วัตถุมงคลพระพิราพ พ่อแก่ ฤๅษี พระอาจารย์ศิริพงศ์ ต้นตำหรับวัตถุมงคลพระพิราพ

เมื่อวันพฤหัสบดี ระหว่างพบปะสังหารของคณะเบญจพิษ เจ้าวรรณพเอ่ยขึ้นว่า "หลวงพี่ผมอยากได้รูปหลวงพ่อวาส กับ หลวงพ่อเผือด ที่มีหลวงพี่นั่งอยู่ด้วย ผมจะมาเลี่ยมห้อยคอ " วันนี้หลังสวดมนต์เสร็จพ่อให้ไอ้ฟักกับเจ้าหมึกช่วยกันค้นรูปเก่าๆเจ้าหมึก เจอก่อนบอกนี่ไงครับ

รูปนี้ถ่ายเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖ วันนั้นหลวงพ่อวาสกับหลวงพ่อเผือดเมตตามาเหยียบเรือนพระภรตมุนีมาชมผลงานของ พ่อ พร้อมจารนะของท่านให้พ่อท่านละตัว เป็นนะหน้าทองในสายของแต่ละท่านที่ไม่เหมือนใคร พร้อมมอบประสิทธิให้พ่อไว้ลงให้ศิษย์ และผู้เคารพศรัทธา ก่อนท่านทั้งสองจะกลับยังเมตตาให้พ่อถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานว่าท่านได้กรุณา มาเมตตาพ่อ

สวัสดี รูปสามฤๅษีขนาดห้อยคอใกล้คลอดแล้วจะบอก

ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ
๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕

สามฤๅษี

 

วันนี้ ท่านผู้การละเอียดรัช บัวขม (แซ่โค้ว) นำรูปหล่อหลวงปู่เฒ่ายิ้มวัดหนองบัว กาญจนบุรี ซึ่งปั้นขึ้นรูปหล่อด้วยผงของหลวงปู่โดยฝีมือ ก๋งอู๋ พ่อของก๋งพ้ง ขนาดหน้าตัก ๙ นิ้ว มาให้พ่อ รูปหล่อนี้ตัวหลวงปู่เฒ่ายิ้มนั่งเป็นแบบให้ก๋งอู๋ ปั้นด้วยตัวท่านเอง ด้านหน้าใต้ฐานเขียนด้วยลายมือลงไปในเนื้อเป็นอักษรมงคลว่า "หลวงพ่อเฒ่ายิ้ม" ด้านหลังเขียน "วัดหนองบัว ๒๔๔๔ การบุรี" รูปปั้นนี้มีทั้งหมด ๙ องค์ อยู่ที่ท่านผู้การ ๑ องค์

พ่อบอกกล่าวต่อหน้ารูปปั้นของหลวงปู่นี้ไว้ตั้งแต่ วันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ที่ห้องพระบ้านผู้การแล้วว่าจะถอดพิมพ์แล้วหล่อด้วยผงของหลวงปู่ผสมผงไม้เสา โบสถ์วัดหนองบัวเชิญอัฐิธาตุของหลวงปู่บรรจุด้านในจำนวน ๙ องค์ ขึ้นบูชา ไม่ต้องหวังว่าจะสร้างขาย แจก หรือให้ใคร พ่อไม่เคยนำของหลวงปู่เฒ่ายิ้มมาแอบอ้างเพื่อทำมาค้าขาย เลี้ยงตนเองและพวกพ้อง

ทำด้วยความเคารพนับถือ ลงกระทู้เผยแพร่เพื่อประกาศเกียรติคุณของหลวงปู่เฒ่ายิ้ม แห่งวัดหนองบัว กาญจนบุรี ที่ท่านแผ่เมตตาบารมีมาถึงพ่อ


สวัสดี
ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ
๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕

​

 

วัตถุมงคลของพ่อครูมีพลังเด่นไปในทางเมตตามหาลาภ มหานิยม มหาเสน่ห์ ใครที่อธิษฐานสัมผัสพลังพุทะคุณได้ จะรู้สึกเย็นเมื่อสัมผัสพลังของวัตถุมงคลที่พ่อครูท่านสร้างครับ ในรุ่นเก่าๆ ที่พ่อครูสร้างจะมีมวลสารผงเมตตาของครูอาคม สายาคม ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดมวลสารทางเมตตามหาลาภ และในปัจจุบันเป็นการต่อยอดยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อพ่อครูท่านได้มวลสารอันเป็นมรดกตกทอดเก่าแก่จาก หลวงปู่เฒ่ายิ้ม พระอภิญญาผู้เป็นครูบาอาจารย์ของกรมหลวงชุมพรฯ ดังนั้นพระในยุคปัจจุบันที่มีมวลสารของหลวงปู่เฒ่ายิ้ม จึงเป็นของที่มีพลังสูงสุดเด่นในทุกทางทั้งเมตตามหาลาภ กันภยันอันตราย กันภัยพิบัติต่างๆได้ดียิ่ง

