ข้อความจากต่างมิติ - กฎแห่งการดึงดูด (ทำไมและเมื่อไหร่มันถึงจะได้ผล), สภาวะนิพพาน

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)
เรื่อง: กฎแห่งการดึงดูด ทำไม และ เมื่อไหร่มันถึงจะใช้ได้ผล หรือใช้ไม่ได้ผล

วันที่ 24 กันยายน 2011
ผู้รับการสื่อสาร Tyberonn
ที่มา:
http://spiritlibrary.com/earth-
keeper/earth-keeper-chronicles/the-law-of-attraction-how-when-it-works-why-it-doesnt-part-2


ตอนที่ 15



ฟิสิกส์แห่งความเป็นขั้ว – กฎแห่งการดึงดูดสิ่งที่ตรงกันข้าม

ท่านคุรุทั้งหลาย “ยิ่งพวกคุณเข้าไปใกล้แสงสว่างมากขึ้นเท่าใด
พวกคุณก็จะยิ่งดึงดูดความมืดให้เข้ามาหาได้มากขึ้นเท่านั้นด้วย”
แสงสว่างย่อมดึงดูดแมลงให้เข้ามาหาเสมอ!

ยิ่งพวกคุณก้าวหน้ามากขึ้นเท่าไหร่ พวกคุณก็จะยิ่งดึงดูดเสียงวิพากวิจารณ์
ให้เข้ามาหาได้มากขึ้นเท่านั้นด้วย และมันก็ยิ่งจะต้องใช้สติปัญญา
เพื่อแก้ไขปัญหามากขึ้นตามไปด้วยด้วยเหตุนี้

คุณลักษณะความเป็นขั้วของ “กฎแห่งการดึงดูดสิ่งที่ตรงกันข้าม”
(Law of Opposite Attraction) จึงเข้ามามีบทบาทด้วย
แต่ถ้าพวกคุณอยู่ในสภาวะของการอุเบกขาได้
สิ่งที่เกิดขึ้นก็จะเป็นแค่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเท่านั้น

เพราะว่า “พลังงานบวกล้วนๆ
จะมีแรงดึงดูดด้านแม่เหล็กต่อพลังงานลบมากที่สุด”

ดังนั้น ยิ่งแสงสว่างของพวกคุณเจิดจ้ามากขึ้นเท่าไหร่
แรงดึงดูดสิ่งที่มีขั้วตรงกันข้ามกัน ก็จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้นด้วย
แต่พวกคุณก็สามารถที่จะจัดการกับมันได้ เพียงแต่พวกคุณจะต้องมีแสงสว่าง
มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีความเข้มแข็ง และมีการฝึกฝนปฏิบัติเพื่อเบี่ยงเบนมันออกไปเท่านั้น

ดังนั้น การจัดการกับคำสบประมาท, กับพลังงานอันรุนแรงของความริษยา,
กับความเกลียดชังและความโกรธ
ก็คือปริศนาชิ้นสำคัญสู่การบรรลุความเป็นผู้รู้ผู้ตื่นที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ

พวกคุณจะมีวิธีจัดการกับสิ่งนี้ได้อย่างไร?
อย่าไปถือสาหาความ (Don't take anything personally)'
ซึ่งบางทีการพูดมันก็ง่ายกว่าการทำ แต่มันก็เป็นเรื่องจริงทีเดียวล่ะ

ในคัมภีร์ไบเบิ้ลของพวกคุณ ก็มีกล่าวถึงเรื่องของการหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้ตบเอาไว้ด้วย
(“ผู้ใดตบแก้มท่านข้างหนึ่ง จงหันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาตบด้วย” (ลก 6:29) – ผู้แปล)

แล้วมันหมายความว่าอย่างไร?
มันไม่ได้หมายถึง การที่พวกคุณสามารถยกโทษให้กับคนที่เหยียบเท้าของพวกคุณได้หรอกนะ
เพราะว่าจริงๆแล้วมันหมายความว่า
“จงยืนหยัดอยู่ในสัจธรรมของตัวคุณเอง”

แต่มันก็หมายถึงว่า พวกคุณจะต้องไม่ไปเหยียบเท้าใครเข้าด้วยนะ
ไม่ว่าจะด้วยเจตนาหรือไม่ก็ตาม พวกคุณเข้าใจไหม?

