คนบ้ากามครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย wechza, 4 มกราคม 2012.

  1. wechza

    wechza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +246
    เอาตรงๆนะผมไม่อ้อมค้อม ตอนนี้ผมกามแรงมากช่วยตัวเองทุกวัน แต่ผมไม่อยากไปมีอะไรกับใครแต่ก็ดูหนังโป๊อยู่ตอนที่ดูก็ชอบนะบิวอารมตามหนังไปพอดูเสร็จช่วยตัวเอง มันจะมีคำถามขึ้นมาในใจว่า ทำไปทำไมของเน่าของเสียทั้งนั้นรู้แล้วทำเพื่ออะไร แต่พอวันไหม่มาอารมเกิดก็ทำไปทั้งๆที่รู้ว่ามันก็แค่เดิมๆเสร็จก็เลิกแต่เลิกไม่ได้สักทีเซงมาก ถ้าละกามในใจนี้ได้ผมคงมีความสุขมากแต่ก็ละไม่ได้สักที รู้อยู่แล้วว่าทำไปก็ไม่เกิดประโยชน์อันใดแต่ทำทำไมก็ไม่รู้
    ดูหนังโป๊ตาลุกวาว อ่านธรรมะจะหลับในทันใด
     
  2. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ผมก็ไม่แตกต่างไรจากคุณหรอก ผมก็คิดแบบคุณนั้นแหละ ผมก็ไม่รู้ทําไม ลองทําตามนี้ ไปหาวัดดีๆสักแห่ง หรือหาที่สงบๆ เจริฐกรรมฐาณ จะกองไหนก็ได้ ขอให้ กองนั้น สามารถ บรรลุ ฌาณ ปฐมฌาณ เพราะท่าน เข้าถึงปฐมฌาณ ท่านจะไม่สนใจในกามสักนิดเพราะมันสุขมากกว่า แต่เวลามันมีราคะ มีกาม แล้วผมนั่งสมาธิแล้วรอไม่ไหว ผมไม่ถึงขนาดนั้น นั่งปุ้บ เข้าฌาณปั้บมันต้องรอ

    เอ่อมีอีกวิธีลองคิดดูว่า ดาราสาวๆหนังโป๊พวกนี้ ถ้าอีก 70 ปีผิวเค้าจะเป็นยังไง ถ้าดาราพวกนั้น ไม่มีหนัง จะเป็นยังไง ถ้าจินตนการได้จะดีมาก ถ้าจะเอาอีกวิธี เวลามีอารมณ์กาม เข้าไป google แล้วพิมพ์อสุภะ แล้วเลือกดูรูปท่านจะหายเอง ถ้าไม่หายผมก็ไม่รู้จะทําไง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มกราคม 2012
  3. ไม่ใช่ใคร

    ไม่ใช่ใคร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +21
    หนังโป๊เป็นเพียงสื่อครับ มันก็แค่กระดาษมีรูปภาพ ที่คุณดูแล้วรู้สึกพึงพอใจ

    สิ่งที่คุณติดจริงๆ ก็คืออารมณ์ หรือจะเอาให้ชัดๆ คือกามารมณ์

    ซึ่งก็ไม่แปลก คนเกือบ100ทั้ง100บนโลกใบนี้ มันก็ติดกันทั้งนั้น เทวดาชั้นไหนเขาก็ติดกัน

    เพียงแต่มันต่างกันที่ความละเอียดในอารมณ์ บางคนติดมากขนาด ไปฆ่าข่มขืนผู้หญิง เพื่อจะได้เสพอารมณ์อันนี้ อย่างนี้ก็ไปนรกแน่นอน

    วิธีแก้ มันก็ไม่ใช่ไปแก้ที่ไหน มันก็แก้ที่ใจของคุณนั่นแหละครับ

    ธรรมชาติของจิตมันชอบไหลลงต่ำ ถ้าคุณอยากแก้ คุณก็ต้องทวนกระแส พาจิตของคุณขึ้นที่สูง

    มันไม่ได้ในครั้งเดียวหรอก แต่คุณต้องมีความพยายาม คิดให้ได้ทุกครั้ง

    ถ้ามันแพ้ใจตัวเอง ก็ไม่เป็นไร แต่ต้องพยายามคิดให้ได้ทุกครั้ง แล้วมันก็จะเป็นนิสัย(สันดาน)พอกพูกขึ้นมาในใจของคุณเองนั่นล่ะ

