อานุภาพของศีล โดยหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย jumook, 23 กันยายน 2011.

  1. jumook

    jumook เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2009
    โพสต์:
    121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,043
    [FONT=&quot][​IMG][/FONT]​


    [FONT=&quot]อานุภาพของศีล[/FONT]
    [FONT=&quot]หลวงพ่อฤๅษี หรือ พระราชพรหมยานมหาเถระ ท่านสอนลูกศิษย์ไว้[/FONT]​




    [FONT=&quot](รวบรวม โดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน)[/FONT]

    [FONT=&quot]จาก หนังสือธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๖๑ ถึง ฉบับที่ ๑๒๗ จาก พ.ศ. ๒๕๒๘ ถึง พ.ศ. ๒๕๓๔[/FONT]​






    <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    [FONT=&quot]จุดประสงค์เพื่อให้ผู้อ่านจำให้ได้ก่อนเป็นประการแรก (เป็นสุตมยปัญญา) แล้วจึงนำไปพิจารณาด้วยปัญญาขั้นต้นของตนเอง เมื่อเข้าใจและตีธรรมะนั้นได้ถูกตรงตามความเป็นจริงแล้ว ก็จะเกิดปัญญาขั้นที่ ๒ คือ จินตมยปัญญา และทำซ้ำ ๆ พิจารณาซ้ำ ๆ จนเกิดความชำนาญ จนเกิดความอัตโนมัติขึ้นกับจิต หมายความว่า เพียรรักษาศีลด้วยอิทธิบาท ๔ จนศีลรักษาจิตของผู้นั้นเองเป็นอัตโนมัติ กลายเป็นสีลานุสสติ หรือจิตเป็นฌานในศีล หรือจำง่าย ว่า เพียรรักษาศีล จนกระทั่งศีลรักษาศีลเรา ไม่ให้ผิดศีลอีกตลอดกาล ความเป็นพระโสดาบันปัตติผลเกิดขึ้นที่จุดนี้เอง[/FONT]
    [FONT=&quot]เรื่องมูลเหตุของศีล, พระพุทธเจ้าบัญญัติศีลเพื่อใคร, ทรงยกย่องศีลไว้มากมายอย่างไร, ตัวอย่างอานุภาพของศีล มีอยู่แล้วในตอนต้น ผมจึงเลือกเอาข้อความที่หลวงพ่อท่านเน้น ต้องการให้พวกเรารู้แล้วนำไปปฏิบัติต่อให้เกิดผล โดยเขียนเป็นข้อ ๆ เพื่อสะดวกในการจดจำดังนี้ [/FONT]
    [FONT=&quot]๑. หากศีลไม่บริสุทธิ์ ความหวังเรื่องสมาธิ หรือมรรคผล ย่อมไม่เกิด ถือเป็นกฎตายตัว พระองค์สอนหลักการปฏิบัติในพระพุทธศาสนาไว้ ๓ ประการ คือ ศีล-สมาธิ-ปัญญา ซึ่งย่อมาจากอริยมรรค ๘ นั่นเอง[/FONT]
    [FONT=&quot]๒. พระอินทร์ท่านว่า กลิ่นของศีลของพระพุทธเจ้านั้นหอมทวนลม หอมมาก จนกลบกลิ่นพระบังคนหนัก (ขี้หรืออุจจาระ) ของพระองค์หมด ท่านจึงไม่รังเกียจที่มาคอยเทพระบังคนหนัง (ขี้) และพระบังคนเบา (เยี่ยว) ให้พระพุทธเจ้า[FONT=&quot][/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]๓. “บุคคลใดที่มีศีลบริสุทธิ์ จึงเป็นที่รักของสัตว์-คน-เทวดา และพรหม[FONT=&quot][/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]๔. “ศีลเป็นด่านแรกของการปฏิบัติพระกรรมฐานในพุทธศาสนา[FONT=&quot][/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]๕. “ศีลเป็นด่านแรกของการป้องกันอบายภูมิ ๔ คือ นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดียรัจฉาน[FONT=&quot][/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]๖. ศีลจะบริสุทธิ์ได้ ต้องอาศัยมีสมาธิคุม[/FONT]
