เมื่อพระอภิญญาท่านว่า...

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย toplus99, 20 พฤศจิกายน 2011.

  1. tawansongsaeng

    tawansongsaeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +423
    เอาใหม่
    ท่านเข้าสมาธิจนจิตสงบแล้วเดินฌาน 1-4 แล้วถอยลงมาที่ฌาน 1 และถอยลงมาที่อุปจารสมาธิ แล้วพิจารณากายของท่านจากเด็กเป็นหนุ่ม จากหนุ่มเป็นแก่ จนเหลือแต่กระดูก เพื่อให้เห็นธรรมชาติว่าคนเกิดมาแล้วก็ต้องตายเหลือแต่กระดูก ไม่มีใครไม่ตาย เราจึงไม่ควรยึดกายของเรานี้ว่าเป็นตัวเราเพราะมันต้องเปลี่ยนแปลงและเสื่อมสลายลงไปตามธรรมชาติ ไม่เป็นไปตามที่เราต้องการ

    แต่เนื่องจากท่านได้ฌาน สมาธิของท่านจึงแนบแน่นแก่กล้าดังนั้นผู้ที่พอจะมีสมาธิจึงได้มองเห็นร่างของท่านเปลี่ยนแปลงไปตามที่ท่านพิจารณาร่างของท่านเป็นลำดับไปนั่นเอง
    ใครจิตสงบได้มากก็ตามเห็นร่างของท่านได้มาก ใครสมาธิน้อยก็เห็นตามท่านได้น้อยครับ
     
  2. tossapon15

    tossapon15 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +417
    แสดงธรรมรู้ที่จิต รู้จิตดูที่ใจ รู้ใจรู้จิตเห็นอุเบกขา
     
  3. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ต่อตอน #เด็กสาวมาปฏิบัติธรรมเห็นหลวงพ่อเดินจงกรมเล่นอยู่ในขวดน้ำ
    <O:p</O:p

    จากนั้นอีก2วัน ในจังหวะที่ว่างๆ พี่หมูแกจึงมาเล่าเหตุการณ์วันนั้น ที่ลูกสาวมาเล่าให้ฟัง นานๆทีจะงอนแม่ซักครั้ง...มันมีอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า?

    <O:p</O:p
    พี่หมูมาเล่าเรื่องนี้ในเวลาช่วงประมาณ6โมงเช้าของอีกอีกวันถัดมา ในช่วงที่ถือไม้กวาดทางมะพร้าวเก็บกวาดใบไม้หน้าลานใต้ต้นโพธิ์ เมื่อพี่หมูถูกถามว่า

    <O:p</O:p
    “ไปทำไงให้ไอ้น้องแต๊กงอน หน้างอเมื่อคืนวันก่อนล่ะพี่”

    <O:p</O:p
    เมื่อถูกถามเรื่องนี้แกก็หัวเราะนำหน้ามาก่อน ตามประสาคนอารมณ์ดี<O:p</O:p

    “ฮ่า ๆ อ๋อเรื่องนี้เหรอ ที่จริงแล้วพี่ก็ไม่ค่อยกล้า...ไปเล่าให้ใครฟังเดี๋ยวเขาจะหาว่าลูกสาวพี่บ้า...”

    <O:p</O:p
    “ฮึ้ย!พี่หมู ขนาดนั้นเชียว”

    <O:p</O:p
    “ พี่ก็ว่าจะถามความเห็นเธออยู่เหมือนกัน.....จะว่าไงมั่ง เพราะเธอก็มาอยู่ที่นี่บ่อยๆจะรู้อะไรดีๆ”

    <O:p</O:p
    "เรื่องคืองี้นะ ยัยแต๊ก ตอนที่เราพูดๆคุยกันอยู่ ไม่มีใครสนใจแก<O:p</O:p
    ก็มองหันไปเห็นที่ขวดน้ำ แกว่าเหมือนมีคนตัวเล็กๆห่มจีวร เดินไปเดินมาอยู่ในขวดเปล่ามีน้ำติดอยู่ก้นขวด ตอนแรกก็ไม่แน่ใจสายตาตัวเอง ก็เลยก้มมองดูใกล้ๆ เห็นชัดเลยเป็นหลวงพ่อพระอาจารย์เรานั่นแหละ
    <O:p</O:p
    แกก็ดีใจใหญ่เลย รีบเรียกแม่มาดูเพื่อยืนยันสายตาอีกคน แต่พี่ดันไม่สนใจที่ลูกเรียก2-3ที หันไปเรียกแม่ พอแกหันกลับมาดูอีกที....ปรากฏว่าภาพที่เห็นหลวงพ่อเดินเล่นอยู่ในขวดหายไปแล้ว....<O:p</O:p
    ก็เลยยิ่งหงุดหงิด งอนพี่นี่แหละ.....”พี่หมูเล่าที่มาเรื่อง


    <O:p</O:p
    “แล้วพี่...เชื่อเรื่องที่ลูกสาวเล่าแค่ไหน” ผู้เขียน


    <O:p</O:p
    “พี่ก็เชื่อยัยแต๊กนะ เพราะแกไม่ใช่เด็กเหลวไหล แต่ถ้าไม่สนิทกันจริงๆนี่ พี่ก็ไม่กล้าไปเล่าให้ใครฟังหรอก..เดี๋ยวโดนว่าเพี้ยนแม่ทั้งลูก จริงแล้วพี่ก็อยากเห็นแบบยัยแต๊กมั่งเหมือนกัน สงสัยวาสนาเราคงน้อยสู้ลูกไม่ได้มั๊ง”


    <O:p</O:p
    “ไงๆ เธอก็ลองถามหลานดูอีกที ให้แกเล่าให้ฟังก็ได้ เผื่อแกจะมีอะไรเล่าเพิ่มเติม”พี่หมู
    <O:p</O:p

    จากนั้นผู้เขียนเลยลองหันไปถามเพื่อให้หลานแต๊กเล่าให้ฟัง ก็ได้ข้อมูลตรงตามที่พี่หมูเล่าให้ฟังเป๊ะ.

    <O:p</O:p
    “แล้วพี่ไปถามหลวงพ่อดูรึยัง เรื่องที่หลานไปเจอหลวงพ่ออยู่ในขวด”ผู้เขียน
    <O:p</O:p
    “ท่านก็ยิ้มหัวเราะชอบใจตามสไตล์ ท่านว่าก็ฉันเพิ่งมาถึงถ้ำ ไม่ได้อาบน้ำมาหลายวันแล้ว เลยที่หาที่อาบน้ำที่ใหม่ๆดูมั่งไม่ได้รึไง อย่าไปเที่ยวเล่าใครมั่วๆนะ ระวังเค๊าจะว่าบ้าเด้อ! ”
    <O:p</O:p
    พี่กับยัยแต๊กก็เลยได้แต่หัวเราะตามหลวงพ่อนั่นแหละ <O:p</O:p
    ท่านก็บอกเป็นนัยๆกับลูกสาวพี่ว่า<O:p</O:p

    “แต๊กเราเกิดมาก็อยู่กับศีล กับบุญกับทานตั้งแต่เกิดอยู่แล้วเป็นบุญเก่า วาสนาเดิมเราด้วย มีโอกาสก็อย่าทิ้งการปฏิบัติธรรม รักษาศีลนะลูกนะ บุญเก่าเรามีมาดีอยู่แล้วก็อย่าละเลย เร่งเพิ่มเร่งสร้าง<O:p</O:p
    แล้ว เทพพรหม เทวดา ท่านก็จะตามช่วยเหลือคุ้มครองตลอดเวลา ทำสิ่งใดก็ดี ก็เจริญไปหมด นะลูกนะ“ท่านว่างั้นนะ..พี่หมูเล่าสรุป


    <O:p</O:p
    ภายหลังผู้เขียนมีโอกาสได้เรียนถามท่านถึงเรื่องนี้เป็นการส่วนตัวยามปลอดผู้คน ก็ได้คำตอบถึงเรื่องนี้ว่าหาใช่เหตุบังเอิญหรือการตาฝาดผิดพลาดประการใดๆทั้งสิ้น แม้ร่างจริงท่านจะอยู่ที่ศาลาด้านล่าง แล้วเนรมิตให้อีกร่างเล็กๆไปปรากฏในเดินเล่นอยู่ในขวด บนถ้ำบนเขาที่ห่างกันไปเกือบ500 เมตร นั่นย่อมไม่ใช่ปัญหา...
    ..เป็นแต่ความตั้งใจหลวงพ่อท่านพระอาจารย์ต้องการทำให้เห็นเพื่อผลทางบารมีของยัยแต๊กในกาลภายภาคหน้านั่นเอง....แล

    สาธุ...อนุโมทนา..นะจ๊ะหลาน<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    เฮ้อ!จบตอนกันสักที...ต่อไปเป็นเรื่องของคุณนายหมู..แม่ยัยแต๊ก โปรดติดตาม<O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2012
  4. น้ำใหลนิ่ง

    น้ำใหลนิ่ง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +79
    ตัวเล็กไปหน่อยครับท่าน toplus99 คนแก่อย่างผมมองไม่ค่อยเห็น
    สาธุ...อนุโมทนา..นะจ๊ะหลาน
     
  5. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ตัวใหญ่กว่านี้....เกรงว่าจะโตเกินหม้อข้าวที่บ้านแล้วล่ะครับลุง...
     
