาเฝ้าต้นไม้กันแทนอ่ะค่ะ

    แต่ฝนก็ดีใจนะคะที่นานๆทีนึง เมื่อถึงเวลาอันสมควรที่ท่านคิดว่าเหมาะสม ท่านให้ฝนทำหน้าที่ส่งสาร ผลประโยชน์ที่ได้กับตัวเองคือเราได้อ่านด้วย และสามารถนำมาปรับเข้ากับตัวเอง

    ยังไงก็ดีนะพี่ ฝนอ่ะ ตอนแรกๆสมัยก่อนกลัวมากๆเลย คือท่านสั่งให้พิมพ์ก็ต้องพิมพ์เลย ท่านพูดฝนพิมพ์กันแบบเดี๋ยวนั้นเลย ตอนแรกๆก็เกร็งนะ แต่ตอนนี้เริ่มเข้าใจว่าต้องมีอะไร ท่านถึงได้เตือน
     
  4. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    หนักนะเนี่ย

    ตามที่ฝนรู้มาเมื่อวาน ท่านพ่อว่าคนที่ได้รับอนุญาตให้ฝึกมโนได้ไม่ได้ขึ้นกับครูสอนคนเดียว ยังต้องได้รับอนุญาตจากครูบาอาจารย์ซึ่งส่วนใหญ่คือพระพุทธเจ้าท่านก่อน

    ก็เป็นงานช้างเลยนะที่จะต้องรับฟัง รับความกดดันจากคนที่ยังไม่ถึงเวลาแล้ว

    อยากได้มโน เพราะกระแสจิตเราสามารถรับความมุ่งมั่นเค้าได้ในความอยาก

    และความศรัทธา อีกอย่างไม่ใช่เราที่จะเป็นคนตัดสินว่าน้องคนนี้ฝึกแล้วจะได้

    มโนนะส่วนน้องคนนั้นยังไม่ถึง แต่เราก็ได้รับความกดดันอยู่ดีเพราะกระแส

    ของความตั้งใจ ความมุ่งมั่น และความอยากมันวิ่งชนเราไปหมดเลย การเป็นครู

    ฝึกฝนถือว่าพระพุทธเจ้าท่านเลือกแล้วว่าคนนั้นต้องมีกำลังสามารถรับกระแส

    หนักๆได้ ไม่ใช่ว่าได้มโนเห็นแจ่มชัดแล้วจะเป็นครูฝึกได้ทุกคน

    ส่วนตัวฝนๆ ฝนไม่เคยคิดอยากเป็นครูฝึกเลย ฝนรับกระแสเเรงๆไม่ไหว ไม่มี

    กำลังตั้งรับได้ขนาดนั้น
     
  5. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    จริงพี่ฝนก็เป็นแบบนี้

    สมัยก่อนตอนเข้าวัดใหม่ๆ ฝยยังจำได้เลยพระอาจารย์ฝนชอบว่าต่อหน้า

    ญาติโยมคนอื่นๆว่าฝนไม่ดีอย่างนู้นไม่ดีอย่างนี้ ฝนก็อ้าว ฝนนั่งอยู่ดีๆไหงมาลง

    ที่ฝนได้ ฝนพูดออกไปเลยว่าพระอาจารย์ว่าฝนทำไมฝนออกจะดีเป็นคนดี พระ

    อาจารย์ท่านทำหน้าแบบอยากจับมันโยนออกไปข้างนอกวิหารเดี๋ยวนั้น พี่

    นึกออกใช่ไหมเวลาท่านทำหน้าแบบนั้น 555

    ----------------------------------
    ตอนนั้นอ่ะไม่เข้าใจคำว่าไม่ดีในทางพระหมายความว่ายังไง ตอนนี้ถ้ามีคนมาว่า

    ฝนไม่ดี ฝนก็ยอมรับนะว่าฝนไม่ดี ถ้าฝนดีจริงฝนก็ไปวิ่งเล่นในสวนบนพระ

    นิพพานแล้ว แต่จิตแท้ๆเลยก็อย่างนั้นแหล่ะ เวลาโดนประจานจะรับไม่ได้ ว่าฝน

    ได้ยังไง ฝนออกจะดีแสนดี ดี๊ดี ดีที่สุดแล้วยังจะมาว่าฝนอีก มันอดไม่ได้อ่ะพี่

    สันดานเดิมมันออก 555
     
  6. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    474
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,849
    บุคคลที่ฝึกได้และฝึกไม่ได้ควรทำเช่นไร พระพุทธองค์กล่าวไ้ว้ในธรรมบทครับ
    เอามาฝากทุกท่านเป็นข้อคิดเล็กๆ


