ทำสมาธิเพ่งที่กลางหน้าผาก(ตาที่สาม) มีผลเสียต่อร่างกายไหม?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย nAk~*, 31 ธันวาคม 2011.

  1. nAk~*

    nAk~* สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +1
    คือเวลาผมทำสมาธิแบบเพ่งตรงกึ่งกลางระหว่างหน้าผากนี่ มันจะรู้สึกหนืดๆปวดๆเสียวตรงนั้นอะครับ แต่มันก็ทำให้รวมสมาธิและความตั้งมั่นได้เร็วนะครับ ผมก็ไม่รู้หรอกว่าวิธีนี้มันจะเหมาะกับผมหรือปล่าว เพราะว่าผมก็กลัวว่ามันเกิดจากร่างกายเราจะทำงานหรือเกร็งตัวผิดปกติหรือปล่าว เลยหยุดไปแค่นั้นก่อน ผมก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาหลายวิธีแล้วอะครับ บ้างก็ทำ เพ่งกสิณแสงสว่าง บ้างก็ พุธโท บ้างก็ กลางหน้าผาก วนไปวนมา แต่ผมได้ศึกษาเกี่ยวกับเปิดตาที่สามมานะครับ เขาก็บอกให้เพ่งตรงกลางหน้าผาก พอมันปวดมากๆ หรือเหมือนกับว่าจะระเบิด ก็ทำไปเรื่อยๆ คืออันนั้นแสดงว่าใกล้จะเปิดแล้ว คือถ้าเปิดสำเร็จก็เห็นวิญญาณเห็นของละเอียดที่เป็นทิพย์ได้ แต่ผมก็ยังสงสัยว่า มันจำเป็นต้องเปิดตาที่สามตรงหน้าผากด้วยหรอ ถึงจะเห็นของทิพย์ได้ งั้นคนที่เห็นวิญญาณก็ต้องผ่านการเปิดตาที่สามกันหมดแล้วน่ะสิ อันนี้ผมก็ยังสงสัย ไงก็ช่วยตอบปัญหาผมหน่อยนะครับ ขอบคุณมากครับ
     
  2. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    น้องจำมาสับสน ปนเปกันไปหมด ระวังทำแล้วจะเกิดโทษแก่ตนเอง


    อ่านประสบการณ์ที่นี่ก่อน

    http://fws.cc/whatisnippana/index.php
     
  3. ฝันนิมิต

    ฝันนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +547
    [​IMG]

    คือ แบบ ว่า

    มาขอออกความเห็น นะคะ
    เมื่อครั้งก่อนก็เคยฝึกเพ่ง ที่กลางหน้าผากเหมือนกันคะ
    มันก็ ดี นะคะ มัน วืดๆ หน่วงๆ รวมเร็วจริงๆ

    แต่

    ข้อเสียของการเพ่ง มันจะ ปีบครั้น เหมือนบังคับ
    ให้รวมที่เดิม เหมือน เราถือ แซ่ คุมเสือโคร่ง
    พอเราทำมากๆ เพ่งมากๆ เกิด อารมณ์เครียด
    หรือเกร็งจนเกินไป ก็ทำให้ระบบต่างๆปร่วนได้คะ

    ฝึกได้ แต่ต้องรู้สภาพร่างกายด้วย จะดีกว่ามั้ยคะ
    แฮะๆ เพราะ การฝึก สมาธิ มันก็ต้อง มาฝึกมี "สติ" อยู่ดีคะ

    พี่เลี้ยง " พี่ลิโพ" สอนเสมอว่า

    " ฝึกสติ ได้ดีแล้ว เรื่องมี อิทธิฤทธิ์ มันก็ได้ตามมาเอง"

    สู้ๆคะ
     
  4. nAk~*

    nAk~* สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +1
    ครับ แล้วตอนนี้คุณยังใช้วิธีนี้อยู่หรือปล่าวครับ
     
  5. ฝันนิมิต

    ฝันนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +547

    [​IMG]

    " เลิกใช้นานแล้วคะ
    เพราะมันไม่ใช่ทางที่ถูก
    สำหรับเราที่กำลังจะ กระทำ "
     
  6. nAk~*

    nAk~* สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +1
    อ่าวทำไมล่ะครับ คุณก็บอกว่ามันรวมเร็วไม่ใช่หรอครับ คุณอาจจะตั้งใจเพ่งมากเกินไปหรอปล่าวครับ ถึงปวดหัว
     
  7. ฝันนิมิต

    ฝันนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +547
    [​IMG]

    ....สู้ๆ....