หลวงปู่เฒ่ายิ้ม ตามความเชื่อส่วนตัวของผม ผมเชื่อว่าท่านเป็นพระอภิญญา ๖ เป็นอย่างน้อย อิทธิบารมีท่านเหลือล้น

สมัยก่อนผมเห็นพี่นักข่าวสายพระเครื่องเอาพระปิดตาหลวงปู่ยิ้มเนื้อผงมาอวด บอกว่าราคาปัจจุบันเป็นแสนนะแก ในใจคิดว่าเห็นก็เป็นบุญแล้ว

แต่วันนี้โชคดีจริงๆ ที่พระเครื่องวัตถุมงคลที่พ่อครูสร้างมีส่วนผสมมวลสารของหลวงปู่เฒ่ายิ้ม ซึ่งแน่นอนว่าย่อมมีอิทธิบารมีไปในทางเดียวกันกับพระเก่าราคาหลักแสนอย่างแน่นอน

ขอให้ศรัทธาในพ่อแม่ครูอาจารย์มีหลวงปู่เฒ่ายิ้มเป็นที่สุดแค่นี้ก็พอแล้วครับ

 

http://www.monnut.com/board/index.php?topic=2895.0


ขณะที่พ่อกำลังหาเงินมาซื้อเครื่องบวงสรวงสังเวย เพื่อขออนุญาตถอดพิมพ์รูปเหมือนหลวงปู่เฒ่ายิ้มขนาดหน้าตักเก้านิ้ว พลันผลสลากกินแบ่งรัฐบาลประกาศเลขท้ายสามตัวล่างว่า เลขที่ออก ๑๑๑ พ่อยกมือท่วมหัวเพราะหลังรูปเหมือนหลวงปู่เฒ่ายิ้มเขียน พ.ศ. ๒๔๔๔ ปัจจุบันพ่อได้รับมาปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ระยะเวลา ๑๑๑ ปี ลูกทุกคนบนเรือนที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อวันเสาร์ ที่ร่วมจุดธูปต้อนรับการมาของรูปเหมือนหลวงปู่เฒ่ายิ้ม ถูกทุกฅน

โดยเฉพาะที่พ่อให้พี่ปุ๊ไปหาซื้อล็อตเตอรี่หน้าปากซอย ๑๙ ไม่มี พี่ปุ๊นั่งรถไปถนนราชดำเนินซื้อได้ที่สี่แยกคอกวัว ๑๐ ชุด ๒๐ ใบ พ่อตั้งกระทู้วันก่อนว่า "ซื้อหวยเหมือนเสี่ยงเซียมซีถามชาตาจากฟ้า " ว่าท่านรู้รึเปล่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ท่านเห็นว่าเราทำดีพอที่ท่านจะเมตตาประทานรางวัลให้เราหรือเปล่า

พฤหัส ๙ วันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เป็นผลแสดงการสนับสนุนที่พ่อตั้งกระทู้นั้นไว้แล้วอย่างสิ้นข้อกังขา

 

วัตถุมงคลที่สุดยอดที่สุดของพ่อครูสำหรับผมแล้ว คงต้องยกให้พระพิราพ เทพอสูรสูงสุด

พ่อครู(พระอาจารย์ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ) เป็นผู้อนุรักษ์ตำนานเรื่องราวของพระพิราพ ทั้งการสร้างหัวโขนพระพิราพ พ่อครูท่านก็สร้างเอง การสร้างรูปเหมือนพระพิราพเต็มองค์ ในท่ารำองค์พระเต็มองค์ ท่านก็สร้างขึ้นเป็นคนแรก การสร้างรูปเหมือนพระพิราพในท่านั่งท่านก็สร้างเป็นคนแรก การนำพระพิราพมาสร้างเป็นวัตถุมงคลท่านก็ทำเป็นคนแรกอีกเช่นกัน นอกจากนี้ท่านยังอนุรักษ์และสืบสานเรื่องราวของพระพิราพในแง่มุมของการรำพระพิราพ เต็มองค์ และเพลงหน้าพาทย์พระพิราพอีกด้วย

ที่ผ่านมาท่านได้จัดนิทรรศการพระพิราพที่ห้องสมุดดนตรีทูลกระหม่อมสิรินธรมาแล้วถึง ๒ ครั้ง เป็นการเผยแพร่เรื่องราวของพระพิราพสู่สาธารณะชน ที่ครบถ้วนทั้งแง่ของวิชาการ ความเชื่อถือแต่โบราณ แง่มุมของศิลปะ และในแง่ของนาฏศิลป์และดุริยางค์ศิลป์

วัตถุมงคลพระพิราพเนื้อผงกลม เกิดขึ้นครั้งแรกในปี ๒๕๒๙ และพระพิราพเนื้อผงพิมพ์สี่เหลี่ยมในท่ารำองค์พระก็เกิดขึ้นพร้อมกันในปี ๒๕๒๙ นับเป็นมหามงคลอย่างยิ่งสำหรับผู้นับถือบูชาองค์พระพิราพ เพราะแต่ไหนแต่ไรไม่มีใครเคยสร้าง ทั้งนี้เพราะพระพิราพเป็นที่รู้จักกันน้อยและเป็นเทพเจ้าที่รู้จักเฉพาะกลุ่มของชาวนาฏศิลป์และดุริยางคศิลป์เท่านั้น

