อยากทราบอารมณ์ของฌาณ4

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย นทีบุญ, 28 มิถุนายน 2011.

  1. ขมิ้นชัน

    ขมิ้นชัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +141
    ขอบพระคุณพี่บุคคลฯ มากครับที่แยกแยะลักษณะมาให้ได้เรียนรู้.........
     
  2. นทีบุญ

    นทีบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    939
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +796
    กรณีที่หยุดหายใจ ทุกอย่างหายไปหมด แม้กระทั่งตัวเรา เหลือเพียงตัวรู้เท่านั้น เรียกว่าฌาณ.... หรือยังไงเอ่ย??

    แต่จะเป็นเพียงแค่แปปเดียว
     
  3. pooltime

    pooltime เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +113
    เข้ามาศึกษาครับ สำหรับผมไม่รู้อ่ะ ว่า ผมถึงณานไหน อ่ะ รู้อย่างเดียวคือลมหายใจเข้าก้อรู้ ออกก้อรู้ อ่ะ สงสัยไม่มีบุญ ได้ณาน ทำที่ไรไม่เคยมีนิมตร หรือ ปิติ อ่ะ
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    คุณ บุคคลทั่วไป 3 คน นี้ระบบความคิดรวบยอดในการนำเสนอดีนะครับ.
    อนุโมทนาสาธุด้วยครับ..
     
  5. ใจใฝ่ศึกษา

    ใจใฝ่ศึกษา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2011
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +9
    อนุโมทนา สาธุ..กับทุกๆท่านที่ช่วยชี้แนะ ขอให้ท่านทั้งหลายเจริญในทางโลกและทางธรรม สาธุ:cool:
     
  6. รัก_D

    รัก_D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2008
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +1,096
    มันจะไม่มีอะไรในหัว, มีอาการเหมือนก่อนจะหลับแต่ยังไม่หลับ(มันอยากจะหลับให้ได้แต่ยังไม่หลับ)

    ถ้าเป็นอาการนี้ไม่แน่ใจว่าเข้าถึงขั้นไหนครับ ผู้รู้ช่วยบอกทีครับ..
     
  7. THEFOOL23

    THEFOOL23 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2010
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +136
    ถ้ายังรู้สึกว่า ไม่มีลมหายใจ

    ก็ไม่ใช่ฌาณสี่
     
  8. 1จริง2ไม่

    1จริง2ไม่ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +1
    สงบ มีสุขที่ปราศจากความอยากต่าง....ฯ แต่ละความรู้จะมาตามที่ต้องการของฌานและความรู้ที่มานั้นอยู่ในระดับฌาน4ทั้งนั้น (จะอยู่ในระดับใหน ฌานเป็นตัวกำหนดไม่ใช่เราและจิตเรา)
     
  9. chatsiri

    chatsiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +195
    การทรงฌานไม่ใช่การหลุดพ้น...เป็นการเอาจิตไปพัผ่อนชั่วคราว....หลุดพ้นด้วยปัญญาและวิปัสนา...ใช้กายกะจิตพาไปนิพพพานแล้วก็ทิ้งมัน
     
  10. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    มีอารมณ์เป็นอารมณ์เดียว ไม่มีการภาวนา ไม่มีลมหายใจ ไม่รับรู้เรื่องภายนอก รับรู้แต่ว่ามีเรา

    ขณะนั้นตรึกนึกอะไรก็จะเห็นโดยทันที สิ่งที่เห็นจะเป็นเรื่องจริง ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้

    หากตรึกถึงสภาพร่างกาย ให้เกิดการเสื่อมไป ก็จะเห็นได้ชัดเจน ไม่เหมือนการนึกคิดเอาเอง

    ขณะอยู่ภายในฌาณ จะไม่ง่วง ไม่หิว ไม่มีการรับรู้ทางร่างกายโดยสิ้นเชิง เพียงแต่เป็นเฉพาะ

    เวลาอยู่ในฌาณ ครั้นออกมา หากไม่ทรงอารมณ์แห่งฌาณไว้ ก็จะเกิดกิเลสได้เหมือนเดิม

    จึงเป็นที่มาของคำว่า "หินทับหญ้า "แต่หากทรงอารมณ์ของฌาณได้ จะมีความแตกต่างออกไป

    แต่ครั้งแรกจะทรงอารมณ์แห่งฌาณได้ในระยะสั้น หากทำบ่อยๆจะได้นานยิ่งขึ้น
     
  11. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    :cool::cool::cool::cool::cool::cool:
     
  12. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745

    :cool::cool::cool::cool::cool:
     
  13. bombybamby

    bombybamby Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +46
    ไม่แน่ใจว่าตัวเองนั่งไปถึงฌานไหนนะครับ เพราพึ่งเริ่มหัดมาไม่กี่เดือน

