เล่าสู่กันฟังครับ ไปฝึกมโนมยิทธิครั้งแรกที่บ้านสายลมมาครับ

ผลปรากฏว่าฝึกได้ครับ
ได้ในที่นี้คือมาทราบจริงๆภายหลังว่าได้ครับ ครูผู้ฝึกท่านมาบอกทีหลัง

เรื่องเป็นอย่างนี้ครับ เนื่องจากภาพที่ปรากฎ ณ ขณะฝึกนั้น เรียกว่า "มืดฟ้ามัวดิน" เลยก็ว่าได้ อาจเป็นเพราะการรักษาศีลก่อนมาฝึกนั้นไม่ดีพอ
และการตัดกายออกยังทำได้ไม่เด็ดขาด(ประเด็นนี้ครูผู้ฝึกท่านบอกมาครับ)
ซึ่งทำให้ผมเกิดความลังเลสงสัยขณะฝึกเหมือนกับผมจินตนาการไปเอง เพราะภาพที่ปรากฎนั้นช่างเลือนลางและมืดดำเสียเหลือเกิน
ตอนไปกราบท่านปู่ท่านย่า ตอนฝึกนั้นอารมณ์ของผมเหมือนเป็นทุกข์ครับ
ผมนึกถามท่านเลยว่า"ท่านใช่ท่านปู่ท่านย่าหรือไม่ครับ"
ภาพที่ปรากฎอย่างเลือนลางเต็มทีคือภาพของทั้งสองท่านพยึกหน้าให้เป็นการตอบคำถามจากผม ผมจึงเกิดอารมณ์เป็นสุขขึ้นมานิดหนึ่ง ว่าเราอาจทำได้ก็ได้
จากนั้นก็ทำตามจนจบการฝึก

ด้วยความไม่แน่ใจ ตอนครูฝึกถามทีละคนว่าเป็นอย่างไรบ้าง ได้ไหม พอถึงผม ผมจึงบอกท่านว่า "ไม่ได้ครับ มันมืดฟ้ามัวดินไปหมดเลยครับ" ท่านก็เลยเช็คให้ว่าไม่ผ่าน ...ซึ่งนั่นเป็นความหวังดีของครูผู้ฝึก อยากให้เรามาฝึกอีกเพื่อจะได้เป็นผลดีแก่ตัวเอง สุดท้ายพอครูผู้ฝึกเช็คหมดท่านก็เริ่มบอกแต่ละคนว่า ได้หรือไม่ได้ อย่างไร จนถึงตากระผม ท่านบอกว่า "ไหนบอกว่าไม่ได้ล่ะ ครูยังเห็นเธอก้มกราบพระพุทธเจ้าท่านอยู่เลย" แล้วท่านก็บอกสาเหตุว่าผมตัดกายไม่เด็ดขาดพอ จึงเกิดภาพที่มืดและเลือนลาง พอผมรู้ว่าเป็นเช่นนั้น ผมรู้สึกดีใจและโล่งใจเป็นอย่างมาก ว่าที่ผมเห็นนั้น ไม่ได้เกิดจากจินตนาการของผมเอง ผมมีความสุขมากครับที่รู้ว่าฝึกได้

ซึ่งแน่นอนครับ ผมจะกลับมาฝึกที่บ้านของตนเองเรื่อยๆ เพื่อให้ผลการปฎิบัติดีขึ้น และจะรักษาวิชามโนมยิทธิที่ได้มาอย่างดี ผมขออนุโมทนาบุญต่อครูบาอาจารย์ที่มอบวิชานี้ให้กับกระผม และผู้ที่ได้รับการฝึกทุกๆท่านด้วยนะครับ ทั้งที่ฝึกได้ผลและไม่ได้ และอยากให้ผู้ที่สนใจการฝึกมโนมยิทธิได้ไปรับการฝึกครับ
ผมอนุโมทนาบุญไว้ ณ ที่นี้เลยละกันนะครับ ขอให้ท่านประสบผลสำเร็จในการฝึกทุกๆคนครับ

ปล.หากมีความผิดพลาดประการใด ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ มือใหม่ครับ

 

ถึงสัมผัสไม่ได้เลยก็คุ้มที่จะไปพลังบุญบารมีที่แผ่ลงมาสุดยอดมากๆ

 

โมทนาสาธุบุญ และยินดีด้วยนะครับ...ฝึกได้แล้วทรงกำลังไว้ดีๆ ใหม่ๆมืดเป็นเรื่องธรรมดาครับ...