    มีเทคนิคนิดหน่อย คือ หัดสังเกตุอารมณ์ทางเพศเวลาที่มันเกิดขึ้นมาในคุณ เพ่งมันเหมือนกับที่คุณเพ่งลมหายใจเวลาทำสมาธินั่นล่ะ

    เมื่อคุณเพ่งไปหลายๆครั้ง คุณก็จะรู้สึกว่า มันก็เป็นของที่เคลือบจิตของคุณอยู่

    เมื่อคุณเห็นมันชัดเจนมากขึ้น ทีนี้คุณก็จะสามารถเพิกเฉยกับมันได้ ในที่สุดมันก็จะหลุดออกไปจากจิตของคุณเอง โดยที่คุณไม่ต้องตอบสนองอะไรให้มัน

    ผมไม่ได้บอกว่า มันทำได้ง่ายๆนะ แต่เห็นคุณอุตส่าห์เข้ามาโพสต์ถามในห้องนี้ ก็น่าจะมีหวังอยู่นะ

    ขอให้โชคดีครับ
     
  4. iphonix

    iphonix สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +0
    ...หาแฟนสักคน อิอิ...
     
  5. thai966

    thai966 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +14
    ผมเคยทำแบบนี้คือ ดูหนังไป ขณะที่ดูก็ดูความเปลี่ยนแปลงของร่างกายไปด้วย (แต่ไม่ทำอะไรกับมัน) ดูหนังจบก็ดูรูปศพ ต่อเลย (ดูหลาย ๆ ศพ) ผลปรากฏว่า ผมชนะมัน ดูจบก็จบกไม่มีอะไรเกิดขึ้น ( ที่จริงมีมากกว่านี้ เป็นต้นว่าขณะดูคนสองคนเสพกามกันก็พิจารณาให้เห็นเป็นกระดูด 2 โครงกำลังกระทบกัน....หรือไม่ก็ดูร่างกายตัวเองให้เป็นโครงกระดูกไปด้วย โครงกระดูกนั่งอยู่เฉย ๆ ที่เปลี่ยนแปลงคือ เนื้อ หนัง เอ็น ) เสร็จแล้วก็หารูปศพที่เน่าๆเฟะหนอนใต่มาดูต่อ....จบแล้วก็เลิกกัน
     
  6. นิโรธ

    นิโรธ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +67
    ฝึกอศุภะกรรมฐานบ่อยๆครับ
     
  7. กิดากร

    กิดากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,047
    ความต้องการทางเพศมันเป็นเรื่องธรรมดาของสิ่งมีชีวิต ธรรมชาติก็สร้างสมองส่วนนั้นมาใหญ่กว่าผู้หญิง ผู้ชายจึงคิดเรื่องนี้บ่อยกว่า ผมเองก็เป็น ผู้หญิงก็เป็น

    ในด้านกรรมฐาน จากประสบการณ์เนี้ย ถ้าจะละตรงนี้ให้ได้ต้องอาสัยกำลังของฌานช่วยครับ เพราะถ้ากำลังใจไม่เข้มแข็งถึงพระอริยะเพียงใดไม่มีทางที่จะเอาชนะกิเลสได้ถ้าไม่เอากำลังของฌานช่วย

    ผมเป็นมาก่อนจึงรู้ มันไม่ยากหรอก จับลมหายใจเอาก็ได้ ไม่จำเป็นต้องได้นาน แต่ทำบ่อยๆ นึกถึงลมหายใจบ่อยๆ เดี๋ยวจิตมันก็ชิน (ฌาน แปลว่าชิน) เมื่อทำไปแล้ว 1 เดือน 2 เดือน หัดสังเกตุอารมณ์ตัวเองว่า ความกำหนัดจะเบาลง เพราะจิตมันมีงานอื่นให้ทำ คือการจับลมหายใจ นั่ง นอน ยืน เดิน ได้หมด ก่อนหลับก็จับ ตื่นมาก่อนลุกจากที่นอนก็จับ จับจนจิตสบายแล้วหลังจากนั้นจะไปทำอะไรก็ไป รักษาอารมณ์สบายนั้นไว้อยู่กับใจให้นานที่สุด งานของคุณในด้านนี้เอาเท่านี้พอ เดี๋ยวพอฌานมันเกิดแล้วเดี่ญวคุณจะรู้เองว่าควรเอาชีวิตไปทำอะไรต่อ

