เพื่อการกุศล พระครูไพบูลย์รัตนาภรณ์ วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Amata_club, 15 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,076
    ค่าพลัง:
    +52,178
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 11.jpg
      11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      400.6 KB
      เปิดดู:
      472
    • 22.jpg
      22.jpg
      ขนาดไฟล์:
      758.8 KB
      เปิดดู:
      454
    • 33.jpg
      33.jpg
      ขนาดไฟล์:
      528.6 KB
      เปิดดู:
      329
    • 44.jpg
      44.jpg
      ขนาดไฟล์:
      371.8 KB
      เปิดดู:
      258
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กรกฎาคม 2016
  2. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,076
    ค่าพลัง:
    +52,178
    อานิสงค์ในการสร้างสิ่งก่อสร้าง ถาวรวัตถุ เพื่อคนหมู่มาก ก็มีอานิสงค์เฉกเช่นเดียวกันกับสังฆทาน หรือ วิหารทาน

    การให้ทุนการศึกษาให้กับนักเรียน ที่เรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ ก็เป็นเสมือนการช่วยเพิ่มให้โอกาสแก่นักเรียน เหมือนการเพิ่มแสงสว่างในการศึกษาให้กับเด็กดีๆ อีกหลายคน การให้ความรู้ หรือสนับสนุนการให้ความรู้ ก็น่าจะถือเป็นการให้ธรรมทานได้

    ขอเชิญชวนทุกท่าน มาร่วมเป็นเจ้าภาพ เป็นรองประธานและกรรมการ ในงานมหาบุญ มหากุศลครั้งนี้ด้วยกันนะครับ

    วัตถุประสงค์ เพื่อฉลองอาคารเรียนที่สร้างแล้วเสร็จแล้ว พร้อมมอบทุนการศึกษา ให้กับนักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ และนำปัจจัยเพื่อชำระค่าก่อสร้างอาคารเรียน อีกราวๆ หกแสนบาท




     
  3. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,076
    ค่าพลัง:
    +52,178
    สามารถแสดงความจำนงค์เพื่อร่วมบุญตามกำลังศรัทธา ทุกๆท่านที่มาร่วมบุญ จะได้รับของที่ระลึก เป็นพระกรุ และเหรียญที่ระลึกของหลวงพ่อท่าน โดยพระกรุนั้นได้แก่พระวัดเงิน พระหลวงพ่อกวย และ อื่นๆ เป็นต้น

    พระกรุ พิจิตรเม็ดข้าวเม่า

    [​IMG]

    พระรอด เนื้อดินดำ หลวงพ่อกวย

    [​IMG]

    พระรอด เนื้อดินแดง หลวงพ่อกวย

    [​IMG]

    พระรอด หลวงพ่อกวย เนื้อดิน พิมพ์เล็ก

    [​IMG]

    พระลีลา เนื้อดิน หลวงพ่อกวย

    [​IMG]

    พระลีลา เนื้อดิน หลวงพ่อกวย

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,076
    ค่าพลัง:
    +52,178
    นอกจากนี้ยังมีวัตถุมงคลอื่นๆ อีกมากมายที่จะมอบให้กับเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่านที่ได้ร่วมทำบุญในครั้งนี้

    รายละเอียดต่างๆ เดี๋ยวรอคุณ suttip2 มาแจ้งรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง เพื่อความถูกต้องของข้อมูล และให้งานบุญในครั้งนี้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์

    อนุโมทนาด้วยครับ _/\_
     
  5. suttip

    suttip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    8,672
    ค่าพลัง:
    +31,433
    เพิ่งกลับมาจากวัดหงส์รัตนารามเลยครับ พอดีได้นำเงินบางส่วนที่ทางประธานและรองประธานผ้าป่าได้นำมามอบให้ก่อน จึงได้นำไปมอบให้ท่านไปก่อน

    ในส่วนของวัตถุมงคล หรือของที่ระลึกสำหรับผู้ร่วมงานบุญในครั้งนี้ หลวงพ่อท่านได้จัดไว้ดังนี้ครับ (อันนี้คือชุดที่เป็นมาตรฐานที่จะมอบให้ก่อนนะครับ..เพราะหลวงพ่อท่านถามว่า..เขาอยากได้อะไรกันล่ะ.. ผมก็เลยบอกว่าแล้วแต่หลวงพ่อจะจัดสรรค์ให้เหมาะสมก็แล้วกันครับ) มากน้่อย เปลี่ยนแปลงอย่างไร จะเรียนทางหลวงพ่อให้นะครับ...

