พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เหอๆๆๆ

    จะไปต่อคิวด้วย


    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    เทคนิคง่าย ๆ เขียนคำนำทำรายงาน




    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


    เชื่อว่าเพื่อน ๆ ทุกคนคงคุ้นเคยกับการทำ "รายงาน" เป็นอย่างดี (อิอิ รู้หรอกน่า บางคนยังดองไว้เป็นสิบเล่มยังไม่ได้ทำเลยใช่ป่ะ) และเวลาทำรายงานทีไร เราก็มักจะเขียนเนื้อหา ทำสารบัญ พิมพ์หน้าปก ออกมาเสร็จเรียบร้อยสวยงามตามลำดับ แต่แม้ว่ารูปเล่มเหมือนจะเสร็จแล้วก็ยังส่งไม่ได้ เพราะติดปราการด่านสุดท้ายคือ เขียน "คำนำ" ไม่เป็น!!!

    เอาล่ะสิ..."คำนำ" ถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับรายงานทุกเล่ม เพราะคนอ่านรายงานจะได้รู้ว่า รายงานเล่มนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร เขียนขึ้นมาเพื่ออะไร ภาพรวมของรายงานเราคืออะไร ถ้าไม่มี "คำนำ" อาจารย์ส่งรายงานให้กลับมาแก้แน่ ๆ ว้า...แล้ว "คำนำ" ในรายงานเขาเขียนกันอย่างไรล่ะ (จะไปลอกใครก็ไม่ได้อีก) แต่ ก็ไม่ต้องห่วงไปจ้ะ เพราะวันนี้ กระปุกดอทคอม รวบรวมแนวทางการเขียน "คำนำ" แบบง่าย ๆ มาฝาก อ่านแล้วก็ลองนำไปปรับใช้กันดูนะจ๊ะ (อย่าลอกไปทั้งดุ้นล่ะเดี๋ยวอาจารย์จับได้นะเออ)

    สำหรับ หลักการเขียนคำนำรายงานนั้น หลักง่าย ๆ เลยก็คือต้องเขียนให้ผู้อ่านสนใจอยากจะอ่านรายงานของเรา โดยเริ่มต้นอาจจะเขียนถึงที่มาที่ไปของรายงานฉบับนี้ จุดประสงค์และเหตุผลของการทำรายงานประเด็นนี้ หรือเรียกร้องถึงความสำคัญของประเด็นที่จะนำเสนอ บอกความเป็นมาคร่าว ๆ โดยอาจตั้งเป็นคำถามชวนให้ผู้อ่านคิด แล้วโยงเข้าสู่เรื่องที่เราอยากจะบอกก็ได้ ไม่ควรกว้าง หรือย้อนไปไกลมากจนเกินไป หรือวกวนจนจับประเด็นไม่ได้

    ในส่วนของภาษาที่ใช้เขียนรายงานนั้น หากเป็นรายงานที่มีเนื้อหาทางวิชาการ ก็คงต้องภาษาทางการหน่อย แต่หากเป็นรายงานทั่ว ๆ ไป ไม่วิชาการมากนัก ก็ควรใช้ภาษาที่เป็นกันเองกับผู้อ่านจะดีกว่า

    จาก นั้น ในย่อหน้าถัดมา เราอาจจะกล่าวถึงรายงานของเราประกอบด้วยเนื้อหาอะไรบ้าง ดึงมาเฉพาะประเด็นที่น่าสนใจ เพื่อชักชวนให้ผู้อ่านติดตาม บอกขอบเขตคร่าว ๆ ที่ผู้อ่านจะได้รับจากรายงานฉบับนี้ หรือการทำวิจัยชิ้นนี้ หากเป็นรายงานส่งอาจารย์ ก็อาจปิดท้ายด้วยการกล่าวขอขอบคุณอาจารย์ ผู้ที่ร่วมทำรายงานฉบับนี้ให้เป็นรูปเล่มเสร็จสิ้น และพูดถึงว่า รายงานฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจ หรือใครก็ตามที่น่าจะได้รับประโยชน์จากรายงานของเรานั่นเอง

    อ่อ...หลายคนอาจจะเคยเห็น หรือแม้กระทั่งเคยเขียนในรายงานด้วยซ้ำไปว่า "หากรายงาน ฉบับนี้มีข้อผิดพลาดประการใด คณะผู้จัดทำขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย" ซึ่งจริง ๆ อาจไม่จำเป็นต้องเขียนประโยคนี้ก็ได้นะจ๊ะ (เพราะอาจารย์หลายท่านมักเสนอแนะมาว่า รายงานของเราไม่ควรมีข้อบกพร่อง) แต่อาจจะเขียนว่า "หากมีข้อเสนอแนะประการใด ผู้จัดทำขอรับไว้ด้วยความขอบพระคุณยิ่ง" ก็น่าจะดีกว่าค่ะ เมื่อเขียนจบแล้วก็ลงชื่อผู้จัดทำปิดท้ายเท่านี้ก็ได้ "คำนำ" แปะหน้าแรกของรายงานแล้วล่ะจ้า

    [​IMG] ว่าแล้วก็ขอสรุปอีกครั้งตามที่ราชบัณฑิตยสถาน ระบุไว้ว่า "คำนำที่ดีต้องมีลักษณะดังนี้"