 

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)
เรื่อง: กฎแห่งการดึงดูด ทำไม และ เมื่อไหร่มันถึงจะใช้ได้ผล หรือใช้ไม่ได้ผล

วันที่ 24 กันยายน 2011
ผู้รับการสื่อสาร Tyberonn
ที่มา:
http://spiritlibrary.com/earth-keeper/earth-keeper-chronicles/the-law-of-attraction-how-when-it-works-why-it-doesnt-part-2

ตอนที่ 16

การยืนหยัดอยู่ในความถูกต้องของตัวเอง
คือการแสดงออกอย่างสันติ
มันคือการแสดงออกถึงความมีเมตตากรุณาต่อการรุกราน
ที่จะช่วยรักษาคุณงามความดี และความสง่างามของทั้งสองฝ่ายเอาไว้
แล้วมันก็จะส่งพลังงานที่รุกรานเข้ามากลับคืนไปยังต้นตอของมันได้
แต่โดยปราศจากความอาฆาตพยาบาท และด้วยความรัก

ในท่ามกลางความขัดแย้ง พวกคุณแต่ละคนก็ยังมีโอกาสที่จะยืนอยู่ใน
“ความสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ” ได้เสมอ
พวกคุณสามารถจัดการกับปัญหาข้อขัดแย้งนั้นได้ โดยไม่ต้องเข้าไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมัน
พวกคุณเข้าใจไหม?

พวกคุณสามารถรับมือกับมัน และ เผชิญหน้ากับมันได้
โดยไม่ต้องเข้าไปมีอารมณ์ร่วมกับมัน (วางอุเบกขา – ผู้แปล)
ให้ทำตัวเป็นผู้สังเกตการณ์ก็พอ

ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันคือวิถีแห่งคุรุ
การที่พวกคุณ 'ไม่ไปถือสาหาความ (Don't take anything personally)' นั้น
ก็เท่ากับว่าพวกคุณวางเฉยต่อการตอบสนองด้วยอารมณ์อันนั้นแล้ว

พวกคุณแต่ละคนมีโอกาสที่จะอยู่ในความสมบูรณ์แบบไร้ที่ติได้ทุกๆวัน
เพราะว่าในสถานการณ์ใด ที่พวกคุณสามารถตระหนักรู้ถึงความล้มเหลวของตัวเอง,
หรือความขัดแย้งของตัวเอง กับความถูกต้องเหมาะสมได้
นั่นแหละคือวันที่พวกคุณ อยู่ในความสมบูรณ์แบบไร้ที่ติหละ
และแน่นอน ว่ามันคือการเดินทางอย่างหนึ่ง

มันก็เหมือนกับการที่พวกคุณ ยืนหยัดอยู่บนความเป็นจริงของตัวเอง
และพยายามที่จะยอมรับในความเป็นจริงของผู้อื่นด้วยนั่นแหละ

เพราะว่านั่น..พวกคุณก็กำลังอยู่ในความถูกต้องเหมาะสมแล้วเช่นกัน

สภาวะจิตใจแห่งพระเจ้าจะสามารถบรรลุได้ และเข้าถึงได้
โดยผ่านคลื่นความสั่นสะเทือนของ Mer-Ka-Na คริสตัลไลน์
ที่อยู่ภายในคลื่นความคิดแบบคริสตัลเท่านั้น

กระแสความคิดแบบคริสตัลไลน์ จะอยู่เหนืออารมณ์
อยู่เหนือความรู้สึกหยุมหยิม มันจะสำเร็จลงได้ด้วยการวางอุเบกขา

มันคือ ทะเลสาบคริสตัลแห่งซัมบาลา (crystalline lake of Shamballa)
มันคือนิพพานที่แท้จริง ที่เรียบเนียนราวกับกระจก
ปราศจากคลื่นใดๆมาบิดเบือนภาพสะท้อนของมัน





จบภาค 2

 

เข้ามาขอบคุณช้าไปครับ แต่ก็มา

ขอบคุณครับ คุณ chayutt คุณ kindred

เป็นบทความที่งดงาม และ เหมาะกับสถานการณ์แห่งการวิวัฒน์ในขณะนี้อย่างยิ่ง

 

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพทุกองค์ แปลออกมาทั้งหมดเท่าไรแล้วครับ พอดีผมกำลังรวบรวมอยู่ กลัวจะขาดหายไปบางตอน ขอลิ้งก็ได้ครับ ขอบคุณครับ

 

อืม รออ่านตอนต่อไปครับบบบบ

 

ขอบคุณมากเลยครับ กระจ่างขึ้นเยอะเลยครับ ขอบคุณจากใจจริงครับ ^^

 