    ถ้าขี้เกียจก็มีวิธีที่ง่ายกว่านี้คือ ก่อนนอน หรือว่าจากกิจก็เปิดเทปธรรมะของหลวงพ่อฤาษีท่านเทศน์จะเข้าใจหรือไม่เข้าใจก็ช่าง เปิดฟังไป ก่อนนอนก็ฟังจนหลับ ทำอย่างนี้ไป 1 เดือน 2 เดือน หรือจะนานเท่าใดก็ช่าง เมื่อไรที่จิตคุณเกาะกุศลได้ เดี่ยวปัญญามันเกิดเองว่าควรจะเอาชีวิตไปทำอะไรต่อ

    บางคนแนะนำว่าควรไปจับอสุภะ ผมก็เห็นด้วย แต่อย่าลืมว่าเรื่องกรรมฐาน มันเป็นเรื่องที่ต้องเข้าใจอารมณ์ ความชอบ หรือจริตตัวเอง ดูตัวอย่างของพระลูกชายนายช่างทองที่หลวงพ่อฤาษีท่านเทศน์ นั่นเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับคุณ ลองไปเปิดฟังในหมวดกสิณ 10 เน้อ ไม่มีใครอธิบายตรงนี้ให้คุณเข้าใจไปได้ดีกว่าหลวงพ่อหรอก ทุกสิ่งที่นักปฏิบัติกรรมฐานที่จะเอาดีมีอยู่ในเทปของหลวงพ่อหมดแล้ว.

    ผมเวลาฟังท่านเทศน์แล้วรู้สึกเคลื้อมแปลกๆ ฟังเท่าไรก็ไม่เบื่อ รู้สึกมีความสุขมาก สงสัยหลวงพ่อแกต้องท่องคาถามัดใจก่อนเทศน์ทุกครั้งแน่เลย ญาติโยมจะได้มีสมาธิในการฟังเทศน์.
     
  8. suthipongnuy

    suthipongnuy ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +1,428
    อย่าดูหนังโป๊ ภาพโป๊

    อย่ามองดูอวัยวะ...ของตัวเอง

    อย่าจับอวัยวะ...ของตัวเอง

    สุดท้าย อย่าไปสนใจอวัยวะ...ของตัวเอง
     
  9. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,514
    ค่าพลัง:
    +9,766
    สร้างสภาพแวดล้อมใหม่ ด้วย มนต์ตราบ้าง การฟังธรรมจากครูอาจารย์บ้าง
    อยู่ให้ไกลจากสิ่งเร้า เช่นหนังสือ เวบโป๊

    หากอยากดู ก็ให้รู้ว่าอยากดู เมื่อดูอยู่ ก็ให้ภาวนา ว่าเห็นหนอๆๆๆ
    หากเกิดอาการอยาก ก็ให้หนดว่า กำหนัดหนอๆๆๆๆๆ ไปเรื่อยๆ

    หากถึงที่สุดกำลังช่วยตนเองก็ให้สังเกตุอาการเกิดขึ้น คงอยู่และการลดลงของกำหนัด ที่จะลดลงๆๆ ลงเป็นลำดับๆๆ ไป

    เมื่อเห็นว่ากายยังมีกำหนัด ก็รู้ว่ามี ก็ถือว่าเห็นกาย ดูกายเรา ก็จะเห็นกายในกาย
    เมื่อจิตคลายกำหนัด ก็รู้ว่าคลาย สิ่งนี้เป็นการตามดูกาย ดูจิต ตามความเป็นจริง

    เมื่อทำบ่อยๆ คือเห็นการเกิดดับของของกายและจิตเมื่อเกิดกำหนัดและกระบวนการเสพกามมากๆ จะเกิดความเบื่อหน่ายไปเอง

    การบังคับไม่ให้เกิดกำหนัด ทำได้ยาก แต่การตามดู ตามรู้ ทำได้ง่ายกว่า

    นอกจากนั้นควร อยู่ในที่สาธารณะ
    เสพ กินอาหารน้อยๆแต่พอเลี้ยงธาตุขันธ์ อย่าบำรุงเพราะยิ่งกินอาหารปราณีตเช่น นำผึ้ง จตุมธุ จะบำเรอความกำหนัด

    ต้องเพิ่มอาหาร กิจจกรรม และปัจจัยที่ไม่บำเรอกาม คือการปฏิบัติ การเดินจงกรม กวาดบ้าน การสวดมนต์ การใคร่ครวญข้อธรรม การสร้างสัปปายะสภาพแวดล้อมที่ไม่อยู่คนเดียว
     