    1. เขียนคำนำด้วยคำพังเพย หรือสุภาษิตที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่อง

    2. เขียนคำนำโดยการอธิบายความหมายของเรื่อง

    3. เขียนคำนำโดยขึ้นต้นด้วยคำกล่าวของบุคคลสำคัญ

    4. เขียนคำนำด้วยการเล่าเรื่อง

    5. เขียนคำนำด้วยคำถามหรือปัญหาที่สนใจ

    6. เขียนคำนำด้วยการอธิบายชื่อเรื่อง

    7. เขียนคำนำด้วยคำกล่าวถึงจุดประสงค์ของเรื่องที่เขียน

    8. เขียนคำนำด้วยการกล่าวถึงใจความสำคัญของเรื่องที่เขียน

    คำ นำที่ดีต้องเป็นความคิดใหม่ ความคิดแปลก หรือความคิดสนุก ต้องมีลักษณะนำ หรือเชิญชวนให้ผู้อ่าน อ่านเรื่องของเราให้จบให้ได้ คำนำจึงเป็นส่วนสำคัญในการเรียกร้องความสนใจของผู้อ่านตั้งแต่เริ่มต้นอ่าน เรื่อง และดึงดูดใจให้อ่านเรื่องไปตลอด

    [​IMG] สิ่งสำคัญที่ควรเลี่ยงในการเขียนคำนำ ได้แก่

    1. ไม่ควรเอาประวัติศาสตร์ หรือเรื่องพื้น ๆ ที่รู้จักกันดีอยู่แล้วมาเขียนเป็นคำนำ

    2. ไม่ควรอธิบายคำนำอย่างฟุ้งซ่าน จนไม่มีจุดหมายของเรื่อง

    3. ไม่ควรขึ้นคำนำด้วยคำบอกเล่าอันเกินควร

    4. ไม่ควรเขียนคำนำด้วยการออกตัว เช่น ออกตัวว่าไม่พร้อมหรือไม่เชี่ยวชาญเรื่องที่เขียน อาจทำให้ผู้อ่านไม่สนใจอ่านรายงานก็ได้

    5. ไม่ควรเขียนซ้ำกับส่วนสรุป หรือความลงท้าย

    6. ไม่ควรกล่าวถึงสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง


    [​IMG] ตัวอย่างคำนำรายงาน 1

    รายงาน/เอกสารคำสอน/สื่อ ฯลฯ ฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา...ชั้นมัธยมศึกษาปีที่...โดยมีจุดประสงค์ เพื่อการศึกษาความรู้ที่ได้จากเรื่อง... ทั้งนี้ ในรายงานนี้มีเนื้อหาประกอบด้วยความรู้เกี่ยวกับ... ตลอดจนการประยุกต์ใช้...

    ผู้จัดทำได้เลือกหัวข้อนี้ในการทำรายงาน เนื่องมาจากเป็นเรื่องที่น่าสนใจ รวมทั้งแสดงให้เห็นถึง... ผู้จัดทำต้องขอขอบคุณอาจารย์...ผู้ให้ความรู้ และแนวทางการศึกษา หวังว่ารายงานฉบับนี้จะให้ความรู้ และเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุก ๆ ท่าน หากมีข้อเสนอแนะประการใด ผู้จัดทำขอรับไว้ด้วยความขอบพระคุณยิ่ง

    ลงชื่อ....
    ผู้จัดทำ

    [​IMG] ตัวอย่างคำนำรายงาน 2

    รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อประกอบการเรียนวิชา... โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้จัดทำได้ฝึกการศึกษาค้นคว้า และนำสิ่งที่ได้ศึกษาค้นคว้ามาสร้างเป็นชิ้นงานเก็บไว้เป็นประโยชน์ต่อการ เรียนการสอนของตนเองและครูต่อไป

    ทั้งนี้ เนื้อหาได้รวบรวมมาจากหนังสือแบบเรียน...และจากหนังสือคู่มือการเรียนอีก หลายเล่ม ขอขอบพระคุณอาจารย์...อย่างสูงที่กรุณาตรวจ ให้คำแนะนำเพื่อแก้ไข ให้ข้อเสนอแนะตลอดการทำงาน ผู้จัดทำหวังว่ารายงานฉบับนี้คงมีประโยชน์ต่อผู้ที่นำไปใช้ให้เกิดผล สัมฤทธิ์ตามความคาดหวัง

    ลงชื่อ....
    ผู้จัดทำ


    อย่างไรก็ตาม ตัวอย่าง ข้างต้นคือตัวอย่างของการเขียนคำนำรายงานส่งอาจารย์นะจ๊ะ ซึ่งหากใครจะเขียนคำนำของเอกสาร หรือหนังสือประเภทอื่น ๆ ก็สามารถนำเทคนิคดังกล่าวไปปรับใช้ในเรื่องของการเกริ่นนำ ภาษา และรูปแบบการเขียน เช่น การเปิดเรื่องด้วยบทกลอน บทร้อยกรอง สุภาษิตคำพังเพย คำคม ตั้งคำถามชวนคิดโยงเข้าเรื่อง หรือจะโน้มน้าวชักจูงให้ผู้อ่านคล้อยตาม เพื่อให้คำนำของเราเป็นคำนำที่เร้าความสนใจ และดึงดูดให้ผู้อ่านสนใจผลงานของเรานั่นเองค่ะ