สำหรับความเชื่อในการบูชาพระพิราพนั้น เชื่อกันว่าด้วยอำนาจของครูเทพเจ้า ย่อมส่งผลดลบันดาลให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขแก่ผู้ศรัทธาบูชา เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม มีคนอุปถัมภ์ มากมายด้วยลาภสักการะ ชื่อเสียงเกียรติยศ มีคุณอุปมาดั่งแก้วสารพัดนึก เพราะยังดีในด้านล้างอาถรรพณ์ กันคุณไสย คุณผี คุณคน กันอุบัติเหตุเภทภัยภยันอันตรายทั้งหลายไม่มากล้ำกราย

ในปัจจุบันมีหลายสำนักที่ทำพระพิราพ แต่ถ้าถามว่าที่ทำกันขึ้นมานั้นท่านเรียนมาจากไหน รู้จักพระพิราพดีแค่ไหน ก็คงไม่มีใครกล้ามาตอบ ที่ทำกันในปัจจุบันโดยมากก็ล้วนทำตามกระแสทั้งนั้น ที่จะหาผู้รู้จริงทำจริงอย่างพ่อครูคงไม่มีแน่นอน

 

ขอเชิญร่วมสวดมนต์ทำวัตรเย็นกับพ่อครูเพื่อเป็นสิริมงคลในวันเสาร์ เวลา บ่าย ๓ โมงเย็นเป็นต้นไป

อำนาจจากการสวดมนต์นั้นย่อมทำให้จิตใจร่มเย็นเป็นการอัญเชิญบารมีพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณเข้ามาดับร้อนผ่อนทุกข์ กลับร้ายกลายเป็นดี เป็นการสร้างเสริมวาสนาบารมีที่ดีที่สุดตามแนววิถีพุทธ ที่สำคัญในยุคแห่งการแข่งขัน ยุคแห่งภัยพิบัติ การสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยเป็นหนึ่งในวิธีการที่จะช่วยให้พ้นภัยทั้งปวงของยุคนี้

 

อีกหนึ่งวัตถุมงคลของพ่อครูที่ผมว่ายอดเยี่ยมและเป็นตำนานจริงๆก็คือ พ่อแก่ครับ

พ่อครูท่านเป็นผู้ริเริ่มการนำเอาหัวโขนหรือศรีษะครูมาทำในรูปแบบของวัตถุมงคล

พ่อแก่ที่พ่อครูท่านสร้างขึ้นเป็นวัตถุมงคลหลักๆจะเป็นองค์พระภรตมุนี องค์นี้ถือเป็นบรมครูทางด้านนาฏศิลป์ ตามตำนานว่าได้รับบัญชาจากพระพรหมให้เป็นผู้จดบันทึกท่ารำ ๑๐๘ ท่าของพระศิวะที่เรียกว่าศิวะนาฏราช และถือว่าเป็นผู้ได้สิทธิในการเป็นครูจากพระศิวะให้สั่งสอนท่ารำนี้แก่มนุษย์และเทวดา

อีกองค์หนึ่งก็คือ พระฤๅษีนารอด เป็นครูทางดุริยางคศิลป์ ถือว่าเป็นครูที่มีพลังเมตตามหาเสน่ห์อย่างสูงส่ง

พระภรตมุนี เป็นเทพฤๅษี ที่บูชาคู่กันกับพระพิราพ เป็นครูที่มีพลังนิ่งเย็นเป็นมหามงคลประทานโชคลาภความร่มเย็นเป็นสุขแก่ผู้บูชาได้ดียิ่งนัก ทั้งขจัดโทษภัยคุณไสยทุกประการ

ผมเคยเห็นศิษย์ของพ่อครูเป็นชาวสิงคโปร์ มีอาชีพเปิดผับ โดนคู่แข่งใช้ไสยดำเล่นงาน

อำนาจจากไสยดำไม่สามารถทำอันตรายลูกศิษย์ของพ่อครูได้ แต่มันใช้อำนาจไสยดำบังคับผีเข้าลูกค้าที่มาเที่ยว ลูกศิษย์ของพ่อครูท่านนี้เอาพระภรตมุนีเนื้อผงที่พ่อครูให้ลงแช่น้ำแล้วสาธยายมนต์พระภรตมุนีทำน้ำเทพมนต์รักษา ปรากฏว่าทันทีที่พรมน้ำและนำน้ำกรอกปากให้ผู้ถูกผีเข้าดื่ม เจ้าผีร้ายมนต์ดำเป็นอันแพ้พลังครู ต้องรีบออกจากร่างในทันใด

นี่แหละครับอำนาจครูพระภรตมุนีและต้องชื่นชมศิษย์ของพ่อครูท่านนี้ด้วยทั้งๆที่ไม่ใช่คนไทยแต่เป็นคนสิงคโปร์เชื้อสายจีนยังสามารถจดจำคาถาบูชาพระภรตมุนีได้เป็นอย่างดีประกอบกับความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่จึงเกิดผลที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้

