การไม่รับผิดชอบกรรมของตัวเอง??? หรือไม่???

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ตามมาฮา 555, 23 มกราคม 2012.

  1. ตามมาฮา 555

    ตามมาฮา 555 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +6
    เคยเห็นโฆษณาเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายทางวิทยุ เคยได้ยินมาว่า
    "เราต้องสร้างบุญเยอะๆ เพื่อที่จะให้บุญนั้นไปขวางบาปของเราที่เคยทำไว้ ยิ่งเราสร้างบุญเยอะๆ บุญนั้นก็จะไปขวางวิบากนั้นไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากเท่านั้น อะไรประมาณนี้"
    เช่นนั้นแล้ว จะได้ชื่อว่า เป็นการไม่รับผิดชอบกรรมของตัวเราเองหรือไม่ เพราะคนเราทุกคน เวลาเกิดมา ก็จะมีบุญและกรรมเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ถ้าเราจะเอาแต่บุญ เอาแต่ความสุข เอาแต่ความเจริญ แล้วกรรมล่ะ จะเอาไปไว้ที่ไหน หรือว่าจะไปโยนให้คนอื่น ก็ในเมื่อมันเป็นบุญและกรรมของเรา เราก็จะควรที่จะรับผิดชอบเอาเอง
    เหมือนกับ "ข้าว" และ "ขี้" ที่เป็นของเราเอง "ข้าว ใครๆก็เห็นว่าดี มีประโยชน์ ให้สารอาหารแก่ร่างกาย แล้วขี้ล่ะ เวลาเราขี้มา เราจะไม่รับผิดชอบขี้ของเรางั้นเหรอ
     
  2. เมขต์

    เมขต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,537
    ค่าพลัง:
    +119
    ไม่รู้ดิ แล้วแต่กรณีมั้ง ??.??
    สมมุติว่า บุรุษที่1 คือเราผู้สร้างกรรมให้แก่ บุรุษที่2
    ได้รับความเสทือนเดือดร้อน ไม่เป็นที่เจริญชื่นจิต ชื่นใจ...
    ถามว่า เราจะต้องตามสนองความชื่นจิต ชื่นใจนั่นไหม เพื่อรับผิดชอบกรรม?

    สมมุติที่สอง บุรุษที่1(เรา) คือผู้สร้างกรรมให้แก่บุรุษที่2 ด้วยการชำระกรรม
    นั้นพึงให้สิ่งที่บุรุษที่2 ปราถนา ทุบ? ตี? ใดๆ สิ้นสุดที่ใดหละ? หากบุรุษที่2
    ไม่มีความพอแล้วในปราถนา จะไม่ต้องตามชำระเวรกันไม่สิ้นหรือ??

    การละอกุศล เจริญกุศล เพื่อสิ่งใด?
    บุญก็คนละส่วน อกุศลก็คนละส่วนหรือเปล่า?

    หากเป็นดังนั้น เหตุใดเขาเหล่าใดผู้มีความชอบในการบำรุงเมือง
    ไม่เป็นบุรุษผู้โชดชั่ว ได้ชื่อแห่งบัลลัง ว่าไม่เป็นผู้ฆ่าเล่า??

    ท่านผู้เจริญ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มกราคม 2012
  3. ตามมาฮา 555

    ตามมาฮา 555 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +6
    เอาเถอะ ถึงหมู่มารสิ้นทั้งหลาย

    จะยังไงก็แล้วแต่ ไปหานายคนใหม่ที่พอจะคุ้มกะลาหัวไ้ด้เถอะนะ มันก็มีอยู่หลายคนอ่านะ ไปเถอะ ไปหาพวกเขาเหล่านั้น ไปพึ่งพิงเขา ไปอาศัยเขา ให้เขาช่วยเหลือ ให้เขาเลี้ยงดู

    เพราะพวกเธอมันมารยากันเหลือเกิน ฉันรู้ทัน แต่ว่าก็ช่วยอะไรไม่ได้ ใครที่คิดว่าพวกเธอจะช่วยเหลือได้ ก็ไปหาเค้าเถอะนะ อย่ามาอะไรกับชีวิตฉันให้มากนักเลยนะ
     
