จะรู้ได้ยังไงว่าเราได้บรรลุธรรมแล้ว

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย mojito544, 4 ธันวาคม 2011.

  1. mojito544

    mojito544 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +2,345
    ผมเคยอ่านในพุทธประวัติว่า พอได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าแล้วได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ ในวันเดียวเลยสงสัยว่า คำว่าบรรลุเนี๊ย คือความเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่า ของทุกอย่างที่เิกิดขึ้นเป็นธรรมดาย่อมเสื่อมไปเป็นธรรมดา ดั่งเช่นร่างกายของเรา เข้าใจในกฎของนรกสวรรค์ อย่างนั้นหรือ จะเหมือนกับเราเรียนหนังสือแล้วเรารู้แตกฉานอย่างนี้หรือที่เค้าเรียกว่าได้บรรลุธรรม
     
  2. dreamlnw002

    dreamlnw002 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +11
    ผู้ปฏิบัติธรรมเท่านั้น ที่สามารถรู้ด้วยตัวเองครับ
     
  3. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    ใช่ครับ เหมือนเรารู้และแตกฉานในวิชาที่ศึกษา

    บรรลุธรรมก็คงจะเหมือนกัน ถ้าเรารู้ทุกอย่างแล้วอย่างแตกฉาน โดยหมายเอารู้แจ้งประจักษ์จริง ต่างจากรู้แบบแตกฉานของวิชาการตรงที่ รู้แบบเกิดจากปัญญา กับ รู้จากการเรียนรู้จากตำรา ครับ
     
  4. dewvader

    dewvader Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +88
    ผมก็ไม่รู้หรอกน่ะ แต่น่าจะทำกำลังใจได้ตาม มงคล 38 ข้อหลังๆ
     
  5. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    947
    ค่าพลัง:
    +1,210
    มันเป็นสันทิฐฐิโก ปัตจัตตัง
    กินเกลือรู้ว่ารสเกลือเป็นเช่นใด
    รสแห่งธรรมก็คล้ายๆกัน...แต่ไม่เค็มนะครับ
    เหอๆ
     
  6. mojito544

    mojito544 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +2,345
    อืมผมเข้าใจแล้วครับคือเรารู้แตกฉานและสามารถจิตนาการต่อยอดและนำไปสู่การบรรลุในที่สุดใช่หรือไม่
     
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ไม่ใช่ แตกฉาน เชิง พยัญชนะ ตรรกะ หรือ สะกดจิตให้เกิดจินตนาการ

    แต่เป็น แจ้งโลก หรือ รู้เหตุของการเกิดโลก(รูปนาม) ว่ามีรากมาจาก ตัณหา

    การเข้าใจ จึงไม่ยาก เพียงอ่าน ข้อความข้างต้น หลายๆครั้ง ก็จะ แตกฉาน ในพยัญชนะ

    แต่ การคำนึงถึง สภาวะที่เราสิ้นตัณหา จะยังคงเป็น "จินตนาการ" เพราะว่า มันมีข้อ
    เท็จจริง ค้านอยู่ คนที่พิจารณาตนอยู่โดยรอบ แยบคาย มีกัลยาณธรรมที่ดี
    ไม่ประมาท เท่านั้น จะยัง คงตรวจสอบ "จินตนาการ" นั้นยังอยู่หรือไม่

    เช่น เราเห็นเมืองนิพพาน เห็นพระพุทธเจ้า มีคนพาไปเห็นเมืองนิพพาน เห็นพระพุทธ
    เจ้า แต่ เรากลับมาที่บ้าน ยังอยากฆ่าคนนั้นคนนี้ที่มารังแกเรา มารังแกครอบครัว
    เรา นี่มันก็จะฟ้องได้ว่า

    ไอ้เมืองนิพพาน ที่พึ่งไปมานั้น มันโหลยโถ่ย หรือว่า ดีงามกันแน่

    ทำไมมันถึง รองรับ สัตว์ที่มีจิตใจโสโครก เข้าไปอยู่ได้ เข้าไปเดินได้

    ชะรอย จะมีการหลอกลวง บังบด เสีย นี่เราก็จะทราบทันทีถึง ความไม่ประมาท
    ความมีกัลยาณธรรมที่ดี มีความแยบคายในการพิจารณา ธรรม3อย่างนี้ช่วย
    ให้รอด ให้เห็นความเป็นจริง แยกแยกระหว่าง "ฟังตามๆกันมา(สุตมัยปัญญา)"
    "ฟังโดยการกดข่มใจบังคับกันไป(จินตมัยปัญญา)" กับ "การรู้จริงเห็นจริงด้วย
    ตนเอง เห็นได้ตลอดเวลาด้วยตนเอง แจ้งโลก แจ้งรูปนาม (ภวมัยปัญญา)"