  6. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004

    รับบันทึก..อีกรอบในความพยายามเหลือเกิน...จะเอาให้ได้ว่างั้น..อืม

    ขออนุโมทนา

    ทำไมขีดเส้นแดงหว่า?
     
  7. น้ำใหลนิ่ง

    น้ำใหลนิ่ง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +79
    ขอโทษครับ สงสัยหน้าเวปผมเสีย ที่ผมเห็น "ตัวมันขนาดนี้ครับ"

    ตอนนี้เห็นปกติแล้วครับ
     
  8. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    เริ่มเรื่องใหม่ดีกว่า...

    ตอน#ญาณอทิสมานกายที่แอบแฝงมากับพี่หมู...เพื่อขอความช่วยเหลือ

    จากการค้นหาแฟ้มข้อมูลในสมอง ภาพในอดีตภาพฉายถูกดึงออกมา เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในระหว่างการการสนทนาระหว่างพระอาจารย์กับผู้เขียน....เมื่อหลายปีก่อน

    <O:p</O:p
    นี่ทิด(ผู้เขียน) ได้ข่าวเรื่องโยมหมู...เมื่อช่วงต้นเดือนนี่มั๊ย”พระอาจารย์
    <O:p</O:p
    “ไม่รู้เรื่องเลยครับ...แกมีปัญหาอะไรล่ะครับ”
    <O:p</O:p
    “ต้นเรื่องปัญหาจริงๆหนะ....ไม่ใช่โยมหมูมีปัญหา...แต่แกดันพาใครที่มีปัญหามาด้วยนี่ซิ” พระอาจารย์
    <O:p</O:p
    “ใครครับท่าน...ตัวปัญหาที่ว่า”ผู้เขียน
    <O:p</O:p
    มันมีเรื่องหวะ....เรื่องมันยาวนะ”พระอาจารย์
    <O:p</O:p
    อีกแล้ว....แสดงว่าอยากเล่าให้ฟังแหงๆ<O:p</O:p

    “พระอาจารย์ท่านมีเรื่องจะเล่าผมให้ฟังมั๊ยล่ะครับ รอฟังอยู่นะนี่”<O:p</O:p

    ก็เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา แกก็มาที่นี่พร้อมลูกสาวไอ้เจ้าแต๊ก ตามที่แกทำบ่อยๆนั่นแหละ มาถึงก็พากัน หอบของกินโน่นนี่พะรุงพะรังมาถวายวัดเป็นปัจจัยบำรุงพระบำรุงโยม
    ตามประสาของแกที่เคยทำ<O:p</O:p

    มาถึงก็พากันขนของไปไว้โรงครัวข้างล่าง ข้างศาลา อาบน้ำอาบท่าเสร็จเรียบร้อย
    แกก็พากันเดินขึ้นมาบนเขา พอดีข้าก็กำลังคุยต้อนรับกับญาติโยมคนอื่นๆอยู่
    <O:p</O:p
    ตอนนั้นมันก็ช่วงใกล้ค่ำแล้ว แกเดินขึ้นเขามาก็หอบเครื่องสัมภาระ อื่นๆติดมือขึ้นมาด้วย
    พอขึ้นมาก็มานั่งหอบฟืดฟาดๆไปตามเรื่องสักพัก

    มาถึงก็เข้ากราบข้า แกก็ถามสารทุกข์ข้านิดๆหน่อยๆ จากนั้นแกก็เที่ยวไปคุยคนโน้นที คนนั้นที ตามประสาคนปากชอบคุย อย่างทีรู้กันนั่นแหละ<O:p</O:p
    ถึงปุ๊บ เจอใครก็บ่น บอกคนไปทั่วว่า

    <O:p</O:p
    “ไม่รู้เป็นไงพักนี่ ฉันนะปวดหัวบ๊อยบ่อย นอนก็ไม่ค่อยหลับ บางทีเหมือนอยากร้องไห้คิดๆดู
    ฉันก็ไม่เห็นมีสาเหตุเลยทีจะร้องไห้
    <O:p</O:p
    แต่มีความรู้สึกมันสะอื้นๆ เสียใจอยู่ในหัวอกหัวใจอยู่ตลอดเลย..บ้าจัง!<O:p</O:p
    ที่มาเหมือนมีอะไรบอกให้มาที่นี่ ให้ได้..ให้รีบมาด้วย

    <O:p</O:p
    "ที่มานี่....ใจสั่งมานะเนี่ย..ตอนแรกกะว่าจะมาปลายเดือนช่วงที่มีงานบุญถึงจะมา<O:p</O:p
    ...นี่อยู่บ้านไม่ถูกเลย กระวนกระวายใจยังไงชอบกล….ต้องมานี่แหละ.”<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    ข้ารู้.... ก่อนที่แกจะมาแล้ว...ว่ามีเหตุอะไร...แต่ข้าจะรอดูลีลา โยมหมูว่าแกจะทำไง
    ..อาการแบบนี้แกก็ไม่เคยเป็นมาซะด้วย” พระอาจารย์เปรยบอก
    <O:p</O:p
    แล้วยังไงต่อครับ”ผู้เขียน
    <O:p</O:p
    “พอข้าเห็นโยมหมูว่างๆ พอจะมีเวลาให้คิวข้าบ้าง” (แม้บางที...หลวงพ่อยังต้องรอคิวจากแก...เล๊ย!)

    <O:p</O:p
    “โยมหมู สบายดีอยู่นะ” หลวงพ่อ
    <O:p</O:p
    “ก็ไม่สบายหรอกหลวงพ่อ...ฉันปวดหัว เสียใจ อึดอัดใจ ฉันอยากจะร้องไห้

    <O:p</O:p
    เป็นไงล่ะ อกหักรึไง....มีลูกผัวอยู่บ้าน ยังจะอกหักอีกรื๊อ! ฮ่า ๆ” ท่านก็ทักทาย
    คุยแซวทักทายเล่นตามเรื่องระหว่างลุกศิษย์อาจารย์ที่รู้จักกันดีทั้งครอบครัวมานาน พอได้เสียงหัวเราะกันกิ๊กกั๊กๆจากคนคุ้นเคย

    <O:p</O:p
    “หลวงพ่อหนะ ชอบพูดเล่น! ฉันจะแย่แล้ว ฉันเป็นแปลกๆอ่ะ เกิดมาจนผมเริ่มหงอกไปเยอะแล้ว เนี่ย ก็ไม่เคยเห็นเป็นแบบนี้เลย”
    <O:p</O:p
    “อยู่บ้านไม่ได้เลยร้อนรุ่มไปหมด หงุดหงิดๆตลอดเลย ก็เลยพาลูกสาวมานี่ไง”พี่หมูเล่าเพิ่ม

    <O:p</O:p
    บอกแล้วข้าหนะ...รู้ และเห็นแล้วล่ะว่ามีใครมากับแกด้วยนอกจากลูกสาวแกอย่างทีบอกว่าข้าจะรอดูลีลาคน คอยดูซิมันจะทำยังไง
    <O:p</O:p
    พักเดียวล่ะ....เริ่มสะอื้นฮึกๆ..ร้องไห้ฮือๆ....คลานลำตัวนอนแนบพื้นมาเคลื่อนมาใกล้ข้า

    <O:p</O:p
    อ้าว...พี่หมูแกเป็นอะไร มีปรากฏการณ์การแทรกแฝงพลังจิตของอทิสมานกายใดกันอีกล่ะนี่<O:p</O:p
    แกจะเข้าใจในปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองหรือไม่....<O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2012
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,004
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    อนุโมทนาสาธุกับท่านToplus99ค่ะ ได้ความรู้มากค่ะและขอบพระคุณอย่างสูงด้วยที่สงสารคนแก่ สายตาแย่จริงๆแต่ก็อ่านได้สบายเลยค่ะ
     
  10. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    คนแก่ที่สายตายังดีนั่นมีน้อย...ถ้าอายุมากแล้วสายตายังดี

    ถือว่า...มีบารมีทางด้านสายตา

    ส่วนหนึ่งก็อนุเคราะห์แก่ตัวเองด้วยล่ะครับ...

