เหตุผลที่ทำไมเเผนกวัตถุมงคลซอยสายลมชอบทำหน้าดุเเละตะคอกใส่คนที่มาทำบุญ

เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้เอาหนังสือของหลวงพ่อให้ลูกน้องคนนึงได้อ่าน พออ่านจบ เขาเกิดศรัทธาในองค์หลวงพ่ออย่างเเรง
กล้า ผมเลยเเนะนำให้เขาไปที่ซอยสายลม พอหลายวันต่อมา
ได้เจอเขาก็เลยถามถึงเรื่องที่ไปซอยสายลมมาว่าเป็นไงบ้าง
เขากลับตอบมาว่า ผมจะไม่ไปอีกเลยพี่ ที่วัตถุมงคลนะ หน้าดุอย่างกับ...เเน่ะ ทั้งตะคอกผมเเละยังทำท่าเหมือนกับดูถูกผมอย่างงั้นเเหละ ผมเลยบอกให้ใจเย็นๆพี่ก็รู้สึกเหมือนกัน พี่ว่าหลวงพ่อท่านคงให้เป็นด่านทดสอบจิตใจด่านเเรก ว่าเรามีความศรัทธาจริงเเค่ไหน คงเหมือนกับสมัยตอนที่หลวงปู่ดูลย์ไปกราบหลวงปู่มั่นจะขอเป็นลูกศิษย์ โดนทดสอบจิตยิ่งกว่านี้
ถึงขนาดขับออกจากวัดโดยที่หลวงปู่ไม่รู้สาเหตุ นี่ยังเเค่จิ๊บๆ(b-oneeye)

 

มีอยู่สอง-สามท่านที่ผลัดเปลี่ยนกันมาทำหน้าที่ตรงนี้นะครับ บางครั้งบางท่านก็อาจจะเครียดไปบ้าง ผมเองก็ไปอยู่บ่อย บางครั้งก็ให้หลานไปแทนบ้าง ก็ไม่เคยเจออย่างที่บอกมาเลยครับ แต่เคยเห็นอยู่ครั้งหนึ่งบังเอิญว่าวันนั้นผมยืนอยู่แถวนั้นพอดี แต่ไม่ถึงกับรุนแรงหรอกครับ เท่าที่ได้ฟังพอรับได้สบายมาก แต่สุภาพสตรีท่านนั้นทำหน้าแปลกๆไปเหมือนกัน แต่พอสรุปได้ว่าเขาอาจจะใช้คำถามมากไปนิดเลยถูกสะกิดเสียหน่อย

แต่อย่าเพิ่งท้อถอยเลยครับ เฉยๆเสียบ้างก็ดี ทำให้เราเศร้าหมองไปเปล่าๆ

 

ลูก หลวง พ่อ เหมือน กัน ไม่ เป็น ไร น่า

 

ได้ไปทำบุญที่ซอยสายลมอยู่เหมือนกัน เมื่อล่าสุดเร็ว ๆ นี้ก็ไปทำบุญเช่นกัน
เนื่องจากเป็นช่วงอาทิตย์ต้นเดือน คนไปทำบุญเยอะุมาก ๆ

เห็นคนที่ทำหน้าที่ขายวัตถุมงคลเขาก็บริการลูกค้า
ใครที่สงสัยแล้วถามมาก ๆ คนขายก็ทำหน้าไม่พอใจ

เห็นกับตา และไม่ใช่แค่รายเดียว โดนดุกันหลายราย
หน้าที่หนึ่งของการบริการด้านการขาย

ก็คือ การบริการลูกค้า ถ้าเขาคนน้อย
ก็สามารถหาคนมาช่วยขายได้

หากยังบริการอย่างนี้ แล้วอีกหน่อยใครจะไปใช้บริการ

ทุก ๆ คนที่ศรัทธาหลวงพ่อ
ก็อยากไปอุดหนุนและศึกษาธรรมะเพิ่มเติมทั้งนั้น

 