    ครั้งหนึ่ง นายเกสี ผู้ฝึกม้าเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า นั่งถวายความเคารพเรียบร้อย ถูกพระองค์ตรัสถามว่า
    “ท่านเป็นสารถีฝึกม้า มีชื่อเสียง ท่านฝึกม้าด้วยวิธีอย่างไร”
    นายเกสีได้กราบทูลว่า
    “ข้าพระพุทธเจ้าฝึกม้าด้วยวิธีละมุนละม่อมบ้าง ด้วยวิธีรุนแรงบ้าง ด้วยวิธีทั้ง ๒ ประกอบกันบ้าง” พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสตอบว่า
    “ถ้าม้าของท่านไม่รับการฝึกด้วยวิธีละมุนละม่อม
    ไม่รับการฝึกด้วยวิธีรุนแรง ไม่รับการฝึกด้วยวิธีทั้ง ๒ ประกอบกัน ท่านจะทำอย่างไรกับม้านั้น”

    “ถ้าม้าของข้าพระพุทธเจ้าไม่รับการฝึกด้วยวิธีละมุนละม่อม
    ทั้ง วิธีรุนแรง และวิธีทั้ง ๒ ประกอบกัน ข้าพระพุทธเจ้าก็ฆ่ามันเสีย ที่ทำอย่างนั้นเพราะเหตุไร เพราะเพื่อมิให้สำนักอาจารย์ต้องเสียชื่อเสียง”

    ครั้นกราบทูลเช่นนั้นแล้ว ก็กราบทูลถามว่า
    “สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นสารถีฝึกคนชั้นเยี่ยมยอดทรงฝึกคนด้วยวิธีใดเล่า พระพุทธเจ้าข้า”
    พระองค์ทรงแสดงคล้อยตามวิธีฝึกม้าของนายกาสี ความว่า
    "เราก็ฝึกคนด้วยวิธีละมุนละม่อมบ้าง ด้วยวิธีรุนแรงบ้าง ด้วยวิธีฝึกทั้ง ๒ ประกอบกันบ้าง "
    วิธีละมุนละม่อม คือ แสดงสุจริต ความประพฤติดี และผลของสุจริต ความประพฤติดีนั้นว่า กายสุจริตอย่างนี้ ผลของกายสุจริตอย่างนี้ วจีสุจริตอย่างนี้ ผลของวจีสุจริตอย่างนี้ มโนสุจริตอย่างนี้ ผลของมโนสุจริตอย่างนี้ เทวดาเป็นอย่างนี้ มนุษย์เป็นอย่างนี้
    วิธีรุนแรงเป็นอย่างไร คือ แสดงทุจริตและผลของทุจริตว่า การทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริตอย่างนี้
    ผลของกายสุจริต วจีทุจริต มโนทุจริตอย่างนี้ นรกคติที่มีความเดือดร้อนเป็นอย่างนี้
    กำเนิดสัตว์เดรัจฉานเป็นอย่างนี้ เปตวิสัยเป็นอย่างนี้ ฯลฯ”
    นายเกสีได้กราบทูลถามว่า
    ถ้าผู้นั้นไม่รับการฝึกด้วยวิธีทั้ง ๓ นั้น พระองค์จะทรงทำอย่างไรกับเขา พระพุทธเจ้าข้า”
    พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสตอบว่า
    “ถ้าคนนั้นไม่รับการฝึกด้วยวิธีทั้ง ๓ นั้น เราก็ฆ่าเขาเสียเหมือนกัน”
    นายเกสีกราบทูลย้อนถามว่า
    “ปาณาติบาต ไม่ควรแก่พระผู้มีพระภาคเจ้ามิใช่หรือ ไฉนจึงรับสั่งว่า เราก็ฆ่าเสีย กระนั้นเล่า”
    พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสอธิบายว่า
    “จริง ซีเกสี ตถาคตไม่ควรฆ่าสัตว์ แต่ว่าคนผู้ใดไม่รับการฝึกด้วยวิธีละมุนละม่อม ไม่รับการฝึกด้วยวิธีรุนแรง ไม่รับการฝึกด้วยวิธีทั้ง ๒ ประกอบกัน ตถาคตก็ไม่นับคนผู้นั้นว่าเป็นคนควรกล่าวสั่งสอนอีกต่อไป
    ทั้งเพื่อนพรหมจารีผู้รู้ทั้งหลาย ก็ไม่นับคนผู้นั้นว่าเป็นคนที่จะพึงว่ากล่าวสั่งสอนด้วย
    ข้อที่ตถาคตไม่นับคนผู้นั้นว่าเป็นคนที่จะพึงว่ากล่าวสั่งสอนได้ต่อไป
    ทั้ง เพื่อนพรหมจารี ผู้รู้ทั้งหลายก็ไม่นับคนผู้นั้นว่า เป็นคนที่จะพึงว่ากล่าวสั่งสอนด้วยนั้น ชื่อว่าเป็นการฆ่าคนผู้นั้นเสียอย่างดีทีเดียว ในวินัยของพระอริยเจ้า”