    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

    ราชบัณฑิตยสถาน, obec.go.th, learners.in.th, panyathai.or.th


    -http://education.kapook.com/view31569.html-

    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    ที่ว่า "มือผี" นี่ ผีอีเม้ยหรือเปล่าครับ ...kickๆๆๆ
    [​IMG]

    กูรูน้องนู๋ เชิญมาแค่ 5%จาก 199 องค์ หากไม่ใช่ผู้มีอุปการะคุณ ก็ต้องเป็นเจ้าของโครงการแล้วนะ ของ"มือผี" จะไปสู้ได้ยังไง 5555++

    คือ ที่เอาให้ชมนั่น เพราะสาเหตุว่า 2 ท่าน(ท่านสิทธิฯ กับท่านอนัตฯ)แข่งกัน post ข่าวกันมันส์ๆ ผมก็เกรงว่า เพื่อนสมาชิกจะพากันเข้าใจผิดคิดว่าเป็นกระทู้ข่าว แทนที่จะเป็นกระทู้พระพิมพ์ เลยต้องเอามาขัดตาทัพมั่ง คราวต่อไปจะเอาพระมือผีมาชมกันใหม่ขัดตาทัพหน้าข่าว ผมว่าเจ้าของกระทู้ ต้องเอาข่าวที่ post ๆกันไป มาตั้งคำถามกันมั่งละ เพราะจะได้เป็นการเช็คกันว่า ได้เข้าไปอ่านกันหรือเปล่าให้สมความตั้งใจของความตั้งใจสรรหาเนื้อข่าวมา post ให้ความรู้กัน 5555++

    มาต่อด้วยสมเด็จฐานแซม กันมั่ง เขาว่า มือผี นะ...
    </td> </tr> </tbody></table>
    ตอนแรกว่าจะไม่ตอบแล้ว

    ขอตอบนิดนึง

    ผมเองเคยประกาศไปแล้วว่า จะไปโพสเรื่องของพระวังหน้าอีก แต่เป็นเพราะอะไร ลองไปหาอ่านดูในกระทู้พระวังหน้าฯนี้ครับ

    แต่อยากหาความรู้ ในกระทู้พระวังหน้าฯนี้ก็มีองค์ความรู้พอสมควรเช่นกันครับ

    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันนี้ นำเงินจำนวน 43,820 บาท ไปมอบให้กับคณะผู้ดำเนินการสร้างพระอานนท์เรียบร้อยแล้ว รายละเอียดผมจะแจ้งอีกครั้งครับ

    และผมไ้ด้นำมวลสาร แผ่นทองเหลือง , แผ่นเงิน และแผ่นทองแดง ที่ผ่านพิธีพุทธาภิเษก (พิธีพุทธาภิเษกผ้ายันต์ครอบจักรวาล) และตะกรุดหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า(หลวงปู่ศุข ท่านจารด้วย) นำไปเพื่อหล่อองค์พระอานนท์เถระเจ้าครับ

    มาโมทนาบุญร่วมกัน

    .
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    [​IMG]


    เรื่องที่เกี่ยวข้องกับพิธีพุทธาภิเษก วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม 2550
    กระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้
    หลวงปู่สุภา กันตสีโล

    สำเร็จลุน
    พระครูโพนเสม็ด (ญาคูขี้หอม)
    พระอาจารย์สีทัตถ์ วัดท่าอุเทน นครพนม

    พระครูวิหารกิจจานุการ (หลวงพ่อปาน)
    พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

    ผ้า ยันต์ครอบจักรวาลนี้ ได้รับการอธิษฐานจิต จาก หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 5 พระองค์ ,สำเร็จลุน พระครูโพนเสม็ด (ญาคูขี้หอม) พระอาจารย์สีทัตถ์ วัดท่าอุเทน นครพนม ,พระครูวิหารกิจจานุการ(หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค) พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง) , หลวงปู่สุภา กันตสีโล

    โมทนาสาธุครับ
     
  6. Lee_bangkok

    Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +4,741
    ขอบคุณทังคุณหนูและคุณเพชรสำหรับภาพนะครับผม
     
  7. นายเฉลิมพล

    นายเฉลิมพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +460
    ขอโมทนาสาธุทุกประการครับ
     
  8. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    โมทนาบุญทุกประการครับ
     
  9. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    ป่วยหวัด ไม่พัก ระวังตาย!