    [FONT=&quot]สมาธิจะทรงตัวได้ ต้องอาศัยศีลบริสุทธิ์[/FONT]
    [FONT=&quot]คนใดไร้ปัญญา คนนั้นหาศีลไม่ได้[/FONT]
    [FONT=&quot]คนใดไร้ศีล คนนั้นมีสมาธิตั้งมั่นไม่ได้[/FONT]
    [FONT=&quot]คนใดไร้สมาธิ คนนั้นไม่เกิดปัญญา[FONT=&quot][/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]ดังนั้นศีล-สมาธิ-ปัญญา จึงสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน แยกจากกันหรือขาดตัวหนึ่งตัวใดไม่ได้ มิจฉาทิฎฐิจะเกิดกับจิตผู้นั้นได้ตลอดเวลา[/FONT]
    [FONT=&quot]๗. “ผู้ใดจิตทรงศีลเป็นปกติจนเกิดสมาธิเอง ชื่อว่าเป็นสีลานุสสติ เป็นผู้เข้าถึงไตรสรณคมณ์อย่างแท้จริง[FONT=&quot][/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]๘. ประโยชน์ของศีลหรือผลของศีลที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ [/FONT]
    [FONT=&quot]ก) สีเลนะ สุคติง ยันติ ปัจจุบันอยู่ก็เป็นสุข ตายไปก็เป็นสุข เกิดใหม่ก็เป็นสุข[/FONT]
    [FONT=&quot]ข) สีเลนะ โภค สัมปทา ปัจจุบันจะไม่อดตาย, ตายไปก็มีอริยทรัพย์มาก, เกิดใหม่ก็มีทรัพย์[/FONT]
    [FONT=&quot]ค). สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ศีลเป็นปัจจัยให้เข้าถึงพระนิพพานได้ง่าย[/FONT]
    [FONT=&quot]พระองค์ทรงรับรองถึงขนาดนี้ ผู้มีปัญญาเท่านั้นจึงจะเข้าถึงพระนิพพานได้[/FONT]
    [FONT=&quot]๙. ทรงตรัสไว้ว่า [/FONT][FONT=&quot]“คนที่ควรยกย่อง คือ ภิกษุที่ไม่ถูกตำหนิเรื่องศีล[FONT=&quot][/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]๑๐. ทรงตรัสว่า “ปัญญาอันศีลชำระให้บริสุทธิ์ ศีลอันปัญญาชำระให้บริสุทธิ์ ศีลมีในบุคคลใด ปัญญาก็มีในบุคคลนั้น ศีลเป็นของบุคคลผู้มีปัญญา, ปัญญาของบุคคลผู้มีศีล, ศีลกับปัญญา เป็นยอดในโลก[FONT=&quot][/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]๑๑. พระสารีบุตรเทศน์ว่า “คนที่มีศีลแล้วทำบุญ หากตั้งใจจะไปเกิดที่ไหนก็มีผลตามนั้น เหตุเพราะความบริสุทธิ์ของศีล[FONT=&quot][FONT=&quot][/FONT][/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]๑๒ “คุณสมบัติของพระโสดาบันในสังโยชน์ ๓ ข้อแรกนั้น ข้อที่เป็นหลักใหญ่ก็คือ การมีศีลบริสุทธิ์ตลอดเวลา[FONT=&quot][FONT=&quot]”[/FONT][/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]๑๓. “ผู้ใดมีธรรม ๔ ประการในตน และรักษาไว้ได้ไม่เสื่อม ชื่อว่าประพฤติใกล้พระนิพพานแล้ว ธรรม ๔ ประการนั้นก็คือ ๔ ข้อในจรณะ ๑๕ [FONT=&quot][FONT=&quot][/FONT][/FONT] (ศีลสังวร, อินทรีย์สังวร, โภชเนมัตตัญญุตา และชาคริยานุโยค ๒ ข้อแรก สำรวมเรื่องกาม ข้อที่ ๓ สำรวมเรื่องการกิน ข้อที่ ๔ สำรวมเรื่องการนอน)[/FONT]