    ชุดนี้ ชุดมาตรฐานสำหรับประธานนะครับ

    [​IMG]

    เหรียญรุ่นแรก ของท่าน พระรอดหลวงพ่อกวย พระกรุวัดเงิน(คลองเตย) พิมพ์สังฆจาย

    ชุดนี้ ชุดมาตรฐานสำหรับรองประธานนะครั<wbr>บ

    [​IMG]

    เหรียญรุ่นแรก ของท่าน พระรอดหลวงพ่อกวย(เล็ก) พระผงสุพรรณ รุ่นสอง หลวงพ่อดี วัดพระรูป สุพรรณบุรี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 กุมภาพันธ์ 2012
  6. suttip

    suttip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    8,672
    ค่าพลัง:
    +31,433
    พระสีวลี และ พระกรุวัดเงิน(คลองเตย) พิมพ์สังฆจาย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1030550.JPG
      P1030550.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.4 MB
      เปิดดู:
      521
    • P1030552.JPG
      P1030552.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.8 MB
      เปิดดู:
      338
    • P1030569.JPG
      P1030569.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.6 MB
      เปิดดู:
      396
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 กุมภาพันธ์ 2012
  7. suttip

    suttip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    8,672
    ค่าพลัง:
    +31,433
    “พ่อตื่นนานแล้ว ส่วนลูกนั้นยังไม่ตื่นเลย” แล้ว อาตมา จะไป ปลุก(เสก) พระพุทธเจ้าได้ยังไงกัน อาตมาก็แค่อธิฐานจิตเท่านั้<wbr>นเอง
    นี้คือทัศนะของหลวงพ่อที่ให<wbr>้ไว้กับพระเครื่องของท่าน
    ครั้งหนึ่งมีนายทหารท่านหนึ<wbr>่งพร้อมภรรยา เดินทางมาหาหลวงพ่อ ที่วัด พร้อมกับบอกเล่าเรื่องราวคว<wbr>ามทุกข์ที่กำลังประสบอยู่ใน<wbr>ขณะนั้นว่า ลูกชายของตนติดยา และตอนนี้ได้หายออกจากบ้านไ<wbr>ป มิทราบข่าวคราวมาเป็นเดือนแ<wbr>ล้ว เป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่อาจ<wbr>ทราบได้
    หลวงพ่อท่านคงจะเป็นที่พึ่ง<wbr>สุดท้ายของสามีภรรยาคู่นี้เ<wbr>สียแล้ว ทั้งสองจึงได้เดินทางมาหา ฝ่ายหลวงพ่อเองก็ไม่เคยเจอเ<wbr>หตุการณ์เช่นนี้มาก่อน จึงนิ่งเงียบไปซักพัก ก่อนนึกขึ้นมาได้ว่า มีตำราพิชัยสงครามของพระเจ้<wbr>าตากที่นำมาจากกรุงเก่าอยู่<wbr>เล่มหนึ่งกล่าวถึงการหนุนดว<wbr>งชาตะ หลวงพ่อจึงได้ขอวันเดือนปีเ<wbr>กิดของลูกชายนายทหารท่านนั้<wbr>น บอกว่า จะทำตะกรุดหนุนดวงให้ เอากลับไปบ้าน พอผ่านไปสองวันลูกชายของนาย<wbr>ทหารท่านนั้นก็กลับมาบ้าน เท่านั้นยังไม่พอ ยังเลิกเสพยา ทำตัวเป็นคนดี ไม่เสเพลเหมือนเมื่อก่อนอีก
    หลวงพ่อบอกว่า คนเรา เมื่อดวงตก อะไรก็แย่ไปหมด แต่เมื่อดวงมันดีขึ้นแล้ว อะไรๆมันก็จะดีตาม
    ชื่อของหลวงพ่อคือ พระครูไพบูลย์รัตนาภรณ์ ซึ่งเป็น สหมิกธรรม กับอาจารย์เจริญ ฐานยุตโต เกจิดัง แห่งวัดโนนสว่าง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

    "ขอขอบคุณข้อมูลจากหน้า facebook ของคุณ Pattapon Wichitapan"

     
  8. suttip

    suttip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    8,672
    ค่าพลัง:
    +31,433
    ยินดีในบุญและอนุโมทนา ด้วยครับ... โอนปัจจัยร่วมบุญแล้ว รบกวนขอ ชื่อ-ที่อยู่ เพื่อลงรายชื่อในตารางผู้ร่วมบุญ และเพื่อการจัดส่งของที่ระลึกให้ด้วยนะครับ
     
  9. suttip

    suttip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    8,672
    ค่าพลัง:
    +31,433
    รายชื่อผู้ร่วมบุญครับ...............................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • name_list.xls
      ขนาดไฟล์:
      26 KB
      เปิดดู:
      132
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 กุมภาพันธ์ 2012
  10. suttip

    suttip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    8,672
    ค่าพลัง:
    +31,433
    แล้วชุดไม่มาตราฐานนี่ยังไงขอรับ...
     
  11. suttip

    suttip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    8,672
    ค่าพลัง:
    +31,433
    บางท่านอาจจะชอบพระอย่างอื่น พิมพ์อื่น ก็แจ้งมาครับ จะได้ไปเรียนหลวงพ่อท่านดู ถ้ามีอยู่แล้ว ก็จะได้จัดการให้ ถ้าไม่มี ก็คงต้องเป็นชุดพระกรุทีมีอยู่แล้วครับ
     
  12. suttip

    suttip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    8,672
    ค่าพลัง:
    +31,433
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 กุมภาพันธ์ 2012
  13. suttip

    suttip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    8,672
    ค่าพลัง:
    +31,433
    ผมขอเป็นพระสีวลีนะขอรับท่านอ.
     
  14. suttip

    suttip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    8,672
    ค่าพลัง:
    +31,433
    รับทราบครับ ยินดีในบุญและอนุโมทนาด้วยนะครับ
     
  15. suttip

    suttip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    8,672
    ค่าพลัง:
    +31,433
    [​IMG]

    ..... พระครูไพบูลย์รัตนาภรณ์ .....

    วัดหงษ์รัตนาราม นับว่าเป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในฝั่งธนบุรี มีสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมาอาบก่อนออกรบ มีหลวงพ่อพระแสน เป็นพระพุทธรูปที่พระราชครูโพนสะเม็กสร้างไว้ก็ประดิษฐานอยู่ที่นี่ มีศาลพระเจ้าตากสินที่ศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานให้ผู้ผ่านไปมาได้สักการะ

    ในอดีตวัดหงษ์รัตนารามแห่งนี้เป็นที่รวบรวมตำราสำคัญทางพระพุทธศาสนาทั้ง ตำราการทำพระกรรมฐานแบบมัฌชิมา อันเป็นแบบอย่างเดียวกันกับวัดพลับ(วัดราชสิทธาราม) มีตำราเกี่ยวกับพุทธาคม คือ พระยันต์ พระคาถาต่างๆที่ไว้ใช้ในการออกศึก ใช้ในการค้าขาย ใช้ในทางกันผีกันคุณไสย

    ในช่วง 40 ปีที่แล้ววัดหงษ์มีพระอาจารย์กล้าย ผู้ช่วยเจ้าอาวาสเป็นพระเถระที่มีวิทยาคมสูงส่งเป็นที่นับถือกันโดยทั่วไป

    และในปัจจุบันนี้ที่วัดหงษ์ก็มีพระเถระสำคัญที่สืบทอดวิทยาคมคือ พระอาจารย์ไพบูลย์ รัตนญาโน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหงษ์รัตนาราม

    พระอาจารย์ไพบูลย์ เป็นผู้ศึกษาเวทย์วิทยาคมมาแต่เล็ก ตัวท่านเป็นคนพื้นเพจังหวัดศรีษะเกษ ท่านมีความสามารถรู้อักขระและภาษาทั้งส่วย ทั้งเขมร ทั้งภาษาพื้นเมืองศรีษะเกษ และยังสามารถในทางตัวธรรมอีสาน และตัวขอมแบบภาคกลางด้วย

    วัยเด็กท่านผ่านการร่ำเรียนในทางเป่าฝี ใครเป็นฝีที่ไหนถ้าเด็กชายไพบูลย์เป่าให้เป็นอันหายโดยไม่ต้องใช้ยาฝรั่ง การเป่าฝีนั้นท่านว่าผู้ป่วยทำขันธ์ ๕ มาให้ มีค่าครูเพียง ๖ บาท
    ส่วนตัวท่านจะกินหมาก ๕ คำ เสกหมากไปด้วยแล้วเป่าไปยังหัวฝี เพียงไม่นานฝีจะยุบตัวลงไปอย่างน่าอัศจรรย์

    นอกจากสมัยเด็กเป็นหมอเป่าฝีแล้ว ท่านยังเก่งเรื่องปราบผีปอปอีกด้วย การปราบผีปอปนั้นท่านร่ำเรียนคาถาปราบผี ซึ่งท่านเปิดเผยว่าเป็นคาถาง่ายๆท่องแค่ ทุ สะ นะโส นะโมพุทธายะ เมื่อรู้คาถาท่านก็ท่องจนขึ้นใจ พอรู้ว่าบ้านไหนมีปอปอาละวาดทำคนให้เจ็บให้ป่วยท่านก็ไปบ้านนั้น ท่านเล่าวว่าท่านท่องคาถาตั้งแต่เดินลงจากบันไดบ้านพอไปถึงบ้านคนโดนปอปเข้า เพียงแค่มันเห็นหน้ามันก็ร้องกลัวทันทียอมออกไปง่ายๆ

