พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    .

    คิดสิ่งใดให้ประสบความสำเร็จ
    ทรัพย์ทั้งเจ็ดหนุนเนื่องทุกสมัย
    แม้นกำเนิดเกิด ณ ที่แห่งใด
    ให้พบไตรสรณะชำระมาร

    sithiphong
    31/12/2554

    .


    ที่มา -http://variety.siam55.com/data/1/0161.1/-


    .
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    .

    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 6 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 3 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong, somlatri, ปฐม+</td></tr></tbody></table>


    สวัสดีครับ ท่านน้องคนดัง


    .
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ปฐม [​IMG]
    สวัสดีครับคุณพี่หนุ่ม วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่บ้านผมฝนช่วยส่งท้ายทั้งวัน
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    .






    สวัสดีปีใหม่จ๊า


    .
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ปฐม [​IMG]
    สวัสดีปีใหม่เช่นกันครับพี่ท่าน ขอให้สุขภาพกายและสุขภาพใจดีทุกประการ
    </td> </tr> </tbody></table>

    คิดสิ่งใดให้ประสบความสำเร็จ
    ทรัพย์ทั้งเจ็ดหนุนเนื่องทุกสมัย
    แม้นกำเนิดเกิด ณ ที่แห่งใด
    ให้พบไตรสรณะชำระมาร

    sithiphong
    31/12/2554


    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    .

    คิดสิ่งใดให้ประสบความสำเร็จ
    ทรัพย์ทั้งเจ็ดหนุนเนื่องทุกสมัย
    แม้นกำเนิดเกิด ณ ที่แห่งใด
    ให้พบไตรสรณะชำระมาร

    sithiphong
    31/12/2554

    .


    ที่มา -http://variety.siam55.com/data/1/0161.1/-


    .
    </td> </tr> </tbody></table>
    -------------------------------------------------------------



    อ่านแล้วชอบมากครับ

    เยี่ยมมากสำหรับผู้แต่ง

    ขอคารวะครับ


    .
     
  3. นายเฉลิมพล

    นายเฉลิมพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +460
    สวัสดีปีใหม่สมาชิกชมรมพระวังหน้าทุกท่านครับ ขอให้ทุกท่านจงมีความสุขความเจริญทั้งทางโลก และทางธรรม ตลอดปี 2555 ครับ
     
  4. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
    สวัสดีปีใหม่ 2555 ครับทุกคน
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ่า ช็อก และ ตกตะลึงตึงๆๆๆๆๆ

    ทำไมเป็นอย่างนี้ล่ะเีนี่ย


    ----------------------------------------------

    ข่าวฟุตบอล ช็อกกันส่งท้ายปีก่อนเข้าสู่ปี 2012 เมื่อ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พ่ายพลิกล็อกต่อ "กุหลาบไฟ" แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส คาถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในเกมสุดมัน 3-2

    [​IMG]



    ผลบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
    วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม 2554

    สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 : 3 แบล็คเบิร์น
    ประตู :
    0-1 ยาคูบู น.16, 0-2 ยาคูบู น.51, 1-2 เบอร์บาตอฟ น.52, 2-2 เบอร์บาตอฟ น.62, 2-3 เฮนลี่ย์ น.80

    ไฮไลท์การทำประตูในเกมนี้

    ครึ่งแรก

    เกม เปิดฉากมาทางด้าน แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายบุกใส่ทีมเยือนดังคาด แต่ว่ากลับเป็น แบล็คเบิร์น ที่เพิ่งทำเซอร์ไพรซ์ด้วยการบุกไปยันเสมอ ลิเวอร์พูล ที่แอนฟิลด์ มา 1-1 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาที่ได้ประตูออกนำไปก่อนในนาทีที่ 16 จากจังหวะที่ เบอร์บาตอฟ ไปดึง คริส แซมบ้า ล้มในเขตโทษทำให้เป็นจุดโทษทันที และเป็น ยาคุบู ที่สังหารเข้าไป

    แมนฯ ยูไนเต็ด เดินเครื่องเอาคืนแต่หาจังหวะได้ลุ้นน้อย โดยมาได้ลุ้นเอาในนาทีที่ 29 จากจังหวะการจ่ายบอลของ ปาทริซ เอวร่า ให้ ชิชาริโต้ ได้พลิกตัวยิงบอลเฉี่ยวเสาสองออกไป ตามด้วยจังหวะการยิงไกลของนานี่ ที่ข้ามคานไปไม่ได้ลุ้น

    นานี่ มาได้โอกาสลองซัดอีกครั้งก่อนหมดครึ่งแรกโดยได้บอลเปิดจาก เอวร่า ก่อนที่จะเอาบอลลงแล้วซัดเร็วทันที แต่ว่าทางด้าน มาร์ค บันน์ ประตูดาวรุ่งที่เซฟเอาไว้ด้วยขา ก่อนเกมจะจบครึ่งแรกด้วยการนำของทีมเยือน 1-0

    ครึ่งหลัง

    เริ่ม มา 6 นาทีเป็น แบล็คเบิร์น ที่หนีไปเป็น 2-0 จากจังหวะที่พลิกบอลหลบ คาร์ริค ไปแตะหลบ ฟิล โจนส์ ก่อนหลุดไปซัดด้วยซ้ายลอดขา ดาบิด เด เคอา เข้าไป

    นาทีที่ 52 แมนฯยูไนเต็ดฉวยโอกาสในจังหวะที่แบล็คเบิร์นชะล่าใจ เขี่ยแล้วก็ทำเกมขึ้นมาทางด้านขวา เอ็นซองซี่ไปสกัดบอลไม่ดี ทำให้โดนราฟาเอลเปิดยัดสวนเข้าไป บอลเข้าทางเบอร์บาตอฟที่ตั้งหัวโหม่งส่งบอลเข้าประตูไป แมนฯยูไนเต็ดฟื้นเร็ว ตามมาเป็น 2-1

    เจ้าถิ่นตีเสมอเป็น 2-2 ได้ในนาที 62 จากจังหวะที่ อันโตนิโอ วาเลนเซีย กระชากบอลมาถึงเส้นหลังก่อนเปิดบอลมาหน้าประตูให้ เบอร์บาตอฟ วอลเลย์ด้วยขวาตุงตาข่าย

    ทีมเยือนหนีไปอีกครั้งเป็น 3-2 ในนาที 80 จากลูกเตะมุม มอเทนส์ กัมตส์ พีเดอร์เซ่น โยนบอลเข้าไปเสาไกล เด เคอา ออกมาชกบอลไม่ขาดโดน แกรนท์ แฮนลี่ย์ โหม่งเข้าประตูไป

    เวลาที่เหลือปีศาจแดงดาหน้าบุกเข้าใส่แต่ก็ยิงประตูเพิ่มไม่ได้จบเกม แบล็คเบิร์น บุกมาเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-2

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด :
    ดาวิด เด เกอา, ฟีล โจนส์, ไมเคิ่ล คาร์ริค [​IMG], ปาทริซ เอฟร่า, ราฟาเอล(คีน น.86), ปาร์ค จี ซุง, นานี่ [​IMG], อันโตนิโอ วาเลนเซีย, แดนนี่ เวลเบ็ค, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ(อันแดร์สัน น.45), ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

    ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : อันเดอร์ส ลินเดการ์ด, พอล พ็อกบา, มาเม่ บิราม ดิยุฟ, เอเซเกียล ฟรานเออร์ส, ลาร์เนลล์ โคล

    แบล็คเบิร์น : มาร์ค บันน์, แกรนท์ แฮนลี่ย์, คริสโตเฟอร์ แซมบ้า, อดัม เฮนลี่ย์, เจสัน โลว์ [​IMG], ราโดซาฟ เปโตรวิช [​IMG], มอร์เท่น กัมส์ป พีเดอร์เซ่น, รูเบน โรชิน่า(มอร์ริส น.55), ยาคูบู อเยกเบนี่(สลูว์ น.90), เมาโร ฟอร์มิก้า(กู้ดวิลลี น.85)

    ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : นิค แบล็คแมน, ไซม่อน วุคเซวิช, อมิเน่ คูอัมบ้า, แจ็ค คีน


    -http://football.kapook.com/news_inside.php?id=14702&key=news-

    .
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    "เฟอร์กี้" ชี้หายนะผีพ่ายกุหลาบ <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">1 มกราคม 2555 01:27 น.</td></tr></tbody></table>

    [​IMG] <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="350"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="350"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เฟอร์กูสัน ช็อกกับความพ่ายแพ้</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หมดอารมณ์ฉลองวันเกิดครบ 70 ปี หลังจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลาดท่าแพ้ต่อ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส คารัง 2-3 ในเกมพรีเมียร์ชิป อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยกุนซือชาวสกอตไม่พอใจที่ลูกทีมเสียประตูง่าย พร้อมระบุความพ่ายแพ้เป็น "หายนะ" เพราะทีมพลาดโอกาสทำคะแนนแซงหน้า แมนเชสเตอร์ ซิตี จ่าฝูงร่วมที่จะลงแข่งวันถัดไป

    แม้ว่า ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ยิงสองประตูช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไล่ตามตีเสมอ แบล็คเบิร์น 2-2 หลังจากทีมเยือนนำก่อนจากการซัลโวของ ยาคูบู แต่ความผิดพลาดของ ดาบิด เด เคอา ที่ออกมาตัดบอลพลาดในช่วง 10 นาทีสุดท้ายทำให้ แกรนท์ แฮนลีย์ โหม่งประตูชัย 3-2 ให้ "กุหลาบไฟ" บุกมาเก็บสามคะแนนเต็มแบบพลิกความคาดหมาย

    แมนฯ ยูไนเต็ด มีคะแนน 45 แต้มเท่าเดิม จนอาจถูก แมนฯ ซิตี ทิ้งห่าง 3 แต้ม ถ้าหาก "เรือใบสีฟ้า" เก็บชัยได้จากการบุกเยือน ซันเดอร์แลนด์ ในเกมลีกคืนวันอาทิตย์ที่ 1 ม.ค.

    ด้าน เฟอร์กูสัน เปิดเผยหลังจบแมตช์ด้วยความไม่พอใจกับเกมรับของทีม "ผมคิดว่าเราน่าจะทำได้ดีกว่านั้น เราเสียประตูแบบแย่ๆ 2 ลูก ซึ่งคุณไม่สามารถทำแบบนั้นได้ มันเป็นหายนะ ผมแทบไม่อยากเชื่อและไม่คาดคิดก่อนเลย ส่วน แบล็คเบิร์น ก็สู้กันแบบถวายหัว พวกเขาตั้งรับดีจริงๆ บล็อกลูกยิงทั้งวัน แต่การที่เราเสียประตูแบบนั้นเปิดโอกาสให้พวกเขากลับมาได้"

    ขณะที่ แบล็คเบิร์น เก็บชัยชนะนัดที่ 3 ของฤดูกาลทำให้ทีมหนีจากบ๊วยของตาราง โดย สตีฟ คีน กุนซือเก้าอี้ร้อน ก็กล่าวหลังจบเกมว่า "นี่เป็นผลการแข่งขันที่สำคัญมาก การมายังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยตัวผู้เล่นที่อายุน้อยและเก็บชัยชนะกลับออกไปได้ อีกทั้งเราก็ได้หนึ่งแต้มสำคัญที่แอนฟิลด์ (เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 ในเกมก่อนหน้านี้) จะเป็นจุดเริ่มต้นให้เราก้าวต่อไป"

    -http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9550000000010-

    ------------------------------------------------------------

    วันเกิดป๋ากร่อย! ผีพ่ายกุหลาบ 2-3 <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">31 ธันวาคม 2554 21:38 น.</td></tr></tbody></table>