    ไม่เป็นไรครับถือว่าช่วยกันไปตามสังขารความเสื่อม

    ขออนุโมทนา..เช่นกัน
     
  11. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ต่อตอน##ญาณอทิสมานกาย แอบแฝงมากับพี่หมู...เพื่อขอความช่วยเหลือ

    เรื่องราวของพี่หมู...ก่อนที่จะเริ่มอาการอึดอัดแน่นในใจ..มีอาการร้อนรนกังวลใจเหมือนมีเสียงก้องบอกในจิต อยู่เป็นระยะๆ หาได้เกิดแต่ตัวจิตดั้งเดิมก็หาไม่...
    <O:p</O:p
    หากเกิดแต่มีญาณบางดวงจิตได้แอบแฝงและดลจิตดลใจให้พี่หมู มีอาการดังกล่าว<O:p</O:p
    ด้วยเหตุผลบางประการ
    <O:p</O:p
    .......ว่าให้รีบมาที่สำนักสงฆ์ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ เป็นสภาพภายใต้สภาวะที่ถูกจิตวิญญาณ
    ของสัตว์กึ่งเทพ ที่เราท่านทั้งหลายเรียกกันว่า องค์พญานาคา นาคี นั่นเอง ที่ใช้ฤทธิ์บันดาลให้เป็นไปนี่แหละที่อยู่เบื้องหลัง...อาการดังกล่าวมา
    <O:p</O:p
    แล้วเรื่องราวของพญานาคตนนี้มาเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับคุณนายหมูจอมเม้าได้อย่างไร
    อันนี้ก็น่าติดตามว่าเกิดจากปัจจัยสิ่งใด?
    <O:p</O:p
    เรื่องราวที่ถูกเปิดปมให้ข้าพเจ้าได้รับรู้เป็นการส่วนตัว จะด้วยสาเหตุใดก็มิทราบได้
    ในเจตนาของพระอาจารย์ท่าน
    <O:p</O:p
    ท่านเล่าให้ฟังดังนี้ครับ...มาฟังอ่านกันดู<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2012
  12. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ต่อตอน##ญาณอทิสมานกาย แอบแฝงมากับพี่หมู...เพื่อขอความช่วยเหลือ

    ท่านเล่าให้ฟังดังนี้ครับ...มาฟังอ่านกันดู<O:p</O:p<!-- google_ad_section_end -->

    ภายในเขตบึงน้ำแห่งหนึ่ง

    ยังมีพื้นที่ถิ่นอาศัยสังขาร สถิตอยู่บริเวณดังกล่าว บึงหนองน้ำแห่งนี้มีขนาดใหญ่ เนื้อที่โดยคร่าวประมาณ1-2 ตารางกิโลเมตร มีปลายทางต้นน้ำลำธารเล็ก เลื้อยเลาะเข้าไปเรื่อยในแนวป่าลึก
    บึงใหญ่ที่อายุไม่ทราบแน่ชัดคงมีมาแต่ก่อนรุ่นทวด ตา ยายแล้วกะมั้ง ใกล้หมู่บ้านเล็กๆที่กันดาร
    เขตอำเภอแห่งหนึ่งในจังหวัดโคราช
    <O:p</O:p
    สืบเนื่องจากการที่พี่หมูได้มีโอกาสไปร่วมทำบุญทอดผ้าป่า ที่สำนักสงฆ์เล็กๆ แห่งหนึ่งที่เพิ่งก่อตั้งได้ไม่นานใน เขตป่าประจำหมู่บ้านดังกล่าว ตามคำชักชวนของเพื่อนบ้านด้วยนิสัยที่ชอบการท่องเที่ยวทำบุญเป็นประจำ
    มีหรือที่คุณนายหมูเราจะพลาดอีกอย่างก็อยู่ไม่ใกล้จากบ้านแกเอง เพียง10 กว่ากิโลเท่านั้น
    และที่สำคัญหลวงพ่อที่นี่ให้หวยแม่นมาก...รวยกันมาหลายรายแล้ว...ขอบอกก่อนนะจ๊ะหล่อน..(เพื่อนที่มาชวน เอาข่าวมาแจ้ง...ว่างั้น)
    <O:p
    </O:p
    ซึ่งก็ไม่แน่ใจ ว่าแกไปด้วยประเด็นต้องการไปทำบุญ หรือจะไปเอาหวยกันแน่ หรือทั้งสองอย่างอันนี้ก็มิได้สอบถามมา

    <O:p</O:p
    (ณ ที่ตั้งของสำนักสงฆ์ที่มีลักษณะเป็นพื้นลานหินทราย ก้อนเล็กใหญ่กระจายอยู่รายรอบ
    พื้นป่า มีต้นไม้ป่าพงหญ้ากระจายอยู่ทั่วไป และมีขนาดไม่ใหญ่โตมากนัก ซึ่งเป็นตามลักษณะโดยทั่วไปต้นไม้ที่อยู่ในเขตพลาญหินทราย ที่พื้นดินมักขาดความสมบูรณ์ ต้นไม้แทงรากหยั่งลงใต้ดินในยาก ลำต้นของพืชจึงแคระแกรนกันไปตามสภาพกาล

    <O:p</O:p
    เมื่อในระยะไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ สำนักสงฆ์ที่เคยร้างพระผู้มาพักจำอาศัย เดิมคงมีบ้างเป็นช่วงๆคงเป็นแต่พระมาเดินทางผ่านมาพักพำนักอยู่ 2-3วัน อย่างมากเพียงไม่เกินเดือน หรือแค่พรรษาเดียวก็จากสถานที่แห่งนี้ไปเสียแล้ว
    <O:p</O:p
    สำนักสงฆ์แห่งนี้ เดิมเป็นพื้นที่จับจองทำกินของอา น้องสาวคนที่2ของพ่อผู้เขียน
    ทั้งย่า( ปัจจุบันสิ้นชีพแล้ว)
    และบรรดาญาติพี่น้องฝ่ายพ่อของผู้เขียน ต่างล้วนช่วยกันเป็นโยมอุปฐากหลักอย่างเป็นทางการแก่พระสงฆ์ที่มาพำนักทุกท่านทุกรายเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกันของชาวบ้านแถบนั้น

    เนื่องจากสละที่ดิน เงินทอง แรงกายแรงใจก่อสร้างสิ่งที่จำเป็น ด้วยเงินส่วนตัวกันก็มิใช่น้อย
    ด้วยหวังว่าคงมีพระสงฆ์พระธุดงค์ ผู้ปฏิบัติดี ผู้ยึดมั่นในพระธรรมคำสอนมาอยู่พำนักอาศัยเพื่อสงเคราะห์ญาติโยม ในเขตหมู่บ้านนี้และจะพัฒนาสำนักสงฆ์แห่งนี้ให้ สวยงามเทียบวัดในหมู่บ้าน ตำบลที่เจริญๆทั้งหลายบ้าง)<O:p</O:p

    <O:pบัดนี้..ได้มีพระธุดงค์ท่านหนึ่ง...มาจากจังหวัดแถบอีสานตอนล่าง เดินทางมาขอพำนักยังที่สำนักสงฆ์แห่งนี้แล้ว
    เป็นที่โจษขานกันทั่วของญาติโยมผู้แสวงหาวิธีการรวยทางลัด ต่างเดินทางเข้ามากราบเพื่อขอหวย ขอโชคลาภจากหลวงพ่อท่านนี้ อย่างต่อเนื่องกันมากมาย ขบวนผ้าป่ามากมายจากหลากหลายที่ เลยหลั่งไหลตามมาด้วย....

