ขายเหล้าบาปหรือเปล่า

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย นายตถาตา, 5 ธันวาคม 2011.

  1. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    <TABLE class=tborder id=post5421307 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 09:26 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#[​IMG]
    ขอบอกเลยว่าบาปครับ ตัวอย่างเช่น
    ช: ให้ตังไปทำแท้ง
    ญ: ยอมรับและไปทำแท้ง
    แต่ ช: ไม่ได้ทำแท้งมันบาปใช่ไหมละครับ


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อืมนั่นสิน๊ะ ต้องถามต่อว่าการที่ ชายให้เงินไปทำแท้งนั้นเขารู้เห็นเป็นใจหรือไม่สนับสนุนหรือไม่ หรือว่าถูกยืมเงินโดยไม่รู้สาเหตุว่าเงินที่ยืมไปเพื่อวัตถุประสงค์อะไร :'( เอแล้วหญิงบาปหรือว่า หมอทำแท้งบาปล่ะ น่าคิด

    ต้องรบกวนเฮียปอช่วยค้นหาอีกแรงแล้วล่ะครับ
    ช่วยกันถามช่วยกันหาคำตอบนับว่าดีมาก ๆครับ สาธุ:cool:


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ผู้ชายให้เงินผู้หญิงไปทำแท้ง(สั่งฆ่าทารก) ... ผิดศีลข้อ ๑ ปาณาติบาต

    แต่ ผู้หญิงมาขอยืมเงินผู้ชายโดยไม่บอก วัตถุประสงค์ในการยืมเงิน

    ต้องดูสถานะการณ์นั้น ๆ ว่า ผู้ชายให้โดยทราบหรือไม่ทราบวัตถุประสงค์ของผู้หญิง

    เช่น

    • ถ้าทราบว่าจะเอาเงินไปทำแท้ง แล้วยังให้เงินไป ... แบบนี้ผู้ชาย มีส่วนร่วมแน่ ๆ บาปศีลขาด
    • แต่ถ้าให้ไปโดยไม่ทราบว่าจะเงินไปทำอะไร ไม่รู้ว่าจะเอาไปทำแท้ง แบบนี้ผู้ชายไม่มีเจตนาในการทำแท้ง ... ถามว่าศีลขาดไหม บาปไหม

      ก็ต้องขอตอบว่า ศีลด่างพร้อย (ขาดเจตนา) บาปแต่เบากว่าเจตนา

    สรุป ถ้าให้เงินไป บาปทั้งนั้น
     
  2. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ dreamlnw002 [​IMG]
    ขอบอกเลยว่าบาปครับ ตัวอย่างเช่น
    ช: ให้ตังไปทำแท้ง
    ญ: ยอมรับและไปทำแท้ง
    แต่ ช: ไม่ได้ทำแท้งมันบาปใช่ไหมละครับ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ด้วยความเคารพ

    ผมไปต่างประเทศ ขากลับซื้อเหล้าชั้นดีที่ไม่มีขายในเมืองไทยไปตั้งโชว์ที่ตู้โชว์ที่บ้าน


    ผมขอถามว่า คนขายเหล้า และ ผม ... บาปไหมครับ ?
     
  3. Kiryu

    Kiryu Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2010
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +64
    บาปหมดแหละ เพราะฉะนั้นต้องหมั่นทำบุญอุทิศส่วนบุญกุศลเข้าไว้
     
  4. makcloud

    makcloud เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    424
    ค่าพลัง:
    +535
    ขอบคุณ เฮียปอ ดำมะลัง สำหรับความรู้ใหม่ ๆ ครับ
    ผมเพิ่งรู้ว่า ข้อ 5 นั้นพึงละเว้นสุรา 5 อย่าง เมรัย 5 อย่าง รู้แต่ว่าไม่เสพสุรา เบียร์ ไวน์ หรือของหมักอย่างอื่น ๆ เท่านั้นเอง ดีนะไม่หลงตีฉีกไปกินของมึนเมาอย่างอื่น แล้วอ้างว่าก็มันไม่ใช่เหล้ากินได้ ทีนี้เสร็จเลย อุตส่าห์เว้นได้่จะ 2 ปีแล้ว
    ขอบคุณมากครับ
     
  5. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +705
    ศีลแต่ละข้อละเอียดอ่อนจริง ๆนะครับ ต้องศึกษาหาความรู้ไว้มาก ๆจะได้ไม่พลาด สาธุกับทุกคำตอบครับ
     
  6. หนีนรก

    หนีนรก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +666
    ที่บ้านก็ค้าขายมา 20ปีแล้ว แปลกที่ไม่มีใครข้องแวะกับเหล้าบุหรี่เลย มีแต่คุณปู่ที่เสีย(แต่นั้นก็ก่อนที่ทางบ้านจะเริ่มกิจการค้าขาย) ส่วนคุณพ่อไม่ชอบค้าขายเพราะคิดว่าทำให้บ้านไปเป็นบ้าน มีแต่งาน งานแล้วก็งาน สุดท้ายคุณพ่อก็ออกบวชเมื่อปี 2547 (ถ้าจำไม่ผิด) และดูท่าจะไม่สึก อายุ 65 แล้วแต่ยังคงไปธุดงธ์ให้ลูกๆเป็นห่วงเสมอ ส่วนคนใกล้ชิดเพื่อนฝูงหากนิสัยทัศนะคติห่างไกลกันก็ห่างเหินกันไป ถ้าจะมีกรรมจากการค้าสิ่งมึนเมา คงเป็นต้องเผชิญกับลูกค้าที่เมามากและเมาน้อยมากกว่า(เมามาจากอื่น) แล้วก็เกิดอารมณ์ปฏิคะ ที่พยายามระงับ แต่ก็มีบางที่มีอารมณ์ขุ่นมัวบาง ซึ่งอารมณ์พวกนั้นจะอยู่ไม่นาน คิดว่าที่ทำงาน หาเงินเพื่อให้ตัวเองเป็นที่พึ่งของคนอื่นไม่ใช่คอยพึ่งคนอื่นบำรุงศาสนาดูแลครอบครัวตามหน้าที่ที่พึ่งกระทำ

    เชื่อว่าที่สำคัญคือระวังใจของตัวเองมากกว่า ถ้าต้องมานั่งระวังกรรมของคนอื่นคงไม่ไหว และถ้าต้องคอยระแวงว่าทำโน้นเป็นกรรมอยางนั้นต้องแก้กรรมอย่างนี้ ทำบุญตรงนี้ได้บุญอย่างนั้น จิตใจก็ยากจะใสสะอาด เลยไม่เคยลังเลกับการต้องกินยาถ่ายพยาธิ หรือฆ่าปลวก คิดว่าแค่รู้ว่าอะไรควรไม่ควรก็พอ ต่อให้เหล้าเป็นสิ่งผิดกฎหมายและไม่มีขาย พวกเขาทั้งหลายก็หาทางต้มกินเองได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 ธันวาคม 2011
  7. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +705
    ที่กล่าวเช่นนี้แสดงว่ายังเป็นคนหลง หลงในโลกแห่งทุกข์
    [​IMG]
    ถาม มีคนเคยบอกว่า คนที่เปิดร้านขายสุรา เหล้าปั่น ค็อกเทล ฯลฯ จะทำคุณกับคนไม่ขึ้นจริงหรือ?