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert.gif" valign="middle" width="1">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="right" height="1" valign="top" width="1">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/linedot_hori.gif" height="1" valign="top">[​IMG]</td> <td align="left" height="1" valign="top" width="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> เซอร์ อเล็กซ์ ถึงกับเครียด


    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">นานี พยายามแตะบอลหนี โรชินา</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">โจนส์ ดวลลูกโหม่งกับ ยาคูบู</td> </tr> </tbody></table>


    งานฉลองวันเกิดครบรอบ 70 ปีของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กร่อยลงทันที หลังจาก "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกล็อกแพ้คารังต่อ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 2-3 ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดส่งท้ายปี เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 31 ธ.ค.2554

    ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
    แมนฯ ยูไนเต็ด 2 - 3 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส

    แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับมือ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เพื่อทำคะแนนแซงหน้า แมนเชสเตอร์ ซิตี ขึ้นนำจ่าฝูงเดี่ยวๆแบบชั่วคราวเป็นของขวัญแก่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เจ้านายชาวสกอตที่อายุครบ 70 ปี แต่เกมนี้ "ผีแดง" มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายคน รวมถึง เวย์น รูนีย์ กองหน้าคนสำคัญที่บาดเจ็บจนไม่มีแม้แต่ชื่อบนม้านั่งสำรอง ไมเคิล คาร์ริก ถูกจับมายืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ ฟิล โจนส์ ขณะที่ ราฟาเอล และ แดนนี เวลเบ็ก โดนโยกมายืนแผงกลาง ส่วนคู่หน้าเป็น ชิชาริโต และ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ยืนล่าตาข่ายร่วมกัน ทางฝั่ง "กุหลาบไฟ" เน้นความเหนียวแน่นอัดกองกลาง 5 คน โดยมี ยาคูบู เป็นหัวหอกตัวอันตราย

    เปิดฉากครึ่งแรกนาที 7 แมนฯ ยูไนเต็ด ทักทายก่อน นานี สับไกยิงจากนอกเขตโทษ แต่เหินคานข้าม หลังจากนั้นนาที 15 มาร์ก บันน์ นายด่านทีมเยือนวางบอลยาวเข้าไปในเขตโทษ "ผีแดง" บอลมาถึง คริส แซมบา พยายามพักอกเอาบอลลง แต่ถูก เบอร์บาตอฟ ซึ่งประกบดึงล้มลงจนได้ลูกจุดโทษ ยาคูบู รับหน้าที่สังหารไม่พลาดให้ แบล็คเบิร์ก ขึ้นนำแบบพลิกความคาดหมาย 1-0

    หลังจากเสียประตู เจ้าบ้านทำเกมบุกกดดันหนัก ในนาที 28 จากลูกเตะมุม เบอร์บาตอฟ โหม่งบอลเช็ดมาให้ โจนส์ พยายามยิงไปติดแผงหลังทีมเยือน นาทีถัดมา ชิชาริโต มีจังหวะพลิกตัวยิงหน้าเขตโทษ บอลพุ่งเรียดหลุดเสาสอง

    ต่อมานาที 32 เวลเบ็ก กับ ชิชาริโต พยายามกันต่อบอลเข้าไปในเขตโทษอาคันตุกะ บอลติดแนวรับ ก่อนมาเข้าทาง นานี ซัดด้วยขวาเหินข้ามคาน แมนฯ ยูไนเต็ด ได้โอกาสทางในนาที 44 ปาทริซ เอฟรา วางบอลจากกราบซ้ายมาให้ นานี ตวัดยิงในเขตโทษ แต่ บันน์ พุ่งปัดออกหลัง ทำให้จบครึ่งแรกเจ้าถิ่นเป็นฝ่ายตามหลัง

    เกมครึ่งหลังผ่านมา 5 นาที แฟนบอลในสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็ถึงกับเงียบกริบเมื่อ แบล็คเบิร์น ทำสกอร์นำห่าง 2-0 จากจังหวะที่ ยาคูบู ได้บอลจากลูกทุ่ม ก่อนพลิกหนี คาร์ริก ซึ่งสกัดพลาด อีกทั้งศูนย์หน้าไนจีเรียยังแตะบอลหลบ โจนส์ จนหลุดเข้าเขตโทษ แล้วซัดลอดขา ดาบิด เด เคอา ซุกก้นตาข่าย

    แต่นาที 52 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไล่ตีตื่นขึ้นมาเป็น 1-2 อย่างรวดเร็ว อันโตนิโอ วาเลนเซีย ได้บอลหลุดขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนเปิดเข้ากลาง กองหลังทีมเยือนสกัดไม่เด็ดขาด บอลมาถึง ราฟาเอล ตวัดบอลมาหน้าปากประตู เบอร์บาตอฟ โขกไม่เหลือซาก

    ลูกทีมของ เฟอร์กูสัน ได้ใจเดินทางกดดันต่อ กระทั่งนาที 62 ก็ตามตีเสมอ 2-2 ได้สำเร็จ มอร์เทน กัมสท์ พีเดอร์เซน เตะเคลียร์บอลจากกรอบเขตโทษไม่ดี ก่อนที่ วาเลนเซีย ได้บอลกระชากขึ้นมาทางริมเขตโทษด้านขวา แล้วเปิดมาให้ เบอร์บาตอฟ ตวัดยิงบอลตุงตาข่าย

    หลังจากนั้น "กุหลาบไฟ" ทำได้เพียงแต่ตั้งรับแล้วรอจังหวะสวนกลับ ขณะที่เจ้าถิ่นพับสนามบุกแต่ก็ทำประตูแซงนำไม่ได้ กระทั่งเกมเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย แบล็คเบิร์น มาได้ลุ้นเตะมุม พีเดอร์เซน วางบอลเข้ามาในเขตโทษ เด เคอา ออกมาตัดบอลพลาดบอลลอยไม่พ้นจนถูก แกรนท์ แฮนลีย์ โถมโหม่งหน้าประตูเข้าไปให้ทีมเยือนขึ้นนำอีกครั้ง 3-2

    แมนฯ ยูไนเต็ด ฮึดทำเกมบุกในช่วงท้าย แต่ก็ไม่สามารถเจาะแนวรับของ แบล็คเบิร์น เข้าไปทำประตูตามตีเสมอได้ กระทั่งจบเกมจึงแพ้ไปแบบพลิกล็อก พลาดโอกาสทำคะแนนแซงหน้า "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี ขึ้นนำจ่าฝูงแบบเดี่ยวๆ ขณะที่ แบล็คเบิร์น หนีจากบ๊วยขึ้นมาอยู่อันดับที่ 18 ของตาราง

    รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
    แมนฯ ยูไนเต็ด : ดา บิด เด เคอา, ฟิล โจนส์, ไมเคิล คาร์ริก, ปาทริซ เอฟรา, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ปาร์ก จี ซอง, ราฟาเอล, แดนนี เวลเบ็ก, นานี, ฮาเวียร์ เฮร์นานเดซ, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
    แบล็คเบิร์น : มาร์ก บันน์, แกรนท์ แฮนลีย์, คริส แซมบา, อดัม เฮนลีย์, เจสัน โลว์, รูเบน โรชินา, ราโดซาฟ เปโตรวิช, สตีเวน เอ็นซอนซี, มาร์เทน กัมสท์ พีเดอร์เซน, เมาโร ฟอร์มิกา, ยาคูบู


    -http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9540000166893-

    .
     
  7. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    สงสัยมันจะแก้ให้เอง เพื่อให้ตรงกับความเป็นจริงน่ะครับ vbvb
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    3 ธุรกิจดาวเด่นปีมังกรทอง ตอบโจทย์ยุคบริโภคนิยม <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">29 ธันวาคม 2554 12:29 น.</td></tr></tbody></table>


    [​IMG] <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="500"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> @จับตาเทรนด์ธุรกิจร้อน มาแรงแห่งปี 2012

    @อาหารญี่ปุ่น-คอมมูนิตี้มอลล์-สินค้าสีเขียว

    @เปิดฉากงัดกลยุทธ์การตลาดหนักชิงลูกค้า

    @พาเหรดรายเก่า-ใหม่ กระแสตื่นตัวสิ่งแวดล้อมเข้มข้น

    ประเดิมธุรกิจแรก ได้แก่ ร้านอาหารญี่ปุ่น ที่ค่ายใหญ่แห่เปิดตัวลงมาชิงดำ หวังฮุบตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นที่ส่อเค้าว่าจะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี รวมถึงค่ายใหญ่อย่างเซ็นทรัล และใบหยก ลงประเดิมเปิดตัวร้านเป็นครั้งแรก ขณะที่ฟากของสิงห์ และอิชิตัน เตรียมขยายสาขาเพิ่ม พร้อมงัดกลยุทธ์ช่วงชิงลูกค้ากันอย่างรุนแรงในปีหน้า

    ตามด้วยกลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าในเซกเมนต์คอมมูนิตี้มอลล์ ที่คาดว่ายังคงแรงต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อผู้ประกอบการหน้าเดิม และหน้าใหม่ เตรียมแห่เปิดตัว พร้อมกับที่เป็นข่าวและเตรียมดีเดย์เปิดตัวในปีหน้า ไม่ว่าจะเป็นค่ายใหญ่ เมกะ บางนา, ธัญญะ ช็อปปิ้ง พาร์ค ของกลุ่มธนิยะ และจตุจักร กรีน ของกลุ่มไฮทราฟฟิค มีเดีย

    นอกจากนี้ยังมีสินค้าใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมหรือกรีนโปรดักส์ก็เป็นดาว เด่นในปีหน้าเช่นกัน เพราะมหาอุทกภัยในปีนี้ ทำให้กระแสผู้บริโภคกับการตื่นตัวเรื่องสิ่งแวดล้อมจึงเกิดขึ้นเป็นเท่าตัว

    หน้าเก่า-รายใหม่ อาหารญี่ปุ่น
    เตรียมบุกหนักเร่งขยายสาขา

    สำหรับธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นยังพุ่งแรงต่อเนื่อง รับกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่นิยมรับประทานอาหารญี่ปุ่นเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะรูปแบบบุฟเฟต์ที่วัยรุ่นและวัยทำงานตอนต้นนิยมอย่างมาก เพื่อการสังสรรค์ และมีกิจกรรมร่วมกัน ดังนั้น เรื่องสุขภาพ และการมีกิจกรรมร่วมกัน จึงเป็นจุดประสงค์อันดับต้นๆ ที่กลุ่มเป้าหมายนิยมเลือกรับประทาน

    เทรนด์การบริโภคอาหารญี่ปุ่นในเมืองไทย จะเป็นรสชาติเดียวกับญี่ปุ่น จากเดิมที่ร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยจะเป็นอาหารที่ถูกดัดแปลงให้ถูกปากคนไทยมาก ที่สุด ปัจจุบันตลาดอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยมีมูลค่าถึง 10,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตในระดับ 10-15% ต่อปี

    “ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในปีหน้ามีทิศทางสดใส และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างแน่นอน เพราะผู้บริโภคคนไทยส่วนใหญ่ยังชื่นชอบการรับประทานอาหารญี่ปุ่น ซึ่งจะเห็นว่าผู้เล่นหน้าใหม่ และหน้าเดิม ต่างก็แอกทีฟลงมาบุกตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นจำนวนมาก ซึ่งเป็นการช่วยปลุกกระแสตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นให้คึกคัก” รองประธานกรรมการ กลุ่มโรงแรมใบหยก ปิยะเลิศ ใบหยก กล่าว

    สำหรับรูปแบบและการจัดตกแต่งร้านก็มีส่วนสำคัญในการดึงดูดผู้บริโภค เข้าร้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปแบบบุฟเฟต์ ซึ่งเป็นโมเดลที่ได้รับความนิยมมากในกลุ่มคนไทย เพราะนอกจากได้รับประทานอาหารที่สร้างความรู้สึกคุ้มค่าคุ้มราคาแล้ว ยังเป็นการทำกิจกรรมสังสรรค์ร่วมกันอีกด้วย