ตัวผมเองบูชากราบไหว้พระภรตมุนีและพระพิราพสาธยายมนต์บูชาและหมั่นนำดอกไม้พวงมาลัยบูชาท่านเป็นประจำ ร่มเย็นเป็นสุขดีจริงๆรับรองผลได้ วัตถุมงคลพระภรตมุนีและพระพิราพก็จะต้องมีติดตัวเดินทางไปทุกที่เป็นขวัญกำลังใจ เป็นเครื่องเตือนให้รู้ว่าเรามันศิษย์มีครู ทำอะไรก็ประสบผลสำเร็จ เป็นที่รักที่เมตตาแก่คนทั่วไป โชคลาภก็ดีอย่างน่ามหัศจรรย์

ผมเชื่อว่าใครที่เคารพรักศรัทธาในครูของตนอย่างเชื่อมั่นเต็มร้อยหรือเกินร้อยแล้วได้เห็นปาฏิหาริย์จากครูแน่นอน ของอย่างนี้มันอยู่ที่ใจ

 

อยากทราบว่าพระพิราพท่านไม่ชอบให้คนเล่นการพนันใช่ไหมพี่
ในความคิดผมนะท่านชอบคนทำงงานมากกว่า

 

แน่นอนอยู่แล้วครับ ผมเชื่อว่าแม้ครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆก็เช่นกัน คงประสงค์ให้ศิษย์ห่างไกลเรื่องการพนัน ขยันทำงานสุจริตเป็นที่ตั้งอย่างแน่นอน

 

ที่มาของนะหน้าทองว่าทำไมจึงมี ๓ สาย

ด้วยมีผู้ฅนถามพ่อหลายกระแสว่าทำไมนะหน้าทองของพ่อจึงมีถึง ๓ สายไปเอาที่ไหนมา นะหน้าทองที่พ่อใช้ดั้งเดิมเป็นสายศิลปินรับมอบประสิทธิจาก คุณครูอาคม สายาคม (ปรมาจารย์นาฏกร) ส่วนอีก ๒ สายเป็นเพราะพลังแห่งครูที่พ่อยึดมั่นทำให้ได้มาดั่งลาภลอยจากฟากฟ้านภากาศ ขอย้อนอดีตเมื่อวันเก่าเล่าความหลังด้วยภาพ ขณะพ่อกำลังสร้างหัวโขนพ่อครูฤๅษีใหญ่ที่สุดในโลกหัวแรกอยู่นั้น ด้วยเมตตาบารมีของ หลวงพ่อวาสแห่งวัดสะพานสูง และ หลวงพ่อเผือดแห่งวัดมะกอก พร้อมใจกันมาผนึกพลังให้พ่อด้วยการจาร นะหน้าทอง ในสายของแต่ละท่านลงบนหัวโขนพ่อครูฤๅษีที่พ่อสร้าง พร้อมทั้งเมตตามอบประสิทธิไว้ให้พ่อได้ใช้ลงให้ลูกๆ ตั้งแต่วันนั้นมาจนบัดนี้

สวัสดี ล้านคำพูดก็แพ้หลักฐานด้วยภาพ

ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ
๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕​

ที่มา monnut.com

<table style="font: inherit; color: inherit;"><tbody><tr><td style="font: inherit; color: inherit;" valign="top"></td><td style="font: inherit; color: inherit;" valign="top"></td></tr><tr><td style="font: inherit; color: inherit;" valign="top"></td><td style="font: inherit; color: inherit;" valign="top"></td></tr><tr><td style="font: inherit; color: inherit;" valign="top"></td><td style="font: inherit; color: inherit;" valign="top"></td></tr><tr><td style="font: inherit; color: inherit;" valign="top"></td><td style="font: inherit; color: inherit;" valign="top">
</td></tr></tbody></table>

 

ตะกรุดเมตตาคู่จาร “นะรับเอา” สายศิลปิน แช่ในน้ำมัน ผูกรัดมัดสวาทบาดจิตผสมน้ำมัน นะ ด. ดัน ดี นะ ปะ ฉะ ดะ ดัน โดน ประสาทพรประกอบ “นะหน้าทองสายศิลปิน” ฤ ฤๅ ขึ้นชื่อให้ฤๅชา