    วันจันทร์ ที่ 19 กันยายน 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    โรคหวัด ใครๆ ก็ป่วยได้ เป็นก็ง่าย ติดหวัดจากคนอื่นก็ง่ายอีกเช่นกัน หลายคนจึงคิดว่า โรคนี้เป็นโรคสุดธรรมดา ไม่มีอะไรร้ายแรง แค่กินยา นอนพักผ่อน ผ่านไปไม่กี่วันเดี๋ยวก็หาย ซึ่งในกรณีที่ได้พักผ่อน โรคหวัดก็จะทุเลาหรือหายได้ใน 2-3 วัน อย่างช้าที่สุดไม่เกิน 1 สัปดาห์

    ทว่า เป็นหวัด มีน้ำมูก ปวดเมื่อยมาทั้งอาทิตย์ไม่ยอมหาย แต่กลับปรากฎอาการเจ็บหน้าอกและเหนื่อยง่ายเพิ่มเข้ามา โรคหวัดที่เคยคิดว่าธรรมดาจะไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป เนื่องจากกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ

    สาเหตุที่ทำให้โรคหวัดบานปลายกลายเป็นกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เพราะไวรัสค็อกซัคกี้ ที่พบมากในช่วงหน้าร้อน เข้าไปแพร่เชื้อที่ลำคอ และเกิดอาการติดเชื้อขึ้น ซึ่งถ้าผู้ป่วยพักผ่อนเพียงพอ ภูมิคุ้มกันของร่างกายจะกำจัดไวรัสดังกล่าวไปได้

    ในทางตรงกันข้าม ผู้ป่วยโรคหวัดเพราะเชื้อไวรัสค็อกซัคกี้ที่ไม่ยอมพักผ่อน อดนอน นอนน้อย แถมยังดื่มแอลแอฮอล์ จะทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายลดต่ำลง ไวรัสจึงแพร่กระจายไปตามเส้นเลือดและไปทั่วทั้งร่างกาย กระทั่งไวรัสเข้าไปถึงหัวใจและทำลายกล้ามเนื้อหัวใจทันที ในระยะนี้ผู้ป่วยจะรู้สึกหอบเหนื่อย เดินไม่ไหว และหายใจไม่ทัน ถือเป็นสัญญาณเตือนให้ทราบว่า ควรรีบไปพบแพทย์ มิเช่นนั้นเสี่ยงหัวใจล้มเหลว ซ้ำร้ายไวรัสก็ยังกัดทำลายหัวใจมากขึ้น

    อย่างไรก็ตาม โรคหวัดที่พัฒนาไปสู่กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบพบได้ 1 ใน 10,000 คนต่อปี โดยร้อยละ 10 ของผู้ป่วยนั้นเสียชีวิต เนื่องจากเพิกเฉยต่ออาการหวัดที่ผิดปกติอย่างที่กล่าว ดังนั้น หากป่วยด้วยโรคหวัดควรพักผ่อนให้มากๆ ถ้า 1 สัปดาห์ผ่านไปยังไม่ดีขึ้น ต้องพบแพทย์ ทั้งนี้การตรวจพบกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ แพทย์จะทำการรักษาโดยเน้นพักผ่อนให้หัวใจทำงานน้อยที่สุด.

    ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
     
  10. rung847

    rung847 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    819
    ค่าพลัง:
    +3,420
    ขออนุโมทนาบุญด้วยทุกประการครับ
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    วันนี้ นำเงินจำนวน 43,820 บาท ไปมอบให้กับคณะผู้ดำเนินการสร้างพระอานนท์เรียบร้อยแล้ว รายละเอียดผมจะแจ้งอีกครั้งครับ

    และผมไ้ด้นำมวลสาร แผ่นทองเหลือง , แผ่นเงิน และแผ่นทองแดง ที่ผ่านพิธีพุทธาภิเษก (พิธีพุทธาภิเษกผ้ายันต์ครอบจักรวาล) และตะกรุดหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า(หลวงปู่ศุข ท่านจารด้วย) นำไปเพื่อหล่อองค์พระอานนท์เถระเจ้าครับ

    มาโมทนาบุญร่วมกัน



    .




    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ผมมาแจ้งรายละ(ไม่)เอียด (สำหรับหน้าบอร์ด)

    จำนวนเงินที่ร่วมทำบุญในวาระบุญการสร้างพระอานนท์เถระเจ้า หน้าตัก 16" จำนวน 3 องค์

    ชมรมพระวังหน้า , สมาชิกชมรมพระวังหน้า ,ท่านผู้สนับสนุนชมรมพระวังหน้า ,คุณอนัตตัง และคุณLee bangkok จำนวนเงินทั้งหมด จำนวน 61,820.00 บาท

    เงินทั้งหมด จะใช้ในการสร้าง และ ค่าใช้จ่ายต่างๆครับ

    ส่วนรายละเอียด ผมส่งให้กับสมาชิกชมรมพระวังหน้า และท่านผู้สนับสนุนชมรมพระวังหน้า ทุกๆท่านทาง Email เรียบร้อยแล้ว

    [​IMG]

    รูปที่ผมลง เป็นรูปต้นแบบในการสร้างครับ

    รูปนี้เป็นลิขสิทธิ์ของคณะผู้จัดสร้างครับ

    เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก สำหรับงานบุญนี้ เพราะว่า การสร้างพระอานนท์เถระเจ้า ปกติแทบไม่มีการจัดสร้าง ทั้งๆที่หลวงปู่ท่านมีพระคุณกับศาสนาพุทธเป็นอย่างมาก

    ผมขอปิดงานบุญนี้ ในวันนี้ และอย่าได้โอนเงินเข้ามาในวาระงานบุญนี้ครับ

    ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่าน ทุกๆประการครับ

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Arnon.JPG
      Arnon.JPG
      ขนาดไฟล์:
      197.2 KB
      เปิดดู:
      52
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2011
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอแสดงความยินดีกับแฟนผีแดง
    และแสดงความเสียใจกับแฟนสิงห์บลูครับ