    “คาดว่าร้านอาหารญี่ปุ่นในรูปแบบแฟรนไชส์ จะได้รับความนิยมสูง กับผู้ประกอบการหน้าใหม่ เพราะแฟรนไชส์สามารถนำมาต่อยอดทำตลาด ไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งระบบ เพราะทั้งมาตรฐาน รสชาติอาหาร และการทำตลาดถูกวางไว้อย่างเป็นระบบเพียงนำมาต่อยอด และเพิ่มการบริการในสไตล์คนไทยที่เอาใจใส่ลูกค้า ซึ่งกลุ่มใบหยก นำร้าน “Gyu-Kaku สไตล์บาร์บีคิว ที่เพิ่งซื้อแฟรนไชส์มาก็ยึดตามแนวทางดังกล่าวเช่นกัน”

    ด้านกลุ่มเซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี เจ้าของแบรนด์อาหารหลากหลาย ก็เป็นหนึ่งในบรรดากลุ่มทุนขนาดใหญ่ ที่หันมาปรับนโยบายการทำธุรกิจ จากเดิมที่เน้นทำแบรนด์อาหารจานด่วนแนวตะวันตก โดยเฉพาะในกลุ่มสแน็ก ขนมหวาน หรือไลต์ฟู้ด ก็เปลี่ยนมาโฟกัสที่ร้านอาหารญี่ปุ่น ในชื่อ โยชิโนยะ

    ขณะที่ฟากของ “ตัน ภาสกรนที” เจ้าของชาเขียวอิชิตัน มองว่า จากนี้ไป 2-3 ปีจะมีร้านอาหารญี่ปุ่นที่เป็นร้านเฉพาะอย่างเกิดขึ้นจำนวนมาก เพราะเห็นพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีความต้องการร้านอาหารญี่ปุ่นมากขึ้น โดยร้านราเมงที่นำเข้ามา ได้แก่ “Tsujita”, “Setagaya”, “Kibi”, “Gokumiso”, “Taishoken” และ “Shodai Keisuke” ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการพบว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าคนไทยเป็นอย่างดี ในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะขยายร้านในรูปแบบของมัลติแบรนด์นี้ออกไปอีก

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="260"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="260"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ค้าปลีกคอมมูนิตี้มอลล์ฮอตข้ามปี

    ห้างค้าปลีกในเซกเมนต์คอมมูนิตี้มอลล์ ยังแรงต่อเนื่องข้ามไปยังปีหน้า ค่ายเดิม-ค่ายใหม่ แห่เปิดตัวรับกระแสผู้บริโภคนิยม โดยการเกิดใหม่ของคอมมูนิตี้มอลล์ ยังคงดาหน้าเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง กระจายไปทุกพื้นที่ทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อรับกำลังซื้อคนย่านชานเมือง

    ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังระบุถึงแนวโน้มของธุรกิจค้าปลีกที่คาดว่าจะได้รับความนิยมต่อไปในอนาคต ว่า จะต้องเป็นการลงทุนขยายสาขาของธุรกิจค้าปลีกที่เน้นรูปแบบให้สอดคล้องกับ พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและเข้าถึงแหล่งชุมชนมากขึ้น อาทิ รูปแบบร้านค้าขนาดเล็กและคอมมูนิตี้มอลล์ โดยเฉพาะคอมมูนิตี้มอลล์ซึ่งมีกระแสค่อนข้างแรง ที่มักจะขยายตัวไปตามแหล่งชุมชนในย่านปริมณฑลที่มีหมู่บ้านและชุมชนหนาแน่น

    จะเห็นว่า ปัจจุบันในยุคที่ชุมชนขยายตัว เกิดเมืองใหม่ ชุมชนใหม่ ซึ่งจะเห็นว่าทุกวันนี้เมืองถูกขยายออกไปมากขึ้น มีหมู่บ้านจัดสรรเกิดใหม่จำนวนมาก รวมถึงส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าก็ถูกขยายตามไปด้วยเช่นเดียวกัน ทำให้เป็นโอกาสของธุรกิจค้าปลีกรูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์ ที่สามารถเข้าไปให้บริการได้ถึงชุมชน จนมีผู้ประกอบการหน้าใหม่พร้อมโดดเข้ามาร่วมสมรภูมินี้มากมาย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่รูปแบบค้าปลีกคอมมูนิตี้มอลล์จะเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด เพื่อสนองตอบต่อผู้บริโภคยุคนี้นั่นเอง

    “เทรนด์คอมมูนิตี้มอลล์ในอนาคต จะเน้นความเป็น Unique มากขึ้น มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่เหมือนใคร ตั้งแต่รูปแบบการจัดตกแต่งภายในศูนย์การค้าทั้งภายในและภายนอกต้องมีดีไซน์ โดดเด่นแตกต่างจากที่อื่น สร้างความรู้สึกถึงบรรยากาศที่มีความเป็น Unique ดึงดูดให้ลูกค้าต้องมาที่นี่เท่านั้น รวมถึงร้านค้าต่างๆ ที่เช่าพื้นที่ต้องมีความน่าสนใจ แตกต่างจากร้านอื่น รวมสิ่งที่เรียกว่า “เอกลักษณ์เฉพาะ” ไว้ทั้งหมด ตลอดจนรูปแบบโปรโมชั่นต้องแรงและหนัก ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่าคุ้มราคา ที่สามารถจับต้องได้จริง” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการด้านส่งเสริมการตลาด บริษัท พาราไดซ์พาร์ค จำกัด เหมือนฝัน ธัญไพสิษฐ์ กล่าว

    วิจัยคอมมูนิตี้มอลล์บูม!

    ด้านศูนย์วิจัยเอแบคนวัตกรรมทางสังคม การจัดการและธุรกิจ เปิดเผยถึงผลการสำรวจพฤติกรรมและความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯ ที่มีต่อศูนย์การค้าขนาดย่อม ที่เปิดขายสินค้าบริการในแหล่งชุมชน หรือคอมมูนิตี้มอลล์ ซึ่งส่งสัญญาณทิศทางคอมมูนิตี้มอลล์ในปีหน้าว่า ประชาชน ร้อยละ 68.7 ไปคอมมูนิตี้มอลล์เดือนละครั้งเพื่อชอปปิ้ง เดินเล่นดูสินค้า รับประทานอาหาร และเป็นแหล่งนัดพบสังสรรค์

    ร้อยละ 52.5 เห็นว่า เหตุผลที่เลือกไป เนื่องจากเห็นว่าอยู่ใกล้บ้าน ตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสม เดินทางสะดวก นอกจากนี้ พบด้วยว่า คอมมูนิตี้มอลล์ ไม่ได้มีภาพลักษณ์ในเรื่องของการชอปปิ้งที่โดดเด่นเหนือห้างสรรพสินค้า หรือศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ทั้งสินค้าอุปโภค บริโภค สินค้าแฟชั่น นอกจากความโดดเด่นในเรื่องของการใช้เป็นแหล่งพบปะสังสรรค์และรับประทานอาหาร

    นักชอปส่วนใหญ่ที่เดินทางมาคอมมูนิตี้มอลล์ เป็นผู้หญิงมากถึงร้อยละ 53.4 และร้อยละ 46.6 เป็นผู้ชาย อายุ 18-24 ปี มีร้อยละ 13.3 เท่านั้นที่เดินทางมาคอมมูนิตี้มอลล์ ส่วนอายุ 34-39 ปี มีร้อยละ 18.6 และร้อยละ 33.3 มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 40-50 ปี และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป ที่มาคอมมูนิตี้มอลล์มีมากถึงร้อยละ 63.7

    “สินค้า” สู่การใส่ใจสิ่งแวดล้อม

    แนวโน้มปีหน้าดูเหมือนว่า สินค้าเพื่อสิ่งแวดล้อมกำลังมาแรง รับกระแสมหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น ซึ่งสร้างความเสียหายในเศรษฐกิจไทยทั้งระบบ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า จากสิ่งดังกล่าวทำให้ผู้บริโภคตื่นตัวในการใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การเลือกซื้อสินค้าเพื่อสิ่งแวดล้อม จึงกลายเป็นตัวเลือกสำคัญและเป็นเหตุผลอันดับต้นๆ ที่ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อ

    ผลกระทบเรื่องสิ่งแวดล้อม หรือ Global Warming เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดอุทกภัยครั้งรุนแรงในประเทศไทย ตั้งแต่ย้อนไปถึงการตัดไม้ทำลายป่า ทำให้ไม่มีต้นไม้ชะลอการไหลของน้ำ ปัญหาของภาวะโลกร้อนที่ทำให้แต่ละปีมีน้ำเก็บกักมาก ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ผู้ประกอบการใส่ใจการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวด ล้อม

    “แนวโน้มในปีหน้า ผู้บริโภคจะหันมาให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น พฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าจะเน้นสินค้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วย โดย บริษัทมีความมุ่งมั่นให้เด็กได้เล่นและเรียนรู้อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติมาก ที่สุด ใช้ไม้ยางพารามาผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ด้วยการออกแบบนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามแนวทาง Eco Products เพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อมในทุกๆ ด้านให้มากที่สุด ภาพรวมของแนวคิดในการผลิตมีการมองให้ตลอดวัฏจักรชีวิต (Life Cycle) ตั้งแต่ Resources, Materials/Parts, Design, Production, Transport, Use/Repair, End of Life” ประธานกรรมการ บริษัท แปลน ครีเอชั่น จำกัด วิฑูรย์ วิระพรสวรรค์ กล่าว

    สินค้าสู่พลวัตแห่ง “Green+Eco Product”

    นักการตลาด และนักสร้างแบรนด์ อย่าง ดร.ศิริกุล เลากัยกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท Brandbeing Consultant จำกัด เห็นว่า Green Product หรือ Eco Product ไม่ใช่เรื่องกระแส แต่เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องทำ ทั้งเจ้าของธุรกิจ และผู้บริโภค เพื่อนำไปสู่การทำเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน จะเห็นว่าปีหน้านี้ เรื่องการตลาดสีเขียว หรือกรีน มาร์เกตติ้ง จะถูกนำมาใช้มากขึ้นโดยปราศจากการบีบบังคับ แต่ผู้ประกอบธุรกิจยุคใหม่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม และไม่เน้นการแสวงหาผลกำไรอย่างเดียว (Make Profit)

    แนวโน้มของผู้ประกอบธุรกิจต่อจากนี้ จะนำเรื่องของ Green Product หรือ Eco Product มาใช้ในผลิตภัณฑ์มากขึ้น รูปแบบการทำตลาดสีเขียวก็จะถูกนำมาเกี่ยวพัน โดยจะไม่ใช่ทำการตลาดเพื่อกระแสนิยม หรือที่เรียกว่า Green Washing แต่จะทำบนฐานแห่งความยั่งยืน แม้ว่าปัจจุบันผู้ประกอบธุรกิจที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมยังมีอยู่จำนวนน้อย แต่เชื่อว่าจะมีคนให้ความสำคัญเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน

    ด้านผู้บริโภคก็เช่นเดียวกัน เริ่มหันมาให้ความสำคัญและใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เวลาเลือกซื้อสินค้าก็จะพิจารณาองค์ประกอบเรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่อง Eco Products ก่อนการตัดสินใจซื้อ เพราะผู้บริโภคยุคใหม่นี้เริ่มเข้ามามีส่วนร่วมต่อสิ่งแวดล้อม แม้จะมีผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องนี้ยังน้อย และไม่ได้เติบโตแบบก้าวกระโดด แต่เชื่อว่าจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอน อย่าลืมว่าผู้บริโภคยุคใหม่รู้จักบริโภคอย่างชาญฉลาด
    </td></tr></tbody></table>