    เคยนั่งจนลมหายใจมันแผ่วจนมันจะหยุดหายใจไปเลยครับ บรรยากาศมันเวิ้งว้างไปหมด เหมือนตัวมันจะทยอยหายไปด้วย ตกใจแทบตายเลยต้องดิ้นๆให้ถอนออก

    หากมันจะเกิดขึ้นอีก จะต้องทำยังไงบ้างครับ มันน่ากลัวจริงๆ ทำเอากลัวความมืดไม่กล้านั่งสมาธิไปหลายวันเลยครับ
     
  14. jim1

    jim1 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +5
    อ่านแล้ว มีประโยชน์มากค่ะ ถึงจะไม่ค่อยรู้อะไรเลยก็ตาม เหมือนคนไม่เคยเล่นหุ้นมานั่งฟังคนเล่นหุ้นเค้าคุยกัน เพราะมีแต่คนมีประสบการณ์กันทั้งนั้น
    หลายสิ่งที่สงสัยค่ะ ขออนุญาตถามนะคะ
    1. มีไหมคะที่ทำสมาธิมาเป็นปี ๆ แล้วไม่ถึงขั้นไหนเลย นั่งมาเป็นปี ๆ ก็ได้แต่หลับตา ภาวนา และฟุ้งซ่านอยู่เหมือนเดิม เป็นเพราะเหตุใด
    2. จำเป็นไหมคะที่ต้องมีครูบาอาจารย์ หรือพระสอน ให้ปฎิบัติแบบนั้นแบบนี้ ฝึกเองได้ไหมคะ
    3. ขั้นต่าง ๆ ของการทำสมาธิที่แต่ละคนทำจะเหมือนกันไหมคะ ว่า ถึงตรงนั้นต้องเป็นแบบนี้
    ขอโทษค่ะหากคำถามรบกวนจิตใจของท่านนักปฎิบัติทั้งหลาย เพราะข้าน้อยโง่เขลาเบาปัญญาในเรื่องนี้จริง ๆ แต่อยากสัมผัส และฝึกฝนค่ะ
     
  15. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    ไม่ต้องทำอะไรครับ ปล่อยไปแบบนั้นแหละ ถ้าจะเข้าอารมณ์ฌาน ก็จะเป็นแนวนั้นแหละครับ ปลายมือปลายเท้าหายไปก่อน มือหายเท้าหาย แขนขาหาย ตัวหาย ถ้าไม่เห็นนิมิต ก็จะเห็นแต่ความมืด ไม่มีอะไรเลย อยู่ดีๆ ก็รู้สึกเหมือนเป็นที่มืดๆ โล่งกว้าง ขยายออกไป ไม่ต้องตกใจ ไม่ได้หยุดหายใจหรอก ลองสังเกตดีๆ ลมหายใจ ที่หาไม่เจอแล้ว ที่จมูก ลองจับดูตรงท้อง ยังขยับอยู่ครับ

    แต่!! เข้าฌานอย่างเดียว ยังไม่ใช่วิธีเพื่อหลุดพ้น และยังไม่ใช่การสร้างบุญบารมีชั้นสูงสุดนะครับ
     
  16. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    1. เป็นได้ครับ ถ้า
    1.1 ทำไม่จริงจัง ทำๆ หยุดๆ ของพวกนี้เป็นโลกีย ไม่ฝึกบ่อยๆ มันก็เสื่อมลง หรือฝึกประจำ แต่ไม่หนัก ไปรับอารมณ์ สร้างอารมณ์เก็บไว้ในสมอง เป็นสัญญาจนชิน มันก็จะมากวนในสมาธิเรื่อยๆ นั่นแหละ
    1.2 วิบากเก่ามากวน หรือ เรียกอีกอย่างว่า ยังไม่ถึงเวลา ก็คงจะพอได้

    2. ไม่จำเป็นครับ แต่ครูอาจารย์ผมแนะนำว่า ถ้าจะฝึกเอง อย่าส่งจิตออกนอกครับ อะไรมันจะเกิดขึ้น อย่าส่งออกนอก อย่าไปคิดออกนอกตัวเรา ให้จิตเราอยู่กับกายเรา ณ ปัจจุบัน ให้ตลอด ถ้าทำตามข้อนี้ได้ ฝึกเองอย่างไรก็ปลอดภัย

    3. อารมณ์ฌานเหมือนกันครับ ปีติส่วนใหญ่ก็จะมีอาการใกล้เคียงกัน ส่วนลำดับวิปัสสนาญาณนั้น ไม่เหมือนครับ บางคนก็จะแปลกๆ กว่าคนอื่นไปมาก
     