ตัวตะกรุดเมตตาคู่นี้ทำจาก ตะกั่วเถื่อนบริสุทธิ์ขนาด ๑ นิ้ว คูณ ๑ นิ้ว โดยนำเข้าอุโบสถสังฆกรรมปาฏิโมกข์ประชุมสงฆ์ ๓๒ รูป เพื่อขออำนาจบารมีคณะสงฆ์และพลังงานบริสุทธิ์แห่งการสำรวจศีล เสร็จแล้วทำวัตรสวดมนต์ ๑๒ ตำนาน และ ธัมจักรกัปปวัตนสูตร ขณะสงฆ์สาธยายพระปริต พ่อครูพระอาจารย์ศิริพงศ์ จาร "นะรับเอา" สายศิลปินซึ่งดีทางเมตตามหานิยมให้มีฅนอุปถัมภ์ค้ำชู เป็น นะรับเอาซึ่งสิ่งดีๆทุกสิ่ง เรียกโชคลาภเงินทอง ความผูกพันให้มีผู้ฅนมาอุปถัมภ์ค้ำชูเกื้อหนุนตัวเราให้ก้าวหน้า สู่ความเจริญรุ่งเรือง เป็นนะฝ่ายเมตตาล้วนๆ
เมื่อจารเสร็จ จึงแช่ในน้ำมันสุดยอดเมตตาผูกจิต สายศิลปิน ผสมน้ำมัน นะ ด. ดัน ดี นะ ปะ ฉะ ดะ ดัน โดน น้ำมัน นะ ด. ดัน ดี นะ ปะ ฉะ ดะ นี้ เกิดจากยันต์คู่ ๒ ตัว คือ ยันต์ นะ ด. ดัน ดี (ยันต์ตัวผู้) และยันต์ นะ ปะ ฉะ ดะ (ยันต์ตัวเมีย) เป็นเมตตามหานิยมชนิดสุดยอดที่สุด ยันต์คู่ ๒ ตัวนี้เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดของเมตตา ผูกจิตผูกใจดึงดูด โชคลาภ อย่างคาดไม่ถึง เมื่อบรรจุตระกรุดและน้ำมัน เรียบร้อย จึงลงผสมคละเคล้าลงทองคำเปลวบริสุทธิ์เพื่อเพิ่มธาตุแห่งความสำเร็จนำเงิน ทองมาแก่ผู้บูชา เสร็จแล้วจึงอุดด้วยเทียนปากหงส์ ซึ่งได้จากพระราชพิธีตรียัมปวาย ผู้ทีรู้จะทราบกันดีว่าเด่นเรื่องเจรจามาก สุดท้ายจึงปิดขวด แล้วพ่อครูจึงประสาทพรประกอบ “นะหน้าทองสายศิลปิน” ฤ ฤๅ ขึ้นชื่อให้ฤๅชา ด้วยตนเองทุกขวด เมื่อประกอบพิธีการบรรจุเรียบร้อย จึงนำไปบริกรรมคาถา กว่าครึ่งเดือนจึงนำมาทำพิธี ศุกร์ที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๕ ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๔ ปีเถาะ
เวลา ๐๐.๓๐ น. – ๐๒.๓๐ น. ปลอด – อธิบดี – ราชาฤกษ์ ศุกร์เสน่หาเคล้าอังคาร อาทิตย์คู่เสาร์ พุธพฤหัสสัมพันธ์เดชขึ้นเด่นเป็นประธาน

ตั้งพิธีฮินดูพราหมณ์ สาธยายมนต์ พลีต่อองค์อรรธนารีศวรเพื่อประสิทธิมหามงคล สมปรารถนากับผู้พกพาใช้

เรียกได้ว่าตระกรุดนี้นั้นครบทุกด้านทั้งเรื่องเมตตา เจรจา โชคลาภ ชื่อเสียง เงินทอง ซึ่งท่านตั้งใจมอบให้แก่ผู้บูชาได้นำไปใช้ให้เป็นมหามงคล ดำเนินชีวิตในสภาวะปัจจุบันอย่างสำเร็จและสมปรารถนา

 

เห็นห้องนี้พูดคุยเกี่ยวกับ พ่อแก่ เลยขอสอบถามหน่อยครับ ว่าเหรียญนี้น่าจะเป็นของที่ใหน ผมเห็นแล้วชอบมากครับ เหรียญสวยงาม มีโค๊คแบบไม่น่าปลอมแน่ๆ แต่ก็ไม่ทราบที่ รบกวนหน่อยครับ

 

<table style="font: inherit; color: inherit;"><tbody><tr><td style="font: inherit; color: inherit;" valign="top"></td><td style="font: inherit; color: inherit;" valign="top"></td></tr><tr><td style="font: inherit; color: inherit;" valign="top">
</td><td style="font: inherit; color: inherit;" valign="top">
</td></tr><tr><td style="font: inherit; color: inherit;" valign="top">
</td><td style="font: inherit; color: inherit;" valign="top">
</td></tr></tbody></table>
<table style="font: inherit; color: inherit;"><tbody><tr><td style="font: inherit; color: inherit;" valign="top"></td><td style="font: inherit; color: inherit;" valign="top"></td></tr></tbody></table>
ที่มา monnut.com
สมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว สำหรับการเข้ารับมอบ พระฤๅษีอิศวรอัศวัตถ์ และ พระพิราพศิวนาถ ในครั้งนี้ การจัดตั้งเครื่องสังเวย พ่อครูได้อนุญาตให้ตั้งเครื่องสังเวยรวมชุดใหญ่ โดยมีผู้อาสาจัดเตรียมเครื่องสังเวยครั้งนี้ จำนวน ๔ ฅน คือ คุณติ้ก คุณทองต่อ คุณต้น และทางผม โดยเครื่องสังเวยแต่ละชนิดได้คัดสรรของที่ดีที่สุด ทั้งผลไม้ที่คัดสรรค์อย่างดีทั้งของไทยและของนอก เครื่องสังเวยทั้งดิบและสุก ที่สด สะอาด และดูดี รวมถึงเหล้าสีที่บ่มเพาะหมักไม่ต่ำกว่า ๑๐ ปี เครื่องสังเวยทุกชิ้นคัดมาอย่างดีที่สุด สำหรับถวายให้แก่ครูบาอาจารย์ที่เราเคารพ โดยหมดค่าใช้จ่ายค่าเครื่องสังเวยที่เห็นตามรูปทั้งหมดเป็นจำนวนเงิน ๔๐,๐๐๐ บาท