    ด้วยความสนใจเรื่องนี้ตั้งแต่เด็กทำให้ท่านเป็นนักท่องคาถา ด้วยความที่ท่องคาถาอยู่เสมอจึงเป็นการได้ตัวภาวนาไปในตัวโดยอัตโนมัติ เพราะจิตใจมีคำภาวนาอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่เสมอ วิตก วิจารณ์ในคำภาวนาจึงมีอยู่โดยธรรมชาติ เท่ากับเป็นพื้นฐานในการทำสมาธิชั้นสูงต่อไป

    ต่อมาเมื่ออายุได้ ๒๐ ปี พ.ศ. ๒๕๒๑ ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ มีหลวงพ่อเครื่อง วัดสระกำแพงเป็นพระอุปัฌชาย์ ท่านได้ร่ำเรียนคาถาแม่น้ำทั้ง ๕ จากหลวงปู่เครื่อง คาถานี้เป็นคาถาที่มีพลังเย็นใช้ล้างอาถรรพณ์ถอดถอนคุณไสยและบันดาลความเป็น สิริมงคลแก่ผู้มารดน้ำมนต์ได้

    จากนั้นท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ใหญ่ลา ซึ่งหลวงปู่ท่านนี้มีวิชา "ฝนแสนห่า" เป็นที่เลื่องลือ ท่านทำตะกรุดฝนแสนห่า มีพระพุทธคุณเป็นที่ประจักษ์ พระพุทธคุณของยันต์ฝนแสนห่านั้นท่านกล่าวว่า "อย่าว่าแต่ศึกคนเลยแม่ศึกเทวดาก็ไม่มีแพ้" อำนาจจากยันต์ฝนแสนห่าเป็นทั้งแคล้วคลาด คงกระพัน มหาอุด นำชัยชนะมาสู่ผู้บูชาเป็นเมตตาใหญ่ในตัวไปไหนมาไหนมีโชคลาภมาบังเกิดเสมอมิ ขาดเลย

    ในปี ๒๕๒๖ ท่านได้เข้ามาพำนักที่วัดหงษ์รัตนารามเรื่อยมา ในช่วงที่ท่านมานั้นตำราเก่าแก่ของวัดหงษ์ขาดผู้ดูแลสืบทอดเพราะขาดผู้มี ความรู้ทางอักขระขอม ตัวท่านได้ศึกษาทางนี้มาเป็นอย่างดีจึงนำตำรามาคัดลอก ดำเนินงานอนุรักษ์ความรู้เก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเอาไว้ไม่ให้สูญ หาย

    ทั้งนี้เป็นที่ทราบกันดีว่าอันตำราเก่าแก่ของวัดหงษ์นั้นเป็นความรู้ที่สืบ มาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ในยุคนั้นมีวัดประดู่ในทรงธรรมเป็นศูนย์การเรียนรู้การศึกษา ตำราหลายเล่มที่ตกทอดมาถึงวัดหงษ์ก็เป็นตำราจากอยุธยาตอนปลายมีอายุนับร้อย ปี

    ในปัจจุบันพระอาจารย์ไพบูลย์ ได้นำความรู้จากตำราวัดหงษ์และความรู้ที่ได้ร่ำเรียนกับหลวงปู่ใหญ่ลา หลวงปู่เครื่องมาสร้างวัตถุมงคลพระเครื่อง ซึ่งจุดประสงค์ในการสร้างพระเครื่องนั้น ท่านว่าการสร้างพระแม้องค์เล็กก้เป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนา เป็นพุทธานุสติ และคนโบราณกล่าวว่าการสร้างพระเครื่องให้ถึง ๘๔๐๐๐ องค์ ย่อมสามารถอธิษฐานให้ได้ถึงซึ่งพระนิพพานหรือพระโพธิญาณก็ได้

    พระอาจารย์ไพบูลย์สร้างพระมาแล้วไม่ต่ำกว่าแสนองค์ (จากที่สอบถามท่านมา..ท่านบอกว่ามากมายเป็นแสนๆ และจะทำไปเรื่อยๆ ทำจนกว่าจะทำไม่ไหว) การสร้างแต่ละครั้งพระอาจารย์ไพบูลย์จะใช้ฤกษ์สำคัญ อย่างสมโณฤกษ์ เป็นฤกษ์พระ ท่านว่าดีทางร่มเย็นเป็นสุข หรือมหัทธโณฤกษ์ หมายถึงฤกษ์แห่งความมั่งคั่งร่ำรวย เป็นต้น

    วัตถุมงคลที่ท่านสร้างมาและมีชื่อเสียงมีหลายอย่าง เช่นพระกริ่งฝนแสนห่า ทำพิธีปี ๒๕๕๒ เททองหล่อหน้าพระอุโบสถ หลวงพ่อแสน จารพระยันต์ ๑๐๘ โดยเฉพาะพระยันต์ฝนแสนห่า จำนวนสร้าง ๙๙๙ องค์