  17. bombybamby

    bombybamby Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +46
    ขอบคุณมากครับ บางทีเหมือนมีปิติมากๆ หรือนั่งแล้วมันรู้สึกแนบแน่นมากๆ หรือหูจะเริ่มอื้อๆ เราก็เริ่มกลัวแล้วครับ เคยนึกอยากจะนั่งผ่านไปให้ได้เหมือนกัน แต่พอยิ่งอยากได้ คราวนี้แม้แต่สมาธิมันยังไม่เกิดเลยครับ

    ตั้งแต่เริ่มๆนั่งมามันเหมือนมีแรงดันอยู่ที่กลางหน้าผากด้วยครับ แต่ก่อนไม่เคยมี เหมือนพอจะเริ่มทำสมาธิ มันก็จะทำงานเลยครับ บอกไม่ถูกครับ ตอนจะนอนก็เป็น ทำให้นอนหลับได้ยากมาก ทุกข์มากเลยครับ ทั้งที่เราก็ไม่ได้เกร็งอะไร กว่าแรงดันจะหายไปก็ต่อเมื่อเราเลิกนั่ง หรือไปโฟกัสกับอย่างอื่น เคยไปหาหมอแล้วก็ปกติดี

    ก่อนหน้านี้ผมมีอาการเจ็บป่วยเกี่ยวกับช่องท้องครับ เลยลองๆหัดทำสมาธิดูน่ะครับ เหมือนจะช่วยลดความเจ็บปวดลงบ้าง ก่อนหน้านี้ต้องยอมรับเลยว่าอยู่คนละฟากกันกับการปฎิบัติจริงๆครับ
     
  18. อินทรี

    อินทรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    418
    ค่าพลัง:
    +562
    อย่างนี้เรียกว่า ญานขึ้นหรือป่าว...55

    ก็คุณมีหลวงพี่คอยแนะนำนี่นา รู้วิธีปฏิบัติมาแล้ว แล้วถึงมาฝึกเองที่บ้าน คนที่ไม่มีครูอาจารย์ หากเขาไม่แน่ใจ พอปฏิบัติไปนิดเดียวเท่านั้น เขาจะสงสัย สงสัย และก้สงสัย
    จะไม่กล้าทำอะไรต่อได้เลย หากเกิดอะไรแปลกๆตอนนั่งสมาธิ ไม่ก้จะตกใจแล้วเลิกนั่ง
    ส่วนใหญ่ก้จะเป็นประมาณนี้ จะไม่มีใครที่กล้าภาวนาเอาชนะความกลัวนี้ไปได้ หรือไม่ได้ถือคติ "ตายเป็นตายตอนทำสมาธิ" จะเป็นไงก้เปนกัน ถ้าจะได้ก้ขอให้ได้ของจริงกันไปเลย หากคิดเช่นนี้ก้ตัดความกลัวออกความสงสัยไปได้ ไม่่ใช่สิ่งที่จะตัดได้ง่ายๆเลย

    การที่ฝึกสมถะมากๆ นานๆ บางครั้งก้ทำให้จิตเรารู้สึกตัวอย่ตลอดเวลา ทำให้บางครั้งเปนเหมือนหลับยาก หรือไม่ก้หลับๆตื่นๆ เหมือนจิตมันหลับไม่สนิท เวลาทำสมาธิอย่าเพิ่งมานั่งสมาธิ ให้ไปเดินจงกรมก่อน สัก10-15 นาที พอเดินได้สักพัก แล้วค่อยมานั่งสมาธิ
    เวลานั่งสมาธิเวลาจิตจะรวมอย่าให้มันรวมเร็วเกินไป ให้มันค่อยๆเปนสมาธิ ค่อยรวมเปนหนึ่งเดียวลงไป ช่วงที่ค่อยๆรวมพยายามเอาสติตามให้ทัน แล้วเมื่อรวมลงไปแบบช้าๆจน
    เริ่มสงบเปนสมาธิดีแล้ว อย่าส่งอารมณ์ออกข้างนอก แล้วเมื่อมีไรจากภายนอกมากระทบ
    ให้ปล่อยวางวางเฉยๆ ไปเรื่อยๆ แล้วเมือ่ทำได้เช่นนี้ ให้รักษาอารมณ์แบบนี้ให้นานที่สุด
    ประคองใจที่เปนสมาธิไว้เรื่อยๆ จนกว่าจะพอใจ ค่อยถอนสมาธิออกมาช้าๆ แล้วเมื่อถอนออกมาให้มาจับที่ลมหายใจเข้าออก สัก5-10 รอบจนคุ้นเหมือนกับตอนเริ่มนั่งทำเท่านี้ถึงค่อยเลิกนั่งสมาธิจริงๆแล้วไปทำอย่างอื่น อาการที่จิตค้างในสมาธิจะค่อยๆหายไป แล้วกลับมานอนได้ตามปกติ (แล้วก้เวลาทำเสร็จอย่าเก็บเรือ่งที่ทำสมาธิหรืออาการที่จิตเปนสมาธิไปคิดต่อ ให้ปล่อยวางไปเลย การปล่อยวาง ไม่หยิบเรื่องอะไรมาเปนภาระให้คิด
    จะว่าไป มันก้เหมือนสมาธิภายในตัวมันอยุ่แล้ว เป้นการตัดปลิโพธิไม่ให้มารบกวนจิต...จะได้มีเวลาไว้คิดไว้ทำอย่างอื่นบ้างก้เท่านั้นเอง)
     