    -http://www.manager.co.th/mgrweekly/ViewNews.aspx?NewsID=9540000165953-

    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    3 โหรฟันธงเพชฌฆาตฤกษ์ “การเมืองวิบัติ-ผู้คิดคดชาติ” หมดสิทธิ์ลอยนวล! <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">29 ธันวาคม 2554 10:31 น.</td></tr></tbody></table>

    -http://www.manager.co.th/mgrweekly/ViewNews.aspx?NewsID=9540000165855-


    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="baseline"> 3 โหรชื่อดังฟันธง!! ดวงเมืองปีหน้าแรงสุดๆ ส่งผลให้ปีหน้าเศรษฐกิจทรุดหนัก ระวังวงการการเงิน-การคลังปั่นป่วน ตลาดทุนหุ้นกระฉูดเร็วแต่ตกแรง พร้อมเตือน นักการเมือง ผู้นำทางธุรกิจ ทหาร ตำรวจที่เคยหมกเม็ดเรื่องลับๆ จะถูกเปิดเผย ชี้เรื่องอุบัติภัย วาตภัย อุทกภัยยังคงมีผลกระทบ ขณะที่การเมืองร้อนระอุอาจจะมีการเปลี่ยนขั้วอย่างน้อย 2 ครั้ง ส่วนคนที่ทำผิดต่อบ้านเมืองจะถูกแรงของ “ดาวเสาร์-ดาวพฤหัสฯ” ให้ต้องโทษทัณฑ์ตามกฎหมายแน่นอน

    หลังจากที่ประเทศไทยต้องบอบช้ำอย่างหนักจากการเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ ที่สุดในประวิติศาสตร์ ทำให้ประชาชนจำนวนมากยังคงเก็บความบอบช้ำนั้นไว้ และอาจจะมีหลายคนที่ตั้งคำถามว่าเหตุการณ์อย่างที่เกิดขึ้นในปี 2554 จะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ในปี 2555 “ผู้จัดการ 360 องศารายสัปดาห์” มีคำตอบจากผู้คร่ำหวอดในวงการโหราศาสตร์ซึ่งถือเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่ได้ รับการยอมรับจากประชาชนทั่วไปมาอย่างยาวนานว่ามีความถูกต้อง แม่นยำไม่แพ้ศาสตร์ทางวิชาการสมัยใหม่

    ปี 2555 “การเงิน-การคลัง” ร่อแร่

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> อาจารย์ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหาราศาสตร์นานาชาติ ได้นำปรากฏการณ์การเกิดอุปราคามาอธิบายถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับดวง เมืองของประเทศเป็นรายแรกของประเทศ โดยบอกว่านั่นคือการเกิดสุริยุปราคา และจันทรุปราคา มาผูกกับดวงเมืองเพื่อทำนายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นถือเป็นวิชาเก่าแก่สืบทอด กันมานานนับพันปี จึงถือว่าการทำนายด้วยการใช้อุปราคาเป็นการทำนายที่มีความถูกต้องแม่นยำเช่น เดียวกับการนำปรากฏการณ์การโคจรของดวงดาวมาทำนาย ซึ่งดวงเมืองในปี 2555 จะมีอุปราคาเกิดขึ้น 5 ครั้ง โดยแบ่งเป็นสุริยุปราคา 2 ครั้ง จันทรุปราคา 2 ครั้ง และอุปราคาที่ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์อีก 1 ครั้ง

    สำหรับอุปราคาครั้งแรกจะเกิดขึ้นใน วันที่ 21 พฤษภาคม 2555 เวลา 06.48 น.ในช่วงเช้าเช้าตรู่ในระยะ 6 องศา 19 ลิปดา แนวคราสเป็นวงแหวนผ่านประเทศจีน ญี่ปุ่น และตอนเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก รวมไปถึงรัฐทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนประเทศไทยจะเห็นได้ยกเว้นภาคใต้ของประเทศ การเกิดอุปราคาครั้งนี้จะเกิดขึ้นไม่นานแต่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็น อยู่ของประชาชนคนไทยค่อนข้างนาน

    ในทางโหราศาสตร์ สุริยุปราคาครั้งแรกนี้เกิดขึ้นในราศีพฤษภ เป็นราศีธาตุดินชนิดสถิรราศี ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตัวผู้นำประเทศ ผู้นำทางด้านการปกครอง ผู้นำในวงการการเงิน การคลัง ตลาดทุน เพราะเกิดขึ้นกับดวงอาทิตย์ซึ่งหมายถึงผู้นำหรือเบอร์ 1 ในภาคส่วนต่างๆ อาจจะทำให้ผู้นำเหล่านั้นเผชิญปัญหาในองค์กรที่ตัวเองรับผิดชอบ โดยเฉพาะราศรีพฤษภนั้นอยู่ในภพที่ 2 ของดวงเมือง หมายถึงเรื่องของการเงิน การคลัง เศรษฐกิจ ซึ่งผู้นำต่างๆ ต้องระวังเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับระบบการเงิน การคลังของประเทศให้จงหนัก ตลาดเงินจะเกิดการผันผวน การปริวรรตเงินตราเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว จนรัฐบาลผู้รับผิดชอบใหญ่โดยตรงไม่สามารถจะควบคุมและแก้ไขได้ และจะทำให้ประชาชนในประเทศส่วนใหญ่เกิดความเดือดร้อน เกิดภาวะข้าวยากหมากแพง โดยเฉพาะเรื่องราคาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันจะพุ่งสูงทำให้การ ดำรงชีวิตของประชาชนเดือดร้อนอย่างหนัก

    สำหรับการเกิดอุปราคาที่ 6 องศา ตกอยู่ในเขตของโจโรฤกษ์ และยังอยู่ในเรือนการเงินจะส่งผลต่อการกระทำผิดที่เกี่ยวกับการเงิน เกิดการคอร์รัปชันกันอย่างหนัก เกิดการฉกชิงวิ่งราวชนิดที่ตำรวจไม่สามารถช่วยเหลือได้ จะมีคดีความเกี่ยวกับการเงินเข้าไปสู่ศาลเพิ่มมากขึ้นจนผิดปกติ

    นอกจากนี้ ราศีพฤษภาซึ่งเป็นราศีธาตุดินจะทำให้เกิดผลกระทบต่อภัยทางธรรมชาติ ประเภทดินถล่ม แผ่นดินไหว ดินทรุดตัว ตึกถล่ม ภูเขาไฟระเบิดได้ แม้จะไม่เกิดขึ้นโดยตรงกับประเทศไทย แต่จะมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของคนไทยแน่นอน

    อุปราคาครั้งที่ 2 เป็นจันทรุปราคาบางส่วน เกิดขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2555 เวลา 18.13 น. ตรงกับระยะ 20 องศา 12 ลิปดา อยู่ในราศีพิจิกธาตุน้ำ แนวคราสเต็มดวงผ่านทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศออสเตรเลีย และทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก ประเทศไทยเห็นได้บางส่วนในเวลาพลบค่ำ จันทรุปราคาครั้งนี้จะส่งผลต่อประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะเรื่องผลกระทบทางจิตใจ อารมณ์ ความรู้สึกทางจิตวิทยาสังคม ที่สำคัญราศีพิจิกเป็นราศีธาตุน้ำต้องระวังเกี่ยวกับน้ำ ทั้งน่านน้ำ อาณาเขตประเทศที่ติดกับน้ำ การคมนาคมทางน้ำ อุบัติภัยเกี่ยวกับน้ำ อาชีพที่เกี่ยวข้องกับน้ำ น้ำมันและก๊าซ จะได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะช่วงนี้จะมีความเสียหายอย่างรุนแรงที่เกี่ยวกับน้ำปรากฏขึ้น

    โดยช่วงที่เกิดจันทรุปราคานั้นตกอยู่ ในภพมรณะของดวงเมือง จะส่งผลทำให้เกิดความสูญเสียทรัพย์สินของประชาชนอันเนื่องมาจากน้ำแบบฉับ พลันทันใด หรือแบบไม่มีใครคาดคิด ซึ่งอาจจะหมายถึงการเกิดแผ่นดินไหวในประเทศอื่นแล้วเกิดสึนามิในประเทศไทย หรือเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่จากเรือล่ม โป๊ะขนาดใหญ่แตก บ้านเรือนที่อยู่ริมน้ำเกิดการทรุดตัว ที่สำคัญการเกิดอุปราคาครั้งนี้ยังเกิดในเขตของสมโณฤกษ์ ซึ่งหมายถึงผู้นำทางศาสนา ผู้นำทางจิตวิญญาณ หรือคนที่ได้รับการยอมรับนับถือจากสังคม การเกิดในเขตนี้จะทำให้ต้องสูญเสียผู้นำทางศาสนา เกจิอาจารย์ชื่อดังหรือเกิดความวุ่นวายในวงการสงฆ์ได้

    ครั้งที่ 3 เป็นการเกิดสุริยุปราคาชนิดเต็มดวง เกิดขึ้นในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2555 เวลา 05.09 น. ตรงกับ 27 องศา 54 ลปดา ในราศีตุลย์ซึ่งเป็นราศีธาตุลม เป็นราศีที่ทำให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง รวดเร็ว และผ่านไปอย่างรวดเร็ว แนวคราสเต็มดวงผ่านตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศออสเตรเลีย แม้ประเทศไทยจะไม่สามารถมองเห็นการเปิกอุปราคาในครั้งนี้แต่ผลกระทบที่จะได้ รับนั้นจะมีความรุนแรงไม่แพ้การเกิดครั้งแรก วึ่งครั้งนี้สิ่งที่เราจะได้เห็นชัดเจน คือ การเกิดลมกระโชกแรง เกิดลมพายุหมุน เกิดวาตภัยและนำไปสู่การเกิดอุทกภัยเหมือนปี 2554

    นอกจากนี้ อุปราคายังเกิดในภพที่ 7 ของดวงเมืองซึ่งเกี่ยวข้องกับการลงนาม สนธิสัญญาระหว่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านจะเกิดข้อพิพาทที่ลุกลามบานปลายไปสู่สงครามขนาด ใหญ่ ที่สำคัญอุปราคาครั้งนี้ยังเล็งเข้าไปสู่ดวงอาทิตย์ของดวงเมืองซึ่งหมายผู้ นำประเทศ ผู้นำองค์กรที่มีความสำคัญต่อความมั่นคง การเงิน การคลังของประเทศจะทำให้เกิดการเจ็บป่วยแบบไม่รู้สาเหตุ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบกระทันหันกับตัวผู้นำ

    “ที่สำคัญการเกิดอุปราคาครั้งนี้ เกิดในเขตของเพชฌฆาตฤกษ์ ทำให้เราต้องพบกับผู้นำที่จะต้องนำมากฎหมายออกมาควบคุมและบังคับใช้อย่าง เด็ดขาด รุนแรงซึ่งบอกไม่ได้ว่าเป็นกฎหมายที่เกิดจาก “คณะปฏิวัติ” หรือไม่ แต่ขอบอกว่ารุนแรงเด็ดขาดมาก”

    ครั้งที่ 4 เกิดจันทรุปราคาเงามัว เกิดในวันที่ 28 พฤศจิกายน2555 ตรงกับราศีพฤษภ เวลา 21.46 น. ตรงระยะ 12 องศา 44 ลิปดา การเกิดครั้งนี้จะมีผลต่อสภาพจิตใจของประชาชนไม่มีความรุนแรงมากนักแต่กลับ จะรุนแรงกับการเงิน การคลังอีกครั้งหนึ่งเพราะเกิดในเขตภูมิปาโลฤกษ์เป็นฤกษ์ของการปกครองของ แผ่นดิน ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองจะเกิดขึ้นชัดเจนที่สุดในช่วงนี้ สาเหตุเพราะปัญหาการเงิน การคลังที่สะสมมาตั้งต่อต้นปีจะเริ่มปรากฏผลกระทบที่ชัดเจนที่สุด