    นายเกสีได้กราบทูลสดุดีพระผู้มีพระภาคเจ้า และขอแสดงตนเป็นพุทธมามกะตลอดชีวิต



    อนุโมทนาครับ
     
  7. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    474
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,849
    เป็นครูเขานี่ลำบากไม่ใช่เล่นนะครับพี่สาว ผมขอเป็นกำลังใจช่วยครับ ทุกวันนี้ต้องเข้ามาดูกระทู้ว่าไปถึงไหนแล้ว ดีใจครับที่เป็นส่วนหนึ่งของกระทู้ธรรมแห่งนี้ สัมมาทิฏฐินี่สำคัญมากเนอะ หากความตั้งใจผิดแ้ล้ว อะไรๆก็ผิดไป
     
  8. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    474
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,849
    สวัสดี พี่สาว พี่ริคคาโด้ คุณฝน คุณเอ พี่หมง คุณหนิง และกัลยาณมิตรทางธรรมทุกท่านครับ วันนี้มีเรื่องเล่า สบายๆเกี่ยวของผมมาเ่ล่าสู่กันให้ได้ดูและชมกัน มันเป็นปฏิหาริย์ที่เกิดกับผม ซึ่งผมถือว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์เลยทีเดียวครับ ดูเป็นนิยายสนุกๆล่ะกันนะครับ

    เมื่อประมาณปี 50 ตอนนั้นผมทำงานอยู่ในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเกี่ยวกับงานก่อสร้าง สมัยนั้นผมชอบสะสมพระเครื่อง ส่วนมากจะขอพระท่านมาบ้าง แลกกับคนรู้จักมาบ้าง แล้วก็เวลาว่างๆก็จะมาส่องดูกัน ตามประสาคนชอบพระ(นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ได้หวนเข้ามาทางสายนี้โดยไม่รู้ตัว) ผมเป็นคนที่ชอบเรื่องอภินิหาร เกี่ยวกับเรืื่องผีๆ เทวดาๆ อะไรที่ค่อนข้างเหนือธรรมชาติ ยิ่งใครบอกว่าพระเครื่ององค์นี้เด่น ดัง ผมก็พยายามเสาะหามา ตามประสาคนกิเลสหนาล่ะครับ ยิ่งสมัยนั้น ถ้าทำบุญก็ตามประเพณี เข้าวัดก็นานๆที ไม่ได้ศรัทธาอะไรเป็นกิจลักษณะ

    พอดีตอนนั้นเพื่อนที่เป็นหัวหน้าคุมงานด้วยกันได้พระเครื่องมาใหม่จากคนงาน ซึ่งเพื่อนบูชามา 200 มันเอามาให้ผมดู ทันทีที่ผมเห็น ผมเกิดอาการขนลุกซู่ มือสั่นเทา ผมค่อยๆพิจรณาพระองค์นั้นด้วยความตื่นเต้น ซึ่งอาการแบบนี้มันเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกได้ แปลกมากๆ ตอนแรกผมไม่รู้ว่าเป็นพระอะไร แต่รู้สึกชอบมาก เพื่อนเลยบอกว่าป็นหลวงปู่ทวด พิมพ์ใหญ่ ลักษณะเป็นพระค่อนข้างเก่าพอสมควร มีไขขึ้นรอบองค์พระ ดูแล้วน่าเลื่อมใส ผมถามเพื่อนว่าถ้าจะบูชา จะซักราคาเท่าไร เพื่อนบอกองค์นี้ชอบมากไม่ปล่อยง่ายๆหรอก ถ้าสองพันถึงจะปล่อย(แหม!!! มันขูดเลือดซิปเลย เ่ช่ามาสองร้อย แต่เอากะผมสองพัน) แต่ผมก็ชอบมากเหมือนกัน จะด้วยเหตุผลกลใดผมก็ไม่ทราบได้ ในใจคิดอธิฐานว่า "หากผมมีบุญบารมี ขอให้หลวงพ่อมาอยู่กับผมด้วยเทอญ สาธุๆ"