    ตอบ คนที่ค้าขายเหล้าจะมีเวรติดตัวไปว่า เกิดกี่ภพกี่ชาติ แม้แต่ชาตินี้ หากตกทุกข์ได้ยากแล้ว จะไม่มีคนสงสาร เพราะตัวไม่เคยให้ความสงสารใครเลย รู้อยู่ว่า “เหล้า” คนกินเข้าไปแล้วเสียทั้งทรัพย์ เสียสติ เสียผู้เสียคน เสียชื่อเสียง เสียหมดทุกอย่าง แต่เขาเห็นแก่ได้ เขาก็เลยขายเหล้า เขาขาดเมตตาจิตอย่างแรง
    เพราะฉะนั้นชาตินี้ถ้าเขาตกทุกข์ได้ยากเมื่อไร อย่าหวังเลยว่า จะมีใครมาช่วยเหลือ โบราณท่านว่า “ ทำคุณกับใครไม่ขึ้น” เพราะพื้นใจเขาขาดความเมตตาอยู่แล้ว ผลกรรมในชาตินี้คือ คนดีๆ เขาไม่อยากมาคบด้วย ที่จะมาคบมีแต่พวกขี้เมา คนที่กิตติศัพท์ชื่อเสียงดีๆ ไม่มีมาคบค้าสมาคมด้วย เพราะเขาไม่อยากเสียชื่อเสียง มีแต่คนที่ชื่อเสียๆ มาคบ
    เพราะฉะนั้น ลูกเอ๊ย...ใครขายเหล้าอยู่ รู้ตัวแล้ว เลิกเสียนะ ไม่อย่างนั้นใจเราจะคิดไม่ดี คิดแต่จะให้คนเมาเท่านั้น คนเราถ้าคิดแต่จะให้ชาวบ้านเมามายขาดสติอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน อย่างที่เรียกว่า “คิดชั่วเป็นปกติ” เป็นพาลนะลูก เลิกเสียเถอะ
    นอกจากนี้การขายเหล้ายังจัดอยู่ใน มิจฉาวณิชชา ๕ อย่างที่พระพุทธองค์ทรงห้ามอีกด้วย

    คัดจาก หนังสือหลวงพ่อตอบปัญหา ฉบับรวมหมวด โดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว)
    ขอกราบอนุโมทนาบุญกับเจ้าของบทความและเจ้าของภาพประกอบทุกท่าน ไว้ ณ ที่นี้

    แม้อดตาย
    ก็จะเลิกขายสุรา

    [​IMG]

    ...ลูกชื่อสุภัทรา แซ่หลิน พื้นเพเป็นชาว จังหวัดสุพรรณบุรี ย้ายมาตั้งรกรากที่ไต้หวัน ตั้งแต่ปี ๒๕๓๖ และได้แต่งง่านกับชาวไต้หวัน มีลูก ๑ คน หลังแต่งงานไม่นาน สามีของลูกได้ ล้มป่วยจึงไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ ต่อมาคุณ พ่อที่อยู่เมืองไทยก็เสียชีวิต ลูกจึงต้องรับภาระ ค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวที่ไต้หวัน และส่งเสีย เลี้ยงดูครอบครัวที่ไทยเพิ่มมาอีก ลูกต้องขยัน และให้กำลังใจตนเองเสมอ ว่าเราต้องเป็นหญิง เหล็กและหาเงินให้ได้มากกว่าเดือนละ ๑ แสน บาท เพื่อให้บุคคลอันเป็นที่รักทั้งที่ไทยและที่ ไต้หวันไม่ลำบาก

    ...ลูกได้เปิดกิจการร้านอาหารอีสานเล็กๆ ชื่อ ร้านสุพรรณไก่ย่าง มา ๒ ปี เพื่อนๆ ก็ แนะนำว่าร้านค้าเปิดใหม่ควรมีสุราด้วย เพื่อดึง ดูดลูกค้า ลูกคิดว่าขายเบียร์กระป๋องนิดหน่อย คงไม่เป็นไร แต่ต่อมาก็ต้องเพิ่มปริมาณเบียร์ กระป๋องขึ้นเพราะลูกค้าเรียกร้อง แต่หลังจากที่ มีโอกาสได้เป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝัน ลูกก็มี ความคิดว่า จะเลิกขายเหล้าเบียร์ แต่ก็เป็นเพียง ความคิด
    <TABLE border=0 width="70%" align=center><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]
    </TD><TD>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ...จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมไทเป ได้ชวนลูกให้เลิกขายเบียร์กระป๋อง เพราะถึงแม้ จะพ้นนรกได้ในชาตินี้ด้วยบุญจากการสร้างองค์ พระธรรมกายประจำตัวและการทำหน้าที่ผู้นำ บุญ แต่กรรมสุรานี้จะติดตัวไปข้ามภพข้ามชาติ ซึ่งกรรมจะส่งผลคือ ถ้าชาติหน้าเรามีลูกก็จะได้ ลูกปัญญาอ่อนมาเกิดกับเรา แล้วต้องเลี้ยงดูเขา ทั้งชีวิต มันไม่คุ้มกัน ลูกฟังแล้วก็น้ำตาคลอเบ้า เพราะเคารพรักในคำสอนของหลวงพ่อ และ พระอาจารย์ทุกรูปมาก...แต่การเลิกขายสุรานี้มัน หมายถึงปากท้องและชีวิตของคนที่เรารักในชาติ ปัจจุบันทีเดียวนะคะ...

    ...ต่อมาลูกจึงตัดสินใจจะเลิกขายสุราและเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิดตลอดไป แม้อดตายก็จะ เลิกขายค่ะ พระอาจารย์ศูนย์ไทเปได้นัดลูกทำ พิธีเทเหล้าเผาบุหรี่ในวันตักบาตร แต่ลูกรู้สึกอาย มาก เพราะทั้งร้านเหลือเบียร์แค่ ๒ กระป๋องเอง น้องๆ ศูนย์ไทเปบอกว่า าพี่ไม่ต้องอาย เราจะสร้างความดี พี่จะเป็นต้นบุญ ต้นแบบให้กับร้าน ค้าไทยอีก ๔๐ กว่าร้านในย่านซินจวง ซึ่งถือว่า เป็นย่าน Thai Town ของไต้หวันเลยทีเดียว... ให้เขารู้ว่าร้านค้าไทยทำได้ ถ้าได้ทำ และเราคนไทย ต้องเป็นไทจากอบายมุข
    <TABLE border=0 width="70%" align=center><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]
    </TD><TD>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ...ก่อนถึงวันงานลูกประกาศและเชิญชวน พี่น้องชาวไทยที่อาศัยและทำงานในโรงงานแถบ นั้น มาร่วมตักบาตร มาร่วมกันเทเหล้าเผาบุหรี่ ในวันงาน มีทั้งชาวไทยและชาวไต้หวันมารอที่ ร้านของลูกเพื่อร่วมพิธีเกือบสามสิบคน (ไม่ รวมไทยมุง จีนมุง อีกมากมาย)