    แล้วสิ่งที่จะมีผลมาถึงพี่หมู...ไปเกี่ยวข้องกับพระธุดงค์ท่านนี้อย่างไร?</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Satu.jpg
      Satu.jpg
      ขนาดไฟล์:
      102.1 KB
      เปิดดู:
      84
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2012
  13. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ต่อตอน##ญาณอทิสมานกาย แอบแฝงมากับพี่หมู...เพื่อขอความช่วยเหลือ

    <O:p</O:p
    จุดเปลี่ยนสำคัญ...ที่ทำให้พี่หมูมีอาการ..ปวดหัว รู้สึกจิตใจหดหู่ อัดแน่นภายในใจอย่างหาสาเหตุที่เกิดกับตนเองไม่ได้ มานานนับสัปดาห์ คงจะไม่มีวันเกิดเหตุประหลาดขึ้นมาได้...หากว่า

    <O:p</O:p
    ....หากแต่ว่ามีญาณของพญานาคหนุ่มที่ประจำการณ์รักษาเขตแดนแถบบึงใหญ่ใกล้หมู่บ้าน และเขตในทุ่งป่าพลาญหินแห่งนั้นต้องมีเหตุต้องเฝ้าติดตามพี่หมู<O:p</O:p
    ตามกลิ่นและรัศมีประจำกายแห่งกระแสบุญทาน แรงกระแสแห่งสีบารมีในการปฏิบัติธรรมรักษาศีลที่มีในตัวพี่หมู

    ที่อาจจะมีโดดเด่นกว่าผู้ใดในคณะชาวบ้านที่มาทอดผ้าป่าสามัคคีในครั้งนั้น
    <O:p</O:p
    ตลอดจนอาจรับรู้ได้ว่าหากแม้นเฝ้าติดตามสังขารร่างนี้ไปเรื่อยๆ เราอาจมีโอกาส<O:p</O:p
    ได้พบเจอบุคคล ผู้ซึ่งจักสามารถแก้ปัญหา ปลดปล่อยช่วยเหลือในทุกข์ครั้งนี้แก่เราได้เป็นแน่แท้..

    <O:p</O:p
    “ความทุกข์ครั้งนี้เราจักหาหนทางใดหนอจึงแก้ไขได้..มันเป็นบาปเป็นกรรมของเรามาแต่ชาติเก่าปางใดกันหนอ ช่างทุกข์เสียจริง”
    <O:p</O:p
    “ หญิงผู้นี้...เราสัมผัสว่ากระแสแห่งบุญบารมี สว่างไสวสวยงามเหนือกว่าบุคคลอื่นๆยิ่งนัก"
    <O:p</O:p
    เราเฝ้ารอคอย จับจดดูกระแสจิตแห่งบุญของบุคคลทั้งหลายในเขตแดนที่เราคุ้มครองรักษา ตามคำบัญชาแห่งองค์นาคราชราชาผู้เป็นใหญ่มาเนิ่นนานนับร้อยปีพันปี ในพื้นที่รักษา ร่วมกว่า20-30ตารางกิโลเมตร จักหาที่พึงอันสมควรได้ยากนักหนา เราจักทำประการใดดี
    <O:p</O:p
    ณ ยามนี้<O:p</O:p
    ......แม้ภิกษุนักบวชทั้งหลายที่บวชอยู่ในเขตแดนเรารักษา จะหาผู้มีศีลบริสุทธิ์แท้จริง ยังยากนัก
    <O:p</O:p
    .....จักหาภิกษุใด ผู้ตั้งใจเล่าเรียนศึกษาธรรมะขององค์พระสัพพัญญู ทำกิจวัตรอันสมควร แก่สมณะนักบวชให้สมบูรณ์ก็ยากนัก
    <O:p</O:p
    .....จักหาภิกษุใด ที่จักตั้งใจฝึกฝนปฏิบัติธรรมความเพียร จนเกิดผลแห่งกำลังฌาน เกิดญาณบารมีก็ยากขึ้นอีก.....
    <O:p</O:p
    แล้วในยามนี้ ก็มิใช่ด้วยเหตุแห่งผู้เรียกตนว่าภิกษุผู้แก่กล้าทางฌานสมาธิ ผู้ปารวณาถือบวชต่อหน้าองค์พระใหญ่ในโบสถ์หรอกหรือ เราจึงต้องเป็นทุกข์หนักเยี่ยงนี้....

    <O:p</O:p
    องค์นาคาเกิดความทุกข์ด้วยเหตุใด องค์นาคาหนุ่มผู้รับผิดชอบดูแลรักษาเขคแดน ตามคำพระบัญชาแห่งองค์ปู่พญานาคราชผู้เป็นใหญ่ในพิภพบาดาล ถึงมีความรันทดและท้อแท้เยี่ยงนี้ และมีทัศนคติที่ต่อว่าต่อขาน แก่ภิกษุนักบวช สมมติสงฆ์ศิษย์แห่งตถาคตเหลือเกิน
    <O:p</O:p
    ".......แล้วนี่เราจักหาภิกษุสงฆ์รูปใดกันเล่า ที่จักมีคุณธรรมความดี ที่มีกำลังณานสมาธิแก่กล้าและญาณทัศนะอันสมควรแห่งศิษย์ตถาคตผู้แสวงหาโมกขธรรม พอที่จักรับรู้ในความทุกข์แห่งเรา และแก้ไขปัญหาช่วยเหลือเราได้..... มิหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรอีกหรือนี่?"
    <O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 270.jpg
      270.jpg
      ขนาดไฟล์:
      12 KB
      เปิดดู:
      131
    • imagesCA1Y8HK0.jpg
      imagesCA1Y8HK0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      7.4 KB
      เปิดดู:
      94
    • imagesCATUHARE.jpg
      imagesCATUHARE.jpg
      ขนาดไฟล์:
      9.7 KB
      เปิดดู:
      83
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2012
  14. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ต่อตอน##ญาณอทิสมานกายแอบแฝงมากับพี่หมู...เพื่อขอความช่วยเหลือ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    การสนทนาที่เกิดขึ้นระหว่างพระอาจารย์หลวงพ่อ และร่างสังขารพี่หมู<O:p</O:p
    หลังจากการสะอึก สะอื้นที่ เหมือนอัดแน่นในหัวใจ ได้ปลดปล่อยออกมาต่อหน้าที่เหล่าศิษย์อื่นๆที่มาปฏิบัติธรรมในถ้ำครั้งนั้น<O:p</O:p
    คือร่างของพี่หมูนอนคว่ำลงแหงนหน้าขึ้นมีน้ำตาไหลอาบแก้ม บัดนี้พี่หมูไม่สามารถบังคับร่างสังขารตน เพื่อต่อต้านต่ออำนาจการบังคับคลื่นกำลังญาณ ขององค์นาคหนุ่มผู้นี้ได้แล้ว
    <O:p</O:p
    ฮือ ฮือๆ พระคุณเจ้าขอรับ...เมตตาแก่เกล้ากระผมด้วย ร่างพี่หมูโดยองค์นาคาสื่อสารผ่าน ปนน้ำเสียงสะอื้นไห้ เออก็ฟังดูแปลกๆหูดีเหมือนกัน
    <O:p</O:p
    “ตามโยมหมูมานานเป็นอาทิตย์แล้วนี่..ไหนมีอะไรจะให้เราช่วยล่ะ” หลวงพ่อไตร่ถามด้วยน้ำเสียงปนเมตตาแก่ญาณผู้มาเบียดบังคับร่างพี่หมู
    <O:p</O:p
    “เห็นทำท่า ว่าจะเข้ามาหาเราตั้งหลายรอบแล้วมืใช่หรือ”หลวงพ่อ
    <O:p</O:p
    “ใช่ขอรับ พระคุณเจ้า ทีจริงมิได้อยากรบกวนแก่ร่างนี้เลย แต่เกล้ากระผม ไม่มีหนทางอื่นแล้วจริงๆ นี่ก็เฝ้ารอมาตั้งนานแล้ว”นาคาหนุ่ม
    <O:p</O:p
    “เอิ๊กๆ ฮื๊อ ๆ ฮา ฮ่า มาแฝงเข้าใครไม่เข้า...ดันมาเลือกเอายัยหมู เป็นไงล่ะ ก็ทำใจหน่อยล่ะกัน” หลวงพ่อยังคงสไตล์เดิมคือพูดเล่น สร้างอารมณ์ขัน ไม่วายเว้นแม้กระทั่งนาคหนุ่มผู้มากับคราบน้ำตานองหน้ายามนี้
    <O:p</O:p
    “โยมหมู ก็พอโยมหมู ก็มันมาจนถึงต่อหน้าเราแล้วอยู่แท้ๆ.....มันยังหนีไปคุยกับคนโน่น คนนี่ มันช่างไม่รู้เรื่อง รู้ราวเอาเลยว่าเค๊ามีธุระ มีธุระ...ไม่รู้จะห่วงคุยอะไรของมันนักหนา”
    <O:p</O:p
    พูดจบ ท่านก็พูดไปหัวเราะไปตามเคยเล่นเอาบรรยากาศเครียดๆ ยามนั่นหลายคนถึงกับต้องปล่อยเสียงหัวเราะตามไปด้วย...แบบเบาๆ เกรงใจพญานาคหนุ่มที่อยู่ใกล้ๆไง
    <O:p</O:p
    ฮือๆ โปรดช่วย,,,คู่นางของกระผมด้วย นาคีนางถูกจับผูกมัดไว้ด้วยมนตรา อาคมไว้เพื่อบีบบังคับให้กระผมกระทำการเพื่อหาลาภสักการะแก่นักบวชผู้นั้น”<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    “เราพอรู้เรื่องแล้วหละ...ว่าเกิดอะไรขึ้นกับท่าน เดี๋ยวเราจะรีบหาเวลาไปช่วยให้เร็วที่สุดนะ อย่าทุกข์นักเลย”
    <O:p</O:p
    “มาถึงนี่แล้วมาถึงหลวงพ่อ(ชื่อท่าน).... แล้วเชื่อขนมกินได้น่า
    ฮั่นแน่!ออกแนวคุยโอ่โชว์นาคหนุ่มไปซะเลย ก็ดีจะได้สงบจิต สบายใจกันไป