    ----------------------

    <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="headline" align="left" valign="baseline">ผียังแรงหลอนสิงห์ 3-1</td></tr></tbody></table><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td></tr></tbody></table><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td height="40"><table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="center">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td><td class="date" align="left" valign="center">18 กันยายน 2554 23:54 น.</td><td align="left" valign="center"><script src="http://platform.twitter.com/widgets.js" type="text/javascript"></script>


    <script src="http://static.ak.fbcdn.net/connect.php/js/FB.Share" type="text/javascript"></script>
    <script src="https://apis.google.com/js/plusone.js" type="text/javascript"> {lang: 'th'}</script><!--?XML:NAMESPACE PREFIX = G /--><g:plusone size="medium"></g:plusone>

    </td><td></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="center">[​IMG]</td></tr><tr><td align="center" valign="baseline">สเตอร์ริดจ์ (ซ้าย) พยายามเบียดแย่งบอลกับ เอฟรา</td></tr></tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="center">[​IMG]</td></tr><tr><td align="center" valign="baseline">ตอร์เรส พยายามตีลังกายิง</td></tr></tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="center">[​IMG]</td></tr><tr><td align="center" valign="baseline">รามิเรส กระชากบอลหนี อันแดร์สัน</td></tr></tbody></table>




    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="center">[​IMG]</td></tr></tbody></table></td><td align="center" background="/images/linedot_vert.gif" valign="center" width="1">[​IMG]</td></tr><tr><td align="right" height="1" valign="top" width="1">[​IMG]</td><td align="center" background="/images/linedot_hori.gif" height="1" valign="top">[​IMG]</td><td align="left" height="1" valign="top" width="1">[​IMG]</td></tr></tbody></table><table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="body" align="center" valign="baseline">สมอลลิง โหม่งประตูเบิกร่องให้ แมนฯ ยูไนเต็ด</td></tr></tbody></table>




    "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่ากลายเป็นทีมเดียวที่ยังรักษาสถิติชนะรวด 100 เปอร์เซนต์ต่อไป หลังจากเปิดบ้านเอาชนะ "สิงห์บลูส์" เชลซี 3-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่สุดท้าย คืนวันอาทิตย์ที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา

    ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
    แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 เชลซี

    เกมบิ๊กแมตช์ลีกเมืองผู้ดีประจำสัปดาห์นี้ "แชมป์เก่า" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับมือ เชลซี รองแชมป์เก่า โดย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นายใหญ่ "ผีแดง" ไว้ใจเรียก ดาบิด เด เคอา กลับมายืนเฝ้าเสา หลังจากไม่มีชื่อในเกมยุโรปเมื่อกลางสัปดาห์ ส่วนตำแหน่งอื่น แอชลีย์ ยัง และ นานี คอยทำเกมทางริมเส้นให้คู่หัวหอกอย่าง เวย์น รูนีย์ และ ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ทางฝั่งทีมเยือน อังเดร บียาส-โบอาส วางให้ ฆวน มาตา เป็นตัวทำเกมรุกร่วมกับ เฟร์นานโด ตอร์เรส และ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์

    เปิดฉากครึ่งแรก 3 นาที เชลซี ทักทายก่อน แอชลีย์ โคล หลุดขึ้นมาทางริมเขตโทษด้านซ้าย ก่อนวางบอลมาทางเสาไกล รามิเรส ตวัดยิงแต่ เด เคอา ใช้ขาบล็อกออกหลัง อีก 2 นาทีถัดมา ตอร์เรส เก็บบอลได้หน้าเขตโทษ จอนนี อีแวนส์ สกัดออกมาเข้าทาง สเตอร์ริดจ์ สับไกยิงหลุดกรอบออกไป

    แมนฯ ยูไนเต็ด มาได้ลุ้นประตูครั้งแรกในนาที 7 และกลายเป็นประตูออกนำ 1-0 ทันที โดย ยัง เปิดฟรีคิกจากริมเขตโทษด้านซ้ายไปเข้าหัว คริส สมอลลิง ซึ่งดูเหมือนยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า โขกเต็มศีรษะหมดสิทธิ์ที่ ปีเตอร์ เช็ก ป้องกันทัน

    ต่อมานาที 12 ทีมเยือนเกือบตามตีเสมอแบบทันควัน หลังจาก อันแดร์สัน จ่ายบอลเสียหน้าเขตโทษตัวเองไปเข้าทาง ตอร์เรส โดยกองหน้าทีมชาติสเปนล็อกมายิงด้วยขวาหลุดเสาสองนิดเดียว หลังจากนั้นอีก 2 นาที เทอร์รี เติมเกมขึ้นมาโหม่งลูกเตะมุมไปเข้ามือ เด เคอา

    ทีมเยือนเดินหน้าบุกต่อ ในนาที 22 ราอูล เมเรเลส ยกบอลเข้าไปในเขตโทษให้ แฟรงค์ แลมพาร์ด ตวัดยิงตามน้ำเข้าข้างตาข่าย หลังจากนั้นทีมของบียาส-โบอาส ได้โอกาสทองอีกครั้ง เมื่อ มาตา แทงบอลทะลุช่องให้ ตอร์เรส หลุดเข้าเขตโทษ ก่อนเปิดถวายพานมาหน้าประตู รามิเรส ล้มตัวยิง แต่ เด เคอา โชว์ซูเปอร์เซฟบล็อกออกหลังไป