รู้สึกเหมือนมานั่งอ่านอีกครั้งเลย (ไม่ใช่เคยแปลไปแล้วหรือครับ) อิอิ


อนุโมทนา

 

ท่าทางจะดีขึ้นแล้วใช่มั้ยครับ?.. สังเกตุจากตัวอักษรเปลี่ยนสี 55+..
ขอบคุณผู้แปลบทความนี้มากๆฮะ.. (ค่อยๆแปลกก็ได้ครับ พักผ่อนบ้าง ผมเป็นห่วง)

 

ขอบคุณมากค่ะ อ่านแล้วได้แนวทางชัดเจนขึ้นค่ะจะเอาไปปฏิบัติต่อค่ะ

 

ครับตอนนี้ก็ดีขึ้นมาหน่อยนึงแล้วครับ ^^

 

แปลก

อ่านแล้วรู้สึกไม่เกิดความขัดแย้งในใจเลย

 

ลองเข้าไปค้นดูในลิงค์ข้างล่างนี้นะครับ

อันแรกนี้เป็นกระทู้ที่ผมตั้งขึ้น

http://palungjit.org/search.php?searchid=1097674


อันที่สองนี้เป็นกระทู้ของคุณ kindred

http://palungjit.org/search.php?searchid=1097679


ส่วนอันนี้เป็นของคุณ LadyOfLight

http://palungjit.org/search.php?searchid=1097686


พวกเราแปลไปและโพสต์ไปแล้ว น่าจะหลายร้อยโพสต์แล้วหละครับ
โดยเฉพาะในกระทู้นี้

"ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ-ไปสู่มิติที่-5"


http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ-ไปสู่มิติที่-5-a.246190/

............................................................

 

อ่านไม่ค่อยเข้าใจ ศัพท์แสงสูงเกิน

 

(rose)(rose)(rose)(rose)(rose)(rose)(rose)(rose)(rose)

เป็นกำลังใจให้กับทีมงาน... ที่รัก
จะรออ่านภาคสามค่ะ...

 

โมทนา สาธุ ค่ะ ขอบคุณผู้แปลและ ทุกท่าน ที่มีส่วนนำบทความดีๆ มาแบ่งปัน นะคะ เข้าใจถึงที่มาที่ไปของอุปสรรค และ ปัญหา ต่างที่เข้ามาในชีวิต และ แนวทาง ข้อคิด การแก้ไข ที่ถูกต้อง ได้เลยค่ะ สุดยอดมากๆๆๆค่ะ​

 

อนุโมทนา สาธุ ค่ะ
รออ่านอีกค่ะ

 

ขอบคุณเจ้าของกระทู้ อ่านแล้วก็เข้าใจ ทำใจให้สงบแล้วจะพบความสุข

 

ขอบคุณท่านผู้แปลทุกท่าน ได้ติดตามอ่านและprint เก็บตลอด ยิ่งอ่านยิ่งเข้าใจมากขึ้นในสภาวะทั้งหลาย ทั้งหมดทุกตอนได้ต่อยอดความรู้สึกนึกคิด และต่อยอดในการปฏิบัติด้วย..จะติดตามบทความของท่านผู้แปลตลอดนะคะ......ขอบพระคุณถึงท่านเมตาตรอน และครายออนด้วยค่ะ (ไม่ทราบว่าท่านเดียวกันหรือเปล่า)

 

ถ้าตามนัยยะของมนุษย์โลกเราแล้ว
เมตาตรอนและครายออน เป็นคนละรูปธรรมกันครับ

แต่ในอีกนัยยะหนึ่ง ซึ่งหมายถึงข้างบนโน้น
ซึ่งเป็นสภาวะที่ไร้การแบ่งแยกกัน
และเป็นสภาวะแห่ง "ปรมัต" (continuum)
"ทุกสรรพสิ่ง..ล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน" ครับ

ท่านว่าอย่างนั้นหนะนะครับ

...............................................

 

ครับท่านว่าอย่างนั้นเหมือน
ท่านเมตาตรอน เป็นจิตวิญญาณแห่งรักและความเบิกบานใจ
ท่านครายออน เป็นสนามพลังงานแห่งการนำพา การช่วยเหลือ ที่เต็มเป็นไปด้วยพลังแห่งรัก
ด้วยพลังแห่งรัก จึงกล่าวว่าท่านทั้งสองเป็นหนึ่งเดียวกัน แต่มีลักษณะที่แตกต่างกัน เป็นเพื่อนกัน ทำงานกันคนละหน้าที่