555555เอาหน่าๆ เดี๋ยวจะไปบอกให้......ก็ต้องเข้าใจ แต่ละคนที่ไปช่วยงานส่วนใหญ่ ก็เป็นคนมีฐานะทั้งนั้นไม่ใช่ลูกจ้าง แต่ก็มาช่วยงานที่สายลมด้วยใจรักในองค์หลวงพ่อจริงๆ.....คนแยะบางที่ก็มีอารมบ้าง ก็ต้องทำใจ คือให้เข้าใจว่าเค้าไม่ใช่"ลูกจ้าง"นะ แหมมมมที่นั่นเป็นบ้านของท่านเจ้ากรมม.ร.ว เสริม ทำอะไรก็ต้องมีระเบียบ ต้องเคารพสภานที่ บางทีเลยดูว่า"ดุไป"

 

หลวงพ่อเมตตาสูงมาก ทำไมลูกศิษย์บางกลุ่มไม่รับสิ่งดีๆเหล่านี้มาปฎิบัติบ้าง ผมเจอกับลูกศิษย์หลวงพ่อเกษม หลวงตามหาบัว หลายครั้งทีเดียวที่รู้สึกไม่ดีมากๆจิตตก คนมีฐานะเมตตาไม่เป็นหรือครับ คำสอนง่ายๆของหลวงพ่อข้อแรกของพรหมวิหารสี่ก็สอบตกกันหมดแล้ว ซ้ำชั้น(ชาติ)ครับนักเรียน

 

เคยไปที่ซอยสายลมมาหลายครั้ง แต่ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์อย่างที่ว่าเลยค่ะ ถ้าใครเจอเหตุการณ์แย่ๆก็อย่าเก็บมาใส่ใจเลยค่ะ รกใจเราเปล่าๆ ให้อภัยเขาเถอะค่ะ คนเราแม้ศึกษาธรรมะมาเหมือนกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องปฎิบัติได้เหมือนกันและได้เท่ากัน

 

55555ก็ต้องทำใจฮะ...ลูกศิษย์ก็คือลูกศิษย์ ไม่ใช้พระ"อริยเจ้า" มาจาก100พ่อ1000แม่ ก็ต้องทำใจ....นี้หละครับที่อยากจะ"ชี้"ให้ทุกๆท่านได้ทราบ ครูบาอาจารย์ดีใช้ว่า"ศิษย์"จะต้องดีตาม เพราะขึ้นชื่อว่า"คน"ที่แปลว่า"ยุ่ง" ยังไงๆก็ยังมีเลวอยู่มาก ........ไม่ใช่ว่าเค้าอ้างว่าเป็นลูกศิษย์พระอาจารย์นั้นพระอาจารย์นี้จะต้องมีจิตใจ"สูง"เสมอไป โตถึงไม่เคย"ปรารบ" ลูกศิษย์หลวงพ่อคนไหนเลยจริงๆ เพราะเห็นมามากแล้ว ที่เราจะ"ปรารบ"คือ"พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์คือพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย" ก็หมดเรื่องไป...

 

เรื่องนี้เคยได้ยินมานานแล้ว นานมากเป็นแบบนี้ และก็เคยมีคนไปฟ้องหลวงพ่อด้วย (ตอนท่านยังไม่ละสังขาร ) คือตอนที่ยังขาวัตถุมงคลที่เดิมอยู่ ( ไม่ใช่ตึกใหม่ ) หลวงพ่อท่านตอบว่า พวกนี้เมื่อชาติก่อน ๆ เคยเป็นทหารกันมาหลายชาติ จิตเดิมจึงติดมาแบบนี้ แต่ถ้าพวกเธอนับถือฉันจริง ต้องทนพวกเขาได้สิ หลวงพ่อตอบมาแบบนี้ครับ ผมอ่านเจอที่หนังสือเล่มไหนจำไม่ได้แล้ว เพราะนานมากแล้ว แต่จำได้ฝังใจเพราะเราเองก็เคยโดนเหมือนกัน

 

เอาน่า...ครับ เป็นมานานแล้วล่ะ เก็บเอาสิ่งดี ๆ นอกนั้นอย่าสนใจ ใครเป็นไงช่าง ใจเราสบ๊ายสบาย

 