  4. ตามมาฮา 555

    ตามมาฮา 555 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +6

    ฉันรู้ทันพวกแกอยู่หรอก แต่ขี้เกียจจะเอาความด้วย ตีๆกันไปเหอะนะ อยู่รอดูวันหายนะของพวกแกดีกว่า สะจายยย
     
  5. เมขต์

    เมขต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,537
    ค่าพลัง:
    +119
    ธรรมดาสัตว์มีรูถ่าย มีธรรมชาติในการขับถ่าย เหมือนกันก็จริงอยู่
    แต่ก็ใช่วิสัย จะไป กำหนด สัตว์เหล่าใดให้เข้าขับถ่ายในสุขา
    เช่นเดียวกับพฤติกรรมความปกติ ของเราได้?!

    ข้าน้อยปัญญาน้อย ขอสุมาครับ
    ท่านผู้เจริญ...
     
  6. ตามมาฮา 555

    ตามมาฮา 555 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +6
    ยังไม่ได้ว่าอะไรเลยนิ พูดรวมๆ ...ได้ยินเอง
     
  7. เมขต์

    เมขต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,537
    ค่าพลัง:
    +119
    ติดนิสัย ขอสุมาหนะ โพสต์ต่อจาก#2 ก่อนที่จะเห้นขอความเพิ่มเติมจากพี่ครับ
     
  8. LungKO

    LungKO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    590
    ค่าพลัง:
    +925
    ถ้าถามเพื่อรู้ เพื่อแยกแยะ เพื่อการศึกษา และปฏิบัติ แล้วไซร้ นับว่าเป็นคำถามที่ดีมากเลยทีเดียวเชียว ครับ ฯ ผมอยู่ในสายของพระพุทธเจ้า เป็นหลักเท่านั้น (ไม่ได้อยู่ในสายอื่น แต่ก็มีบ้างพรามหมณ์ ตามธรรมดาของปุถุชน) แต่ไม่ใช่เป็นหลัก)ขออนุญาตร่วมสนทนาด้วยหน่อยนะ ครับ...