    เย็นนั้นผมกลับบ้านไป นึกครึ้มอกครึ้มใจ สวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน นึกถึงพระหลวงปู่ทวดองค์นั้น แล้วก็อธิฐานซ้ำอีก พอเคลิ้มๆหลับใกล้รุ่ง ผมฝันว่า มีพระแก่ๆย้ำท่านแก่มาก แก่่จนหลังค่อม หัวโตๆ ผิวค่อนข้างขาว หุ่มจีวรสีกรัก ดูท่าทางน่าเลื่อมใส ในฝันนั้นผมได้เข้าไปกราบท่าน ท่านเมตตายิ้มให้ แล้วผมก็พูดในสิ่งที่ผมเองยังคิดเลยว่า กล้าพูดได้ไง ผมบอกว่า "หลวงปู่ครับผมขอหวยหน่อยครับ" สีหน้าของพระรูปนั้นเปลี่ยนไป เป็นค่อนข้างจะเครียดแล้วก็ทำเ่ฉยๆ แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้ ผมขอซ้ำอีก ครั้งที่สองก็เฉยอีก ผมก็ขอซ้ำอีก พอครั้งนี้ ท่านเอามือของท่าน วาดบนอากาศเป็นเลข แถวบน15แถวล่าง12 ผมดีใจมาก(บ้าหวยจัด ฮาๆ)ก้มลงกราบท่าน แล้วก็ตื่นมาพอดี แล้วก็ประจวบเหมาะมาก วันนั้นเป็นวันหวยออกพอดี ผมไปที่แผงล๊อตเตอรี่ ไล่หาดูเลยที่ว่า ทั่วทั้งแผง ซึ่งมีเป็นหลายสิบแผง จนแล้วจนรอดก็ไม่มี จนไปเจอแผงสุดท้าย มีเลข 1512 พอดีอยู่ 1คู่ ผมจึงซื้อมา ความจริงผมกะจะเหมาหมดหากมีเลขนี้ แต่เผอิญมันไม่มี ได้มาแค่นี้เอง พอตอนเย็น หวยออก ผมถูกหวย เลขท้่ายสองตัว ผมดีใจมาก เฮ้ย!!เป็นไปได้ไงวะ ซื้อหายมาทั้งชาติ เพิ่งจะฟลุ๊คถูกกะชาวบ้าน ฮาๆ

    แต่ที่น่าประหลาดใจมากกว่านั้น หวยงวดนั้นเลขบนสองตัว ดันออก 15 ซึ่งมันเป็นความโง่ของผมที่ดันไปหาเลข สี่ตัว ไม่ได้ฉุกคิดว่า ท่านให้ทั้งบนและล่าง แล้วอีกอย่างแทนที่ผมจะซื้อหวยใต้ดิน ดันเจือกไปซื้อ ล๊อตเตอรี่(ด้วยความโลภอยากได้รางวัลที่หนึ่ง) สมน้ำหน้าตัวเอง!เลยได้มาแค่สองพัน ผมคิดว่าท่านคงให้โชคแค่นี้่ แค่พอกะเช่าพระพอดีกระมัง ซึ่งผมก็เอาเงินที่ถูกหวยนั่นล่ะไปเช่าพระกะเพื่อน เพื่อนมันก็แปลกใจมาก แต่ก็ยอมปล่อยพระ เพราะมันเคยบอกกับผมราคานี้แล้ว มันคงกะว่าผมคงไม่เอาจริงๆ จึงตั้งราคาไว้สูง

    นี่ล่ะครับเรื่องมหัศจรรย์ในชีวิตผม และผมก็ไม่ให้พระองค์นี้ห่างตัวเลย อารธนาท่านไปด้วยตลอด ยกไว้เหนือหัวเลยครับ เพราะผมเชื่อว่าท่านคงจะมาสงเคราะห์ผมแน่ๆ เรื่องเกี่ยวกับหลวงปู่ทวดนี้พระเครื่ององค์นี้ยังมีอีกนะครับ เดี๋ยวจะทยอยมาเล่าให้ได้รับชมกันอีก

    อนุโมทนาสาธุๆกับทุกท่านด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2012
  9. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    วันนี้ท่านพ่อสอนฝนเรื่องทำยังไงเมื่อหมอดูบอกว่าพระราหูเข้า