  10. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    เอ่อเอาแบบ ประสบการตัวเองเลยนะครับ
    กลั่นใจ ลบออกจากเครื่องให้หมด พอลบหมด
    แล้วทุกอย่างจะดีเอง และอย่าไปใจอ่อนเข้าไปดูคลิบละ
    คิดไว้ มันเป็นแค่ความสุขชั่วคราวที่ไม่รู้จักพอ
     
  11. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ............จริงจริง โทษ ของกาม (อาทีนวะ) ของกาม คือ มันไม่เที่ยง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป....มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา....ส่วนรสอร่อยของมัน(อัสสาทะ)เป็นตัวล่อให้เราติดกับ.........ทั้งทาง หุู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ...การภาวนาตามทางเท่านั้นถึงจะเข้าถึง อุบายนำออกเสียได้(นิสรณะ) ...............................อย่างเดียว ที่จะทำให้เราทำได้ นั้น คือ การเห็นความไม่เที่ยง ของรสอร่อยในเวทนานั้นนั้น....ทีนี้การภาวนาอย่างไรให้เข้าถึงความไม่เที่ยงจริงจริง ก็ ตามขั้นตอนนั้นแหละครับ....----------------------------คบสัปบุรุษ ยังให้ฟังสัทธรรมบริบูรณ์ ฟังสัทธรรมที่บริบูรณ์ ยังให้ศรัทธาบริบูรณ์ ศรัทธาบริบูรณ์ยังให้ โยนิโสมนสิการบริบูรณ์ โยนิโสมนสิการบริบูรณ์ยังให้ สติสัมปชัญญะบริบูรณ์ สติสัมปชัญญะบริบูรณ์ยังให้ อินทรีย์สังวรณ์บริบูรณ์ อินทรีย์สังวรณ์บริบูรณ์ยังให้ สุจริต3บริบูรณ์ สุจริต3บริบูรณ์ยังให้ สติปัฎฐานสี่บริบูรณ์ สติปัฎฐานสี่บริบูรณ์ยังให้ โพชฌงค์7บริบูรณ์ โพชฌงค์7บริบูรณ์ยังให้ วิชชา และวิมุติ บริบูรณ์---------------------------อย่ามองข้ามพระสูตร นะครับ พระสูตรนี้คือของมีค่ามาก คุณ ค่อยค่อยดูไป ทีละข้อตามพระสูตรนี้ นะครับ....จะเห็นว่ามีการปฎิบัติอยู่ในนั้น....ส่วนความหมายแต่ละข้อ คุณต้องไปหาเอาเองครับ:cool:
     
  12. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    ผมลองไปดู อสุภะ แล้วครับ ตอนนี้จะอ้วกแล้ว ไม่ไหวดูเกือบหมด
    ดูต่อไม่ได้ไม่งั่นอวกแน่
     
  13. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    กรณีที่เป็น เรื่อง ฮอร์โมน อันนี้ก็เรื่องหนึ่ง แต่ หากเราดูกันตาม ฮอร์โมน
    มันจะแค่ ถูกขับดันครั้งหนึ่งแล้วก็ถือว่า จบ

    แต่ถ้า การผลักดัน ทยานอยาก มากกว่า ครั้งหนึ่ง อันนี้ สังเกตุดีๆ ไม่ใช่
    เพราะ ติดกาม แต่ เพราะว่า เรา เสพติด

    เนื่องจาก การทำจนเสร็จ มันมี สารตัวหนึ่ง ให้ความรู้สึก ภาคภูมิใจเมื่อทำสำเร็จ
    เรียกตามเทคนิคว่า เอนโดฟิน

    ซึ่งปรกติ มันก็ให้สาร เอนโดฟิน มาแก่พอการผ่อนคลายความเครียดของ กล้าม
    เนื้อเอ็นไหล่กระดูก แต่เราไป สำคัญผิดกับสารตัวนี้ เรียกว่า เสพติด สารเสพ
    ติดที่ร่่างกายผลิตเอง