    [FONT=&quot]๑๔. “ศีลไม่บริสุทธิ์ สัมมาสมาธิก็ไม่บริบูรณ์ สัมมาญาณก็ไม่เกิด สัมมาวิมุตติก็ไม่มี ดังนั้น ศีลจึงเป็นรากฐานใหญ่ของการปฏิบัติในมรรค ๘ (ศีล-สมาธิ-ปัญญา) มิจฉาทิฎฐิ หรือสัมมาทิฎฐิ จึงมีศีลเป็นเครื่องวัด[FONT=&quot][FONT=&quot][/FONT][/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]๑๕. “พระพุทธองค์ตรัสแก่อนาถบิณฑิกเศรษฐีว่า สมัยที่ท่านเป็นพราหมณ์ได้ทำทานมามาก แต่ผู้รับทานไม่ใช่ทักขิไณยบุคคล หมายถึงบุคคลที่ไม่มีศีล ไม่ใช่พระอริยเจ้า ทำให้อานิสงส์ของทานมีน้อย ถ้าผู้รับบริสุทธิ์มากเท่าใด ผลของทานจะคูณด้วย ๑๐๐ ตามลำดับ[FONT=&quot][FONT=&quot][/FONT][/FONT] (ต่ำที่สุดจนถึงสูงที่สุดที่ทรงตรัสไว้โดยย่อ ๆ ดังนี้ ทำบุญหรือทำทานกับสัตว์เดียรัจฉาน ๑๐๐ ครั้ง สู้ทำบุญกับคนไม่มีศีลหนึ่งครั้งไม่ได้ ตามลำดับขึ้นไป มีผลคูณด้วย ๑๐๐ เท่าตามลำดับ คือ ทำบุญกับคนมีศีล-กับพระอริยเจ้า ๘ ระดับ คือ พระโสดาปัตติมรรค-พระโสดาปัตติผล จึงถึงพระอรหันตผล ถึงพระปัจเจกพุทธเจ้า-พระพุทธเจ้า-ถวายสังฆทาน-วิหารทาน-ธรรมทาน และสูงที่สุด คือ อภัยทาน ความจริงแล้วทรงตรัสไว้ละเอียดยิ่งกว่านี้ อีก แต่ขอเขียนไว้แต่พอประมาณเพื่อให้จำง่าย ๆ เท่านั้น ผู้มีปัญญาจึงเลือกทำบุญ เพื่อให้ได้บุญมาก ๆ ไว้ก่อน ส่วนใหญ่จึงมักถวายสังฆทานกันเป็นส่วนใหญ่ สรุปว่า บุคคลในโลกนี้จะหาคนที่มีศีลบริสุทธิ์เท่ากับพระพุทธเจ้านั้นไม่มี) [/FONT]
    [FONT=&quot]๑๖. “ศีลสร้างคนให้เป็นพระได้ หรือสร้างสมมติสงฆ์ (นักบวช) ให้เป็นพระอริยเจ้าได้[/FONT][FONT=&quot][FONT=&quot][/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]๑๗. “ผู้มีศีลบริสุทธิ์ตลอดเวลา จึงเท่ากับพกพระไว้กับตัวตลอดเวลา[FONT=&quot][FONT=&quot][/FONT] [/FONT](หมายความว่าบุคคลใด ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย หรือเด็กตั้งแต่อายุ ๗ ขวบขึ้นไป หากรักษาศีลจนกระทั่งศีลรักษาจิตเขาไม่ให้กระทำผิดศีลอีก บุคคลนั้นไม่มีทางจะตกนรกอีก (อบายภูมิ ๔) ตลอดกาล เพราะจิตดวงนั้นได้เป็นพระเบื้องต้นในพระพุทธศาสนา คือ พระโสดาบัน จึงเท่ากับพกพระภายในไว้กับจิต เป็นวัตถุมงคลภายใน ในมงคล ๓๘ ซึ่งพระองค์ทรงตรัสสอนไว้อยู่อันดับที่ ๒๙ (การเห็นสมณะหรือพระภายใน จัดเป็นอุดมมงคล หรือเอาจิต เอาปัญญาของเราเห็นพระ ไม่ใช่เอาลูกตาเห็นพระ) ซึ่งไม่มีการเสื่อม หรือสลายตัว หรือถอยหลัง หรืออนัตตาตลอดไป ต่างกับการสร้างพระภายนอก ซึ่งพวกเราซึ่งมีศรัทธาเข้ามาในพุทธศาสนา ต่างก็สร้างพระภายนอกกันมาเป็นอสงไขยชาติ สร้างแล้วสร้างอีก พระภายนอกในที่สุดก็เสื่อม-แตก-พัง-สลายตัว หรืออนัตตาทุกครั้งไป จึงสู้สร้างพระภายในไม่ได้ ผู้มีปัญญาท่านเชื่อพระพุทธเจ้าจริงด้วยการปฏิบัติ โดยการตัดสังโยชน์ ๓ ข้อแรกให้ได้ ซึ่งความสำคัญอยู่ที่ข้อ ๓ คือ รักษาศีลจนศีลรักษาเรา (จิต) ให้เป็นสีลานุสสติเท่านั้นเอง พระภายในก็เกิดขึ้นมั่นคงถาวรตลอดกาล รายละเอียดมีมาก ขอกล่าวไว้เพียงเท่านี้)[/FONT]
    [FONT=&quot]๑๘. “เมตตาเป็นอาหารของศีล หรือพรหมวิหาร ๔ เป็นอาหารของศีล-สมาธิและปัญญา[FONT=&quot][FONT=&quot][/FONT][/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]๑๙. “ศีลนำไปสู่ความมีหิริ-โอตตัปปะ[FONT=&quot][FONT=&quot][/FONT][/FONT] (หมายความว่าศีลเปลี่ยนคนซึ่งแปลว่ายุ่ง ชอบสร้างแต่ปัญหา ขยันหาทุกข์ใส่ตัวให้มาเป็นมนุษย์ซึ่งแปลว่าประเสริฐ แต่มนุษย์ยังมีคุณธรรมต่ำกว่าเทวดา ซึ่งมีหิริและโอตตัปปะเป็นคุณธรรม จะเข้าใจดีให้ศึกษาเรื่องอนุปุพกถา ๕ ซึ่งพระองค์ทรงตรัสสอนบุคคลกลุ่มใหญ่บ่อย ๆ ให้มีดวงตาเห็นธรรมกันมากมาย) (อนุปุพกถา ๕ มีทานกถา, ศีลกถา, สักกะกถา, โทษของกาม หรือ กามกถา, และ เนกขัมมกถา หรือ คุณของการออกจากกาม)[/FONT]
    [FONT=&quot]๒๐. ทรงตรัสกล่าวถึง โทษแห่งศีลวิบัติของคนทุศีลไว้ ๕ อย่าง คือ [/FONT]
    [FONT=&quot]ก) ย่อมเสื่อมโภคทรัพย์เพราะความประมาท[/FONT]
    [FONT=&quot]ข) ย่อมเสียชื่อเสียงไปในทางไม่ดี[/FONT]
    [FONT=&quot]ค) ย่อมเข้ากับใครไม่ได้สนิท[/FONT]
    [FONT=&quot]ง) ย่อมหลงตาย[/FONT]
    [FONT=&quot]จ) ตายแล้วย่อมไปสู่ทุคติ[/FONT]
    [FONT=&quot]ส่วนคุณของศีลก็มี ๕ ข้อ มีผลตรงข้ามกับโทษของศีล[/FONT]
    [FONT=&quot]๒๑. ทรงตรัสไว้มีใจความว่า การให้ทาน ๕ อย่าง หรือการให้ศีล ๕ นี้จัดเป็นมหาทาน อันบัณฑิตรู้ว่าเป็นเลิศของทาน ซึ่งมีมานานแล้ว จัดเป็นเชื้อสายแห่งพระอริยะ[FONT=&quot][FONT=&quot][/FONT][/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]๒๒. เป็นข้อสรุป “อานุภาพของศีล[FONT=&quot][FONT=&quot][/FONT][/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]ศีลเป็นกำลังอย่างไม่มีที่เปรียบ, ศีลเป็นอาวุธอันสูงสุด, ศีลเป็นเครื่องประดับอันประเสริฐ, ศีลเป็นเกราะอันอัศจรรย์, ศีลเป็นคุณ รวมกำลังเป็นเลิศ, ศีลเป็นเสบียงเดินทางอย่างสูงสุด, ศีลเป็นผู้นำทางอย่างประเสริฐ, ศีลเป็นเครื่องขจรไปทั่วทุกทิศ, ศีลเท่านั้นที่เป็นเลิศในโลก, ส่วนผู้มีปัญญาย่อมเป็นผู้มีศีล, ศีลเป็นผู้ชนะในหมู่มนุษย์และเทวดา เพราะศีลและปัญญาเป็นธรรมคู่กัน, ศีลเป็นรากฐานของการบำเพ็ญเพียรภาวนา[/FONT]