    <O:p</O:p
    "เดี๋ยวมารับน้ำมนต์นี่ไปกินซะ จะได้มีเรี่ยวแรงกำลังวังชา..ดีขึ้น แล้วถอยญาณออกจากร่างนี้ซะ ปะเดี๋ยวเป็นบาปค้างคากันไปอีก”
    <O:p</O:p
    “แล้วเดี๋ยวเรามาคุยกันหลังไมค์อีกที แฝงอยู่นานไปสังขารนี้ เดี๋ยวเค๊าจะป่วยเอาซะ แค่นี้โยมหมูแกก็หนักเอาเรื่องแล้ว...หากหมดแรงคุย เด๊ยวแกจะบ่นเอาอีกนะ”<O:p</O:p
    งานนี้หลวงพ่อ..ล่อภาษาดีเจวิทยุซะด้วย โก้ไม่น้อยทีเดียว

    จากนั้นภายหลังพระอาจารย์ท่านได้ติดต่อสื่อสารทางจิตกับองค์นาคา เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยของพี่หมู
    ซึ่งมีรายละเอียดจากการสนทนาของท่านทั้งสองมาเล่าสู่กันฟังอีกที

    ....ว่ามีจุดกำเนิดของปัญหาที่เกิดจากพระธุดงค์จอมขมังเวทย์ ได้กระทำการสิ่งใด
    ต่อครอบครัวพญานาคนี้จนต้องติดตามพี่หมู มาให้ท่านพระอาจารย์ไปช่วยเหลือ....


    จากนั้นอีกประมาณ 2วัน ท่านจึงเดินทางจากสำนักสงฆ์มวกเหล็กไปที่ หมู่บ้านบึงใหญ่เขตจังหวัดโคราช เพื่อทำพิธีปลดปล่อยดวงจิตของนาคผู้หญิงที่กระทำไว้ในบริเวณลานหิน ในสำนักสงฆ์ที่พี่หมูได้เดินทางไปทำบุญผ้าป่าในคราวที่เกิดปัญหาขึ้น
    <O:p</O:p
    ทำไม?นาคผู้หญิงจึงถูกจับผูกมัดไว้ด้วยคาถาอาคมได้<O:p</O:p
    ใครเป็นผู้กระทำ…?<O:p</O:p
    กระทำเพื่อสิ่งใด…?<O:p</O:p
    ทำไม?นาคผู้ชาย...จึงไม่สามารถช่วยเหลือคู่นางของตนได้<O:p</O:p
    พิธีการปลดปล่อยทำอย่างไร?<O:p</O:p
    ถ้าข้องใจ..ก็ตามมาในคาบหน้า<O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2012
  15. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ต่อตอน##ญาณอทิสมานกายแอบแฝงมากับพี่หมู...เพื่อขอความช่วยเหลือ<O:p</O:p
    ตอนย่อย...เล่ห์กลของพระธุดงค์จากแดนไกล
    <O:p</O:p
    จากการที่ญาณขององค์นาคาหนุ่มได้สนทนากับพระอาจารย์ ทำให้รับทราบ<O:p</O:p
    ต้นสายปลายเหตุที่มาของเรื่องคือ......
    <O:p</O:p
    จากการที่องค์นาคาและนาคีได้รับมอบหมายจากองค์พญานาคราชแห่งบาดาลเมืองใหญ่<O:p</O:p
    ให้มาดูแลคุ้มครองรักษาในเขตตำบลพื้นที่แห่งนี้และมีหน้าที่ช่วยอนุเคราะห์แก่มนุษย์และโดยเฉพาะพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเพื่อร่วมช่วยกันจรรโลงพระพุทธศาสนาในยุคองค์สมณะโคดมสัมพุทธเจ้านี้ให้สืบครบอายุ 5,000ปี<O:p</O:p
    ทั้งสององค์พญานาค ผัวเมียคู่นี้จึงเฝ้าทำหน้าที่มาด้วยดี มากินเวลานับมาแล้วหลายร้อยปี และติดตามอุปฐากคุ้มครองรักษาแก่ผู้ประพฤติธรรมอันดีเสมอมา<O:p</O:p
    โดยมีถิ่นอยู่ในลุ่มน้ำเขตป่าบึงใหญ่ใกล้หมู่บ้านแห่งนี้ ซึงไม่ไกลจากสำนักสงฆ์ที่ตั้งขึ้นใหม่แห่งนี้มากนัก
    <O:p</O:p
    จนกระทั่งเมื่อไม่นานในช่วง3-4 เดือนที่ผ่าน มีภิกษุรูปหนึ่งอายุประมาณ50 ปี โคจรมาพำนัก พักอยู่ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ เป็นผู้ร่ำเรียนวิชาทางไสยศาสตร์อาคมขลัง มีฌานกำลังสมาธิแก่กล้า<O:p</O:p
    เชื้อสายทางอีสานตอนล่างพูดภาษาอีสาน และศึกษาไสยศาสตร์ทั้งสายฝั่งลาวและเขมร มาในระดับเข้มขลังมากทีเดียว