    ข้อเปรียบเทียบ 1. เกลือ อยู่ที่ไหนก็เค็ม คือเหลือเป็นสิ่งรักษาความเค็มตามธรรมชาติของเกลืออย่านั้น จะเค็มมากเค็มน้อยเท่าใด ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาตินั้น ๆ ฯ ลองเอาเกลือใส่โอ่งไว้ ประมาณถ้วยก๋วยเตียวหนึ่ง แล้วใส่น้ำเข้าไปเต็มโอ่งใหญ่ ๆ ที่เรียกว่าโอ่งแดง หรือโอ่งมังกรก็ได้ (เอาโอ่งแดงใหญ่ ดีกว่า หรือถังสเตนเลสยิ่งดี ) ชิมดูว่าน้ำนั้นเค็มหรือเปล่า น้ำนั้นอาจยังไม่เค็ม เพราะมีเกลือจำนวนน้อย เอ้า...ทดลองต่อไป โดยปล่อยให้น้ำแห้งเอง โดยธรรมชาติ ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้นเพื่อจะหาเกลือ เมื่อน้ำแห้งแล้วก็จะเห็นเกลือในโอ่งนั้น ถ้าชิมดูก็ยิ่งมั่นใจว่ามีความเค็มแน่นอน จะเค็มเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพเกลือ ที่เกิดมีในนั้น อาจเค็มมากกว่าเดิมได้ ฯ สรุปว่าเกลือต้องเค็ม ฯ บาปที่ทำแล้วย่อมให้ผลเค็มเหมือนเกลือเค็ม อยู่ที่ไหนก็เค็ม ฯ ถ้าต้องการลดความเค็ม ต้องหาอย่างอื่นมาแก้ มาผสม เพื่อลดความเค็ม คือต้องการลดแรงของบาปกรรม ต้องทำบุญกรรม เยอะ ๆ เพราะบาปให้ผลแรง เร็วกว่า เหมือนกับโจร คนร้าย ย่อมหาโอกาสทำหน้าที่บาป โดยผู้โชคร้ายไม่ได้ระวังตัว
    ถ้ามีการเตรียมพร้อม หรือระวัดระวัง โจรก็ทำอันตรายแก่เขาได้ยากขึ้น
    ถามว่า โจรนั้นหายไปไหน ตอบว่าโจรก็ยังมีอยู่ทั่วไป แม้นว่าจะมองไม่เห็น เหมือนมีเกลือในน้ำ นั่นเอง ฯ
    ข้อเปรียบเทียบที่ 2. ในร่างกายเรานี่เอง มีทั้งสิ่งที่ร่างกายต้องการ และไม่ต้องการ คือ1.อาหาร 2.อาจมน์(ขี้...ใช้คำว่าอุจจาระ ดีกว่า) ฯ เอาละ....เมื่อกินเข้าไปแล้ว ทุกคนต้องมีขี้ ขี้ไม่มีประโยชน์ในร่างกายเรา เราต้องขับถ่ายออก ถ้าถ่ายไม่ออกก็เป็นเรื่องแน่ แม้แต่องค์พระพุทธเจ้าก็ไม่สบาย เพราะทรงมีอาการไม่สบายท้อง คือไม่ถ่ายตามธรรมชาติของผู้ป่วย (ดูในตำรานายแพทย์(หมอ)ชีวก โกมารภภัจจ์ นั้นได้) เมื่อมีอุจจาระ ก็ต้องขับถ่ายออก การขับถ่าย ก็ต้องระวังให้ถูกต้อง เราต้องรับผิดชอบอุจจาระของเรา อย่าให้ไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น เราต้องรับผิดชอบเอง โดยเอาไปทิ้งให้หมดทำให้สะอาด ทำความสะอาดอย่าให้มีกลิ่นรบกวนตนเองและผู้อื่นแล้ว ฯ ถามว่าในร่างกายเรา ยังมีขี้(อุจจาระ)อยู่หรือเปล่า ตอบว่ามีแน่นอน ตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่ (เหมือนกับที่เรายังมิกิเลสอยู่ ต้องบริหารเรื่องจิต เรื่องกรรมใหดี) เราก็ต้องบริการจัดการเรื่องขี้ให้ดี ไม่อย่างนั้นก็เป็นที่น่ารังเกียจ ของตนเองและสังคม นับตั้งแต่ตัวเรา คนในบ้าน คนที่รู้ หรืออยู่ใกล้ ฯ ถามว่า ขี้ในท้องเราทำให้เป็นโทษได้หรือเปล่า ถ้าเราตายแล้ว ก็ทำอะไรเราไม่ได้ คือถ้านิพพานแล้ว ผลของบาปกรรมก็ย่อมมี (เหมือนมีสารเคมีในร่างกายเรา นั่งแหละ เมื่อถูกไฟเผาแล้ว ก็เป็นเรื่องอื่นไป ไม่ใช่หน้าที่ของเราอีกแล้ว) เราต้องรับผิดชอบ โดยรับใช้กรรมนั้น ๆ ให้หมด ก็หมดเวรกรรมกันเท่านั้น ไม่มีอีกต่อไป เพราะไม่ได้กินอะไรเข้าไปอีก ก็ไม่มีขี้อีกต่อไป และไม่มีใครในจักรวาลทั้งหมดมารับผิด รับชอบการกระทำของเราได้หรอก ฯ แม่นบ่.....เป็นจั่งใด...ชัดบ่.....ครับ

    ถ้าผิดตกก็ขออภัย....ผิดใจ ก็ขอเงินเด้อ......
    ขอบคุณมากอย่างยิ่งครับ ที่ให้เกียรติสนทนา ครับผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 มกราคม 2012
  9. โลน้อย

    โลน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    351
    ค่าพลัง:
    +695
    การทำบุญมากๆเราก็กรวดน้ำขออโหสิกรรมให้กับเจ้ากรรมนายเวรเมื่อเขาได้รับบุญมากๆเขาก็เลิกจองเวรเอง คือส่งผลดีทั้ง2ฝ่าย
     
  10. Canetion

    Canetion เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    528
    ค่าพลัง:
    +2,026
    อโหสิกรรมให้กับเจ้ากรรมนายเวร อาจจะช่วยได้บ้าง อย่างน้อยกำลังใจต้องเชื่อมั่นค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...