    ครั้งที่ 5 เกิดอุปราคาจากดาวศุกร์บังดวงอาทิตย์ในเดือนมิถุนายน ซึ่งดาวศุกร์นั้นเป็นดาวที่หมายถึงการเงิน การคลังและเศรษฐกิจของประเทศ เมื่อโคจรไปบังดวงอาทิตย์ที่หมายถึงตัวผู้นำ จะทำให้เกิดเรื่องใหญ่ที่เกี่ยวกับการเงิน การคลังและเศรษฐกิจ สถาบันที่มีความสำคัญ รัฐสภา ทหาร ตำรวจ ผุ้นำองค์กรเหล่านี้อาจจะเกิดความสูญเสีย

    “การเกิดจันทรุปราคาทั้งสองครั้งนั้น เกิดตรงกับวันเพ็ญเดือน 6 และวันเพ็ญเดือน 12 ซึ่งมีความหมายมากเพราะเหตุการณ์ที่กล่าวมาแล้วจะมีความรุนแรงมากกว่าเท่า ตัวเรารู้แล้วจึงควรระวังตัวให้มากอย่าประมาทที่สำคัญหมั่นทำบุยเจริญวิปัส นากรรมฐานให้สม่ำเสมอจะช่วยให้ประเทศไทยเรารอดพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ดี”

    ปี 55 ดวงเมืองพิฆาตนักการเมือง

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="300"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="300"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ขณะที่อาจารย์ทศพร ศรีตุลา โหรชื่อ ดังอีกรายบอกว่า ปี 2554 ว่าดวงเมืองแตกและแรงแล้ว ขอบอกว่าปี 2555 นั้นจะแรงมากกว่านี้มาก เพราะช่วงปีนี้ดาวเสาร์ และดาวพฤหัสฯ โคจรมาพบกัน ซึ่งหมายถึงการปรากฏความจริงจากการปิดบังซ่อนเร้นโดยเฉพาะปัญหาการเงินและ การคลังนั้นหนักหนามาก ปี 2554 เกิดอุทกภัยว่ามีความรุนแรงแล้วแต่การเงินและเศรษฐกิจของประเทศยังคงเดินไป ได้แต่ปี 2555 นับจากวันเกิดประเทศคือวันที่ 13 เมษายนเป็นต้นไป เราจะเห็นปรากฏการณ์ “ต้มยำกุ้ง” เกิดขึ้นมาอีกครั้ง และครั้งนี้จะรุนแรงมากกว่าปี 2540 เสียอีก

    “ที่กล้าพูดอย่างนั้นเพราะจุดเปลี่ยน ของดาวเสาร์ในปี 2555 เกิดขึ้นถึง 2 ครั้ง ปี 2554 เกิดขึ้นมาแล้วในเดือนธันวาคม เราได้เห็นข่าว “ปลัดซ่อนเงิน” มาแล้วในปีนี้จะเห็นข่าวประเภทซ่อนเงื่อนปรากฏความจริงมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักการเมืองที่มีนอกมีใน ดาวเสาร์ซึ่งจะย้ายตัวเองในวันที่ 5 เมษายน 2554 เป็นครั้งแรกของปีและอีกครั้งในวันที่ 7 กันยายน 2555 จะส่งผลต่อดวงการงานของดวงเมืองโดยตรง ทำให้เกิดผลสะเทือนต่อการทำงานของรัฐบาล การบริหารบ้านเมืองจะเกิดปัญหา ซึ่งน่าจะมีการเตรียมตัวที่จะรับสถานการณ์อย่างนี้ไว้แต่เนิ่นๆ จะได้ไม่บอบช้ำมากนัก โดยเฉพาะการบริหารงานด้านการเงินของประเทศจะต้องมีความระมัดระวังให้มาก จะเกิดปัญหาเรื่องการแลกเปลี่ยนเงินตรา ค่าเงินบาทผันผวน คนที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า ส่งออกจะ “บักโกรก” แบบสุดๆ ทีเดียว นอกจากนี้ ในวงการหุ้นไม่ใช่ปีที่หุ้นจะตก แต่เป็นปีที่หุ้นจะทะลุแต่จะตกด้วยความรวดเร็วนักลงทุนรายเล็กที่มีเงินน้อย จะเจ็บตัวมาก ดังนั้นจึงต้องระวังตัวเองให้ดี

    อย่างไรก็ตาม จังหวะที่ดาวเสาร์ย้ายอาจจะมีความรุนแรงทางด้านการเมืองกระแสนี้จะเริ่มครุ กรุ่นตั้งแต่เดือนมีนาคมและเกิดอีกครั้งในเดือนสิงหาคมและกันยายน ซึ่งต้องจับตาดูการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เราอาจจะได้รัฐบาฃใหม่ก็เป็นได้ เพราะดาวเสาร์ย้ายสองครั้งในหนึ่งปีจะเกิดขึ้ทุก 30 ปี ครั้งนี้เราจะได้เห็น “เซอร์ไพรส์” โดยเฉพาะการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองจะเห็นอย่างน้อยต้อง 2 ครั้งแน่นอน ที่สำคัญปีนี้เป็นปีมะโรงธาตุน้ำ เราจะได้เห็นปรากฏการณ์ของน้ำอีกครั้งแต่ครั้งนี้จะไม่รุนแรงเท่าที่ควร เพราะธรรมชาติของมนุษย์เมื่อมีประสบการณ์ก็จะสามารถรับมือได้ดีกว่าเดิม

    “ขอบอกว่าปีนี้เป็นปีที่ความจริงจะ ปรากฏ ประชาชนทั่วไปจะหูตาสว่าง นักการเมือง นักธุรกิจ ข้าราชการที่มีวาระซ่อนเร้น บิดบัง มีความลับ ความลับนั้นจะถุกเปิดเผยสู่สายตาประชาชนเพราะปีนี้ดวงเมืองก้าวสู่การ เปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าเดิม แม้จะเกิดความวุ่นวายต่อเนื่องแต่ในความงามวุ่นวายนั้นจะได้เห็นสัจธรรมที่ ว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วคนที่วันนี้ยังพ้นเงื้อมมือกฎหมาย แต่ปีมะโรงนี้รับรองว่าไม่รอดอย่างแน่นอน”

    การเมืองวุ่น-การเงินทรุด
    ประชาชนอดอยาก

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> อาจารย์ธนกร สินเกษม นายกสมาคมโหรแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ บอกว่า ในปีมะโรง 2555 ดาวเสาร์โทษทุกข์เล็งดาวอาทิตย์ซึ่งเป็นดาวของดวงเมือง หมายถึง ความวุ่นวายแรงๆทางการเมืองจะกลับมาอีกมีความพยายามที่จะใช้ยุทธวิธีล้มล้าง กันทำทุกอย่างเพื่อหาคะแนนนิยมเข้าพรรคแล้วโยนบาปให้พรรคคู่ศัตรู ดาวเสาร์อยู่ในราศีตุลย์เป็นอุจจึงทำให้ดีกรีความร้อนแรงทางการเมืองที่สูง มาก

    การเงินของประเทศในปีนี้อยู่ในภาวะ ที่ทุดแล้วทรุดอีกคือแย่มาก เพราะดาวอังคารเป็นกาลีอยู่ในเรือนกดุมภะซึ่งเป็นเรือนการเงินทำให้ประเทศ ชาติและประชาชนต้องเดือดร้อนเรื่องการเงิน หนี้สิน มาก ซ้ำร้ายในปี 2555 ประเทศไทยจะยังคงประสบปัยหาทางภัยพิบัติทางธรรมชาติทั้งวาตภัย อุทกภัยอีกครั้ง

    นอกจากนี้ ดาวจันทร์เป็นอุตสาหะ ก็หมายถึงประเทศไทยจะต้องวุ่นวายในการสกัดกั้นอุทกภัยครั้งใหม่จากดวงเมือง กาลีอยู่ในเรือนกฎุมพะก็จะทำให้ประเทศไทยใช้เงินลงทุนแก้ปัญหาภับพิบัติทาง ธรรมชาติมหาศาล ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีความรู้สึกหดหู่ ไม่มีกำลังใจเพราะดาวเสาร์ยังถอยหลังไปสู้เรือนอริทำให้เกิดเป็นหนี้สิน สำหรับราษฎรจากทุกพรรคการเมืองจะถูกเปิดเผยความลับที่ปกปิดมานาน เราจะได้เห็นข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์ที่ทำให้เกิดความรู้สึกว่า “มันเป็นไปได้อย่างไร” อยู่บ่อยครั้งแน่นอน</td></tr></tbody></table>

    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    7 รอบ 84 พรรษา กษัตริย์นักพัฒนา โครงการ 'น้ำคือชีวิต' ฟื้นวิกฤติราษฎร


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    ตลอดปี 2554 ที่ผ่านมา แม้ประชาชนคนไทยจะพบกับวิกฤติชีวิตมากมายหลายรูปแบบ ทั้งความวุ่นวายทางการเมือง ภาวะเศรษฐกิจถดถอย รวมทั้งวิกฤติที่เพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ จากอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของชาติ...แต่คนไทยทั้งมวลมิได้ย่อท้อ ต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เพราะรู้ดีว่าปีนี้เป็นปีมหามงคลยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะเป็นปีที่พสกนิกรชาวไทยจะได้ถวายความจงรักภักดี เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 7 รอบ 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554

    คนไทยทราบดีว่าระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระพลานามัยมิสมบูรณ์นัก ทรงต้องประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อรักษาพระอาการประชวร รวมทั้งฟื้นฟูพระวรกายและพระพลานามัยหลังหายจากประชวรมาอย่างต่อเนื่อง

    แต่หากทราบยิ่งไปกว่านั้นว่า สาเหตุหนึ่งที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประชวร เนื่องเพราะตลอดระยะเวลา 65 ปีที่ทรงครองราชย์ยาวนาน มากกว่าพระมหากษัตริย์พระองค์ใดในโลก พระองค์ทรงตรากตรำพระวรกาย ปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ ก็จะยิ่ง “รักในหลวง” มากขึ้นไปอีกหลายเท่าทวีคูณ

    แม้ปัจจุบัน เราจะเห็นภาพข่าวในพระราชสำนักที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ พระองค์จะประทับอยู่ ณ โรงพยาบาลศิริราช โดยมีพสกนิกรทุกหมู่เหล่าผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าไปถวายพระพรอย่างต่อ เนื่องทุกวัน นาน ๆ ทีจะเห็นพระองค์เสด็จลงมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจ หรือเสด็จทอดพระเนตรภูมิทัศน์แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งก็ถือเป็นบุญใส่เกล้าใส่กระหม่อมของผู้ที่ได้เข้าเฝ้าฯ ใกล้ชิดในเวลานั้น แต่หากจะย้อนกลับไปสัก 10-20 ปีก่อน เราจะต้องเห็นภาพข่าว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปในถิ่นทุรกันดารเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่ยากไร้แทบทุกวัน ระหว่างทรงงาน ในพระหัตถ์ก็จะทรงถือแผนที่พับใหญ่ และดินสอไม้ ส่วนในพระศอก็จะทรงคล้องกล้องถ่ายรูป...เป็นภาพอันน่าประทับใจที่เราเห็นกัน จนชินตา