วันศุกร์ที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๕ ในวันที่รับมอบทั้งพ่อครูและผู้ร่วมจัดงาน ได้เริ่มเตรียมตัวสำหรับงานนี้ตั้งแต่เวลา ตี ๒ เมื่อถึงเวลา ๙ โมงตรง มีผู้เข้าร่วมรับมอบจำนวน ๒๐ ท่าน เมื่อถึงฤกษ์เวลารับมอบ เริ่มต้นด้วยการจุดเทียนชัยโดยเจ้ากรมนายทหารใหญ่ เพื่อให้เป็นปฐมฤกษ์นำเมตตาบารมีมาให้แก่ผู้บูชาพระฤๅษีอิศวรอัศวัตถ์ พระพิราพศิวนาถ และผู้เข้าร่วมพิธีทุกท่าน เมื่อเริ่มพิธี พ่อครูจึงอัญเชิญครูบาอาจารย์ ให้ประสาทพร นำโชคลาภเงินทองเมตตาบารมี และช่วยปกป้องคุ้มครองทุกท่านที่บูชาให้ผ่านพบสิ่งต่างๆในยุค ๘ และประสบพบเจอแต่ความสำเร็จทุกประการ

 

เข้ามาอ่านและศึกษาข้อมูลครับ

 

สำหรับผู้ที่สะดวกในวันเสาร์บ่ายสามโมง ขอเชิญชวนสวดมนต์แปล ได้ที่ เรือนพระภรตมุนี ซอยตากสิน ๑๙ ธนบุรี กรุงเทพมหานคร
​

 

ที่มา monnut.com
หลังจากเทศน์อุโบสถวันพระสำคัญเสร็จกลับเข้ากุฎี พระมาบอกว่ามีชายสองฅนนำหัวโขนมาวางไว้บนแท่นยาวข้างกุฎีเดินออกไปพบหัว โขนอยู่ในกล่องกระดาษ ๘ หัว เป็นหัวโขนของพ่อจึงเชิญขึ้นเรือนจัดสถานที่วางแล้วจัดซื้อเครื่องสังเวยคาว หวานผลไม้ เครื่องดิบ เครื่องสุก บวงสรวงสังเวยกับการเสด็จกลับเรือนของท่าน

สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ การอวยชัยให้พรสำหรับผู้ที่ระลึกได้คิดดีนำครูมาคืน ให้ประสบความเจริญรุ่งเรือง คิดอ่านหยิบจับทำการสิ่งใดให้ประสบผลสำเร็จ เจริญงอกงามไพบูลย์ทั้งทางโลกและทางธรรม นำมาซึ่งฅนรักให้การอุปถัมภ์ค้ำชูปราศจากอุปสรรคเครื่องกีดขวางทั้งปวง

สวัสดี มีโชคชนะชัยปรารถนาสิ่งใดสำเร็จผล
ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ
๗ มีนาคม ๒๕๕๕​

 

ที่มา monnut.com

ไม้ครู(ฝ่ายยักษ์)
๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ อธิบดี - ธงชัย - เพชรฤกษ์ - อำมฤคราชัย ตอนย่ำรุ่งพ่อทำพิธีตั้งบวงสรวงสังเวยสร้างไม้ครูยาว ๑ แขน โดยกำหนดกลึงไม้เป็นรูปกระบองแปดเหลี่ยม เพื่อจารอักขระป้องกันภยันตราย เสนียดจัญไร ภูติผีปีศาจ หัวเม็ดท้ายด้ามไม้ครู พ่อนำหัวโขนพ่อครูฤๅษีที่หล่อด้วยโลหะพิเศษ (เหล็กยอดฉัตร เหล็กยอดเจดีย์ เหล็กกลับผี ตะปูสังฆวานร หมุดตรึงพระที่นั่งในวังหน้า เหล็กขนันจับขอบโลงขอบโกศ ชนวนมวลสารที่ใช้หล่อพระสำคัญ) สวมลงไป จำนวนสร้าง ๑๖ อัน มอบให้ลูกๆ นำใส่พานบูชาไว้ประจำห้องพระที่บ้าน เพื่อคุ้มครองบ้าน คุ้มครองครอบครัว ทรัพย์สมบัติและบริวาร กำหนดเสร็จวันที่ ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๕ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๕ อธิบดี - ธงชัย - ลาภะ - ภูมิปาโลฤกษ์