    ทำไมเป็นอย่างนั้น

    ก็พบว่า คนที่ไม่ได้เล่นกีฬา ที่ตัวเองชอบ ( มักเป็น กีฬาที่ตัวเองเป็นฝ่ายชนะ) จะ
    เกิดความท้อแท้ น้อยเนื้อ ต่ำใจ แสวงหาความสำเร็จ แสวงหาความยิ่งใหญ่ อยาก
    จะทำอะไรสำเร็จแบบใครๆเขา แต่ เราไม่กิจกรรมสัณทนาการชนิดอื่น แล้วถ้าประจวบ
    เหมาะว่า เป็นคนหมกมุ่นไม่เข้าสังคม ชอบอยู่คนเดียว เรียกว่า ไอ้ขี้แพ้ คนที่หา
    เวลาว่างไปทำกิจกาม จะค่อยโดน สารเอนโดฟินนี้ หลอกเอา ย้อมใจเอา ว่า นี่แหละ
    ความยิ่งใหญ่ของข้า นี่แหละความสำเร็จของข้า

    ถ้าเป็นแบบนี้ สังเกตเลย เวลา ท้อแท้ รู้สึกชีวิตไม่ประสบความสำเร็จ เดี๋ยวเอาแล้ว
    เข้าห้อง ปิดประตู ดูการกดข่ม ยกตัวเองเป็นจ้าว ย้อมจิตว่า ยิ่งใหญ่ได้แล้ว ความ
    สำเร็จเพียงชั่วเวลาไม่กี่นาที ก็หลอกตนได้ว่า โอย ใหญ่คับฟ้า ข้าแน่ ข้าหนึ่ง

    สังเกตไหม หากเราจะแก้จุดนี้ เคสแบบนี้ เน้นนะ ว่า เคสแบบนี้

    เราจะแก้กันที่ สักกายทิฏฐิ ต่างหาก เราไม่ได้แก้กันตรงการติดกาม ถ้าแก้ได้
    ตรงจุด แก้ที่ สักกายทิฏฐิ ก่อน เดี๋ยวการเสพติดกาม ก็หยุดเอง ปล่อยให้เป็น
    เรื่องของฮอรโมนไป

    วิธีทดสอบ จึง หากิจกรรมสันธนาการอื่นๆ ที่ทำให้เรา ภูมิใจในคุณค่าของตัวเรา
    เอง ถ้าทำได้แล้ว เราลืมเรื่อง สุขแบบนกกระจอกกินน้ำ ก็แปลว่า เราพบอุบายนำ
    ออกแล้ว

    แต่ในทางธรรม เราจะไม่เอากิจกรรมสันฐนาการอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการหลุดพ้นมาใช้

    ท่านจึงนิยมสอนให้เรา ทำทานใดสักอย่างให้สำเร็จ รักษาศีลให้สำเร็จ รักษาจิต
    ใจให้ตั้งมั่นได้สำเร็จ รวมเอาการรู้จักอุบายนำออกจากกามสำเร็จ มาร้อยเรียงดู
    ความแปรปรวน เล็งเห็นความแปรปรวนให้สำเร็จ เราก็จะสำเร็จงานทางธรรม

    ซึ่ง มีวันจบ!! ไม่เหมือน งานทางอื่น ที่ทำอย่างไรก็ไม่จบ
     
  14. ็HEAVEN CEMETERY

    ็HEAVEN CEMETERY Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +26
    สุสานสวรรค์

    ว่ากันแบบบ้านๆเลยนะครับ ก็....
    ไปทำอะไรที่ตัวเองชอบอย่างอื่นดูสิครับ
    เช่น เริ่มต้นก่อนก็อาจจะไปเล่นเกมส์สนุกๆที่ชอบ
    ขับรถเล่นชมวิว อ่านนิยาย ปลูกต้นไม้ ฟังเพลง
    ทำอาหาร อะไรก็ได้ครับ ที่ทำแล้วรู้สึกมีความสุขเหมือนกัน
    สมาธิก็จะไปอยู่กับสิ่งพวกนี้แทน ไม่ทำอะไรอย่างที่ว่าแล้วครับ

    แล้วค่อยๆพัฒนาจิตเราให้ดีขึ้นเรื่อยๆเมื่อเริ่มควบคุมได้แล้วครับ
    ลองดูนะครับ
    ;k07