    จะเห็นว่าตลอดระยะเวลาแห่งการทรงงานในการเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมเยียนราษฎร พระองค์ทรงทุ่มเทพระวรกายพระราชทานความช่วยเหลือราษฎร จนก่อเกิดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า 3,000 โครงการ ในจำนวนนี้เป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำกว่า 2,000 โครงการ ที่ได้สร้างประโยชน์สุขให้กับประชาชนทั่วทุกภูมิภาค ทั้งนี้เนื่องจากพระองค์ทรงให้ความสนพระราชหฤทัยเกี่ยวกับการพัฒนาแหล่งน้ำ มากกว่าโครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริประเภทอื่น ทรงให้ความสำคัญในลักษณะ “น้ำคือชีวิต” ดังพระราชดำรัส ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2529 ความตอนหนึ่งว่า ’...น้ำคือชีวิต หลักสำคัญว่าต้องมีน้ำบริโภค น้ำใช้ น้ำเพื่อการเพาะปลูก เพราะว่าชีวิตอยู่ที่นั่น ถ้ามีน้ำคนอยู่ได้ ถ้าไม่มีน้ำคนอยู่ไม่ได้ ไม่มีไฟฟ้าคนอยู่ได้ แต่ถ้ามีไฟฟ้าไม่มีน้ำคนอยู่ไม่ได้...“

    แม้โครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ส่วนใหญ่จะมีวัตถุประสงค์เพื่อการเกษตร แต่ก็มีการพัฒนาแหล่งน้ำหลายโครงการที่มีวัตถุประสงค์หลายอย่างพร้อมกันไป พอสรุปได้ 7 ข้อ ดังนี้ 1. ช่วยให้พื้นที่เพาะปลูกมีน้ำอย่างอุดมสมบูรณ์ ทำการเพาะปลูกได้ทั้งฤดูฝนและฤดูแล้ง ทำให้ได้ผลิตผลมากขึ้น ช่วยให้ราษฎรมีรายได้เพิ่มขึ้น 2. ในบางท้องที่เคยมีน้ำท่วมขัง ใช้เพาะปลูกไม่ได้ หรือไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร โครงการระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มฯ เช่น บริเวณขอบพรุ ทำให้พื้นที่แห้งจนจัดสรรให้ราษฎรที่ไม่มีที่ดินเป็นของตนเองเข้าทำกินได้ ชาวบ้านก็จะไม่บุกรุกทำลายป่า 3. เมื่อมีการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดต่าง ๆ ไว้ และมีการปล่อยพันธุ์ปลา ทำให้ราษฎรมีปลาบริโภคภายในครอบครัว หรือมีรายได้เสริม 4. ช่วยให้ราษฎรมีน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคที่สะอาดพอเพียงตลอดปี มีสุขภาพพลานามัยดีขึ้น 5. โครงการเพื่อบรรเทาอุทกภัยในเขตชุมชนเมืองใหญ่ ๆ ช่วยลดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจทั้งภาคเอกชนและภาครัฐบาลเป็นอันมาก 6. โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ และ 7. โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการรักษาต้นน้ำลำธารฯ

    ในเรื่องการแก้ปัญหาความเดือดร้อนเรื่องการจัดการทรัพยากรน้ำให้กับราษฎร ด้วยสายพระเนตรอันกว้างไกลของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงได้พระราชทานแนวพระราชดำริเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนต่าง ๆ ให้กับราษฎรอย่างต่อเนื่อง อันเป็นที่มาของโครงการอันเนื่องมากจากพระราชดำริที่มีกระจายอยู่ทั่วทุก ภูมิภาคของประเทศ สรุปโครงการสำคัญ ๆ อาทิ

    โครงการแก้มลิงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นโครงการที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2538 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลปัญหาน้ำท่วมเข้าเฝ้าฯ เพื่อรับพระราชทานแนวพระราชดำริการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล โดยนำเรื่องที่ทรงเรียนรู้ตั้งแต่ทรงพระเยาว์พระชนมายุ 5 พรรษา จากลิงในกรงที่สมเด็จพระบรมราชชนนีทรงเลี้ยงไว้ที่วังสระปทุม ว่าเมื่อนำกล้วยไปให้ลิงกิน ลิงจะเคี้ยวจนละเอียดส่วนหนึ่งจะกลืนลงท้อง ขณะที่บางส่วนก็จะเก็บไว้ที่กระพุ้งแก้มทั้ง 2 ข้าง หิวเมื่อไหร่ก็จะดุนกล้วยออกมากินภายหลังโดยสัญชาตญาณ การขุดลอกบึงเพื่อเก็บน้ำจึงเปรียบได้กับแก้มลิงเก็บกล้วย โครงการแก้มลิงฯ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยากรุงเทพมหานคร และพื้นที่บางส่วนของ จ.สมุทรสาคร
    สำหรับแม่น้ำเจ้าพระยาน้ำมักจะท่วมล้นตลิ่งอยู่เป็นประจำ อีกทั้งมีลักษณะลุ่มต่ำกว้างขวางมาก ประกอบกับปริมาณฝนตกในพื้นที่น้ำเหนือ น้ำทุ่ง และน้ำทะเลหนุน ล้วนเป็นสาเหตุทำให้เกิดน้ำท่วมทั้งสิ้น พื้นที่กรุงเทพมหานครจึงเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมโดยธรรมชาติ แก้มลิงฝั่งตะวันออก มี 20 แห่ง เก็บกักน้ำได้ 6.7 ล้านลูกบาศก์เมตร และแก้มลิงฝั่งตะวันตก มี 10 แห่ง เก็บกักน้ำได้ 6 ล้านลูกบาศก์เมตร

    โครงการปรับปรุงและขุดลอกคลองลัดโพธิ์ เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2538 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำริให้ นายรุ่งเรือง จุลชาต อธิบดีกรมชลประทาน (ตำแหน่งในขณะนั้น)
    และผู้เกี่ยวข้องร่วมกันศึกษาพิจารณาวางโครงการปรับปรุงและขุดลอกคลองลัด โพธิ์ พร้อมก่อสร้างอาคารประกอบตามความเหมาะสมเพื่อแก้ปัญหาการระบายน้ำในแม่น้ำ เจ้าพระยา ซึ่งมีระยะทางการไหลอ้อมผ่านพื้นที่บริเวณ ต.บางกระเจ้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ที่มีลักษณะทางกายภาพคล้ายกระเพาะหมู ระยะทาง 18 กิโลเมตร โดยให้พิจารณาขุดลอกคลองลัดโพธิ์ ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เพื่อร่นระยะทางการไหลของน้ำให้เหลือเพียง 600 เมตร สามารถระบายน้ำลงสู่ปากอ่าวไทยอย่างรวดเร็ว และเป็นการเสริมการระบายน้ำจากคลองธรรมชาติเดิม ทำให้ระบายน้ำได้รวดเร็วและมากขึ้น เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วม ซึ่งในวันที่ 24 พ.ย. 2553 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ทางชลมารค โดยเรือพระที่นั่งอังสนา ทรงเปิดสะพานภูมิพล 1 สะพานภูมิพล 2 และประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ ต.ทรงคะนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

    โครงการเขื่อนกักเก็บน้ำแม่น้ำป่าสัก เมื่อวันที่ 19 ก.พ.2532 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชดำริ ให้กรมชลประทานศึกษาความเหมาะสมของโครงการเขื่อนกักเก็บน้ำแม่น้ำป่าสัก อย่างเร่งด่วน เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำ เพื่อประโยชน์ต่อพื้นที่เพาะปลูก และบรรเทาปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นประจำในลุ่มน้ำป่าสัก เป็นผลสืบเนื่องมายังเขตกรุงเทพมหานคร และเขตปริมณฑลด้วย ซึ่งนำความเดือดร้อนมาให้ราษฎรเกือบทุกปี และเสด็จฯ ทรงเปิดเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในวันพฤหัสบดีที่ 25 พ.ย. 2542 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อ และความหมาย ดังนี้ ชื่อ “เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์” หมายความว่า เขื่อนแม่น้ำป่าสักที่เก็บกักน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    โครงการพัฒนาลุ่มน้ำนครนายก เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2536พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำริให้กรมชล ประทานพิจารณาวางโครงการ และก่อสร้างเขื่อนขุนด่านปราการชล ที่บ้านท่าด่าน ต.หินตั้ง อ.เมือง จ.นครนายก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาลุ่มน้ำนครนายก เพื่อช่วยให้ราษฎรทางตอนล่างมีน้ำใช้ทำการเกษตร การอุปโภคบริโภคเพื่อการอุตสาหกรรม และแก้ไขพื้นที่ดินเปรี้ยว รวมทั้งช่วยบรรเทาอุทกภัยที่มักจะเกิดขึ้น ในเขต จ.นครนายก เป็นประจำทุกปี โครงการเขื่อนขุนด่านปราการชล ช่วยป้องกันและบรรเทาปัญหาอุทกภัยในช่วงฤดูน้ำหลาก และสามารถส่งน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค ให้กับพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ และการระบายน้ำลงลำน้ำเดิมตลอดทั้งปี เป็นการรักษาระบบนิเวศของแม่น้ำนครนายก

    นี่เป็นตัวอย่างเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของพระราชกรณียกิจเกี่ยวกับการจัดการน้ำ ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานแนวพระราชดำริ และความช่วยเหลือแก่พสกนิกร จนแม้กระทั่งเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2554 ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสแก่ผู้มาเข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
    ในพระบรมมหาราชวัง ความตอนหนึ่งว่า “...ความมั่นคงของประเทศชาตินั้นจะเกิดมีได้ ก็ด้วยประชาชนในชาติอยู่ดีมีสุข ไม่มีทุกข์ยากเข็ญ ดังนั้นการใดที่เป็นความทุกข์เดือดร้อนของประชาชน ทุกคนทุกฝ่ายจึงต้องถือเป็นหน้าที่ ที่จะต้องร่วมมือกันปฏิบัติแก้ไขให้เต็มกำลัง โดยเฉพาะขณะนี้ประชาชนกำลังเดือดร้อนลำบากจากน้ำท่วม จึงชอบที่จะร่วมมือกันปัดเป่าแก้ไขให้ผ่านพ้นภัยไปโดยเร็ว และจัดทำโครงการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน อย่างเช่น โครงการต่าง ๆ ที่เคยพูดไว้นั้น ก็เป็นการแนะนำ ไม่ได้สั่งการ แต่ถ้าปรึกษากันแล้ว เห็นว่าเป็นประโยชน์ คุ้มค่า และทำได้ก็ทำ ข้อสำคัญ จะต้องไม่ขัดแย้งแตกแยกกัน หากจะต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพื่อให้งานที่ทำบรรลุผลที่พึงประสงค์ คือความผาสุกของประชาชน และความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาติ...”