    <O:p</O:p
    ทั้งฝ่ายพญานาคทั้งสองเมื่อเห็นว่ามีภิกษุที่พำนักอยู่ใกล้แหล่งที่พักอาศัยแห่งตนจึงเห็นเป็นโอกาสดี ที่จะได้เฝ้าติดตามคุ้มครอง และดูแลอยู่อย่างห่างๆ ด้วยคาดหวังว่าจะได้รับอนิสงค์และผลบุญจากการทำหน้าที่ที่ได้มอบหมายมา
    <O:p</O:p
    ฝ่ายภิกษุผู้มีญาณทางใน ผู้นี้ก็รับรู้ว่าสถานแห่งนี้ยังมีองค์นาคคู่นี้ดูแลรักษาอยู่ในพื้นที่เช่นกัน จึงหน้าที่กิจวัตรตามหน้าที่ของภิกษุที่บัญญัติไว้ตามหน้าที่เป็นอย่างดี ทั้งการบิณฑบาต ทำวัตรเช้า-เย็น สอนโปรดญาติโยมที่มาหา และบำเพ็ญสมาธิ แผ่เมตตากรวดน้ำ อุทิศบุญกุศลให้แก่สรรสัตว์ตลอดถึงองค์พญานาคอยู่เสมอ ให้เป็นที่ประจักษ์แก่พญานาคคู่ผัวเมียจนเป็นที่ไว้วางใจ และเชื่อใจว่าเป็นภิกษุผู้มีจริยาวัตรสมควรแก่การอุปฐากเพื่อเป็นเนื้อนาบุญของโลกสืบไป

    <O:p</O:p
    จนเวลาล่วงไปได้ประมาณเดือนเศษ จากนั้นองค์นาคา นาคีทั้งสองจึงได้พากันมาติดต่อสื่อสาร เพื่อแจ้งความจำนงขออุปถัมภ์ภิกษุรูปดังกล่าว เพื่อทำหน้าที่ช่วยเหลือการสร้างศาสนวัตถุในสำนักสงฆ์ด้วยหวังว่าจะได้เป็นที่พึ่งพาอาศัยทำกิจกรรมทางศาสนาแก่พระภิกษุและเหล่าสาธุชนในภายภาคหน้า
    <O:p</O:p
    โดยขอให้ภิกษุท่านและบรรดาชาวบ้านได้โปรดสร้างโรงศาลเล็กๆ ในบริเวณสำนักสงฆ์แห่งนี้ บนลานหินให้เป็นที่สถิตย์ของญาณแห่งพญานาคของเราผู้เป็นผัวเมียขึ้นมาและทำพิธีบวงสรวง ตามสมควรเถิดเพื่อความสะดวกแก่การอนุเคราะห์ของเรา<O:p</O:p
    ภิกษุรูปนั้นจึงแจ้งข่าวที่น่ายินดีนี้แก่ชาวบ้านแถบนั้นให้จัดสร้างขึ้นจนสำเร็จตามประสงค์
    <O:p</O:p
    และด้วยบุญบารมีที่สั่งสมมาขององค์นาคราชผู้บำเพ็ญมาไม่มากนัก เนื่องจากอยู่ในฐานะเพียงนาคชนชั้นระดับสามัญ ฤทธิ์เดช ศักดานุภาพ ยังน้อยนักเมื่อเทียบกับองค์ในพญานาคในชั้นอื่นๆ<O:p</O:p
    เยี่ยงเช่นพญานาคราชชั้นสูงเบื้องบน เทียบศักดาเฉกเช่นเทพเจ้าชั้นสูงคือมีเศียรมากถึง 9เศียร 7เศียร และในลำดับรองมาคือชั้นเจ้าเมืองผู้ปกครองมี5 เศียร หรือในชั้นพญานาคที่มี 3 เศียร ตำแหน่งนาคชั้นรองลงมา ได้เป็นผู้ปกครองเมืองเล็กย่อยลงไปก็ยังนับว่า เป็นผู้บารมีวาสนา มีเหล่าบริวารและพื้นที่ดูแลรักษากว้างไกลกว่าตน
    <O:p</O:p
    เมื่อพิจารณาตามพื้นวาสนาบารมีแห่งตนนั้นที่มีเพียงหัวเดียว เศียรเดียว อยู่กันมาสองตนผัวเมีย บำเพ็ญตะบะบารมีมาได้เพียงไม่กี่ร้อยปี ที่พอจะเป็นกำลังช่วยแก่ภิกษุท่านนี้ได้บ้างคงต้องพึงพาการเกื้อกูลจากเทพยดาอื่นๆ กามัง
    <O:p</O:p
    จึงขอใช้วาสนาที่ตนพึงกระทำได้ ด้วยการสืบถามหาตัวเลขอันเป็นลาภของชาวมนุษย์ยกย่องว่าดี <O:p</O:p
    จากเหล่าเทพดาเจ้าทั้งหลายที่มีอำนาจในการออกเลขรางวัล และต้องรักษาความลับการออกเลขรางวัล จะผ่านบอกรับรู้ได้เฉพาะในชั้นเทพดาผู้มีหน้าที่โดยตรงเท่านั้น ซึ่งถือเป็นความลับอันศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์ หาใช่ว่าเทพดาทุกองค์จะมีสิทธิรับรู้กันทั่วไป...ก็หาไม่<O:p></O:p>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2012
  16. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    [​IMG]ต่อตอน##ญาณอทิสมานกายแอบแฝงมากับพี่หมู...เพื่อขอความช่วยเหลือ<O:p</O:p
    ตอนย่อย...เล่ห์กลของพระธุดงค์จากแดนไกล

    เมื่อองค์นาคคู่นี้ ทำหน้าที่สืบหาตัวเลขโชคลาภ เป็นเลขหวยจากเบื้องบนมาได้ ด้วยว่าเหตุผลกระทำเพื่อเกื้อกูลแก่พระศาสนา จึงได้เลขศักดิ์สิทธิ์ลาภจากเทพดามาแล้ว จึงบอกผ่านแก่ภิกษุรูปนี้เพื่อแจ้งบอกให้แก่ญาติโยมที่ท่านเห็นสมควร เพื่อนุเคราะห์ผ่อนคลายความทุกข์ยาก ความยากจนของชาวบ้าน
    <O:p</O:p
    ซึ่งก็ดูจะเป็นที่พอใจถูกใจแก่ญาติโยม เยี่ยงคนไทยเรายิ่งนักเชียว (อันเป็นนิสัยความมักง่าย หวังรวยทางลัด... รวยแบบไม่ยอมเหนื่อย ที่มิควรประพฤตินัก)<O:p</O:p

    จนชาวบ้านที่ได้รับเลขรางวัลไปต่าง...ถูกหวยทั้งใต้ดิน บนดิน รับเงินกันถ้วนหน้า<O:p</O:p
    จึงเป็นเป็นที่กล่าวขาน ลือกันไปว่าเจ้าสำนักสงฆ์ผู้มาอยู่สำนักแห่งใหม่นี้ ท่านเก่งนัก เรื่องให้ตัวเลขโชคลาภ ถูกติดๆกัน จาก1งวด เป็น2งวด 3งวด 4งวด

    <O:p</O:p
    “ป๊ะ!ถูกอีกแล้วเว๊ยเรา เดี๋ยวงวดหน้าต้องบอกข่าวเล่าต่อญาติพี่น้องผองเพื่อนจะได้รวยกันบ้างแล้ว
    <O:p</O:p