    [FONT=&quot]- การภาวนาถ้าไม่มีฐาน คือ ไม่มีศีลรองรับ ก็ยากที่จะสำเร็จได้ หรือไม่มีทางสำเร็จ[/FONT]
    [FONT=&quot]- ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย[/FONT]
    [FONT=&quot]- ศีลเป็นประมุขของธรรมทั่วไป จึงควรพากันชำระศีลให้บริสุทธิ์[/FONT]
    [FONT=&quot]- ศีลเปรียบเสมือนรากแก้วของต้นไม้[/FONT]
    [FONT=&quot]- ศีลเป็นคุณสมบัติของพระและฆราวาส คนจะเป็นพระได้อยู่ที่ศีล ฆราวาส ก็เช่น พระโยคาวจรและพระโสดาบัน เป็นต้น[/FONT]
    [FONT=&quot]- ศีลรักษาง่าย ถ้าผู้นั้นเห็นโทษของการทำบาปจริง ๆ (คือเห็นและเข้าใจเรื่องกฎของกรรม)[/FONT]
    [FONT=&quot]- ศีลเป็นเครื่องวัดความดีของหมู่สัตว์[/FONT]
    [FONT=&quot]- ศีลเป็นทรัพย์อันประเสริฐ-ไม่อด-ไม่จน-มีอริยทรัพย์[/FONT]
    [FONT=&quot]- ศีลส่งเสริมความดีให้กับผู้รักษาตั้งแต่ต้นจนอวสาน สร้างคนให้เป็นพระ[/FONT]
    [FONT=&quot]- ศีลสร้างพระธรรมดา ให้เป็นพระอริยเจ้า และพาส่งให้เข้าถึงพระนิพพาน[/FONT]
    [FONT=&quot]- ใครมีศีล เท่ากับพกพระไว้กับตัว ไปไหนก็มีพระไปด้วย มีวัตร (วัด) ไปกับตัว เป็นมงคล เป็นของประเสริฐ[/FONT]
    [FONT=&quot]- เมตตาเป็นอาหารของศีล ผู้ใดเจริญเมตตา ศีลไม่มีขาด[/FONT]
    [FONT=&quot]- ศีลนำไปสู่ความมีหิริ โอตตัปปะ[/FONT]
    [FONT=&quot]ดังนั้นผู้ใดอ่านข้อที่ ๒๒ เพียงข้อเดียว และจำได้ แล้วนำไปปฏิบัติให้เกิดมรรคเกิดผล ก็เท่ากับรู้เรื่องศีลตั้งแต่ข้อที่ ๑-๒๑ ได้ทั้งหมด[/FONT]
    [FONT=&quot]พระพุทธองค์ทรงตรัสแก่พระอานนท์ว่า " ดูกรอานนท์ ศีลที่เป็นกุศล ย่อมถึงอรหันต์โดยลำดับด้วยประการดังนี้แล "[/FONT]
    [FONT=&quot]สรุปส่งท้าย ๙ ข้อ[/FONT]
    [FONT=&quot]๑. การให้ทาน ๕ อย่าง หรือศีล ๕ จัดเป็นมหาทาน[/FONT]
    [FONT=&quot]๒. ศีลเป็นคุณสมบัติของพระและฆราวาส[/FONT]
    [FONT=&quot]๓. ศีลเป็นแม่ของพระธรรม [/FONT]
    [FONT=&quot]๔. ศีลเป็นมารดาของพระพุทธศาสนา [/FONT]
    [FONT=&quot]๕. ศีลเป็นรากฐานของการปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนา [/FONT]
    [FONT=&quot]๖. การให้ธรรม (ศีล) เป็นทานชนะทานทั้งปวง [/FONT]
    [FONT=&quot]๗. การสร้างพระภายในให้เกิดขึ้น ความสำคัญอยู่ที่ศีล[/FONT]
    [FONT=&quot]๘. แม้ตถาคตเอง เมื่อยังมีพระชนม์ชีพอยู่ ก็เคารพในศีล (พระธรรม) [/FONT]
    [FONT=&quot]๙. พระธรรม (ศีล) จึงมีคุณค่าสูงสุดในโลกนี้ [/FONT]