    ปัญหาแรกเลยของฝนคือเรื่องรับส่งพระราหูและหมอดูแม่นๆ

    เมื่อสิบปีก่อนบ้านฝนจะมีหมอดูที่ครอบครัวฝนทั้งบ้านไปดูด้วย คือเค้าดูแม่นนะ

    แม่นจริงๆ แต่ต้องเตรียมเงินอีกส่วนไว้เลยนั่นคือทำพิธีแก้ราหูเข้า เวลาเราไปดูทีไรราหู

    เล็งอยู่ทุกที เค้าจะทำพิธีรับส่งราหูให้ให้ราคาก็กันเองห้าพันบาทแม่ฝนก็ยอมจ่ายให้พอหลายๆปีเข้า

    ราหูเข้าทุกปีเลย แม่เริ่มเอะใจขึ้นมาว่าอะไรมันจะแพงนักหนาแค่ทำสังฆทานถวายพระ

    แม่คุยกับป้าเรื่องนี้ ป้าฝนเลยแนะนำแม่ฝนให้มาทำสังฆทานที่ซอยสายลมแทน
    -----------------------------------------------
    พอเมื่อวันก่อนฝนรู้สึกดวงฝนมันแปลกๆ มันแย่ ทำไงดีแม่กับพระอาจารย์ท่านก็ไม่อยู่แล้วใครจะช่วยฝน หันซ้ายหันขวา

    กดหาลุงหมอดูดีกว่า พอลุงรู้ว่าอยู่ต่างประเทศเท่านั้น ลุงมามุขเดิมเลย ราหูเข้าอีกแล้วคร้าบ

    ฝนคิดในใจซวยแล้ว กี่พันอ่ะที่นี้ ลุงคิดห้าพันห้า ค่าลุงดูดวงอีกสองพัน เป็นเจ็ดพันห้าที่ต้องจ่ายลุงค่าดูดวง

    ระหว่างนั้นจิตฝนนึกถึงพระอาจารย์องค์แรก พระอาจารย์เคยเทศน์ไว้ว่า คนเราหมดตัวเพราะหมอดูมา

    แล้ว ทำพิธีรับส่งราหู เสียค่าใช้จ่ายที่เป็นหมื่นๆ จำได้แค่นี้แล้วก็ลืมว่าท่านพูดต่อว่าอะไร

    พอถึงจุดนี้รนรานมากกก แทนที่จะภาวนาพุทโธให้มีสติเพื่อจะได้แก้ไขหรือนั่งมโนไปถาม

    ท่านพ่อ ท่องได้แต่ฝนซวยแล้ว ซวยอีกแล้ว ทำไงดี

    กดโทรศัพท์หาอาจารย์แม่เล่าให้ท่านฟัง ท่านก็ตอบว่า สวดมนต์ นั่งสมาธิ ปฏิบัติทั่วๆไป

    ไม่ต้องไปหาหมอดูหรอกเพราะว่า เมื่อเราปฏิบัติเราก็ได้บุญ บุญอยู่สูงกว่ากรรมขึ้นมา

    กรรมก็ทำตามอะไรเราไม่ได้ เช่น คนที่เค้ามีดวงว่าจะต้องตายจากอุบัติเหตุรถชนตาย พอ

    เค้ารู้ก่อนล่วงหน้า เค้าก็รีบไปบวชพระ เคราะห์หนักก็จะกลายเป็นเบา

    ตื่นเช้าวันต่อมาลืมแล้ว

    ผู้ที่เดือดร้อนต่อไปคือท่านพ่อ ต้องไปขยายความจากอาจารย์แม่ให้ฟังอีกรอบนึง บอกแล้ว

    ว่าสติปัญญาไม่ธรรมดา บัวใต้น้ำลึกมหาสมุทรเลย
    ----------------------------------------------------
    กับคำถามเดิมสั้นๆง่ายๆ ราหูเค้าฝนอ่ะพ่อ ฝนทำไงดี ตายแย่ๆ ซวยแล้วๆๆ

    ท่านแนะนำเหมือนอาจารย์แม่ ท่านว่าตั้งใจสวดมนต์ นั่งสมาธิ หมั่นอุทิศส่วนกุศลให้เจ้า

    กรรมนายเวรให้เค้ามากๆ ให้พ่อแม่ครูบาอาจารย์ด้วยท่านจะได้คุ้มครองเรา อุทิศให้ตัวเอง

    ด้วยโดยอธิษฐานขอรวมบุญที่เราได้บำเพ็ญเพียรมาตั้งแต่ในอดีตชาติ ตอนนี้เราติดขัดเรื่อง

    เงิน เราก็เน้นขอเรื่องเงิน นึกถึงว่าเราเคยบริจาคเงินเพื่อช่วยทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาไหม

    เคยให้เงินช่วยเหลือใครโดยไม่หวังผลตอบแทน ให้ด้วยจิตที่เมตตา

    อธิษฐานขอให้บุญที่เราเคยได้ทำมาเกี่ยวกับด้านของเงินทองตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันขอให้มารวม

    ตัวกันเพื่อช่วยเหลือเรา ให้เรารอดพ้นวิกฤตินี้ไปได้

    ถ้าเราต้องการขอความช่วยเหลือจากคนอื่นก็ระลึกถึงบุญว่า เราเคยช่วยเหลือใครที่มีปัญหา

    ตกทุกข์ได้ยาก เรายื่นมือเข้าไปช่วยโดยไม่หวังผลตอบแทน ช่วยเพราะเรามีกำลังที่จะ

    ช่วยได้ ช่วยเพราะความเมตตา ก็ให้อธิษฐานถึงบุญนั้นว่าขอให้บุญที่เราได้เคย

    ช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยากมาในอดีตชาติจนถึงชาติปัจจุบันขอให้บุญนั้นมารวมตัวกัน

    เพื่อช่วยเหลือเราให้รอดพ้นปัญหานี้ไป

    การอธิษฐานนั้นให้ทำหลังจากที่เราสวดมนต์ นั่งสมาธิเสร็จแล้วก็เริ่มทำ จะก่อนหรือหลังแผ่

    เมตตาก็ได้ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2012
  10. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    เรื่องต่อมาเรื่องการปฏิบัติของความเข้าใจในการฟังธรรม

    ปัญหาของฝนคือสมองฝนเข้าใจในสิ่งที่พระท่านเทศน์ เข้าใจนะในสิ่งที่ท่านสอน ที่ท่าน

    แนะนำให้ปฏิบัติตาม แต่พอเกิดเหตุการณ์หนึ่งๆขึ้น จิตมันจะกลายเป็นอีกเรื่องไป เกิด

    อาการสมองทะเลาะกับจิต สมองจะสอนจิตให้ทำตามแบบนั้นแบบนี้ตามหลักครูบาอาจารย์

    แต่จิตเนี่ยสิคนลุะเรื่องเลย จะทำตามใจฉัน ทำยังไงดี

    -----------------------------------------------------

    ท่านพ่อเมตตาสอนว่า เช่นเหมือนเราเห็นกา สมองเราสั่งแล้วว่านกสีดำนั่นๆคืออีกา หน้าตา

    แบบนั้นแบบนี้ แต่จิตเราไม่ได้รู้เรื่องไม่ได้เข้าใจอะไรตามสมองไปด้วย

    ดังนั้นเราต้องใช้การนั่งสมาธิเพื่ออบรมจิต เวลาเรานั่งสมาธิ ความคิดในสมองเราจะเงียบลง

    ช่วงนี้จิตเราเองก็จะหยุดคิดนิ่ง เวลานี้เป็นเวลาดีที่เราจะอบรมจิตเรา อยากสอนอะไรมัน

    ก็สอนมันตอนนี้ ตอนนี้ที่จิตเงียบไม่ได้คิดให้เปิดเทศน์ของครูบาอาจารย์เพื่ออบรมจิตเรา

    ให้จิตได้เข้าใจ แล้วในตอนนี้จิตเราจะคล้อยตามคำสอนของครูบาอาจารย์ท่านได้ง่ายๆ

    ไม่ต้องเปิดหลายหัวข้อ

    พอจะนั่งสมาธิเราก็เปิดหัวข้อเดียวฟังซ้ำๆ ถึงแม้สมองจะจำได้ว่าพระท่านเทศน์ว่ายังไงช่าง

    มัน เราไม่ได้สอนสมอง เราจะสอนจิตเราต่างหาก ต้องฟังย้ำๆ จนจิตเราเข้าใจในหัวข้อนั้นๆ

    แล้วค่อยเปลี่ยนใหม่

    เราต้องอบรมจิต เราไม่ได้อบรมสมอง สมองเรามีปัญญาพออยู่แล้ว แต่ที่ไม่มีปัญญาคือจิต

    จิตเราเป็นตัวแสดงความโง่ออกมาเลย จิตมันดื้อ สอนสั่งยากแต่ละที คนมีปัญญาเท่านั้นที่

    จะรู้ว่าควรใช้สมองในการแก้ปัญหาไม่ใช่ใช้ใจ พวกที่แก้ปัญหาด้วยใจสั่งมาอย่างเจ้าฝน

    เป็นพวกที่ทำตามใจตัวเองจนชิน ต้องแก้ด้วยวิธีอบรมจิตตัวเองเพื่อจิตจะได้ไปอบรมใจตัวเองอีกที ไม่งั้น

