ถ้าคุณสามารถแลก "วิญญาณ" กับ "ความสามารถพิเศษได้ คุณจะเลือกอะไร?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อู่หยาจื่อ, 17 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. HLC

    HLC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +259
    อย่าไปสนใจความสามารถพิเศษเลย

    เอาแค่ แลกให้ตัวเองหายอาการติงต๊อง เลิกเพ้อเจ้อนั่งฝัน
    แล้วเอาข้อมูลนั่งเทียนสะเปะสะปะ จับแพะชนแกะ มาเรียกร้องความสนใจ

    กลับไปเป็นมนุษย์ปกติ ก็พอแล้วมั๊ง

    แล้ววิญญาณก็กลับมาเองแหละ ไม่ต้องเอาไปแลกหรอก

    55555


    (||)(||)(||)(||)(||)(||)(||)(||)(||)(||)
     
  2. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    ผมขอเลือกย้อนเวลาไปช่วงที่ดีที่สุด ไปแบบนี้เรื่อยๆ
     
  3. ตามมาฮา 555

    ตามมาฮา 555 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +6
    เนี่ยแหละ มนุษย์
     
  4. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    อยากถามเน้นๆ สักข้อนึงครับ...
    พวกท่านได้ปฏิบัติกรรมฐานกันบ้างไหมครับ?
     
  5. ตามมาฮา 555

    ตามมาฮา 555 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +6
    แล้วกรรมฐานในความหมายของท่าน มันคืออะไรบ้าง? ทำอย่างไรบ้าง?
     
  6. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    สมถกรรมฐาน กับ วิปัสสนากรรมฐาน หนะครับ
     
  7. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    ปฏิบัติสิจ้ะ สมถะน้อยมากๆๆๆ เอาแค่สงบพอ เอาแค่ควรแก่การงานพอ วิปัสสนาเยอะมากๆๆๆ เห็นอะไรเจออะไรมันยกมาวิปัสสนาได้หมดอ่ะจ้า ท่านหล่ะ:)
     
  8. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    คุณ จขกท คุยกับคุณ ปุณบพิธ หน่อยจิ
    เค้าถามทำไมไม่ตอบ ฮื้ออออ...
     
  9. frank999

    frank999 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2008
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +1
    ถ้าเป็น ผมจะขอความสามารถพิเศษ ที่จะทำให้สิ่งที่ผมคิดที่ผมต้องการทุกๆอย่างนั้นเป็นจริง


    เช่นอยากช่วยคนใกล้ตาย เพียงแค่ผมคิด คนนั้นก็หายจากอาการป่วยใกล้ตาย

    ผมอยากเป็นอมตะ ผมแค่คิด ผมก็เป็นอมตะ ผมอยากสร้างสิ่งมีชีวิตที่สูญพันธ์ไปแล้ว
    ให้กลับมา เพียงแค่ผมคิด มันก็กลับมา

    และถ้าผมคิดอยากจะสร้างโลกอีกโลกนึงมีแต่ธรรมชาติที่บริสุทธ์ และผมจะนำพวกสัตว์ต่างๆ ที่ถูกมนุษย์รังแกและทรมาน ไปรวมกันอยุ๋ที่โลกนั้น

    และนำคนที่มีจิตใจที่ดีโดยแท้จริง นำไปอยู่โลกใหม่ ก็ให้เป้นจริงตามที่ผมคิดคับ

    ผมขอประมาณนี้ก็พอคับ ^ ^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2012
  10. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829

    ถามได้ซื่อมากเลย ไม่เหมาะจะเป็นตำรวจแน่นอน


    ถ้าคนโกหกตอบว่าเคย เล่าอย่างนั้นอย่างนี้ คุณจะ
    รู้ไหมว่าเขาโกหก? คนโกหกในเน็ตมีเยอะแยะไป


    คนที่ฝึกหรือไม่ฝึกก็แล้วแต่ แต่ได้ผล มีสติ, สมาธิ
    มี "ปัญญา" คงดูไม่ยาก ยกเว้น "อคติบังไว้" เท่านั้น
     
  11. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    พูดมาก เล่าไป เดี๋ยวก็หาว่า "อวด" อีก
    คนมากมายล้นประเทศ อวดกันทั้งนั้น
    ถึงขนาด เอารูปออกโฆษณา ไม่มีใคร
    ไปว่ามัน