    ...คุณแสงชัย กิตติภูมิวงศ์ เจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์และเศรษฐกิจไทย (สำนักงาน พาณิชย์) และนักข่าวภาคภาษาไทยสถานีวิทยุ กลางรัฐบาลไต้หวัน ได้เดินทางมาร่วมงานพร้อม ภรรยาและลูกชายด้วย กล่าวว่า เป็นเรื่องน่าปีติ ยินดีมากที่เจ้าของร้านกล้าตัดสินใจเลิกขายสุรา เป็นบุญทั้งแก่ตัวเจ้าของร้านเอง ครอบครัว และลูกค้าครับ

    ...คุณธิระ กสานต์สวัสดิ์ เจ้าหน้าที่สำนักงานใหญ่พาณิชย์และเศรษฐกิจไทย (สำนักงานกงสุล) และนักข่าวภาคภาษาไทยสถานีวิทยุกลางรัฐบาล ไต้หวัน กล่าวว่า การกระทำในวันนี้ถึงแม้เป็น การเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ แต่จะเป็นกระแสที่ทำ ให้ร้านอื่นได้เห็นเป็นตัวอย่างและทำตาม เชื่อว่า ต่อไปในอนาคตอันใกล้ เหล้าบุหรี่ก็จะหมดไป ซึ่ง เป็นผลจากการกระทำจากจุดเล็กๆ เหล่านี้เอง ฉะนั้นการกระทำในวันนี้จึงถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ มากครับ

    ...เมื่อพระอาจารย์มาถึง ได้เทศน์เรื่องโทษ ของสุราและบุหรี่ ฟังสวดบทชยันโต แล้วเราก็ นำเบียร์ที่เหลืออยู่ในร้านมาเททิ้ง พร้อมกับบี้ กระป๋องจนแบน ต่อจากนั้นก็เป็นพิธีเผาบุหรี่ ซึ่ง มีทั้งลูกค้าที่ทราบข่าวก่อนล่วงหน้าและลูกค้าที่ เพิ่งทราบข่าวในวันงาน ต่างตัดสินใจควักบุหรี่ ออกจากจากกระเป๋าหักดิบเผาทิ้งทันทีต่อหน้า พระอาจารย์ คุณสุริยา ดายทุ่งมน ได้ทราบว่าลูก ตัดสินใจเลิกขายเหล้า จึงตัดสินใจที่จะเลิกสูบ บุหรี่ด้วย หลังจากที่สูบมาถึง ๑๑ ปี น้องสุริยา ได้เขียนจดหมายลาถึงคุณบุหรี่ทุกยี่ห้อ เพื่อแสดง ถึงความตั้งใจของตนเองด้วยว่า
    ถึง คุณบุหรี่ ทุกยี่ห้อ
    <TABLE border=0 width="70%" align=center><TBODY><TR><TD>
    [​IMG]
    </TD><TD>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ...ต่อไปนี้ข้าและเอ็ง ขอแยกทางกัน ข้าจะไม่หันหน้ามาหาเอ็งอีกต่อไป ข้าจะไม่ติดเอ็ง และต่อเอ็งอีกต่อไป(เลิกสูบบุหรี่) ข้าจะขอเผาเอ็งก่อน ที่เอ็งจะทำให้ข้าถูกเผา ลูกและเมียของข้าดีใจ มากเลย ที่ข้ากับเอ็งเลิกกันได้ เดี๋ยวนี้สุขภาพ ของข้าดีขึ้นมากเลย ที่ไม่มีเอ็งอยู่ในชีวิตข้า เงินที่ซื้อเอ็งมาสูบ เดี๋ยวนี้มันเป็นค่ากับข้าวไป แล้ว สุดท้ายนี้ ขอให้พระคุณเจ้าเป็นพยานด้วย ว่าข้าพเจ้าจะเลิกสูบบุหรี่ตลอดไป

    จาก นายสุริยา ดอยทุ่งมน เด็กแปดริ้ว
    เริ่มสูบ ๒๕๒๕ เลิกสูบ ๒๕๔๖
    ...หลังจากเทเหล้า เผาบุหรี่แล้ว ลูกรู้สึกสบายใจ และมีความสุขมากที่ไม่ต้องไปทำร้ายใครอีก แต่ก่อนกลัวว่าเลิกขายเหล้าแล้วจะไม่มีลูกค้าเข้าร้าน แต่พอกล้าเลิกขายเข้าจริงๆ เดี๋ยวนี้ลูกค้าเก่าก็เปลี่ยนมาดื่มน้ำอัดลมและ น้ำเปล่าแช่เย็นแทนค่ะ ที่สำคัญลูกไม่ต้องกังวลกับการทวงเก็บเงินที่ลูกค้าเซ็น เพื่อดื่มเหล้าอีกต่อไป เป็นลูกหลวงปู่สด ได้รับเงินสดแต่เพียงอย่างเดียว สุขใจจังเลย ลูกค้าทุกคนต่างเข้าใจและอนุโมทนาบุญกับสิ่งที่ลูกทำ

    ลูกขอกราบขอบพระคุณคุณครูไม่ใหญ่ พระอาจารย์ศูนย์ไทเปทุกรูปและเจ้าหน้าที่ทุก ท่านค่ะ ที่ทำให้ลูกได้มีวันแห่งชัยชนะในวันนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2011
  8. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +705
    กรรมทันตา "หนี".... ( ดีมาก ๆ ) จากชีวิตจริงของลุงท่านหนึ่ง

    ชีวิตคนเรานี่นะ เมื่อมีปัญหา
    มันต้องต่อสู้ดิ้นรน มันต้องอดทน
    กัดฟันสู้กันให้สุดฤทธิ์
    แต่บางเรื่อง...สู้ยังไงก็ไม่ไหว
    ขอแนะนำให้...หนี...ดีกว่า

    เมื่อหลายเดือนก่อนนี้ ผมนั่งแท็กซี่ไปทำธุระ
    แต่รถติดมาก..ก...แหง็กอยู่บนถนนอย่างยาวนาน
    อันที่จริงตั้งแต่ก้าวขึ้นรถคันนี้แล้ว รู้สึกแปลกๆ บางอย่าง
    ภายในรถ...มันสะอาดมาก มีกลิ่นดอกมะลิอ่อนๆ


    ชื่นใจด้วยโชเฟอร์ที่ขับรถ ชื่อ...ลุงชัด
    อายุน่าจะซักประมาณ 60 ปี แต่ยังดูแข็งแรงมาก
    หลังจากที่ผมบ่นเรื่องรถติดพอแก้เบื่อแล้ว
    สังเกตดู ลุงชัด แกรักรถที่แกขับมาก
    มีผ้าสะอาด คอยเช็ดพวงมาลัย เช็ดกระจก เช็ดโน่นเช็ดนี่
    อยู่ตลอดก็อดชมเรื่องความสะอาดของรถไม่ได้
    แกยิ้มภูมิใจ บอกว่าผ่อนหมดมาเกือบ 2 ปีแล้ว
    เลยคุยกันเรื่องครอบครัว ซึ่งน่าสนใจมาก