    จากปากต่อปากเล่า สืบทอดกันไปยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง เรื่องแบบนี้ท่านทั้งหลายคงนึกออกว่า<O:p</O:p
    ข่าวนี้มันจะเร็วมากมายปานใด สำนักสงฆ์จึงมีผู้คนหลั่งไหลกันมามากมายโดยเฉพาะวันที่ใกล้ออกเลขรางวัล จนถนนเล็กๆสู่สำนักสงฆ์แทบหาที่จอดไม่ได้ทีเดียว
    <O:p</O:p
    จากนั้นทั้งเงินทอง ที่มาแบบเงินใส่ซองเปล่าแบบการตอบแทนบุญคุณ และคณะผ้าป่าที่นำมาถวายแก่ภิกษุรูปนี้ จึงเนืองนองตามมาเช่นกัน<O:p</O:p
    แต่การก่อสร้างใดๆในสำนักสงฆ์ ที่พอจะเริ่มต้นได้ก็ยังไม่มีการดำเนินงานใด
    <O:p</O:p
    คงมีแต่กลุ่มญาติพี่น้องของภิกษุท่านนี้ จากจังหวัดบ้านเกิดจังหวัดแถบๆขอนแก่น ที่เดินทางมาหาเพื่อขอเงินไปใช้ ซึ่งท่านก็มอบให้ไปด้วยดี<O:p</O:p
    ซึ่งผลจาการการกระทำดังกล่าวของภิกษุนี้ ก็หาได้รอดพ้นจากการรับรู้ของนาคทั้งสองคู่ผู้เมียนี้ไม่<O:p</O:p
    นาคทั้งคู่ผู้ด้อยประสบการณ์ ต่อเล่ห์เหลี่ยมของมนุษย์ ในคราบผู้ห่มครองผ้าเหลือง จึงอดระแวงสงสัยในพฤตกรรมมิได้
    <O:p</O:p
    “เอ๊ะนี้เราได้พยายามอ้อนวอนแก่เทพดาผู้ดูแลเลขลาภรางวัล นี้มาก็พอสมควรแล้ว<O:p</O:p
    เรามิเห็นว่าภิกษุหลวงพ่อท่านนี้ จะก่อสร้างศาสนวัตถุหรือนำเงินที่ได้จากลาภสักการะจากที่เรานำไปบอกกล่าวท่านด้วยความยากลำบากนี้ มาเกื้อกูลสร้างบุญทานที่เหมาะสมใดๆเลย นี่มีแต่จะสงเคราะห์แต่ฝ่ายญาติตนเองเท่านั้น…”
    <O:p</O:p
    “นี่พระคุณเจ้าบัดนี้เราทั้งสอง...ได้เห็นว่าลาภเงินทองที่ท่านได้จาก ญาติโยมทั้งหลายก็มากโขอยู่ เหตุใดจึงมินำมาก่อสร้างเพื่อความเจริญแก่สถานที่นี่บ้าง”<O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2012
  17. A เอม

    A เอม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +22
    กำลังสนุกอยู่เลย รออ่านต่อน่ะค่ะ
    :cool:ขออนุโมทนาบุญกับคุณToplus99ด้วยน่ะค่ะ:cool:
     
  18. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ต่อตอน##ญาณอทิสมานกายแอบแฝงมากับพี่หมู...เพื่อขอความช่วยเหลือ<O:p</O:p
    ตอนย่อย...ธาตุแท้ของพระธุดงค์จากแดนไกล

    “นี่พระคุณเจ้าบัดนี้เราทั้งสอง...ได้เห็นว่าลาภเงินทองที่ท่านได้จาก ญาติโยมทั้งหลายก็มากโขอยู่ เหตุใดจึงมินำมาก่อสร้างเพื่อความเจริญแก่สถานที่นี่บ้าง”
    <O:p</O:p
    “ท่านองค์พญานาคทั้งสอง ใจ จงวางใจเถอะเรามินำปัจจัยเงินทองที่ได้นี้ไปไหนหรอก<O:p</O:p
    ก็ต้องนำมาใช้ในการก่อสร้างนั่นแหละ” ภิกษุจอมอาคม บอกเพื่ออำพรางให้ตายใจ
    <O:p</O:p
    เราหมายว่าท่านคงจักได้เป็นที่พึงของเราได้ เป็นกำลังเพื่อพระศาสนา แต่นี่เราได้ติดตามผลงานท่านมา ก็เนิ่นนานพอประมาณแล้ว ก็มิเห็นว่ากระทำเหตุที่สมควรเลย “<O:p></O:p>

    “หนำซ้ำกิจวัตรของพระสงฆ์ที่พึงกระทำเช่น การออกรับบิณฑบาต การทำวัตรเช้า เย็น การบำเพ็ญสมาธิวิปัสสนาใดๆก็ว่างเว้น มิสมควรแห่งสมณเพศเลย เมื่อป็นเยี่ยงนี้เราเห็นจะไม่ช่วยเหลือท่านได้อีกแล้ว จนกว่าเราจะมั่นใจได้ว่าท่านกระทำการอันที่เหมาะสมแล้วเราจึงจักมาคบค้าช่วยเหลืออีกครั้ง” องค์พญานาคคู่ผู้เมียต่างพูดแจ้งแก่ภิกษุในเหตุ ที่ทั้งสองไม่ขอช่วยกิการงานใดๆของพระรูปนี้แล้ว จากนั้นจึงจากไปด้วยดี
    <O:p</O:p
    เมื่อภิกษุได้รับทราบว่าองค์นาคคู่นี้ได้ปลีกตัวหลีกหนีกลับ ยังสถานสถิตโดยมิคิดจะช่วยเหลือตนอีก<O:p></O:p>
    “ชะ ชะ ช่า เจ้านาคผัวเมียคู่นี้ชะรอย มันจะรู้ความเป็นกมลสันดารเดิมตรูซะแล้ว<O:p</O:p
    หากแม้นมันทั้งคู่ไม่ให้เลขหวยเราแล้ว เราจะเอาลาภสักการะจากชาวบ้านที่ไหนได้อีก<O:p</O:p
    เงินสะสมเราก็ยังไม่หนำใจของเราและหนี้สินญาติพี่น้องเราก็ยังมากเหลือเกิน นี่ถ้าตรูรู้เลข รู้หวยด้วยตัวเองได้ มีหรือจะต้องง้อมันทั้งคู่ให้เสียเชิง....”
    <O:p</O:p
    “อย่ากระนั้นเลย มันทั้งคู่จะต้องได้รับบทเรียนอันสาสม เราหรือก็เป็นคนมีวิชาอาคม ร่ำเรียนจากครูบาอาจารย์ขลังมามิใช่น้อย เดี๋ยวมันจะรู้สึกว่าเล่นกับใครไม่เล่น มาอวดดีกับข้า”
    <O:p</O:p
    “เห็นทีต้องหลอกล่อ มันทั้งคู่ขึ้นมาจากบาดาลภพให้มาสถิตอยู่ที่ศาลเจ้าของมันเอง<O:p</O:p
    แล้วกระทำการผูกมัดมันด้วย อาถรรพ์เวทบังคับให้มันทำหน้าที่นำเลขหวยมาให้เราดังเก่า<O:p</O:p
    หากแม้นมันดื้อดึง แข็งขืนต่อสู้ เราก็จะเฆี่ยนตีให้หนักจนยอมอยู่ในอำนาจบังคับเราจนได้แหละ
    <O:p</O:p
    เมื่อคิดตรองดังนั้นจึงเรียกพญานาคที่แสนซื่อทั้งสองขึ้นมา เจรจาจนเชื่อใจอีกครั้ง ยอมนำดวงญาณกลับมาสถิตที่ศาลเจ้าที่ชาวบ้านสร้างให้ อีกครั้งและบอกเลขหวยอีกครั้ง แต่คราวนี้ก็นำเงินปัจจัยมาเก็บไว้เป็นส่วนตัวมิได้สงเคราะห์แก่ใครทั้งสิ้น<O:p</O:p

    “จิตมนุษย์นี้ ยากไซ้รจะหยั่งถึง” คำคำนี้นาคทั้งสอง คงได้ประจักษ์แล้วว่าคำกล่าวนี้เป็นจริงยิ่งนัก นี่หรือที่ว่ามนุษย์ที่ได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ประเสริฐที่สุดของโลก
    <O:p</O:p
    ที่สุดเมื่อขาดความไว้เนื้อเชื่อใจกันแล้ว จึงคิดจะหนีกลับลงใต้บาดาลในบึงใหญ่เช่นเดิม<O:p</O:p
    แต่เหตุการณ์มิได้เป็นเช่นนั้น
    ....เมื่อบัดนี้ทั้งคู่ไม่สามารถออกไปจากบริเวณศาลเจ้าดังกล่าวได้เลย เนื่องจากภิกษุผู้นั้นได้สร้างมนต์ตาข่ายอาถรรพ์ กักกั้นเขตพื้นที่ตนให้จำกัดได้เพียงบริเวณศาลเท่านั้น<O:p</O:p
    บัดนี้ทั้งคู่จึงรู้ว่าได้พลาดท่าเสียทีให้แก่ภิกษุจอมอาคมเวทย์ผู้มากเล่ห์กล และโลภโมโทสันผู้นี้เสียแล้ว <O:p
    </O:p
    ต่อมาจึงใช้ คาถาเวทย์ผูกมัดพญานาคซ้ำอีกครั้ง และแยกทั้งคู่ออกจากกัน พร้อมบังคับเฆี่ยนฝ่ายนาคีหญิงตี ด้วยหวายอาคมด้วยความโหดเหี้ยม ไร้ความปราณีเพื่อบีบบังคับให้นาคผู้ชายเอาเลขหวยมาบอกตนเช่นเคย
    <O:p</O:p
    เมื่อองค์นาคผู้ชายถูกปลดออกมาจึงเฝ้ามองหาจากผู้ที่มาทำบุญที่สำนักสงฆ์แห่งนี้<O:p</O:p
    จะด้วยหรือบังเอิญ หรือโชคชะตาทำให้พี่หมู ลูกศิษย์วัดถ้ำเดินทางมาสถานที่นี้<O:p</O:p
    จึงเฝ้าเกาะติดตามและพยายามดลจิตดลใจให้พี่หมู พามาที่วัดถ้ำแห่งนี้เพื่อมาพบกับพระอาจารย์หลวงพ่อ เพื่อไปปล่อยแก้อาถรรพ์เวทย์มนต์ที่ถูกผูกมัดไว้ที่ศาลเจ้าในสำนักสงฆ์แห่งนั้น<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2012
  19. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,620
    ค่าพลัง:
    +13,004
    ต่อตอน##ญาณอทิสมานกายแอบแฝงมากับพี่หมู...เพื่อขอความช่วยเหลือ ตอนจบซะที
    <O:p</O:p