    โอเคละ นี่แหละ กรรมของผม ผมจะรับไป
    ทำหน้าที่ของผมต่อไป กรรมบดบังความจริง
    มนุษย์จะรู้ความจริงได้ขนาดไหน ในเมื่อยัง
    ไม่สามารถ "อยู่เหนือกรรม" ได้ (ไม่ใช่อยู่
    เหนือวิบากกรรม ไม่ต้องรับวิบากกรรมนะครับ
    ยกตัวอย่างเช่น นาย ก. มีกรรม จะต้องถูกด่า
    นาย ข. อยู่ตรงนั้นพอดี ณ วิบากสนองผลถ้า
    นาย ข. ยั้งตัวไม่ก่อกรรมได้ แสดงว่าอยู่เหนือ
    กรรม แต่ถ้านาย ข. ยั้งตัวเองไม่ได้ ถูกกรรม
    ขับดันให้ด่านาย ก. ก็แสดงว่าไม่ได้อยู่เหนือ
    กรรม ทั้งๆ ที่นาย ข. อาจจะไม่เกี่ยวข้องอะไร
    กับนาย ก. เลย แต่เพราะไม่อาจอยู่เหนือกรรม
    จึงถูกพลังกรรมขับเคลื่อนให้เป็นตัวกระทำไป)
     
  12. ttoorrhh

    ttoorrhh Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +26
    เอาแลกกับความอมตะครับ... เอาไปโลดดวงวิญญาณ แต่ขอเป็นอมตะ ไม่แก่ ไม่ตาย ไม่เจ็บป่วย เฝ้าดูโลกมนุษย์หมุนติ้วๆ ตลอดไป...
     
  13. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    ผมเป็นเพียงคนซื่อๆ ที่ไม่คิดร้ายใคร และไม่จำเป็นต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมเล่ห์กลอะไร ผมถือกรรมบถ 10 ครับ ไม่พูดถ้าไม่มีสาระ และ ไม่โกหก
    ธรรมะ ย่อมคุ้มครองผู้ปฏิบัติธรรมที่ตั้งใจละกิเลสอย่างแท้จริงครับ

    ผมยอมรับครับ ว่า ผมไม่มีอภิญญา พิเศษอะไร ไม่มีปัญญามากพอจะบอกได้ว่า ใครฝึก ใครไม่ฝึก ผมแค่ถามท่านตรงๆ ขอคำตอบท่านตรงๆ คิดว่าคงไม่มากเกินไปครับ

    หากท่านจะโกหก ผมก็ไม่ทราบ ไม่รู้ได้หรอกครับ แต่ดวงจิตที่รู้ และจดเรื่องของท่านไว้ มีแน่นอน

    ขอถามซ้ำอีกครั้งหนึ่งครับ คำถามเดิมครับ
     
  14. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    1. กสิณที่เกิดเอง?


    สมัยเด็กๆ ชอบเพ่งดูสีต่างๆ ก็เห็นเหมือนพวกที่ฝึกกสิณ
    แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร มองแล้วมันติดตาแล้วก็หลับตาก็
    เห็น ตอนนั้น วาดภาพได้ดีมากเลย คือ เพ่งกระดาษขาวๆ
    ก็เห็นหน้าคนที่เราจะวาด ก็วาดไปเลย ไม่ต้องมองกลับไปมา
    แต่ไม่คิดว่าเป็นการเพ่งกสิณหรอกนะ เด็กมันไม่คิดอะไรมาก
    โตมา เลือนหายหมด ทำแบบนั้น ไม่ได้แล้ว
     
  15. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    2. สติปัฏฐานทีละขณะจิตที่ดวงตา


    ช่วงหนึ่งทำงาน แล้วอารมณ์ร้อน จึงหัดฝึกสติกับเขาบ้าง
    อ่านเอาจาก "หลวงพ่อ..." วันหนึ่ง ขณะนั่งประชุม มันก็
    ง่วงมาก พยายามไม่หลับตาแต่หัวก็ห้อยก้มลงข้างล่างแต่
    ยังไม่หลับนะครับ (ตาไม่หลับแต่ข้างในเกือบๆ แล้ว) สติ
    ยังแข็งสู้มันอยู่ ปรากฏว่าเห็นพื้นมี "มด" เต็มเลย ต่อมาก็
    สงสัยว่ามดมาได้ยังไง แค่นั้นเอง กลายเป็น "หนอน" ทันที
    เราก็ "ตื่นแจ้ง" เลย ผีหลอกว่ะ มดกลายเป็นหนอน? ปรากฏ
    ว่าภาพที่เห็นบนพื้น หายวับหมดไปเลย อะไรเนี่ย? ตายังไม่
    หลับนะ เห็นจะๆ เราจำได้ ภาพพื้นข้างล่างก็ปกติ มด-หนอน
    โผล่มาได้ไง? ไม่ได้หลับตา กลางวันแสกๆ ประชุมกันอยู่แท้ๆ
    ผีมด ผีหนอน หลอกซะงั้น