    ลุงชัด เป็นคนกรุงเทพฯ ตั้งแต่เกิด
    อยู่ในย่าน...สลัมคลองเตย
    ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ใจกลางแหล่งสลัม แต่ก็ถือว่าใกล้เคียง
    แกเล่าว่า...แต่ก่อนโน้น คลองเตย ไม่ได้เป็นอย่างทุกวันนี้
    ไม่ได้เลวร้าย เหมือนนรกบนดิน อย่างในปัจจุบัน
    แกโตมากับการมีอาชีพรับจ้างในตลาดคลองเตย
    จนมาได้เมียเป็นคนอิสาน ขยันขันแข็ง
    ช่วยกันสร้างตัวจนพอมีเงินซื้อบ้านหลังเล็ก ๆ
    แล้วเปิดร้านขายของชำ และอาหารตามสั่ง นิดๆ หน่อยๆ
    โดยมีเมียเป็นตัวหลัก ส่วนแกก็คอยวิ่งซื้อของ
    ทั้งเป็นแรงงานสารพัด กิจการก็ไปได้ราบรื่น
    ที่สำคัญสิ่งที่ขายดีและมีกำไรอย่างงาม คือ...เหล้า เบียร์

    บุหรี่ ลูกค้าซื้อไปสูบ ไปกินกันทุกบ้าน ทั้งเหล้าขาว

    เหล้าโรง ทั้งกั๊ก แบน กลม แต่ละวันขายเป็นลัง ๆ
    กำไรจากพวกนี้วันละเกือบ 2 พันบาท

    ต่อมาอีกหลายปี ละแวกบ้านของ ลุงชัด ก็เริ่มเปลี่ยนไป
    มีแต่คนแปลกหน้า คนต่างถิ่นซัดเซพเนจรมาอยู่
    ปัญหาต่างๆ ก็เริ่มมาจากคนเหล่านั้น
    ความแออัดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการสร้างบ้าน
    ขึ้นอย่างมากมายความยากจน ยาเสพติด เด็กกำพร้า

    คนพิการ โจรขโมย ตบตีกันในครอบครัว เอดส์ โรคติดต่อ
    ร้ายแรง น้ำเน่า น้ำท่วม ไฟไหม้ มลพิษ โรคจิต ฯลฯ สารพัด
    แม้แต่คนในคลองเตยเอง ถ้าเดินผิดซอยก็มีโอกาสถูกจี้
    ได้เหมื อนกัน

    ลุงชัดมีลูกชาย 2 คน
    พอลูกชายคนโตเริ่มเป็นวัยรุ่น ก็เริ่มมีปัญหา
    เริ่มคบเพื่อนในละแวกสลัมด้วยกัน ริเป็นนักเลงพากันตั้งวงเหล้า
    บรรยากาศในบ้านของ ลุงชัด ก็เริ่มเป็น...นรก
    ข้าวของที่ซื้อไว้ขายก็เริ่มหาย เงินทองก็ถูกขโมยทุกวัน
    จนในที่สุดจับได้ว่าลูกชายคนโต...ติดยาบ้า
    ไถเงินแม่ทุกวัน เพื่อไปซื้อยาเสพติด
    พอไม่ให้ก็เอะอะ จนหนักขึ้นถึงกับอาละวาด
    ยังดีที่ลูกชายคนเล็ก เป็นเด็กรักดีคอยระวังป้องกันให้

    ในบ้านที่มีคนติดยาบ้า ถึงจะแค่คนเดียวมันก็..นรก..เราดีๆ

    นี่แหละ พอมันอยากยา อะไรก็เอาไม่อยู่ นานเข้าก็ถึงกับ
    ทุบตี...แม่ แล้วทุกวันมันก็ต้องไปเสพยาบ้า ทุกวัน
    ไม่ต้องไปหาซื้อไกล แถวๆ บ้านนั่นแหละมากมายก่ายกอง
    เงินทองที่ได้มาจากการขายของ ขายข้าวแกง และที่กำไรว่าดีนักหนา
    มาจากการขาย เหล้า เบียร์ บุหรี่...ก็ถูกลูกชายคนโตไปซื้อยาบ้าหมด
    วันไหนไม่ได้เสพ มีอันได้อาละวาดทุบข้าวของพังวินาศ

    เหตุการณ์ดังขุมนรก ก็เป็นอยู่อย่างนั้นเป็นเดือน เป็นปี
    ลุงชัดกับลูกชายคนเล็กเคยช่วยกันจับไอ้ลูกขี้ยาไปโรงพยาบาล
    ไปสถานบำบัดหลายแห ่ง...แต่ก็ไม่ได้ผล
    เพราะรอบบ้านแก มีแต่ยาเสพติดทั้งนั้น
    สิ่งที่แย่จนทนไม่ไหว ก็คือการเห็นเมียถูกลูกชายอาละวาดทุบตี
    ไอ้น้องชายก็คอยปกป้องระวัง พ่อ แม่
    บางทีสุดทนก็ถึงกับเอามีดไล่ฟัน แทบจะฆ่ากันตาย

    หลังจากทนทุกข์แสนสาหัสมานาน
    คืนวันหนึ่ง ลุงชัด ปรึกษากับเมียกันสองคน
    แกอธิบายให้เมียฟังว่า...
    ถ้าไม่ทำอะไรซักอย่างก็ต้องทนทุกข์กันอยู่อย่างนี้
    ที่สำคัญซักวัน พี่น้องมันต้องฆ่ากันเองแน่นอน
    ไอ้ลูกคนโตน่ะ ถึงจะรักมันมากแค่ไหนก็ไม่เสียดายหรอก
    กลัวแต่ไอ้คนเล็กที่มันรักดี ถ้าไม่ถูกพี่มันฆ่า ก็อาจจะพลั้งมือ
    ฆ่าพี่มันตายซะก่อน มันไม่ยุติธรรมเลย ถ้าลูกคนเล็กต้อง
    ไปติดคุกติดตะราง เมียแกก็ถามว่า แล้วจะทำยังไงกันดี
    แกก็พูดด้วยน้ำตา...ฉันขอเถอะนะ ชีวิตลูกคนนึง...ฉันจะฆ่
    มันเอง...เมียแกก็น้ำตาร่วงถามว่า ไม่รักลูกมันเหรอ
    แกก็ได้แต่บอกว่า...รักซิ แต่ก็รักลูกคนเล็กด้วย

    เช้าวันรุ่งขึ้น ลุงชัด ก็ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวยอมเป็น ฆาตกร
    ยอมที่จะฆ่าลูกที่ตัวรัก...เพื่อเมีย เพื่อลูกที่ดีอีกคนหนึ่ง
    แต่ก่อนลงมือ แกไปวัดแถวบ้าน
    ไปกราบพระประธาน เพื่อ ...บอกกล่าวขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    แล้วในขณะที่กำลังพนมมือ มองหน้าพระประธานอยู่นั้น
    ลุงชัด ก็นึกได้...กรรม และ ผลของกรรม
    กรรมที่แกขาย เหล้า เบียร์ บุหรี่
    ขายสิ่งชั่วร้าย สิ่งที่มอมเมาคนอื่นให้ติด ให้ขาดสติ
    พอเมาเหล้า เมาเบียร์ แล้วก็อาละวาดขาดความเป็นคน
    ด้วยกันทั้งนั้น ลูกเมียคนอื่น...ก็ตกนรกอยู่ในบ้าน เหมือนกัน
    กับครอบครัวของแก ใช่แล้ว...กรรมที่แกก่อ ได้ย้อนมาสนอง
    แกทันตาเห็น ถึงจะถูกกฎหมาย แต่ก็ผิด...ศีลธรรม
    กรรมชั่ว ได้ย้อนมาตอบแทนกันอย่างสาสม

    ในทันทีที่ ลุงชัด ได้เห็นได้เข้าใจ...กฏแห่งกรรม
    แกก็เสียใจอย่างที่สุด น้ำตาไหลอาบหน้าอยู่นาน..น..
    พอระงับจิตใจได้แล้ว ก็นึกอธิษฐาน

    ...ขอคุณพระพุทธเจ้า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
    ช่วยให้ครอบครัวได้หนีพ้นบ่วงกรรมนี้ด้วยเถอะ
    ต่อไปนี้จะเลิกทำชั่ว ทำผิด แล้วจะตั้งหน้ารักษาศีลห้า
    ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็จะรักษาศีลให้มั่นคง ตลอดชีวิต...