ไม่มอบให้ฅนนอก แม้แต่ฅนในที่ต้องการครอบครองก็ต้องถึงพร้อมด้วยความศรัทธาและกำลังทรัพย์ กล้าได้ ก็ต้องพร้อมยอมเสียทรัพย์ ไม่มีการบวกกำไร มาร่วมทุนกันจัดสร้าง ใครพร้อมมาลงขันก่อนได้ ฅนละ ๓๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่ต้องเพิ่มจะเรียกเก็บในคราวต่อไป

สวัสดี ของดีมีน้อย เพราะสร้างใช้เองไม่ขายใคร

ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ
๑๐ มีนาคม ๒๕๕๕ ​

 

ปี ๒๕๕๕ หรือ ๒๐๑๒ นี้นับว่าเป็นปีที่ดวงดาวบนท้องฟ้ามีความน่าสนใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ดาวอังคารเข้ามาใกล้โลกมากที่สุด ในขณะที่ดาวเสาร์เข้าสู่จุดสูงสุดบนฟากฟ้าที่เรียกว่ามหาอุจจ์ แถมยังมีกาสรเดินถอยหลังในระหว่างวันที่ ๑๓ เมษายนนี้ด้วย และยังมีดาวราหูเข้าผสมโรงเล็งดวงเมือง ในขณะที่ดาวจันทร์ตกโลกาวินาศ สภาวะแบบนี้เสี่ยงต่อการเกิดสงครามกลางเมือง การเกิดแผ่นดินไหว แผ่นดินยุบ แผ่นดินถล่ม หรือตึกถล่ม รวมทั้งสึนามิ หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติแบบแรงๆ รวมไปถึงอำนาจแห่งไสยศาสตร์ครองเมืองด้วย

ที่ผ่านมานักโหราศาสตร์หลายท่านได้พยายามทำพิธีบูชาพระเสาร์ พระราหู เพื่อบูชาดวงชะตาให้พ้นโทษพ้นภัย แต่ผมเชื่อแน่ๆว่าไม่มีใครรู้ศาสตร์แห่งพระเสาร์ได้ดีเท่าพ่อครูแน่นอน ตลอดเวลาที่ผมเป็นศิษย์ท่านท่านจะให้ความรู้เรื่องพระเสาร์ ลักษณะของดาวเสาร์เสมอ พ่อครูท่านยังเคยปั้นพระเสาร์จากดิน โดยเอาดินมาปั้นเป็นเสือจำนวน ๑๐ ตัว จากนั้นบูชาเสือที่ปั้นขึ้นเป็นเวลา ๗ เดือน แล้วยุบเอาเสือทั้ง ๑๐ มาปั้นเป็นพระเสาร์ แต่ก่อนใครไปกราบท่านก็จะเห็นพระเสาร์องค์นี้เสมอ

เมื่อซัก ๔ ปีก่อนท่านก็สร้างราชันดำ คือ พระเสาร์ในรูปของหน้าเทพขึ้นเป็นที่โด่งดังมาก ข้างหลังประทับตัวอักษรจีนคำว่า ฮก แปลว่าร่ำรวย

มาถึงวันนี้วันที่พระเสาร์อยู่ตำแหน่งมหาอุจจ์ และกำลังเดินถอยหลัง ผู้ที่บูชาพระเสาร์เท่านั้นจึงได้รับความมั่นใจว่าจะปลอดภัยจากอำนาจพระเสาร์ พระราหู และพระอังคารตลอดจนพลังงานจากจักรวาลที่จะส่งผลร้ายให้เกิดขึ้นแก่สังคมและตัวตนของเราได้

นอกจากนี้คือผู้วัตถุมงคลของพ่อครูที่ท่านตั้งจิตให้ครูมาแผ่เมตตาอธิษฐานจิตให้ ได้แก่พระพิราพ พระแม่กาลี พระภรตมุนี เป็นต้น ใครได้ของเหล่านี้ไว้ก็พอมั่นใจได้ว่าจะผ่านพ้นเหตุการณ์ร้ายๆในปีนี้ไปได้อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญประการหนึ่งคือนอกจากจะมีของดีแล้วพ่อครูเน้นย้ำว่าต้องสร้างความดีด้วยการดูแลพ่อแม่ของตน ครูบาอาจารย์ บุพพการี เป็นคนดีของสังคมด้วย และให้หมั่นบำเพ็ญทาน ถือศีล ภาวนาก็จะเป็นสาระสำคัญทำให้เกิดความเจริญก้าวหน้ารอดพ้นภัยพิบัติได้