    ภายหลังเข้าใจว่า "สติมันละเอียดจัด ไปจับที่ดวงตา" เลยเห็น
    ภาพที่ส่งเข้าตาทีละเฟลมๆ ช้าๆ เหมือนทีวีที่ค่อยๆ รับสัญญาณ
    น่ะ มันเลยเห็นภาพเป็นเม็ดๆ เหมือนทีวีที่ยังไม่ชัด พอจิตปรุงว่า
    เป็นมด สัญญาขันธ์มันก็เอาภาพมดมาให้ดูเลย พอสงสัยว่าไม่ใช่
    น่าจะเป็นหนอน มันก็เอาหนอนมาให้เห็นเลย ขนาดนั้น ตอนนั้น
    ถ้ามีคนยิงลูกปืนเข้ามา น่าจะเห็นมันค่อยๆ วิ่งเข้ามาได้ทีละเฟลม
    ซึ่งมันเกิด "ชั่วขณะแว่บเดียว" คนในที่ประชุมไม่ทันสังเกตุว่าเรา
    เกือบจะหลับใน ไม่งั้น เขาคงด่าเราแล้วว่าหลับขณะกำลังประชุม
    (แสดงว่ามันเกิดเสี้ยวขณะเวลาจริงๆ แต่เราเห็นภาพละเอียดมาก)
     
  16. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    3. เพ่งไฟ


    ต่อมาได้โอกาสไปฝึกจิตที่วัดแห่งหนึ่ง อยู่กุฏิเดี่ยว รอบๆ เป็นป่า
    ตกกลางคืนเลยนึกสนุก เอาเทียนมาตั้งแล้วเพ่งไฟ ก็ค่อยๆ อธิษฐาน
    ให้มัน "ลุก" ขึ้น ไฟมันก็ค่อยๆ ลุกมากขึ้นจากเดิม ให้มันหรี่ลง มันก็
    หรี่ลง รู้สึกว่าเอ้ย เป็นได้ได้หรือว่ะ? ผีหลอก ไม่เอาแล้วกู เลยเลิกทำ
    ต่อมาก็ทำไม่ได้อีกเลย
     
  17. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    4. สะเดาะกลอนประตู


    เรื่องนี้เกิดตอนไปวัดที่ลาว ปรากฏว่าโบสถ์เขาปิดทุกด้าน
    ไอ้เราดันหัวรั้น กูมาถึงแล้ว ต้องเข้าไปให้ได้ เปิดข้างหน้า
    ก็เปิดไม่ได้ เพราะเขาลั่นดานข้างใน เราเลยเริ่มหงุดหงิด
    เดินรอบไปสักรอบหนึ่ง เอาวะ ยังไง ก็ลองดู เลยทำไงไม่
    รู้ อยู่ๆ ก็ดันๆ ประตูแล้วเอามือล้วงสะเดาะกลอนข้างในเปิด
    ประตูเข้าไปได้เฉยเลย เราก็งงๆ ทำได้ไงว่ะ? ไม่สนใจ ไป
    นั่งสมาธิข้างใน สงบเย็นมาก เยี่ยมสุดๆ เลย สักพักเณรลาว
    เข้ามารุมดูที่ประตูเต็มไปหมด เลยรู้สึกตัว ออกจากสมาธิไป
    ดู เณรถอยหลังหนี พูดอะไรกันไม่รู้ กลัวผมเหมือนเห็นผี (ก็
    อาจเป็นเพราะว่าเขาปิดโบสถ์อยู่เราเข้ามาได้ไง) ผมเลยเห็น
    ว่าชักไม่ดีละ ไปดีกว่า แล้วเณรลาวคนหนึ่งพูดไทยได้ วิ่งตาม
    มาถามชื่อ ก็ตอบๆ ไป แล้วไปเลย จบ ..
     