    เชิญชม BLOG ทำบุญบริจาคโลงศพเพื่อการกุศลครับ
    >>>>>>>>>>> คลิก <<<<<<<<<<<
     
  15. chansinghvasin

    chansinghvasin Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +82
    คนหนุ่มเนาะพลังเยอะ ธรรมชาติเค้าให้มานิ ไม่ต้องไปกังวลดอกเรามันยังเป็นปุถุชนยังเป็นผู้เสพกามอยู่ ความสุขอันหนึ่งก้อกามโดยเฉพาะเรื่องเพศ ถามว่ามันมีความสุขมั้ยแน่นอนย่อมมี ถ้าไม่มีจะทำรึแล้วที่สำคัญเราก้อไม่ได้ไปละเมิดใครด้วย เมื่อความต้องการถูกบำบัดแล้วจึงมาพิจารณาว่าไม่น่าเลยเรา แล้วก้อมากังวลอีกว่าเรานี้มักมาก สุขที่ยิ่งกว่ากามนั้นมีอยู่ เพียงแต่เรายังไม่เคยได้สัมผัส หากได้ลิ้มรสซักนิดแล้วเราก้อจะเข้าใจเอง และกามก้อจะเบาลงเองแหละ สุขที่ว่ามาจากความสงบในสมาธิหากได้สัมผัสจึงจะรู้ แต่อย่างไรก้อตามเราไม่สามารถอยู่ในนั้นได้ตลอดเวลา หากเรายังดำริตรึกถึงกามอีกมันก้อกลับมายึดที่กามอีก แต่มันจะน้อยลง เหมือนคนที่เคยลิ้มรสน้ำผึ้ง เวลาลิ้มรสน้ำตาลก็จะรู้ว่ามันสู้น้ำผึ้งไม่ได้ แล้วเค้าก็จะหาทางไปลิ้มรสน้ำผึ้งอีก และก้อจะหาทางไปตีผึ้งเพื่อเอาน้ำผึ้งในที่สุด
     
  16. Fabreguz

    Fabreguz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +1,911
    เป็นธรรมดาของสัตว์โลกครับ ค่อยๆพิจารณาไป.. กามนี่ยากสุดในการตัด ในบรรดา โลภ โกรธ หลง.. โกรธ ถ้าเรารู้ทันก็ดับได้ง่าย โลภ ก็ตัดได้ง่าย.. แต่หลง ในรูป เสียง กลิ่น รส นี่ยากมาก โดยเฉพาะของเพศหญิงยากสุดของชาย ถ้าตัดได้นี่ บรรลุธรรมได้ง่ายแน่.. ค่อยๆฝึก
     
  17. ปุณยสิทธิ์

    ปุณยสิทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +468
    อนุโมทนาครับ
    เมื่อคุณเพ่งไปหลายๆครั้ง คุณก็จะรู้สึกว่า มันก็เป็นของที่เคลือบจิตของคุณอยู่

    เมื่อคุณเห็นมันชัดเจนมากขึ้น ทีนี้คุณก็จะสามารถเพิกเฉยกับมันได้ ในที่สุดมันก็จะหลุดออกไปจากจิตของคุณเอง โดยที่คุณไม่ต้องตอบสนองอะไรให้มัน


    ดูอะไรก็ดูให้บ่อย ๆ เดี๋ยวก็จะชัดเจนขึ้น(ไม่ใช่ดูหนังโป๊นะครับ ให้ดูกามที่เกิดขึ้น ดูซิว่ามันเป็นยังไงกันแน่) แล้วจะรู้ว่า "อ้าว! นี่ไม่ใช่เรา(จิต)นี่หว่า มันจะเป็นเราได้อย่างไรก็ในเมื่อมันไม่ได้อยู่กัีบเราตลอด มันเกิดขึ้นได้ก็เพราะเราน้อมจิตไปสู่อารมณ์นั้น ๆ นั่นเอง" พอดูไปอีกก็จะ "อ้าว! แล้วเราไปเอามันมายึดติดทำไม มันไม่ใช่เราซะหน่อย" ดูบ่อย ๆ ดูไม่ละเดี๋ยวก็คงจะได้เห็นอุปาทานต้นเหตุแห่งการยึดติดทั้งปวง
    ทั้งนี้ทั้งนั้น ศีลสำคัญมาก ภาวนาให้บ่อย มีสติรู้พร้อมทั่วกายให้ดีให้ได้ทั้งวันยิ่งดี(ผมยังทำไม่ได้เลยอันนี้)เดี๋ยวปัญญาที่ถูกที่ควรจะเกิดเองตามเหตุและปัจจัยนะครับ
     