    ตะกรุดฝนแสนห่า ตามตำรับหลวงพ่อใหญ่ลา ดีทางคงกระพันมหาอุด

    ตะกรุดค้าขาย ดีทางทำมาค้าขายเป็นวิชาที่สืบทอดในคัมภีร์โบราณของวัดหงษ์ พ่อค้าแม่ขายจำนวนมากนำไปใช้แล้วเกิดผลดี ค้าขายดีมีกำไรเป็นที่น่าอัศจรรย์ ตะกรุดนี้ให้อาราธณาทุกครั้งก่อนค้าขาย

    พระขุนแผนเนื้อผงโคตรเหล็กไหล ยันต์หัวใจขุนแผน ดีทางอยู่ยงคงกระพันใช้โคตรเหล็กไหลหลายชนิดมาเป็นมวลสารเช่นพญาเหล็กย้อย แร่เกาะล้าน เป็นต้น

    พระผงหลวงพ่อแสน หลังยันต์น้ำเต้า อันเป็นพระยัต์โบราณที่สืบทอดภายในวัดหงษ์ หลวงปู่กล้ายอดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสก็ใช้พระยันต์นี้เป็นยันต์ประจำตัวท่านดี ทางเมตตาร่มเย็นเป็นสุข พระผงรุ่นนี้ใช้แร่เหล็กไหลเปียก ซึ่งท่านได้มาจากจังหวัดสกลนครมาเป็นมวลสารในการสร้าง

    ขอขอบคุณข้อมูลของคุณ ทิพยจักร จากกระทู้ "http://palungjit.org/threads/เชิญพูดคุยลูกศิษย์พระอาจารย์ไพบูลย์-วัดหงษ์รัตนาราม.325247/page-2"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 กุมภาพันธ์ 2012
  16. suttip

    suttip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    8,672
    ค่าพลัง:
    +31,433
    หลวงพ่อท่าน เมตตาทำตะกรุดหนุนดวงชาตา ให้โดยไม่คิดมูลค่า...เพียง<wbr>แต่ไปพบท่าน แล้วแจ้งวันเดือนปีเกิดให้แ<wbr>ก่ท่านไว้ เมื่อหลวงพ่อท่านทำเสร็จ ก็สามารถไปรับจากหลวงพ่อได้<wbr>เลย

    ท่านบอกว่าตะกรุดนี้ "ถ้าหากเจ้าของชาตา ดวงดีอยู่แล้ว ก็จะช่วยหนุนให้ดวงชาตาดีขึ<wbr>้นอีก แต่หากเมื่่อดวงชาตาของเจ้า<wbr>ชาตา ตกต่ำหรือไม่ดี ด้วยอำนาจของพระรัตนไตรและ ตะกรุดหนุนดวงจะช่วย ต้านหรือพยุงให้ดวงของ เจ้าชาตานั้นๆ ยังสามารถผ่าน อุปสรรคหรือดวงชาตาที่ไม่ได<wbr>้ในขณะนั้นไปได้"

    นอกจากจะสงเคราะห์ญาติโยม ตามกิจของสงฆ์แล้ว หลวงพ่อท่านจะใช้เวลาว่าง นั้นในการจัดทำตะกรุดหนุนดว<wbr>งชาตา ให้กับญาติโยม ที่ได้มาแจ้งชื่อท่านไว้ เมื่อทำเสร็จ ก็จะนำไปสวดหนุนบูชา ตามตำหรับวิชาที่ท่านได้เรี<wbr>ยนมา เพื่อบอกกล่าวครูบาอาจารย์ และสวดเพื่อบูชาคุณพระรัตรไ<wbr>ตร ให้ช่วยอนุเคราะห์ เกื้อกูล เกื้อหนุน คุ้มครองเจ้าชาตา ผู้เป็นเจ้าของตะกรุดหนุนดว<wbr>งนั้นๆ จากนั้น เมื่อเจ้าของดวงชาตา มาขอรับ ท่านก็มอบให้โดยที่ไม่ได้สอ<wbr>บถามหรือเรียกร้อง เอาค่าจ้างปัจจัยแต่อย่างใด

    หรือหากยามว่าง ท่านก็ทำการสร้างและพิมพ์รู<wbr>ปพระพุทธรูป และองค์พระปฏิมา เพื่อเป็นพุทธานุสติ เพื่อนำไปแจกจ่ายในกิจการงา<wbr>นบุญต่างๆ และเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา
     
  17. suttip

    suttip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    8,672
    ค่าพลัง:
    +31,433
    ให้โอนเลย หรือว่ารอซองก่อนครับ...
     