  18. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    5. คุยกับเป็ด (หรือห่านก็ไม่รู้)


    ไปวัดๆ หนึ่งที่เชียงราย เป็นวัดมหายาน แกล้งๆ ไปเคาะ
    ไอ้ที่เขาใช้ทำสมาธิดู ปรากฏว่าพระกำลังนอนหลับ ลุก
    มาไล่เรา ไปอีกที่เห็นพระหนุ่มคุยกะสาวสองต่อสองเรา
    เลยโมโห กูกลับดีกว่า ปรากฏว่า "เป็ดสัก 7 ตัว" ได้มัน
    เดินตามเรามา สองตัวที่นำหน้า "น้ำตาไหล" เราก็เอ๊ะ?
    ชักยังไงๆ ต่อมา หมาอีกตัวมาขวางทางเรา เห่าเราด้วย
    เราก็เลยคิดว่าเป็ดคงอยากบอกอะไรเรา เลยเดินไปไล่
    หมาแล้วเดินตามเป็ดๆ มันก็เอาหัวเอนไปซ้ายทีขวาที
    พร้อมๆ กัน เราเลยเข้าใจว่ามันต้องการให้เรา "เดินนำ"
    พอเดินนำมันๆ ก็เดินตามเรา เออ เฮ้ย มันเล่นด้วยว่ะ
    เลยเดินไปคิดว่ามันคงอยากให้เราเจอใคร เจอพระก็
    ถามในใจว่าใช่ไหม? (พร้อมหยุด) มันก็ส่งเสียงเอะอะ
    แตกกัน (แสดงว่าไม่ใช่) เจอชี ก็เป็นเหมือนเดิมอีก
    พอเจอเณรสองรูป เราเห็นหันหลังให้เณร หันหน้าดูเป็ด
    แล้วชี้ไปที่เณร (พร้อมถามในใจว่าใช่ไหม?) ปรากฏว่า
    มันเงียบพร้อมกันหมด (แสดงว่าใช่) เราก็เลยเอาหนังสือ
    ธรรมะเล่มหนึ่งไปให้เณร อันนี้ ประสบการณ์เล่าให้ฟังเล่นๆ
     
  19. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    6. เป็นชีเปลือย พิจารณาธาตุสี่


    ช่วงหนึ่งมีโอกาสได้ไปฝึกแบบพราหมณ์อินเดีย ที่โบสถ์พราหมณ์
    ไม่มีคน เลยนึกสนุก เอาว่ะ กู ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เป็นชีเปลือยละ
    เลยไปนั่งสมาธิเปลือยกาย ริมน้ำ (ที่บึงนั้นมีต้นโพธิกลางน้ำด้วย
    เป็นเกาะเล็กๆ) พิจารณาธาตุทั้งสี่ แล้วพิจารณาว่า "กามอยู่ตรง
    ไหน?" ตรงร่างกายที่เปลือยเปล่าหรือไม่? มันก็ไม่ใช่ ไม่นานนัก
    มีผู้หญิงคนหนึ่ง มารอที่โบสถ์บอกว่าเบื้องบนให้มาหา ต่อมา ก็ได้
    เป็นอาจารย์ผม หลังจากที่ผมฝึกจิตจากโบสถ์พราหมณ์หมดแล้วนะ
     
  20. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    7. สมาธิแบบเซนที่สันติอโศก


    ทีนี้ไปลองฝึกที่สันติอโศกบ้าง ตอนกลางคืนนอนไม่ค่อยหลับ
    เพราะมุ้งไม่ดี ยุงกวน เลยมาง่วงตอนกลางวัน โดนว่าเลย ก็เลย
    ไม่ได้อะไร เขาไม่ได้สอนการนั่งสมาธิอะไรเลย ให้ทำงานไปเฉยๆ
    กลับมาจากที่นั่นแล้ว ได้นอนหลับ กิน พอดีร่างกายสมดุล ปรากฏ
    ว่าขณะกำลังขี่จักรยานข้างถนนนั่นเอง อยู่ๆ "ความรู้สึกสุข-ทุกข์"
    มันดับวูบไปเสียเฉยๆ เป็นภาวะอะไรไม่รู้ ไม่เคยมี ไม่เคยเป็นมาก่อน
    มันว่างเบา สบาย ละเอียด ไม่สุข ไม่ทุกข์ แต่โล่งหมดยิ่งกว่าสุขใดๆ
    อีก ว่างเป็นสูญไปหมดเลย เหมือนไปอยู่อีกโลกหนึ่ง เผอิญว่ากำลัง
    ขี่จักรยานข้างถนน เลยต้องดึงสติกลับมาก่อน แล้วภาวะนั้นเลยหายไป
     

แชร์หน้านี้

Loading...