    ถ้าสมองกับจิตทะเลาะกันมากๆ จะเครียดเป็นโรคประสาทได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2012
  11. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    โมทนาด้วยจ้าน้องฝน และขอกราบแทบพระบาทองค์สมเด็จพ่อด้วยความเคารพในธรรมทานที่ท่านสั่งสอนมาค่ะ สาธุ
     
  12. konkangwad

    konkangwad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +5,910
    สาธุ โมทนาบุญกับพี่สาว และทุกๆท่านครับ ที่นำเรื่องราวและธรรมะปฎิบัติ มาแบ่งปันเล่าสู่กันฟังครับ ตามอ่านอยู่เงียบๆครับ โมทนากับธรรมะปฎิบัติของทุกท่านด้วยครับสาธุๆ
     
  13. tia1911

    tia1911 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2010
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +938
    คำสอนสมเด็จองค์ปฐม ตรงกับช่วงชีวิตผมพอดี ช่วงนี้ไปถวายสังฆทานที่ซอยสายลม และ ขึ้นไปฝึกมโนติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว

    ก็ยังไม่ได้อะไร เจอพี่ที่คอยดูแลชั้น 3 พูดว่า " ยังไม่ได้อีกเหรอ จำหน้าได้..เห็นมาหลายครั้งแล้วนี่ "

    ผมตอบไปว่า..ก็ผมยังไม่ได้ เธอถามว่า..ติดตรงไหน ผมบอกว่า..ก็ผมตามไปไม่ได้ คงยังไม่ถึงเวลามั๊ง

    เธอก็เปิดประตูให้ห้องหนึ่งแล้วบอกว่า...งั้นลองห้องนี้ดู ( มีความรู้สึกเหมือนโดนดูถูกว่ามาหลายครั้งแล้วยังไม่ได้ แสดงว่าเป็นคนไม่ดีพอ )

    สุดท้ายก็ยังตามไปไม่ได้อยุ่ดี ส่วนใหญ่จะปวดเมื่อย หรือ เหน็บชาเพราะต้องนั่งติดต่อกันประมาณ 3 ชั่วโมง จะขยับก็เกรงใจ

    เพราะห้องฝึกจะแน่นทุกห้อง ไม่ท้อใจ..แต่รู้สึกอาย รู้สึกสับสน คราวต่อไปจะมีหน้าไปฝึกไหมนี่


    ป.ล.ผู้ที่ได้ทรัพย์มา..แม้จะไม่มากมาย แต่ได้มาด้วยความยากลำบาก จะเห็นคุณค่าของทรัพย์นั้น มากกว่าผู้ที่ได้ทรัพย์มามากมาย..แต่ได้มาโดยง่าย
     
  14. คนเมืองพระ

    คนเมืองพระ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +47
    คุณ poiroj1911 ผมชอบความคิดคุณ ผมว่าไม่เกี่ยวกับดีหรีอไม่ดี แต่อาจเกี่ยวกับกรรมเก่า ผมว่าผมเองก็ยังเลวอยู่ ผมเคยไปฝึกมโน1ครั้งแล้วได้กราบหลวงพ่อ พอกลับบ้านมาไปได้อีกครั้งสองครั้งแล้วไปไม่ได้อีกเลย ขอให้คุณpoiroj1911ไปได้ในเร็ววันนะครับเป็นกลำลังใจให้ครับ
     
  15. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    474
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,849
    กราบเท้าสมเด็จท่านฯ ขอน้อมนำคำสอนมาใส่ใจและปฏิบัิติครับ อนุโมทนาครับคุณฝนด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  16. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    เข้ามาเป็นกำลังใจให้ค่ะ อยากบอกว่าไม่ต้องอายและสับสนค่ะ เพราะว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิด

    คนที่ยังไม่ได้ฝนคิดว่าน่าจะยังไม่ถึงเวลาค่ะ ระหว่างนี้เราก็ศึกษาธรรมะไปก่อน

    เพื่อที่เมื่อถึงเวลาแล้วจะได้ใช้มโนไปในทางที่ถูกต้องค่ะ

    อย่ากดดัน อย่าน้อยใจและอย่าเครียดนะคะ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป
     