    เพราะไม่ได้หวัง ให้มันรวมเร็ว แต่หวัง
    ที่จะ กระทำแบบ อื่น การรวมเร็ว
    มันก็เพียงแค่ กระทำให้เกิด สมาธิ มันก็ดีคะ
    แต่ อิอิ ไม่รู้สิ แบบ นี้ ที่กำลัง กระทำ ดีกว่าคะ
    ก็ แบบ ใคร แบบมันคะ
    แต่ก็ สู้ๆคะ
    เอาใจช้วยๆ
     
  8. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ใช้อยู่เช่นกัน


    ใช้อยู่เช่นกันจ๊ะ

    เเต่ต่างกันตรงที่ กําหนดมันเอาไว้เบา เบา ไม่ให้มันเคลื่อนออกไปใหน

    ถ้ามันเริ่มจะตึงๆ จนเกินงามก็ เบากําลังมันลงไปอีก ถ้ายังตึงอยู่ก็ เบามันอีก เเต่อย่าให้มันเคลื่อนออกไปใหนได้

    ข้อเสีย ที่เห็น ก็คงจะเป็นอาการปวด หน่วง ในช่วงเเรก
    บางท่านบอก นั่งเอาให้มันข้าม ความปวดไปเลย ตามกําหนดไปเลยว่ามันปวด

    เเต่ผลก็คือ มันไม่ข้ามไปใหน มันยังปวด เเถม บางทีก็ปวด หนักขึ้นไปอีก

    ปจุบัน เลย ใช้วิธี จับมันเบาๆ เอาเเค่พอรู้สึก เเล้วก็ทรงมันเอาไว้ อย่างนั้น จนมันนิ่ง จนมันทรงตัวได้ ของมันเอง

    ใช้หลายวิธี เหมือนกันเเล้วเเต่ ลักษณะ งาน
    เเล้วเเต่ ณ ตอนนั้น มันวุ่นวายเเค่ใหน

    ถ้าเลิกจากงานมาใหม่ ๆ มันตึงเกินไป ใช้วิธี เเบบนี้ ก็ไม่คอยดีนัก

    ส่วนเรื่องตาที่สาม นั้น อย่าไปพูดถึงมันเลย เดี๋ยวเขาจะเเห่ เเหน กันมาบอกว่าเรา บ้าาาาาาาไปเเล้ว ต้องรักษา

    รู้เเล้ว เห็นเเล้ว ก็ นิ่งไว้ เวป นี้คุณหมอ เขาเยอะจ๊ะ
    (deejai)(deejai)(deejai)(deejai)(deejai)
     
  9. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    เวลาหลับตาทำสมาธิแบบเพ่ง ก็หลับตาแบบเรานอนหลับธรรมดานี่แหละครับ
    ให้สังเกตลูกตาตัวเองก่อนหลับและหลังหลับตานะครับ
    ก่อนหลับตา ลูกตาเนื้อนี้ก็มองไปข้างหน้าธรรมดาทำมุม 90องศาทั่วไป
    แต่เวลาเราจะหลับตาเพื่อนอนหลับพักผ่อนลูกตาของเรามันมองขึ้นข้างบนเล็กน้อยสบายๆ
    หลับเบาๆ ตานี้ที่ว่าเพ่งน่ะเพ่งด้วยใจ เปรียบเหมือนเราดึงเอาภาพใดภาพหนึ่งในสัญญาขึ้นมาเพ่งให้มันชัด แต่ลูกตาเราก็เหมือนคนหลับตานอนธรรมดานี่แหละ
    แต่บางครั้งมีการคิดไปว่า เพ่งคือจ้องเล็งโฟกัสหาภาพในความมืดหลังเปลือกตา
    ลักษณะเช่นนี้ไม่ได้หลับตานอนธรรมดา แต่เป็นการข่มตาหลับจึงทำให้ปวดลูก ตาเหล่ ปวดขมับ ปวดหัว หงุดหงิด

    ให้สังเกตเบาๆว่าเวลาจะนอนหลับพักผ่อนจริงๆเป็นยังไง ก็ให้เอาตรงจุดนั้นมาพิจารณา
    ในการทำสมาธิแบบเพ่งที่ว่า เพราะมันคล้ายกันเพียงแต่ต่างกันตรงมีสติและไม่ขาดสตินั่นเองครับ

    อนุโมทนาครับ
     
  10. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    เเบบนี้เเหล่ะ



    ท่อนนี้ มีประโยชมาก:cool:

    เปรียบเหมือนเราดึงเอาภาพใดภาพหนึ่งในสัญญาขึ้นมาเพ่งให้มันชัด แต่ลูกตาเราก็เหมือนคนหลับตานอนธรรมดานี่แหละ



    แต่บางครั้งมีการคิดไปว่า เพ่งคือจ้องเล็งโฟกัสหาภาพในความมืดหลังเปลือกตา
    ลักษณะเช่นนี้ไม่ได้หลับตานอนธรรมดา แต่เป็นการข่มตาหลับจึงทำให้ปวดลูก ตาเหล่ ปวดขมับ ปวดหัว หงุดหงิด


    กว่าจะเจอเชื่อไหม ว่า หลงไปพักใหญ่ เล่นเอาตาเกือบเหล่ ไปเลย :'(

    เเล้วมันใกล้ กัน จริงๆน่ะ

    ยิ่งใหม่ๆ ถ้าจําสภาวะตอนเข้าไม่ได้ นี่ ยิ่งไปกันใหญ่ มัวเเต่ไปเพ่งความมืด

    พอลดกําลังลงถึงรู้ว่า อ๋อออออออ มันจังซั่น น่ะเองงงงงงงงงงง
     
  11. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ผมเป็นเหมือนกัน แต่ไม่ได้เพ่งเหมือนท่านปล่อยไป ผมดูลมหายใจมันดันมาปวดก็ชั่งมัน

    แต่ตาทิพย์กับตาที่สามนี้ไม่ใช่อันเดียวกันเหรอ ให้เพ่งกสิน ผมไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ ถ้าอยากเห็นสิ่งๆทิพย์ให้ฝึกกสินไฟ กับกสินแสงหรือสีขาวนี่แหละไม่แน่ใจ
     
  12. nAk~*

    nAk~* สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +1
    ขอบคุณมากครับ บทความนี้เป็นบทความที่มีประโยชน์มากๆครับ
    ตอนนี้ผมก็พยายามนึกถึงความสว่าง โดยที่ไม่ไปสนใจของความมืดหรือแสงหลอกตาข้างในตา
    ผมพยายามนึกภาพความสว่างเหมือนกับการที่เรานึกภาพสิ่งของที่เรารักหรืออยากได้
    ตอนแรกๆมันก็พลางๆไม่ค่อยชัด พอทำไปเรื่อยๆสบายๆ มันก็ชัดขึ้นๆ ตัวผมก็เบา มีความสุข
    เพราะก่อนหน้านั้น ผมมัวแต่ไปเพ่งให้ในตาผมมีแสงสว่าง แต่บางทีมันก็หลอกตาเรา เพ่งมากๆแล้วก็ทำให้ปวดตา
     
  13. lnwashura

    lnwashura สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2010
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    ผมไม่แน่ใจว่าที่ผมเห็นมันคือตาที่3หรือเปล่า เรื่องเกิดขึ้นสดๆร้อนๆเมื่อเช้านี้เลยครับ ผมยืนขายกับข้าวอยู่ริมถนน แล้วก็มีลูกค้ายืนซื้อกับข้าวร้านผมอยู่
    ก็ไม่ได้พูดอะไรกันเขาก็สั่งกับข้าวผมก็ตักขายตามปกติ แล้วสักพักมันก็มีรถของป่อเต็กตึ๊งวิ่งผ่านหน้าร้านผม รถก็ติดพอดี แล้วเสียงสัญญาณที่รถเขาก็ดังมาก ช่วงนั้นจิตผมเกิดความสงสัยว่าในรถนั้นมีอะไร ก็บังเกิดภาพมุมมองแบบมองจากหลังคารถด้านใน ผมเห็นเด็กนักเรียนเป็นผู้หญิงที่ขาข้างนึงหักมีเลือดออกนองพื้นเห็นกระดูกโผล่ แล้วผมก็ได้กลิ่นคาวเลือดแรงมาก มันเป็นภาพนิมิตรประมาณ3-4วินาทีครับผมก็พูดออกมาว่า ในรถเป็นเด็กนักเรียนผู้หญิงขาหักข้างนึงเห็นกระดูกโผล่มีเลือดนอง ลูกค้าที่กำลังยืนซื้อของก็บอกผมว่า
    เขานั่งรถผ่านมาเห็นเหตุการณ์พอดี ตรงกับที่ผมพูดทุกอย่าง ผมก็ งงว่าที่ผมเห็นมันคืออะไร
     