    ซึ่ง จะเห็นทันทีว่า ตนเท่านั้นเป็นที่พึ่ง ธรรมเท่านั้นที่เป็นที่พึ่งได้จริง
     
  8. gentboy

    gentboy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2011
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +240
    ผมก็คิดเช่นนั้นครับ เพราะมันเป็นสิ่งที่สามารถรู้เห็นได้ด้วยตนเอง ปราบใดที่เรายังมีอวิชชาอยู่ เราก็คิดไปเองว่ามันเป็นเช่นนั้นเช่นนี้
     
  9. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    ...........:cool:

    สุริยันลาลับดับขอบฟ้า ดวงจันทราคราแรมรับ ดับแสงฉาย
    หมุนเวียน กลับกลอก หลอกโชติช่วง เพียงครั้งครา
    นั่นเพียงแสง สุริยันและจันทรา ไม่คงที่

    จะเปรียบกับ "ปญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต" ก็หาไม่
    แสงสว่างยังคงอยู่ รอสาดส่อง แสงเฉิดฉาย ทั่วหมื่นโลกธาตุ
    ดุจประทีปส่องทาง นำเหล่าสัตว์
     
  10. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    คำถามนี้ ต้องถามคนที่รู้แล้วเขาถึงจะตอบได้ถูก มาถามคนแถวนี้ตอบงูๆปลาๆกัน มันจะไปรู้เรื่องอะไร

    จะตอบให้ฟังแล้วเอาไปพินิจพิเคราะห์เอาเอง เป็นแนวทางเพื่อให้รู้เองเห็นเอง

    ความรู้ใดๆก็ตาม ถ้าเราไม่ได้รู้มันเอง เราก็ยังสงสัยมันร่ำไป มันรู้ที่หัวและที่ความจำแต่มันยังไม่เกิดที่ใจ ยังไม่ได้ประจักษ์
    ทีนี้ เรื่องของธรรม มีตั้งแต่ กระดิกหัวนิ้วโป้งตีนก็เป็นธรรม กระดิกเองรู้เอง สัมผัสมันเอง ไม่เชื่อลองกระดิกดูซี แต่ถ้าใครมาบอกว่า กระดิกต้องยกอย่างนั้นอย่างนี้ มันมากเรื่องไหม คนจำมันก็จำได้แต่มันไม่ลองกระดิกเองมันก็ไม่รู้สึก

    ทีนี้ ตัวความรู้สึกในองค์ธรรม นี้มันต้องสัมผัส โดยใช้ความรู้ขัดเกลา ให้ใจสัมผัส แบบที่สัมผัสหัวนิ้วโป้งตีนนั่นแหละ

    พอสัมผัสละเอียด ไปเรื่อยๆ มันรู้เองเห็นเอง มันชัดเจนแล้วไม่ต้องสงสัย
    แต่ใครที่ว่า ทำความดีเท่านั้นพอ หากแต่มันไม่สัมผัสธรรม มันจะไปเรียกแจ้งในธรรมไม่ได้

    เมื่อแจ้งมันจะแจ้งในทัสนะ เมื่อเห็นเอง รู้เอง เป็นเอง เราก็ค่อยๆระลึกทบทวนสิ ว่าไอ้ที่เราเดินมา จนมาถึงวันนี้นั้น เราดำเนินจิตมาอย่างไร ทบทวนจนเห็นแจ้งนั่นแหละ เรียกว่า มรรคญาณ

    ทั้งหมด ต้องทำด้วย การขัดเกลา สติ ปัญญา ให้ละเอียด ให้ยิ่งยวด เหนือปัญญาแบบโลกๆ

    มันจึงจะรู้เองเห็นเอง กระจ่างเอง แล้วไม่ต้องถามใคร
     
  11. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    คำตอบของคุณ "นิวรณ์" ค่อนข้างจะครบถ้วนครับ
    ความรู้ ๓ ระดับที่พระพุทธเจ้าทรงจำแนกไว้

    รู้แบบแตกฉาน เรียนมา ,ศักษามา ,ฟังมา ฯ เรียกว่า สุตมัยปัญญาครับ

    นำมาต่อยอด ,ประยุกต์ ฯ อันนี้เรียกว่า จินตนาการ หรือ จินตมัยปัญญา คือปัญญาอันเกิดจากการคิดจินตนาการจะด้วยเชิง ตรรกะ หรือ อตรรกะก็แล้วแต่