    [FONT=&quot]ศีลมี ๓ ขั้น [/FONT]
    [FONT=&quot]ขั้นที่ ๑ ไม่เอากายไปกระทำผิดศีล พวกนี้ตายแล้วไม่ตกนรก แต่ยังต้องเกิดอีก ๗ ชาติ จึงจะไปพระนิพพานได้[/FONT]
    [FONT=&quot]ขั้นที่ ๒ ปากไม่พูดให้ผู้อื่นกระทำผิดศีลเพื่อตน ตายแล้วต้องเกิดอีก ๓ ชาติ จึงจะไปพระนิพพานได้[/FONT]
    [FONT=&quot]ขั้นที่ ๓ จิตไม่ยินดีด้วยเมื่อเห็นผู้อื่นกระทำผิดศีล ตายแล้วต้องเกิดอีก ๑ ชาติ จึงจะไปพระนิพพานได้[/FONT]
    [FONT=&quot]ที่มา Frameset-2[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 กันยายน 2011
  2. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ

    เชิญแวะอ่านธรรมะของหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง ที่
    เฟสบุ๊ค ศูนย์พุทธศรัทธา
    และร่วมกันแบ่งปันธรรมะของหลวงพ่อฯ ไปยังกระดานของท่านเพื่อเป็นธรรมทาน

    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่www.tangnipparn.com<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    <O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา

    [​IMG]</O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2011
  3. Pearlpearl

    Pearlpearl สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +21
    อนุโมทนาสาธุ จะพยายามตั้งใจรักษาศีล (5 ข้อ) ให้บริสุทธิ ค่ะ
     
  4. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    อนุโมทนาสาธุการในธรรมทานครั้งนี้ขอรับ
    ขอให้การปัตตานุโมทนามัยครั้งนี้ของข้าพเจ้า
    จงส่งผลให้ข้าพเจ้านั้นถึงซึ่งพระนิพพานได้ภายในชาตินี้ด้วยเทอญ
    นิพพานัง ปัจจโย โหตุ
    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  5. seahero

    seahero เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +602
    อ่านไปพลางใจมันก็อยากจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาให้ดังๆ ยิ่งอ่านปีติยิ่งเกิดปลื้มใจจริงๆถึงแม้ว่าตอนนี้ศีลจะยังผลุบๆโผล่ๆแต่ก็พยายามรักษาอยู่ตลอดใจไม่เคยทิ้งศีลแต่ผิดบ้างพลาดบ้างเป็นเรื่องธรรมดาของปุถุชน
     

แชร์หน้านี้

Loading...