  14. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    เพ่งตรงกลางหน้าผากอาจารย์สอนว่าจะเป็นบ้า
    ถ้าจะเพ่งให้เพ่งต่ำลงมาระหว่างตาที่จุดดั้งจมูกหัก
     
  15. Jera

    Jera เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,001
    ค่าพลัง:
    +2,040
    เคยได้ยินว่าจะเป็นบ้านะครับ ตามคำโบราณาจารย์ เพราะจุดกลางหน้าผากเป็นจุดสำหรับ

    เผาพวกนิวรณ์เเบบฉับพลัน เเต่ถ้าเพ่งมากๆ จะทำให้ให้อารมณ์ร้อน รนเเละวิปลาส

    ในที่สุดครับ
     
  16. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    มีผลเสียแน่ ถ้าทำไม่ถูกวิธี ก็จะปวดขมับ ตุบๆ ป่องๆ
     
  17. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
  18. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    จักระกลางหน้าผาก หากได้รับการกระตุ้นอาจก่อให้เกิดทิพยจักขุญาณได้



    ถาม : ช่วยอธิบายเรื่องของจักระกลางหน้าผากหน่อยครับ

    ตอบ : จริงๆ ก็ เป็นเรื่องของ ทิพยจักขุญาณ นั่นแหละ เพียงแต่ว่าทางด้านทิเบตเขามีความรู้เกี่ยวกับการแพทย์สูงมาก เขารู้ว่า พวกต่อมไพเนียล ถ้าได้รับการกระตุ้นในระดับหนึ่ง จะช่วยสร้างทิพยจักขุญาณได้ เขา ก็เลยใช้วิธีกระตุ้นด้วยการเจาะหน้าผากแล้วฝังสมุนไพรลงไป อาจจะเป็นไปได้ว่า พอได้รับการเจาะแล้วฝังสมุนไพร ทำให้ความรู้สึกไปจับอยู่ตรงนั้นได้ชัดเจนขึ้น แน่วแน่ขึ้น ก็เลยทำให้เกิดตาที่สามขึ้นมาได้

    แต่ว่าตาที่สามจริงๆ ไม่ได้เห็นตรงนั้น ยังเห็นด้วยใจเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าเขาอาศัยการแพทย์มาเสริมเข้าไป ซึ่งก็คือจักระตรงกลางหน้าผากนั่นแหละ

    ถาม : กลางหน้าผากจะโล่งไปตลอดใช่ไหมครับ ?

    ตอบ : จริงๆ คนที่สามารถเห็นพวกนี้ได้ไม่ต้องเสียเวลาไปทำหรอก เขาเป็นอยู่แล้ว อินเดียเขาเรียกว่า กุณฑาลินี เขาบอกว่าเป็นแหล่งพลังงานมหาศาล

    ถาม : แล้วการที่เราใช้กำลังตัวเอง กับการใช้คาถาของครูบาอาจารย์ ผลก็จะเป็นอีกแบบหนึ่งใช่ไหมครับ ?

    ตอบ : จริงๆ แล้ว สมควรที่จะใช้คาถาแล้วอาราธนาบารมีครูบาอาจารย์ช่วย เพราะไม่อย่างนั้นเท่ากับว่าเราไปฝืนกรรม ผลนั้นจะตกแก่เรา ถ้าหากว่าเราขอบารมีครูบาอาจารย์ ท่านจะได้คอยกันให้หรือไม่ก็รับไปแทน

    ถาม : อย่างเวลารับขันครู ?

    ตอบ : ใช่..ไม่อย่างนั้นก็รับเละอยู่คนเดียว กระแสกรรมเหมือนกับลูกปืนที่ยิงมา แล้วเราไปยืนขวางจะโดนใคร ? ก็โดนเรานั่นแหละ

    ถาม : ช่วยแนะนำวิธีการรู้ด้วยตนเอง ให้เข้าใจชัดเจนหน่อยครับ ?

    ตอบ : ไม่มีอะไรหรอก แค่ เรากำหนดความรู้สึกว่าอยากรู้เรื่องอะไร แล้วก็ทิ้งความรู้สึกนั้นเสีย จากนั้นก็ภาวนาทรงอารมณ์ให้เต็มที่ คลายออกมาแล้วอธิษฐานขอใหม่อีกทีก็จะเป็นแล้ว แค่นั้นเอง อย่างคุณไม่ต้องเสียเวลาไปฝึกฝนอะไรมากมายแล้ว

    ถาม : การรู้นี่ให้รู้ด้วยตัวเองเลยนะครับ ไม่จำเป็นต้องมีนิมิต ?