การสวดมนต์ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ทุกวันนี้พ่อครูจะสวดมนต์เย็นทุกวันเสาร์ ซึ่งวันเสาร์ปีนี้ก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นมหาอุจจ์ ดังนั้นการสวดมนต์เย็นในวันเสาร์นอกจากเป็นการสร้างบารมีแล้วยังเป็นการสวดเพื่อคุ้มมิให้โทษภัยต่างๆเข้ามาสู่ตัวเองและครอบครัวได้ด้วย ทั้งนี้ใครที่มีอาถรรพณ์ไม่ดีอยู่กับตัวเมื่อได้สวดมนต์เย็นในวันเสาร์สิ่งร้ายๆก็จะทนอยู่ไม่ได้ต้องออกไปจากร่างสังขาร ฉะนั้นการสวดมนต์เย็นในวันเสาร์ โดยเฉพาะในปีนี้ และมีพ่อครูผู้เป็นวันเสาร์แท้ เพราะท่านเกิดวันเสาร์และมีบุคลิกเป็นดาวเสาร์อย่างแท้จริง จึงเป็นการสวดที่มีพลังเป็นพิเศษ ทำให้เกิดอานิสงค์ต่างๆได้อย่างน่าอัศจรรย์ หลายคนชีวิตเปลียนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นก็ด้วยการสวดมนต์เย็นในวันเสาร์นี่แหละ จึงขอเชิญชวนให้ทุกท่านที่มีโอกาสมีเวลาร่วมกันมาสวดมนต์ในทุกวันเสาร์ที่เรือนพระภรตมุนีครับ ขออนุโมทนาไว้ ณ ที่นี้ด้วย

 

ฤๅษีกไลโกฏ

​

หลังจากทำวัตรเช้าพ่อเข้าห้องพระถวายผลไม้ครูตามที่เคยปฏิบัติตลอดมาทุกวัน พฤหัสบดีรู้สึกเพลียด้วยอากาศร้อนมากจึงลงเอนหลังเผลอหลับไปเมื่อไรไม่รู้ พ่อฝันว่ามีพ่อครูฤๅษีรูปหนึ่งเดินมายืนข้างตัวพ่อท่าทางเคร่งขรึมมีหนวด เครายาวใส่ชฎาฤๅษียอดจีบสองชั้นนุ่งผ้าดิบเนื้อหยาบเหมือนผ้าที่ฅนจีนนุ่ง เวลาทำกงเต็กพูดกับพ่อว่า " จงจำรูปร่างหน้าตาเราให้ดีแล้วสร้างรูปเราขึ้นให้ผู้ฅนกราบไหว้บูชา เราจะมาช่วยเปลี่ยนร้ายให้กลายกลับเป็นดี " พ่อถามท่านว่า " ปู่มีนามใด " ท่านตอบพ่อว่า " เราคือกไลโกฏ หน้าตาเราเป็นอย่างนี้ไม่ใช่ที่สร้างกันจงจำไว้ " แล้วท่านก็เดินจากไป

หลังจากพ่อตื่นขึ้นภาพใบหน้าของท่านยังติดตาพ่ออยู่ไม่ลบเลือน พ่อรีบปั้นดินน้ำมันเป็นรูปหน้าท่านทันที ขณะปั้นขึ้นรูปก็คิดถึงประวัติเรื่องราวต่างๆ ของท่านทำให้นึกถึงคำพูดของคุณครูอาคม สายาคม ที่ท่านเคยพูดกับพ่อสมัยพ่อเป็นนักเรียนได้ว่า " หนู พ่อเคยฝันเห็น พ่อแก่พระฤๅษีกไลโกฏท่านไม่ได้มีหน้าเป็นเนื้อทรายหรอกท่านมีหน้าตาเหมือนฅน นี่แหละ มือขวาถือไม้เท้า มือซ้ายถือหม้อน้ำ "

พรุ่งนี้พ่อจะนำพิมพ์ที่ปั้นแบบไว้สำรอกขึ้นเป็นหุ่นต้นแบบเทเนื้อโลหะไว้ ก่อนแล้วจึงจะทำพิธีบวงสรวงบอกกล่าวขอหล่อเพื่อแบ่งกันนำไปบูชา พ่อกังวลอยู่ว่าถ้าสร้างจำนวนมากเผยแพร่ออกไปจะกลายเป็นเตะหมูเข้าปากหมา ให้ฅนเอาไปหากินได้อีก ถ้าทำน้อยก็ต้องใช้ทุนทรัพย์สูงมากงานนี้ไม่พ้นมนต์นัทธ์ต้องหาเงินมาให้พ่อ สร้างงานอีกแล้ว

สวัสดี น้อยมากก็ต้องทำเพราะพ่อถือว่าครูมาสั่ง
ศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ
๑๕ มีนาคม ๒๕๕๕​

 

พระฤๅษีกไลโกฏ นับว่าเป็นพระฤๅษีที่มีฤทธิ์มาก สามารถนั่งเข้าฌานสมาบัติครั้งนึงนานนับปี โดยไม่ต้องรับประทานอาหารน้ำไม่ขับไม่ถ่ายใดๆทั้งสิ้น ถือว่าท่านมีอานุภาพจิตมีตบะฌานที่สูงยิ่ง ตามตำนานกล่าวว่ามท่านนั่งเข้าฌานจนปลวกขึ้นหุ้มร่างกาย ตอนกวนข้าวทิพย์เพื่อให้ท้าวทศรถมีลูก ก็ต้องเชิญท่านเป็นหนึ่งในสี่ ฤๅษีผู้มีฤทธิประกอบพิธีกวนข้าวทิพย์ขึ้นจึงสำเร็จพิธีได้

ใครบูชาพระองค์ย่อมพบความสุขความสมหวังในชีวิตอย่างแน่นอน