    ทั้ง๒ระดับนี้ยังถือว่ามีประมาทอยู่ อันเนื่องจากจิตใจที่หยาบของมนุษย์ที่มีปัญญาทั้ง ๒อย่างที่กล่าวมานี้จะไม่สามารถระงับหรือทำให้ละเอียดประณีตได้ด้วยการ คิดนึกใดๆดังกล่าว เพราะฉนั้นการคิดเอาว่าถึงซึ่งแล้ว "พระนิพพาน" นั้นจึงยังหาที่สุดแห่งทุกข์ได้ไม่ครับ

    เพราะฉนั้นปัญญาในระดับ "ภวนามัยปัญญา" จึงเป็นปัญญาชั้นสูงสุดอันเกิดจากการไปรับรู้ถึงซึ่งธรรมชาติ ครับ

    และการที่จะไปรับรู้ก็ไม่ได้เกิดจากการคิดนึก เพียงแต่เป็นการตามรู้ ความเป็นไป ตั้งแต่เริ่งจนจบ เกิด - ดับ ครับ

    เหมือนเราเห็นรถสีน้ำเงินวิ่งเข้ามาหาเรา เราจะไปว่าเป็นส้มและกำลังห่างออกไปก็ไม่ได้ เราต้องรู้เห็นตามความจริง เช่น รถสีน้ำเงินวิ่งมาหาเรา เพราะเราเห็นว่ามันหันหน้ารถมาทางเรา และมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ผ่านหน้าเรา เพราะเราเห็นด้านข้างรถ และท้ายรถ ผ่านไป และมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ จนลับสายตาไปในที่สุด อันนี้เรียกว่าเกิดและดับครับ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป อันนี้ในระดับความเร็วของรถนะครับ แต่สำหรับจิตเกิดดับแทบจะมองไม่เห็น แต่พอมองเห็นส่วนใหญ่จะเป็นการบังคับหรือบีบคอให้เห็นชัด ต่างจากการให้มันผ่านมาและผ่านไป อุปมาอุปมัย

    ดังนี้ กระบวนการและกรรมวิธีนี้เรียกว่า การสังเกตการณ์ในทางวิชาการครับ
    ส่วนในทางธรรมเรียกกันว่า "การปฏิบัติธรรม" ครับ
    จึงเป็นที่มาของคำว่า จะรู้เห็นได้เฉพาะผู้ปฏิบัติจึงไม่ใช่เรื่องเกินวิสัย หรือวิเศษเกินจริงครับ
     
  12. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    พูดเปรียบเทียบเชิงวิชาการในรูปแบบของข้อมูล ดังนี้

    - ข้อมูลเดิม คือ ข้อมูลที่มีการจดบันทึกอยู่แล้ว
    - ข้อมูลภาคสนาม คือ ข้อมูลที่ยังไม่มีการจดบันทึก เป็นข้อมูลหน้างาน
    - ข้อมูลที่ได้จากการปฏิบัติภาคสนาม อันนี้ถึงจะเรียกว่า ปัญญา ที่เกิดจากประสบการณ์จริงครับ

    อนุโมทนาธรรมทุกท่านครับ
     
  13. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ในเรื่องของธรรมมันง่ายเสียจน เหมือนการกระดิกนิ้วโป้งตีนนั่นแหละ
    แต่พอมายุคนี้ คนมันสรรหาคำพูดมาอธิบายจนมากเกินไป ธรรมจึงกลายเป็นสมมติ เพราะมันอ้อมไง
    เวลามันบอกให้กระดิกส้นตีน มันอ้อมไปบอกว่า ต้องอธิบายก่อนว่า ส้นตีนเป็นอย่างไร
    พอส้นตีนเป็นอย่างไร มันไปอธิบายต่อว่า ดวงจิตที่จะไปเกิดตรงส้นตีนนั้นมันมีร้อยดวงพันดวง
    ทีนี้ไอ้คนฟังมันมัวแต่ไปฟังเรื่องสมมติ
    สมัยพุทธกาล ท่านบอกให้กระดิกส้นตีน คนกระดิกตามเห็นธรรมตาม เท่านั้นจบ
     
  14. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    อืมม..จริงอย่างท่านขันธ์กล่าว