    พอกลับมาบ้านแกเทเหล้า เบียร์ และเผาบุหรี่ที่มีทิ้งหมด
    ใครห้ามก็ไม่ฟัง...
    บอกกับเมีย และลูกชายทั้งสองคนให้เข้าใจว่าแกคิดอะไร
    ไอ้ลูกชายคนโ ตก็ไม่พูดไม่จา...เดินออกจากบ้านไป
    ไม่รู้ไปไหน...หายไปเลย

    เวลาผ่านไปเกือบเดือน...
    ลูกชายคนโตตัวร้าย ก็กลับมาพร้อมกับเด็กสาวคนหนึ่ง
    แต่มาแปลก...มากราบเท้า พ่อ แม่
    แล้วเล่าว่า...ออกจากบ้านไปหาซื้อยาบ้าเสพ เจอเด็กสาวคนนี้
    เร่ร่อนอยู่ เป็นเด็กกำพร้า พอเกิดมาก็ถูกทิ้งไว้ที่โรงพยาบาล
    ไม่เคยเห็นหน้าพ่อแม่ ไม่เคยได้รับความรัก ความอบอุ่น
    เห็นแล้วสงสาร เห็นอกเห็นใจกัน แล้วเขาก็คิดได้ว่าตัวเองโชคดี
    แค่ไหน มีพ่อ มีแม่ มีน้องชาย ที่รักและคอยห่วงใย
    คิดได้แล้วก็นึกอยากกลับตัว...อยากเลิกเป็นคนชั่วแล้วละ
    จากวันนั้น ลูกชายตัวร้ายก็ตั้งอกตั้งใจ...อดยาด้วยตัวเอง
    ใช้วิธีขังตัวเองอยู่ในห้องกับแฟนสองคน
    พ่อ แม่ ก็คอยส่งข้าวส่งน้ำ ได้ยินแต่เสียงเด็กสาวคอยปลอบ
    ให้กำลังใจ ให้อดทน บางครั้งอยากยาหนักๆ ถึงกับอาละวาด
    เด็กสาวคนนั้นก็ใจเด็ด เอาไม้ฟาดกบาลเปรี้ยงเข้าให้หลายที
    พอหลายๆ วันก็เริ่มอดยาบ้าได้ แต่ก็ยังมีปัญหา...
    ไอ้เพื่อนชั่วๆ เลวๆ ที่อยู่แถวบ้านมันมาคอยชวนให้ไปเสพยา
    อยู่ตลอด ถึงขั้นชวนไปเป็นคนขายด้วยซ้ำ

    ลุงชัดแกใจเด็ด ตัดสินใจย้ ายบ้าน...หนี
    เอาเงินที่ได้จากการขายบ้าน ขายร้าน ไปหาเช่าอยู่ไกลถึงนนทบุรี
    ให้เมียขายข้าวแกง โดยมีลูกชายและลูกสะใภ้ใจเด็ดเป็นลูกมือ
    ส่วนตัวแกก็ไปหาเช่ารถแท็กซี่ขับเพิ่มรายได้
    ในเวลาไม่นานพอเริ่มเข้าที่เข้าทาง กัดฟันดาวน์รถแท็กซี่ป้ายแดง
    ตัวแกขยันมาก.ก..ขับเกือบ 16 ชั่วโมงต่อวัน ทุก..ก..วัน
    ภายใน 3 ปีก็ผ่อนหมด
    ลูกชายคนเล็กพอเรียนจบช่างยนต์ แต่ไม่อยากเป็นลูกจ้าง
    ก็เลยดาวน์รถแท็กซี่ใหม่อีกคัน ช่วยกัน 2 แรง
    เห็นบอกว่า...อีกไม่กี่เดือนก็จะผ่อนหมดแล้ว
    เป้าหมายต่อไปก็จะ...ปลูกบ้านเอง

    ผมถามว่า ไอ้ลูกชายตัวร้ายล่ะ เป็นยังไง
    ลุงชัด บอก...โอ๊ย มันกลับตัวเป็นคนดีมีลูก 2 คน
    พอมีลูกยิ่งขยันเป็นที่สุด
    มันกราบแม่มันเกือบทุกวัน บอกเสียใจที่เคยทำร้ายแม่...
    และก็รักน้องชายมาก พูดบ่อยๆ ว่าขอโทษที่พี่เคยเลวร้าย
    ส่วนลูกสะใภ้ใจเด็ด ในชีวิตไม่เคยมีพ่อ มีแม่ ก็กราบแม่ผัวด้วย
    ระลึกถึงพระคุณที่ไม่รังเกียจ และยังเมตตาให้อยู่ด้วยกัน
    เพิ่งเคยสัมผัสความรัก ความอบอุ่น...ขอเป็นลูกด้วยคน
    ลุงชัดบอกว่า แกคิดถูกที่ตัดสินใจ...หนี
    หนีออกมาจากแหล่งชั่ว ร้าย เพราะเอาชนะมันไม่ไหว

    ผมก็ถามว่า ทำไมคนขับแท็กซี่คนอื่นชอบบ่นว่าหาไม่พอกิน
    ลุงชัด บอกว่ามีเคล็ดลับ...แกกับลูกคนเล็กทำเหมือนกัน
    ทุกเช้าพอใส่บาตรแล้ว ก็จะนั่งสวดมนต์ในรถ...
    แผ่เมตตา อุทิศบุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร และแม่ย่านางรถ

    ทู๊ก.ก..วัน ทำให้ได้ผู้โดยสารไม่เคยขาด เจอแต่คน ดี ดี ทั้งนั้น

    ไม่น่าเชื่อนะ...แค่ใส่บาตร และก็สวดมนต์ทุกวัน
    แค่นี้ก็ทำมาหากินขึ้น หมดหนี้หมดสิน
    สามารถสร้างตัวได้ทั้งครอบครัว
    อานิสงส์แรงขนาดนี้...จริง จริง เหรอ.

    ที่มา

    http://www.dld.go.th/feedingstandard/index.php/community-of-practice/76-2010-07-10-23-46-28/517---qq----
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ธันวาคม 2011
  9. จาพิ

    จาพิ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +40
    โดยส่วนตัวแล้ว งงงงงง

    เพราะคิดว่าการผลิตหรือขายสิ่งเสพติดหรือของมึนเมาต่างๆเป็นบาป เพราะ ยังไงสินค้ามันก็คือ เพื่อดื่ม..หรือ...เสพ..........รู้เป้าหมายและความต้องการของลูกค้าอยู่แล้ว

    มันเหมือนเป็นการสนับสนุน.............................................