    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ.
    ทีมข่าวหน้าหนึ่ง




    -http://www.dailynews.co.th/thailand/5530-


    .
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรียน ท่านประธานชมรมพระวังหน้า , ท่านรองประธานชมรมพระวังหน้า
    ท่านผู้ช่วยเลขานุการชมรมพระวังหน้า , ท่านสมาชิกชมรมพระวังหน้าทุกๆท่าน , ท่านผู้สนับสนุนชมรมพระวังหน้าทุกท่าน และ พี่ๆเพื่อนๆน้องๆทุกๆท่าน

    ขอเชิญร่วมทำบุญ ถวายพระบูชา(รัตนะ) ปางอุ้มบาตร

    ผมเองตั้งใจไว้ในการถวายพระบู<wbr>ชา(รัตนะ) ปางอุ้มบาตร แด่พระอาจารย์รูปหนึ่ง ผมเองไม่อยากที่จะทำบุญคนเดียว แต่ต้องการที่จะให้ทุกๆท่านมีส่<wbr>วนในการทำบุญนี้

    การร่วมทำบุญ ไม่มีกำหนดว่า จะต้องทำบุญจำนวนเงินเท่าไหร่ แล้วแต่ศรัทธาของทุกๆท่าน


    เงินที่ทุกๆท่านร่วมทำบุญมา จะแบ่งออกเป็น 4 ส่วน

    ส่วนที่ 1 และส่วนที่ 2 จะนำเงินเข้าชมรมพระวังหน้า

    ส่วนที่ 3 ร่วมทำบุญในงานบวชพระภิกษุ ที่่จะไปปฎิบัติธรรมที่สวนทิพย์<wbr>โลกอุดร (ขอสงวนสิทธิ์ไม่แจ้งบนบอร์ด ผมได้แจ้งทาง Email เรียบร้อยแล้ว)

    ส่วนที่ 4 ร่วมทำบุญกับทุนนิธิสงเคราะห์<wbr>สงฆ์อาพาธ ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร

    เริ่มทำบุญตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555
    สิ้นสุดในวันที่ 31 มกราคม 2555

    บัญชีที่ใช้ในการโอนเงินร่<wbr>วมทำบุญ (ขอไม่แจ้งบนบอร์ด)


    เมื่อท่านโอนเงินแล้ว รบกวนแจ้งรายชื่อของท่านมาที่<wbr>ผม ผมจะรวบรวมรายชื่<wbr>อถวายพระอาจารย์รูปหนึ่ง และ ทางทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ ท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร

    หมายเหตุ ผมรบกวนพี่สิทธิพร ให้ลูกน้องพี่ มาัอัญเชิญไปมอบให้พี่สิทธิพร และฝากพี่เป็นตัวแทนผมและทุกๆท่<wbr>านที่ร่วมทำบุญ ในการถวายพระบูชา(รัตนะ) ปางอุ้มบาตร ถวายพระอาจารย์รูปหนึ่งด้วย และแล้วแต่ท่านจะอัญเชิญไปไว้ที่<wbr>ไหนสุดแล้วแต่ท่านครับ

    โมทนาบุญกับทุกๆท่าน

    หมายเหตุ ไม่มีพระวังหน้าแจกครับ

    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    [​IMG] ชมโลกจากเบื้องบน จากพื้นสู่อวกาศในเวลา 3 นาที

    การปล่อยจรวด STIG-A โดยสถาบัน Armadillo Aerospace ชมความงามของโลกใบนี้ มองโลกจากเบื้องบน จากพื้นสู่อวกาศในเวลา 3 นาที ช่วงเวลาอันแสนประทับใจ มนุษย์ตัวเล็กๆอย่างเราจะมองเห็นโลกที่เราอาศัยอยู่ผ่านกล้องที่ติดกับจรวด

    -http://play.kapook.com/vdo/show-122688-

    .

    คลิปวีดีโอชมโลกจากเบื้องบน จากพื้นสู่อวกาศในเวลา 3 นาที


    .
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรียน ท่านผู้อ่านทุกๆท่าน

    วันนี้ผมได้ยินข่าวมาว่า มีร้านขายพระบางร้าน ได้บอกกับลูกค้าของร้านนั้นๆว่า วัตถุมงคลที่อยู่ในร้านเขา "อาจารย์หนุ่ม ลูกศิษย์อาจารย์ประถม เสกวัตถุมงคลให้"

    ผมขอแจ้งให้ท่านผู้อ่านทุกๆท่านทราบว่า ผมเองได้ศึกษาพระวังหน้า ตามแนวทางของท่านอาจารย์ประถม และ ฆารวาสบางท่าน เท่านั้น ไม่ได้มีความสามารถในการเสกวัตถุมงคลต่างๆ ที่สำคัญ เสกไม่เป็น หรืออธิษฐานจิตไม่เป็น

    ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าขายพระที่ไหนก็แล้วแต่ หรือว่าเป็นเว็บไซด์ หรือ บล็อกต่างๆ หรือว่า มีคนนำชื่อ หนุ่ม ลูกศิษย์อาจารย์ประถม (หรือ อาจารย์หนุ่ม ลูกศิษย์อาจารย์ประถม หรือ sithiphong ลูกศิษย์อาจารย์ประถม หรือ sithiphong เจ้าของกระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....) ไปแอบอ้างว่า เป็นเจ้าของพระ หรือ เสกพระเครื่องให้ หรือเสกวัตถุมงคลต่างๆให้ นั้น

    ขอให้ทราบว่า เป็นการแอบอ้าง ผมไม่ได้มีส่วนรู้ ทราบ และเห็นในเรื่องของการค้าขายพระเครื่อง หรือ พระวังหน้า (ไม่ว่าจะแท้หรือเก๊) ครับ

    กระทู้หลักๆของผม จะอยู่ที่เว็บพลังจิต และเว็บใต้ร่มธรรม เท่านั้น

    เว็บ PaLungJit.com > ภูมิภาคและประชาสัมพันธ์ > ศูนย์ ประชาสัมพันธ์ > งานบุญอื่นๆ > พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

    และเว็บ ใต้ร่มธรรม »



    จึงเีรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

    sithiphong
    1/1/2555

    .
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จาก pm ผม


    .

    Private Message: สนใจพระวังหน้า <table id="post" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-right: 0px"> [​IMG] วันนี้, 11:38 AM </td> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px" align="right"> </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175"> art4dsd
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Dec 2009
    ข้อความ: 1
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> <center>สนใจพระวังหน้า

    </center>
    <hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1"> สวัสดีครับ ผมชื่อ นายนัครินทร์ ............ ( .....Facebook ) ปัจจุบันทำงานในตำแหน่ง............ สังกัด.........................

    มีความสนใจอยากศึกษาเรื่องพระสมเด็จกรมเจ้าท่า พระสมเด็จวัดพระแก้ว มาก และได้ลองค้นหาตามอินเตอร์เน็ตเลยพบ email ของคุณ เลยอยากรู้จักคุณ เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับพระเครื่องสูงสุดชุดนี้

    ถ้าคุณสะดวกรบกวนแจ้งหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ หรือ โทรหาผมได้ที่ ......................

    ด้วยความนับถือ

    นัครินทร์ ....................
    </td></tr></tbody></table>


    ------------------------------------------------

    ผมไม่เคยแจ้งเบอร์โทรศัทพ์กับใครที่ผมไม่เคยรู้จัก

    โดยส่วนตัว ผมเองได้พบ ไ้ด้เ่จอประสบการณ์ของผู้ที่เข้ามาต้องการที่จะรู้จักกับผมอย่างมากมาย

    โดนแทงข้างหลังมาก็เยอะ หลังผมตอนนี้เหวะหวะมากแล้ว

    พยายามรักษาแผลให้หายก่อน แต่แผลแบบนี้หายยากครับ

    หากต้องการที่จะศึกษา ให้เข้าไปอ่านในกระทู้พระวังหน้าฯนี้ ผมลงองค์ความรู้ที่ผมได้รับจากครูบาอาจารย์ให้บางส่วนแล้ว อ่านแล้วก็จะพอทราบว่า องค์ความรู้เบื้่องต้นของพระวังหน้า เป็นอย่างไร

    ความรู้บางเรื่อง ผมเองก็ลงในกระทู้พระวังหน้าฯนี้ไม่ได้ ก็เนื่องจากประสบการณ์ต่างๆที่ผมได้พบ ได้เห็น ได้เจอมานับตั้งแต่ที่ผมได้ตั้งกระทู้พระวังหน้าฯนี้ (23-12-2005, 06:59 AM ) ซึ่งบางคนบอกขนาดว่า นับถือผมเหมือนครูบาอาจารย์ แต่พอผิดหวังในเรื่องที่ตนเองต้องการ ก็เสียบข้างหลังผมซ๊ะเละ

    ลองเข้าไปอ่านในกระทู้พระวังหน้าฯนี้ดูครับ

    ต้องขอโทษที่ไม่สามารถที่จะให้เบอร์โทร.ผมได้ ผมเข็ดและกลัวที่ต้องพบประสบเหตุที่ไ้ด้พบเจอมาแล้วครับ


    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จาก pm ผม


    .


    Private Message: อยากเข้าชมรมครับ <table id="post" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-right: 0px"> [​IMG] วันนี้, 04:28 PM </td> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px" align="right"> </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175"> somdetto
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Dec 2011
    ข้อความ: 0
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> <center>อยากเข้าชมรมครับ

    </center>
    <hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1"> พี่sithiphongครับ ผมอยากเข้าชมรมแต่สมัครไม่ได้สักทีครับ และผมอยากบูชาพระวังหน้าไม่รู้จะทำอย่างไงผมขอคุยกับพี่ทางโทรศัพท์ได้ไหม ครับ
    ขอบคุณครับ
    </td></tr></tbody></table>



    --------------------------------------------------

    เรื่องของการสมัครเข้าชมรมพระวังหน้า ผมว่าเป็นไปไม่้ได้แล้ว ณ วันนี้ เนื่องจากชมรมพระวังหน้า มีกติกาในการรับสมัครไว้ค่อนข้างเยอะ ผู้ที่มีอำนาจในการอนุมัติการรับสมัครสมาชิกชมรมพระวังหน้า มี 3 ท่าน ก็คือ 1.ท่านประธานชมรมพระวังหน้า 2.ท่านรองประธานชมรมพระวังหน้า และ 3.เลขานุการชมรมพระวังหน้า(คือผม)

    หากจะสมัครผ่านผม มีกติกาเยอะมาก ผมจะมีตารางในการให้คะแนนในแต่ละเดือน หากผ่านเกณฑ์ในส่วนของตารางการให้คะแนนแล้ว ผมยังนำเรื่องของผู้ที่สนใจสมัครสมาชิกชมรมพระวังหน้า เข้าไปขอความเห็นของสมาชิกชมรมพระวังหน้า ที่ให้ลงความเห็นรับรองผู้ที่จะสมัครสมาชิกชมรมพระวังหน้าว่า จะไ่ม่ทำผิดกฎและระเบียบต่างๆของชมรมพระวังหน้า ซึ่งจำนวนสมาชิกชมรมพระวังหน้าที่ลงความเห็นรับรองต้องมีำจำนวนความเห็นรับรองกึ่งหนึ่งของสมาชิกชมรมพระวังหน้า ในส่วนนี้ที่ผมเห็นว่ายากมาก ก็เนื่องจากว่า หากไม่มีการรู้จักกันมาพอสมควร คงไม่มีสมาชิกชมรมพระวังหน้าท่านใดลงความเห็นในเรื่องของการรับรองว่า ผู้สมัครจะไม่ทำผิดกฎและระเบียบต่างๆของชมรมพระวังหน้าได้

    ส่วนเรื่องการบูชา ผมไม่มีพระวังหน้าให้บูชา แต่จะมอบให้กับผู้ร่วมทำบุญในวาระต่างๆได้ ส่วนวาระการร่วมทำบุญ ผมจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะในกระทู้พระวังหน้าฯ ในเว็บพลังจิต และ กระทู้ชมรมพระวังหน้าเพื่อพระวังหน้าและงานบุญต่างๆ ในเว็บใต้ร่มธรรม ครับ

    เรียนมาเพื่อทราบ
    sithiphong
    1/1/2554

    .











    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    จาก pm ผม


    .