  18. suttip

    suttip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    8,672
    ค่าพลัง:
    +31,433
    <wbr><wbr><wbr><wbr><wbr><wbr><wbr><wbr><wbr><wbr><wbr><wbr><wbr><wbr><wbr><wbr>

    หลวงพ่อท่านมีเมตตาสูงมาก ทุกครั้งที่มีสาธุชน มากราบนมัสการ บางก็มาขอเครื่องรางของขลัง บางก็มาขอให้ท่านรดน้ำมนต์ให้ บางก็มาดูฤกษ์ยามต่างๆ ฯลฯสิ่งเหล่านั้นถ้ามิเกินกำลัง<wbr>ความสามารถของท่านแล้ว ท่านก็จะทำให้ ท่านไม่เคยปฏิเสธหรือแสดงอาการใ<wbr>ดๆ ให้เห็นว่า รำคาญใจเลย แววตาที่เต็มไปด้วยความเมตตานั้<wbr>น อาจจะบ่งบอกอะไรภายในลึกๆของท่า<wbr>นออกมาก็เป็นได้ เพียงแต่ปุถุชนคนกิเลสหนาอย่างเ<wbr>ราๆท่านๆทั้งหลายมิสามารถรู้ตาม<wbr>ได้ก็เท่านั้นเอง
    “อย่าประมาท นะ ไม่ใช่ว่ามีตะกรุดแล้วจะไปประมา<wbr>ทไม่ได้ ขนาดพระพุทธเจ้าท่านยังสอนมิให้<wbr>ประมาทเลย” นี้คือคำสอนที่เราจะได้รับ เมื่อไปขอวัตถุมงคลจากหลวงพ่อ ท่านจะสอนให้มีสติอยู่เสมอ อย่าประมาท





    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 กุมภาพันธ์ 2012
  19. suttip

    suttip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    8,672
    ค่าพลัง:
    +31,433
    ทางคุณกะจะสัก เป็นรองประธานอยู่แล้วครับ... เดี๋ยวรอซองก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวซองมาเดี๋ยวผมส่งซองไปให้ครับ ส่วนของกำนัล จัดส่งให้พร้อมกับของที่ผมจะฝากไปให้น่ะครับ..._/\_
     
  20. suttip

    suttip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    8,672
    ค่าพลัง:
    +31,433
    มารู้จักเรื่องราวของวัดหงส์ ที่หลวงพ่อท่านจำวัดอยู่ครับ