    เกมมาถึงนาที 32 โคล ทำเกมขึ้นมาทางกราบซ้ายจนหลุดเข้าเขตโทษ บอลเลยมาถึง สเตอร์ริดจ์ วอลเลย์ด้วยขวาไปตรงตัว เด เคอา รับเข้าซอง เจ้าถิ่นตั้งรับอยู่พักใหญ่ กระทั่งนาที 37 นานี ได้บอลทางริมเส้นด้านขวา ก่อนลากเดี่ยวมาสับไกหน้าเขตโทษส่งบอลเข้าสามเหลี่ยมอย่างสวยงามให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ขยับหนี 2-0

    ในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ฟิล โจนส์ ลากบอลเข้าเขตโทษ ถูกกองหลังสกัดเอาไว้ แต่ เทอร์รี กลับเตะเคลียร์มาโดน นานี กระดอนไปเข้าทาง รูนีย์ ยิงเข้าไปง่ายๆ เป็นประตูที่ 9 ของดาวยิงทีมชาติอังกฤษในฤดูกาลนี้ พร้อมทำให้ "ผีแดง" ออกนำห่าง 3-0 เมื่อจบ 45 นาทีแรก

    เกมครึ่งหลังลงสนามมาไม่ถึงนาที เชลซี ก็ทำประตูไล่มา 1-3 นิโกลาส์ อเนลา ตัวสำรองซึ่งลงมาแทนที่ แลมพาร์ด จ่ายบอลเข้าไปในเขตโทษให้ ตอร์เรส จิ้มสวนตัว เด เคอา ตุงตาข่าย ทีมเยือนมีแรงฮึดทำเกมบุกกดดันต่อ ในนาที 54 มาตา สับไกยิงหน้าเขตโทษให้ เด เคอา ล้มตัวปัดออกหลัง

    นาทีถัดมา แมนฯ ยูไนเต็ด ทำเกมโต้กลับเร็ว นานี ลากบอลมายิงหน้าเขตโทษไปชนคาน บอลกระดอนกลับมาเข้าทางปีกชาวโปรตุกีสอีกครั้งในเขตโทษก่อนถูก โชเซ โบซิงวา ทำฟาวล์ทำให้เจ้าถิ่นได้จุดโทษ แต่ปรากฎว่า รูนีย์ ลื่นยิงหลุดกรอบออกไปเองไม่เป็นประตู

    ทั้งสองทีมผลัดกันรุกและรับอย่างสนุก ในนาที 71 เป็นโอกาสของทีมเยือนอีกครั้ง ตอร์เรส ได้บอลหน้าเขตโทษ ก่อนเลี้ยงหลบกองหลังเจ้าถิ่น 1-2 คน แล้วสับไกยิงติดเซฟ เด เคอา บอลกลับมาเข้าทางกองหน้าทีมชาติสเปนซ้ำอีกดอก แต่เหินข้ามคาน

    หลังจากนั้นนาที 77 เอฟรา หลุดมาทางซ้าย ก่อนเปิดเข้ากลาง บอลมาถึง รูนีย์ ซึ่งยืนหน้าประตูยิงไม่เต็มเท้า บอลไปชนเสา เฮอร์นานเดซ พยายามตามมาซ้ำเหินข้ามคาน ในช่วง 10 นาทีสุดท้าย ตอร์เรส น่าจะบวกเพิ่มอีกลูก หลังจากได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ เด เคอา แต่สุดท้ายอดีตกองหน้า ลิเวอร์พูล กลับยิงหลุดกรอบประตูซึ่งเปิดโล่งไปแบบไม่น่าเชื่อ

    ขณะที่เจ้าถิ่นมีโอกาสยิงประตูฝังในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ รูนีย์ หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษ ก่อนเปิดมาให้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ตัวสำรองที่เพิ่งลงสนามมายิง แต่จังหวะสุดท้าย โบซิงวา ตามมาเตะเคลียร์ทิ้งบนเส้นทัน อย่างไรก็ตาม สุดท้ายจบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายเอาชนะไป 3-1 รักษาสถิติชนะรวด 5 นัดติดต่อกันมี 15 คะแนนรั้งจ่าฝูงของตารางอย่างเหนียวแน่น ส่วน เชลซี มี 10 คะแนนเท่าเดิมอยู่ที่ 3 ของตาราง

    รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
    แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา, จอนนี อีแวนส์, ฟิล โจนส์, ปาทริซ เอฟรา, คริส สมอลลิง, อันแดร์สัน, ดาร์เรน เฟลทเชอร์, แอชลีย์ ยัง, นานี, ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ, เวย์น รูนีย์
    เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี, บรานิสลาฟ อีวาโนวิช, แอชลีย์ โคล, โชเซ โบซิงวา, ราอูล เมเรเลส, แฟรงค์ แลมพาร์ด, รามิเรส, ฆวน มาตา, เฟร์นานโด ตอร์เรส, ดาเนียล สเตอร์ริดจ์


    -http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9540000118958-

    .