  19. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    ข้อแรก ไม่ทราบเหมือนกันครับว่าเขาเรียกว่าอะไร อาจจะเรียกอย่างนั้นก็ได้ครับ :)

    อีกสองข้อ เห็นจริงตามนั้นครับ
    หาครูบาอาจารย์ฝึกได้ จะดีกว่ามากครับ หากจะฝึกเอง ต้องอาศัยศรัทธาแรงกล้า ตายเป็นตาย อย่างที่ ท่านอินทรี ว่าจริงๆ
     
  20. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210

    อารมณ์ทางโลก เบื่อๆอยากครับ อยากหนีไปบวช เบื่อโลกเบื่อผู้คน
    อารมณ์ในขณะปฎิบัติ อย่างบรรดาเพื่อนธรรมทั้งหลายอธิบายแต่ผมไม่เห็นใครบอกหรือบอกแล้วไม่เห็นไม่ทราบขอรับต้องขออภัย หลังจากปิติแล้ว ตรงนั้นจะสุข และสงบ สุขใดเท่าความสงบไม่มีดังพุทธองค์กล่าว บางคนไปติดอยู่ตรงนี้เพราะสงบ แล้วบางท่านอาจะวูบ บางคนลอย พอลอยมากวูบมากๆกลัวตาย สะดุ้งไม่ไปต่อครับ วูบให้วูบไป ลอยให้ลอยไป สิ่งที่ยึดมั่นคือสติครับตามไป ผมไม่เห็นใครตายในระหว่างปฎิบัติ แล้วหลังจากนั้นหลุดครับ หลุดออกจากร่าง อย่าไปไหนครับ กลับเข้ามาที่เดิม ตื่นเสียในขณะปฎิบัติ แล้วจะทรงอารมณ์ใดพิจารรณาอะไรอย่างไรต่อเห็นเขียนไว้มากแล้วครับ หลังจากนั้นแล้วหาคนที่เขามีกรุณาฃ่วยชี้แนะแนวทางต่อ
    บางท่านไปสะดุ้งแสงวาบตอนนี้แหละครับแล้วบอกว่าสว่างแล้ว เห็นธรรมแล้ว ยังขอรับยังมีต่อ ในโลกของวิญญานที่เราหากัน เพียงแต่รู้เท่านั้นนะครับว่าตรงนี้มีจริงๆ ลองทำดูได้ แต่อย่าไปหลงในอวิชาที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ หูทิพย์ ตาทิพย์ อะไรทั้งหลายแหล่ หากไปติดไปหลงแสดงว่าไปไม่หมดไม่พ้นขอรับ ติดอยู่
    หลังจากนั้น หันมาดูจิตครับ เพราะเรื่องกายเรารู้แล้วว่าตายไปแล้ววิญญานมีจริง นรกสวรรค์มีจริง ไปเห็นมากับตา แต่ผมไม่ไปหรอกครับและบอกด้วยว่าไม่อยากไปยุ่งหรือเห็น เพราะหากเราทำดีย่อมได้ดีอย่าไปรบกวนคนอื่นเขาเพราะต่างคนต่างมีหน้าที่ เกิดไปเห็นบุพการีติดอยู่ตรงนั้นตรงนี้ต้องช่วยเหลือท่านอย่างนั้นอย่างนี้จิตตกแล้วครับ เพราะบางอย่างมันเป็นอุปทาน ไม่ใช่เรื่องจริงเพราะอยู่ในอารมณ์นี้ไปได้ไม่นานพอได้สติ เออ ข้าพเจ้าหลับไปแล้วเอาความฝันมาเป็นทุกฃ์อีกแล้ว นี่แหละครับอุปทานหลอกเต็มๆแล้วไปแสวงหาอวิชาไปเรื่อยๆ บางทีรู้เหตุล่วงหน้า เป็นอาจารย์อีก เออติดขอรับ
    ขอให้ท่านเจริญในธรรมครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...