    “ทำไมเราไม่คิดต่อสู้กับพระรูปนั้นหรือ”พระอาจารย์ไตร่ถามนาคหนุ่ม
    <O:p</O:p
    “คิดไปแล้ว กระผมก็ทั้งเสียใจและแค้นใจนัก กระผมนี่พร้อมจะต่อสู้อย่างเต็มสุดกำลังที่มีนั่นแหละขอรับพระคุณเจ้า ผิดแต่ว่านางนาคีผู้เมียของกระผม ท้องแก่ใกล้คลอดกำเนิดนาคน้อยมานั่นแล จึงเป็นเหตุให้ต้องระวังต้องคิดให้หนัก ถ้าพลาดพลั้ง ต่อสู้แล้วแพ้ต่อพระจ้าวเล่ห์นั้น เมียและลูกในท้องของกระผมก็อาจได้รับอันตรายหนักถึงแก่ชีวิตได้จึงต้องมาขอให้ท่านพระคุณเจ้าไปช่วยนี่แหละขอรับ”
    <O:p</O:p
    “ ช่างกระทำกันได้อุตส่าห์เชื่อใจบากหน้าไปขอความอนุเคราะห์จากเทพยดาทั้งหลายมาด้วยความยากลำบาก จะหากรุณาแก่กันบ้างก็มิได้ ไม่สมควรแก่คำว่าสงฆ์เลย”<O:p</O:p
    พญานาคหนุ่มโอดครวญต่อว่า พร้อมแจงเหตุผลที่ต้องมายังมายังสถานที่ถ้ำแห่งนี้

    =============================

    “พระอาจารย์ไปช่วยเหลือพญานาคอย่างไรครับ” ผู้เขียน
    <O:p</O:p
    “ไม่เห็นยากเลย ไปถึงข้าก็ใช้ญาณตรวจดู จนรู้ว่าหลวงพ่อรูปนั้นออกไปทำธุระนอกสำนักสงฆ์แล้ว ไปถึงก็สวดบท อิติปิโสถอยหลัง กำหนดดวงกสินคลายมนต์ออก จากนั้นก็กระตุกด้ายสายสิญจน์ที่ผูกมัดไว้ที่ศาล และเขตรั้วรอบศาลอีกชั้นออก โดยไม่หันกลับไปมองอีก ขึ้นรถกลับมาถ้ำอย่างเดิม ก็จบเรื่องแล้ว
    <O:p</O:p
    “เออง่ายดีจัง...”ผู้เขียน
    <O:p</O:p
    “ทำให้ง่ายก็ง่าย ทำให้ยากมันก็ยาก เฉพาะท่องคาถาอย่างเดียวไม่สามารถปลดปล่อยพลังมนต์ของเขาออกได้ทั้งหมดหรอก ต้องใช้ญาณตรวจดูอีกที เพราะเขาก็สำเร็จกสินฌานโลกีย์เหมือนกัน มันสำคัญว่ากสินของใคร มันแน่ มันแข็งกว่ากันเท่านั้น”
    <O:p</O:p
    “ท่านไม่กลัวว่าหลวงพ่อนั้นจะตามมาเล่นงานพระอาจารย์หรือครับ”ผู้เขียน
    <O:p</O:p
    “โอย รู้เขารู้เรารบครั้ง ชนะร้อยครั้ง ข้านอนตาหลับเพราะข้ามีเทพเทวดาคุ้มครองภัยให้ จะกลัวทำไม แต่หลวงพ่อนั้นล่ะนอนสะดุ้งผวา ตลอดทั้งชีวิตก็แล้วกันล่ะเอ็งเอ๋ย”พระอาจารย์
    <O:p</O:p
    “ตอนหลังนี่...หลวงพ่อรูปนั่น พอรู้ว่ามีคนไปปลดปล่อย พญานาคคู่นั้นไปแล้ว ก็รีบเผ่นออกจากสำนักสงฆ์ไป ที่สำคัญดันพาญาติพี่น้อง เอารถมาขนข้าวขนของ ของเดิมที่มีคนซื้อมาถวายไว้ก่อนหน้าที่ท่านจะมาไปซะเรียบวุด ไม่เว้นแม้แต่ผืนเสื่อหมอนเก่า ยันช้อนสังกะสีซักคันเลย ไม่หาเพิ่มแล้วยังเอาของเดิมไปอีก ให้ชาวบ้านชาวช่อง แช่งชักตามหลังกันไป อ้ายคนพวกนี้ลืมนรก ลืมสวรรค์ บาปกรรมจริงๆพระอาจารย์

    <O:p</O:p
    “แล้วตอนนี้พญานาคผัวเมียเป็นไงบ้างครับ”
    <O:p</O:p
    “ก็พากันหนีลงเมืองบาดาลเขาแล้วนะสิ รอคลอดลูกก่อน ถ้าเขาพยาบาทไม่ยอมเลิกรา พระหลวงพ่อนั้นถ้าเผลอก็มีสิทธิ์เสร็จโก๋เหมือนกันล่ะ...อันนี้ก็กรรมใครกรรมมัน”

    <O:p</O:p
    เอ็งเคยได้ยินคำนี้มั๊ยว่า สัญชาตญาณของเหล่าอสรพิษเป็นไง
    <O:p</O:p
    “ ตีงูต้องตีให้ตาย...อย่าตีแค่หลังหักมิเช่นนั้นมันจะมาแว้งกัดเอาทีหลัง”
    <O:p</O:p
    แล้วโดยเฉพาะภิกษุผู้ถือบวชที่ขาดจากคุณธรรมของความเป็นสงฆ์ เทพเทวดาที่ไหนจะมาคุ้มครองรักษา มีแต่จะคอยซ้ำเติมให้หนักลงเท่านั้น รอว่าเมื่อใด....เวลาจะมาถึงเท่านั้น
    พระอาจารย์กล่าวสอนทิ้งท้าย
    <O:p</O:p
    <O:p></O:p>
    เออนี่แหละหนอ....อุตส่าห์ถือบวชบำเพ็ญจิตจนมีพลังแห่งฌาน ญาณรู้สัมผัสได้กลับใช้วิชาไสยศาสตร์อาคมไปในทางอำนวยแก่ลาภ ร่ำรวย พ่ายแพ้ต่อความโลภที่มีในจิตในขันท์…..ใช้ผ้าเหลืองเป็นเครื่องมือหากินเพื่อตนและญาติเท่านั้น คงมีทุขคติมีนรกภูมิเป็นที่หวังได้<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2012
  20. tawansongsaeng

    tawansongsaeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +423
    เรื่องอ่านแล้วสนุกมาก เป็นธรรมะบันเทิงที่ดี อ่านแล้วก็กลัวบาปกรรมมุ่งมั่นทำ
    แต่ความดี ขออนุโมทนาบุญครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...