    แต่กาลเวลามันผ่านไปนานแล้ว คนก็เปลี่ยนรุ่นกันมาหลายรุ่น
    ยุคที่ยังใช้โทรเลข ก็จะบอกว่าถ้าจะพิมพ์อักษร "ก" จะต้องกดกี่ครั้งๆ
    แต่พอยุคนี้ก็แค่จิ้มลงไปก็ได้ตัวอักษรนั้นแล้ว พอถามว่ารู้จักโทรเลขไม๊
    ก็นึกภาพไม่ออก คนบอกก็สุดจะบรรยายจึงจำเป็นต้องยกอุปมาขึ้นมาในบางโอกาศ
    พอให้เห็นภาพบ้าง แต่ก็ใช่ว่าจะไปยึดที่ภาพที่สมมตินั้น

    บางที ธรรม อันใดที่แม้สั้นก็เกิดปัญญาน้ำตาร่วงได้พอได้ประจักษ์เข้าจริงๆ
    แต่บางที สั้น ไปยิ่งต้องเสียเวลาขยายกันมากๆ เพราะผู้ฟังก็ไม่เข้าใจ
    ทั้งนั้น เหตุเพราะทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจกันในบริบทที่ยกขึ้นมากล่าว

    อนุโมทนาครับ
     
  15. mojito544

    mojito544 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +2,345
    อิืมคำว่าบรรลุคงจะหมายถึงการเข้าใจในธรรมชาติอย่างแจ่มแจ้งกระมั้ง
     
  16. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    การมองธรรม ที่จะเป็นตัวทำลายอัตตา คือ มองสภาพการสัมผัส รู้สึก ให้ประกฎ แล้วดับทัสนะตัวตน เราเขาออกไป สังเกตุเฉพาะแต่ การกระทบ พอกระทบมา เราสังเกตุได้ นั่นแหละธรรม

    แต่ทุกวันนี้ที่เรารู้ว่าไอ้นั่นไอ้นี่ อย่างนั้นอย่างนี้ มันมาจากสมมติที่ก่อร่างสร้างตัว เพราะมีไอ้นั่นจึงมีไอ้นี่
    ลองดับความรู้ไปเสียทั้งหมด สังเกตุแต่ นิ้วโป้งตีนกระดิกดูบ้างซิ มันอาจจะเห็นธรรมในนั้น
    ตัวตนมันจะหมดไป มีแต่รู้เฉพาะส้นตีน เอาเท่านั้น จิตจะรู้อยู่ตรงนั้น ทำให้บ่อย มันจะก่อปัญญา ก่อสติขึ้นมา คอยพิจารณาให้ ความรู้ที่ว่า มีแต่การกระทบและความรู้สึกเท่านั้น ตัวตน อัตตานุทิฎฐิจะดับไป
    นั่นแหละอบรมตนเองให้ฉลาดขึ้นเรื่อยๆ จะกระจ่างแจ้งไปเรือ่ยๆ
     
  17. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ใครสังเกตุส้นตีนขยับบ่อย เกิดวันดีคืนดี จิตสงบเหลือแต่ตัวรู้เฉพาะส้นตีน ใครมาด่าเราไอ้หน้าส้นตีน หรือ ชูส้นตีนให้ เราก็จะยกมือไหว้เขาว่า ส้นตีนนี้แหละทำให้เรารู้จักธรรม
    เราจะไม่ไปหมายมั่นในคำว่าส้นตีนแบบเดิมว่าเป็นของต่ำ แต่เราจะหมายมั่นคำว่าส้นตีนในฐานะอวัยวะที่ประเสริฐ
     
  18. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    มาคราวนี้ ลุงขันธ์ กล่าวได้หนักแน่น แม่นแล้ว

    บุคคลผู้ไม่รู้จักผัสสะกระทบ ก็จะเอาส้นตีนมาหมกเม็ด เป็นเชื้อไฟสุมทรวง

    ก็จะงุบงิบ ว่าส้นตีนนั้นเป็นของต่ำ

    ลุงขันธ์ลุยเลย :cool:
     
  19. khundech

    khundech Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +54
    ถ้าถึงขั้นบรรลุ ยังไงเราต้องรู้เองเห็นเอง ไม่จำเป็นต้องไปถามใครหรอก
    เพราะกว่าจะผ่านมาถึงขั้นนี้ เราต้องรู้แจ้งเห็นชัดมาแล้ว ทั้งรูป นาม ขันธ์5 และอีกมากมาย
    จิตเราเองจะรู้เองเห็นเอง
    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
  20. mojito544

    mojito544 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +2,345

    ถามเพื่อจะได้มีเป้าหมายครับ ถ้าทำอะไรโดยที่ไม่มีเป้าหมายหรือไม่รู้ว่าผลลัพธ์คืออะไรแล้วจะทำทำไม:cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...