    -http://football.kapook.com/news_inside.php?id=14236&key=news-

    .

    http://football.kapook.com/news_inside.php?id=14236&key=news
    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2011
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  14. Lee_bangkok

    Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +4,741
    อนุโมทนาบุญด้วยทุกประการกับทางคณะผู้จัดสร้างและผู้เกี่ยวข้องทุกๆคนครับผม
     
  15. Pinkcivil

    Pinkcivil เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +1,644
    s6s6 วันนี้ปุ่ม อนุโมทนา กลับมาแล้ว :cool::cool:
     
  16. Pinkcivil

    Pinkcivil เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +1,644
    s6s6 30 ]hkogipot8iy[ 6 v'8Nouh :cool::cool:

    อิอิ ขอพิมพ์เป็น code หน่อยครับ:d
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    ปัญหาในการบังคับใช้ พรบ ความผิดคอมพิวเตอร์

    วันจันทร์ ที่ 19 กันยายน 2554 เวลา 10:26 น


    -http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=660&contentID=164381-


    หลังจากมีการประกาศใช้ พรบ ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาได้ระยะหนึ่ง ทั้งหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายอย่างกระทรวง ICT และเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม ตลอดจนภาคเอกชนที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ต่างเห็นว่ากฎหมายดังกล่าวมีปัญหาในทางปฏิบัติเกิดขึ้นมากพอสมควร

    สภาพของปัญหามีตั้งแต่เรื่องพื้นฐาน เช่น พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย และประชาชนยังขาดความรู้ความเข้าใจในกฎหมายและเทคโนโลยีอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องเร่งอบรมให้ความรู้ และภาครัฐต้องทำการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนทราบ หน่วยงานซึ่งรับผิดชอบต่อเรื่องนี้โดยตรงอย่างกระทรวง ICT ยังขาดความจริงจังในการบังคับใช้กฎหมาย เช่น การตรวจสอบการจัดเก็บข้อมูลจราจรอินเทอร์เน็ต เป็นต้น

    นอกจากนี้ยังมีปัญหาความไม่ชัดเจนในขั้นตอนการบังคับใช้กฎหมาย กล่าวคือ ในกรณีที่กฎหมายให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ยึดหรืออายัดระบบคอมพิวเตอร์ได้ เท่าที่จำเป็น เพื่อทราบรายละเอียดแห่งความผิดและผู้กระทำผิดตามมาตรา 18 นั้น ยังไม่มีการกำหนดมาตรการที่ชัดเจนจากหน่วยงานที่มีอำนาจเกี่ยวกับการเข้ายึด อายัด ดังกล่าวว่าทำได้เพียงใด การให้เจ้าหน้าที่มีดุลพินิจที่กว้างขวาง อาจทำให้การปฏิบัติตามหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ กลายเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนได้

    การกำหนดให้ผู้ให้บริการต้องเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้ไม่น้อย กว่า 90 วัน นับแต่วันที่ข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่พนักงานเจ้าหน้าที่อาจสั่งให้ขยายเวลาการเก็บรักษาเกินกว่า 90 วันได้ แต่ไม่เกิน 1 ปี ตามมาตรา 26 นั้น ทำให้ผู้ให้บริการมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องเก็บรักษาข้อมูลการใช้ คอมพิวเตอร์ทุกประเภท ซึ่งถือได้ว่าเป็นการสร้างภาระให้แก่ผู้ให้บริการ โดยเฉพาะผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต จึงได้มีการเสนอ (จากผู้ให้บริการ) ให้เปลี่ยนวิธีการเก็บข้อมูล หรือยกเลิกการเก็บข้อมูลบางประเภท เพื่อเป็นการลดภาระในการเก็บข้อมูลของผู้ให้บริการให้น้อยลง นอกจากนี้หากภาครัฐให้การสนับสนุนจัดหาพื้นที่และอุปกรณ์ในการเก็บข้อมูล เพื่อเป็นการชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ก็จะเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตอีกทางหนึ่ง

    - 2 -

    ขณะนี้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ได้ทำการยกร่าง พรบ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ เพื่อใช้แทน พรบ ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฉบับ พ.ศ. 2550 ซึ่งเมื่อพิจารณาโครงสร้างและเนื้อหาแล้ว ส่วนใหญ่มีลักษณะคล้าย ๆ กับฉบับเดิม สิ่งที่มีความแตกต่างไปจากกฎหมายฉบับเดิม คือ ได้มีการเพิ่มนิยาม “ผู้ดูแลระบบ” ในมาตรา 4 โดยให้หมายถึง ผู้มีสิทธิเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการแก่ผู้อื่นในการเข้าสู่อิน เทอร์เน็ต หรือให้สามารถติดต่อถึงกันได้โดยประการอื่น โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นการดูแลเพื่อประโยชน์ของตนเอง หรือเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น นอกจากนี้ยังได้กำหนดความรับผิดของผู้ดูแลระบบด้วย ในกรณีที่ยอมให้มีการทำความผิดในระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งอยู่ในความควบคุมของตน เอง โดยต้องรับผิดเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดโดยตรง

    จากบทบัญญัติดังกล่าว เมื่อพิจารณาถึงการเกิดขึ้นของเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network) อย่าง facebook หรือ twitter ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ทำให้ผู้ใช้ที่ขึ้นบัญชีและมีพื้นที่เครือข่ายสังคมออนไลน์เป็นของตนเอง ถือเป็นผู้ดูแลระบบตามร่างกฎหมายใหม่ ซึ่งอาจต้องตกเป็นผู้ต้องหาตามร่าง พรบ ความผิดคอมพิวเตอร์จากการที่ผู้ติดตาม (follower) เข้ามาพิมพ์ข้อความแสดงความคิดเห็น ซึ่งอาจเป็นการไปละเมิดหรือทำให้บุคคลที่สามได้รับความเสียหาย ซึ่งตามร่างกฎหมายความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ก็มีบทบัญญัติที่ให้ ผู้เป็นเจ้าของพื้นที่เครือข่ายสังคมออนไลน์ดังกล่าว เป็นผู้กระทำความผิดที่ต้องได้รับโทษทางอาญาตามกฎหมาย ซึ่งบทกฎหมายในลักษณะดังกล่าวยังคงเป็นที่ถกเถียงกันว่ามีความเหมาะสมหรือ ไม่เพียงใด เพราะการจะถือว่าบุคคลใดกระทำความผิดทางอาญาต้องพิจารณาถึงเจตนาของผู้นั้น ว่า มีเจตนาในการทำความผิดหรือไม่ หากไม่มีเจตนาก็ไม่ควรที่จะถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิด ในบาง website ที่มีพื้นที่ค่อนข้างมาก และเปิดให้มีการโพสต์ข้อความได้จำนวนมาก การดูแลมิให้มีการโพสต์ข้อความมีความผิดก็จะยิ่งยากตามไปด้วย

    ปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาที่เกิดจากการบังคับใช้ พรบ ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งยังไม่เคยมีการได้นำเอาปัญหาที่เกิดขึ้นมาสรุปหาสาเหตุ และหาทางปรับปรุงแก้ไขกฎหมายกันอย่างเป็นจริงเป็นจัง แต่ในที่สุดแล้วเมื่อหลายฝ่ายมองเห็นปัญหา และเห็นว่าถึงเวลาที่จะต้องมาร่วมกันคิดหาทางปรับปรุงกฎหมายให้ดีขึ้น และที่สำคัญควรให้ทุกภาคส่วนของสังคมได้เข้าไปสะท้อนปัญหาที่ได้เจอและร่วม เสนอข้อที่ควรปรับปรุงของกฎหมายนี้ เพื่อให้คนไทยได้มีกฎหมายที่สอดคล้องกับความเป็นจริง เพื่อที่จะสามารถอยู่อย่างเท่าทันเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้

    รุจิระ บุนนาค
    rujira_bunnag@yahoo.com

    .
     
  19. tawatd

    tawatd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    506
    ค่าพลัง:
    +2,020
  20. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    “กระเจี๊ยบแดง”ยาดีลดความดัน
    วันพุธ ที่ 21 กันยายน 2554 เวลา 0:00 น
    เนื้อหาข่าว

    มีคุณค่าทางยา ช่วยขับปัสสาวะ เป็นยาระบายอ่อน ๆ พร้อมสูตรง่ายทำ “น้ำกระเจี๊ยบ” ดับกระหาย

    กระเจี๊ยบแดง เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ 3-6 ศอก ลำต้น และกิ่งก้านสีม่วงแดง ลักษณะใบพบทั้งขอบเรียบ และขอบหยัก ดอกสีชมพู ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด ชอบอากาศค่อนข้างร้อน ทั้งนี้ ส่วนที่ใช้ทำน้ำกระเจี๊ยบ คือ กลีบรองดอก หรือที่เรียกว่า ดอกกระเจี๊ยบ ภายในพบสารจำพวกแอนโธไซยานิน (anthocyanin) จึงมีสีม่วงแดง กรดอินทรีย์หลายชนิด (ทำให้มีรสเปรี้ยว) แคลเซียมปริมาณสูง วิตามินเอ ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียม เป็นต้น

    สำหรับขั้นตอนทำน้ำกระเจี๊ยบ เริ่มจากนำดอกกระเจี๊ยบแห้งล้างน้ำ จากนั้น ใส่หม้อต้มจนเดือด โดยใช้ไฟอ่อนเคี่ยวจนน้ำเป็นสีแดงเข้มข้น ขั้นตอนที่สอง ตักดอกกระเจี๊ยบขึ้นจากหม้อเหลือแต่น้ำ ใส่น้ำเชื่อม และเกลือลงไป ปล่อยต้มอีกสักครู่ จึงปรุงรสชาติตามชอบ หากดื่มไม่หมด เพียงบรรจุใส่ขวดปิดฝาให้แน่น แล้วแช่ในตู้เย็น จะเก็บได้นานขึ้น

    นอกจากนั้น ยังนิยมแปรรูปเป็นส่วนผสมในอาหารคาว และของว่างอื่น ๆ เช่น แกงส้มกระเจี๊ยบ ยำดอกกระเจี๊ยบ กระเจี๊ยบเชื่อม กระเจี๊ยบแช่อิ่ม แยมดอกกระเจี๊ยบ เป็นต้น มีคุณค่าทางยา คือ ช่วยลดความดันโลหิต ขับปัสสาวะ และเป็นยาระบายอ่อน ๆ.

    ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
     

แชร์หน้านี้

Loading...