ท่าข้ามเคยไปบ้านสายลมก็ดูเขาหน้าตายิ้มแย้มกันดี แต่ก็อย่างที่คุณพสภัธบอกนะ ธรรมดาของคนก็ย่อมต้องมีโลกธรรม 8 กระทบกระทั่งกันได้ แต่อย่าให้ใจตก อย่าให้เสื่อมศรัทธาในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ก็พอ เพราะธรรมะของพระพุทธเจ้าและหลวงพ่อฤาษีเป็นของแท้

 

ฟังแล้วผ่านไป มันเป็นอดีตไปแล้ว อย่าเอาอารมณ์ไปยึดติดก็เท่านั้นเอง คำพูดก็แค่ลมมาปะทะใจ ร่างกายไม่ช้าก็สูญสลาย ผ่านไปก็เป็นอดีตแล้วครับ คิดถึงความดีของพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ดีกว่านะครับ เกาะพระดีกว่าเกาะอารมณ์ขุ่นนะครับจะได้สบายใจ บางทีผมเจอคนทำไม่ดีกับผม ผมก็โมโห แต่ก็จะบอกกับตัวเองว่าโกรธเค้าแล้วเค้าหรือเราที่แย่ เอาเป็นว่าเรายังดีไม่พอดีกว่าเค้าถึงโกรธเรา

 

ผมเองเจอมาตั้งแต่สมัยที่หลวงพ่อยังอยู่ หลังจากนั้นก็ไม่ได้เข้าไปอีกนับสิบปีจนท่านมรณะ ปีก่อนเพิ่งได้เข้าไปอีกนึกว่าจะได้เจอคนใหม่ที่น่าตารับแขก แต่ก็ยังเป็นคนเดิม เลยไม่อยากเข้าไปอีก น่าจะหาคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีๆหน่อยมาดูแลในเรื่องนี้ เพราะเราเข้าไปทำบุญมิได้ไปขอฟรีๆนะครับ

 

โมทนาบุญด้วยค่ะ ช่วยแจ้งท่านหน่อยก็ดีค่ะ ลูกหลานหลวงพ่อเช่นกัน
พวกเราคิดซะว่าเป็นการลดทิฐิตนเอง และก็ควรให้เขาปรับปรุงหน่อยเพราะท่านอื่น ๆ ที่ไม่เข้าใจจะพากันไปพูดสืบต่อ ๆ กันจะเสียหายถึงพ่อเช่นกัน

ส่วนยิ้มเคยมีประสบการณ์ว่า มีช่วงกลางวันหนึ่งนั่งรถไฟฟ้าไปเช่าพระให้รุ่นพี่ฯ ไม่ใช่ช่วงรับสังฆทานด้วย มียิ้มรอใช้บริการท่านอยู่คนเดียวกัน ท่านก็ได้แต่มองและคุยโทรศัพท์เสียเพลินเชียว เราก็นึกเมื่อไหร่เข้าจะวางสาย เราจะรีบทำธุระเสร็จจะไปทำงานจ๊ะ

วนไป วนมา เฝ้าอยู่หน้าตู้วัตถุมงคลแกก็ไม่ค่อยใส่ใจเลย กว่าจะจบปาไป 40 นาที กลับมาทำงานลูกค้าสวยยับเลย ฮื่อ ๆๆ ไม่อยากไปอีกเลยเช่นกัน

แต่ทุกวันนี้ก็มีเวลามากก็จะวนเวียนแวะไป แต่ส่วนใหญ่จะเป็นด้านหนังสือธรรมเสียมากกว่าค่ะ แล้วไปสังฆทานเลย

 

ถ้าไม่พร้อมจะบริการ ด้วยความยินดี ตั้งใจ ด้วยความรับผิดชอบ ในงานของตัวเองแล้ว ก็อย่ามาให้บริการเลยครับ ให้คนที่เค้าพร้อม ยินดีที่จะทำ มาให้บริการดีกว่า ผมว่ามีเยอะครับที่มีศรัทธาอยากทำ อีกอย่างทำให้คนส่วนใหญ่ ที่ไปใช้บริการเกิดความเบิกบานใจ ประทับใจ ในการไปแสวงบุญ ทำบุญ เป็นการให้ความเคารพและยกย่องหลวงพ่อทางอ้อมอีกด้วยครับ