    ตอบ : ให้ระมัดระวังไว้ด้วยว่า ไม่ใช่เฉพาะงานเพิ่มขึ้นเท่านั้น เรื่องก็จะเพิ่มขึ้นด้วย พอเรารับรู้ได้ก็เหมือนกับโทรศัพท์ติดต่อกันได้ ต่อไปเราก็รับเละอยู่คนเดียว

    ถาม : คำว่างานเพิ่มขึ้นกับเรื่องเพิ่มขึ้นเป็นอย่างไรครับ ?

    ตอบ : อย่างเช่น เขาขอให้ทำนั่นทำนี่ หรือไม่ก็มีเรื่องนั้นเรื่องนี้เข้ามา เรารับรู้มากเกิน บางทีก็ไปแบกเอาไว้แทนจนเครียด

    บุคคล บางประเภท ถ้าหากมารขวางตรงๆ ไม่ให้เขาเข้ามรรคผล คนประเภทนี้จะสู้ตะบันราด เพราะเขารู้ว่าผ่านได้แน่ เขาก็จะไม่ขวางด้วยวิธีนั้น แต่จะดึงให้ไปทำงานชิ้นนั้น ทำงานชิ้นนี้ ซึ่งเป็นงานเพื่อส่วนรวม เป็นอานิสงส์ใหญ่ที่เราเห็นอยู่ จะดึงเราไปทำตลอด จนเราไม่มีเวลาปฏิบัติเพื่อมรรคผลของเราเอง ซึ่งเป็นวิธีขวางของเขาอย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าไปรู้เข้า เรื่องพวกนี้จะเข้ามาเยอะ

    ถาม : ก็จริงครับ

    ตอบ : เขาไม่ได้ขวางเรา เขารู้ว่าถ้าขวางเราสู้ แล้วนิสัยอย่างเรานี่ผ่านได้แน่ เขาก็ใช้วิธี “คนนั้นน่าสงสาร ไปช่วยเขาหน่อย” “สถานที่นี้น่าบูรณะ เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าโดยตรง ไปทำเสียหน่อย” ทำเราให้มีงานอยู่ตลอด จนไม่มีเวลาปฏิบัติของเราเอง

    ถาม : กรณีอย่างว่า เราต้องละวางดีใช่ไหม ?

    ตอบ : ใช่..ถึงเวลาแม้แต่ดีก็ต้องละ

    ถาม : การทำอะไร ถ้าเราเองทำทางเดียวเหมือนกับว่าจะมีตัวล่ออยู่ แต่ถ้าขยายไปหลายๆ ทางแล้วเราเลือกเอง จะดีกว่าไหมครับ ?

    ตอบ : ดีกว่า..แต่ว่าเราต้องไม่ลืมเป้าหมายของเรา ถ้าเราลืมเป้าหมายเดี๋ยวก็โดนจูงไปไกลอีก


    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๕


    ที่มา : เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๕ - หน้า 6 - กระดานสนทนาวัดท่าขนุน
     
  19. คุณตุ๊ก

    คุณตุ๊ก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +131
    ตาที่สามมันอยู่หน้าผากเหรอครับ ผมพึ่งรู้ ท่านเจ้าของกระทู้ไปฟังที่ไหนมา

    เพ่งหน้าผากเป็นการเปิดตาที่สามเหรอครับ เจ้าของกระทู้ไปฟังที่ไหนมา ผมนึงว่าเป็นการฝึกสมาถะเสียอีก

    สตาร์ทรถยังไม่เป็นเลย มโนซะถึงเชียงใหม่เลย วางเบาๆอยู่ที่หน้าผากไม่ให้มันหนีไปไหนก็พอ

    ทำได้แบบคล่องแล้วก็ดูตามคำสอน เม้นบนจะดีกว่าครับ

    ไม่ต้องเอาซะปวดหัวหรอก มันปวดก็พักบ้าง เดี๋ยวจะเดินไปถึงเชียงใหม่นะบอกก่อน อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กันยายน 2015
  20. Jsus Christ

    Jsus Christ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +82
    มันเป็น กุศโลบาย ให้แก้ปริศนา

    มิใช่ ปลาอยู่ในน้ำ มองลงไป แล้วบอกว่า มีแต่น้ำ เห็นแต่น้ำ เอาปลาที่ไหน มาพูด ว่ามีปลาในน้ำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ตุลาคม 2015

แชร์หน้านี้

Loading...