    คงจะมีน้อยมากที่เอาไปทำอย่างอื่น เช่น เอ่อ...........เอาไปทำอาหาร หรือ เทสุราทิ้งแล้วเอาขวดไปใช้ ฯลฯ

    อย่างยาเสพติด..............

    ผู้ผลิตคงไม่น่าจะบอกว่า.........ขายให้แล้ว จะเอาไปทำอะไร ก็เรื่องของมัน


    สรุป..................

    ถ้ายังไงก็โปรดชี้แนะด้วย..............เพราะยัง งง อยู่

    ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง..............สาธุ
     
  10. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130


    ลองอ่านคำสอนนี้ดีดีครับ


    ขายเหล้าบาปไหม

    ผู้ถาม อยากจะถามว่า คนที่ขายเหล้าแล้วคนขายไม่ได้กินอย่างนี้เป็นการค้า คนขายนี่บาปไหมครับ...หลวงพ่อ
    หลวงพ่อ คำว่า บาป แปลว่าอะไร?

    ผู้ถาม บาปนี่...ชั่ว...ครับ
    หลวงพ่อ บาปนี่ชั่ว ขายได้สตางค์ชั่วยังไง...รวย
    ความประพฤติเขายังไม่ชั่ว แค่ขายอย่างเดียว ความประพฤติก็ว่าอีกส่วนหนึ่งต่างหาก


    ผู้ถาม แต่ว่าสิ่งที่ขายนี่ ทำให้คนที่ซื้อไปเป็นโทษ

    หลวงพ่อ ช่างมันปะไร...รู้แล้วเสือกซื้อไปทำไม


    ผู้ถาม ตกลงไม่บาปใช่ไหมครับ?

    หลวงพ่อจะบาปยังไง...คือพระพุทธเจ้าทรงปรับว่าเป็น มิจฉาวาณิชชา เป็นการค้าที่ไม่สมควร เราจะไปพูดเกินพระพุทธเจ้านี่ไม่ได้ ใช่ไหม...อย่างขายปืนนี่ เราเป็นคนขายอาวุธ คนขายอาวุธไม่ได้บอกว่า เจ้าจงไปยิงคนนั้นนะ มันเรื่องเขาจะต้องมีการป้องกันตัวของเขาอย่างหนึ่งนะ การขายอาวุธอย่างหนึ่งนะ การขายสุราเมรัยอย่างหนึ่ง พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าเป็น มิจฉาวาณิชชา อุบาสกอุบาสิกาไม่ควรจะค้าขาย

    แค่แนะนำไม่ใช่บาป ยังปรับโทษเขาไม่ได้เลย มันต้องดูเหตุดูผลว่ามันเป็นโทษได้ยังไง การค้าเขาไม่ได้กิน คนค้าเหล้าไม่ได้ เมาเหล้านี่ ใช่ไหม... จะต้องดูจุดตรงไปตรงมา ธรรมะนี่ต้องตรงไปตรงมานะ ก็อย่างมีคน ๆ หนึ่ง เข้าไปกรุงเทพฯ ที่ซอยสายลมแกมาถามว่า เชื้อโรคในร่างกายเป็นสัตว์มีชีวิตใช่ไหม...และการที่เราจะกินยาฆ่าสัตว์มีชีวิตในร่างกายไม่บาปหรือ?



    หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๑๐(ปัญหาการรักษาศีล)



    **********************************************

    ถาม: ..................................

    ตอบ: พระพุทธเจ้าตรัสว่า มิจฉาวณิชชา คือ การค้าขายที่ไม่สมควร เป็นการค้าที่ผิดทาง ประกอบไปด้วย ๑ ) ขายสุรา ๒) ขายยาพิษ ๓) ขายอาวุธ ๔ ) ขายมนุษย์ ๕ ) ขายสัตว์ที่มีชีวิต ท่านบอกว่า บุคคลที่เป็นพุทธมามกะไม่พึงกระทำด้วยเหตุ ๒ ประการ

    ประการแรก - ถ้ารักษากำลังใจไม่เป็น จิตเศร้าหมอง จะลงนรกเสียเอง
    ประการที่สอง – บุคคลทีไม่เข้าใจจะกล่าวจาบจ้วงว่า เป็นพุทธมามกะผู้รักษาศีล แล้วทำไมถึงสนับสนุนการขายการฆ่าอยู่อีก

    เราไม่ได้บีบคอให้มันกินเหล้าสักหน่อย แต่เราขายเหล้า คนด่าเราอย่างนี้ จริง ๆ เรื่องของธรรมะตรงไปตรงมา คือคนกินถึงผิด แต่คนที่เขาไม่เข้าใจ เขามากล่าวหาจาบจ้วงอาจเป็นโทษแก่เขา อย่างเช่นว่า ยาพิษอย่างนี้ ยาฆ่าคน ยาฆ่าสัตว์ ฆ่าแมลง เราไม่ได้ฆ่าเอง เขามาซื้อจากเราไป แต่คนที่เขาไม่เข้าใจเขาว่าเราสนับสนุนในการฆ่า เรื่องของอาวุธก็เหมือนกัน ส่วนเรื่องของค้ามนุษย์ค้าขายคนนี้ทุเรศที่สุดอยู่แล้ว รู้ ๆ อยู่ใช่ไหม ขายสัตว์มีชีวิตนี้ ถ้าเขาเอาไปเลี้ยง ก็โดนกักขัง อาจอด ๆ อยาก ๆ ต้องทนทุกข์ทรมานมาก สร้างเวรสร้างกรรมเปล่า ๆ แต่ถ้าเขาเอาไปฆ่ากิน ก็ยิ่งบรรลัยใหญ่เลย


    กระโถนข้างธรรมาสน์ฉบับที่ ๓๔

    ************************************************

    ด้วยความเคารพครับ

    ผมไปต่างประเทศ ขากลับซื้อเหล้าชั้นดีที่ไม่มีขายในเมืองไทยไปตั้งโชว์ที่ตู้โชว์ที่บ้าน



    ผมขอถามว่า คนขายเหล้า และ ผม ... บาปไหมครับ ?



    .
     