มโนมยิทธิ จะต่างกับจินตนาการ คือ มโนมยิทธิใช้จิตแรกสัมผัสไม่ผ่านการคิด จินตนาการผ่านการคิดครับผม.... ฝึกมโนมยิทธิต้องวางใจวางกาย วางหัวให้โล่งแล้วไปฝึกครับ....ไม่ต้องคิดต้องสงสัย ต้องกังวลอะไรไปก่อน อันนี้จะฝึกได้ดี...กรรมฐานสายหลวงพ่อปานต้องฝึกแบบโง่ๆก่อนครับ...โง่นี่คือรับฟัง....ต่อมาเราก็ค่อยฉลาดขึ้น...คือ รับรู้ด้วยตนเอง.. ถ้าฉลาดไปก่อนอย่าไปเลยครับ...

ทรงอารมณ์ไว้ให้ดีนะครับ...ยินดีด้วยครับ....ที่คุณสามารถพิสูจน์คำสอนของพระพุทธเจ้าได้แล้ว....

 

ขออนุโมทนาในความตั้งใจของคุณด้วยครับ เมื่อฝึกได้แล้วควรทำบ่อยๆ อย่าละทิ้งนะครับ เพื่อความแจ่มใสและความคล่องตัว ควรรักษาศีลให้บริสุทธิ์ด้วยครับ ขอโมทนาในความตั้งใจของคุณอีกครั้งครับ สาธุ

 

ขอโมทนาสาธุด้วยครับ
ไปมาสองครั้ง มืดตึ้บ แต่ครูว่าเห็นไปกราบพระอยู่ข้างบนทั้งสองครั้งเหมือนกันครับ

 

โมทนาบุญด้วยครับ ผมขึ้นไปครั้งแรกก็มืดครับ แต่อาจารย์ที่ฝึกให้ก็บอกว่า เห็นเดินตามคนอื่นเค้ามาต้อยๆ แต่มองซ้ายทีขวาทีเหมือนคนเอ๋อๆ ท่านก็แนะว่าเราติดเรื่องร่างกายนี่ล่ะครับ (มันเมื่อยอ่ะ) ถ้าตัดร่างกายได้จะยิ่งใสขึ้นเรื่อยๆ โมทนาบุญด้วยอีกครั้งครับ สาธุ

 

ขอกราบอนุโมทนาทุกความเห็นนะครับ เป็นประโยชน์และเป็นกำลังใจอย่างมากครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

ขออนุโมทนาในความเพียรและความตั้งใจของคุณเจ้าของกระทู้นะคะ สาธุค่ะ สาธุ..

 

ดีใจด้วยครับที่มีของเก่ามาแล้วสามารถทำได้ ผมยังไม่เคยลองเลยอาจไม่มีก็ได้ อนุโมทนาด้วยครับ

 

การมองเห็นจะชัดเจนหรือไม่ ไม่สำคัญเท่ากับ การได้เห็นตามความเป็นจริง


เจริญในธรรมครับ

 

อนุโมทนาด้วยคะ เราไปฝึกครั้งแรกมาแล้วเหมือนกัน คะ พอดีอยู่ ตจว แต่ครูฝึกก็บอกว่าได้นะคะ แต่ช่วงท้ายๆ ก่อนจบการฝึกนี่ รู้สึกเองคะว่าตัดไม่ขาดแบบว่ามันเมื่อย ขึ้นๆ ลงๆ อยู่หลายๆ ครั้ง พอจิตลงมาที่ตัวก็พยายามขึ้นไปใหม่คะ แหะๆๆๆ...... ก็กะว่า ถ้ามีช่วงไหนว่างๆ จะไปนั่งอีกเหมือนกันคะ ฝึกที่บ้านคนเดียว นี่มันไม่ค่อยชัวร์ แต่ก็พยายามคะ ผลของการฝึกที่บ้านก็ได้ในระดับนึงคะ มีท่านมาแนะนำว่าติดตัวเดียวเหมือนกันคะ เรื่องกาย อิอิ......โมทนาด้วยจริงๆคะ สู้ๆ