    วัดหงส์รัตนาราม ราชวรวิหาร



    [​IMG]พระพุทธรูปประดิษฐานแทนที่ตั้ง ศาลเจ้าเจ้าตาก เดิม

    วัดหงส์รัตนาราม ราชวรวิหาร สร้างในสมัย กรุงศรีอยุธยา ยุคนั้นเป็นวัดราษฎร์ เรียกว่า วัดเจ๊สัวหง หรือ แจ๊สัวหง หรือ เจ้าสัวหง หรือ วัดขรัวหง เพราะตั้งตามชื่อของเศรษฐีชาวจีนผู้สร้าง คือ นายหงวัดหงส์รัตนาราม ราชวรวิหาร วัดหลวงชั้นโท คณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุต ตั้งตามทะเบียนเลขที่ ๑๐๒ ถนนวังเดิม ๒ หรือ ถนนอิสรภาพ ๒๘ แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ใกล้กับวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร และ กองทัพเรือ (พระราชวังธนบุรีเดิม) ตั้งอยู่บนเนื้อที่ขนาด ๔๖ ไร่ ๑ งาน ๒๓ ตารางวา
    จากหลักฐานจดหมายเหตุในรัชกาลที่ ๔ ได้บันทึกไว้ว่า วัดหงส์ รัตนารามนี้ พื้นที่วัดเดิมเป็นของโบราณมีมานานสำหรับเมืองธนบุรี คำคนแก่เก่า ๆ เป็นอันมากเรียกว่า วัดเจ้าขรัวหง แลว่ากันว่าจีนเจ๊สัวมั่งมี บ้านอยู่กะดีจีน สร้างขึ้นไว้แต่ในครั้งโน้น จีนที่มั่งมี คนเรียกว่า เจ้าขรัว ในสมัยกรุงธนบุรีศรีมหาสมุทรเรียกชื่อว่า วัดหงษ์อาวาสวิหาร ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มหาราช (รัชกาลที่ ๑) เรียกชื่อว่า วัดหงส์อาวาศวรวิหาร รัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ ๒) เรียกชื่อว่า วัดหงส์อาวาสวรวิหาร รัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔) เรียกชื่อว่า วัดหงส์รัตนาราม รัชสมัย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๖) จนถึงปัจจุบัน เรียกชื่อว่า วัดหงส์รัตนาราม ราชวรวิหาร
    ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ปลายรัชกาล พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มหาราช ซึ่งขณะนั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ยังทรงดำรงพระอิศยยศเป็น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร ได้ทรงพระยศสถานที่ตั้งประวัติวัดหงส์รัตนาราม เป็น กรมพระราชวังบวรสถานมงคล สืบต่อจาก กรมพระราชวังบวรสถานมงคลมหาสิงหนาทฯ ได้ประทับ ณ พระราชวังเดิม พระราชวังจึงมีฐานะเป็นพระบวรราชวังใหม่ ขึ้นตำแหน่งหนึ่ง สมตามนัยแห่ง ชุมนุมพระบรมราชาธิบาย ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเล่าตอนประสูติของ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ไว้ดังนี้ การ ประสูติดังนี้ เป็นไปที่พระที่นั่งข้างในหลังตะวันตก พระราชวังปากคลองบางกอกใหญ่ ครั้งนั้นเรียก พระบวรราชวังใหม่ อยู่ในกำแพงกรุงธนบุรีโบราณวัดหงส์ฯ ซึ่งมีพื้นที่ตั้งอยู่ตลอดสถานที่พระบวรราชวังนี้ จึงมีสร้อยนามเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ครั้งนั้นว่า วัดหงส์อาวาศขวรวิหาร ดังหลักฐานประกอบด้วยตามในพระราชทินนามสมณศักดิ์พระราชาคณะที่พระธรรมอุดม (พระธรรมวโรดมปัจจุบัน) ซึ่งได้เลื่อนจากพระธรรมไตรโลกฯ (พระธรรมไตรโลกาจารย์ปัจจุบัน) ในรัชกาลที่ ๑ ว่า พระธรรมอุดม บรมญาณอดุลยสุนทร ตีปีฎกธรามหาคณิศร บวรสังฆาราม คามวาสี สถิต ณ วัดหงส์อาวาศบวรวิหาร พระอารามหลวง ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ ๒) วัดหงส์รัตนาราม ราชวรวิหาร มีสร้อยนามเปลี่ยนแปลงเป็นทางการว่า วัดหงส์อาวาสวรวิหาร หลักฐานในข้อนี้ พิจารณา ได้ตามพระราชทินนามสมณศักดิ์ที่ พระพิมลธรรม ซึ่งได้เลื่อนจากสมณศักดิ์เดิมที่ พระพรหมมุนี (ด่อน) กล่าวไว้ดังนี้ ให้ พระพรหมมุนีเป็นพระพิมลธรรม อนันตญาณนายก ตีปฎกธรามหาคณิศร บวรสังฆาราม คามวาสี สถิต ณ วัดหงส์อาวาสวรวิหาร พระอารามหลวง
    ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๓) วัดหงส์รัตนาราม ราชวรวิหาร คงมีนามเรียกเต็มว่า วัดหงสาราม ดังปรากฏหลักฐานในหนังสือประชุมพงศารภาคที่ ๒๕ ตอนที่ ๓ เรื่องตำนานสถานที่ และวัสดุต่าง ๆ ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบูรณะ และมีความเกี่ยวเนื่องกับวัดหงส์ฯ ดังมีข้อความกล่าวไว้เป็นเชิงประวัติว่า วัดนี้นามเดิมว่า วัดเจ้าขรัวหงส์ แล้วเปลี่ยนมา เป็น วัดหงสาราม และในสำเนาเทศนาพระราชประวัติรัชกาลที่ ๒ ซึ่ง หม่อมเจ้าพระประภากร บวรวิสุทธิวงศ์ วัดบวรนิเวศน์วิหาร ทรงเทศนาถวาย ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้นามว่า วัดหงสาราม ในเรื่องเกี่ยวกับวัดหงส์ฯ แม้แต่ในพระอารามหลวงที่ เจ้าพระยาวิชิตวงศ์วุฒิไกร เรียบเรียงถวายรัชกาลที่ ๕ ได้กล่าวไว้เช่นเคียวกัน แต่กล่าวพิเศษออกไปว่า เรียกวัดหงสาราม มาแต่รัชกาลที่ ๑ เห็นจะเป็นว่าเมื่อเรียกโดยไม่มีพิธีรีตองสำคัญอะไร ก็คงเรียกวัดหงสาราม ทั้ง ๓ รัชกาล ก็เป็นได้
    [​IMG]ศาลเจ้าตากวัดหงส์ ในอดีต