  11. จาพิ

    จาพิ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +40
    ขอสารภาพตามตรงว่ายัง งง อยู่ค่ะ

    เช่น ตามประโยคตัวอย่างที่ว่า เราไม่ได้บีบคอให้มันกินเหล้าสักหน่อย แต่เราขายเหล้า

    สามารถนำไปใช้ได้กับกรณีอื่นๆ หรือ ไม่อย่างไร

    เพราะตามตัวอย่าง ตามความเข้าใจของข้าพเจ้า

    เรื่อง สุรา ยาพิษ และ อาวุธ ได้.............แต่..........เรื่อง ค้ามนุษย์ และ สัตว์มีชีวิต ไม่ได้


    ผิดถูกอย่างไรโปรดกรุณา ชี้แนะ สงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสทางปัญญาด้วยค่ะ
     
  12. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    เดี๋ยวนะครับ

    เราคุยกันเรื่องขายเหล้าว่า บาปหรือไม่บาป

    แต่ถ้าเป็นเรื่องค้ามนุษย์และสัตว์นี้ ...ณ ปัจจุบันนี้คนซื้อเอาไปทำบาป เอาไปทรมานแน่ ๆ ไม่มีใครเอาไปทำกุศลเลี้ยงดู

    อย่านำมาร่วมกันนะครับ คนละอย่าง

    เรื่องมิจฉาวานิชชา ๕ อย่างนี้ ต้องแยกข้อมาถามครับ


    ขายเหล้า ขายยาพิษ ขายอาวุธ... เราขายสิ่งมีพิษ ถ้าคนซื้อเขาเก็บเอาไว้เฉย ๆ มันก็ไม่มีอันตรายอะไร

    จะเหมาว่า ขาย 3 อย่างนี้บาป ไม่ได้ครับ


    ส่วนขายคนและสัตว์ ที่ยังมีชีวิต

    คนเลี้ยงรู้อยู่แล้วว่าขายเอาไปฆ่า เอาไปทรมาน ... บาปแน่ ๆ
     
  13. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    เถียงเรื่องอาชีพขายสุรากับเลี้ยงกุ้ง
    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ผมและพี่ชายเถียงกัน ไม่ตกลงว่าใครแพ้ใครชนะ คือว่ากระผมมีอาชีพขายสุราและอาหาร พี่ชายมีอาชีพเลี้ยงกุ้งกุลาดำ ต่างก็เถียงกันว่า ของแกบาปกว่าของฉัน ของฉันบาปน้อยกว่าของแก เถียงไปเถียงมาก็ปรากฏว่าจะวางมวยกัน
    หลวงพ่อ เอาละซิ...ไมทันจะตาย บาปมาก่อนแล้ว รายหนึ่งขายสุราใช่ไหม?

    ผู้ถาม ครับ
    หลวงพ่อ เขาขายอย่างเดียวไม่ได้กินนะ

    ผู้ถาม ครับ
    หลวงพ่อ อีกรายหนึ่งเลี้ยงกุ้งกุลาดำ เลี้ยงอย่างเดียว ไม่ได้ฆ่านะ

    ผู้ถาม แต่แกขายครับ
    หลวงพ่อ แล้วขายเขาเอาไปเลี้ยงต่อเรอะ?

    ผู้ถาม (หัวเราะ) ส่วนมากก็ อิมัสสมิง ลงกะทะครับ
    หลวงพ่อ เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ เราพูดตามหลักวิชานะ ถ้าขายสุราและเมรัย พระพุทธเจ้าตรัสว่า เป็น มิจฉาวาณิชชา หมายความว่า ทายก อุบาสกอุบาสิกา ไม่ควรขาย แต่ไม่ปรับเป็นโทษ ถ้าหากว่าเลี้ยงกุ้งกุลาดำ นี่เป็นเมตตากับกรุณา ๒ อย่าง

    ผู้ถาม ? ? ?
    หลวงพ่อ เป็นตัวเล็ก เลี้ยงให้มันตัวโตขึ้นมา


    ผู้ถาม อ๋อ....
    หลวงพ่อ แต่อีตอนขายซิ ต้องเป็นแบบ...เดี๋ยว...ถามลุง(พญายม)ดีกว่า ลุงเอาบัญชีมาเปิดปั๊บ ตัวแดงแจ๋เลย...


    ผู้ถาม อย่างนี้...ถ้าไม่จำเป็นก็เลิกเลี้ยงเลิกขายดีกว่านะ
    หลวงพ่อ เอาอย่างนี้ดีกว่าถือว่าเป็นอาชีพ สัมมาอาชีวะ ทำไปเถิดตามชอบใจ เขาไมลัก ไม่ขโมย ไม่โกงใครก็หมดเรื่องหมดราวไป จะเอาแต่ธรรมะอย่างเดียว ก็เลี้ยงตัวไม่รอดเหมือนกัน แต่ว่าถ้าหากว่ามีกำลังใจดี เข้มแข็งนะ ส่วนที่ทำแบบนั้นเราก็ว่าไป เวลาว่างเราก็ทำบุญ ทำบุญหมายความว่า ทำบุญในห้องมีความสำคัญมาก เจริญภาวนาสวดมนต์ภาวนา เวลาตายก็ต้องแบ่งเป็น ๒ ซีก ทั้งบุญทั้งบาป แล้วเกาะความดีอย่างใดอย่างหนึ่ง
    อย่างให้ทาน ไม่ต้องให้มาก แต่ให้บ่อยๆ คือว่า ถ้าให้มากทรัพย์จะสูญเสียมาก คือเดือดร้อนใช่ไหม...ให้เล็ก ๆ น้อย ๆ ให้จิตมันเกาะ หรือว่าชอบใจสวดมนต์ก็สวดมนต์ สวดมนต์ก้ไม่ต้องหลายบทนัก เอาบทที่เราชอบใจ หรือว่า เจริญภานา บทไหนก็ได้ที่เราชอบให้จิตมันเกาะ ถ้าจิตมันเกาะเวลาตายแล้ว เขาก็มาเชิญไปสำนักพระยายม ประเภทนี้ไปแน่
    ถ้าบาปจริงๆ มันพุ่งหลาวลงนรกเลย ความชั่วก็มี ความดีก็ปรากฏ ทั้งสองอย่างต้องไปสำรักพระยายมก่อน เขาจะสอบสวนแล้วถ้าหากว่าไม่ฉลาดเกินไป ฉลาดพอดีนะ เวลาทำบุญให้พระยายมเป็นพยานไว้หมดเลย ไปถึงลุงพูดคนเดียว...เสร็จ! พูดเรื่องบุญอย่างเดียว บาปไม่พูดหรอก นี่รายการนี้ขอ ๖ บาทค่าครู...(หัวเราะ)


    เถียงเรื่องอาชีพขายสุรากับเลี้ยงกุ้ง
     
  14. จาพิ

    จาพิ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +40
    ขอขอบพระคุณสำหรับคำตอบค่ะ

    อันที่จริงมีคำถามอยากจะถามอีก

    ขอสารภาพอีกทีมันยังไม่ค่อยกระจ่างสำหรับข้าพเจ้า

    ก็ปัญญามันมีมาแค่นี้ (พวกบัวใต้ดินอย่างข้าพเจ้า)

    คงจะเป็นการรบกวนมากเกินไป เพราะ ข้าพเจ้าก็รู้สึกรำคาญตัวเองเหมือนกันถ้าจะถามไม่จบไม่สิ้นซักที

    เอาเป็นว่า ข้าพเจ้าจะศึกษาเรียนรู้ไปเรื่อยๆ.................