  17. แม่หมูอ้วน

    แม่หมูอ้วน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +6,061
    ดีใจจัง คุณฝนกลับมาแล้ว และยังไม่ลืมบุญคุณที่ได้เคยช่วยน้องเพียวค่ะ ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้เข้ามาเพราะก็มีความกดดันทางใจ ที่ตอนไปฝึกมโนกับคุณสาวก็ดูเหมือนจะได้ แต่พอกลับมาบ้านก็ทำไม่ได้เลย ก็ต้องขอบคุณในธรรมทานที่ทั้ง คุณฝน คุณสาว น้องเบนและทุกท่านที่ได้มาเล่าให้ได้อ่าน และหากพี่ได้ทำหรือพูดอะไรที่ทำให้ คนรอบข้างท่านใดขุ่นเคืองใจช่วงที่อยู่ไทย พี่ก็ขออโหสิกรรมด้วยนะคะ ขอบคุณน้องคิมที่ทำให้ได้มีโอกาสไปทำบุญใหญ่ทั้งที่น้ำท่วม ขอบคุณ คุณสาวที่ช่วยสอนมโนให้โดยอดทนกับความไม่เอาไหนและค่อนข้างจะโง่(ในเรื่องเกียวกับทางธรรม)ของพี่ ขอบคุณคุณหนิงที่พูดคุยและตอบคำถามที่พี่ถามเกี่ยวกับการปฏิบัติด้วยค่ะ และก็ขออโหสิกรรมด้วยหากว่าถามมากไป
    และท้ายนี้ขอโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ทำดีแล้วทั้งหมดทั้งมวลค่ะ
     
  18. konkangwad

    konkangwad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +5,910
    แจ้งยอดทำบุญถวายองค์พระกับน้องเอเพิ่มอีก 170 บาทครับคุณเกศกัญญา ปาวะรีย์ ครับ
     
  19. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    นำบุญมาฝากครับ

    สวัสดีครับท่านกัปปิตัน พี่หนิง น้องเอ น้าหมง น้องฝน คุณโมกขทรัพย์ ท่านลูกเรือ ท่านผู้อ่านทั้งขาจร ขาประจำ ท่านกัลยาณมิตร ที่น่ารัก ท่านผู้เจริญทุกท่าน

    มาบอกบุญอีกครั้งครับ มาประจำทุกสัปดาห์ครับ

    วันนี้ช่วงเช้าไปวัดครับ วันนี้อุณหภูมิอยู่ที่ สอง องศาเซลเซียสครับ แดดดีครับ

    บุญร้อนๆ ครับ บุญร้อนๆ บุญอุ่นๆ สบายๆ สดๆ ออกจากเตามาแล้วครับ
    มาให้ทุกๆท่าน ร่วมโมทนาบุญสาธุการ อีกครั้งครับ

    วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๘ เมษายน ๒๕๕๕ ณ วัดราชธรรมวิริยาราม ๔ เมืองคัลการี่ เวลา ๑๐ โมงเช้าเป็นต้นไป
    ผมได้อาราธนาศีล สวดอิติปิโส ๙ รอบ นั่งสมาธิ ๓๐ นาที หลังจากนั่งสมาธิ ก็หยอดเหรียญกระปุกบุญที่พระประจำวันเกิด จากนั้นก็ถวายภัตราเพล

    กุศลผลบุญใดที่เกิดขึ้น ขอให้ทุกท่านที่เป็นสมาชิกในเรือลำนี้ และไม่เป็นสมาชิก ทั้งขาจร ขาประจำ
    ทุกท่านที่เข้ามาอ่าน ขอให้ทุกท่านได้รับผลบุญนี้ด้วยเทอญ

    ท่านที่มีความทุกข์ ขอให้พ้นจากทุกข์ พ้นจากโศก พ้นจากโรค พ้นจากภัย
    ขอให้ทุกท่านมีความสุข ขอให้สุขยิ่งๆขึ้นไป
    ขอให้สำเร็จทุกสิ่งตามที่ท่านได้ปรารถนา
    มีสติปัญญาแจ่มใส ทะลุแจ้งแทงตลอดทั้งทางโลกและทางธรรม
    มีสมบัติพระมหาจักรพรรดิ์ตักไม่พร่อง ยิ่งตักก็ยิ่งมาก
    คำว่า ไม่มี ไม่รู้ ไม่สำเร็จ อย่าได้เกิดกับทุกท่าน
    ขอให้เข้าพระนิพพานในชาตินี้ด้วยเทอญ

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  20. tia1911

    tia1911 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2010
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +938
    ขอขอบคุณพี่คนเมืองพระ และ คุณฝน ที่ให้กำลังใจ จะพยายามต่อไปเพื่อตามเพื่อนกัลยาณมิตรทุกท่านในเรือลำนี้...ไปนิพพานให้ได้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...