    [​IMG]ศาลเจ้าตากสินวัดหงส์

    ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๓) นี้ สมเด็จกรมพระศรีสุริเยนทรามาตย์ ได้ทรงรับปฏิสังขรณ์จากการทรงชักชวนของ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงเกณฑ์ต่อให้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งยังดำรงพระยศ เจ้าฟ้ามงกุฎ ให้รื้อพระอุโบสถเก่าแปลงปลูกเป็นวิหาร แต่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ไม่ทรงรับทำ จึงเป็นพระภาระของสมเด็จกรมพระศรีสุริเยนทรามาตย์ แต่พระองค์เดียว ส่วน พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ในครั้งแรกทรงรับพระภาระสร้างโรงธรรมตึกใหญ่ขึ้นใหม่ แต่ในครั้งหลังสมเด็จกรมพระศรีสุริเยนทรามาตย์สิ้นพระชนม์ การยังไม่เสร็จ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ต้องทรงรับเป็นพระธุระทั้งพระอุโบสถ และพระวิหาร และสิ่งอื่นอีก
    ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔) ได้พระราชทานสร้อยนามวัดหงส์รัตนาราม ราชวรวิหารใหม่ แลเป็นหลักฐานสืบมาจนบัดนี้ว่า วัดหงส์รัตนาราม ตามในจดหมายเหตุ รัชกาลที่ ๔ ได้กล่าวไว้ว่า เดิม เป็นพระอุโบสถหลังเก่าวัดหงส์ฯ ครั้งก่อนสมัยอยุธยา เมื่อมาถึงสมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงปฏิสังขรณ์เป็นการใหญ่ ขยายทั้งตัววัด และสร้างพระอุโบสถใหม่ และอื่นอีก คงเลิกใช้อุโบสถเก่า ต่อมาเมื่อถึงรัชสมัยกรุงรัตนโกสินทร์นี้
    จากหลักฐานประชุมพงศาวดารภาคที่ ๒๕ ว่าด้วยพระเจดีย์วิหาร ที่ทรงสถาปนาในรัชกาลที่ ๔ เรื่องที่ ๑๕ โดยมีเนื้อความว่า “วัดหงส์รัตนาราม วัดนี้ตามเดิมว่า วัดเจ้าขรัวหงส์ แล้วเปลี่ยนมาเป็น วัดหงสาราม สมเด็จพระศรีสุริเยนทรา บรมราชินี ทรงบูรณปฏิสังขรณ์ วัดเขมาภิรตาราม โปรดฯ ให้พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิสังขรณ์วัดหงส์ฯการยังไม่ทันเสร็จ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงปฏิสังขรณ์ต่อมาจนสำเร็จ และพระราชทานนามว่า วัดหงส์รัตนาราม คำสร้อยนามวัดหงส์รัตนาราม ราชวรวิหารที่ว่า รัตนาราม นั้น บ่งความหมายเป็นสองประการคือ รัตน แปลว่า แก้ว ประการหนึ่ง และคำว่า อาราม ซึ่งแปลว่า วัด ประการหนึ่ง เมื่อนำคำทั้งสองมารวมกัน จึงได้ความหมายว่า วัดท่านแก้ว มูลเหตุที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานสร้อยนามวัดหงส์ฯ นั้น ก็เพื่อถวายเป็นพระอนุสรณ์แด่ สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงกรมพระศรีสุดารักษ์ ซึ่งมีพระนามเดิมว่า แก้ว เป็นการถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จบรมราชอัยกี ผู้ทรงเป็นพระบุพการีของ พระบรมราชชนนี พระราชอนุชา และ พระองค์ท่าน ตามธรรมเนียมนิยมของพุทธสานิกชน เมื่อบำเพ็ญบุญกุศลแล้ว จึงอุทิศผลบุญ อีกประการหนึ่ง วัดหงส์รัตนาราม ราชวรวิหาร เป็นวัดที่ สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงกรมพระศรีสุดารักษ์ ทรง เคยอุปถัมภ์ และปฏิสังขรณ์มาในอดีต ทรงคุ้นเคยกับสถานที่ และทรงเสด็จบำเพ็ญกุศลเป็นประจำในขณะที่ทรงพระชนม์อยู่
    ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๖) วัดหงส์รัตนาราม ราชวรวิหาร ได้ถูกจัดลำดับศักดิ์เป็น พระอารามหลวงชั้นโท และมีฐานะเป็น พระอารามชั้นราชวรวิหาร ตามพระบามราชโองการประกาศ เรื่องจัดระเบียบพระอารามหลวงเป็น ชั้นเอก ชั้นโท ชั้นตรี ชั้นสามัญ โดยมีสร้อยนามตามฐานะเป็น ราชวรมหาวิหาร ราชวรวิหาร วรมหาวิหาร วรวิหาร โดยลำดับ ลงวันที่ ๓๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๔๕๘ วัดหงส์รัตนาราม ราชวรวิหาร จึงได้สร้อยนามว่า วัดหงส์รัตนาราม ราชวรวิหาร มาจนถึงปัจจุบัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...