 

ก็เห็นบางคนก็ตอบดี แต่บางคนก็อย่างที่เล่านั่นแหละ ช่างเขาเหอะ
เราเคยไปบ้านสายลมครั้งหนึ่ง บอกตรงๆว่า ไม่ค่อยชอบ คือ สถาน
ที่ดีมากๆ คนหลายคนดีมากๆ แต่ก็มีอีกหลายอย่างที่ทำให้เราไม่คิด
จะไป ไม่ได้ว่าไม่ดี แต่คงไม่ใช่แบบที่เราต้องการนะ อันนี้ไม่ได้ติว่า
ที่นี่ไม่ดี แต่ไม่เหมาะกับเรามากกว่า เคารพหลวงพ่อมากๆ

 

แหมมมมม......ก็ไม่เข้าใจคุณๆทั้งหลายจริงๆ??? ทำไมต้องไปสนใจกับคน"ช่วยขายของ"ที่บ้านสายลม.....เราไปทำความดีเราไปทำบุญ ทำไมถึงเอาจิตเอาใจไปเกาะกับคนเพียงไม่กี่คน ทำให้"จิตตก"ปล่าวๆ "ขาดทุน" อุส่าไปทำบุญทำความดีมา เมื่อก่อนสมัยที่หลวงพ่อยังอยู่พวก"ท่านผู้ใหญ่ลูกศิษย์เก่าๆ"ยังอยู่ ส่วนใหญ่จะเป็นราชนิกูลเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่(ใหญ่จริงๆแบบที่ตายแล้วมี"โกฏ"และ"ฉัตเบญจา"ไม่ใช่แค่"หีบทองพระราชทาน" ตอนไปหาหลวงพ่อพวกเราจะต้อง"มีระเบียบ"โดยปริยาย มาถึงวันนี้ถึงได้รู้ว่าเราได้สึ่งดีๆมาต้องมากมายจาก"บ้านสายลม" ในการเข้าสังคม ในการมีระเบียบแบบแผน ไปเมืองนอกเมืองนาฝรั่งมังค่าก็ชื่นชมอยากคบอยากเป็นเพื่อน เข้าสังคมหลือเข้าเฝ้าเจ้านายก็ไม่"เคอะเขิน" แต่"งง"ทำไม่พวกคุณไปแล้วแทนที่จะไปเอาสิ่งดีๆกลับมา แต่ดันไปสนใจกับคน"ขายหนังสือ" งง จริงๆจ้า.........

 

ฝูงชนกำเนิดคล้าย..............คลึงกัน
ใหญ่ย่อมเพศผิวพรรณ..........แผกบ้าง
ความรู้อาจเรียนทัน.............กันหมด
ยกแต่ชั่วดีกระด้าง..............อ่อนแก้ ฤๅไหว

พระราขนิพนธ์ ในล้นเกล้าพระพุทธเจ้าหลวง

Born men are we all...........and one,
brown, black by the sun.....culture.
Knowledge can be won.......alike.
Only hearts differ..............from man to man.

ประพันธ์แปลเป็นภาษาอังกฤษ โดย ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช

 

ไม่เห็นเคยเจอแบบนี้เลยแฮะ
ไปทีไรเขาก็พูดจาดีนิ

 

อะนูปะวาโท อะนูปะฆาโต เอตังพุทธานะสาสนัง
การไม่พูดร้าย การไม่ทำร้าย นี่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

วางอุเบกขาธรรม อย่านำมาใส่ใจ
นี่เป็นอกุศลวิบากของเรา เป็นอกุศลกรรมใหม่ของเขา
เมตตาต่อเขา วางสลัดคืนไป อนัตตา
เพราะการมีปฏิฆ ความโกรธ ส่งผลให้ต้องเกิด ภพ ยังวนเวียนอยู่ในวัฏฏต่อไปอีก
ขอโทษเขาที่เราถาม
ขอโทษเขาที่เรามาซื้อ
ขอโทษเขาที่เรามารบกวนเวลาเขา
ขอโทษที่เรามาที่นี่

แต่เราไม่ได้มาหาเขา เรามาหาธรรมมิใช่หรือ