    Private Message: อยากเข้าชมรมครับ <table id="post" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-right: 0px"> [​IMG] วันนี้, 04:28 PM </td> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px" align="right">
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175"> somdetto
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Dec 2011
    ข้อความ: 0
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> <center>อยากเข้าชมรมครับ

    </center>
    <hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1"> พี่sithiphongครับ ผมอยากเข้าชมรมแต่สมัครไม่ได้สักทีครับ และผมอยากบูชาพระวังหน้าไม่รู้จะทำอย่างไงผมขอคุยกับพี่ทางโทรศัพท์ได้ไหม ครับ
    ขอบคุณครับ
    </td></tr></tbody></table>



    --------------------------------------------------

    เรื่องของการสมัครเข้าชมรมพระวังหน้า ผมว่าเป็นไปไม่้ได้แล้ว ณ วันนี้ เนื่องจากชมรมพระวังหน้า มีกติกาในการรับสมัครไว้ค่อนข้างเยอะ ผู้ที่มีอำนาจในการอนุมัติการรับสมัครสมาชิกชมรมพระวังหน้า มี 3 ท่าน ก็คือ 1.ท่านประธานชมรมพระวังหน้า 2.ท่านรองประธานชมรมพระวังหน้า และ 3.เลขานุการชมรมพระวังหน้า(คือผม)

    หากจะสมัครผ่านผม มีกติกาเยอะมาก ผมจะมีตารางในการให้คะแนนในแต่ละเดือน หากผ่านเกณฑ์ในส่วนของตารางการให้คะแนนแล้ว ผมยังนำเรื่องของผู้ที่สนใจสมัครสมาชิกชมรมพระวังหน้า เข้าไปขอความเห็นของสมาชิกชมรมพระวังหน้า ที่ให้ลงความเห็นรับรองผู้ที่จะสมัครสมาชิกชมรมพระวังหน้าว่า จะไ่ม่ทำผิดกฎและระเบียบต่างๆของชมรมพระวังหน้า ซึ่งจำนวนสมาชิกชมรมพระวังหน้าที่ลงความเห็นรับรองต้องมีำจำนวนความเห็น รับรองกึ่งหนึ่งของสมาชิกชมรมพระวังหน้า ในส่วนนี้ที่ผมเห็นว่ายากมาก ก็เนื่องจากว่า หากไม่มีการรู้จักกันมาพอสมควร คงไม่มีสมาชิกชมรมพระวังหน้าท่านใดลงความเห็นในเรื่องของการรับรองว่า ผู้สมัครจะไม่ทำผิดกฎและระเบียบต่างๆของชมรมพระวังหน้าได้

    ส่วนเรื่องการบูชา ผมไม่มีพระวังหน้าให้บูชา แต่จะมอบให้กับผู้ร่วมทำบุญในวาระต่างๆได้ ส่วนวาระการร่วมทำบุญ ผมจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะในกระทู้พระวังหน้าฯ ในเว็บพลังจิต และ กระทู้ชมรมพระวังหน้าเพื่อพระวังหน้าและงานบุญต่างๆ ในเว็บใต้ร่มธรรม ครับ

    เรียนมาเพื่อทราบ
    sithiphong
    1/1/2554

    .
    </td> </tr> </tbody></table>
    ส่วน "กลุ่ม พระวังหน้า" เว็บพลังจิตกลุ่มนี้ ดูแลรักษาโดย sithiphong
    บรมครูพระเทพโลกอุดร
    พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้...
    ยินดีต้อนรับ

    PaLungJit.com > กลุ่มชมรม > พระเครื่อง-วัตถุมงคล > พระวังหน้า


    กลุ่มนี้ หากเป็นสมาชิกเว็บพลังจิต สามารถสมัครได้ทุกท่าน แต่ไม่เกี่ยวข้องกับ ชมรมพระวังหน้า ครับ


    -http://palungjit.org/groups/6/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2-

    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ่า ท่านน้องคนดัง และ ท่านที่อยู่ทางภาคใต้ทุกๆท่าน

    ระมัดระวังเรื่องฝนตกหนักและน้ำท่วมด้วยครับ

    ด้วยความเป็นห่วง


    ------------------------------------------------------

    <table class="mainmap" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="100%"><tbody><tr><td width="62%">ภาคใต้อ่วม! ฝนกระหน่ำ สงขลา - พัทลุง น้ำท่วมหนัก

    </td> <td width="32%"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" width="33%"> Share82 </td> <td align="center" width="33%">
    </td> <td align="center" width="33%">
    </td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> </tbody></table>
    [​IMG]


    สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม

    สถานการณ์ น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ หลังจากฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก อีกทั้งยังต่อเนื่องกันมาหลายวัน รวมถึงเกิดน้ำป่าไหลหลาก ทำให้หลายจังหวัดถูกน้ำท่วม โดยเฉพาะ จ.สงขลา ซึ่งน้ำท่วมกินวงกว้าง 8 อำเภอ หนักสุดที่ อ.สะเดา ส่วน จ.พัทลุง น้ำป่าไหลได้ทะลักเข้าซ้ำเติมไร่นาชาวบ้านกว่า 1,000 ครัวเรือน ด้าน จ.ยะลา ที่ราบลุ่มหลายพื้นที่ มีน้ำท่วมขัง แม่น้ำสายบุรีล้นตลิ่ง ขณะที่ จ.นราธิวาส น้ำท่วมแล้ว 7 อำเภอ สูง 50 เซนติเมตร รถไฟสายยะลา - สุไหงโกลก
    หยุดวิ่ง ประชาชนเดือดร้อนเดินทางปีใหม่


    [​IMG]สงขลาอ่วม! ฝนตกหนัก ท่วมฉับพลัน 8 อำเภอ

    ชาว สงขลาสุดเซ็ง น้ำท่วมฉลองปีใหม่ กินวงกว้าง 8 อำเภอ หนักสุดที่ อ.สะเดา ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต และยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้าช่วยเหลือ

    เกิดน้ำท่วมฉับพลันขึ้นในพื้นที่ 8 อำเภอของ จ.สงขลา จากทั้งหมด 16 อำเภอ หลังจากที่ฝนได้ตกหนักติดต่อกัน 2 วัน โดยเฉพาะเมื่อคืนนี้ (31 ธันวาคม) ซึ่งตกหนักติดต่อกันตลอดทั้งคืนจนถึงช่วงเช้า โดยพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมแล้วประกอบด้วย อ.สะเดา อ.จะนะ อ.หาดใหญ่ อ.นาทวี อ.นาหม่อม อ.สะบ้าย้อย และ อ.คลองหอยโข่ง แต่ยังไม่มีรายงานของผู้เสียชีวิต หรือ ได้รับบาดเจ็บ

    โดย ปริมาณฝนที่ตกหนักมากที่สุดคือ พื้นที่ อ.สะเดา วัดได้ 301 มิลลิเมตร ตั้งแต่ 07.00 น. ของเมื่อวาน จนถึง 07.00 น.ของวันนี้ (1 มกราคม) ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ของต้นน้ำที่จะไหลลงคลองอู่ตะเภา โดยขณะนี้ทางจังหวัดได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ เร่งสำรวจความเสียหายของทั้ง 8 อำเภอ และเร่งเข้าช่วยเหลือประชาชน

    อย่างไรก็ตาม ตอนนี้หลายพื้นที่สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากถูกน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมกะทันหันตั้งแต่ช่วงเช้ามืดเช่นในพื้นที่ หมู่ 1,2 และ หมู่ 7 ของ ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ น้ำป่าจากเขาแก้วเทือกเขาบรรทัด ได้ไหลทะลักเข้าท่วมถนนและบ้านเรือนของชาวบ้าน โดยที่ไม่ทันตั้งตัว ชาวบ้านต้องเคลื่อนย้ายรถยนต์และทรัพย์สินที่จำเป็นไปไว้ที่สูง เนื่องจาก ปริมาณน้ำยังไหลทะลักเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีฝนตกหนักติดต่อกัน


    [​IMG]

    [​IMG]พัทลุงน้ำป่าทะลัก พันครัวเรือนเดือดร้อน

    น้ำป่าไหลทะลักเข้าซ้ำเติมไร่นาชาวพัทลุงในหลายอำเภอ หลังฝนตกหนักอีกครั้ง ทำให้กว่า 1,000 ครัวเรือน เดือดร้อนอย่างหนัก

    ปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ (1 มกราคม) ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ยังคงน่าเป็นห่วงอีกครั้ง ล่าสุดน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด ในพื้นที่ อ.ป่าบอน อ.กงหรา อ.ศรีนครินทร์ อ.ตะโหมด และ อ.ป่าพะยอม ที่ไหลผ่านลำคลอง 7 สาย ได้เอ่อล้นไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร พื้นที่การเกษตรสวนยางพารา และนาข้าว เส้นทางเข้าหมู่บ้านหลายสาย

    มี น้ำท่วมในพื้นที่ ต.แม่ขรี ต.ตะโหมด ต.คลองใหญ่ อ.ตะโหมด ต.โคกสัก อ.บางแก้ว ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน ต.วังใหม่ ต.ป่าบอน อ.ป่าบอน ต.ชะรัด ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา ต .บ้านนา ต.ชุมพล อ.ศรีนครินทร์ โดยมีน้ำท่วมสูง ประมาณ 60-80 เซนติเมตร ทำให้ชาวบ้านหลายพันครอบครัวได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากน้ำท่วมมาอย่างต่อเนื่อง เป็นระลอกที่ 4 ในช่วงหนึ่งเดือนครึ่งที่ผ่านมา

    ขณะที่ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพัทลุง ได้ออกมาแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ท้ายอ่างป่าพะยอม อ.ป่าพะยอม อ่างเก็บคลองป่าบอน อ.ป่าบอน เตรียมรับมือน้ำท่วม เนื่องจากปริมาณฝนได้ตกหนักลงมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ โดยวัดปริมาณได้สูงสุดที่ อ่างเก็บน้ำคลองป่าบอน 102.4 มิลลิเมตร

    [​IMG]งานปีใหม่ยะลากร่อย น้ำท่วมหลายพื้นที่

    บรรยากาศ งานปีใหม่ยะลา ฝนตกหนักตั้งแต่วานนี้ ที่ราบลุ่มหลายพื้นที่มีน้ำท่วมขัง คาดเย็นวันนี้แม่น้ำสายบุรี ล้นตลิ่ง เตรียมอพยพประชาชนเพิ่ม

    บรรยากาศช่วงเทศกาลวันปีใหม่ 2555 ในพื้นที่จังหวัดยะลา อากาศไม่เป็นใจ มีฝนตกหนักตั้งแต่เมื่อวานนี้ และตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา จนทำให้พื้นที่ราบลุ่ม เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภายในเขตเทศบาลนครยะลา มีน้ำท่วมขังบริเวณถนนวิฑูรอุทิศ 10 และที่ ม.3 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนหลายครัวเรือน เจ้าหน้าที่ ต้องเร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน

    สำหรับ บรรยากาศในเช้าวันนี้ ก็ยังคงมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากฝนยังคงไม่หยุดตก ก็จะทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ติดแม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำปัตตานี น้ำจะล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมบ้านเรืองราษฎร ในช่วงเย็นวันนี้อย่างแน่นอน ดังนั้น ทางจังหวัด จึงได้ประกาศเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ราบลุ่ม เตรียมอพยพออกจากบ้านเรือนและเตรียมยกสิ่งของไว้บนที่สูง เพื่อป้องกันการได้รับความเสียหายจากสภาวะน้ำท่วมในวันปีใหม่นี้

    [​IMG]นราธิวาสฝนตกหนักน้ำท่วมแล้ว 7 อำเภอ

    จังหวัดนราธิวาส น้ำท่วมแล้ว 7 อำเภอ สูง 50 เซนติเมตร รถไฟสายยะลา - สุไหงโกลกหยุดวิ่ง ประชาชนเดือดร้อนเดินทางปีใหม่

    สำหรับบรรยากาศในพื้นที่ จ.นราธิวาส หลังจากได้มีฝนตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องตลอด 3 วันที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมแล้ว 7 อำเภอ ประกอบด้วย อ.จะแนะ อ.ศรีสาคร อ.สุไหงปาดี อ.เจาะไอร้อง อ.รือเสาะ อ.ระแงะ และ อ.สุคิริน มีระดับน้ำสูงถึง 50 เซนติเมตร ถนนในหลายอำเภอถูกน้ำท่วม เนื่องจากน้ำระบายไม่ทัน นอกจากนี้ น้ำยังท่วมเส้นทางรถไฟสาย ยะลา – สุไหงโกลก หลายจุด ทำให้รถไฟไม่สามารถวิ่งรับส่งผู้โดยสารได้ ทำให้ประชาชนที่เดินทางกลับบ้าน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก




    ที่มา ไอ.เอ็น.เอ็น.
    [​IMG]

    .

    -http://thaiflood.kapook.com/view35720.html-

    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...