    ขอให้เจริญในธรรม อนุโมทนาสาธุค่ะ:cool:
     
  15. หนีนรก

    หนีนรก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +666
    ลองคิดง่ายๆว่า ถ้าคุณเห็นว่าพนักงานสะดวกซื้อ พนักงานห้างสรรพสินค้าพวก ซุปเปอร์สโตร์ รวมทั้งพนักงานที่เครื่องแคทเชียร์ และ้ถ้าคุณเห็นว่าเป็นบาป ขอแนะนำให้ไปบวชเลย เพราะอาชีพที่คุณเห็นว่าไม่บาปเลยจะเหลือสักกี่อาชีพกัน
    หากเป็นเจ้าของร้านสะดวกซื้อแล้วบาป เพราะดันมีเหล้าเป็นหนึ่งในสินค้าอยู่ในร้านด้วย
    แล้วพนักงานร้านค้าประเภทนี้ต่างก็ต้องไม่พ้นบาปเช่นกัน ฐานอำนวยความสะดวก

    ถ้าคุณเปิดเธค ร้านสุราโดยเฉพาะ แน่นอนว่าร้านพวกนี้กำไรดีมาก แต่คุณสังเกตุมั้ย ว่าพวกเขามักไม่รวยหรือเก็บเงินไม่ได้เลย แถมเป็นหนี้เป็นสิน แม้แต่พนักงานเซิฟ (แต่แขกให้ดื่มก็ต้องดื่มนะ) ทำงานได้ทิปคืนนึง 300-400 ก็มี มากกว่าคนจบปริญาตรีอีก แต่เขาก็เก็บเงินไม่อยู่เหมือนกัน (ถ้าคิดว่าเป็นกรรมก็ใช้วิจารณญาณวิเคราะห์ด้วย)
    แต่มันก็มีเหตุผลในตัวเอง จากวิเคราะห์เกิดจาก เงินจากพวกนี้ลงทุนไม่มากแต่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ เงินช่างหาง่ายทำให้ใช้ได้ง่าย คลุกเคล้ากับแสงสีเสียง กิเลสก็ต้องงอกเงย ต้องจ่่ายค่าอำนวยความสะดวกกับคนสีกากีไม่น้อยเช่นกัน(เวลาลูกค้าเมามั่วรบกวนโต๊ะอื่นเขาจะมาช่วยได้ทัน) ถึงอย่างนั้นอยู่กับลูกค้าขี้เมา ความเครียดสูง ทำให้การใช้จ่ายเพื่อระบายความเครียด พัวพันกับการพนัน ติดผู้หญิงหรือผู้ชาย ครอบครัวแตกร้าว ปัญหาเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ (กรรมมันทำงานของตัวมันเองอยู่แล้วไม่ต้องถามหา แต่ถ้าเรารู้เท่านั้นมันระวังใจตัวเองก็ลดปัญหาได้และแก้ไขมันทัน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 ธันวาคม 2011
  16. กสิน9

    กสิน9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    322
    ค่าพลัง:
    +270
    ตามหัวข้อ ไม่บาปแต่ควรละ ยังไม่ชัดอีกหรือครับนี่ ไม่น่าจะเข้าใจยากเลยเน้อ ควรละ ไม่เชื่อพระพุทธเจ้าก็เปลี่ยนศาสนาเลยดีกว่ามั้งครับ จะได้ไม่ต้องคิดฟุ้งซ่าน
     
  17. makcloud

    makcloud เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    424
    ค่าพลัง:
    +535
    บางทีก็งงนะครับ คนขายเหล้าไม่บาป ทั้งที่คนขายเขาก็รู้ว่า คนกินแล้วเป็นยังไง ยิ่งถ้าเป็นชาวพุทธ รู้ว่าผิดศีลข้อ 5 และได้รับผลยังไง เหมือนกับบอกว่า ฉันก็แค่ขายไม่ได้บอกให้กิน
    ไม่ได้ปรามาสพระพุทธเจ้านะครับ
    และไม่ได้ดูถูกความรู้ของทุกท่าน
    แต่สิ่งที่เรียกว่าดีชั่ว กรรมดี กรรมเลว มัีนเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งจริง ๆ
    ขอบคุณมากครับ
     
  18. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    ด้วยความเคารพครับ

    1) ผมไปต่างประเทศ ขากลับซื้อเหล้าชั้นดีที่ไม่มีขายในเมืองไทย(ไปตั้งโชว์ที่ตู้โชว์ที่บ้าน)


    ผมขอถามว่า คนขายเหล้า และ ผม ... บาปไหมครับ ?



    2) ผมไปต่างประเทศ ขากลับซื้อเหล้าชั้นดีที่ไม่มีขายในเมืองไทย

    ผมขอถามว่า คนขายเหล้า และ ผม ... บาปไหมครับ ?



    3) ผมไปต่างประเทศ ขากลับซื้อเหล้าชั้นดีที่ไม่มีขายในเมืองไทย(เพื่อมาดื่ม)

    ผมขอถามว่า คนขายเหล้า และ ผม ... บาปไหมครับ ?



    4) ผมไปต่างประเทศ ขากลับซื้อเหล้าชั้นดีที่ไม่มีขายในเมืองไทย(เพื่อมาฝากเจ้านาย)

    ผมขอถามว่า คนขายเหล้า และ ผม ... บาปไหมครับ ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 ธันวาคม 2011
  19. คนมีกำกึด

    คนมีกำกึด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +278
    ก็เห็นแล้วตามอย่างท่านเฮียปอ ตำมะลัง อ้างอิงมาว่า มันไม่บาป ส่วนความประพฤติว่ากันไปอีกอย่าง พระพุทธเจ้าท่านบอกให้ละ ท่านก็ไม่ได้ตรัสว่ามันบาปซึ่งเท่าที่ผมอ่านของเฮียปอ ตำมะลัง มา หลวงพ่อท่านก็บอกชัดเจนว่า ไม่ควรพูดเกินพระพุทธเจ้า บาปไม่บาปไม่รู้ พระพุทธเจ้าก็ไม่ได้ตรัสชัดเจน แต่ท่านบอกให้ละ แต่จะบอกว่า บาปหรือไม่ ต้องไปกางพระสูตรว่ากันอีกทีว่ามีไหม มีที่บอกว่าบาปไหม มีที่บอกว่าไม่บาปไหม ถ้ามีอย่างใดอย่างหนึ่งก็ว่ากันไปตามอย่างนั้น ถ้าไม่มีก็บอกไม่ได้ เพราะเราต้องไม่พูดเกินพระพุทธเจ้า เพราะฉะนั้นจะบอกว่า ไม่บาปแต่ควรละ ก็ยังอาจจะไม่ถูกนัก เพราะจากการอ่านในกระทู้นี้เราพบเพียงว่า ควรละ ไม่พบว่า บาป แต่ก็ที่สำคัญอย่าพูดเกินพระพุทธเจ้า เรียกว่า อย่าสรุปนั่นเอง

    มีพระสูตรหนึ่งคือ พรหมชาลสูตร กล่าวถึง ทิฐิ 62 เหล่าลัทธิเหล่านั้นก็เกิดจากการ สรุปมากกว่าที่ตนเองเห็น เช่น พวกเห็นอดีตชาติเป็นแสนๆชาติ ก็สรุปเลยว่า อัตตาเที่ยง ดังนั้นเราก็ไม่ควรจะสรุปไปมากกว่า ควรละ นะครับ ส่วนจะบาปหรือไม่ต้องไปกางพระสูตรว่ากันอีกที
     
  20. คนมีกำกึด

    คนมีกำกึด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +278
    เหมือนผมจะเกริ่นหัวผิดไป ผมจะบอกว่า เห็นอย่างท่านเฮียปอ ตำมะลัง อ้างอิงมาแล้วว่า ไม่ได้กล่าวถึงบาป ครับ ผิดเล็กน้อย
     

แชร์หน้านี้

Loading...