  18. boatsa2538

    boatsa2538 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +90
    ขอตอบแบบธรรมดาๆ
    หมามันมีหน้าผสมพันธุ์ คนมันดีกว่าหมา มันมีความละอาย เราเป็นคนอย่าแพ้หมาในเรื่องนี้ ต้องเตือนด้วยประโยคแรงๆนะของฉัน มาแบบน้ำๆ ไม่ได้ ต้องเนื้อๆ กระแทกกิเลส เพราะถ้าปล่อยกิเลสขั้นหยาบ อย่าหวังจะละขั้นละเอียด โดยเฉพาะเรื่องนี้ มันเกิดครั้งแรกก็เออ สองเออ สามเออ ต่อ สี่ ห้า ... อย่างนี้มันไม่ใช่เรื่องธรรมชาติ ธรรมชาติต้องมีหน้าของมัน คนมันดีกว่าสัตว์ ถ้าคนเป็นอย่างนี้เขาไม่เรียกติด เขาเรียกเป็นนิสัย เป็นสันดาน ถ้าถูกผึกมาแบบนี้ ปล่อยมันมากๆ มันจะทำเพราะเคยชิน ไม่ใช่ทำเพราะอยากแล้ว ให้ลองพิจารณาดู ส่วนวิธีละนั้น ของฉัน ต้องกระแทกมันก่อน พอกระแทกมันลดลงๆ มันพอทนได้ สมบุกสมบัน สติปัญญาเรายังพอสู้ไหวเมื่อไรก็สู้เลย จัดให้อยู่หมัด แต่ถ้ามันมาถึง เอาสติตัวอ่อนของเราไปสู้ บร๊ะ สติตาย กายแตก นั่น เป็นเหตุเป็นผลมา ให้เราพัฒนาตัวสติตัวปัญญา นึกอุบายที่มันเหมาะกับเรา นี่แบบของฉันนะ ไม่ได้ให้ทำตามเสียหมด ถ้าตอนนั้นยังพอมีสติก็รีบฉุด รีบดึงมันออกมา พอเห็นพอดูได้ก็ดูตาม น้ำมันมามันก็ลดได้(เช่น น้ำท่วม )ไม่ต้องเอาเขื่อนไปกั้น ไปกั้นมันสักพักก็แตก ให้เอาเราขึ้นเรือดูน้ำขึ้นน้ำลด ให้ปฏิบัติอย่างนี้ไป ถ้าทนไม่ได้จริงๆก็เหลือวิสัย แต่ต้องสู้มันจริงๆ ไม่ใช่พอมันตั้งหมัด เราก็ยอมแพ้แล้ว นั่นไอ้หมาขี้แพ้ .

    ขออโหสิด้วยนะจร๊ะ ถ้าไปกระทบกระทั่งจิตใจใคร แต่ถ้ากระทบกิเลสก็ฝากกระแทกให้มันหลุด มันออกไปด้วยแล้วกัน อนุโมทนา.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 มกราคม 2012
  19. somkun62

    somkun62 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    275
    ค่าพลัง:
    +766
    พุทโธ...ไว้ไม่ผิดหวัง อิอิ (smile)(smile)(smile)(smile)(smile)
     
  20. naroksong

    naroksong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    412
    ค่าพลัง:
    +1,135
    ปัญหาทำนองนี้ พระเจ้ามหานามเคยตรัสถามพระพุทธเจ้าแล้วครับ

    พระพุทธเจ้าตรัสตอบ(ย่อๆ จากที่จำได้) ไม่ใช่แต่ท่านเท่านั้น แม้ตถาคตเมื่อยังเป็นโพธิสัตว์เมื่อไม่บรรลุปิติสุขอันเกิดจากเนกขัมมะ เราเองก็ไม่กล้ากล่าวว่าพ้นแล้วจากกามทั้งหลาย...อริยสาวกก็เช่นเดียวกัน เมื่อไม่บรรลุปิติสุขจากเนกขัมมะก็แน่นอนว่าจะเวียนมาหากามอีก แต่เมื่อเธอบรรลุปิติสุขจากเนกขัมมะเธอก็จะพ้นจากกามโดยแท้

    ----------------------------------------------------------
    ใจเย็นๆ ครับ การข่มกามราคะแม้ไม่บรรลุปิติสุขเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ แต่คงต้องใช้ความตั้งใจและระเบียบวินัยที่เข้มงวดอย่างมากแน่นอน เพราะการไม่เสพกามมันไม่ใช่วิสัยของฆราวาส

    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...